ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic EXO] RED ChanBaek KrisBaek

    ลำดับตอนที่ #15 : RED 14

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 57





    RED 14

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    แบคฮยอน  แม่ ขอเข้าไปนะลูกเสียงเรียกจากหน้าห้องดังขึ้นในขณะที่เจ้าของห้องกำลังนอนแผ่ หลาอยู่บนเตียงนุ่ม แบคฮยอนผุดลุกขึ้นนั่งก่นจะขานรับออกไป

     

    ครับ

     

    หญิงสาวส่งยิ้มอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง  เธอเดินมานั่งลงข้างๆกับลูกชายผู้เป็นที่รัก  มือสวยที่เริ่มมีร่องรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อยเอื้อมไปกุมมืออีกคนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

     

    ชานยอลบอกว่าคุยกับลูกแล้ว  ตกลงกันว่าจะจัดพิธีหมั้นสักสัปดาห์หน้า  ลูกพร้อมแล้วหรือจ๊ะ

     

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมากับคำบอกเล่าของผู้เป็นมารดา เขาเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องคอยร้องขอโอกาสของตัวเองจากการมัดมือชกของชานยอล 

     

    ผมไม่คิดว่าตัวเองมีทางเลือกอื่น  เพราะต่อให้เลื่อนออกไป  ช้าเร็วก็ต้องหมั้นกันอยู่ดี

     

    ยกเลิกมันได้นะลูก  ตลอดไปเลยก็ได้

     

    อย่าห่วงเลยครับแม่  ผมโอเคใช่ว่าใจไม่อยากยกเลิก  แต่เขาไม่ได้เห็นแก่ตัวถึงเพียงนั้น  มากกว่าความบาดหมางระหว่งเขากับชานยอล  อีกเรื่องที่จะเป็นปัญหาตามมาคือความสัมพันธ์อันดีของสองครอบครัวอาจต้องพังลงเพียงเพราะเขาไม่คิดอบยากจะยืนข้างปาร์คชานยอลอีกแล้ว  ถึงแม่คนเป็นแม่จะเอ่ยปากตามใจนเป็นลูกอย่างไร เขาก็จับน้ำเสียงแห่งความกังวลได้ชัดเจน  คงลำบากใจอยู่ไม่น้อย

     

    แบค

     

    มันจะราบรื่นครับหวังว่าแบคฮยอนเอนตัวลงกอดเอวคนเป็นแม่เอาไว้ก่อนจะซุกศีรษะลงกับตักอุ่นนั่น

     

    แม่รักลูกนะครับคนดี  ไม่ว่าอะไรที่ลูกคิด  ลูกทำ  แม่จะเคารพมัน  ตราบใดที่ลูกแม่มีความสุข

     

     

    ร่าง สูงพ่นควันสีขาวคละคลุ้งออกจากริมฝีปากที่ก่อนหน้านั้นสูดเอาความหวานลิ้น จากมวนบุหรี่ที่คีบอยู่ตรงระหว่างนิ้ว แผ่นหลังกว้างพิงทับกระจกที่ถูกปิดสนิทด้วยผ้าม่านจากด้านใน  ชานยอลนั่งอยู่ที่ระเบียงห้องของแบคฮยอนมาสักพักใหญ่แล้ว เขาปีนมานั่งตรงนี้ราวกับหมาที่เฝ้าเจ้าของ  ราวกับกลัวว่าถ้าไม่เฝ้าเอาไว้จะมีใครปีนขึ้นมาและพาแบคฮยอนหนีไป

     

    เขามันเห็นแก่ตัว เขาก่อปัญหาทุกอย่างขึ้นมา เขาทำทุกอย่างพังพินาศ  ทำให้ใครต่อใครเสียใจ  และเขาเองก็เสียใจเช่นกัน  เคยคิดว่าตัวเองควบคุมทุกอย่างได้  เคยคิดว่าปัญหามันจะจบลงในแบบที่ควรจะเป็น  แต่สิ่งที่เขาหลงลืมไปคือแบคฮยอนมีหัวใจ  มีความรู้สึก และมีขีดจำกัดของความอดทน  เมื่อเขาพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมถึงได้รู้ว่ามันสายไปเสียแล้ว  แบคฮยอนไม่อยู่รอเขาอีกแล้ว  จิตใจที่บริสุทธิ์นั้นโบยบินออกไปหานอื่นแล้ว  การกลับมาที่พบแต่ความว่างเปล่า เขามาช้าไป

     

    ม่านถูกเปิดออกพร้อมกับแสงไฟจากในห้องที่ลอดผ่านออกมา  ชานยอลเอี้ยวตัวไปก็พบว่าแบคฮยอนกำลังยืนมองอยู่จากด้านใน  คนตัวเล็กทำท่าจะเปิดประตูออกแต่มือหนาของชานยอลกลับดันเอาไว้  มืออีกข้างที่คีบบุหรี่ยกขึ้นสูงเพื่อบอกให้คนด้านในรู้ว่าไม่ควรออกมาสูดดมกลิ่นควันพิษเหล่านี้  แบคฮยอนเห็นดังนั้นจึงล้มเลิกการแสดงน้ำใจต่ออีกฝ่ายแล้วเลือกที่จะนั่งหันหลังพิงกระจกอีกด้านแทน

     

    ทำไมมานั่งตากยุงตรงนี้ล่ะเสียงหวานเอ่ยถามออกไปผ่านกระจกที่กั้นอยู่

     

    แล้วนั่งไม่ได้หรอ ก็แค่นั่งเฉยๆ  เกลียดเรามากขนาดที่ไม่อยากให้เรามาเหยียบระเบียงห้องเลยหรือไง

     

    เปล่า  ไม่ได้เกลียด

     

    หรอ

     

    แต่ไม่รัก

     

    คำตอบของแบคฮยอนทำเอาชานยอลแทบจะหัวเราออกมาดังๆด้วยความสมเพชตัวเอง  จะบอกว่าตัวเองโชคดีที่อีกฝ่ายได้ได้เกลียดชังอะไร  แต่ที่บอกว่าไม่ได้รักนั้นมันโหดร้ายยิ่งกว่าสิ่งใดที่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนตัวเล็ก

     

    รู้มั้ย  ต่อให้หมั้นกันไป  หรือต่อให้แต่งงาน  ถึงจะต้องอยู่ในโลกที่เหลือแค่เราของคน  ชานจะได้ทุกอย่างของเราไป  ยกเว้นหัวใจ

     

    เดี๋ยวนี้หัดพูดตรงขึ้นนะ  แต่ได้ยินแบบนี้ก็ดี  เราจะได้ไม่ต้องเสียใจที่ตัวเองจะเลวไปมากกว่านี้

     

    เราไม่เคยคิดว่าชานเลว  ต่อให้ทำเรื่องแย่ๆแค่ไหน สำหรับเรา ชานก็ไม่ใช่คนเลว

     

    ฮ่า ฮ่า  งั้นโลกสวยๆแบบแบคคิดว่าเราไม่ได้เป็นคนเลวแต่เป็นคนแบบไหนล่ะ  คนเห็นแก่ตัว คนใจร้าย คนนิสัยไม่ดี?”

     

    แบคฮยอนถอนใจออกมาเบาๆ  ก่อนจะหันหลังกลับไปหาอีกคนที่อยู่ด้านนอก จ้องมองอย่างแน่วแน่ผ่านสายตาที่แสดงออกว่ากำลังจริงจังกับสิ่งที่กำลังจะพูดเพียงใด

     

    เป็นคนที่เราไม่รักไง

    ว่าจบคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนแล้วรูดม่านปิดเอาไว้ให้มิดชิดอย่างเดิม  ทิ้งให้ชานยอลนั่งอยู่ลำพังที่เดิมพร้อมกันก้นบุหรี่ที่ดับคามือไปแล้ว


    เป็นคำตอบที่ดีจริงๆแบคฮยอนเสียงทุ้มเอ่ยเบาๆคนเดียวในความมืดมิด


     

    ถาม จริง?”มินซอกเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆหลังจากได้ยินชานยอลที่ อยู่ข้างหลังบอกจุนมยอนว่าจะจัดงานหมั้นกับแบคฮยอนในสัปดาห์หน้านี้

     

    อืมแบคฮยอนทำแค่เพียงเอ่ยตอบไปอย่างไร้อารมณ์ ก่อนจะสนใจกับอาจารย์ผู้สอนที่อยู่หน้าห้องเช่นเดิม
     

    มินซอกได้แต่ครุ่นคิดอยู่คนเดียวอย่างไม่เข้าใจ  ทำไมทั้งสองคนถึงรีบจัดงานหมั้นกันนัก  อีกอย่างที่น่าแปลกใจกว่าคือคยองซูนั้นยอมหรือ  แล้วคุณคริสสิงมอเตอร์ไซค์เล่า  ท่าทางว่าจะไปกันได้ดีกับเพื่อนเขาแท้ๆแล้วไหงแบคฮยอนมาหมั้นกับชานยอลเสียได้

     

    คยองซูล่ะ?”อดไม่ได้ที่จะต้องหันไปถามเพื่อคลายข้อสงสัยในทันที

     

    ก็อยู่ที่ห้องAไง

     

    คุณชายปาร์ค

     

    ถ้าปาร์คชานยอลมีเจตนากวนประสาทคิมมินซอก  ก็ขอบอกเลยว่าทำได้ดีมาก  เพราะตอนนี้คนแก้มป่องนั้นอยากจะกระโจนข้ามโต๊ะไปบีบคออีกคนให้หายหมั่นไส้สักที 

     

    เมื่อเห็นสายตาอาฆาตที่ดูอย่างไรก้ไม่น่ากลัวสักนิดของมินซอก  ชานยอลก็หัวเราเบาๆในลำคออย่างนึกสนุกที่ได้แกล้งให้เพื่อนตัวเล็กนี้หงุดหงิดเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะตอบข้อข้องใจให้อีกคนรับรู้

     

    เลิกแล้ว

     

    คำตอบของชานยอลทำให้มินซอกแทบจะโห่ร้องออกมาด้วยความสะใจ  ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง  ฮึ! โดคยองซู  ชอบทำหน้าซื่อตาใสดีนัก  คราวนี้ล่ะ เขาจะซ้ำให้จมดินไปเลย


     

     

    มิ นซอกและแบคฮยอนเปิดประตูห้องน้ำเข้ามาอย่างรีบร้อน เพราะบยอนแบคฮยอนนั้นโหยหาห้องน้ำอยู่นานเป็นชั่วโมงหากแต่อาจารย์ที่แสนจะ ใจร้ายกลับไม่ยอมสั่งเลิกคลาสง่ายๆ ขออนุญาตและแต่ก็ถูกปฏิเสธ  สุดท้ายก็ต้องทนจนหมดคาบเรียนไปอย่างกระสับกระส่าย

     

    แบคฮยอนพุ่งเข้าไปขางในอย่างรวดเร็วในขณะที่มินซอกยืนรออยู่ตรงหน้ากระจก  สายตาสำรวจดูตนเองอย่างเรียบร้อยก่อนจะชงักเพราะคนที่เปิดประตูเข้ามาใหม่   สายตาจ้องมองใบหน้าที่ไม่ถูกชะตาอยู่สักพักก่อนจะหลีกทางให้เล็กน้อยเมื่อคยองซูหอบเอาจานสีและพู่กันนั้นมาเทล้างที่อ่างข้างๆกัน

     

    ทำไมมาล้างคนเดียวล่ะ?  อ่อ ลืมไปว่าไม่มีเพื่อน

     

    คยองซูชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคเยาะเย้ยจากมินซอก  แต่ก็ไม่ใส่นักยังคงก้มหน้าก้มตาล้างอุปกรณ์ที่ใช้เรียนศิลปะต่อไปเงียบๆ

     

    น่าจะหาเพื่อนไว้บ้างนะ  ตอนนี้ไม่มีชานยอลให้เกาะแล้ว  ตัวคนเดียวเหงาแย่

     

    เมื่อเห็นคยองซูยังนิ่งมินซอกจึงเอ่ยปากพูดจาเหน็บแนมให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นอย่างมีความสุข  พูดไปแล้วก๋เฝ้ามองปฏิกิริยาของอีกคน  อยากเห็นว่าแอ๊บซื่อแบบนี้ถ้าวีนแตกจะเป็นอย่างไร  แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผิดคาดไปมากทีเดียว  เมื่อคยองซูนั้นไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองอะไร  หากแต่เงยหน้าขึ้นมองมินซอกนิ่งๆและยกมือขึ้นมาวางทาบลงบนอกของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น 


     

    คยองซูกระตุกยิ้มเบาๆก่อนจะผละออกไปจากคนที่กำลังขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ  ขาเรียวก้าวฉับออกไปจากบริเวณห้องน้ำในทันทีทิ้งให้มินซอกยืนงงอยู่เพียงลำพัง

     

    มินซอก  เมื่อกี้คุยกับใครหรอแบคฮยอนที่เสร็จธุระแล้วเดินออกมาทันเพื่อนที่ยืนนิ่งเหมือนกำลังครุ่นคิดสิ่งใดอยู่

     

    เปล่า  ไม่มีไร

     

    เอ๊ะ! เสื้อไปโดนอะไรมา

     

    แบคฮยอนไปชี้ที่เสื้อนักเรียนสีขาวของเพื่อนซี้ที่บัดนี้เปรอะเปื้อนด้วยรอยสีน้ำเงินเป็นวงกว้างตรงช่วงอก  มินซอกมองตามนิ้วเรียวไปยังจุดเกิดเหตุ  เมื่อพบว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นจากการกระทำของคยองซูนั้นก็แทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความโมโห

     

    ร้ายกาจนักนะโดคยองซู!

     

     

    บยอนแบคฮยอนกำลังภาวนาไม่ให้ตัวเองตกลงไปขาแข้งหัก เขามักจะพึมพำราวกับสวดมนต์แบบนี้ทุกครั้งเวลที่จะกระโดดลงจากกำแพงสูงไปอีกฝั่งของโรงเรียน  สวนสาธารณะเก่าที่ร้างผู้คน  ก่อนหน้านี้มีนเคยมีเสียงเห่าเล็กๆดังอยู่เป็นระยะ  หากแต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว 

     

    แบคฮยอนนั่งลงบนพื้นหญ้าที่ทิ่มขึ้นสูงเพราะขาดการตัดแต่งดูแล  เอนตัวพิงกับต้นไม้สูงใหญ่แล้วหลับตาลงช้าๆ ความเย็นรื่นพัดพาให้รู้สึกผ่อนคลาย  ลมอ่อนๆที่ปะทะกับใบหน้านั้นทำเอาง่วงเหงาหาวนอนไม่น้อย  ก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสจากการจุมพิศที่เปลือกตาจนต้องลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้า 

     

    คริสมองแบคฮยอนที่บัดนี้ลืมตาขึ้นจ้องหน้าตนเองนิ่ง  ไม่นานเด็กตรงหน้าก็ส่งยิ้มละมุนมาให้  ไม่รู้ว่าเพราะอะไร  แต่เขามีความรู้สึกว่าอยากจะเข้ามาที่นี่ทั้งๆที่ไม่มีพวกลูกสุนัขให้เขาคอยเข้ามาเฝ้าดูแลอีกแล้ว  เมื่อเข้ามาพบแบคฮยอนนั่งหลับอยู่ก็นึกขำอยู่ไม่น้อยว่าตัวเองก็เจอสุนัขหลงตัวหนึ่ง

     

    ดีใจจังที่เจอพี่

     

    คริสไม่ได้ตอบรับอะไร  ร่างสูงนั่นลงข้างๆกันก่อนจะจับหัวเล็กให้เอนลงมาหนุนบนตักแกร่งอย่างนุ่มนวล  แบคฮยอนลอบยิ้มกับการกระทำของคริสแต่ก็ยอมนอนลงอย่างไม่ขัดขืน

     

    ง่วงก็หลับดิ

     

    ถ้าผมหลับไปแล้วตื่นขึ้นมา  พี่ก็ยังจะอยู่ตรงนี้ใช่รึเปล่า

     

    ฮึ  เรื่องเยอะไม่ว่าเปล่าคริสลงมือดีดหน้าผากจนแบคฮยอนนิ่วหน้าเพราะความเจ็บเล็กๆ  ก่อนที่มือจะเอื้อมไปจับมือเรียวสวยของแบคฮยอนเอาไว้และสอดนิ้วเข้าประสานแนบแน่นไร้ช่องว่าง

     

    แบบนี้ต่อให้หลับทั้งคู่ก็ตื่นมาเจอกันแน่นอน

     

    ครับแบคฮยอนกระชับมือใหญ่ของคริสแน่น 
     

    คนตัวเล็กนอนนิ่งอยู่สักพักแต่ไม่ได้หลับใหลไปอย่างที่ตั้งใจ  เงยหน้ามองดูคริสที่กำลังแกะเปลือกห่อลูกอมสีหวานและหย่อนมันเข้าปากไปอย่างแปลกใจ  ท่าทางไม่น่าจะชอบอะไรแบบนี้แท้ๆ  คนถูกจ้องเริ่มรู้ตัวจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าแบคฮยอนนั้นมีปัญหาอะไร  นิ้วเรียวสวยจึงยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากเป็นคำตอบ

     

    อ่อ  กำลังเลิกบุหรี่อยู่

     

    ครับ?”

     

    เลิกบุหรี่  ให้มึงแหละ

     

    เอ๋  ผมไม่ได้บอกให้เลิกเลยนะแบคฮยอนผุดตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเหตุผลของคริส

     

    รู้  แต่อยากเลิก  อยากเป็นคนที่ดีพอสำหรับคุณหนูบยอนก็แค่นั้นคริสเสหน้าหนีไปทางอ่นราวกับไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ตนเองตอบออกมา  แต่คนฟังอย่างแบคฮยอนที่มองอยู่กลับรู้สึกว่าร่างสูงคงกำลังขวยเขินเสียมากกว่า

     

    งั้นช่วยพูดเพราะๆด้วยสิครับ  ถ้าพี่ต้องคุยกับผมต่อหน้าผู้ใหญ่พี่จะกูมึงไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ  งั้นมาซ้อมเรียกกันเพราะๆนะครับ

     

    เฮ้อออ  ได้คืบจะเอาศอก  ได้ ศอกจะเอาส้นตีนนะคนเราเนี่ยร่างสูงขมวดคิ้วดุใส่แบคฮยอนที่กำลังพยายามต้อน เขาให้จนมุมด้วยการเอาผู้ใหญ่มาอ้างให้เราเปลี่ยนสรรพนามเรียก

     

    งื้ออออ  ก็แค่ซ้อมไว้  เผื่อถึงเวลาจะได้ชินไงครับ

     

    เออ  ก็ได้แม้จะรับคำไปแล้วแต่คริสก็ยังนิ่งไม่เอ่ยอะไรอีก

     

    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองคน  แบคฮยอนนั่งเท้าคางจ้องคริสเงียบๆในขณะที่คนถูกกจดจ้องก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อสายตาที่กำลังกดดัน  คริสอยากจะหัวเราะออกมาเพราะสายตาและท่าทางของแบคฮยอนตอนนี้เหมือนลูกสุนัขกำลังกดดันเจ้าของให้เล่นด้วยไม่มีผิด

     

    ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    เสียงออดลากยาวดังมาจากกำแพงสูง  บอกเวลาที่คนตัวเล็กจะต้องกลับไปเข้าเรียนเสียที  แบคฮยอนมีท่าทีเสียดายเล็กน้อยแต่ก็ต้องยาวลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวที่เต็มไปด้วยเศษดินและหญ้า

     

    ผมไปเรียนแล้วนะครับ

     

    อืม

     

    เมื่อเห็นว่าคริสยังคงไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเหมือนเดิมจึงตัดใจและเดินกลับไปทางกำแพงสูงของโรงเรียน  แต่ก็ต้องหยุดเพื่อหันมาดูเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเดินตามมา  แบคฮยอนเลิกคิ้วสงสัยไปให้คริส

     

    พี่เดินมาส่งคุณ
     

    !!!

     

    อะไรนะครับบอกทีว่าเมื่อครู่นี้บยอนแบคฮยอนได้ยินผิดไป  อะไรพี่?น แล้วอะไรคุณ?

     

    พี่บอกว่าพี่เดินมาส่งคุณ  โถ่เว้ย  อย่าให้พูดซ้ำได้มั้ยวะใบหน้าหล่อเหล่าขึ้นสีจนเห็นได้ชัดเจน

     

    ฮึ ฮึ ฮึ  ขอบคุณครับแบคฮยอนส่งยิ้มกว้างไปให้คนที่ดูอย่างไรก็รู้ว่ากำลังเขินอายอย่างน่ารักขัดกับใบหน้าและบุคลิคที่มักจะห้าวเป้งอยู่เสมอ

     

    มือเรียวยกขึ้นโบกมือลาคนตัวสูงก่อนจะรีบปีนกลับเข้าไปในโรงเรียนดังเช่นที่เคยทำอยู่ประจำ  ไม่อาจจะปิดบังรอยยิ้มของตนเองได้ เพราะประโยคที่คริสพูดนั้นยังคงดังซ้ำๆในหัวชวนให้รู้สึกมีความสุขอยู่เรื่อย

     

    พี่กับคุณงั้นหรอ.....  ก็เข้าท่าดีนะ

     

     

    เพราะคาบนี้อาจารย์ประจำวิชาเกิดติดประชุมขึ้นมากะทันหัน  บรรดานักเรียนทั้งหลายจึงพากันตัวใครตัวมันอย่างที่เห๋น  บ้างก็อ่านหนังสือ  บ้างก็ล้อมวงคุยกัน  บ้างก็เอาแต่กดโทรศัพท์แล้วยิ้มกับมันราวกับคนบ้า  ถ้าหากจะยกตัวอย่างให้เห็น คิมมินซอกจะเสนอแบคฮยอนเป็นคนแรก  ตอนแรกก็สงสัยว่าเพื่อนรักนั้นเอาแต่ยิ้มกับโทรศัพท์ด้วยเหตุอันใด  แต่พอแอบลองชะเง้อดูก็พอเข้าใจ  ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับการส่งข้อความตอบโต้ไปมากับคุณคริสจนหลุดไปอยู่อีกโลกเสียแล้ว


     

    บยอนบยอล มันชื่อนาเมโกะ

     

    คริสอู๋ มันน่ารักดี

     

    บยอนบยอล:   ประหลาด

     

    คริสอู๋:   ไปอยู่กับไอ้จงอินเลยไป

                  ไอ้เวรจงอินเรียกมันว่าเห็ดจังไร

     

    บยอนบยอล:    ก็มันประหลาดจริงๆนี่ครับ
     

    คริสอู๋:    น่ารัก


     

    แบคฮยอนอดขำตัวเองไม่ได้ที่จริงจังกับการเถียงเรื่องเห็ดเจ้าปัญหาที่คริสใช้ตั้งเป็นรูปดิสเพลย์  เห็ดหน้าตาประหลาดที่ดูยังไงเขาก็ไม่รู้สึกว่ามันน่ารักสักนิด  ผิดกับคนตัวโตที่เอาแต่เถียงว่ามันน่ารักเสียเหลือเกิน

     

    โอ๊ะ  นี่ปาร์คชานยอล!”แบคฮยอนโวยทันทีที่ถูกชานยอลเอื้อมมาดึงโทรศัพท์ออกไปจากมือ

     

    ชานยอลไม่ได้สนใจเสียงโวยวายของคนตัวเล็กข้างหน้าสักนิดหรือแม้แต่สายตาที่พยายามจะอาฆาตเขานั้นก็ช่างหาความน่ากลัวไม่ได้  ก้มมองดูหน้าจอก็เห็นว่ามีแต่ข้อความที่ตอบโต้กับ คริสอู๋ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นอู๋อี้ฟานแน่ๆ

     

    เอาโทรศัพท์เรามานะชานยอล  นี่เราโกรธแล้วนะ  เอาคืนมาเลย

     

    หรอ  นี่โกรธแล้วหรอปาร์คชานยอลอยากจะขำ  โกรธได้น่ากลัวสมเป็นแบคฮยอนจริงๆ

     

    คนตัวเล็กได้แต่ฟึดฟัดที่ถูกชานยอลข่มกันเช่นนี้  นี่เขาโกรธแล้วจริงๆนะ  ทำไมชานยอลไม่หัดกลัวเสียบ้าง  เห็นว่าเขาโกรธเล่นๆหรืออย่างไรกัน

     

    มินซอก  ถ้าโกรธจะต้องทำยังไงสะบัดหน้าไปถามเพื่อนข้างๆเพื่อหาที่ปรึกษา

     

    เอ่อเราว่าใจเย็นๆเน๊อะมินซอกไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไร จะให้บอกหรือว่าเวลาโกรธเขาระบายอารมณ์ด้วยการไปออกเสียงบนสนามซ้อมเทควันโด้

     

    นั่นสิ  ชานยอลก็ด้วย  อย่าไปแกล้งแบคฮยอนแบบนั้นสิจุนมยอนช่วยห้ามอีกแรง

     

    ใครว่าแกล้ง  เรากำลังจัดระเบียบพฤติกรรมว่าที่คู่หมั้นอยู่ต่างหาก  เริ่มจากโทรศัพท์ก่อนเลย  ต่อไปนี้ห้ามติดต่ออี้ฟานทุกช่องทาง

     

    นี่  อย่ามาสั่งเรานะ!

    ชานยอลไม่สนใจฟังอะไร  ตั้งหน้าตั้งตาเช็คดูโทรศัพท์ที่ยึดมาได้  ก่อนจะกดบล็อก คริสอู๋  เพื่อไม่ให้สามารถพูดคุยติดต่อกันได้อีก
     

    ถ้ายังรั้นจะไปคบหามัน  เราจะได้เห็นดีกัน  เข้าใจมั้ยแบคฮยอนเอ่ยเสียงเรียบพลางส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป  ในขณะที่คนรับนั้นแทบจะกระชากออกไปจากมือด้วยความขุ่นเคือง

     

    มินซอกและจุนมยอนทำได้เพียงส่ายหน้ากับความสัมพันธ์ที่ดูจะยิ่งแย่ลงของชานยอลและแบคฮยอน  ในฐานะเพื่อนของทั้งคู่  ไม่ว่าอย่างไรก็อยากให้คุยกันดีๆเหมือนเมื่อก่อนนี้

     

     

    ใครจะไปคิดว่าชานยอลจะเอาจริงขนาดนี้  ร่างสูงโทรไปสั่งไม่ให้รถที่บ้านบยอนมารับแบคฮยอนเพื่อบังคับให้คนตัวเล็กนั่งรถกลับด้วยกัน  ทั้งมินซอกและจุนมยอนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นได้แต่โบกมืออำลาและอวยพรขอให้เพื่อนตัวเล็กโชคดี  เพราะดูเหมือนว่าคำว่าเพื่อนของทั้งสองคนจะมีขอบเขตเมื่อสถานการณ์ของชานยอลและแบคฮยอนมันไม่ใช่ในฐานะเพื่อน  แต่เป็นในฐานะคู่หมั้นคู่หมาย

     

    เดี๋ยวนี้พี่ลู่หานบ่นใหญ่ว่าไม่ค่อยมาเรียนพิเศษกันเลยมินซอกเปิดบทสนทนาเมื่อตอนนี้เหลือกันอยู่แค่สองคนกับจุนมยอน

     

    ก็เห็นนี่ว่าช่วงนี้มีแต่เรื่อง  อีกอย่างพักไปก่อนก็ได้นะ  เราต้องไปทำงานพิเศษด้วย

     

    ห๊ะ! งานพิเศษ  งานอะไร คุณหนูจุนไปทำงานพิเศษเนี่ยนะ!”มินซอกก็ไม่ได้คิดว่าการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเป็นเรื่องผิดปกติอะไรหากจะมีพวกลูกคุณหนูสักคนอยากลองใช้ชีวิตแบบติดดินดูบ้าง  แต่เพราะเป็นจุนมยอน  มินซอกถึงคิดว่ามันผิดปกติอย่างถึงที่สุด คุณหนูจุนที่ทำอะไรไม่เป็นเลยเนี่ยนะไปทำงานพิเศษ

     

    ร้านกาแฟที่มยองดงน่ะ  ไปกับพี่จงอิน  คุณป๋าอนุญาตแล้วด้วยนะคนตัวขาวยิ้มกว้างจนแก้มแทบจะปริ

     

    เรื่องจริงหรอเนี่ย

     

    จริงสิ  ก็เมื่อวานไปลองช่วยพี่จงอินดู  มันก็สนุกดี  แล้วพอตอนค่ำพี่จงอินไปส่ง  คุณป๋าเจอพอดีเลยชวนเข้าบ้านไปนั่งคุยกัน  คุยไปคุยมาก็พูดเรื่องเราไปลองช่วยงานที่ร้าน  คุณป๋าเห็นดีด้วยใหญ่เลย เขาอยากให้เราลองทำอะไรดูบ้าง  แล้วมีพี่จงอินคอยดูแลก็ยิ่งวางใจน่ะ

     

    โอ้โห  ได้คุยกับคุณอาแล้วด้วยอ่ะ  มีพัฒนาการณ์ก้าวกระโดดมากเลยนะเนี่ย

     

    โย่  เด็กๆเสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของชายร่างสูงสองคน  จงอินเดินยิ้มแย้มมาในขณะที่จื่อเทายังคงรักษามาตราฐานความคมชัดดุดันบนใบหน้าได้อย่างดีราวกับเป็นรูปปั้นก็ไม่ปาน

     

    อ๊ะ  พี่เทา  เดี๋ยวนี้แทบจะไม่ค่อยได้เจอพี่เลยนะเนี่ยจุนมยอนเอ่ยทักพี่ชายหน้าเข้มที่เมื่อก่อนนั้นเจอกันทุกวัน

     

    ได้ข่าวว่าจะไปทำงานพิเศษกับจงอินหรือครับ

     

    อ่า  ครับ

     

    เออ พอก่อน ค่อยคุยครับ  ต้องไปแล้ว เดี๋ยวเข้างานสาย  ไปกันเถอะจุนมยอนจงอินลากคนตัวขาวให้ตามตัวเองไปเสียที  ในขณะที่จุนมยอนถูกลากไปก็ยังโบกมือลามินซอกกับจื่อเทาไม่หยุดจนลับสายตาไป

     

    ต่อหน้าต่อตาเลยเน๊อะ  พี่ไม่เป็นไรใช่ป่ะมินซอกอดที่จะเอ่ยถามทุกข์สุขของจื่อเทาไม่ได้

     

    ไม่เป็นไร  ขอบใจมากนะมือหนายกขึ้นขยี้ผมคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู  ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไร  แต่อย่างเขาจะไปทำอะไรได้  กับคนที่ได้แต่ฝันถึง  คนที่คิดว่าอยู่สูงเกินไป  แต่ตอนนี้คนๆนั้นกลับกลายเป็นของเพื่อนรักไปแล้ว  มันเจ็บ แต่ก็ทำได้แค่นั้น  แค่เจ็บเท่านั้น

     

    ทั้งสองพูดคุยกันอย่างออกรสจนลืมสังเกตไปว่ามีใครบางคนที่เพิ่งก้าวลงจากรถนั้นยืนมองอยู่ด้วยความรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ  ท่าทางที่สนิทสนมเกินไปทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานนั้นทำให้ลู่หานไม่ชอบใจนัก  ยืนกอดอกพิงรถนิ่งอยู่อย่างนั้น  เฝ้ารอว่าเมื่อไรมินซอกจะละความสนใจจากจื่อเทาแล้วหันมาเห็นตนเองเสียที 

     

    นู้นเป็นจื่อเทาที่สังเกตเห็นลู่หานก่อน  จึงพยักเพยิดให้มินซอกหันไปมองตาม 

     

    อ้าวคนตัวเล็กเห็นว่าพี่ชายคนสนิทมายืนรออยู่แล้วก็รีบลุกขึ้นบอกลาจื่อเทาและวิ่งไปหาลู่หานทันที 

     

    มินซอกก้าวขึ้นตามลู่หานที่เดินไปประนั่งประจำหน้าพวงมาลัยเช่นตอนมา  หน้าตาดูไม่ค่อยสบอารมณ์นั้นแสดงออกชัดเจนจนมินซอกต้องขมวดคิ้วตามไปด้วยอีกคน  ครุ่นคิดอย่างหนักว่ามีสิ่งใดให้พี่ชายใจดีคนนี้ต้องขุ่นเคืองใจ  ปกติลู่หานจะชวนตนเองคุยเล่นอยู่เรื่อย  หากแต่วันนี้กลับนั่งเงียบแถมยังทำหน้าบอกบุญไม่รับเสียอีก

     

    ลูลู่  พี่เป็นไรอ่ะ

     

    เปล่า

     

    เอเป็นแหง  ถามคำตอบคำ

     

    ลู่หานเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อเพราะไม่อยากให้มินซอกรู้สึกว่ากำลังถูกหงุดหงิดใส่ เขาไม่อยากเอาความงี่เง่าของตัวเองไปลงกับอีกฝ่าย  แม้ว่าสาเหตุที่เขาเป็นแบบนี้จะเป็นเพราะเจ้าตัวก็ตาม

     

    จอดรถเลย

     

    หืม?”ลู่หานแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆคนข้างๆก็บอกให้จอดรถ 

     

    จอดสิ  ข้างๆน่ะโล่งๆ  จอดเลย เราต้องคุยกันเดี๋ยวนี้!

     

    เพราะตอนนี้มินซอกเริ่มใส่อารมณืลงในน้ำเสียงบ่งบอกว่าคงกำลังหงุดหงิดอยู่เช่นกัน  ลู่หานจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมจอดรถตามที่อีกฝ่ายต้องการ 

     

    พี่มีปัญหาอะไร  ผมพูดด้วยก็ไม่พูด ไม่พอใจอะไรก็บอกสิ!

     

    คือพี่ขอโทษ

     

    ผมไม่ได้อยากได้คำขอโทษ  ผมอยากได้คำอธิบาย  ไม่งั้นมันจะจบหรอ  เดี๋ยวพี่ก็หงุดหงิดไม่มีสาเหตุขึ้นมาอีกมีอะไรก็พูดมาเลย  พูดเลย!!!

     

    พี่รักเราพอใจรึยัง

     

    มินซอกเบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินคำสารภาพของลู่หาน  รักอย่างนั้นหรอ  รักเขางั้นหรือ  ไม่นานใบหน้าน่ารักก็เลิกแสดงความตกใจแต่แปรเปลี่ยนเป็นสงสัยเข้ามาแทนที่ 

     

    พี่ไม่อยากให้เราเข้าใกล้เด็กที่ชื่อจื่อเทา  พี่ไม่อยากให้เราไปสนิทกับใคร  พี่หวง  ขอโทษเสียงขอโทษแผ่วเบาในท้ายประโยค  ลู่หานอยากขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก เขารู้ดีว่ามินซอกไว้ใจตนเองในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง  แต่การที่เขาคิดเกินเลยกับอีกฝ่ายนั้นคงทำให้เด็กน้อยรู้สึกโกรธอยู่พอควร

     

    มินซอกจ้องหน้าลู่หานนิ่งก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วเปิดประตูลงจากรถ  ก้าวหนีไปอย่างรีบร้อน  ยังไม่อยากจะคุยกับลู่หานในเวลานี้ 

     

    มินซอก!

     

    อย่าตามมานะ! ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่ตอนนี้หันไปตะคอกใส่คนที่พยายามจะวิ่งตามมา  สองขาก้าวถี่ไปโบกรถโดยสารที่ผ่านมาพอดี  ทิ้งตัวนั่งลงบนเบาะด้านหลังและบอกให้คนขับออกรถทันทีโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองคนที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมสักนิด



     

    ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คิมมินซอกพาตัวเองมาหยุดอยู่หน้าห้องที่เพิ่งได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนไม่นานนี้  ตั้งใจจะไปหาจุนมยอนแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนตัวขาวคงยังไม่กลับมาแน่  จึงเปลี่ยนจุดหมายมายังร้านติ่มซำที่อยู่ใกล้กว่าแทน  ทั้งผู้เป็นมารดาและพี่สาวของจื่อเทานั้นต่างยุ่งอยู่กับงานจนแทบจะไม่ใส่ใจแขกที่เข้ามาสักนิด  พอเห็นหน้ามินซอกก็เอ่ยปากอนุญาตส่งๆให้ขึ้นไปหาจื่อเทาข้างบนแทนการมานั่งรอแล้วเสียเวลาให้ใครขึ้นไปตาม

     

    ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

    เสียงเคาะเรียกดังไม่นาน เจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมาก่อนจะต้องเบิกตาอย่างตกใจที่เห็นว่าใครคือผ้มาเยี่ยมเยือน  จื่อเทามั่นใจว่าเขาเห็นคิมมินซอกขึ้นรถไปกับลู่หานแล้ว  บางทีตอนนี้เขาอาจจะกำลังเริ่มเมาเพราะเบียร์หลายกระป๋องที่เพิ่งจัดการไปไม่นานนี้

     

    ผม เข้าไปได้มั้ย

     

    อ๋อ อืมคนตัวโตเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้แขกเดินเข้ามา 

     

    มินซอกย่นจมูกเพราะรู้สึกถึงกลิ่นฉุนของกระป๋องเบียร์ที่วางเกลื่อนพื้นห้อง  กระป๋องเปล่าเกือบสิบใบและที่ยังไม่ได้เปิดแช่อยู่ในถังน้ำแข็งที่ไม่น่าจะต่ำกว่ายี่สิบกระป๋อง  นี่ดื่มย้อมใจหรืออย่างไรกัน

     

    โทษที  วันนี้ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร  ดื่มมั้ยจื่อเทานั่งลงกับพื้นห้องเช่นเดิม  หลังกว้างพิงกับเตียงที่สูงไม่มากนัก  หยิบกระป๋องเบียร์ส่งให้เด็กน้อยที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน

     

    ผมไม่ดื่มหรอก  ได้กลิ่นก็เมาแล้วพี่

     

    *สามสิบนาทีต่อมา*

     

    อึก  พี่คิดดูดิ  ผมไว้ใจเขาม๊ากเลย  คิดว่าเราเป็นพี่น้องกานนนน  แต่อาร๊ายยยย เอิ้กกก มาบอกว่ารักผม  โคตรสับสนเลย  ผม อึก  ผมสับสนมากเลยมินซอกเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ตนไม่สบายใจให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆฟัง  น้ำ เสียงที่เริ่มยานบวกกับกระป๋องเบียร์ในมือนั้นบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้คนตัว เล็กกำลังเมาเพราะเจ้าน้ำสีเหลืองอำพันที่เอ่ยปากไปก่อนหน้าว่าจะไม่ดื่มมัน

     

    ช่าย  แล้วจุนมยอนนะ ก็ไปกับไอ้จงอิน  รักกันซะง้านเลย อึก  สับสน เอ้อออออจื่อเทาเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนข้างๆเท่าไรนัก  เพราะก่อนหน้ามินซอกจะมาเจ้าตัวก็จัดไปหลายกระป๋องแล้ว  ยิ่งพอเริ่มปรับทุกข์กันก็ยิ่งเพลิน  สองคนรวมกันหมดไปหลายสิบกระป๋องเลยทีเดียว


    มันตกจายยย ผมมไม่เยคิดเรื่องแบบนี้เลย  สนใจแต่เทควันโด้  ตอนนี้เลยต้องมานั่งคิดจนปวดหัวไปหมด  หรือปวดหัวเพราะเมาอะพี่มินซอกที่เริ่มสับสนเพราะสติที่ไม่ครบถ้วนนั้นหันไปถามจื่อเทาอย่างงงงวยในตัวเอง

     

    ไม่เคยมีแฟนหรออออพี่ชายตัวสูงไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับตั้งคำถามส่งไปแทน  ดูเหมือนว่าทั้งสองครจะคุยกันคนละเรื่องมาสักพักใหญ่แล้ว

     

    ม่ายยยย เลย ไม่มีอ่ะ

     

    เคยจูบยางงงง

     

    ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ คิก  เอิ้กกก  ไม่เคยยยย

     

    ลองป่ะ

     

    เมาอ่อพี่

     


    CUT
     

     

    อืม  คุณหนูคุณหนูจุนมยอน”     


    TBC.


    #ฟิคสีแดง

    ปล.เจอคำผิดบอกด้วยนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×