คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [OS Special CHAN's DAY] I'm in love with a monster ตอน...นายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก
[OS Special CHAN’s DAY]
I’m in love with a monster
ตอน… นายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก
NOTE: มันไม่ได้เกี่ยวไรกะวันเกิดพี่ชานเลยค่ะ แต่ที่บอกว่าสเปวันเกิดพี่ชานเพราะเราจะแต่งเรื่องนี้ทุกครั้งที่คิดว่ามันเป็นวันพิเศษ ครั้งแรกวันฮาโลวีน ตอนที่สองคือศุกร์13 และตอนนี้คือวันเกิดพี่ชาน แค่นี้ ฮ่าาาาาาาาาาา
v
v
v
“มึง” แบคฮยอนชี้หน้าจงอินที่เพิ่งจะโผล่พ้นประตูเข้ามาในร้านกาแฟที่ตนนัดเอาไว้ ก่อนจะชี้ไปที่เพื่อนอีกสองคนอย่างเซฮุนและคยองซูที่ตามกันเข้ามาติดๆ “มึง แล้วก็มึงด้วย พวกมึงมาช้า กูรอเป็นชั่วโมงแล้วนะ”
“ซอรี่ค่ะ พวกกูไปทำธุระมา” จงอินเอ่ยด้วยสีหน้ายียวนจนเพื่อนตัวเล็กที่นั่งทำหน้างอต้องชกเข้าที่ไหล่เบาๆเพราะความหมั่นไส้
“จะมีธุระอะไรสำคัญไปกว่าการที่กูนัดมาเพื่อจะคุยเรื่องเตรียมสอบ” แบคฮยอนท่าทางจริงจังแต่เพื่อนอีกสามคนกลับขมวดคิ้วแสดงความสงสัยออกมา
“สอบไรมึง?”
“ก็ซูนึงไง พวกมึงลืมหรอ” คนตัวเล็กไม่เข้าใจสักนิดว่าเพื่อนๆของตนทำไมถึงได้เอื่อยเฉื่อยกันนักทั้งๆที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว พูดเรื่องสอบก็ทำหน้างงกันหมด สงสัยคิดว่าจบมัธยมก็สบายแล้วสินะ ไม่เตรียมตัวอะไรเลย
“พวกกูไม่ต้องสอบ…” คยองซูพยายามอธิบาย “นี่มึงไม่รู้หรอว่าพวกกูได้โควตาเข้ามอชังมี”
อะ! ไร! นะ!
.
.
.
“คุณก็เลยโกรธแล้วพรวดพราดกลับมาบ้านโดยไม่ฟังเพื่อนพูดต่อหรอ” ชานยอลนั่งฟังแบคฮยอนบ่นอยู่นานนับชั่วโมงตั้งแต่ที่คนตัวเล็กกลับมา ดูเหมือนเรื่องที่ทำเจ้าตัวขุ่รข้องหมองใจจะเกี่ยวกับเพื่อนทั้งสามคนที่ได้โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆกันหมดแล้วไม่ยอมบอกให้รู้ เขาก็พอจะได้ยินจากครอบครัวบยอนว่าเด็กน้อยของเขาเรียนไม่เก่งเอาเสียเลย คงจะทำให้พลาดโควต้าไปในขณะที่เพื่อนๆได้กันหมด
“แล้วจะอยู่ทำไม แค่นี้ผมก็เหมือนโดนถีบตกทางเท้าไปนอนคว่ำหน้าบนถนนให้รถสิบล้อทับตาย แล้วถ้าบังเอิญไม่ตายผมก็จะกัดลิ้นตัวเองซะให้ขาดใจเพราะอายเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาขอความช่วยเหลือจากคนอื่น คุณเข้าใจมั้ยเนี่ย ผมโดนเพื่อนทิ้งแล้ว พวกนั้นไม่บอกอะไรเลย ตั้งใจจะไปเรียนกันสามคนแล้วก็ปล่อยให้ผมไปแข่งไถนากับน้องทุยกลางแดดร้อนจัดในอุณหภูมิสี่สิบองศาที่ประเทศไทย… ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอ่ะ”
แบคฮยอนระบายอารมณ์ยาวจนคนโตกว่าฟังไม่ทัน ความน้อยใจพุ่งขึ้นสิบระดับ ไหนจะความโกรธที่ตีตื้นเข้ามาโดยที่เจ้าตัวก็ยังตอบไม่ได้ว่าโกรธเพื่อนเพราะอะไร จะโกรธที่เพื่อนไม่บอก โกรธที่เพื่อนได้โควตาแต่ตนไม่ได้ โกรธที่เพื่อนทำเหมือนจะทิ้งตนเอาไว้คนเดียว หรือโกรธที่ตนเองฉลาดไม่พอที่จะตามเพื่อนไป มหาวิทยาลัยชังมีเป็นสถาบันเกรดดีที่สุดในสาขาเฉพาะทางด้านบริหาร และก็เข้ายากที่สุดเช่นกัน ใช่ว่าแค่มีเงินก็จะเสนอหน้าเข้าไปนั่งเรียนได้ ที่นี่ต้องสอบเข้าไปเท่านั้นโดยแยกออกจากการสอบซูนึงของมหาวิทยาลัยอื่นๆเพื่อจะคัดเด็กได้ละเอียดยิ่งกว่า แน่นอนว่าสติปัญญาระดับล่างอย่างบยอนแบคฮยอนไม่มีทางจะเข้าได้
นอกจากหน้าตากับฐานะแล้วแบคฮยอนก็ไม่มีดีอะไรอีก โง่ก็โง่ ทำอะไรเองก็ไม่เป็นสักอย่าง เอาแต่ใจก็เท่านั้น ซ้ำยังมนุษยสัมพันธ์แย่สุดๆ มีแค่เพื่อนสามคนที่คบกันมานาน นอกนั้นคนตัวเล็กก็ไม่มีเพื่อนคนไหนอีกแล้ว นิสัยติดลบจนคนอื่นยี้กันหมด ถ้าหากเข้ามหาวิทยาลัยชังมีตามพวกจงอินไปไม่ได้ คุณหนูบยอนก็หัวเดียวกระเทียมลีบเพราะไปที่อื่นคงไม่มีใครคบ
“ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วคุณจะไปไหนล่ะ เปลี่ยนใจอยากไปกับผมขึ้นมาแล้วหรือ” ชานยอลแค่ลองถามออกไปเพราะแบคฮยอนดูท่าจะดื้อเกินกว่าจะยอมเขาง่ายๆ แต่วินาทีนี้ที่คนตัวเล็กกำลังสับสนดูจะเหมาะกับการล่อลวงเป็นที่สุด ใครจะว่าชานยอลเป็นตาแก่โรคจิตที่ลุ่มหลงความน่ารักน่าฟัดของเด็กน้อยรุ่นหลานก็ตามแต่ เขาไม่ใส่ใจทั้งนั้น ท้าพนันได้ว่าหากใครมาเจอตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มและนิสัยพยศเหมือนลูกแมวที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือคงอยากจับมาตีก้นแรงๆให้สาแก่ใจกันทั้งนั้น แต่ว่าหากใครกล้าทำแบบนั้นกับแบคฮยอนของเขารับรองได้ว่าจะจับมันโยนลงทะเลให้เป็นอาหารฉลามเสีย
“คุณเคยบอกว่าจะยกเกาะนางเงือกให้ผมใช่มั้ย?”
“ในกรณีที่คุณเป็นนายหญิงฉลาม…” ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ชานยอลต้องบอกให้แบคฮยอนเข้าใจ
“ผมทำอะไรกับมันก็ได้ใช่มั้ย”
“ทุกอย่าง… ยกเว้นระเบิดมันทิ้ง”
“สร้างบ้านได้รึเปล่า”
“ได้”
“ห้างสรรพสินค้าล่ะ”
“ห๊ะ” ชานยอลขมวดคิ้วมองเด็กน้อยเอาแต่ใจที่ทำสีหน้าคาดหวังสุดชีวิตก็ตัดสินใจรับปากอย่างเสียมิได้ “ได้สิ”
“สนามบิน”
“ความคิดดี ผมก็วางแผนจะสร้างสนามบินกลางทะเลอยู่เหมือนกัน” เรื่องสนามบินถือว่าเข้าท่าไม่น้อยเพราะชานยอลเองก็มีโครงการเรื่องนี้อยู่ อาจไม่ใหญ่โตแต่ก็พอจะให้จอดเครื่องบินส่วนตัวได้
“แล้วผมจะย้ายอะไรไปไว้ที่เกาะก็ได้ใช่รึเปล่า”
“ได้ทั้งหมดที่คุณต้องการ คุณอยากย้ายอะไรไปล่ะ เตียงนอนสี่เสาหลังใหญ่ของคุณ หรือจะให้ย้ายห้องคุณทั้งห้องไปเลย”
“ย้ายมหาวิทยาลัยชังมีไปสิ”
“คือ… ถ้าผมทำไม่ได้ คุณก็จะไม่ยอมไปอยู่กับผมหรอ”
“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ คุณรวยขนาดนี้ เขาพูดกันว่านายหัวฉลามผู้ยิ่งใหญ่ทำได้ทุกอย่างไม่ใช่หรอ แค่นี้ทำไม่ได้แล้วผมจะไปฝากชีวิตกับคุณได้ยังไง”
“ผมเสียใจ แบคฮยอน ผมทำไม่ได้” ชานยอลยอมรับแต่โดยดี ใครที่ไหนมันจะไปย้ายมหาวิทยาลัยทั้งสถาบันมาไว้ที่เกาะได้ “แต่… ผมให้คนไปอุ้มเพื่อนคุณมาไว้ที่เกาะได้นะ”
“ตกลง!”
ด้วยประการฉะนี้เด็กน้อยแบคฮยอนวัย 18ปีจึงถูกคุณอาผู้เป็นเพื่อนพ่อวัย 36ปีล่อลวงมาเป็นสมาชิกครอบครัวฉลามได้สำเร็จโดยที่ไม่ต้องออกแรงหรือใช้กำลังใดๆ ซ้ำครอบครัวบยอนก็ไว้ใจให้ปาร์คชานยอลได้ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเต็มตัว
แต่ถึงกระนั้นแบคฮยอนก็คือแบคฮยอน เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ พอมาถึงเกาะฉลามก็งอแงจะไปเกาะผีเสื้อให้ได้ บอกว่าคราวก่อนตั้งใจไปพักก็ไปไม่ถึง ชานยอลอธิบายให้ฟังว่าช่วงนี้เกาะจะวุ่นวายเพราะแขกมาพักกันเต็มอัตราเนื่องด้วยเป็นช่วงปิดเทอม คงไม่เหลือห้องดีๆไว้รับรองนายหญิงแน่ๆคนตัวเล็กก็ไม่สนใจ ยืนยันว่าอย่างไรก็จะไปเพราะไม่อยากนอนที่เกาะฉลาม นายหัวได้แต่ถอนใจ ถ้าหากรู้ว่าจะดื้อแบบนี้จะไม่ใจดีด้วยตั้งแต่แรก จะแอบอุ้มหนีพ่อหนีแม่มาฟัดไม่ปราณีตั้งแต่เข้าเขตตะวันตกจนถึงเกาะฉลามให้รู้แล้วรู้รอดไป
“งั้นไปเกาะนางเงือก ผมจะให้คนงานไปตั้งกระโจมให้สักหลัง”
“ดี!”
.
.
.
แบคฮยอนมองร่างสูงใหญ่ที่กระโดดลงจากเรือจนน้ำทะเลเปียกไปครึ่งขา ไม่เข้าใจว่าจะจอดห่างอะไรนักหนา เจ้าตัวใส่กางเกงผ้ามาคงไม่รู้สึกอะไรแต่แบคฮยอนนี่สิ กางเกงยีนส์ผ้าหนาชนิดที่ว่าไม่เปียกน้ำก็ยังหนัก แล้วตัวสูงขนาดชานยอลยังเปียกไปครึ่งขา แบคฮยอนไม่จมถึงเอวเลยหรืออย่างไร ช่วงนี้เขาเริ่มจะเกลียดความตัวเล็กของตัวเองอยู่บ่อยๆ ทั้งอ่อนแอกว่าโดนเขารังแกเอาแต่ใจแล้วยังต้องมาเปียกน้ำแบบนี้อีก เหตุผลของนายหัวคือกลัวเรือจะชนหินโสโครกเพราะยังไม่เคลียร์รอบเกาะให้เรียบร้อย ถือเป็นเหตุผลที่คนอย่างเขาไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงจริงๆ ความรู้เรื่องพวกนี้ก็ไม่มีมาสู้ สุดท้ายก็จำใจยอมเปียกกระโดดตามลงน้ำจนได้
“ที่นี่ดูสะอาดกว่าเกาะฉลาม” แบคฮยอนไม่ได้พูดเพราะอยากกวนอารมณ์ของชานยอล แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆตามที่เห็น หาดทรายละเอียดไร้เศษซากกิ่งไม้เปลือกหอยให้ตำเท้า มีโขดหิดเล็กใหญ่อยู่เป็นจุดๆ คลื่นก็ซัดเข้ามาไม่แรงนัก ต่างกับเกาะฉลามลิบลับ จะมีเหมือนกันก็คงเป็นความร่มรื่นจากต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมไปทั่ว พอเห็นแบบนี้แบคฮยอนก็อยากจะพับโครงการสร้างบ้านไปเสีย หากต้องตัดต้นไม่พวกนี้ก็น่าเสียดายไม่น้อย
“แน่ล่ะ ซื้อมาตั้งแพงนี่ครับ” ชานยอลว่าพลางหันมาดึงมือก่อนจะชี้ไปที่กระโจมผ้าขนาดกลางที่ตั้งอยู่ห่างชายหาดไปนิดหน่อย “ผมให้คนติดไฟเอาไว้แล้ว อีกไม่นานคงมืด คุณจะได้ไม่กลัว”
“โอเค ผมจะพักผ่อนแล้ว คุณกลับไปเถอะ”
“ไม่กลัว?”
“กลัวอะไร คุณน่ะน่ากลัวที่สุดแล้ว อยู่ห่างๆคุณ ผมก็ไม่มีอะไรให้กลัวทั้งนั้นแหละ”
“เชิญตามสบายครับ” ชานยอลไม่เร้าหรือต่อ ปล่อยให้คนตัวเล็กได้พักผ่อนตามที่ต้องการก่อนจะเดินกลับไปที่เรือ แต่เขาก็ไม่ได้วางใจที่จะปล่อยให้แบคฮยอนอยู่บนเกาะคนเดียว แม้จะกลับขึ้นเรือมาแล้วก็ใช่ว่าจะได้ไปที่ไหน ถอดเสื้อออกไปพาดไว้บนกาบเรือเพราะเปียกจากน้ำทะเลที่กระเด็นใส่แล้วนั่งเอนตัวลงเพื่อพักผ่อนในที่ของตนเองเช่นกัน
ท้องฟ้าสลัวทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นห่วงเด็กน้อยจอมอวดดีของเขาขึ้นมา เกรงว่าพอฟ้ามืดเจ้าตัวเล็กจะเกิดกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ อย่างน้อยเขาควรไปบอกให้แบคฮยอนรู้เสียหน่อยว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล จากกระโจมตะโกนเรียกก็คงดังไปถึงเรือ เจ้าตัวจะได้ใจชื้นขึ้นบ้าง ตัดสินใจลงจากเรืออีกครั้งไปตามหาเป้าหมาย เดินไปถึงกระโจมก็เห็นแสงไฟเริ่มสว่างสวนทางกับท้องฟ้า เห็นกางเกงยีนส์คุ้นตาพาดอยู่กับเก้าอี้ไม้หน้ากระโจม เดาว่าแบคฮยอนคงจะถอดมาผึ่งไว้เพราะมันเปียกไปเกือบทั้งตัว แต่ที่น่าแปลกคือคนที่ควรเจอกลับไม่อยู่เสียนี่ แบคฮยอนไปไหนกันนะ?
มองหาจนทั่วก็พบว่าร่างเล็กๆที่แสนนุ่มมือกำลังนั่งสบายอกสบายใจบนโขดหิน ทอดสายตาออกไปยังทะเลที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ เห็นแล้วก็พอใจที่แบคฮยอนดูจะชอบที่นี่ ท่าทางผ่อนคลายแบบนั้นถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกฝ่ายจะไม่งอแงขอออกไปนอนที่อื่นเหมือนตอนอยู่บนเกาะฉลามอีก
“แบคฮยอน”
“คุณ… ไหนกลับไปแล้วนี่” แบคฮยอนเบิกตากว้างที่เห็นว่านายหัวยังอยู่บนเกาะแบบนี้ มือเรียวสวยรีบดึงชายเสื้อลงมาปิดหน้าขาเอาไว้ ที่กล้าจะถอดกางเกงไปตากแบบนั้นก็เพราะมั่นใจว่าอยู่คนเดียว แต่นี่อะไร เผลอไม่ได้เลยสักนิด ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง คนแก่จอมเจ้าเล่ห์ก็มาประชิดตัว
“ผมนอนอยู่บนเรือ กลัวคุณอยู่คนเดียวไม่ได้ แล้วคุณก็กลับไปที่กระโจมได้แล้ว นี่กำลังจะมืด ไฟส่องมาไม่ถึงเดี๋ยวคุณมองทางไม่เห็น”
“ไม่อ่ะ ผมจะอยู่ตรงนี้ก่อน” แบคฮยอนไม่ได้อยากเอาแต่ใจ แต่คนมันสวมแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงชั้นในเท่านั้น จะให้พรวดพราดลุกก็คงไม่ดีแน่ อย่างน้อยก็ควรให้ชานยอลออกไปก่อน
“ทำไมพูดยากแบบนี้ ชอบให้ผมเป็นห่วงหรอ” ไม่ว่าเปล่า ร่างสูงใหญ่ตรงดิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งขดอยู่บนโขดหินทันที ท่าทีตระหนกของแบคฮยอนดูน่าขันและน่ามอง นึกถึงยามได้รังแกอีกฝ่ายเลือดในกายมันก็พลุ่งพล่านไปหมด ไม่สนเสียงร้องโวยวายจากริมฝีปากเล็กๆแต่ถือวิสาสะจับอุ้มให้ใจหายกันไป
“นี่! คุณ ปล่อย!” มือเรียวทั้งทุบทั้งดันอกกว้างของคนที่อุ้มตนอยู่ ยิ่งอุ้มท่าเจ้าสาวแบบนี้ชายเสื้อก็ยิ่งถลกขึ้นมาเห็นไปถึงไหนต่อไหน ยิ่งดิ้นก็ยิ่งไปกันใหญ่ สุดท้ายก็ต้องใช้ท่าไม้ตายที่รับรองได้ว่าเก่งมาจากไหนก็ต้องพ่ายแพ้ สองแขนจัดการล็อคคอคนตัวโตเอาไว้ก่อนจะโน้มลงมาแล้วอ้าปากงับหูกางๆนั่นไปเต็มแรง
CUT
ที่เดิมจ้ะ
ชานยอลห่มผ้าให้แบคฮยอนที่หลับสนิทไปแล้ว ถอดเอาเสื้อตัวบางกับชั้นในออกไปจนเหลือเพียงร่างกายเปล่าเปลือยขาวผ่องยามต้องแสงสีนวล เอาชุดทั้งหมดของคนตัวเล็กไปผึ่งเอาไว้ด้วยกันหวังว่าเด็กน้อยของเขาจะได้ใส่มันอีกครั้งในรุ่งเช้าก่อนจะกลับไปที่เกาะฉลาม จูบลาแผ่วเบาบนริมฝีปากเล็กๆก่อนที่สองขาก้าวกลับไปที่เรือ ทิ้งตัวลงนั่งแล้วเอนกายอย่างที่ชอบทำ เมื่อสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่นอนในกระโจมด้วยกันตั้งแต่แรก แน่นอนว่าคนอย่างเขาย่อมรักษาคำพูด ดังนั้นนายหัวฉลามจะนอนเฝ้านายหญิงอยู่บนเรือตลอดทั้งคืน
The End
#นจมอด
ความคิดเห็น