ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF EXO by น้ำจ๊ะ แม่ไอ้แดง [NOW: แฟนเกือบเก่า ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #8 : S.U.G.A.R [Changmin x Baekhyun]

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 60





                    

                    Special  OS  Changmin x Baekhyun

                    Title:   S.U.G.A.R

                    Note:   ข้ามวงเลยแก  แต่เราชอบ  เราจะไม่แคร์  ขอโมเม้นจูบหัวกบาลจงสถิตอยู่กับข้าตลอดไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า

     

                   

                    คุณคิดว่าผู้ชายอายุ 28 ที่ตกงาน จะกำลังทำอะไรอยู่ในค่ำคืนนี้.... คำตอบคือผมกำลังนอนลืมตามองเพดานผ่านความมืดภายในห้องพักแบบสตูดิโอที่ขนาดพอดีสำหรับชายโสดจะได้อาศัยเพียงลำพัง

                   

                    ชิมชางมิน อายุ 28 ปี ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้ช่วยเชฟประจำร้านอาหารโต้รุ่งชื่อดัง หลังจากที่ยกกระทะขึ้นฟาดหน้าไอ้ผู้จัดการร้านที่พยายามจะลวนลามพนักงานคนนึง ผมก็ไม่อยากยุ่งนักหากไม่ใช่ว่าพนักงานหญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่าของผมเอง เธอดูลำบากใจกับท่าทีคุกคามของไอ้เวรนั่น ผมก็คิดไปว่าเธอต้องการความช่วยเหลือเลยยื่นมือเข้าไปพร้อมกระทะใบใหญ่ แต่พอเอาเรื่องกันจริงๆเธอกลับทำไม่รู้ไม่ชี้เพราะกลัวจะโดนไล่ออก.... ถามว่าคนดีอย่างผมจะเป็นอย่างไรต่อไป ใช่! โดนไล่ออกแน่นอน คนดีไม่มีที่อยู่จริงๆครับ โลกเรามันก็ห่วยแตกแบบนี้แหละ

                   

                    ตอนนี้ตีสี่แล้ว แต่ที่ยังคงนอนไม่หลับนี่ก็ใช่ว่าจะเสียอกเสียใจหรอกนะครับ แค่โดนไล่ออกไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เงินทองที่เก็บสะสมไว้ยังมีเหลือกินเหลือใช้ได้อีกเป็นปี แต่ปัญหาคือการทำงานแบบโต้รุ่งนั้นคือการทุ่มเวลาทั้งหมดในตอนฟ้ามืดและหลับเอาแรงในตอนฟ้าสว่าง การใช้ชีวิตแบบคนปกตินั้นถูกลืมไปแล้ว ไม่มีความคุ้นชินใดๆต่อการพยายามหลับในตอนกลางคืน ไม่ง่วงสักนิดเดียว

                   

     

                   

                    8:00 am

                    ร่างสูงใหญ่ที่สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากซอมบี้กำลังพยายามหาบางอย่างที่น่าจะช่วยเขาได้ ยามที่มองตนเองผ่านกระจกร้านรวงข้างทางก็อยากจะหาอะไรมาตีให้ล้มไปซะ สภาพแบบนี้ใครเขาออกมาเดินข้างนอกกัน ตาปรือจนจะปิดสนิท สติก็เบลอเหมือนพวกหลอนยา บางทีชางมินก็คิดได้ว่าเขาควรนอนหลับอย่างที่เคย

                   

                    ไม่! ไม่ได้! ตั้งใจจะหักดิบก็ต้องทำให้ได้ หากจะหางานใหม่ก็ต้องปรับตัวให้เวลาชีวิตตรงกับคนอื่นๆ เพราะเขาอาจไม่ได้โชคดีหางานที่ทำโต้รุ่งแบบเมื่อก่อนแล้ว

     

                   

                    S.U.G.A.R

                   

                    ป้ายร้านชมพูสลับกับสีน้ำตาลตรงหน้าดึงความสนใจได้อย่างง่ายได้เมื่อนึกไปถึงเรื่องที่เคยได้ยินจากเพื่อนๆว่าของหวานช่วยได้ดีหากต้องการอดนอน จะหลอกกันหรือเปล่านะ?  สองขาก้าวยาวๆเข้าไปด้านใน เตรียมใจรับความหวานเลี่ยนชวนอ้วกตามสไตล์ร้านขนมหวาน แต่ก็พบว่ามันไม่ได้เลวร้ายนัก ร้านนี้ตกแต่งสบายตากว่าที่คิด มันไม่ได้หวานแหววเหมือนมีเอาไว้เพื่อให้เหล่าคู่รักเข้ามานั่งสวีทตี้ถ่ายรูปอวดประชาคมโลก และพวกคนโสดก็ได้แต่นั่งเบะปากยามมองรูปเหล่านั้น

                   

                    โชคดีที่คนไม่เยอะนัก ความสงบภายในร้านทำให้ชิมชางมินคิดว่าเขาอาจจะทนอยู่ในนี้ได้นานจนกว่าจะหายง่วง มองดูตู้กระจกที่มีขนมหวานวางเรียงรายก็ต้องเบ้หน้า เขาไม่ชอบของหวาน แต่ก็เดินเข้ามาในร้านขนมหวาน ชีวิตช่างย้อนแย้งเหลือเกิน มือหนาหยิบเอาเมนูเครื่องดื่มที่วางบนโต๊ะขึ้นมาดู พลิกไปพลิกมาราวกับมันมีสักร้อยเมนู

                   

                    "รับอะไรดีครับ"

                   

                    "เดี๋ยว รอแป๊ป"  ชางมินไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าพนักงานที่มายืนอยู่ข้างโต๊ะนั้นกำลังทำหน้าแบบไหนในการต้อนรับลูกค้าที่ดูเก้ๆกังๆแบบเขา ตอนนี้เขายังคงสนแต่เมนูตรงหน้าอย่างเดียวเท่านั้น ไม่รู้จะกินอะไรดี

                   

                    "ครับ"

                   

                    "นี่ แนะนำหน่อยสิ อะไรที่หวานๆ"

                   

                    "น้ำตาลมั้ยครับ?"

                   

                    "ห๊ะ!"  และแล้วเขาก็สามารถละความสนใจจากเมนูนั่นได้จริงๆเพราะต้องการมองหน้าพนักงานที่พูดจากวนประสาทเขา น้ำตาลงั้นหรือ? วอนซะแล้ว

                   

                    "ล้อเล่นน่ะครับ"  ประโยคที่แสนจะขี้เล่นถูกส่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่สว่างไสวจนแสบตา ชิมชางมินเกิดมา28ปีแล้วขอสาบานเลยว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ จากที่ตั้งใจจะจัดการในความกวนโอ๊ยก็กลายเป็นว่าลืมไปหมดทุกอย่าง

                   

                    "คือ..."

                   

                    "ต้องการอะไรหวานๆหรอครับ"  พนักงานตัวเล็กเอ่ยถาม ใบหน้าขาวใสนั้นดูน่ารักน่าหยิกเหมือนกับเด็กๆเพราะแก้มยุ้ยๆที่อมชมพูระเรื่อ ริมฝีปากบางๆที่ฉีกยิ้มจนเห็นเขี้ยวเล็กๆคล้ายลูกหมา

                   

                    "น่ารัก"

                   

                    "ครับ?"

                   

                    อยากจะตบปากตัวเองแรงๆสักทีที่อาจหาญเอ่ยชมคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกไปแบบนั้น ซ้ำคนๆนั้นยังเป็นผู้ชายเสียอีก ถึงจะดูน่ารักมากๆก็ตามเถอะ

                   

                    "คือ ฉัน อยากได้อะไรหวานๆ แบบ ง่วงโคตรๆเลยตอนนี้ แต่ไม่อยากหลับน่ะ"

                   

                    "อ๋อ"  พนักงานตัวเล็กพยักหน้าเพื่อให้คุณลูกค้าท่าทางแปลกๆคนตรงหน้ารับรู้ว่าเขาเข้าใจที่เจ้าตัวพูด  "งั้นทำไมไม่สั่งเป็นกาแฟแทนล่ะครับ"

                   

                    "นั่นดิ"  ชางมินคิดว่าเพราะความง่วง ตอนนี้กระบวนการคิดวิเคราะห์แยกแยะของตนรวนไปหมด เรื่องง่ายๆก็นึกไม่ได้ แถมยังเบลอหนักขนาดไปพูดใส่คนอื่นว่าน่ารักอีก

                   

                    "เอาเป็นกาแฟอะไรดีครับ?"  เอ่ยถามอีกครั้งพร้อมช่วยเปิดเมนูไปหน้าที่มีเมนูกาแฟให้

                   

                    ชิบ... แค่กาแฟก็ยังมีหลายอย่างอีก อะไรหน้าตาแบบไหนรสชาติยังไงใครจะไปรู้ แค่จะกินกาแฟให้หายง่วงนี่ทำไมมันต้องยุ่งยากขนาดนี้ด้วย

                   

                    "เอาอะไรมาก็ได้ แต่ไม่ใส่นมนะ ไม่ชอบ เลี่ยน"

                   

                    "กาแฟดำนะครับ?"

                   

                    "อืมๆ นั่นแหละ"

                   

                    "รับเป็นแบบร้อนหรือแบบเย็นครับ?"

                   

                    "ร้อนก็ได้ เย็นก็ได้ ไปเอามาเถอะ"

                   

                    "งั้นรอสักครู่นะครับ"

                   

     

                    มองตามเด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มที่เดินหายไปหลังเคาน์เตอร์  ตัวเล็กๆแบบนั้นคงเป็นพวกเด็กมัธยมมาทำพาร์ทไทม์แน่  พอคิดแบบนี้ก้ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกว่าเด็กนั่นน่ารัก  ก็ยังเด็ก มันอยู่ในวัยกำลังน่ารักอยู่แล้ว  ไม่เห็นจะแปลกสักนิด  อีกอย่างรอยยิ้มแบบนั้นถึงไม่ใช่เขามอง เป็นใครๆก็คงเห็นว่าน่ารักเหมือนกัน  ฮึ ตั้งใจจะมาหาอะไรหวานๆกิน ดันมาเจอยิ้มหวานๆแทนซะนี่

                   

                    ไม่นานนักที่เด็กหนุ่มคนเดิมเดินกลับมาพร้อมถาดรองแก้วในมือ รอยยิ้มหวานฉ่ำถูกส่งให้กับลูกค้าทุกๆคนที่เจ้าตัวเดินผ่าน  ไม่มีใครที่จะปฏิเสธได้ว่ามันช่างน่ารักน่าเอ็นดู  ยืนยันได้จากรอยยิ้มที่ทุกคนส่งกลับไป  ยิ้มที่ทำให้ทุกคนยิ้มตาม  เด็กนี่ไม่ธรรมดาเลย

                   

                    "กาแฟได้แล้วครับ"  แก้วสีขาวปลอดที่บรรจุกาแฟหอมกรุ่นถูกวางลงบนโต๊ะ  สูดกลิ่นเข้าไปเพียงนิดก็รู้สึกได้ว่าร่างกายมีพลังขึ้นมาบ้างแล้ว  จะว่าอุปทานก็คงได้เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีใครตาสว่างได้เพราะแค่ดมกลิ่นกาแฟ เขาไม่ใช่เซียนกาแฟ  ไม่ค่อยสนใจเครื่องดื่มเหล่านี้พอๆกับที่ไม่สนใจของหวาน  เคยลิ้มรสมันเพียงสองสามครั้งเท่านั้นในชีวิตเพราะเพื่อนซื้อมาให้  ไม่คิดด้วยซ้ำว่าสักวันจะต้องมาร้องหาพึ่งพามันแบบนี้  ยกแก้วขึ้นช้าๆอย่างระมัดระวัง ส่งลมเป่าเบาๆก่อนจะจิบชิมรสชาติ

                   

                    พรวดดดดดดดดดด     

                    ทะ ทำ ทำไม มันขมแบบนี้วะ!

                   

                 "น้ำตาลมั้ยครับ?"

                   

                    ".........."  ชางมินวางแก้วกาแฟลงอย่างเดิมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพนักงานคนเดิมที่ยังยืนอยู่ข้างๆโต๊ะของเขาพร้อมกับคำถามที่เขาเคยได้ยินไปก่อนหน้านี้แล้ว

                   

                    "กาแฟมันยังไม่ได้เติมน้ำตาลน่ะครับ คุณจะใส่น้ำตาลสักหน่อยมั้ย?"

                   

                    "แล้วทำไมไม่บอกเล่า" 

                   

                    "แล้วตกลงว่า...น้ำตาล?"

                   

                    "นายใส่ให้ฉันแล้วกัน  เอาไม่หวานมากนะ"

                   

                    เด็กหนุ่มพยักหน้า  ริมฝีปากก็ยังคงส่งยิ้มไม่หุบ  สงสัยเหลือเกินว่าเจ้าเด็กคนนี้นอกจากอ้าปากถามนู้นนี่กับยิ้มหวานๆมันเคยทำอะไรอีกบ้าง  เหมือนถูกตั้งโปรแกรมมาไม่มีผิด  เป็นอาราเล่แน่ๆ  น่าสนใจดี  ควรทำความรู้จักกันเอาไว้ดีหรือเปล่า  เพราะเขาเองอาจได้มาที่นี่อีก  ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น

                   

                    "เรียบร้อยแล้วครับ  ขอตัวนะครับ" 

                   

                    คนตัวโตได้แต่มองแก้วกาแฟบนโต๊ะสลับกับคนที่กำลังจะเดินออกไป  ความคิดตีกันยุ่งไปหมด  ตั้งใจว่าอยากจะทำความรู้จัก  แต่จะเรียกก็ดันป๊อด  ให้ตายสิวะ!  เกิดมา28ปีกับแค่เด็กผู้ชายคนเดียวดันมาโลเลไม่มีเหตุผล  นิ้วยาวก็เคาะโต๊ะเป็นจังหวะกดดันตัวเอง  เรียกสิ เรียกสิ เรียก....

                   

                    "เดี๋ยว!"

                   

                    "ครับ?"  คนตัวเล็กหันกลับมาแทบจะทันทีราวกับรอให้เขารั้งเอาไว้ไม่มีผิด  แค่ยกมือขึ้นกวักเรียกเจ้าตัวก็รีบเดินดุ๊กดิ๊กเข้าหาพร้อมยิ้มหวานๆที่เป็นเครื่องหมายการค้าประดับบนหน้าตาน่ารักนั่น

                   

                    "ฉันอยากได้น้ำตาลอีก"

                   

                    "แต่คุณบอกว่าไม่ทานหวาน"

                   

                    "ก็...ใช่  แต่ว่า  อยากให้หวานกว่านี้"

     

                    "ครับ  ได้เลย"

                  

                   เขายังไม่ชิมมันเลยด้วยซ้ำหลังจากที่คนตัวเล็กเติมน้ำตาลให้รอบแรกเมื่อครู่นี้  แต่พอเรียกมาถึงโต๊ะก็ไม่รู้จะพูดอะไร  มันดูประหม่าไปหมด  อาจเพราะที่นี่ไม่ใช่ถิ่นที่คุ้นเคยแน่ๆเขาถึงไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไร  บอกแล้วว่าไม่ชอบขนมหวาน  ร้านขนมหวานก็ด้วย

                  

                   "ที่ร้านเขาบอกให้พนักงานถามแบบนั้นทุกคนหรอ"

                  

                   "ครับ?"

                  

                   "ก็  น้ำตาลมั้ยครับ  ไงล่ะ  ที่นายถามฉัน  นายถามหลายรอบน่ะ  ฉันแค่สงสัย"

                  

                   "ผมถามสองรอบครับ"  เด็กหนุ่มรีบบอก  เจ้าตัวมั่นใจเหลือเกินว่าถามไปแค่สองรอบเท่านั้น  ที่บอกว่าหลายรอบมันดูจะเกินไปหน่อย  "แล้วก็  ไม่มีใครบอกให้ถามหรอกครับ  ผมแค่อยากถามคุณเท่านั้น"

                  

                   "หืม..."  แค่อยากถามเนี่ยนะ  แล้วทำไมมันต้องเป็นเขาด้วยเล่า 

                  

                   "คุณดูเหมือนต้องการบางอย่างน่ะครับ  ผมก็เองก็ไม่รู้จะพูดอะไร  แค่อยากให้คุณดูโอเคขึ้นที่นี่"

                  

                   ฮึ  นี่สภาพเขามันดูอิดโรยจนเด็กผู้ชายตัวกระเปี๊ยกสังเกตเห็นจนต้องวิ่งมาเล่นด้วยเลยหรือไง  แต่ยอมรับว่าคำถามแปลกๆนั่นทำให่เขาสนใจได้ตั้งแต่แรกเริ่ม  แค่ถามว่าอยากได้น้ำตาลมั้ยมันน่าสนใจตรงไหนกันนะ  เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่น่าสนใจมันคือคำถามหรือว่าคนถาม

                  

                   "งั้นนายก็ทำสำเร็จ  เพราะฉันรู้สึกตาสว่างขึ้นมาแล้ว"  เขาไม่ได้โกหก  ตอนนี้รู้สึกโอเคขึ้นกว่าตอนแรกพอสมควร ทั้งได้คุย  ได้มอง  เด็กคนนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีได้ไม่น้อย  ทั้งความความรู้สึกง่วงซึมก็หายไปด้วย   "นายชื่ออะไรล่ะ?  บอกชื่อของนายมาสิ  เผื่อฉันอยากจะตอบแทนผู้มีพระคุณ"

                

                 "แบคฮยอนครับ  บยอนแบคฮยอน"   เด็กหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเดิม  ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อน่ามอง  คงทั้งดีใจและขวยเขินปะปนกัน

                

                 "อืม  ฉันชิมชางมิน  ยินดีที่ได้รู้จัก  แล้วก็ขอบคุณ สำหรับ....น้ำตาล ของนายด้วย"  มองคนตัวเล็กที่โค้งให้อีกครั้งก่อนจะรีบเดินไปโดยไม่วายหันมาสบตากันเป็นระยะ  เด็กคนนี้ดูโอเค  เขาคิดว่าจากนี้เราคงเป็นเพื่อนต่างวัยที่ดีต่อกัน  ยกแก้วกาแฟขึ้นมาชิมเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการขอบคุณจริงๆ  เพราะรู้สึกได้ว่ามันอุ่นเพียงพอแล้วจึงจัดการซดเข้าไปเต็มอึก   คือ............

                

                 เบาหวานแน่นอน!           

     

              THE END

     

                 #นจมอด

       


                
                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×