ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จำเลยรักซาตาน

    ลำดับตอนที่ #26 : sf เราสองสามคน ตอนที่4อัพครบ100%เเล้ว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      6
      14 เม.ย. 55

       



    chapter 4 The end

    ''ระหว่างสมองกับหัวใจพี่ว่าอะไรสำคัญมากกว่ากันเหรอ''

    ''หัวใจสิเพราะหัวใจมันมีเอาไว้เพื่อรัก ถ้าไม่มีมันฉันก็รักใครไม่ได้ เก็บความรักเอาไว้ไม่ได้แล้วสุดท้ายก็คงจะหายใจไม่ออก''

     

    ถ้าไม่มีมันสุดท้ายก็จะตาย

     

    ''แต่สำหรับผมไม่มีหัวใจผมยังอยู่ได้แม้จะไม่ได้ความรักเลยผมก็ยังมีแรงมากพอที่จะหายใจ ขอเพียงแค่สมองทำงาน ขอเพียงแค่หลับตาลงยังมีเรื่องราวของเรายังอยู่นี้''

    หลับตาลงช้าๆเขายังเห็นรอยยิ้มของใครบางคนวนเวียนอยู่

    เพราะฉะนั้นผมยินดีจะหลับไปตลอดกาลถ้าในฝันที่ยาวนานของผมยังมีเรื่องราวของเราสองคน

    คนที่ต่อให้ลมหายใจของผมหมดลงผมก็ไม่สามารถลืมได้

    กันฉันคิดถึงนาย

     

    ……………………………………………………………………………………………………………..

    แสงแดดยามเช้าทอดผ่านผ้าม่านผืนบาง สายตาคู่คมค่อยๆลืมขึ้น เขายังคงนอนิ่งอยู่กับเตียงนอนไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

     

    เหมือนทุกอย่างมันด้านชา เหมือนโลกมันหยุดหมุน ทั้งๆที่ยังได้ยินเสียงของเข็มนาฬิกา

     

    ''ไอกันตื่นได้แล้วจะนอนขี้เซาไปถึงไหนวะ''

     

    ยังคงนอนนิ่งๆอยู่ที่เดิม เขายิ้มบางๆยื่นมือให้ใบหน้าใสในชุดนักศึกษาที่คอยดึงมือเขาไว้เสมอ

     

    แต่เพียงแค่อีกคนเอื้อมมือไปสัมผัสอีกแค่นิดเดียวก็จะถึงมือเขา ทุกอย่างก็หายเหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า

     

    เขากำมือแน่นพร้อมกับดวงตาคู่คมที่หลับสนิทลงอีกครั้งข่มอาการสั่นเทาของหัวใจ

     

    กับประโยคหนึ่งที่เรียกร้องออกมาจากหัวใจตัวเอง

     

    ริทฉันคิดถึงนาย

     

     

    แต่ตอนนี้มันคงสายไปแล้วสินะคำๆนี้

     

    ในเมื่อตอนนี้ไม่มีนายอยู่ข้างๆฉันอีกแล้ว

     

     

    ……………………………………………………………………..

    รถยนต์คันเก่งจอดลงหน้าห้างสรรพสินค้า กันเดินลงมาจากรถ ของใช้ในห้องไม่เคยต้องออกมาซื้อเองเลยสักครั้ง

     

    แต่ในเมื่อไม่มีนายฉันเองก็ต้องอยู่ให้ได้เหมือนกัน

     

    เขาเดินเตร่ไปมาหยิบของสองสามอย่างอย่างไม่ใส่ใจ ขนซื้อของใช้ ซื้อขนมจนมาหยุดชะงักที่ช็อคโกแล็ตยี่ห้อโปรดของใครบางคน  ถ้านายเห็นมันคงยิ้มหน้าบานแล้วอ้อนให้ฉันซื้อให้ใช่มั๊ย

     

    ''จะเอามั๊ยริท ''กำลังจะหันไปถามอีกคน แต่กลับต้องพบแต่ความว่างเปล่า

     

     

    ไม่มีนายอีกแล้วสินะ ทำไมฉันจำไม่ได้สักที ทำไมตอนนี้เป็นฉันเองที่ลืมนายไม่ลง กันวางขนมลงที่เดินกำลังจะหมุนตัวกลับ แต่กับไปชนกับผู้หญิงคนหนึ่ง

     

    ''ขอโทษครับ'' เอื่อมมือเข้าไปคว้าเอวเธอไว้

     

    ''ไม่เป็นไรค่ะ อ้าวกัน'' หญิงสาวยิ้มบางๆให้คนตรงหน้า ก่อนจะยืดตัวตรง

     

    ไม่รู้ว่าโลกมันจะกลมเกินไปหรือเปล่า

     

    แต่คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือคนที่เคยเป็นเจ้าของหัวใจ

     

    ''มัดหมี่ ไม่ได้เจอกันนานนะ''

     

    …………………………………………………

     

    ร้านกาแฟร้านเล็กๆภายในห้างสรรพสินค้า กันยังคงจ้องหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเธอยังคงแต่งแต้มรอยยิ้มไม่มีเปลี่ยน

     

    ผู้หญิงคนนี้ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรัก ไม่สิตอนนี้เขาก็ยังรัก

     

    ''ตกลงจะจ้องหน้ามัดหมี่อีกนานมั๊ยหะ กัน ไม่ได้เจอกันนานสบายดีใช่มั๊ย ''แล้วก็เป็นเธอที่ทนความอึดอัดไม่ไหวถามขึ้นมาก่อน

     

    ''มัดหมี่ไม่โกรธกันแล้วใช่มั๊ย ''เขาถามเธอตรงหน้า

     

    ''เรื่องอะไรล่ะเรื่องนั้นนะเหรอ'' เธอยิ้มบางๆก่อนเอามือไปกุมมือกันไว้

     

    ''มันผ่านมานานแล้วนะกันยังคิดถึงมันอีกเหรอตอนนี้มัดหมี่เองก็มีความสุขดี แล้วทำไมกันยังไปทุกข์กับเรื่องที่ผ่านมาแล้วอีกหึ ''

     

    ทำไมไม่คิดว่าบางทีเราสองคนอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้

     

    เธอสบตาคู่คมแววตาที่เคยทะเล้นที่เคยตอนนี้มันมีแต่ความเฉยชา

     

    ''กันขอโทษนะมัดหมี่กันขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาขอโทษที่ผมทรยศคุณ ถ้าไม่มีเรื่องคืนนั้นบางทีเรื่องของเราสองคนอาจจะไม่จบลงแบบนี้''

     

    บางทีเราสองคนอาจจะแต่งงานกันไปแล้วก็ได้

     

    เธอนิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา

     

    ''ไม่ใช่แบบนั้นหรอกกัน  ที่เราเลิกกันไม่ใช่เพราะเรื่องคืนนั้น …''

     

     

    ''แต่ที่เราเลิกกันเพราะกันรักเขาต่างหากไม่ใช่มัดหมี่''

    ''ไม่จริงผมรักคุณนะมัดหมี่ ผมกับเขาเราไม่เคยรักกัน ''เถียงออกมาทั้งๆที่หัวใจกำลังสั่นไหว

     

     

     

    เธอยิ้มบางๆอีกครั้งมองคนที่เคยรัก

     

     

     

    ''ถ้าวันนั้นคนที่กันรักคือมัดหมี่วันนั้นกันต้องเดินตามมัดหมี่ออกไป''

     

    ''แต่นี้ไม่ใช่ พอคนๆนั้นของกันร้องไห้ พอเขาคนนั้นขอให้กันไม่ไป กันกับยืนนิ่งอยู่กับที่ กันคนที่ไม่เคยลังเลเลยสักครั้ง กับทำได้แค่มองแล้วปล่อยให้มัดหมี่เดินจากไป''

     

    ''ผม…''

     

     

    ''กันรักคนๆนั้นของกันมากกว่ามัดหมี่ ทั้งๆที่เราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน''

     

    ''คนที่กันบอกว่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง คนที่กันบอกว่าเป็นลมหายใจของกัน''

     

    ''แต่พอถึงเวลากันกับยืนอยู่ข้างๆคนๆนั้น''ไม่ใช่เธอ

     

     

    ไม่ใช่คนที่เป็นลมหายใจอย่างเธอ

     

    ''มีแค่เหตุผลเดียวที่กันไม่ได้ตามมัดหมี่ไปรู้มั๊ยคะว่าเพราะอะไร''

     

     

    ทั้งโต๊ะเงียบกริบ ไม่มีคำพูดออกมาจากปากใครอีก ก่อนที่เธอจะฝืนยิ้มออกมาอีกครั้งนึง

     

    ''เพราะกันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขาคนนั้น แล้วแบบนั้นเขาไม่เรียกว่ารักเหรอกัน''

    ''เเล้วถ้ากันรักเขาจะโกหกหัวใจตัวเองทำไมว่าไม่ได้รัก''

     

    พอเจอคำพูดแบบนั้นเขาเองก็ได้แต่นิ่งเงียบ

     

    รักเหรอ ทั้งๆที่ปฎิเสธความรู้สึกแบบนี้มาตลอด

     

    ทั้งๆที่บอกว่าเกลียดอยู่ตลอดเวลาแต่ฉันกลับโหยหาแต่นาย

     

    โง่ชะมัดฉันคนนี้มันโง่มากใช่มั๊ยริทที่ปล่อยนายไปแบบนั้น

     

    ต่อไปนี้ฉันจะไม่โกหกตัวเองอีกแล้วริท  ไม่ทำแบบนั้นให้เจ็บอีกแล้ว

     

    ''ขอบคุณนะมัดหมี่ ขอบคุณจริงๆ ''กันลุกขึ้นเหยียดตัวตรง

     

     

    หัวใจที่เหี่ยวเฉา กับมาเต้นแรงเหมือนเก่าอีกครั้ง รอยยิ้มทะเล้นที่เคยห่างหายไปกับมาแต่งแต้ม

     

    ต่อจากนี้ไปฉันจะทำเหมือนที่นายทำบ้าง ทำทุกอย่างให้นายกลับมาหาฉันอีกครั้ง

     

    หวังว่าเรื่องระหว่างเรามันยังไม่สายเกินไปใช่มั๊ยริท

     

    ยังไม่สายเกินไปใช่มั๊ยถ้าฉันจะพูดคำๆนั้นได้ยินสักครั้ง

     

    ฉันรักนายริท  ฉันคนนี้รักนายเข้าแล้วจริงๆ

     

    ……………………………………………………………………………….

     

    เนินเขาเล็กๆที่แต่งแต้มไปด้วยดอกหญ้า ต้นไม้ต้นใหญ่แพร่กิ้งก้านสาขา ที่ๆเขาคนชอบมาตาม ไอคนขี้เกียจเรียนที่ชอบโดดเรียนมาแอบนอนเล่นอยู่เป็นประจำ

     

    ริทนั้งลงใต้ต้นไม้ หัวเล็กพิงมันไว้ สายลมเย็นๆพัดแรงจนผมปลิวไม่เป็นทรง

     

    เขามองมันราวกับจะบันทึกให้มันอยู่ในความทรงจำตราบนานเท่านาน

     

    ''กูโครตชอบที่นี้เลยวะริท สวยใช่มั๊ยล่ะฐานทัพของกูถ้ากูตายกูจะให้เขาฝังร่างกูไว้ที่นี้กูจะได้อยู่ที่นี้ตลอดไป''

     

     

    ''อือ ฉันก็ชอบที่นี้เหมือนกัน ให้ฉันอยู่ด้วยคนได้มั๊ยกัน ให้ฉันไปรอนายก่อนถ้าตอนมีลมหายใจอยู่เราสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้''

     

    ''งั้นก็ขอให้ฉันได้หลับใหลในที่ๆมีแต่ความทรงจำของเราสองคนเถอะนะ ให้ฉันได้ฝันว่าเราสองคนจะอยู่ด้วยกันเหมือนตอนจบในนิทาน อยู่ด้วยกันตลอดกาลอย่างมีความสุข''

    ''มั่นใจแล้วจริงๆเหรอที่จะทำแบบนี้ ''ร่างสูงโปร่งนั้งลงข้างๆคนตัวเล็ก เขาปล่อยให้ผมลู่ไปตามลมไม่กลัวเสียทรง แว่นตายี่ห้อดังที่ติดอยู่บนหน้าเจ้าตัวถูกถอดออก เขานั้งพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆคนตัวเล็ก

     

     

    ''ระหว่างสมองกับหัวใจพี่ว่าอะไรสำคัญมากกว่ากัน'' อยู่ดีๆคนที่นั้งข้างๆก็ถามขึ้น

     

     

    ''หัวใจสิเพราะหัวใจมันมีเอาไว้เพื่อรัก ถ้าไม่มีมันฉันก็รักใครไม่ได้ เก็บความรักเอาไว้ไม่ได้แล้วสุดท้ายก็คงจะหายใจไม่ออก''

     

    ''สุดท้ายก็จะตาย''

     

    ''แต่สำหรับผมไม่มีหัวใจผมยังอยู่ได้แม้จะไม่ได้ความรักเลยผมก็ยังมีแรงมากพอที่จะหายใจ  ขอเพียงแค่สมองทำงาน ขอเพียงแค่หลับตาลงยังมีเรื่องราวของเรายังอยู่นี้''

     

    หลับตาลงช้าๆเขายังเห็นรอยยิ้มของใครบางคนวนเวียนอยู่

     

     

    ''เพราะฉะนั้นถึงร่างกายจะตายไปแต่ถ้าสมองยังทำงาน''

     

    ''ผมก็สามารถหายใจได้อยู่''

     

    ''แต่ถ้าไม่มีความทรงจำระหว่างผมกับเขาผมคงอยู่ไม่ได้''

     

    ''เพราะฉะนั้นผมยินดีจะหลับไปตลอดกาลถ้าในฝันที่ยาวนานของผมยังมีเรื่องราวของเราสองคน''

     

    ''นั้นเป็นเหตุผลที่นายกำลังจะยอมตายงั้นสิ โง่เกินไปหรือเปล่าริท  ''น้ำเสียงเรียบๆที่เจือด้วยความโมโหของเจ้าตัว แต่คนฟังกับยิ้มออกมา

     

    ''เปล่านั้นเป็นเหตุผลเดียวที่ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่างหากล่ะ ''เขานิ่งเงียบมองหน้าคนตัวเล็กที่นั้งอยู่ข้างๆ

     

    ''มันคุ้มแล้วจริงๆใช่มั๊ยเพราะถ้าผ่าตัดนายก็จะมีโอกาสรอด''

     

    ''แต่ก็จะลืมไม่ใช่เหรอพี่ ลืมคนที่เป็นทุกอย่างในชีวิตแล้วถ้าเป็นแบบนั้นจะมีลมหายใจไปเพื่ออะไรกัน''

     

    ''น้ำเน่าชะมัด'' อดไม่ได้ที่จะหัวเสียออกมา

     

    ''นายมันบ้ามากที่สุดเลยวะ''

     

     

    ''นั้นสินะ น้ำเน่าชะมัดเลยฉันคนนี้ บ้ามากสะด้วยสิ ''เขาหลับตาลงก่อนจะหัวเราะออกมา

     

    ''ขอฉันพักสายตาตรงนี้สักพักนะ ''

     

    ''แค่ห้านาทีก็พอ ให้เขาคนนั้นได้เข้ามาอยู่ในความทรงจำของฉัน   ''           

     

     

    คนที่ต่อให้ลมหายใจของผมหมดลงผมก็ไม่สามารถลืมได้

     

    ''…กันฉันคิดถึงนาย''





    ...............................................................................................................................................

    15 เม้นเเล้วเจอกันค่ะ บทสรุปของความรักเรื่องนี้

     

     

    ………………………………………………………………………………………………….

     

     

     ต่อค่ะ

    ....................

     

    รถยนต์คันหรูแล่นผ่านถนนเส้นใหญ่ในชนบท เจ้าของรถยังคงกำพวงมาลัยแน่น รถยนต์จอดสนิท ในที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำของเขากับใครอีกคน ขาเรียวก้าวออกมาจากรถ

     

    นานแล้วที่ไม่ได้กลับมาสินะ

     

     ฉันมาตามหานายแล้วนะริท นายยังรอฉันอยู่ใช่หรือเปล่า

     

    กันยังคงยิ้ม ยิ้มอย่างที่เคยยิ้มเสมอ เรื่องราวของเขากับคนตัวเล็กในวัยเด็กกำลังเข้ามาทักทายในความทรงจำของเขาอีกครั้ง

     

    ภาพของเขาที่มักจะคอยแบกเพื่อนตัวเล็กเดินขึ้นเนินเขาลูกเล็กๆนี้

     

    เถียงกันบ้างทะเลาะกันบ้าง แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ยังคงอยู่ในนี้

     

     

    ความทรงจำที่ดีที่สุดของเราสองคน

     

    ฉันมาแล้วนะริท ฉันมาหานายแล้ว

     

    เขาเดินขึ้นเนินเขาลูกเล็กๆแสงแดดตอนสายไม่แรงมากนักแต่กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด สายลมเย็นเหมือนกำลังหยอกเอินกับหัวใจเขา

     

     

    ให้ตายสิหัวใจเต้นแรงชะมัด นายยังอยากฟังคำว่ารักจากฉันหรือเปล่าริท

     

     

    ฉันรักนายฉันรักนาย  ได้ยินมั๊ยต่อไปนี้จะพูดมันให้นายได้ยินทุกวัน

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ฉันรู้สึกแบบนี้

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่หัวใจฉันมันเรียกร้องแต่นาย

     

    ฉันจะให้อภัยกับทุกเรื่อง ลืมเรื่องราวเลวร้ายที่ผ่านมา

     

    กลับมาหาฉันนะ

     

    ถ้าไม่มีนายฉันคงอยู่ไม่ได้ ได้โปรดกลับมาหาฉันคนนี้เถอะนะ

     

    …………………………………

    ''ถ้านี่คือสิ่งที่นายต้องการ ฉันก็ขอให้นายหลับฝันถึงเขาไปตลอดกาลนะริท'' ดอกกุหลาบสีขาวดอกสุดท้ายวางลงหน้าแผ่นปูนสีขาวนวล  ที่ตรงนั้นที่ๆคนๆนึงหลับใหลไปตลอดกาล

     

    ละอองฝนเม็ดเล็กกำลังพรางพรหมลงมาทั้งๆที่แสงแดดกำลังสาดส่อง ดาราหนุ่มยันตัวเองขึ้น เขายิ้มบางๆมองหลุมศพ 

     

    ทั้งอบอุ่นแล้วก็หนาวเหน็บในเวลาเดียวกัน

     

    น้ำตาไหลรินบนดวงตาข้างซ้ายที่กำลังสั่นเทาเหมือนหัวใจของเขา

     

    ''หลับฝันดีนะ นายคือคนที่น่าสงสารที่สุดตั้งแต่ที่ฉันเคยเจอมาเลยริท''

     

    ''ลาก่อนตลอดกาล เราสองคนคงไม่เจอกันอีกแล้วสินะ  แต่นายจะยังคงอยู่ในความทรงจำของฉันนะริท  เรื่องราวของนายความรักของนาย  มันจะยังคงอยู่ในหัวใจฉันไม่มีวันลืมเหมือนกัน''

     

     

    ''ฉันไม่รู้ว่านิรันดรมันจะยาวนานสักแค่ไหน แต่ฉันก็ยังหวังว่าที่ตรงนี้ นายคงกำลังมีความสุขกับความฝันที่ยาวนานของนาย''

     

    ''ฉันหวังจริงๆนะว่านายกำลังยิ้มกับเขาคนนั้นของนาย ริท''

     

     

    โตโน่ หมุนตัวกลับ แต่กับเห็นอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ คนที่คนตัวเล็กเฝ้ารอทุกวันจนวันสุดท้ายที่เขาคนนั้นหมดลมหายใจ

     

    ''มาเอาป่านนี้มันไม่สายเกินไปแล้วเหรอไง  หะ ''เขาตะโกนสุดเสียงกระชากคอเสื้อ ร่างคมเข้มที่ยืนนิ่งอยู่กับที่

     

    น้ำตาหยดใสๆไหลรินกันยังคงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสายฝน  เหมือนหัวใจโดนกระชากออกจากอก

    ไม่สนใจร่างสูงโปร่งที่ตะโกนใส่หน้าเขาสักนิด

     

     

     

    ''ฉันมายืนอยู่ตรงนี้แล้วไงริท ทำไมริท ''

     

    ''ฉันมาบอกรักนายแล้วนี่ไง ฉันมายืนอยู่ตรงนี้แล้วไง ''

     

    ''ทำไมทำแบบนี้นายจะฆ่าฉันหรือไง  ฉันอยู่ตรงนี้แล้วไงนายเห็นมั๊ย''

     

    เห็นมั๊ยริทนายเห็นฉันมั๊ย ฉันมาแล้วริท

     

    ''ฉันมาแล้วไงริท ฉันมาแล้ว'' เขาทรุดตัวลงไปนั้งลงกับพื้น

     

    ตะโกนจนสุดเสียงแต่เขาคนนั้นคงไม่ได้ยินอีกแล้ว มีเพียงหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด ร้องไห้ฟูมฟายเท่าไหร่ คนที่นอนอยู่ตรงนั้นก็ไม่มีวันได้ยินแล้วสินะ

     

    ฉันมาบอกรักนายแล้วไงริท ฉันมาแล้วไง เขาซุกหน้าบนหลุมศพ

     

    ''ฉันรักนายได้ยินมั๊ยริท ตอนนี้ฉันรักนายแล้วไง''

     

     

    ถ้าใครกำลังแกล้งก็ขอให้หยุดเถอะ ผมขอร้องหยุดเถอะนะ

     

    ช่วยเอาคนรักของผมคืนกลับมาที ช่วยเอาเขากลับมาให้ผมที

     

     

    ''ไอเด็กบ้านั้นตายไปซะได้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง หะ'' โตโน่มองคนตรงหน้าด้วยแววตาเฉยชา ก่อนเจ้าตัวจะเหยียดยิ้มออกมา

     

     

    ''ถ้าตายไปแล้วจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกไม่ต้องร้องไห้อย่างคนจะขาดใจตายแบบนั้น'' 

     

    ''นายรู้มั๊ยว่าไอเด็กบ้านั้นมันน่าสงสารขนาดไหน วันนั้นที่นายไปเจอเขา วันนั้นตอนที่ริทเดินออกมาจากนาย เขายิ้มให้นายใช่มั๊ย ยิ้มให้นายแล้วบอกว่าไม่เป็นไร บอกว่าไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า''

     

    ''แต่พอเขาหันหลังกลับมาเขาเดินกลับมาหาฉันไอเด็กบ้านั้นมันร้องไห้ราวกับคนกำลังจะขาดใจตาย''

     

    ''ร้องไห้แล้วบอกฉันว่า เขาจะตายมั๊ย พรุ่งนี้ไม่มีนายแล้วเขาจะตายมั๊ยนะ''

     

    ''นายรู้มั๊ยไอหมอนั้นมันโครตน่าสงสารเลยนะ นายรู้หรือเปล่าว่าเขารักนายมากขนาดไหน''

     

    ยิ่งพูดคนผิวเข้มยิ่งสะอื้นหนัก ความเจ็บปวดทั้งหมด มันกำลังกัดกินหัวใจเขาจนไร้เรี่ยวแรง

     

    ทำไมตอนนั้นฉันไม่รั้งนายไว้ริท ทำไมฉันถึงไปได้โง่งี่เง่าแบบนี้

    มารู้ว่ารักตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้วสินะ

     

     

    ''ริทเป็นอะไรทำไม'' ท่ามกลางสายฝนเขามองชื่อคนตัวเล็กที่สลักไว้ภายใต้แผ่นปูนสีขาว

    มือขวารูปไร้ชื่อคนที่ไม่มีวันกลับมาอยู่ข้างๆเขาได้อีกแล้ว

     

    ''เนื้องอกในสมอง ไม่ยอมผ่าตัด ได้แต่มานั้งอยู่ที่นี้ทุกวันไม่ไปไหน ''

     

    ''มองท้องฟ้าแล้วก็ยิ้ม  ไอเด็กบ้านั้นมันยิ้มทั้งๆที่มันก็รู้ว่ามันกำลังจะตาย''

     

    ''ขอแค่มีความทรงจำระหว่างฉันกับเขา ต่อให้ผมจะหลับไปตลอดกาลผมก็ยินดี ถ้าในฝันของผมจะมีเรื่องราวของเราสองคน ผมยินดีจะหลับไปตลอดกาล''

     

     

    คนโง่คนนั้น คนๆนั้นเป็นคนโง่มากนะ เป็นคนที่น่าสงสารมากจริงๆ ร่างสูงขบกรามแน่น

     

    ''ขอแค่มีความทรงจำของนายกับเขา ขอแค่ให้จำความเจ็บปวดแบบนั้นไว้ได้ ขอแค่ไม่ลืมนาย''

     

    ''เขายอมแม้จะไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกเลยตลอดชีวิต''

     

    ''ไอเด็กบ้านั้นมันโง่มากจริงๆเลยนายว่ามั๊ย ''

     

    รักคนที่ไม่เคยแม้จะได้ความรักตอบแทนมา

     

    ตอนนี้มาร้องไห้ฟูมฟายพูดคำๆนั้นเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่น่าสงสารคนนั้นไม่ได้ยินอีกแล้ว

     

    มันสายเกินไปแล้วล่ะ

     

    โตโน่หยิบสมุดเล่มนึงส่งให้คนตรงหน้า

     

    ''ของๆริท หมอบอกให้ริทเขียนถึงสิ่งที่อยากจำบันทึกใส่สมุดเล่มนี้เอาไว้ ฉันว่าเขาคงอยากให้นายเก็บมันไว้เป็นที่ระลึก  ''

     

    มือไม้ของคนตรงหน้าเริ่มสั่น กันรับมันแล้วค่อยๆเปิดสมุดเล่มนั้นออกมาที่ละหน้า

     

    น้ำฝนยังคงเปียกปอน แต่ทุกตัวอักษรในกระดาษยังคงชัดเจน

     

    ''ทำไมริททำไม''

     

    ไม่ว่าจะเป็นหน้าแรก เปิดไปจนถึงหน้าสุดท้าย

     

    ชื่อของคนๆเดียวที่ถูกเขียนด้วยลายมือที่คุ้นเคย

     

    ชื่อของคนที่เขาคนนั้นไม่เคยคิดจะลืมเลยสักครั้ง

     

     

    กัน ฉันคิดถึงนาย

     

     

    ''ริท !!!!!'' เขาตะโกนสุดเสียง ราวกับจะคนจะขาดใจ

     

     

    ''กลับมาสิกลับมาฉันอยู่ตรงนี้แล้วไงกลับมาสิ''

     

    ''กลับมาหากันนะริท  กลับมาหาผมนะ''

     

    ''ฉันรักนาย ได้ยินมั๊ยริท คนๆนี้รักนายแล้วไง''

     

    ''อยากได้ยินมันไม่ใช่เหรอ นายบอกเองไม่ใช่เหรอไง นายเป็นคนขอร้องให้ฉันรั้งนายไว้''

     

    ''แล้วนายจะอยู่กับฉันไม่ใช่เหรอริท''

     

     

     

    ไม่ว่าจะร้องไห้เท่าไหร่ คนๆนั้นก็ไม่ได้ยินอีกแล้ว ชื่อของคนที่จากไปตลอดกาลยังคงดังก้องอยู่ในที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำของคนๆนั้น

     

    ชื่อที่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว

     

     

    ………………………………………………………………….

    ''โห พี่โตโน่ ฟังแล้วขนลุกอ่ะ จะมีจริงๆเหรอคนแบบนั้นนะยอมตายแต่ไม่ยอมลืมโง่ชะมัด''

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนถาม จนเขาเผลอยิ้มออกมา

     

    ''โง่เหรอไอเด็กบ้านั้นมันก็โง่แบบนั้นแหละ''

     

    ''แต่เป็นคนโง่ที่น่าสงสารที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยเชื่อมั๊ย ''โตโน่ มองไปบนท้องฟ้าสีครามอ่อน สายลมเย็นๆพัดเข้ามา ขาเรียวก้าวขึ้นตามทางลาดชัน

     

    ''แล้วพี่คนนั้นล่ะ พี่คนนั้นจะอยู่อย่างไงนะเฮีย ''

     

    ตายไปทั้งๆที่เจ็บปวดขนาดนั้นแล้วคนที่อยู่จะทำอย่างไง

     

    ''แฟนของพี่คนนั้นเขาก็คงจะเจ็บมากเหมือนกันใช่มั๊ยเฮีย ''

     

    ''ไม่เคยบอกคำว่ารัก มารู้เอาตอนที่สายไปแล้ว ''

     

    ''แต่ก็สมน้ำหน้าเขานะเฮีย ตอนพี่เขาอยู่ไม่เคยจะใส่ใจมารู้เอาตอนนี้ มันก็สายไปซะแล้ว คนเราก็แบบนี้ชอบทำอะไรให้มันสายเกินไปก่อนเสมอ''

     

     

    ขาเรียวหยุดชะงักมองหน้าเด็กหนุ่ม

     

    ''ไอเนียร์ ระหว่างคนที่อยู่กับคนที่ตายไปแล้วมึงว่าใครจะเจ็บปวดมากกว่ากันวะ''

     

    ''คนที่หายใจอยู่ทุกคน คนที่รู้จักไอเด็กบ้านั้น ทุกคนเจ็บปวด ส่วนไอหมอนั้น หลังจากวันนั้นไม่มีใครเคยเจออีกเลย''

     

    ''คนที่อยู่ แต่ไม่มีหัวใจ มันจะหายใจได้อย่างไงจะทรมานมากขนาดไหน''

     

    ''ต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนั้นไปตลอดชีวิต ระหว่างคนที่ตายไปแล้วกับคนที่มีชีวิตอยู่ใครทรมานกว่ากันวะ''

     

    เขาหมุนตัวกลับมองภาพข้างหน้า ปีหนึ่งแล้วสินะที่ไม่ได้มาที่นี้ แว่นตาที่ชอบใส่ถูกถอดออก กี่ปีกี่ปีที่นี้ก็ไม่เปลี่ยน

     

    ที่ๆคนๆนั้นหลับใหลไปตลอดกาล

     

    ''งั้นแฟนพี่เขาก็หน้าสงสารมากที่สุดสินะ ไม่มีโอกาสได้พูดคำๆนั้นเลยสักครั้ง คงต้องอยู่แบบตายทั้งเป็น''  จูเนี่ยร์พูดออกมา

    ''ถ้าพี่เขารู้ว่ารักเร็วกว่านี้ก็ดีสิเนอะ ป่านนี้พี่เขาก็คงได้อยู่กับคนที่รัก''

     

    เวลานี่มันไม่เคยพอเลยจริงๆสิ

     

    ''ไม่หรอก บางทีตอนนี้เขาอาจจะกำลังยิ้มอยู่ข้างๆกันก็ได้ ดอกกุหลาบสีขาววางลงหน้าแท่นหินสีขาวนวล ร่างสูงโปรงยิ้มออกมาบางๆ''

     

    ''ปีหนึงแล้วสินะที่ฉันไม่ได้มาหานายเลย กำลังมองฉันแล้วก็ยิ้มอย่างนายที่ชอบทำใช่มั๊ยริท มีความสุขดีหรือเปล่าอยู่ที่นี้ ''

     

    ''ไม่เหงาแล้วสินะ ฉันรู้ว่าตอนนี้นายไม่เหงาแล้ว''

     

    ฉันรู้ว่าตอนนี้นายกำลังมีความสุขกับเรื่องราวของนาย กับคนๆนั้นของนายใช่มั๊ยริท

     

    คนที่อยู่กับความทรงจำของนายจนวินาทีสุดท้าย

     

    เขาหลับตาลงช้าๆ สายลมวูบนึงพัดเข้ามาปะทะร่างเขา

     

     

    กำลังบอกว่ามีความสุขดีใช่มั๊ยกำลังบอกฉันแบบนั้นใช่มั๊ยริท

     

     

    เขายิ้มกว้างที่สุดที่เคยยิ้มมา แสงแดดอบอุ่นเข้ามากระทบใบหน้าหล่อเหลา

     

     

    ยิ้มเหมือนที่คนๆนั้นเคยยิ้มเสมอ

     

    ฉันคิดถึงนายนะริทฉันคิดถึงนายจริงๆ

     

     

    ''เฮียมาหาใครเหรอ นี่พี่ฮะรู้มั๊ยหลับอยู่ตรงนี้สบายดีจริงๆที่นี้สวยมากนะฮะ ''เนียร์พูดกับแผ่นปูนตรงหน้า

     

    เขาคนนี้เป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตที่ฉันเคยรู้จักมา

     

    ''ฉันไปก่อนนะริท แล้วฉันจะมาหาใหม่''

     

    ''แล้วหลุมศพที่อยู่ข้างพี่คนนั้นเป็นของใครเหรอครับ  ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามาที่แบบนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นจัง แปลกชะมัด เหมือนพี่เขากำลังยิ้มเลยนะฮะ ''

     

    ''เหมือนพี่เขายิ้มแล้วบอกว่าโชคดีนะฉันสบายดี''

     

    ''นั้นสินะ ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน'  เขากลับไปมอง แผ่นปูนสองแผ่นที่วางคู่กัน

     

     

    ในแววตาที่สั่นเทากำลังเห็นรอยยิ้มบางเบา

     

     

    ระหว่างสมองกับหัวใจพี่ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน

     

    สำหรับผมไม่มีหัวใจผมยังอยู่ได้แม้ว่าจะไม่ได้ความรักเลย ขอแค่ยังมีเรื่องราวของเราสองคนอยู่ในนี้ ผมก็จะยินดีหลับใหลไปตลอดกาล

     

    ริทฉันไม่รู้ว่าระหว่างสมองกับหัวใจอะไรมันจะสำคัญมากกว่ากัน

     

    นายบอกว่าไม่มีหัวใจนายก็ยังอยู่ได้ขอเพียงแค่มีความทรงจำระหว่างเขาคนนั้นกับนาย

    แต่นายรู้มั๊ยถ้าหัวใจตายไป คนๆนั้นก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันนะ

     

    เพราะถ้าหัวใจไม่มีความรักมาหล่อเลี้ยงเลยมันก็จะค่อยๆเหี่ยวเฉา

     

    แล้วสุดท้ายก็จะตายลงไปช้าๆ

     

      ที่ตรงนั้นฉันหวังว่านายสองคนจะยังคงยิ้มให้กัน แล้วได้อยู่ข้างๆกันไปตลอดกาลกับคนที่นายรัก

     

     

     

    หลับให้สบายนะ

     

     

     

     

     .........................................................

    กว่าจะมีเวลามาลง

    กลับมาสู่สภาวะปกติ


    กับมาลงจำเลยรักซาตานเหมือนกันค่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×