ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic EXO] RED ChanBaek KrisBaek

    ลำดับตอนที่ #5 : RED 04

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 57




    RED 04


    "โอ๊ย!"เสียงโอดครวญดังขึ้นจากริมฝีปากสีสดของร่างที่ถูกกระชากเข้าไปในมุมสงบ

    แบคฮยอนได้แต่เซถลาตามแรงฉุดไปโดยไม่ขัดขืน ทันทีที่เห็นว่าปลอดผู้คน ข้อมือสวยก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ


    "บยอนแบคฮยอน! หายไปไหนมาทั้งคืนห๊ะ"มินซอกเหวใส่เพื่อนทันที เขามาแต่เช้าเพื่อมาดักรออีกคนหน้าโรงเรียน

    เมื่อ คืนกำลังจะเข้านอนอยู่ดีๆพ่อแม่ของเพื่อนซี้ก็โทรมา ถามหาลูกหัวแก้วหัวแหวนที่หายไปแถมยังติดต่อไม่ได้ เขาที่เจอแบคฮยอนเป็นคนสุดท้ายจึงรับสมอ้างไปว่าพาแบคฮยอนมานอนด้วย ฝ่ายผู้ใหญ่ขอคุย เขาก็ได้แต่อึกอักก่อนจะอ้างไปว่าแบคฮยอนหลับสนิทไปแล้วเพราะอ่อนเพลีย


    ลองเดาดูแบบไม่แคร์ว่าเพื่อนจะเป็นคนอย่างไร คิมมินซอกมั่นใจว่าเพื่อนของเขาไปกับหนุ่มมอไซค์แน่นอน


    "คือว่า..."อยากจะอธิบาย แต่พอพูดถึงเรื่องเมื่อคืน เขาก็ดัดข้ามสิ่งสำคัญของบทสนทนา ไปนึกถึงริมฝีปากที่กดจูบลงมาแทน

    แหม...ก็ปากยังเจ่ออยู่เลยนี่นา


    "คือ ว่าอะไร อย่ามาอ้ำๆอึ้งๆนะ รู้มั้ยว่าเรานอนไม่หลับทั้งคืนเลย คุณลุงคุณป้าโทรมาหา เราต้องโกหกไปว่าแบคฮยอนอยู่กับเรา เสร็จแล้วก็ต้องมานอนกังวลว่าจริงๆแบคอยู่ที่ไหน  ถ้าพรุ่งนี้แบคยังไม่กลับเราจะทำยังไง จะบอกคุณลุงคุณป้ายังไง เราไม่น่าปล่อยแบคไปกับผู้ชายคนนั้นเลยอ่ะ เราขอโทษนะ ฮืออออออ"ประโยคที่ฟังดูเหมือนต่อว่าจบลงด้วยคำขอโทษพร้อมน้ำตาจนคนฟังปรับ อารมณ์ตามไม่ทัน


    "มินซอก เราไม่เป็นไร อย่าร้องสิ"


    "ก็เรากลัวนี่ ฮืออออ กังวลด้วย แบคฮยอนอา ทีหลังอย่าหายไปไม่บอกใครอีกนะ"


    "ไม่ทำแล้ว จริงๆนะ เลิกร้องเถอะ เราสัญญาเลย ถ้าจะไปไหนเราจะบอกมินซอกก่อนใครเลยนะ คนแรกเลย นะนะ"


    "อืม"


    แบคฮยอนกอดมินซอกเอาไว้แน่น ไม่บ่อยนักที่จะเห็นเพื่อนแก้มป่องงอแงแบบนี้ เพราะปกติมินซอกจะดูเข้มแข็งอยู่เสมอ ท่าทางที่แม้จะลูกคุณหนู แต่ก็ไม่ได้สำอางบอบบาง ถึงจะตัวเล็ก หน้าตาน่ารักบ้องแบ๊ว แต่ก็เป็นลูกผู้ชายอยู่ไม่น้อย เพราะเติบโตในครอบครัวที่แข็งแกร่ง ถูกเลี้ยงดูมากับโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ของตระกูล มินซอกถึงได้เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย ตรงไปตรงมา และเอาตัวรอดได้ดีกว่าเขามาก


    แต่ตอนนี้...คนเข้มแข็งกำลังร้องไห้ให้เขาปลอบ น่ารักจริงๆเลยน้า มินซอกอา

    .

    .

    .

    "อย่าลืมนะ เมื่อคืนตัวไปนอนบ้านเรา"มินซอกหันมากระซิบย้ำกับแบคฮยอนอีกครั้ง


    "อืม ไม่ลืมน่า"

    ทั้ง คู่เดินไปยังโต๊ะประจำ ซางดูเหมือนจะมีแขกเพิ่มมาอย่างน่าประหลาดใจ ปกติที่มีแค่จุนมยอน กลับมีใครเพิ่มมาอีกสองคน ลำพังชานยอลก็ไม่น่าแปลกใจนัก ยังไงก็เพื่อนกัน มีเวลาว่างละจากแฟนก็มาคุยกับเพื่อนได้ แต่คนที่ไม่คิดว่าจะมาด้วยอย่างคยองซู ทำเอามินซอกคิ้วกระตุก


    "สวัสดี"คยองซูส่งยิ้มมาให้พร้อมกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร


    "สวัสดีคยองซู"เป็นแบคฮยอนที่ตอบกลับไป ในขณะที่มินซอกยังมองเงียบๆไม่พูดอะไร

    เป็นคนเก็บความรู้สึกไม่เป็นจริงๆ


    "สวัสดีมินซอก"เมื่อเห็นว่าคนแก้มป่องไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ คยองซูจึงเอ่ยทักไปอีกครั้ง


    "อืม สวัสดี มาทำอะไรล่ะ"


    "มิ นซอก"แบคฮยอนหันไปตีแขนเตือนเบาๆ เรื่องไม่ชอบก็เข้าใจ แต่ช่วยแกล้งพูดดีๆบ้างไม่ได้เลยหรือ ชานยอลก็อยู่ด้วย จะพาลลำบากใจกันไปหมด


    "อะไรล่ะ ก็ถามดู เห็นปกติต้องพากันไปหมกอยู่ในห้องสมุด"

    "
    เราพาคยองซูมาเอง อยากให้มาสนิทกัน"ชานยอลเอ่ยตอบ


    "สนิท หรอ งั้นหรอ เอาสิ มาสนิทกัน"ไม่วายจะทำหน้าบูดบึ้ง แม้คำพูดจะดูคล้ายเป็นมิตรแต่คำพูดคำจา ก็แสนจะชัดเจนว่ามินซอกไม่โอเคเลยที่แฟนของเพื่อนมาร่วมโต๊ะอยู่ด้วย


    "ขอร้องล่ะ มินซอก ชานยอลเริ่มเครียดแล้วนะ"แบคฮยอนกระซิบบอกเบาๆ เมื่อหันไปเห็นชานยอลกำลังขมวดคิ้วยุ่งอยู่ใกล้ๆ


    "เราทำอะไรผิด ก็บอกให้สนิทกันแล้วจะเครียดอะไร"


    "เห้อ..." แบคฮยอนได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนจะห้ามมินซอกไม่ให้แสดงท่าทีไม่ต้อนรับคยองซูไม่ได้จริงๆ รั้นไม่มีใครเกิน นี่ล่ะน้า


    "นั่งๆ นั่งกันก่อนเถอะ เราซื้อขนมมาเผื่อเพียบเลยนะ มีซาลาเปาไส้ครีมของโปรดมินซอกด้วย"จุนมยอนที่เห็นว่าท่าไม่ดีก็รีบชวน เปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะไปกันใหญ่


    มิ นซอกนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆจุนมยอนทันที หยิบซาลาเปาไส้ครีมมากัดคำโตๆอย่างไม่ห่วงภาพลักษณ์ แก้มป่องอัดซาลาเปาไว้แน่น อารมณ์หงุดหงิดยังคั่งค้างอยู่ในใจ เขาไม่ชอบคยองซู ดูก็รู้ว่าเป็นคนมีอะไร เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าจุนมยอนกับแบคฮยอนจะอยากญาติดีกับคยองซูไปทำไม เพราะเกรงใจชานยอลอย่างนั้นหรือ? ชานยอลกับคยองซูต่างหากที่ควรเกรงใจเพื่อนตัวเล็กของเขา


    "แบคดูเหม่อๆนะ เมื่อคืนไปนอนกับมินซฮกแล้วโดนแกล้งมาหรอ"ชานยอลที่เห็นแบคฮยอนนั่งเหม่อก็เอ่ยทัก


    "เปล่า นะ เราไม่ได้เหม่อสัหน่อย อีกอย่างมินซอกก็ไม่ได้แกล้งอะไรเรานะ"มินซอกไม่ได้แกล้ง แต่คนที่แกล้งน่ะ ตอนนี้คงกำลังนั่งอยู่กับเพื่อนๆที่อีกฝั่งของถนนนู้น


    มี อย่างที่ไหน จูบเขาแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ นึกจะจูบก็จูบ นึกจะผละออกก็ไม่บอกไม่กล่าว แถมยังตีหน้านิ่งแล้วหลับนำไปก่อน ทิ้งให้เขานอนใจเต้นรัวอยู่คนเดียว


    "ใช่ เราจะไปกล้าแกล้งแบคฮยอนคนดีของชานยอลได้ไงล่ะ"มินซอกรีบเสริมทันที ก่อนจะแอบชำเลืองดูสีหน้าของคยองซูหลังจากที่เขาพูดประโยคนั้นออกไป


    คยอง ซูหันมองมินซอกที่พูดประโยคที่เขาเกลียดแสนเกลียดออกมา เขารู้ว่ามินซอกไม่ชอบเขามากแค่ไหน เขาเองก็คิดไม่ต่างกัน ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเสแสร้งต่อคนที่แสดงจุดยืนชัดเจน เมื่อคิมมินซอกอยากได้สงคราม โดคยองซูก็จะให้สงคราม


    "เป็นอะไรรึเปล่าคยองซู ทำหน้าแปลกๆ"ชานยอลที่เห็นแฟนตัวเล็กทำหน้าเหมือนครุ่นคิดบางอย่างก็เอ่ยถาม


    "เอ่...เปล่าๆ ไม่มีอะไร"คยองซุส่งยิ้มบางๆไปพร้อมคำตอบ


    "อืม นี่ก็ใกล้เข้าเรียนแล้ว เดี๋ยวเราไปส่งคยองซูก่อนแล้วกัน พวกแบคไปกันก่อนเลยนะ"ชานยอลจับมือคยองซูให้เดินมากับตัวเอง มันไม่มีอะไรดีขึ้นได้ในวันเดียว ท่าทางของมินซอกและคยองซูยังดูน่าอึดอัด แม้จะบอกว่าไม่มีอะไร แต่เขาก็รู้สึกได้


    "ห้องอยู่ ห่างกันแค่สามห้อง เดินไปพร้อมกันก็ได้มั้ง ต้องไปส่งก่อนนี่จะใช้เวลาร่ำลากันนานขนาดนั้นเลยรึไง"มินซอกเอ่ยขึ้นเมื่อ เห็นว่าชานยอลและคยองซูเดินไปแล้ว


    คยองซูอยู่ห้องA พวกเขาอยู่ห้องD ห้องเรียนก็อยู่ชั้นเดียวกัน ห่างกันไปแค่ไม่กี่ห้อง ไม่มีความจำเป็นตรงไหนที่ชานยอลจะต้องเดินไปส่งให้เสียเวลา มินซอกเริ่มรู้สึกว่าชานยอลตีตัวออกห่างเพื่อนมากเกินไปแล้ว

    .

    .

    .

    "ไอ้คริส มึงบอกกูมาดิ ว่าเมื่อคืน มึงให้กูเอาผ้าคลุมหัวทำไม"จงอินที่นั่งอยู่ด้านหน้า หมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเพื่อนตัวสูง

    เมื่อ คืนอยู่ดีๆก็บอกให้เขาเอาผ้าคลุมหัวไว้ นานสองนานจนสุดท้ายก็เป็นเขาที่หลับไปทั้งอย่างนั้น ไม่รู้เหตุผลที่อีกคนบอกให้เขาทำ ถามมาตั้งแต่เช้าก็ไม่ตอบ


    "มัน รำคาญหน้ามึงรึเปล่า"เป็นเทาที่ตอบออกมาแทน จงอินเอ่ยถามคำถามนี้กับคริสมาเป็นร้อยๆรอบ เขารำคาญแทน รู้ว่าถามแล้วไม่ได้รับคำตอบก็ยังไม่หยุดเสียที


    "ไอ้เทา มึงอย่าพูดถ้าไม่รู้อะไร ถ้ามึงรู้ว่าเมื่อคืนเชี่ยคริสมันพาใครไปนอนด้วย มึงจะไม่พูดแบบนี้"


    "ใครวะ"เทาหันไปถามคริสที่นั่งอยู่ข้างๆ


    "หมา"คำ ตอบที่ออกมาไม่ได้แสดงความใส่ใจนัก สายตายังจับจ้องไปสมุดตรงหน้า มือหนายังคงจับด้ามปากกาแล้วรีบคัดลอกการบ้านจากสมุดของจื่อเทาใส่สมุดตัว เอง


    "หอพวกมึงไม่ได้ห้ามเลี้ยงสัตว์หรอ ทำไมมึงเอาหมาเข้าไปได้"


    "โอ๊ย ไอ้เทา! มึงก็โง่ หมาที่มันเอาไปเนี่ย หมาลูกคุณหนูในปราสาทฝั่งตรงข้ามนู้น"

    หมาลูกคุณหนู จากฝั่งตรงข้าม ใช่! มันเดาไม่ยากนัก คนที่เอาแต่ตามคริสก็มีอยู่คนเดียว แต่ที่น่าตกใจคือ เจอกันกี่ครั้ง รู้จักกันดีแค่ไหน ถึงได้ไปค้างอ้างแรมด้วยกันและเพื่อนเขาเผลอไปทำอะไรคนตัวเล็กๆนั่นหรือเปล่า


    "อย่า มามองหน้ากูแปลกๆ กูไม่ได้ทำอะไรมัน" เหมือนจะอ่านสายตาออก คริสรีบออกตัวไว้ก่อนที่จะมีใครเข้าใจผิด เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรใคร นอกจาก แค่เอาปากไปชนกับปากอีกคน ซึ่งต้องยอมรับว่า มันก็....หวานดี

    .

    .

    .

    "ทำไมไม่ไปกันสองคน?"มินซอกถามอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากชานยอลมาเอ่ยชวนพวกเขาไปกินไอศครีมด้วยกันในตอนเย็น


    "ก็คยองซูบอกว่าน่าจะได้ไปด้วยกันหลายๆคน คงจะสนุกดี"


    "อ่า เอาสิ ไปกันหมดนี่เลย พวกเราจะได้สนิทกับคยองซูมากขึ้นด้วยไงล่ะ"แบคฮยอนเห็นด้วยทันที เขาเองก็ดีใจที่คยองซูเอ่ยชวนแบบนี้ บางครั้งเขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นปัญหาของทั้งชายอลและคยองซู กลัวเหลือเกินว่าจะถูกเกลียด แต่การที่คยองซูชวนไปด้วยกันแบบนี้มันน่าดีใจจริงๆ


    "จะ เย็นมากหรือเปล่า เรากลัวจะไม่มีรถน่ะ"จุนมยอนเอ่ยถึงความกังวลของตนออกมา เขาอยากไป แต่ก็กลัวจะกลับลำบาก บ้านของเขาไปคนละทางกับคนอื่นๆ ถ้าต้องกลับลำพังด้วยแล้ว ยิ่งเย็นก็ยิ่งห่วงอันตราย


    "ก็ชวนคุณเทาไปด้วยสิ จะได้กลับพร้อมตัวไง"คนแก้มป่องเสนอ


    "เราเกรงใจน่ะ อย่าเลย"


    "เกรง ใจอะไร ชวนไปกินโอติมด้วยกันนะ ไม่ได้ให้ไปนั่งรอรับกลับบ้าน ลองชวนดูก่อนสิ ชวนเพื่อนๆเขาด้วย ไปกันหลายๆคน จะได้สนุกแบบที่คยองซูบอกไงล่ะ"


    "ก็ ได้..."จุนมยอนลุกออกไปเพื่อโทรหาจื่อเทาตามคำแนะนำของมินซอก เขาได้เบอร์ของจื่อเทามาจากเจ้าตัวที่ให้เขาเอาไว้สำหรับโทรมาสั่งติ่มซำ ที่ร้าน  ตอนนี้เขาขอโทรรบกวนนอกเรื่องเสียหน่อยแล้วกัน


    "ใครคือเทา"นี่เป็นครั้งแรกที่ชานยอลได้ยินเพื่อนๆของเขาเอ่ยชื่อนี้ นี่เขาไม่ค่อยได้สุงสิงกับเพื่อนจนพลาดเรื่องอะไรไปหรือเปล่านะ

    "คุณเทาเป็นลูกเจ้าของร้านติ่มซำที่อยู่หน้าซอยบ้านของจุนมยอนน่ะ ร้านที่ซื้อมาฝากพวกเราบ่อยๆไง เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนRนี่เองนะ"แบคฮยอนเฉลย


    "อ๋อ ก็ดีเลยนะ จุนมยอนจะได้มีเพื่อนกลับบ้าน"

    ไม่นานนักจุนมยอนก็เดินกลับเข้าห้องมา  ทั้งสามคนนั่งนิ่งพร้อมรอฟังผลของคนตัวขาว


    "พี่เทาจะไปด้วย แต่คนอื่นไม่ว่างเลย พี่จงอินต้องไปทำงานพิเศษ ส่วนคุณคริสมีการบ้านค้างอยู่ต้องรีบทำให้เสร็จ"


    "อ่า งั้นตกลงตามนี้

    .

    .

    .

    "อ้าว ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนหรือครับ"จุนมยอนเอ่ยถามอย่างประหลาดใจที่เห็นจื่อเทา มารออยู่หน้าโรงเรียนของตนด้วยชุดไปรเวท ทั้งๆที่ควรจะเป็นชุดนักเรียนเพราะเพิ่งเลิกเรียนกันไปหมาดๆ


    "พี่ไม่อยากใส่เครื่องแบบRมายืนหน้าปราสาทน่ะครับ เลยไปขอยืมชุดไอ้คริสในล็อคเกอร์ชมรมบาสมาใส่"


    "อ่อ อย่างนี้นี่เอง นี่พี่เทานะ ส่วนนี่เพื่อนๆของผมเองครับ แบคฮยอนกับมินซอกพี่เคยเจอแล้ว ส่วนนี่ ชานยอล กับคยองซูครับ"


    "สวัสดีครับ"ทั้งคยองซูและชานยอลโค้งเคารพอย่างนอบน้อม เพราะดูเหมือนเทาจะแก่กว่า


    "สวัสดีครับ"จื่อเทาเองก็โค้งกลับไปอย่างสุภาพเช่นกัน

    ถึง จะมีใบหน้าเย็นชา แต่จื่อเทากลับมีบุคลิคที่สุภาพอ่อนน้อมต่อคนอื่นอยู่เสมอ แบคฮยอนรู้สึกแปลกใจจริงๆที่เคยได้ยินจงอินบอกกับคริสว่า จื่อเทามีเรื่อง คนที่ดูสุภาพแบบนี้จะไปมีเรื่องกับใครได้กันนะ


    "แบค จ้องหน้าพี่เทาทำไมน่ะ"จุนมยอนที่สังเกตุเห็นเพื่อนรักจ้องหน้าของจื่อเทาก็เอ่ยถาม


    "อ่อ เปล่าๆ เราว่าไปกันเถอะ เสียเวลามากแล้วนะ"


    "นั่นสิครับ เดี๋ยวจะเย็นมาก กลับบ้านกันลำบาก"


    "อื้ม ไปกัน"มินซอกลงความเห็นอีกคน ทั้งหมดพากันเดินออกไปยังถนนใหญ่ด้านหน้า จื่อเทาสังเกตุดูว่าเด็กๆจากโรงเรียนTดู ท่าจะตื่นเต้นกันมาก คงจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเมียงดงกันบ่อยนัก การเติบโตมาในกรงทอง ดูเหมือนจะตัดโอกาสที่จะได้มีชีวิตที่สดใสเหมือนเด็กๆวัยเดียวกันคนอื่นๆ วันนี้คงกะจะสนุกกันเต็มที่จริงๆ

    .

    .

    .

    "อร่อย มากกกกกกกกกกก ขอบคุณพี่ปาร์คที่เลี้ยงนะครับ"มินซอกหันไปขอบคุณชานยอลด้วยคำพูดกึ่งล้อ เล่น เรียกเสียงหัวเราะได้จากเพื่อนคนอื่นๆได้อย่างดี


    ชาน ยอลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มบางๆพลางส่งมือหนาไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของมินซอก เบาๆ พวกเขาไม่ได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวอย่างนี้บ่อยนัก วันนี้จึงตั้งใจที่จะสนุกกันให้เต็มที่


    "แบคฮยอนหายไปไหนน่ะ กระเป๋าก็อยู่กับเราด้วย"จุนมยอนที่อยู่ในวงสนทนาเริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไร หายไป ก่อนจะพบว่าแบคฮยอนไม่ได้อยู่ตรงนี้กับพวกเขาด้วย


    "เดินหลงไปไหนหรือเปล่าครับ ไปลองตามหาดูดีกว่า เดี๋ยวหลงไปแล้วจะแย่"จื่อเทาเสนอกันที่ทุกคนจะมองหน้ากันไปมา


    "เอา งี้นะ แยกกันไปหา แล้วให้ใครรออยู่ที่นี่ด้วย เผื่อแบคฮยอนจะเดินกลับมา"ชานยอลออกความเห็นบ้าง ใจจริงเขาอยากจะออกไปตามหาซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้เพราะตกลงกันไม่เสร็จเสียที


    "คุณหนูนั่งรออยู่ตรงนี้แล้วกันนะครับ"


    "แต่ผมไม่อยากอยู่คนเดียวนะครับพี่เทา"จุนมยอนไม่กล้าจะอยู่ตรงนี้คนเดียว


    "งั้นให้คยองซูอยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน เมื่อกี้คยองซูบ่นๆว่าปวดขานี่"


    "แต่ ชานยอล เรา....."คนตัวเล็กดึงแขนคนเป็นแฟนทันที เขาไม่อยากให้ชานยอลไป ไม่อยากห่างสักนิด ยิ่งรู้ว่าคนตัวสูงจะไปหาใครก็ยิ่งไม่อยากให้ไป


    "ไม่ดื้อนะคยองซู เดี๋ยวเราก็มา รอตรงนี้นะ"ไม่รอให้แฟนตัวเล็กได้แย้งอะไรอีก ชานยอลรีบเดินออกไปเพื่อตามหาแบคฮยอนทันที

    เมื่อ เทาและมินซอกเห็นชานยอลออกไปก็รีบแยกไปอีกทาง ทิ้งให้จุนมยอนและคยองซูยืนนั่งรออยู่ด้วยกันสองคน จุนมยอนดูมีสีหน้ากังวลเล็กน้อย ในขณะที่คยองซูทำหน้าบึ้งตึงอย่างชัดเจนเพราะไม่ชอบใจที่ชานยอลอยากไปหาแบ คฮยอนมากเสียจนไม่สนใจเขาแบบนี้


    "อยู่คนเดียวได้มั้ย"คยองซูเอ่ยถาม จุนมยอนที่ได้ยินก็หน้าตื่นทันที


    "คยองซูจะไปไหน เราต้องรอแบคฮยอนอยู่ตรงนี้ด้วยกันนะ"


    "ห้องน้ำน่ะ เราจะไปห้องน้ำ จุนมยอนรอตรงนี้แล้วกันนะ"


    "เอ่....อ้อ กะ...ก็ได้ รีบไปรีบมานะ"

    คยอง ซูแยกตัวออกมา ห้องน้ำหรือ? เขาไม่ได้จะไปห้องน้ำสักนิด แต่ที่โกหกก็เพราะไม่อยากจะต้องมามีปัญหาทีหลัง เขาอยากไปตามชาน
    ยอลต่างหาก ไม่ไว้ใจเอาเสียเลยที่จะให้ชานยอลกับแบคฮยอนได้อยู่ด้วยกัน




    ด้าน มินซอกและจื่อเทาที่มาด้วยกันก็กวาดสายตามองหาอย่างถี่ถ้วน ร้านค้ามากมาย บางทีถ้าพลาดไปสักร้านก็อาจจะคลาดกับแบคฮยอนไปด้วย ทั้งคู่เดินหาไปเรื่อยจนสุดทาง ผู้คนเริ่มบางตาลง ทำให้ยิ่งเห็นชัดเจนมาตรงนี้ไม่มีแบคฮยอนอยู่เลย


    "พี่..."มินซอกดึงเสื้อของจื่อเทาแรงๆ



    "ครับ?"


    "พี่ รู้จักพวกนั้นมั้ย"ดวงตาบ้องแบ๊วมองตรงไปยังกลุ่มเด็กนักเรียนในเครื่องแบบ ที่ไม่คุ้นตา วัยรุ่นชายที่เกาะกลุ่มกันนั้นก็จ้องกลับมาเช่นกัน


    "บ้าเอ้ย..."จื่อเทาที่เห็นว่าใครอยู่ไม่ไกลก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ไอ้ยองมินกับฝูงหมาของมัน อริของเขานั่นเอง


    "รู้จัก?"


    "มินซอกรีบวิ่งไปก่อนนะครับ"ร่างสูงบอกเมื่อเห็นว่าฝ่ายอริย่างสามขุมใกล้เข้ามาเรื่อย


    แต่ ไม่ทันที่มินซอกจะได้ตัดสินใจอะไร คนกลุ่มนั้นก็พุ่งปรี่เข้ามาทันที  จื่อเทาที่เห็นดังนั้นก็เตรียมพน้อมสู้เลยสักที่ หมัดขวากำแน่นพร้อมกับต่อยสวนออกไปมินซอกก็ใช่จะน้อยหมา ฝาเท้าเล็กประเคนไปที่กลางอกของเด็กชายในชุดนักเรียน


    เหตุการณ์ตะลุมบอนทำให้ผู้คนแตกอื่นน และร้านคาบริเวณนั้นก็เริ่มปิดลงเพื่อความปลอดภัย

    .

    .

    .

     ร่าง สูงก้าวฉับเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงร้านเครื่องเงิน เขาเห็นแบคฮยอนก็จำได้ทันทีแม้ว่าจะเป็นแค่ด้านหลังแต่เขาก็จำได้แน่นยำ ไม่ผิดตัว มือหนาวางลงบนไหล่อีกคนจนสะดุ้งเฮือก


    "ชะ..ชานยอล"แบคฮยอนได้แต่ทำหน้าโล่งใจเมื่อได้รู้ว่าเป็นใคร


    "ไงครับ หายมาทำอะไรอยู่คนเดียว เพื่อนๆแยกกันตามหาอยู่รู้มั้ย"


    "เราเดินดูของไปเรื่อยๆน่ะ เหมือนจะบอกคยองซูไปแล้วนะ คยองซูไม่ได้บอกหรอ"


    "ไม่เลย สงสัยจะลืมน่ะ"


    "อ๋อ นี่ๆ ชานยอลว่าสวยมั้ย เราอยากซื้อให้จุนมยอนกับคุณพี่เทาใส่ด้วยกัน น่ารักดีนะ"แบคฮยอนชูแหวนคู่ให้ชานยอลดู


    "ก็สวย แต่มันเรื่องอะไรถึงต้องไปซื้อให้จุมยอนใส่คู่กับคุณเทาล่ะ พวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันสักนิด"


    "ถึงไม่ได้เป็นแฟน แต่ก็ชอบกันแน่ๆ เรามั่นใจ"


    "เพ้อน่า เอางี้ เรามาใส่กันเถอะ"


    "ใส่? แหวนคู่? ใส่ทำไม"


    "ก็ถือเป็นแหวนหมั้นไง เดี๋ยวโตกว่านี้อีกนิดก็ต้องหมั้น"


    "ไม่ เอานะ ชานมีแฟนแล้ว เอาไปใส่กับคยองซูแทนเถอะ เราซื้อให้แล้วกัน เอามั้ย"แบคฮยอนเอ่ยถามอย่างจริงใจ เขาไม่ได้รังเกียจที่จะใส่แหวนคู่หรือหมั้นหมายกับชานยอล หากแต่ตอนนี้ร่างสูงมีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ซ้ำคยองซุยังเป็นคนดีมาก เขาไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ไปทำร้ายความรู้สึกของคยองซูก็เท่านั้น


    "เอางั้น? ก็ได้ แต่เราซื้อเองแล้วกัน"


    "ไม่ ไม่ เราจะซื้อให้ ขอบคุณที่พามาเลี้ยงไอติมไง"


    "โอเค ก็ตามใจแล้วกัน"

    แบ คฮยอนเอาแหวนคู่ที่เลือกได้ไปจ่ายเงินก่อนจะเดินกลับมาหาชานยอลที่ยืนดู เครื่องประดับไปเรื่อย ทั้งคู่เดินออกมาจากร้านด้วยกันโดยไม่ทันสังเกตุว่ามีใครบางคนที่ยืนมองอยู่ จากมุมหนึ่งไม่คลาดสายตา ดวงตากลมโตจ้องไปยังร่างของทั้งสองคนที่เดินเคียงคู่กัน


    "ปาร์คชานยอล คนไม่รักษาสัญญา"

    .

    .

    .

    มิ นซอกและจื่อเทาเดินกลับมายังที่เดิม แต่กลับไม่พบทั้งคยองซูและจุนมยอน ทั้งคู่ทิ้งตัวนางลงบนม้านั่งตัวยาว พร้อมกับหายใจหอบนิดๆอย่างเหนื่อยอ่อน


    "ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ พวกนั้นมันอริพี่เอง"


    "ไม่ เป็นไรหรอกพี่ ผมอ่ะ เคยเจอหนักกว่านี้อีก ตอนที่ป๊าให้ฝึกเทควันโด้อ่ะ ลูกตัวเองแท้ๆ แต่อัดมาไม่ยั้งเลย พวกนั้นอ่ะได้ไม่ถึงครึ่งของป๊าผมเลย" มินซอกบอกอย่างร่าเริง เขาเรียนศิลปะการต่อสู้มาแต่เด็ก ต้องแอบบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้จริงในสถานการณ์จริง สุดยอดไปเลยแฮะ


    "พี่เชื่อครับ มินซอกอัดพวกนั้นซะน็อคไปเลย"


    "ผม เก่งใช่มั้ยล่ะ ฮ่า ฮ่า ว่าแต่นี่จุนมยอนกับคยองซูหายไปไหนกัน แล้วชานยอลจะเจอแบคฮยอนรึยังก็ไม่รู้"คนตัวเล็กบ่นพลางหยิบโทรศัพท์ต่อ สายออกไปหาเพื่อนตัวขาวที่หายตัวไปทั้งๆที่ควรจะรออยู่ตรงนี้ จื่อเทาเองก็ค่อยตั้งใจฟังอยู่เช่นกัน คุณหนูของเขาหายไปไหนกันนะ


    "จุนมี่ อยู่ไหนน่ะ เรากับพี่เทากลับมาตรงที่นัดแล้วนะ"


    .....


    "เอ่...ตรงไหนนะ อ่อ ได้ๆ แล้วชานยอลโทรมาหรือยัง"


    .....


    "หรอ งั้นเดี๋ยวเราไปหาแล้วค่อยโทรอีกทีนะ อืมๆ"

    มินซอกวางสายก่อนจะหันมาหาจื่อเทาที่จ้องอยู่อย่างใจจดใจจ่อ


    "จุนมยอนบอกว่า ให้พี่พาไปร้านพิซซ่าที่พี่จงอินทำงานอยู่ครับ"


    "คุณหนูไปอยู่ที่ร้านพิซซ่าหรอครับ"


    "ครับ เห็นบอกว่าอยู่ดีๆคยองซูก็หายไป เขาออกไปตามหาแต่หลง แล้วไปเจอพี่จงอินพอดี ก็เลยพาไปรอที่ร้านพิซซ่าที่พี่จงอินทำงานอยู่"


    "อ่อ งั้นไปกันเถอะครับ แล้วคุณชานยอลเจอคุณแบคฮยอนรึยัง"จื่อเทาถามระหว่างทางที่เดินนำมินซอกมาเรื่อยๆ


    "ไม่รู้เหมือนกันครับ ยังไม่โทรมาเลย จุนมยอนบอกว่าลองโทรไปก็ไม่รับสาย"


    "คงยังไม่เจอมั้งครับ"


    "อ่า นั่นสิ คยองซูก็ไม่รู้หายไปไหนซะอีกคน"

    .

    .

    .

    ชานยอลเดินตามแบคฮยอนไปเรื่อยๆ เขากำลังมองคนตัวเล็กทำท่าทางตื่นตาตื่นใจกับข้าวของมากมายที่เรียงรายวางให้เลือกซื้ออยู่


    แบคฮยอนสดใสเสมอ ท่าทางที่ดูบริสุทธิ์อย่างเป็นธรรมชาตินั้นน่ามองยิ่งกว่าสิ่งไหน เขาไม่เคยบอกตัวเองได้ว่ารู้สึกกับคนตรงหน้านี้อย่างไร เคยคิดว่าเป็นความผูกพันธ์กันในวัยเด็กเท่านั้น แต่ดูเหมือนมันจะหยั่งรากลึกเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น เขาไม่เคยแม้แต่จะนึกไปถึงบั้นปลายชีวิตที่ไม่มีแบคฮยอน เพราะพวกเขาอยู่เคียงข้างกันมาแต่เด็ก เขาจึงอยากให้เคียงข้างกันตลอดไป


    อยากอยู่ด้วยกันสองคนให้นานอีกนิด ถึงเลือกที่จะไม่รับโทรศัพท์ของใคร ปล่อยให้เครื่องมือสื่อสารนี่สั่นอยู่ในกระเป๋าไปเรื่อยๆ อยากมองแบคฮยอนที่แสนงดงามอย่างนี้ให้นานๆ


    "ชานยอล!"เสียงเรียกที่คุ้นหูดังขึ้น ฉุดให้ทั้งชานยอลและแบคฮยอนหันไปยังต้นเสียงพร้อมๆกัน


    "อ้าว คยองซู ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ พวกจุนมยอนไปไหนกัน"ชานยอลเอ่ยถาม


    "ไม่รู้เหมือนกัน เราไปเข้าห้องน้ำน่ะ พอกลับไปที่เดิมก็ไม่เจอจุนมยอนแล้ว เบอร์ติดต่อก็ไม่มีเลย โทรหาชานยอล ชานยอลก็ไม่รับ"


    "จริงหรอ ทำไมชานไม่รับโทรศัพท์คยองซูห๊ะ นี่ถ้าหลงไปไหนจะทำนังไง"เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยตำหนิแทน

    โชคดีแค่ไหนที่คยองซูเดินมาเจอพวกเขา นี่ถ้าหลงหายไปล่ะกฌแย่ๆแน่ๆ ชานยอลใช้ไม่ได้จริงๆที่ไม่รับโทรศัพท์แบบนี้


    "อ่อ เราปิดเสียงไว้น่ะ เลยไม่ได้ยิน ขอโทษทีนะ แต่ว่าเดินมาเจอกันก็ดีแล้ว ไปหาพวกจุนมยอนกันเถอะ"ร่างสูงรีบเบี่ยงประเด็นทันที


    "ลองโทรหาดูสิ ตอนเราไป จุนมยอนไม่อยู่ที่เดิมแล้ว"


    "อื้อ"ร่างสูงรับคำก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องสวยในกระเป๋าออกมา

    12สายไม่ได้รับ ของจุนมยอน2 และคยองซูอีก10



    ปึก!

    ไม่ ทันจะได้โทรออกไปไหน โทรศพท์ในมือก็ร่วงลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนอื่น ชานยอลเซเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกจากใครคนหนึ่งที่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทั้งคยองซูและแบคฮยอนรีบปรี่เข้ามาพยุงทันที ร่างสูงก้มลงไปหยิบโทรศัพท์กันจะสะดุดตากับห่อกระดาษที่ร่วงอยู่ใกล้ๆกัน


    "อะไรน่ะ คนเมื้อกี้ทำตกไว้หรือเปล่า"


    "ไหน"คยองซูหยิบห่อกระดาษนั้นขึ้นมาก่อนจะแกะดูอย่างถือวิสาสะ


    "เฮ้ย! นั่นของกู"คนที่น่าจะเป็นคนชนชานยอลเมื่อครู่วิ่งกลับมาพร้อมกับตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดที่เห็นคยองซูเปิดถุงออกมา


    "ยาไอซ์!" ร่างเล็กอุทานอย่างตกใจเมื่อเปิดเจอเกล็ดสีขาวเหมือนน้ำแข็งตกผลึกเต็มถุง ถึงไม่เคยได้มีโอกาสสัผัสใกล้ชิด แต่จากบทเรียนในตำรา เขามั่นใจมากกว่าสิ่งนี้คือยาเสพติดแน่นอน


    "ห่าเอ้ย!!!"คน แปลกหน้าสบถออกมาเมื่อเห็นว่ามีตำรวจกำลังตามมาใกล้จวนตัว ชายหนุ่มจึงคว้าตัวคยองซูให้วิ่งตามมาแทนที่จะเอากลับไปแต่ถุงกระดาษบรรจุยา ไอซ์


    "คยองซู!!!"ชาน ยอลและแบคฮยอนรีบวิ่งตามไปทันที แต่สถามที่และผู้คนช่างไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย อีกทั้งตำรวจที่วิ่งตามา ทำเอาผู้คนแตกตื่นกันจนยิ่งวุนวาย


    ชานยอลถูกดันไปจนคลาดกับคนตัวเล็กที่จับมือวิ่งมาด้วยกั ในขณะที่แบคฮยอนอาศัยความตัวเล็ก แทรกกลุ่มคนออกมา เขากลับไปหาหรือรอชานยอลไม่ได้ ตอนนี้จำเป็นต้องตามตยองซูไปก่อน

    ยิ่งวิ่งออกมายิ่งไม่คุ้นทาง แม้จะไม่ใช่ทางเปลี่ยวแต่เมื่ออยู่ในที่ๆไม่รู้จัก เขาก็ยิ่งมืดแปดด้าน คยองซูและชายคนนั้นก็หายไปด้วย ตอนนี้แบคฮยอนไม่รู้จะทำอย่างไร ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าพร้อมเสียงโหวกเหวกที่จำใจความได้ว่าให้ตามหาใครสักคน คงเปฌนตำรวจแน่ เขาควรจะขอความช่วยเหลือดีมั้ยนะ อย่างน้อยน่าจะให้ช่วยตามคยองซูด้วย


    "อ๊ะ!"ความคิดที่จะขอความช่วยเหลือจบลงเมื่อถูกดึงขึ้นไปบนรถตู้ที่จอดเรียงอยู่กับรถอีกหลายคัน


    "แบคฮยอน!"


    "เฮ้ยเงียบ"ชายคนนึงยกมือขึ้นมาปิดปากคยองซูไว้ ทั้งสองคนจึงได้แต่มองหน้ากันด้วยแววตาหวาดกลัว

    บนรถนี่มีชายที่พาคยองซูมาและคนอื่นอีกสามคน ทั้งคันรถเงียบสนิทเมื่อเห็นว่าตำรวจกำลังวิ่งผ่านไปแบ คฮยอนมองออกไปอย่างหมดหวัง เขาจะทำอย่างไรดี ใครจะคิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ในสถานที่ที่ผู้คนมากมาย ทำไมถึงเป็นพวกเขาที่ต้องโชคร้ายแบบนี้


    "เฮ้ย... กูว่า กูคุ้นหน้ามันนะ"ชายคนที่นั่งอยู่ด้านในสุดเอ่ยพลางมองหน้าแบคฮยอน

    ร่างเล็กที่ได้ยินก็มองกลับไป ไม่ใช่แค่ฝ่ายนั้นคุ้นหน้าเขาเขาเองก็คุ้นหน้าอีกฝ่ายเช่นกัน


    "ใครวะพี่ พี่เคยเจอเด็กพวกนี้ที่ไหน"


    "ไอ้เด็กนั่น...อ่า ใช่แล้ว เด็กไอ้คริสมันนี่เอง"

    ทันทีที่ชายคนดังกล่าวนึกออก แบคฮยอนก็นึกออกเช่นกัน เขาเคนเจอชายคนนี้ที่คอนโดเมื่อวาน คนที่คริสไปเอาบุหรี่นั่นเอง


    "ไอ้คริสไหนวะพี่"


    "เออน่ะ มึงไม่ต้องเสือก ปล่อยพวกมัน กูรู้จัก กูคุยเอง"

    ทั้ง แบคฮยอนและคยองซูถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก้ไม่ทำให้แบคฮยอนใจชื้นขึ้น เขาไม่ได้รู้จักมักจี่คนพวกนี้จนจะได้รับความปราณี


    "เด็ก กูแมร่งงี่เง่าเองที่ไปลากเพื่อนมึงมา ถือเป็นคราวซวยของพวกมึงแล้วกัน กูไม่อยากจะทำอะไรรุนแรงหรอก จะปล่อยพวกมึงกลับไปก็ได้ ถ้ามึงจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"


    "ครับ? เรื่องไหน"


    "เรื่อง ที่พวกกูส่งยาไอซ์ เด็กกูบอกว่าไอ้ตาโตเพื่อนมึงเปิดดูแล้ว ไม่ต้องแกล้งโง่ กูจะปล่อยพวกมึงไป แต่มึงต้องไม่ไปแจ้งตำรวจ เข้าใจมั้ยวะ"


    "ครับ ผมจะไม่แจ้งตำรวจ"


    "เชื่อพวกมันได้หรอพี่ เดี๋ยวแม่งออกไป ก็ไปบอกตำรวจ ทีนี้จะไปตามตัวพวกมันจากไหน ดูชุดโรงเรียนไฮโซซะด้วย ตามตัวยากนะพี่"


    "ผม ไม่แจ้งจริงๆนะครับ จะไม่บอกใครด้วย เชื่อผมเถอะครับ"แบคฮยอนรีบยืนยันทันที จะอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็ต้องรอดไปให้ได้ก่อน คยองซูรีบขยับตัวมาใกล้ๆเขาทันที


    "ไม่ต้องห่วง กูตาตัวมันไม่ได้ แต่กูตามตัวผัวมันได้แน่"


    "เอ๊ะ?"ผะ...ผัว งั้นหรอ


    "จำไว้ ถ้ามึงปากโป้งเมื่อไร กุจะไปลากไอ้คริสมากระทืบให้มันตายคาตีนกูเลย เข้าใจมั้ย"

    คุณคริส!


    "ครับ...ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด"รับคำหนักแน่น

    เขาจะให้คุณคริสมาเดือดร้อนด้วยไม่ได้


    "แล้วเพื่อนมึงล่ะ อย่าให้มันปากโป้งด้วย"


    "ครับ พวกเราทั้งคู่จะไม่บอกใคร ใช่มั้ยคยองซู"


    "ห๊ะ...อ่อ ใช่ ผมจะไม่บอกใครครับ"


    "ดี ลงไปได้ล่ะ พวกหัวขวดมันไปกันหมดล่ะ"สิ้นคำประตูรถก็เปิดออกพร้อมกับร่างของแบคฮยอนและ คยองซูที่ถูกโยนลงมาก่อนรถตู้คันสีดำจะเคลื่อนตัวออกไป

    ดวงตากลมมองตามรถตู้คันนั้นไปจนสุดสายตา ไม่ สายตาของเขาไม่ได้มองที่รถ แต่เป็นป้ายทะเบียนรถนั้นต่างหาก

    ไม่บอกใครงั้นหรือ

    เรื่องแบบนี้ จะปล่อยไปได้หรือ

    เรื่องใหญ่โตร้ายแรง จะไม่ให้ไปแจ้งตำรวจไม่ได้หรอก

    ขอโทษด้วยนะ แบคฮยอน


    TBC.

    #ฟิคสีแดง

    ปล.เจอคำผิดบอกด้วยนะคะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×