คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เปิดชีวิต!
มุกคือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เธออายุ5ขวบ แม่ของเธอมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล มุกช่างสังเกตทุกครั้งมื่อคุณแม่ตัดเย็บเสื้อผ้าแต่ละตัว จนวันหนึ่งเธอแอบใช้จักรเย็บผ้าของแม่ตัดสื้อสำหรับตัวเอง 1 ตัว
เมื่อแม่ได้มาเห็นแม่ประหลาดใจมาก และชื่นชมลูกสาวว่าเก่งมาก มุกยิ้มใหญ่ ต่อมาแม่มุกได้เอาผ้าไปส่งให้กับคนไข้ที่เป็นโรคผิวหนัง หลังจากนั้นแม่มุกก็ติดโรคนั้น จึงได้นำมุกไปฝากให้กับพี่สาวของตนเลี้ยงเพราะกลัว่าลูกของตนจะติดโรคจากตน และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป3เดือนหลังจากนั้นแม่มุกก็ได้ตายลง มุกเสียใจมากกับเหตุการณ์นี้ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากร้องไห้
พอมุกเรียนจบม.6 คุณป้าของเธอก็ไม่ยอมส่งมุกเรียนต่อ เพราะการศึกษาขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลกำหนดก็คือม.6 มุกจึงตัดสินใจไปสมัครงานที่บริษัทเอกชนที่ทำทัวร์แห่งหนึ่ง เนื่องจากมุกเรียนศิลป์ญี่ปุ่น จึงได้เป็นมัคคุเทศก์ฝึกหัด(เป็นตัวสำรองมัคคุเทศก์)ทุกวันมุกก็ต้องคอยสังเกตมัคคุเทศก์รุ่นพี่ว่าเขาต้อนรับขกอย่างไรบ้าง จนในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไป2เดือนมุกก็เป็นมัคคุเทศก์ได้อย่างคล่องแคล่ว และต่อมามุกก็ได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เนื่องจากถูกขโมยเงินทุกวันเมื่อกลับเข้าบ้าน เมื่อถึงเวลาเลิกงานจากมัคคุเทศก์ มุกก็ได้ทำอาชีพรับจ้างเย็บเสื้อผ้าไปด้วย จึงทำให้วันหนึ่งๆมุกได้เงินประมาณ 500-600บาท ซึ่งทำให้มุกได้ตัดสินใจที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเปิด คือมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช มุกตั้งใจเรียนนิติศาสตร์อย่างมาก จนผลการเรียนที่ออกมาเป็นเกรดH ทุกตัว มุกจะอ่านหนังสือถึงเที่ยงคืน และตื่นตีสี่ทุกวัน
*-* *-* *-* *-* *-* *-*
วันหนึ่งมุกเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าและเงียบเหงามากจึงได้โทรศัพท์นัดเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันไปเที่ยวสวนสาธารณะแห่งหนึ่งแถวๆองค์พระปฐมเจดีย์ มุกถูกคนสติไม่ดีคนหนึ่งด่าว่า
คนสติไม่ดีพูดว่า: ไอลูกไม่มีแม่ไม่มีพ่อ ฮะฮะฮะฮะ!
มุกโกรธมาก มุกจึงรีบไปหยิบไม้หน้าสามที่อยู่ใกล้ๆมือ เพื่อมาตีคนๆนั้น
แต่ฤดีเพื่อนของมุก ได้ห้ามไว้และพูดว่า
ฤดี:อย่าถือสาคนสติไม่ดีเลยมุก ถ้ามุกขืนเอาไม้ตีหัวคนสติไม่ดีคนนั้น มุกก็ต้องติดคุกนะ
มุกได้สติคืนมา จึงรีบทิ้งไม้ไป และบอกกับฤดีว่า
มุก:ฤดี เราไปที่อื่นกันดีกว่านะ
ฤดีพยักหน้าและเดินไปกับมุก มุกเดินเข้าไปในองค์พระปฐมเจดีย์ และทั้งคู่ได้ขึ้นไปที่ตรงองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระคู่เมืองนครปฐม แล้วจุดธูปอธิษฐาน
มุกอธิษฐานว่า ขอให้วิญญาณแม่ไปสู่สุขคติเถิด ส่วนฤดีอธิษฐานว่า ขอให้ตนได้เกียรตินิยมอันดับ1ของคณะนิติศาสตร์ที่ตนเรียนอยู่
พออธิษฐานเสร็จแล้ว มุกกับฤดีก็ได้เดินวนรอบองค์พระปฐมเจดีย์แล้วมุกพูดว่า
ชาวญี่ปุ่น:เอาเป็นก๋วยเตี๋ยวครับ
มุกก็ชี้ทางให้ชาวญี่ปุ่นคนนั้นไป ชาวญี่ปุ่นก็พูดว่า
ชาวญี่ปุ่น :ขอบคุณมากครับ
มุกก็ยิ้มตอบให้ชาวญี่ปุ่นผู้นั้น
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวราดแกงแห่งหนึ่งที่บริเวณหลังตลาด เพราะราคาถูกอีกทั้งยังอร่อยอีกด้วย
พอทั้งคู่กินอาหารกันอย่างสำราญกายใจแล้ว ก็ได้ขึ้นรถเมล์ที่ท่ารถเมล์ขาวเพื่อไปส่งฤดีที่บ้านของฤดี
บ้านฤดีอยู่บริเวณใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยศิลปากร พอถึงบ้าน
ฤดีก็พูดกับมุกว่า
ฤดี:ขอบใจนะมุก ที่มาส่งฤดี ทั้งๆที่บ้านของมุกอยู่ที่สามพราน
มุกพูดว่า :ไม่เป็นไรหน่า ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่ แค่นี้จิ๊บๆ
หลังจากนั้นมุกก็นั่งรถเมล์กลับบ้านที่สามพราน และแล้วในขณะที่นั่งรถเมล์ก็ได้เกิดเรื่องที่ประหลาดขึ้นกับมุก
ที่มาของภาพจาก webboard.mthai.com
มุก: พวกเราโชคดีเนอะ ที่ได้เกิดอยู่ที่เมืองนครปฐมแห่งนี้ เพราะที่นี่มีองค์พระเป็นศูนย์รวมใจของคนนครปฐมทุกคน เรารักองค์พระกัน เนอะฤดีเนอะ
ฤดียิ้มแล้วพยักหน้า
มุกกับฤดีได้เข้าไปในถ้ำที่อยู่ข้างบนองค์พระ มุกพูดว่า
มุก:เราเป็นชาวนครปฐมแท้ๆ แต่ยังไม่เคยได้เข้าไปในถ้ำแห่งนี้เลย
ฤดีพูดว่า:หรอ! แปลกดีเนอะ
พร้อมกับหัวเราะเบาๆ
ในถ้ำนั้นมีไฟติดที่ข้างบนถ้ำอยู่ตลอดทางเดิน ฤดีพูดขื้นว่า
ฤดี:น่าตื่นเต้นจังเลยมุก อยากรู้จังว่าถ้ำนี้จะยาวสักเพียงใด
มุกพูดขื้นว่า:เดี๋ยวก็รู้
พร้อมกับยักคิ้ว
พอไปถึงปลายสุดของถ้ำ มุกก็ได้ร้องอุทานด้วยความแปลกใจว่า
มุก:โอ้โห! ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีพระอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย
ฤดีพูดต่อ ว่า
ฤดี:อืม ใช่!
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ได้ขึ้นจากถ้ำ แล้วไปที่ตลาดนครปฐม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดของพระมหากษัตริย์ซึ่งสร้างมาหลายปีมากๆแล้ว คาดว่าน่าจะสมัยประมาณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลาดแห่งนี้แบ่งเป็นตลาดบนและตลาดล่าง ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของสิ่งของต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์ตกปลา นาฬิกา ร้านหนังสือ หรือแม้กระทั่งร้านค้าชั้นนำที่โด่งดังไปทั่วเมืองไทย อาทิ ร้านสะดวกซื้อก็มี มุกกับฤดีได้เข้าไปในตลาดเพื่อหาซื้ออาหารกลางวันรับประทานกัน ได้มีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามาถามมุกเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่แปลเป็นไทยได้ใจความว่า
ชาวญี่ปุ่น: คุณรู้ไหมครับ ว่าอาหารร้านไหนที่อร่อยที่สุดในตลาดแห่งนี้
มุกตกใจนิดหน่อย และตอบไปเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เมื่อแปลความเป็นไทยแล้วได้ใจความว่า
มุก:มีหลายร้านเลยค่ะ ต้องการจะรับประทานอาหารประเภทไหนหล่ะค่ะ
มีประเภทที่เป็นก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง และพวกอาหารจานด่วนในร้านสะดวกซื้อก็มี
และแล้วทั้งคู่ก็ได้เข้าไปกราบพระ พอพระเห็นหน้ามุกก็พูดขื้นว่า
พระ:เจริญพรเถิดโยมทั้งสอง
แล้วพระก็พูดกับมุกอีกว่า
พระ:โยมต้องระวังอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้ชายให้ดีนะ เพราะมันจะนำความเดือดร้อนมาสู่โยม
มุกทำหน้างงๆแล้วรับคำที่พระบอก
ความคิดเห็น