ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic EXO] RED ChanBaek KrisBaek

    ลำดับตอนที่ #13 : RED 12

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 57





    RED 12

     

    แก๊ก...  ซวบ...  กึก...   กึก...

     

    เสียงผิดปกติจากนอกระเบียงทำให้คำตัวเล็กต้องวางหนังสือที่กำลังอ่านอยู่แล้วลุกออกไปดู  เพราะเป็นช่วงหัวค่ำอากาศกำลังดีไม่ร้อนจึงเปิดประตูที่ระเบียงเอาไว้รับลมเย็นบริสุทธิ์จากด้านนอก  เสยงลมพัดพาไม้ใหญ่ดังซวบซาบเพลินหูอยู่ตลอด  หากแต่เสียงบางอย่างมันดูไม่ปกติ  ไม่น่าจะใช่แค่ลมพัดธรรมดา

     

    แบคฮยอนจับราวระเบียงไว้ก่อนจะก้มตัวลงมองหาสิ่งผิดปกติบริเวณต้นไม้  ดวงตาสวยรี่ลงเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นบางอย่างที่ขยับเขยื่อนอยู่  เพราะความมืดจึงทำให้มองไม่ได้ชัดเจนนัก  ขาเรียวค่อยๆก้าวถอยหลังช้าๆ  ถึงไม่รู้ว่าเป็นอะไร  แต่ก็ไม่คิดว่าจะปลอดภัย  คนตัวเล็กกลับมายืนด้านในห้องแลวปิดประตูกระจกทันที  หากแต่สิ่งที่โผล่พ้นเงาต้นไม้ขึ้นมาที่ระเบียงนั้นทำเอาช็อคไม่น้อย จนต้องเปิดประตูกลับออกไปแทบไม่ทัน

     

    พี่คริส!

    !!!

     

    คน ตัวเล็กรีบเปิดประตูออกแล้วดึงแขนคนที่ยืนหน้าเป็นยักคิ้วหลิ่วตาชวน หมั่นไส้ให้รีบเข้ามาในห้องก่อนจะรีบปิดประตูปิดม่านจนมิดชิด แบคฮยอนหันมาประจันหน้ากับคริส

     

    เซอร์ไพรส์ป่ะมึง

     

    อยาก ตอบออกไปใจแทบขาดว่าเซอร์ไพรส์ที่สุดในชีวิต แต่ตอนนี้ขอไถ่ถามหาเหตุที่คนตัวสูงใจกล้าบ้าบิ่นปีนต้นไม้สูงขึ้นห้องคน อื่นแบบนี้เสียก่อน
     

    คุณพี่ ขึ้นมาทำอะไรบนนี้ครับ!

     

    ไม? ห้องมึงปาร์คชานยอลปีนเข้ามาได้คนเดียวรึไง

     

    ก็เปล่าครับกลายเป็นแบคฮยอนที่ตอบออกไปเสียงอ่อยเพราะเห็นสีหน้าหงุดหงิดของคริส

     

    แต่ว่า เดี๋ยวนะ  นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่คนเราจะปีนเข้าห้องใครเลยนะ  มันไม่ใช่คำตอบของคำถามที่เขาถามไปด้วยซ้ำ  มาถามกลับให้เขามึนทำไมเนี่ยคริสไม่ได้สนใจท่าทีงงงวยของแบคฮยอนแม้แต่น้อยขายาวก้าวฉับไปทิ้งตัวนั่งบนที่นอน  เจ้าของเตียงหน้าเหวอมองคนที่ยึดเตียงไปอย่างอึงๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะวางของว่างแทน

     

    คุณแม่บอกผมแล้วว่าเมื่อเช้าพี่มาเยี่ยม  เอาผลไม้มาด้วย

     

    อืมคริสชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาเพียงสั้นๆ

     

    เมื่อวาน  ผมตกใจมากตอนที่เห็น พี่ แต่ก็ดีใจมากที่เจอพี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่าแบคฮยอนหัวเราออกมากับความสับสนของตัวเอง มันทั้งตกใจที่รู้ว่าคริสอยู่ใกล้กันขนาดนี้โดยที่เขาไม่เคยรู้  หากแต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ได้รู้ว่าคริสอยู่ใกล้เขาเหลือเกิน มันยากที่จะอธิบายให้คนฟังเข้าใจได้ทั้งหมด  แต่เขารู้ว่าคริสจะเข้าใจมัน  ไม่ใช่เข้าใจในเหตุผล  แต่เข้าใจในความรู้สึกของเขา

     

    อืม

     

    พูดยาวๆสิครับแบคฮยอนทำหน้ายุ่งใส่เมื่ออีกฝ่ายยังเอาแต่ตอบแบบไม่ใส่ใจเหมือนเดิม

     

    ตั้งแต่รู้ว่ากูเป็นพี่ชายแฟนมึงนี้งอแงกับกูจังนะ  อย่าคิดว่าจะนับญาติกัน  กูเป็นลูกคนใช้  ไม่ได้เป็นพี่เป็นน้องอะไรกับลูกคุณหญิง

     

    แบคฮยอนถอนใจออกมาเมื่อฟังประโยคนาวๆของอีกคนอย่างที่ต้องการ  หากแต่มันกลับไม่ใช่ถ้อยคำที่อยากได้ยิน เขาไม่ได้อยากฟังคริสพูดจาดูถูกตัวเองแบบนี้  เพราะสำหรับเขาแล้ว  ไม่ได้สนใจสักนิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นลูกใคร  พี่ใครหรือน้องใคร เขาสนแค่คริสอยู่ใกล้เขาเพียงแค่นี้เท่านั้นเอง

     

    ความ เงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง แบคฮยอนยังคงมองแน่วแน่ไปยังคนที่บัดนี้เอนตัวนอนลงบนเตียงด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับเป็นที่นอนของตน ส่วนคนถูกมองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนอกจากนอนมองเพดานเงียบๆ

     

    น่าหมั่นไส้ 

     

    อยากไล่กลับบ้านไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

     

    แต่

     

    คิดถึงมากกว่า

     

    ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ลุกพรวดไปทิ้งตัวบนที่นอนข้างๆกับคริสแล้วถือวิสาสะยกหัวขึ้นหนุนแขนอีกคนทันที  เอาแขนกอดรัดลำตัวสูงใหญ่เอาไว้  โดยไม่สนใจคนที่ทำตาเหลือกตกใจกับการกระทำที่แสนอุกอาจของคุณหนูบยอน

     

    ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย!

     

    เงียบ

     

    บยอนแบคฮยอน  ลุกเดี๋ยวนี้

     

    แม้ น้ำเสียงของคริสจะฟังดูจริงจังแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้แบคฮยอนที่มีความตั้งใจ แน่วแน่แล้วว่าอย่างไรวันนี้จะทำตัวเอาแต่ใจกับคนๆนี้ให้ถึงที่สุด  เอาคืนให้สาสมกับที่อีกฝ่ายเคยทำตัวเอาแต่ใจกับเขา แล้วยังชอบหนีหายไปเสียอีก  แบบนี้จะกอดเอาไว้ไม่ปล่อยเด็ดขาด 

     

    ฮึ มึงนี่ไม่เบาเลยนะเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ยอมลุกออกไปคริสก็ทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยเท่านั้น

     

    ไม่เบาอะไรครับ  ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ  นี่ก็แค่กอดเฉยๆเองแบคฮยอนเถียงทันที เพราะคริสพูดจาเหมือนเขาทำตัวก๋ากั่นเสียมากมาย

     

    กูหมายถึงตัวมึงอ่ะ  ไม่เบาเลย  หัวมึงนี่หนักกี่โลวะ  แขนกูเหน็บแดกหมดแล้วแม่ง

     

    อ้าว…”เมื่อฟังคำเฉลยของคนตัวสูงแบคฮยอนก็รู้สึกขายหน้านิดๆที่ดันคิดไปว่าอีกฝ่ายกำลังดุเรื่องที่มาถือวิสาสะกอดรัดเช่นนี้  ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นจากอกแกร่งไปจดจ้องใบหน้าหล่อเหลาของคริสแทน

     

    คริสที่ก้มมองลงมาในจังหวะเดียวกันก็ชะงักไปในวินาทีที่สายตาสบกันลึกซึ้งชวนให้ตกอยู่ในพวัง  ความคิดที่ว่าใกล้กันเหลือเกินนั้นกำลังควบคุมอารมณ์ของทั้งคู่  แต่ทันทีที่ใบหน้าเลื่อนเข้าหากัน คนตัวเล็กก็รีบก้มหน้ากลับมาซอนซบกับอกกว้างดังเดิม ซ้ำยังฝังใบหน้าลงไปหนักกว่าเก่า 

     

    ขนาดนี้แล้วก็สิงกูเลยสิ

     

     ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูทำเอาคนที่นอนอยู่บนที่นอนสะดุ้งสุดตัว  แบคฮยอนลุกขึ้นมองหน้าคริสเลิ่กลั่ก  คริสเองก็ได้แต่มองไปที่ประตูอย่างอึ้งๆ ทำอะไรไม่ถูก

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    แบค

     

    พระเจ้า  ปาร์คชานยอลมา!

     

    แบคฮยอนชี้มือชี้ไม้ให้ร่างสูงรีบออกไปทางระเบียงดังเช่นตอนมา  คริสเองก้ไม่ได้รีรออะไร เมื่อตั้งสติได้ก็รีบพุ่งไปที่ระเบียงทันที มือหนาแหวกม่านพอให้ตัวผ่านไปได้  หากแต่ก็ต้องเปลี่นใจกะทันหันกลับเข้ามาในห้องรูดม่านมิดชิดเช่นเดิม แบคฮยอนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเหตุใดถึงยังไม่ออกไปเสียที  ร่างสูงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาคนตัวเล็กทนที

     

    แฟนไอ้ชานยอล  คนที่ไม่ใช่มึงอ่ะ  เด็กนั้นมันยืนอยู่ตรงระเบียงฝั่งนู้น

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    แบค  หลับแล้วหรอ  แบค  เราเข้าไปนะ

     

    เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย  ใจเย็นๆครับมึง  รีบอะไรปานนั้น  รอ ให้กูหาที่หลบก่อนสิเว้ย คริสหันซ้ายหันขวาก่อนผลักแบคฮยอนให้ไปเปิดประตูรับแขกแล้วตัวเองก็รีบพุ่ง เข้าไปในห้องน้ำทันที คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าจนสุดก่อนจะเป่าลมอออกมาทางปากช้าๆ  ขาเรียวก้าวฉับไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน

     

    หลับหรอ  เรามากวนหรือเปล่าชานยอลเอ่ยถามทันทีที่แบคฮยอนเปิดประตูให้  ปกติ แล้วเคาะครั้งเดียวเจ้าของห้องก็มาเปิดตอนรับแล้วหรือไม่ก็จะตะโกนบอกให้ เปิดเขามาด้วยตัวเองเพราะประตูห้องไม่ได้ล็อคเอาไว้อยู่แล้ว

     

    อ่า  อื้ม  พอดีว่าเผลองีบไปน่ะ  ส่งสัยจะเพราะเพิ่งกินยาไป  ชานมามืดเลย  มีอะไรหรือเปล่า

     

    เพิ่งเรียนพิเศษเสร็จน่ะ  เห็นไฟในห้องเปิดอยู่นึกว่ายังไม่หลับเลยจะมาดูอาการแบคหน่อย

     

    งั้นเข้ามาก่อนมั้ยเพราะชานยอลอุตส่าห์มีน้ำใจมาเยี่ยมเยียนถามไถ่ทุกข์สุขของเขา  จะให้อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าห้องแบบนั้นก็ดูจะใจร้ายเกินไป  จะให้ลงไปคุยข้างล่างยิ่งแล้วใหญ่  ถึงแผลเขาจะไม่ค่อยเจ็บแล้ว  แต่เดินไปไกลขนาดนั้นคงไปแผลฉีกกันอีกสักรอบ

     

    เรา  เข้าได้หรือท่าทางที่เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจของชานยอลเรียกรอยยิ้มจากแบคฮยอนได้ไม่ยาก  ปกติแล้วใครๆก็จะเห็นคุณชายปาร์คในมาดสุขุมดูท่าทางสง่างาม  หากแต่ตอนนี้กลับเอ่ยถามด้วยสีหน้าขาดความมั่นใจ  ช่างแปลกตาเหลือเกิน

     

    ได้สิ  ก็เราเป็นเพื่อนกันนิ

     

    คำว่าเพื่อนของแบคฮยอนั้นทำเอาขายาวก้าวแทบไม่ออก  ความหมายของคำๆนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว  คำว่าเพื่อนที่พูดออกมาเมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกัน  แบคฮยอนอาจจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากโล่งใจที่เหมือนจะเคลียร์ปัญหาความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนนี้ได้  แต่กับเขามันไม่ใช่เลยสักนิด เขาเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องยอมรับความจริงที่ว่าเขาต้องสูญเสียแบคฮยอนไป 

     

    ชานยอลไม่เคยคิดว่าจิตใจด้านมืดของตนเองจะเลวทรามชั่วช้าไปได้มากกว่าพวกตัวโกงในละครโทรทัศน์  หากแต่บัดนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพวกผู้ร้ายเหล่านั้นถึงได้ทำเรื่องต่ำช้าได้ลงคอ  เคาเข้าใจมันได้เมื่อบัดนี้ในหัวเขากำลังนึกถึงเรื่องเลวๆที่จะทำให้เขาได้แบคฮยอนมาเป็นของเขาเหมือนเดิม

     

    อยู่กันแค่สองคนเท่านั้นในห้องนี้

     

    แม่บ้านอยู่ชั้นล่างกันหมด

     

    คุณน้ายังไม่กลับมา

     

    และแบคฮยอนก็เจ็บอยู่  ตัวก็เล็กแค่นี้  ถ้าเขาใช้กำลังบังคับจริงๆยังไงตัวเล็กของเขาก็ไม่มีแรงพอจะขัดขืนอยู่แล้ว

     

    เร็ว เท่าความคิด มือหนาก็กระชากแขนคนตัวเล็กให้หันกลับมาประชิดตัวจนตัวทั้งตัวนั้นกระแทกกัน อย่างไม่ตั้งใจ แบคฮยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจที่ถูกดึงมาไม่ทันตั้งตัว  แต่สักพักก็ปรับสีหน้าไปเป็นปกติเหมือนเดิม

     

    ชาน มีอะไรหรอ

     

    ร่างสูงมองใบหน้าน่ารักที่แสดงออกอย่างชัดเจนมารู้สึกกังขาในการกระทำของเขา  จากเมื่อกี้ที่ถูกดึงมาแบบนั้นช่วยยืนยันได้อย่างดีว่าแบคฮยอนสู้แรงเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย  ถ้าทำมันตอนนี้….

     

    แต่ดูเหมือนปาร์คชานยอลจะระยำไม่พอ  มือหนาปล่อยข้อมือของคนตัวเล็กที่ยังรอคำตอบอยู่เหมือนเดิม  บางที่นอกจากจะระยำไม่พอแล้วมันอาจเป็นเพราะเขาขี้ขลาดก็เป็นได้ เขากลัว เขาไม่กล้า

     

    ใช่จะไม่กล้าทำ 

     

    หากแต่เขาไม่กล้าพอจะโดนแบคฮยอนเกลียดไปมากกว่านี้

     

    เรานึกได้ว่าจัดของในห้องค้างอยู่น่ะ  เรากลับเลยดีกว่า

     

    อ้าว หรอ งั้นก็ไปเถอะ  เราไม่ไปส่งนะ

     

    ชานยอลส่งยิ้มบางๆก่อนจะเดินตรงไปที่ระเบียงด้วยควมเคยชิน  หากแต่พอจะดึงม่านออกก็ต้องชะงัก  ใบหน้าหล่อเหลาหันมายิ้มแห้งๆให้แบคฮยอนที่ยืนมองขำๆ ขายาวก้าวกลับไปออกทางประตูเหมือนเช่นตอนมา

     

    คนตัวเล็กมองตามผ่นหลังกว้างของร่างสูงโปร่งที่เดินพ้นไปจากประตู  เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสบายใจที่ได้มองชานยอลแบบนี้  เป็นครั้งแรกที่รู้สึกสบายใจยามพูดคำว่าเพื่อน 

     

    เป็นเพื่อนกันจริงๆแบบนี้มันก็ไม่เลวเลย


     

    คริสค่อยๆแง้มประตูออกมาก่อนจะกลับมาทิ้งตัวนอนบนที่นอนเช่นเดิม  แบคฮยอนที่เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีเบื่อหน่ายจึงรีบหาลู่ทางให้  ขาเรียวเดินไปสำรวจดูต้นทางตรงระเบียง ทันทีที่เปิดออกไปดูก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคยองซกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงห้องของชานยอล  ดวงตากลมโตมองมาที่เขานิ่งๆ

     

    แบคฮยอนไม่รู้ว่าคยองซูจะจ้องเขาแบบนี้ไปเพื่ออะไร  แต่ความสงสัยก็ต้องถูกโยนทิ้งไปเมื่อคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามยืนท้องแขนออกมาข้างหน้า  แม้จะห่างกันพอสมควรและอยู่ท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสงรำไรพอให้มองเห็น  แต่ปบคฮยอนก็รู้ว่าสิ่งที่คยองซุยื่นมานั้นเป็นอย่างไร 

     

    แขนที่เขาจำได้ดีว่ามันเต็มไปด้วยร่องรอยจากการกรีดข้อมือ

     

    ทั้งที่ปกติแล้วฝ่ายนั้นจะใส่แต่เสื้อแขนยาวปิดไปจนเกือบสุดปลายนิ้ว  หากแต่เวลานี้กลับถลกแขนเสื้อขึ้นไปจนถึงข้อศอก  รอยแผลมากมายจากการทำร้ายตัวเองช่างดูน่าขนลุก  ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คยองซูกรีดข้อมือของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนั้น 

     

    ตอนนี้สิ่งที่ชวนให้ผวาไม่ใช่เพียงแค่แขนที่ถูกยืนออกมา  มืออีกข้างของคยองซูกำลังถือมีดสำหรับปอกผลไม้เอาไว้  แล้วค่อยๆจับมันมาประชิดข้อมือของตนเอง  แบคฮยอนเบิกตากว้างกับสิ่งที่กำลังเห็น  คยองซุกำลังจะกรีดข้อมือต่อหน้าต่อตาเขาอย่างนั้นหรือ เมื่อเห็นคมมีดรดลงบนผิวเนื้อของอีกฝ่าย แบคฮยอนก็ได้แต่กรีดร้องสุดเสียง

     

    อย่า!!!!!!!!!!!!!!

     

    คริสที่กำลังนอนเคลิ้มหลับอยู่สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องดังของแบคฮยอน  ขายาววิ่งออกมาที่ระเบียงอย่างรวดเร็ว ดวงตาเบิกมองภาพตรหน้าที่เกิดขึ้นบนระเบียงห้องฝั่งตรงข้าม  แฟนของปาร์คชานยอลนั่นกำลังจะกรีดข้อมือตัวเอง  หากแต่ทำเพียงแค่แตะคมมีดลงไปเท่านั้น  ยังไม่ได้เชือดมันแต่อย่างใด  ร่าง สูงเห็นเจ้าของดวงตากลมโตนั้นมองตนสลับกับแบคฮยอนไปมาก่อนจะกระตุกยิ้มมุม ปาก ร่างเล็กนั้นหยุดการกระทำท้งหมดก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องของน้องชายเขา ตามเดิม

     

    คริสสัมผัสได้ถึงอาการสั่นกลัวของคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า  มือหนาจับไหล่บางพลางบีบเบาๆ  แบคฮยอนทิ้งแรงทั้งหมดสู่งอ้อมอกของคริสอีกครั้ง  ร่างเล็กยืนพิงคนตัวโตนิ่งราวกับยังไม่อาจดึงสติกลับมาได้ทั้งหมด 

     

    ผมไม่เป็นไร  ผมแค่ตกใจ  ผมไม่เป็นไรครับ

     

    มึงไปพักเถอะ  เดี๋ยวกูจะไปแล้วคริสบอกในขณะที่ค่อยๆพยุงแบคฮยอนให้กลับเข้ามานั่งตั้งสติในห้อง

     

    ร่างสูงทิ้งตัวนั่งคุกเข่าลงกับพื้นด้านหน้าคนตัวเล็กที่นั่งอ่อนแรงอยู่ที่ขอบเตียง  มือหนาลูบเบาๆที่กลุ่มผมนุ่มแล้วเลื่อนมาปัดผมหน้าที่บดบังความงามบนใบหน้านี้ออกไป

     

    ไม่ต้องกลัว  กูอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง  ถ้ามีอะไร  ตะโกนเรียกดังๆเลยนะ

     

    แบคฮยอนทำเพียงแค่พยักห้าตอบไป  ใจจริงไม่อยากให้อีกคนกลับไปเสียด้วยซ้ำ  หากแต่จะร้องขอให้อยู่ด้วยกันก็กลัวคริสจะลำบากใจ เขาไม่รู้ว่าคยองซูทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร เขารู้แค่เพียงว่ามันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

     

    กูออกไปแล้วก็ล็อคประตูให้เรียบร้อยนะ

     

    ใบหน้าน่ารักพยักหน้าตอบกลับไปอีกครั้ง  คริสผละจากคนตัวเล็กแล้วออกไปทางระเบียงที่ตนปีนเข้ามาก่อนหน้านี้  แบคฮยอนเดินตามไปช้าๆก่อนจะล็อคประตูกระจกแล้วรูดม่านปิดเอาไว้  ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้น  หลังบางพิงกระจกเอาไว้อย่างอ่อนแรง  การอยู่ลำพังในตอนี้สำหรับเขามันชวนให้หวาดหวั่นเหลือเกิน

     

    .

    .

    .

    บนโต๊ะอาหารที่แสนอึดอัดขัดกับบรรยากาศชื่นมื่นของยามเช้านั้นเป็นเรื่องปกติของครอบครัวปาร์คเสมอ  ยิ่งเวลานี้มีสมาชิกเพิ่มมาอีกยิ่งชวนให้อึดอัด  จากที่ไม่ค่อยพูดกนอยู่แล้ว  พอมีคยองซูเพิ่มเข้ามาก็กลายเป็นว่าเงียบกันไปหมด นายพลปาร์คหันไปมองตามหลังแม่บ้านที่ยกถาดอาหารเช้าออกไปทางประตู  ก็คงเป็นเรื่องปกติ  เพราะสมาชิกอีกคนไม่เคยมาร่วมโต๊ะอาหารที่เรือนใหญ่เลยสักครั้ง


     

    เดี๋ยวเสียงทรงอำนาจรั้งให้หญิงวัยกลางคนในชุดเมดต้องชะงัก

     

    คะ ท่าน

     

    ไม่ต้องยกไป เอาสำรับมาจัดที่โต๊ะแทน  แล้วไปตามคุณอี้ฟานมา  บอกว่าฉันเชิญสิ้นคำสั่งของนายพล  ปาร์คเฮราก็หันไปมองอย่างไม่ชอบใจนัก

     

    แค่เด็กคยองซูนี่ก็ทำอึดอัดใจมากพอแล้ว  นี่ยังจะมีเพิ่มมาอีกคน

     

    พินาศกันไปให้หมด

     

    หวังว่าลูกชายสุดที่รักของคุณจะเป็นเด็กมีมารยาทพอนะคะ

     

    ท่านนายพลไม่ตอบอะไรออกไป  เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจสักนิดว่าอู๋อี้ฟานจะตอบรับคำเชิญของเขา เด็กคนนั้นดื้อเสียยิ่งกว่าอะไร  เรียกเขาว่าพ่อสักคำยังไม่เคย

     

    แต่ ไม่นานร่างสูงใหญ่ของคริสก็เดินเข้ามาเงียบๆสร้างความแปลกใจให้หลายคนที่คิด ว่าอย่างไรเสียคุณชายคนโตของบ้านก็คงไม่มีทางมาร่วมทานอาหารเช้ากับคนอื่นๆ แน่  คริสนั่งลงตรงเก้าอี้ว่างข้างๆเฮราก่อนจะหันไปทักทายด้วยเจตนาก่อกวนอารมณ์ของคุณหญิง

     

    โอ้โห คุณหญิงนี่แต่งตัวสวยแต่เช้าเลยนะครับ  ท่าทางจะตื่นเต้นมากที่ผมจะมีกินข้าวด้วย

     

    เฮ ราถลึงตาใส่เด็กตัวแสบที่พูดจากวนประสาทตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเพราะเห็นสีหน้ายียวนของอีกฝ่ายที่ช่างไม่รู้จักเคารพผู้ หลักผู้ใหญ่

     

    เงียบ กันทั้งโต๊ะเลย กินข้าวสิครับ กิน กิน กินคริสเอ่ยชวนแล้วเริ่มจัดการกับมื้อเช้าของตนเองทันทีโดยไม่สนใจผู้ร่วม โต๊ะคนอื่นๆที่มีท่าทีอึดอัด

     

    นายพลปาร์คมองลูกชายคนโตของตนที่มีกิริยาท่าทางไม่เหมาะสมนั้นอย่างอ่อนใจ เขาตั้งใจจะชวนอี้ฟานมาร่วมโต๊ะเพื่อให้สร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน  หากแต่เขาคงประเมินไอ้ตัวแสบนี่ต่ำเกินไป  อู๋อี้ฟานเป็นจอมวายร้ายยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้มากที่ทำให้คุณหญิงเฮราผู้สงบนิ่งนั้นหัวเสียได้ตั้งแต่ประโยคแรกที่ออกจากปาก

     

    วันนี้ต้องไปเรียนหรือเปล่าเมื่อไม่รู้ว่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้อย่างไร  นายพลปาร์คจึงเปิดบทสนทนาพื้นๆก่อน

     

    ไม่รู้  ดูก่อนคริสไม่ได้ใส่ใจจะตอบนัก

     

    น่าจะย้ายมาเรียนที่เดียวกับชานยอลนะ

     

    เพื่อ? ทำไม ย้ายไปแล้วคุณจะได้ควบคุมผมง่ายๆสินะ  พอเหอะ  ดูลูกชายคุณสิ  ทุกวันนี้มันแทบจะคิดเองไม่เป็นแล้วร่างสูงทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะพาดพิงไปถึงชานยอลที่นั่งทานอาหารเงียบๆ

     

    ช่วยสุภาพด้วยชานยอลที่ได้ยินว่าคริสพูดถึงตัวเองเช่นนั้นก็ละจากอาหารรสเลิศทันที

     

    ฉันสุภาพได้อยู่แล้ว  แต่ช่วยบอกแฟนนายด้วยว่าสุภาพกับฉันหน่อย คนจะกกินข้าวมานั่งจ้องอยู่ได้   โรคคคค   จิต หรือไง

     

    ชานยอลหันไปมองคยองซูทันทีว่าเป็นดังที่คริสบอกหรือไม่  คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะมีท่าทีอึกอักเหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง

    จ้องอี้ฟานทำไมหรือคยองซู

     

    คือเรา แค่นึกได้ว่าเพราะคุณอี้ฟานเป็นพี่ชายของชาน  ก็เลยสนิทกับแบคฮยอนด้วยน่ะ

     

    ทั้งโต๊ะเงียบสนิทเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของคยองซู  ไม่เคยมีใครรู้ว่าอู๋อี้ฟานไปสนิทสนมกับคุณหนูของบ้านบยอนนั้นตอนไหนอย่างไร

     

    ก็เมื่อคืนเห็นคุณอี้ฟานอยู่  ในห้อง  กับแบคฮยอนคยองซูก้มหน้าก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ

     

    นายพลปาร์คและคุณหญิงนั้นหันไปมองผู้ตกเป็นจำเลยทันที  คริสไม่ได้มีท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจอะไร เขาไม่จำเป็นต้องเดือนร้อนกับการกระทำโง่ๆของคยองซู  เพราะบัดนี้มีคนที่ร้อนใจอย่างถึงที่สุดนั้นลุกพรวดออกไปจากโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

     

    ชานยอล!”คยองซูเรียกตามคนที่พรวดพราดออกไปอย่างตกใจ

     

    คริสได้แต่หัวเราะเบาๆในลำคออย่างสมเพช  ถ้าหากโดคยองซูคิดจะเป็นตัวร้าย เขาจะบอกเลยว่ามันไม่มีทางประสบความสำเร็จ  ดูได้จากเหตุการณ์นี้  ที่เด็กคนนี้ทำมันช่างโง่เง่าและไร้ประโยชน์สิ้นดี

     

    ชานยอลพุ่งตรงไปยังบ้านหลังข้างๆทันที  ร่างสูงเดินดุ่มผ่านหน้าเหล่าแม่บ้านที่ได้แต่งงงวยว่าคุณชายของตระกูลปาร์คมีธุระปะปังอะไรกับคุณหนูของพวกตนแต่เช้า  หากแต่ไม่มีใครไถ่ถามอะไรเมื่อคุณชายดูท่าทางร้อนใจเสียเหลือเกิน

     

    คน ตัวเล็กที่กำลังจัดแจงกินยาหลังอาหารมื้อเช้าอยู่แทบจะสำลักน้ำออกมาเมื่อ อยู่ดีๆร่างสูงโปร่งของชานยอลก็พรวดเข้ามาทั้งๆที่ยังไม่เคาะประตูเป็น สัญญาณให้เลยสักนิด  ดวงตาเรียวมองอีกคนอย่างต้องการคำอธิบายว่าเหตุใดคนตัวสูงถึงได้รีบร้อนจนลืมรักษามารยาทเช่นนี้


     

    อู๋อี้ฟาน

     

    ชื่อที่ชานยอลเอ่ยออกมาทำให้คนฟังต้องชะงักไป  แบคฮยอนรู้จากผู้เป็นแม่ว่าพี่ชายของชานยอลนั้นชื่ออู๋อี้ฟาน  ซึ่งก็หมายถึงว่ามันเป็นชื่อจริงของคริส  ใจกระตุกวูบทันที  รู้สึกว่าคงไม่ใช่เรื่องดีที่อยู่ๆชานยอลมาหาเขาด้วยธุระของพี่คริสเช่นนี้

     

    รู้จัก กันงั้นหรอ เมื่อคืนอี้ฟานอยู่ในห้องแบคจริงๆหรอถามออกไปด้วนเสียงสั่นพร่า ชานยอลกลัวเหลือเกินว่าเขาจะต้องสูญเสียอะไรไปให้พี่ชายต่างมารดาคนนั้นอีก  ตั้งแต่อู้อี้ฟานก้าวเข้ามา เขาก็รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างไม่เหมือนเดิม เขาสูญเสียความหวังของผู้เป็นพ่อที่เคยมีต่อเขาในฐานะลูกชายคนเดียวไปแล้ว เขาจะมาเสียคนที่เขารักให้อู้อี้ฟานอีกไม่ได้เด็ดขาด 

     

    ทำไม อยู่ดีๆถึงมาถามเรื่องนี้ล่ะเพราะไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรแบคฮยอนจึงเลี่ยง คำถามไปเสียดื้อๆและเพราะเหตุนี้ชานยอลจึงเดาได้ไม่ยากว่ามันคงเป็นเรื่อง จริงดังที่คยองซูบอก 

     

    ความ ขุ่นเคืองในใจกำลังเข้าครอบงำเขาอีกครั้งดังเช่นเหตุการณ์ผ่านๆมาที่เขา ควบคุมความโกรธเอาไว้ไม่ได้และระเบิดมันออกมาจนคนรอบข้างพาลต้องเดือดร้อน กันไปหมด

     

    เรื่องจริงสินะ ไปสนิทกับมันตอนไหนหรอ  ถึงได้เข้ามาหากันถึงในห้องน่ะทำไมแบคฮยอน! ทำไมต้องเป็นมัน  ทำไม!

    หยุดหยาบคายนะชานยอล! พูดดีๆสิ  พี่คริสเป็นพี่ของชานนะ

     

    คริส

     

    ชื่อที่แบฮยอนใช้เรียกอู้อี้ฟานนั้นช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน  เหมือนกับชื่อที่เขาเคยได้ยินจากคยองซู ว่าเป็นคนที่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับแบคฮยอน  เหมือนกับชื่อที่ทำให้เขาต้องไประเบิดอารมณ์ใส่อีกฝ่ายเมื่อหลายวันก่อน

     

    มันนี่เอง ไอ้คนที่ชื่อคริส  คือไอ้อี้ฟานนี่เอง ปกป้องมันขนาดนี้  คงยอมมันไปถึงไหนต่อไหนแล้วสินะ

     

    เพี๊ยะ!!!

    มือเรียวฟาดลงบนใบหน้าหล่อจนสะบัดไปอีกทาง

     

    เกลียดที่สุดเวลาที่ชานยอลพูดจาดูถูกกันแบบนี้  หากเป็นคนอื่นเขาคงไม่รู้สึกเสียใจอะไร  แต่นี่คือปาร์คชานยอล  แม้จะมีหลายต่อหลายครั้งที่ร่างสูงพูดจาลืมถนอมน้ำใจเขา  หากแต่ก็ยังไม่เคยว่าร้ายกันถึงขนาดนี้ 

     

    เราเกลียดชานยอล  เกลียดที่สุด

     

    เพราะคำว่าเกลียดที่ถูกส่งออกมาด้วยน้ำเสียงแห่งความเสียใจ  ทำให้ชานยอลเริ่มรู้สึกตัวว่าตัวเองปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจนเผลอพูดจาว่าร้ายคนตัวเล็กนี่อีกแล้ว เขาไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้  เขาแค่อยากจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียแบคฮยอนไป  หากแต่ยิ่งพยายามมันก็ยิ่งแย่ยิ่งกว่าเดิม  แบคฮยอนพูดว่าเกลียดเขา  ฮึสมควรถูกเกลียดแล้วปาร์คชานยอล

     

    แบค

     

    ออกไปจากห้องเรา

     

    แบคฮยอน

     

    ออกไปสิ! เราไม่อยากเห็นหน้าชานอีก

     

    เอางั้นก็ได้  แต่รู้มั้ยบยอนแบคฮยอน

     

    ชานยอลกระตุกยิ้มอย่างที่แบคฮยอนคิดว่ามันช่างไม่น่ามองเอาเสียเลย  รอยยิ้มที่ไม่ได้อบอุ่นอีกแล้วในสายตาเขายิ่งมองก็ยิ่งชวนให้รู้สึกหวาดหวั่น

     

    เรื่องมันจะไม่จบแบบนี้แน่  ฉันจะไม่เสียนายให้ใครทั้งนั้นร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นก่อนจะออกจากห้องไปตามความต้องการของแบคฮยอน

     

    คนตัวเล็กรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินน้ำเสียงของชานยอล  ซ้ำยังไม่สบายใจกับสรรพนามที่ชานยอลใช้แทนตนเองและเรียกเขาเช่นนั้น



    เป็นชานยอลที่เขาไม่รู้จักอีกแล้วสินะ





     

    ชานยอลกลับไปที่บ้านอย่างรีบร้อน  ดวงตากลมโตมองเลยตัวบ้านไปยังเรือนหลังเล็กที่บัดนี้มีร่างสูงของอีกคนกำลังยืนอยู่ด้านหน้า  สายตาที่จดจ้องกันนิ่ง ก่อนที่ชานยอลจะเป็นฝ่ายละสายตาเข้าบ้านมาก่อนทิ้งให้อีกคนยืนอัดมะเร็งเข้าปอดอยู่คนเดียว


     

     คุณหญิงลุกพรวดทันทีที่เห็นว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนกลับเข้ามาแล้ว  ในขณะที่นายพลมองชานยอลที่กำลังเดินตรงเข้าหานิ่งๆ  ร่างสูงหยุดยืนอย่างมาดม่นตรงหน้าผู้เป็นพ่อแม่

     

    ผมอยากหมั้นกับแบคฮยอนให้เร็วที่สุดครับ

    !!!


     

    ผู้ใหญ่ทั้งสองชะงักไปกับคำขอของลูกชายที่ดูเหมือนจะไม่ได้เพียงแค่เอ่ยออกมาเล่นๆ  ไม่ต่างอะไรกับคนที่บัดนี้กำลังยืนนิ่งอยู่ตรงบันได  คยองซูกำลังจะลงมาชั้นล่าง  แต่ก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจนั้นเพราะประโยคที่เขาไม่เคยปรารถนาจะได้ยิน



     

    แกลืมไปหรือเปล่าว่ายังมีโดคยองซูอยู่ที่นี่อีกคน  จะให้ฉันไปพูดกับบ้านบยอนยังไงในเมื่อตอนนี้แฟนแกมากินมาอยู่ในบ้านเราแบบนี้

     

    คนตาโตไม่รู้ว่าตอนที่ทั้งสามคนคุยกันอยู่นี้แสดงสีหน้าท่าทางอย่างไ  หากแต่ฟังจากน้ำเสียงก็พอรู้ว่าไม่พิสมัยในตัวเขาเลยสักนิด แต่ที่ทำให้แทบคลุ้มคลั่งคือประโยคที่แฟนตัวสูงของเขาเอ่ยตอบออกไป

     

    ถ้าพ่อยอมไปพูดให้  ผมสัญญาว่าคยองซุจะออกจากที่นี่ไปภายในสามวัน

    !!!

     

    ร่าง เล็กราวกับเด็กหญิงนั้นเร่งฝีเท้ากลัวเข้ามาในห้องของตนที่ถูกจัดเอาไว้ให้ ก่อนเริ่มหยิบเอาหมอนและผ้าห่มนั้นโยนไปมาเพื่อระบายอารมณ์ เกลียดเหลือเกิน บยอนแบคฮยอน  เกลียดที่ไม่ว่าอย่างไรชานยอลก็รักแบคฮยอนมากกว่า  เกลียดที่ตัวเองมาทีหลัง  เกลียด!

     

    ตาโตทอดมองออกไประเบียงห้อง  เมื่อได้ยินเสียงเห่าเล็กๆดังลอดเข้ามา ขาเรียวก้าวไปที่กระจกใส  มองไปยังบ้านที่อยู่ติดๆกัน  ลูกสุนัขสามตัวกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานโดยอยู่ในความดูแลของเหล่าแม่บ้าน

     

    หมาของแบคฮยอนล่ะสินะ  ช่างดูแลกันดีเหลือเกิน

     

    คยองซูออกไปจากห้องอีกครั้ง  หากครั้งนี้เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน  ย่างก้าวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ใครมาพบมาเห็นเป็นพยานยืนยันในสิ่งที่เขาทำ  มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครก็เข้ามายังภายในครัว  มองหาอาหารที่พอจะใช้ได้ก่อนจะตัดสินใจหยิบจานเนื้อย่างที่ดูเหมือนจะเหลือจากเมื่อคืนนี้  ร่างเล็กนำเอาจานเนื้อดังกล่าวมาที่โรงเกษตร

     

    วางจานเนื้อลงก่อนจะหยิบเอาถุงมือคู่ใหญ่มาสวมเอาไว้  สำรวจหาของที่ต้องการตามชั้นวางต่างๆก่อนจะแย้มยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อเห็นสิ่งที่ต้องการ

     

    เมโทมิล

     

    คนตัวเล็กหยิบขวดเมโทมิลที่ดูท่าว่าจะผสมน้ำเอาไว้แล้วนั้นออกมา  เปิดฝาแล้วเทพรวดลงไปในจานเนื้อย่างที่ว่าเอาไว้จนเกือบหมดแล้วเก็บขวดไว้ที่เดิม

     

    คยองซูหยิบจานเนื้อเดินตรงไปยังกำแพงที่กั้นระหว่างบ้านสองหลังเอาไว้ ก่อนจะเหวี่ยงบรรดาเนื้อทั้งหลายข้ามกำแพงไปยังบ้านอีกหลัง  ไม่ต้องรอชมผลงานอะไร  ร่างเล็กก็รีบเอาทั้งจานทั้งถุงมือรวบทิ้งลงไปในถึงขยะทันที

     

    ขาเรียวก้าวช้าๆอย่างร่าเริงและแสนมีความสุข  โยกศีรษะซ้ายขวาไปมา ด้วยอารมณ์ที่ชื่นมื่น  เมื่อกลับเข้าห้องอีกครั้ง  คยองซูก็เดินไปเปิดประตูกระจกทันที  อย่างฟังเหลือเกิน  เสียงหวีดร้องของคนพวกนั้น 

     

    หวังว่าลูกสุนัขพวกนั้นจะเป็นเป็นจอมตะกละนะ

     

    ไม่นานเกินรอเพราะปริมาณของเมโทมิลที่เทลงไปการันตีได้ว่าออกฤทธิ์รวดเร็วทันใจ

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ช่วยด้วย  ใครก็ได้  ลูกหมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ ก็ไม่รู้!!!


    TBC. 


    #ฟิคสีแดง

    ปล.เจอคำผิดบอกด้วยนะคะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×