ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรกเริ่มแห่งรัตติกาล
    กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้...
    ณ อาณาจักรที่ร่ำรวยและมั่งคั่งด้วยมีกษัตริย์นักคำนวณที่ดี ทวยราษฎร์อยู่กันอย่างสุขสบาย จากการค้าที่นำรายได้เข้าอาณาจักรปีล่ะหลายล้าน
    ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันสิ้นพระชนม์ของพระราชาเดฮาร่า ผู้ถูกพรากจากไปด้วยความชรา ชาวเมืองทั่วแว่นแคว้นก็ยังคงมีงานรื่นเริงได้ตามปรกติ เช่นเดียวกับพวกขุนนางทั้งหลายรวมทั้งเจ้าชายหลายพระองค์ หลังจากจัดพระราชพิธีเสร็จสิ้น การเลือกเฟ้นหากษัตริย์องค์ต่อไปก็มีขึ้นในทันที
    เจ้าชายทั่วแว่นแคว้นเมืองทราบข่าวการชิงตำแหน่งพระราชาแห่งอาณาจักรไฮยาน อาณาจักรที่ร่ำรวยที่สุด ก็ต่างพากันลงสมัครเข้าแข่งขันด้วยหมายชีวิตที่หรูหราและสุขสบายในภายภาคหน้า
    ศึกการชิงราชบัลลังก์จึงเกิดขึ้นในตอนเย็นหลังการถวายเพลิงพระศพ โดยกำหนดให้เหล่าเจ้าชายที่ลงชื่อสมัครเอาไว้ มาประลองดาบกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกริดลมหายใจไปจากร่าง ผู้ที่เหลือเพียงหนึ่งเท่านั้นคือ พระราชาที่แท้จริง
    แม้กติกาการแข่งขันจะเข้มงวดและน่ากลัวสักเพียงใด แต่เหล่าเจ้าชายต่างไม่หวั่นไหว ล้วนมั่นใจในชัยชนะของตนเอง แม้ความพ่ายแพ้จะหมายถึงความตายก็ตาม บัตรการเข้าชมการประลองขายหมดเกลี้ยง จนต้องมีบัตรผีมาขายหน้างาน ผู้คนหล่นหล่ามต่างมาชมเหล่าเจ้าชายของตนห่ำหันกันอย่างดุเดือดในลานประลองแห่งไฮยาน
    เจ้าชายองค์แล้ว.. องค์เหล่า.. จากโลกนี้ไปในวันนั้น จนกระทั่งเหลือเพียงเจ้าชายองค์เดียวที่ได้เป็นกษัตริย์อย่างแท้จริงของอาณาจักรแห่งนี้ เจ้าชายจากต่างแดนที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีหลักฐานบ่งบอกชาติกำเนิดที่ชัดเจน ไม่มีแม้กระทั่งตราประจำราชวงศ์มาแสดงให้เห็น แต่นั้นก็ไม่สำคัญไปกว่าการที่พระองค์ชนะการประลองครั้งนี้ เจ้าชายองค์นี้ จึงกลายเป็นพระราชาแห่งอาณาจักรไฮยาน ในนาม มหาราชกาหลิม อัลวาดี
    หลังการขึ้นครองราชย์บัลลังก์มหาราชกาหลิม ได้นำพาความรุ่งเรืองและเฟื่องฟูมาสู่ไฮยานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ถึงแม้จะร่ำรวยเพียงใด พระองค์มักสงสัย เหตุใดประชาราษฎร์กลับไม่มีความสุขเช่นวันเก่า?
    วันหนึ่งหลังพระองค์ออกไปล่าสัตว์เหมือนเช่นทุกครั้ง แต่วันนี้พระองค์เสด็จกลับมาเร็วกว่าแต่เดิม เมื่อพระองค์นึกขึ้นได้ระหว่างทางว่าวันนี้จะมีแขกเมืองมาหา หากแต่พอกลับเข้าวังพระองค์ก็ต้องพบกับมเหสีที่กำลังพลอดรักอยู่กับชู้รักในห้องบรรทม ด้วยความโกรธแค้น พระองค์จึงลงทัณฑ์ทั้งสองด้วยการตัดหัวเสียบประจาน
    หลังจากวันนั้นมา.. มหาราชกาหลิมมีรับสั่งให้พาหญิงงามจากทั่วทุกแคว้นมาปรนนิบัติพระองค์ทุกคืน คืนละคน พลันรุ่งเช้าจึงรับสั่งให้นำนางนั้นไปประหารทันที แม้มหาราชจะเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยมขึ้นเพียงไร แต่เหล่าประชาก็ยังไม่ได้ทุกร้อนแต่อย่างใด ด้วยเพียงไม่เสียดายลูกสาวแสนงามในเมื่อชีวิตมีอย่างอื่นให้ใฝ่หามากกว่าการมาหลงงมงายกับความรักงี่เง่า
    จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เวลาล่วงเลยมานับปี เมื่อเริ่มไม่มีสาวงามผู้ใดกล้าแสดงตนออกมา เพื่อไปรับใช้มหาราช ความกังวลใจและความเดือดร้อนกลับไปตกอยู่ที่ขุนนางชั้นสูง
    “ในเหล่า หญิงงามที่จะมาปรนนิบัติข้าวันนี้” มหาราชถามหาด้วยน้ำเสียงขัดเคือง เมื่อไม่เห็นหญิงงามในห้องบรรทมเป็นคืนแรก
    “ข้าแต่พระบาท หญิงงามเมืองไม่มีแล้วพะย่ะค่ะ” ขุนนางที่ข่มใจให้กล้าทูลความจริงแก่ฝ่าบาทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อย่างกลัวการถูกลงทัณฑ์
    เป็นจริงดังที่เขาคาดการณ์ มหาราชกาหลิมพิโรธ สั่งให้ทหารนำขุนนางนายนั้นไปประหารก่อนเสียบหัวแห่ประจานทั่วอาณาจักรทันที ก่อนจะรับสั่งด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังอำนาจแก่ขุนนางที่เหลืออย่างชัดเจน
    “ข้าให้เวลาสามทิวา หาหญิงงามมาให้ข้า ไม่เช่นนั้นหัวของเจ้าคงได้เป็นอาหารปลาในวังหลวง”
    ขุนนางน้อยใหญ่ต่างพากันหวาดกลัวต่อพระราชอำนาจนั้น ส่งกำลังคนส่วนหนึ่งออกตามหาสาวงามทั่วทุกแว่นแคว้น ในขณะที่พวกขุนนางที่เหลือต่างพากันคิดแผนก่อกบฏอย่างลับๆ แต่เมื่อคิดถึงพระปรีชาสามารถของมหาราชกาหลิม ที่สามารถฆ่าคนได้ถึง1000 คนต่อการตวัดดาบเพียงครั้งเดียว แผนการกบฏจึงต้องเป็นอันล้มเลิกไป
    สองทิวาผ่านพ้น ทหารที่ถูกส่งไปยังไม่สามารถหาตัวหญิงงามได้ สร้างความกังวลแก่เหล่าขุนนางอีกครั้ง ก่อนที่นายทหารคนหนึ่งจะนำข่าวดีมาให้
    “นักเดินทางชรา กล่าวว่ามีหญิงงามเมืองอยู่ ณ ดินแดนทางใต้ที่เขาเพิ่งผ่านมา ความงามของนางนั้นไม่มีใครกล้าเทียบเทียม แม้จะเป็นเทพธิดานางพรายบนสวรรค์ชั้นไหนก็ตาม”
    คำเปรียบเปรยจากชายชราและคำบอกเล่าของทหาร พาให้เหล่าขุนนางออกคำสั่งให้ไปรับตัวนางมาถวายแก่มหาราชอย่างด่วนที่สุด
    เหนือนภาถูกแต่งแต้มไปด้วยรัศมีวิบวับจากหมู่ดาราที่วางตัวเกลื่อนกลาดอยู่ดาษดื่น เหล่าดอกไม้หอมแห่งไฮยานต้องส่งกลิ่นหอมหวานอบอวลทั่วทั้งราชวังหลวง ในห้องบรรทมของมหาราชกาหลิม บัดนี้มีหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนั่งรอคอยผู้สูงศักดิ์ที่กำลังจะมาถึง
    เมื่อได้ยินว่าบรรดาขุนนางทั้งหลายสามารถหาหญิงงามที่หาใดเปรียบมิได้มาถวาย มหาราชกาหลิมจึงรีบรุดออกจากห้องทรงอักษรมายังห้องบรรทมทันที
    ครั้นมหาราชปิดประตูห้องบรรทมลง พลันหญิงสาวกลับนั่งทรุดตัวลงกับพื้นอย่างนอบน้อม ผิวพรรณนวลเนียนยามต้องแสงจันทร์ น่าสัมผัสเป็นยิ่งนัก ชวนให้นึกสงสัยภายใต้ผ้าคลุมหน้านั้นนางจะงามเพียงใด ก่อนที่จะประทับบนแท่น  แล้วตรัสต่อนาง
    “เปิดผ้าคลุมหน้าของเจ้าสิ ข้าอยากชมความงามที่เหล่าขุนนางนั้นร่ำลือกันหนาหู”
    หญิงสาวเปิดผ้าคลุมหน้าออกอย่างช้าๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้มหาราชขัดเคืองใจเป็นยิ่งนัก นางมิใช่หญิงงาม และมิสามารถหาคำว่างามได้บนใบหน้าปุปะเช่นนี้ ก่อนพระองค์จะกระฟัดกระเฟียดเรียกหาเหล่าขุนนางที่บังอาจหลอกลวงพระองค์ แต่ไม่มีผู้ใดรีบมาเสนอหน้าเหมือนเช่นแต่ก่อนเก่า...
    “ไม่มีผู้ใดมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทหรอกเพค่ะ”
    คำกล่าวของหญิงอัปลักษณ์ตรงหน้านี่ เรียกมหาราชให้หันกลับมามอง ก่อนจะเดินไปหยิบดาบใต้หมอนมาจรดตรงคอเรียวงามของหญิงอัปลักษณ์
    “หมายความว่าอย่างไร หรือพวกนั้นคิดการกบฎ จงบอกข้ามา”
    “หามิได้ฝ่าบาท เหล่าขุนนางล้วนจงรักภักดีต่อพระองค์ ขณะนี้กำลังออกไปตามหาหญิงงามมาถวายฝ่าบาทในคืนวันพรุ่ง”
    “แล้วคืนนี้เหล่า ใยส่งเจ้า.. คนอัปลักษณ์มาให้ข้า”
    “หากฝ่าบาทมิพอพระทัยหม่อมฉัน ที่จะถวายการรับใช้ในคืนนี้ หม่อมฉันคงไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องใดๆจากฝ่าบาท แต่ขอฝ่าบาททรงโปรดอภัยเหล่าขุนนางผู้จงรักภักดีเหล่านั้นเถิด ที่ทำการถวายตัวหม่อมฉันหญิงอัปลักษณ์มาในคืนนี้”
    วาจานอบน้อมที่เปล่งออกจากปากหญิงนางนี้ ทำให้มหาราชกาหลิมคลายความขุ่นเคืองพระทัยลง ก่อนที่จะเอนตัวลงบนแท่นบรรทม แล้วตรัสสั่งหญิงอัปลักษณ์
    “กลับไปเสียหญิงอัปลักษณ์ เจ้าจงไปในที่ๆเจ้าจากมา ก่อนที่ข้าจะลงอาญา”
    “พระองค์ทรงเมตตา คืนนี้หม่อมฉันมิอาจกลับออกไปนอกวังได้เสียแล้ว ด้วยความอัปลักษณ์ของหม่อมฉันเกรงจะทำให้ชาวเมืองหวาดผวา หากทรงกรุณาคืนนี้หม่อมฉันขอพำนักในเขตพระราชฐานอันยิ่งใหญ่นี้ แล้วหม่อมฉันจะเล่าเรื่องราวจากแดนไกลถวายเป็นการตอบแทน”
    ด้วยเหตุผลตามที่หญิงอัปลักษณ์กล่าว มหาราชกาหลิมจึงยินยอมให้นางพำนักอยู่ที่นี่ได้คืนหนึ่ง พร้อมกับรับฟังเรื่องเล่าจากแดนไกลเป็นการแก้ตอบแทนจากนาง
    “เจ้าอัปลักษณ์ ราตรีนี้ยังเยาว์นัก ข้ายังไม่อยากจมสู่ห้วงนิทรา เรื่องเล่าของเจ้าเป็นเช่นไรจงว่ามา ข้าจะรับฟัง”
    “เพค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของชายผู้พิการ”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝากเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ
เอาไว้อ่านเล่นๆอ่านเพลินๆ คลายเคลียดค่ะ ^_^ อิอิ
                                                                              ลงนาม
                                                                            ...ไม่รู้ดิ...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น