ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) ▨ inconvinient truth.

    ลำดับตอนที่ #3 : 2.

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 57


    M

     

     

    2.

     

     

     

    นี่

    “………”

    นี่

    “………”

    คุณโอเซฮุน !!”

    และแล้วความอดทนก็ขาดสะบั้น

    เสียงดังของลู่หานถูกส่งออกมาเมื่อคนที่เดินอยู่ข้างหน้าตัวเองไม่มีทีท่าที่จะสนใจกับคำเรียก ลู่หานหยุดหอบหายใจอยู่กับที่และจ้องมองไปยังแผ่นหลังของโอเซฮุนอย่างเคืองๆ หลังที่ทั้งสองออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นเวลาพักเที่ยงที่คนแถวนั้นเริ่มกลับที่พัก โอเซฮุนก็ได้เดินออกมาจากห้องโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวอะไรคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งเครียดกับปริศนาคดีวิปลาสนเดียวในห้องสักคำ ลู่หานเดินตามคุณนักสืบโอมาตั้งแต่หัวมุมถนมาจนแทบจะผ่านไปได้ 4 ไฟแดงแล้วแต่เขาก็ยังไม่หันมาพูดหรือชี้แจงอะไรสักอย่างให้คนตัวเล็กที่กำลังฉุนเฉียวเข้าใจเลยสักนิด 

     

    “……..”

    และเป็นไปตามคาด มิสเตอร์โอหยุดก้าวขายาวๆโดยเสียงเรียกจากลู่หานก่อนที่จะหมุนตัวมาตรงหน้าคนในเสื้อสเวทเตอร์สีครีม หน้านิ่งๆหยิ่งยโสยิ่งเพิ่มความหน้ามั้นไส้ด้วยการเลิกคิ้วของโอเซฮุน

     

    นี่คุณครับ ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยนะ คือคุณเพิ่งตกลงร่วมงานกับผม แต่กลับเดินออกมาโดยไม่พูดจาอะไรสักคำ คุณต้องการอะไร

    อืม ที่ผมต้องการ ?

    Ah fuck up……..ฉันเกลียดสำเหนียงของหมอนี่

    ลู่หานคิดในใจ

    ถึงเขาก็ไม่ได้จะมีทักษะการพูดมากกว่าคนเอเชียคนไหน ในบางคำอาจมีแปล่งๆไปบ้าง

    แต่กับหมอนี่...มันดูเพอเฟ็กซะจนเขาต้องหมั้นไส้

     

    ใช่ ที่คุณต้องการ

    ไม่นี่ ผมไม่ได้ต้องการอะไร

    “w wha….”

    ลู่หานเริ่มหัวเสียกับคำพูดของคนตรงหน้าขึ้นเรื่อยๆ เสียงแตรรถจากถนนข้างๆและเสียงตะโกนโวกเวกในร้านเบอเกอร์ในแถบนั้นเทียบไม่ได้เลยกับประโยคเพียงสองสามประโยคจากปากคนผมสีน้ำตาลเข้ม  

     

    แล้วคุณจะให้ผมตามมาทำไมวะเนี่ย

    ผมไม่ได้บอกให้คุณเดินตามมาสักหน่อย

    นะ นี่......

    อีกอย่างวันนี้ผมว่าเราคุยกันมาเยอะแล้วนะครับ กลับบ้านไปนอนกินนมแล้วผมจะติดต่อไป หวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เราได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายนะครับ

    เหอะ ขำตายล่ะ อีกอย่างคุณไม่มีทางรู้เบอร์ของผม

    “04 7856 223….”

    ฮะ เฮ้ย

    ลู่หานถึงต้องอ้าปากค้างเมื่ออยู่ๆโอเซฮุนก็คีบนามบัตรหน่วยราชการ(ปลอม)ที่มีชื่อและรูปถ่ายของลู่หานโชว์หราอยู่ออกมาและพึมพำเบอร์โทรศัพท์ของเขา ลู่หานรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะหยิบกระเป๋าสตางค์ และเมื่อเขาเปิดกระเป๋าสีดำขลับออกเขาก็รู้ทันทีว่านามบัตรได้ถูกหยิบไปจากช่องเก็บ

     

    “see you next time , luhan”

    “ah shut up!”

    ลู่หานตวาดร่างสูงตรงหน้าไปทันที โอเซฮุนเลิกคิ้วและตะเบะเพื่อบอกลาก่อนที่จะสาวเท้าเดินออกไปในตรอกข้างร้านขายแผ่นเสียง ในสมองของหนุ่มหน้าหวานตอนนี้มันสับสนไปหมด ทั้งยังงงๆว่าโอเซฮุนหยิบนามบัตรเขาไปตอนไหนหรือเขาได้ยื่นให้กับมือเองรึเปล่า ความหงุดหงิดจากท่าทีกลัวประสาทของโอเซฮุนรวมกับปริศนาคดีที่เริ่มซับซ้อนมากกว่าที่เขาคิดไว้ทำให้ลู่หานอยากจะบ้าตายในบ่ายวันนั้น....

     

     

     

    .

     

     

     

    “shit!”

    คนตัวเล็กในเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมสีเข้มและกางเกงวอร์มขายาวร้องออกมาเสียงดังและชักมือกลับทันที ดวงตาของเขาเริ่มคลอไปด้วยน้ำตา ความรู้สึกเจ็บปวดราวกลับถูกหนามควรัวทิ่มแทงที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วแขนมันทำให้ลู่หานต้องซี๊ดปากออกมาอย่างห้ามไม่ได้...

     สายตาที่เต็มไปด้วยความเคืองแค้นของเขาจ้องมองไปยังสิ่งตรงหน้าอย่างไม่วางตา...

    ....


    .........

    .................

     

     

    ทำไมไม่มีใครคิดค้นกาต้มน้ำที่หูจับทำมาจากน้ำแข็งบ้างวะ

    ลู่หานบ่นอุบอิบพลางยัดนิ้วชี้ที่จับไปโดนกาจับร้อนจี้ของกาต้มน้ำบนเตาเข้าไปให้ปากก่อนหยิบผ้าเช็ดโต๊ะสีหม่นข้างๆมาห่อหูจับของเจ้ากาต้มน้ำสีเงินไว้และหยิบมาออกจากเตาแก็ส ลู่หานวางมันลงที่เคาท์เตอร์ไม้สีเข้ม ไอน้ำที่ยังคงพุ่งออกมาจากตัวกาเพราะความร้อนอบอวลไปทั่วห้อง กลิ่นหอมๆจากเมล็ดกาแฟบดที่เขาเตรียมไว้ยิ่งทำให้บรรยกาศ ณ ตอนนี้สบายมากกว่าที่ไหนบนโลกซะอีก

     

    นายไม่คิดจะเก็บห้องบ้างเลยรึไงวะ ถ้าวันไหนได้หิ้วสาวกลับมาเขาคงวิ่งหนีเพราะคิดว่าห้องแกเป็นถ้ำ

    เว้นแต่บุคคลที่กำลังเดินเข้ามา

    แม้ลู่หานจะได้ยินเพียงเสียงที่ใกล้เข้ามาเขารู้ทันทีว่าบุคคลลึกลับนั้นเป็นใคร เมื่อรู้สึกถึงการมาถึงของเขาคนนั้น ลู่หานก็ได้หันไปฉีดยิ้มสวยๆให้เขาทันที

     


     

    “if you don’t like so….. getout of my room before I kick you’r fucking ass :-)”

    “wow clam down babe .....ฉันแค่จะมาดูความคืบหน้าคดีนาย

    ข้ออ้างเบียร์ฟรีมากกว่ามั้ง

    เฮ้ ฉันมีของดีมาฝากด้วย เรื่องข้อมูลของผู้ต้องหาคดีข่มขืนรอบมิตทาวน์

    คริสชูซองเอกสารสีน้ำตาลอ่อนขึ้นพร้อมกับยกแขนขึ้นพิงเสาประตูไว้ ลู่หานวางแก้วกาแฟในมือแทบไม่ทัน ตาของเขาลุกไฟราวกลับว่าพร้อมที่จะพุ่งเข้าจู่โจมคริสเพื่อแย่งชิงซองนั้นมาให้ได้...ก็แหงล่ะ วันนี้ทั้งวันนับตั้งแต่ที่เขาแยกตัวออกมาจากโอเวฮุน ลู่หานก็เมาขุกอยู่แต่รูปคดีจนไม่ได้แตะอะไรเข้าปากเลยสักนิด เขาต้องจัดรูปคดีใหม่เนื่องจากข้อมูลและหลักฐานที่ได้มาจากโอเซฮุนพร้อมทั้งต้องอัพเดตความคืบหน้าของข่าวจากทางกรมตำรวจอีกด้วย

     
     

    ได้ข่าวว่านายเจอคู่ขาในที่เกิดเหตุ

    ถ้านายพูดแบบนั้นอีกฉันจะเอาตานายเปิดขวดเบียร์

    “just kidding”

    “kidding my ass - _ -”

    ผมกระแทกเสียงใส่เขาและดึงแฟ้มนั้นมาไว้ในครอบครอง ไอ้หนุ่มตัวโย่งหน้าหล่อได้แต่ถอนหายใจและเดินตามผมออกมาที่ห้องนั่งเล่น อ่า คุณคิดไม่ผิดหรอก คนตรงหน้าของลู่หานคือยอดนักสืบประจำบริษัท นักสืบที่ทุกคนต่างเพ้อถึง

    นักสืบที่ทุกคนต่างคิดว่าเขาจะอยู่ในสูทสีเข้มไม่ก็ชุดหนังสีดำขลับ

    มีรอยแผลจากการต่อสู้ไม่ก็ต้องคาบบุหรี่ไว้ตลอดเวลา

    นิสัยเยือกเย็น ดุดันราวหมาป่า มีสมองและไหวพริบล้ำเลิศไม่ต่างจากในหนัง 

     

     

    เฮ้ย นายเปลี่ยนผ้าคลุมโซฟาเหรอวะ

    เออ ไม่ชอบ ?

    ไม่ว่ะ แค่มันคันตูดยุบยิบ

    นี่แหละ คริสที่ทุกคนพูดถึง

    รอยแผลถ้าจะให้มีก็คงเป็นรอยแผลมุมคางด้านซ้ายที่เกิดจากการวาดรูปและหลับไปก่อนที่จะกลิ้งเอาคางไปเสยกับปากกาเข้า ส่วนนิสัยถ้าจะให้เปรียบกับสัตว์คริสเขาน่าจะเป็นอเมริกันฮัสกี้โง่ๆมากกว่าหมาป่าอะไรนั่น แต่สิ่งที่ลู่หานหรือใครๆเถียงไม่ได้เลยคือสมองและทักษะในการไขคดีของเขา ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ลู่หานไม่สามารถเดาตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ ถึงเขาทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันมาร่วม 5 ปีแต่ไม่ว่าลู่หานจะมองผ่านสีหน้าสดใสและตัวตนที่ร่างเริงเข้าไปในตาของคริสสักกี่ครั้งเขาก็จะเจอแต่สีดำ


    สีดำที่ไม่สะท้อนอะไรกลับมานอกจากความว่างเปล่า

    คริสลึกลับซะจนไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวตนของเขาได้

     

     

    ถึงคริสจะดูเป็นคนธรรมดาไม่ได้นักสืบจ่าอย่างที่ทุกคิดไว้แต่ก็ไม่มีใครสามารถปฎิเสทความสามารถให้การสืบของเจ้าตัวได้แม้แต่น้อย คริสมักขุกอยู่ในห้องของตัวเองหมกหมุ่นในหนังสือสืบสวนมาตั้งแต่สมัยเรียน โดนสาวบอกเลิกมานักต่อนักเพราะด้วยเรื่องที่เขาสนใจการสืบสวนต่างๆในข่าวมากกว่าชีวิตประจำวันของตัวเองแต่เมื่อในอายุที่มากขึ้นวัยที่เริ่มเข้าสู่การที่ต้องเรียกตัวเองว่า ผู้ใหญ่วัยที่ต้องรับผิดชอบและดูแลตัวเอง วัยที่ต้องจัดการทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวคนเดียว ดูเหมือนคริสจะเข้าใจในข้อนี้ดีเขาจึงใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองเพื่อที่ไต่เต้าตัวเองขึ้นมาเป็นนักสืบอาชีพ จากนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเอเชียสู่การเป้นนักสืบเอกชนมีชื่อของบริษัท คริสทำทุกอย่างนั้นด้วยตัวเอง

     

     

    แล้วนายไม่ทำคดีของนายรึไง

    ปิดไปแล้ว

    คริสยกขวดเบียร์ขึ้นกรอกปาก ไรหนวดที่เริ่มขึ้นทำให้เขาดูน่ากลัวขึ้นมาหน่อย คริสมักจะมาที่ห้องของลู่หานเสมอทุกสุดสัปดาห์แม้ว่าทั้งสองจะเจอกันทุกวันที่บริษัทก็ตาม


    อยู่กับนายแล้วฉันสบายใจนี่หว่า อีกอย่างกินเบียร์ที่อื่นมันเสียตังค์

    นั่นคือข้ออ้างของเขาที่มีให้ลู่หาน จะว่าไปถึงคริสจะมาขุกอยู่กับเขาแต่ลู่หานก็ไม่ได้มีท่าทางไม่สบายใจหรือรังเกียจจนไม่อยากให้คริสมาหา หน่ำซ้ำบางทีลู่หานยังรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องอยู่คนเดียวในคืนสุดสัปดาห์ แต่บางทีเขาก็แค่สงสัย ทั้งที่ห้องของคริสทั้งใหญ่และหรูหรากว่าห้องเขาของเป็นไหนๆแต่ทำไมร่างสูงต้องถ่อมาจากอีกฝั่งเมืองเพื่อมาหาเขา สู้ออกไปเที่ยวเตร่ย่านไทม์สแครว์ไม่ดีกว่ารึไง แต่ถึงเขาจะสงสัยแค่ไหนลู่หานก็ทำเพียงได้แค่สงสัย


    อยู่กับเขามันสนุกตรงไหนกัน

     

     

    เป็นไง

    หื้อ ?

    คนตัวเล็กหลุดออกจากความคิดของตัวเองเมื่อคริสเอ่ยถาม

     

    คนที่นายเจอที่เกิดเหตุน่ะ

    อ่า โอเซฮุน

    เดี๋ยวนะ.....คนเกาหลี ?

    คริสเลิกคิ้วหล่อๆขึ้นด้วยความสงสัย ขวดเบียร์ที่กำลังถูกยกเข้าปากชะงักด้วยมือใหญ่

     

    คนเกาหลีที่กวนตีนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ รองจากคิมจงแดน่ะนะ

    ลุ่หานพูดพลางใช้นิ้วเรียวสวยเกี่ยวเชือกเส้นเล็กที่เกี่ยวปิดผนึกซองข้อมูลนั่นไว้

     

    เขาบอกนายว่าเขาเป็นนักสืบ ?

    อื้อ นักสืบเอกชน เหมือนเรา ไม่รู้สิอีกอย่างฉันว่าเขาเก่ง

    หมอนั่นมันเก่งหรือนายกันแน่ที่ไก่อ่อน

    จริงๆนะเว้ย ท่าทาง หลักฐาน การสันนิษฐาน เขามีแม้กระทั่งผลชันสูตรและรูปผู้ตาย อีกอย่างหมอนั่นแม่งโคตรจะตัวใหญ่เลยขื่นฉันสืบงานนี้ต่อไปด้วยร่างกายที่พระเจ้าไม่เห็นด้วยและสร้างมันมาไม่ให้สอดคล้องกับหน้าตาแมนๆของฉัน ฉันว่าฉันคงตายตั้งแต่ก้าวเข้าเขตสลัมนั้น ฉันเลยขอร่วมมือกับเขาไป

    ถึงจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ แต่โอเซฮุนน่ะเก่งจริงๆ

     

    นาย......อ่า นายนี่มันจริงๆ

    ช่างฉันเถอะน่า

    นายไม่คิดเลยรึไงวะ

    คริสกล่าวออกมาอย่างหัวเสียและกระแทกขวดเบียร์ลงกับโต๊ะไม้ข้างโซฟา ใบหน้าหล่อเหลาแสดงอาการไม่พอใจออกมาจนลู่หานต้องขมวดคิ้วตาม

     

    นายเจอเขาที่เกิดเหตุ

    “………..”

    เขามีหลักฐานที่มากกว่าและรู้เรื่องที่ไม่ควรของคดี

    “……….”

    เขาไม่ใช่คนของรัฐบาล

    “………….”

    นายยังไม่เข้าใจอีกหรือยังไง..........คนร้ายที่ฉลาดอาจจะกลับไปเพื่อกลบร่องรอย

    สิ้นประโยคของคริสทั้งห้องก็เงียบสงบราวกลับถูกหยุดเวลาเอาไว้ มีเพียงเสียงฮีตเตอร์ที่ดังคล่อยมาตามอากาศในห้อง ตาคมกริบจ้องมองมาที่ลู่หานด้วยสีหน้าจริงจังประกอบกับท่าทางของมือคริสที่ประสานเข้าหากัน เขามักจะแสดงท่าทางแบบนั้นเมื่อเขาจริงจังกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

     

     

    .

    ..

    ….

    …..

    “what wrong with you dude !!!”

    ลู่หานระเบิดเสียงหัวเราะออกมาและกุมท้องตัวเองไว้แน่นด้วยความทรมานจากกล้ามเนื้อช่วงท้องที่หดตัวเพราะอาการจากการหัสเราะอย่างบ้าคลั่ง คนตัวเล็กแทบล้มลงไปจากโซฟาตัวใหญ่ด้วยซ้ำ

     

    นี่มันไม่ใช่นิยายสืบสวนนะคริส คนร้ายบ้าบอที่ไหนมันจะกลับมาที่เกิดเหตุซ้ำสองวะ อีกอย่างนะ ถ้าเขาเป็นคนร้ายทำไมเขาไม่ฆ่าฉันไปเลยซะล่ะ พยานก็ไม่มีแถมฉันยังมาคนเดียว มันไม่มีน้ำหนักเลยที่จะไปคิดถึงตรงนั้น

    ลุ่หานยันตัวเองที่ไหลจะเกือบจะตกโซฟาขึ้นมาพูดกับร่างสูงตรงหน้าที่ยังคงทำหน้าเครียดไม่เปลี่ยน

     

    เฮ้ ฉันจริงจังนะ

    อ่า โอเคๆ ฉันจะระวังตัวตอนเจอหมอนั่นให้มากขึ้นแล้วกัน

    ลู่หานตอบไปอย่างปัดๆ หลังจากที่แกะซองสีน้ำตาลออกลู่หานก็ล้วงลงไปหยิบเอกสารที่หนาประมาณ 10 กว่าหน้าขึ้นมา แต่ละใบมีหน้าตาและลักษณะ รวมถึงข้อมูลที่อยู่ของผู้ที่เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยหรือผู้ร้ายในคดีข่มขื่นย่านมิตทาวน์ไว้ คริสส่ายหัวให้กับท่าทางที่มองโลกในแง่บวกของเพื่อนสนิทเกินไป เขาเจอมานัก่อนักแล้วที่คนร้ายมักปลอมตัวเป็นคนทำความสะอาดหรือชาวบ้านแถบนั้นเพื่อเข้าถึงที่เกิดเหตุก่อนใช้ช่วงที่ตำรวจเอ้อระเหยและคิดว่าคงไม่มีคนร้ายบ้าที่ไหนกลับมาในตอนที่กำลังทำคดีเพื่อกลับมาเก็บหลักฐานที่ตนเองทำทิ้งไว้ และในบางทีคนร้ายที่ปลอมเป็นตัวรวจยังมีให้เห็นเต็มไปหมด

     


     

    ยิ่งมาในคาบที่น่าไว้ใจ ยิ่งอันตราย

    สร้างภาพให้ผู้คนหลงไปกับการตีหน้าเป็นเพื่อที่ลับหลังจะได้กระทำความต่ำทรามอย่างไม่มีใครสงสัย

    เริ่มต้นมาด้วยการเป็นพ่อพระ...ใครจะรู้แท้จริงของหน้ากากที่ใส่อยู่อาจเป็นซาตานผู้โหดเหี้ยม

     

     


     

    ตื้ด ตื้ด

    เสียงเตือนเมสเซสเข้าทำให้ลู่หานต้องลุกจากโซฟานุ่มสีหม่นเดินไปหยิบโทรศัพท์สีขาวที่วางชาร์ตแบตไว้ขึ้นมาดู ที่เขาดูรีบขนาดนี้เพราะลู่หานคิดว่าอาจจะเป็นข้อความจากคยองซูที่เขาได้ไหว้วานให้หาความหมายและประวัติของไอ้ตัวเลข 88 และอักษร H ให้ก็ได้

     

     

    พรุ่งนี้ 8.00 ที่ร้านกาแฟตรงหัวมุมถนนที่เกิดเหตุคดีแรก

    โอเซฮุน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    #truthhunhan

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×