คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 [100%]
“ไม่ลืมอะไรแล้วน้ะ?” เลียมเตือนฉันด้วยความหวังดี
“ไม่แล้วค่าาาา ไม่ลืมแล้ว ไปเทอะฉันอยากออกไปเที่ยว เอ่....แล้วเราจะไปไหนกันดีล่ะ?” ฉันอยากออกไปเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี?
“อย่างน้อยก็ไปเหยียบที่หอไอเฟลซักครั้งสำหรับเธอล้ะกัน ไปตอนกลางวันล้ะกันน้ะ ตอนกลางคืนถ้าขึ้นไปข้างบนแล้ววิวมันอาจไม่มองไม่ค่อยเห็นเท่าตอนกลางวันซักเท่าไหร่ เราขี่จักรยานไปที่รถไฟใต้ดินน้ะกันถ้าเดินหรืออะไรคงไม่ไหวแน่ๆ อยากไปที่ไหนก็บอกได้น้ะ” จากนั้นเราสองคนก็เดินไปเรื่อยๆหาจุดที่ยืมจักรยาน
“อือๆ ยังไงก็ได้ล่ะแนะนำฉันด้วยฉันไม่ค่อยชินกับที่นี่หรอก ช่วยหน่อยน้ะ”
“งั้นเราไปหาโมนาลิซ่ากันไหม?” เลียมถามฉันและเดินไปเรื่อยๆหาจักรยานที่สำหรับเช่ามาขี่ ประโยคนี้ทำให้ฉันอึ้งกับมันมากเพราะ ‘ฉันนึกไม่ออกว่าคนที่เค้าหมายถึงเป็นใคร’
‘โมนาลิซ่า โมนาลิซ่า โมนาลิซ่า โมนาลิซ่า โมนาลิซ่า ใครฟร้ะ?! ชื่อคุ้นๆ?’ ฉันพึมพำอย่าง งงว่าทำไมชื่อมันวนเวียนอยู่ในหัวอย่างเคยชิน #เธอชักจะเพี้ยนไปแล้วน้า
“ใครคือ โมนาลิซ่า? อย่าหาว่าฉันโง่แค่จำไม่ได้ ชีวิตคนเรามีอะไรที่น่าจำกว่ามากมาย ฉนั้นแค่ชื่อคนคนเดียวฉันไม่เสียเวลาไปจำหรอก” นี่ฉันจะแถไปไหน?กลบเกลื่อนงั้นหรอ ฉันทำฟรอมแบบ(ไม่)เนียนและเก็กท่าอยู่นาน
“คิกๆ ฮ่าๆ เทอนี่ตลกจัง ก็รูปไงลีโอนาโด ดาวินชีวาดอ้ะ ทีนี้รู้จักยัง?”เลียมกลั้นขำอย่างสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้(?) เพื่อไม่ให้ฉันเสียฟรอม
“อ้ออออออออออ ไว้วันหลังล้ะกัน” ฉันลากเสียงยาว(ยาวมว๊ากกกก)เมื่อนึกออกว่าโมนาลิซ่าเป็นใคร
“อ้าส์ เจอล้ะ ไปกันเทอะเราต้องเที่ยวอีกไกล”
“แล้วจะเอาสเก็ตบอร์ดไว้ไหนอ่ะ?”
“จะเอาไปก็แล้วแต่ เดี๋ยวฉันรักษาให้ก็ได้ ส่งมันมาสิ” เลียมอาสาจะรักษาสเก็ตบอร์ดไว้ให้และเลียมก็ออกเงินค่าเช่าจักรยานให้ฉันด้วย ทำไมไม่ปฏิเสธละ? ก็ปฏิเสธไปแล้วแต่นายนั่นดื้อจะตาย
“งั้นเราไปกันเลยไหม?” จากนั้นเลียมก็นำฉันไป ฉันก็ขี่ตามอย่างเก้งๆกังจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ทำให้เลียมหันมามองแบบลุ้นสุดๆ
แล้วก็พากันไปปั่นบนถนนโล่งกว้างกลางกรุงไฮโซโรแมนติกอย่างนี้ของสายวันอาทิตย์เราสองคนก็เลยลั้ลลาให้จังหวะชีวิตมันค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ ทั้งเมื่อยแข้งเมื่อยขาระบมกว่าจะถึง #แล้วทำไมไม่นั่ง taxi ล่ะ -..-
@รถไฟใต้ดิน
"นั่นไงมาแล้ว!รีบไปกันเดี๋ยวตกรถน้ะ" เลียมบอกฉันเมื่อรถไฟมาและเค้าก็พาฉันไปแต่ก็น้ะคนที่นี่เยอะสุดๆที่นั่งก็เต็มทั้งชั้นล่างและชั้นบน
เมื่อขึ้นสายใหม่ที่เชื่อมต่อกับกรุงปารีส ขนาดเปลี่ยนสายแล้วก็ยังเหมือนเดิมเต็มทุกชั้น และฉันก็เหลือบซ้ายขวาเห็นที่โหนสองที่ว่างพอดีเลยฉันเลยพาเลียมไปตรงนั้นจะดีกว่าขณะที่รถไฟกำลังแล่นออกไปนั้นตัวฉันเหมือนยืนอยู่ในลิฟท์ซึ่งมึนหัวมากเอนไปเอนมาจนตัวของฉันชนกับเลียมจนเค้าจุกเลย เค้าบอกว่า
“ตัวแค่นี่ไม่ต้องโหนหรอกเกาะผมไว้ก็พอแล้ว”เลียมบอกให้ฉันปล่อยจากที่โหนแล้วมาเกาะเค้าแทน
“นายหาว่าฉันเตี้ยหรอ! เฮ๋ยย-ยย” ฉันจะหงายหลังเมื่อรถไฟเส้นทางตรงเป็นทางโค้งแต่เลียมก็คว้าฉันไว้ทันทำให้ฉันสวมกอดเค้าแน่น
“ก็บอกแล้วไงกอดไว้แน่นๆน้ะเดี๋ยวล้มไปเธอคงอดไปที่นั่นเลยน้ะ”
@หอไอเฟล
“โว้วววว ที่นี่สวยจังเลย” *กระพริบตาปริบๆ* ฉันอุทานออกมาและยืนอ้าปากค้างจนแมงวันหลงไป2-3ตัว เฮ้ย!จะบ้าหรอ จากนั้นเลียมก็เดินนำฉันไป ฉันก็ตามไปติดๆเดี๋ยวหลงขึ้นมาก็แย่ คนที่นี่ก็เยอะไม่ใช่ย่อย ฉันเหลือบซ้ายขวาระหว่างเดิน
‘โอ๊ยยยยยอะไรกันเนี่ยเดินไปไหนมาไหนก็เจอแต่คนหล่อทั้งนั้นเลยยยยยยย >< ’ ฉันสบถในใจบิดตัวไปมากับสายตาที่หนุ่มๆเดินผ่านและมองมาทางฉัน เฮ้ย!เรามาหาหอไอเฟลไม่ใช่ผู้ชายน้ะ ฉันอยากขึ้นไปจังเดินขึ้นคงเหนื่อยน่าดูแต่ก็ยอมเพื่อประสบการณ์ที่ดีของฉัน
“นายพาฉันไปข้างบนนั้นได้ไหม?”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันพาไป”จากนั้นเค้าก็จับมือกับฉันอีกครั้งและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดินไปที่ซื้อตั๋วขึ้นลิฟท์
‘อร๊ายยย เขินน้ะ! อยากให้ฉันตายจริงๆใช่ไหมเนี่ย?ไม่เป็นไร! อย่างน้อยถ้าที่ตายของฉันคือหอไอเฟล ฉันก็ไม่ว่าอะไร’ ฉันพร่ามอะไรของฉันเนี่ย
จากที่ไปรอซื้อตั๋วอยู่นานเกือบชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าเร็วน้ะเพราะบางวันเกือบสองชั่วโมงแหน่ะแต่อากาศก็กำลังดีซะด้วยวันนี้เลยชิลๆ แต่ต้องไปต่อคิวขึ้นลิฟท์อีกค่าขึ้นลิฟท์ก็ประมาณ 13.10 ยูโร หรือประมาณ 510 บาทของไทยสำหรับไปชั้นบนสุดหรือชั้นที่สามนั่นเอง ถ้าเดินขึ้นไปเราสองคนคงตายแน่ๆเพราะชั้นหนึ่งมี 360 ขั้น ชั้นสอง 359 ขั้น ฉันคว้ากระเป๋าตังค์ขอตัวเองขึ้นมาเตรียมจ่ายค่าลิฟท์แต่เลียมก็บอกว่าจะออกให้ไม่เป็นไร ฉันพยายามปฏิเสธเค้าหลายครั้งว่าแค่ค่ารถไฟใต้ค่าดินเช่าจักรยานอีกก็มากพอสำหรับฉันแล้วและนายนั้นก็ดื้อตามเคย
เมื่อขึ้นลิฟท์แล้วแลดูคนค่อนข้างน้อยไม่สิมีแค่ฉันกับเลียมเพียงสองคนเพราะฉันกับเลียมอยู่ปลายคิวสุดท้ายก็เลยไม่ค่อยแออัดเหมือนคิวคนก่อนๆ บรรยากาศเริ่มฉายแววความสวยงามขึ้นทุกที
“นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?เลียมนายทำยังไงก็ได้ให้รู้ว่าฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั๊ย?มันเหมือนฝันมากๆเลย” เลียมยืนทำท่างง แต่ก็เหมือนเค้าจะมีวิธีที่ทำให้ฉันรั้ว่าไม่ได้ฝันไป จากนั้นเค้าก็ก้มใบหน้าของเขาลงมาในระดับแก้มของฉันพอดีและจุ๊บมันอย่างรวดเร็ว ฉันเห็นหน้าไปมองเค้าและนิ่งซักพักเมื่อเลียมจุ๊บแก้มของฉัน ขณะที่ทั้งอึ้งและรู้สึกชาไปทั้งตัวไม่เคยมีใครทำกับฉัน
แบบนี้มาก่อน พอสติคุณกลับมาคุณตีแขนเลียมอย่างอายๆ บิดตัวไปมาอย่างคนพึ่งเคยโดน เอ้ย ทำแบบนี้มาก่อนหน้าแดงคล้ายกลีบกุหลาบ
“นั่นแม่น้ำเซนใช่ไหมเลียม????” ฉันชี้นิ้วไปที่แม่น้ำแห่งนั้นและถามเลียม
“เซน......มาลิค” เลียมตอบฉัน ฉันมองหน้าเค้าและสบถว่า
“โว๊ะ! อะไรของนายคนล่ะเรื่องล้ะ” ฉันทำหน้าเอือมๆแต่เลียมกลับขำมุกที่เค้าเล่นเอง ‘ไหวไหมหน๋อ???’
“เค้าเรียกว่าแม่น้ำแซนส์ ไม่ใช่เซน”เลียมสอนฉันให้เรียกชื่อแม่น้ำนั้นให้ถูกต้อง
“อ้อ! เข้าใจล้ะ” ฉันเกาหัวแบบเขินๆ ไม่เขินสิเรียกว่าหน้าแตกจะดีกว่า
โว้ววว มันก็สวยมากๆเพราะฉันได้มาอยู่บนชั้น3ซึ่งสูงของที่หอไอเฟลแล้ว
---ครืดดดดดด ตึง!----
“เฮ้ย!สียงไรอ่ะ?แล้วทำไมลิฟท์หยุด ค้างงั้นหรอ?” ฉันโวยวายด้วยความตกใจเมื่อลิฟท์ค้างและก็มีแค่ฉันกับเลียมที่อยู่ในนี้เพียงสองคน....
_________________________________________________________________
55555 มาแล้วววว 100% ขอโทษที่หายไปนานน้ะค้ะ ฝากเม้น ติ ชม ด้วยน้ะค้ะ Xx.
ขอคุณค้ะ :)
ความคิดเห็น