ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF EXO by น้ำจ๊ะ แม่ไอ้แดง [NOW: แฟนเกือบเก่า ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #11 : [OS Special Halloween] I'm in love with a monster

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 58





    [OS Special Halloween]   I’m in love with a monster

     

    “กูไม่ชอบทะเล” 

     

    เสียงเอาแต่ใจดังขึ้นทำลายบรรยากาศจนผู้ร่วมทางพากันหยุดเดิน  ทุกสายตาหันกลับมามองคนตัวเล็กที่เดินรั้งท้ายด้วยใบหน้างองุ้ม ดวงตาสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจ้องกลับไปไม่แคร์ใครทั้งสิ้น 

     

    “ตลกหรอแบคฮยอน   มึงนั่นแหละที่ร่ำร้องอยากมาทะเล  แล้วนี่เป็นห่าไรครับ”  เพื่อนที่เดินนำอยู่เอ่ยถามอย่างข้องใจ

     

    “กูไม่ชอบทะเลที่นี่  กูอยากเที่ยวทะเล  แต่ไม่ใช่ที่นี่  มันไม่มีอะไรสักอย่าง  หาดก็สกปรก ทะเลก็เล่นไม่ได้  เรือโทรมๆอะไรก็ไม่รู้จอดอยู่เต็มไปหมด  มองไปก็มีแต่ป่า  ป่า” สายตามองเลยไปยังคนที่เดินนำอยู่หน้าสุด  ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ผิวสีเข้มจากการตากแดดตากลมโชว์หราเพราะร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์    “ป่าเถื่อนด้วย  นี่ก็จะมืดอยู่แล้ว  ไหนโรงแรม ไหนบ้านพัก ฮึ!  คืนนี้ต้องมุงใบจากนอนกันแล้วล่ะมั้ง”

     

    “ไม่ต้องห่วงครับ  ที่นี่ไม่มีต้นจาก  คุณจะได้ใช้ใบมะพร้าวแทน”  เสียงทุ้มจากชายเจ้าถิ่นนั้นเรียบนิ่งไม่สามารถบอกได้เลยว่าคนพูดรู้สึกอย่างไรในเวลานี้  “อีกอย่าง  ผมคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ชายหาดของเราสวยไม่พอ  แต่คุณคงไม่มีทางเลือกมากหลังจากเรือของคุณนั้นน้ำมันหมดไปก่อนที่จะถึงเกาะปลายทาง”

     

    ชายคนนี้พูดไม่ผิดสักนิด  และนั้นก็ทำให้แบคฮยอนยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก  ตั้งแต่ที่เรือของพวกเขาดันเกิดน้ำมันหมดอยู่กลางทะเล  ซ้ำโทรศัพท์ก็อับสัญญาณจนไม่อาจติดต่อกับโรงแรมที่จองเอาไว้  จะว่าโชคดีก็ใช่ที่ชายคนนี้ขับเรือหาปลาผ่านมาเจอเข้า  แต่ก็โชคร้ายอยู่ดีที่อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะพาพวกเขาไปส่งโดยให้เหตุผลว่าใกล้ค่ำและพายุกำลังมา  โกหกทั้งนั้น  เขาไม่เหาพายุที่ไหนเลยสักนิด  สุดท้ายก็มาพักที่เกาะโง่ๆ ดูร้างๆโทรมๆเหมือนจะมีผีสิง  บางทีพวกเขาอาจจะถูกหลอกมาฆ่าแบบในหนังปิดเกาะเชือดอะไรแบบนี้  จะไปไว้ใจได้ยังไง

     

    “อย่าเรื่องมากเพื่อนรัก  กูขอร้อง” 

     

    “สาบานว่าได้กลับบ้านเมื่อไร  กูจะเลิกคบมึงจงอิน”  แบคฮยอนแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่เอาแต่พูดขัดเขาอยู่เรื่อย  เซฮุนกับคยองซูก็เดินฟังเขาบ่นได้ไม่เห็นจะขัดอะไร  แต่งจงอินนั้นไม่เคยตามใจเขาอย่างคนอื่นสักนิด  จริงๆแล้วจะขัดกันก็ไม่ว่า  หากแต่มันต้องไม่ใช่ต่อหน้าคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น  ไอ้ชาวเกาะท่าทางป่าเถื่อนนั่น!  สายตาที่หมอนั่นใช้มองมาช่างไร้มารยาทและดูล่วงเกินอย่างถึงที่สุด  ไม่ชอบใจจริงๆ

     

     

     

    ทั้งหมดเดินกันมาจนถึงบ้านไม้หลังใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย  กลุ่มแขกจำเป็นตื่นตาตื่นใจไม่น้อย  ใครจะคิดว่าเกาะที่ดูร้างผู้คนจะมีบเนหลังใหญ่และสวยงามขนาดนี้  มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรีบโค้งให้อย่างสุภาพ 

     

    “แขกของนายหัวหรอครับ”  ประโยคที่ชายคนนี้เอ่ยถามทำเอาหลายคนต้องขมวดคิ้ว  นายหัวงั้นหรือ  เขาหมายถึงใครล่ะ  ตรงนี้มีแค่แขกสี่คนและชายเปลือยท่อนบนอีกหนึ่งคน 

     

    อย่าบอกนะว่า….

     

    “คุณเป็นเจ้าของเกาะหรอเนี่ย”  เป็นจงอินที่ถามอย่างตื่นเต้น 

     

    “ก็แค่เกาะร้างๆกับบ้านหลังเดียว  มึงจะตื่นเต้นอะไร”  ขอให้ได้ขัด  บางทีฉายาของแบคฮยอนคงเป็นสก็อตไบรท์แน่ๆ  ลองได้ไม่ถูกชะตาใครแล้วก็ไม่มีทางได้สงบสุข  ตามกัดจิกไม่ปล่อยง่ายๆจนกว่าจะมีใครยอมแพ้ราบคาบกันไปข้าง

     

    นายหัวหน้าดุนั้นไม่ได้โต้ตอบใดๆ  กระตุกยิ้มเล็กๆแล้วเดินนำเข้าไปในบ้านทันที  ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเมื่อตั้งใจเอาไว้แล้วว่าคืนนี้จะสั่งสอนคนอวดดีทั้งคืน  ยอมรับว่าใบหน้าจิ้มลิ้มกับท่าทางพยศแบบนั้นดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น  มันช่างน่ารังแกให้หอบสะอื้นจนขาดใจ 

     

    “ผมขอไปทำธุระสักครู่  เชิญพวกคุณทานอาหารกันได้เลย  ซายังจะจัดการดูแลให้  รวมถึงที่นอนด้วย”

     

     

    “เชิญทางนี้ครับ” 

     

    ชายที่ชื่อซายังเดินนำแขกเข้ามาภายใน  ก่อนจะพาไปยังโต๊ะอาหารโดยให้วางสัมภาระเอาไว้ที่ห้องโถง  โชคดีที่พวกเขาไม่ได้มีข้าวของมากมาย  ตั้งใจจะมาเที่ยวกันแบบเด็กๆจึงพกแค่เป้สะพายหลังคนละใบเท่านั้น  เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกของพวกเขา  เพราะเป็นการฉลองจบไฮสคูล พ่อแม่ของจงอินจึงใจดีทุ่มทุนออกค่าที่พักสุดหรูซ้ำยังให้เรืออีกหนึ่งลำไว้ใช้ส่วนตัว  แต่เด็กก็คือเด็ก  พวกเขารู้แค่ใช้เท่านั้น  สุดท้ายก็มาน้ำมันหมดโง่ๆทั้งที่ยังไม่ถึงที่พัก  ใครจะไปรู้ว่าตระกูลคิมรวยขนาดนั้นจะให้ยืมเรือแต่ไม่เติมน้ำมันเต็มถังไว้ให้  ทริปในฝันเป็นอันต้องพังทลายเพราะดันมาตายตอนจบแบบนี้

     

    “บ้านใหญ่ดีนะครับ”  คยองซูมองไปรอบๆก็เอ่ยชื่นชมขึ้นมา 

     

    “นายหัวออกแบบเองน่ะครับ  ตอนนั้นยังวัยรุ่นไฟแรง  จบมาใหม่ๆก็ร้อนวิชา  ผ่านมาก็สิบกว่าปีแล้วบ้านก็ยังสวยเหมือนเดิม”  ซายังเล่าไปก็จัดสำรับไป  ไม่ค่อยมีคนมาที่เกาะนี้บ่อยนัก  นานๆเขาจะมีเพื่อนคุยสักที

     

    “เขาจบออกแบบแต่มาอยู่เกาะแบบนี้หรอครับ”  เซฮุนเอ่ยถามในสิ่งที่เพื่อนอีกสามคนก็คงสงสัยเช่นกัน  อีกอย่างนอกจากบ้านหลังนี้ ทั้งเกาะก็ไม่มีอะไรสักอย่าง  ไม่รู้ว่านายหัวคนนั้นทำมาหากินอะไร

     

    “ตระกูลปาร์คก็มีธุรกิจท่องเที่ยวครับ  เกาะผีเสื้อที่พวกคุณกำลังไปก็ของนายหัวนะครับ  รีสอร์ทนั่นฝีมือออกแบบของนายหัวด้วย   นอกจากนี้ก็มีเกาะไข่มุกที่เพาะเลี้ยงหอยมุกรายใหญ่ของแถบตะวันออก  ไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะครับ”

     

    แขกทั้งสี่ได้แต่กระพริบตาปริบๆกับเรื่องที่กำลังฟัง  ในใจก็คำนวณถึงความร่ำรวยจากธุรกิจเหล่านั้น  ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มที่พวกเขาคิดว่าเป็นแค่คนหาปลาธรรมดานั้น กลับกลายเป็นมหาเศรษฐี  แน่นอนว่าพอได้ยินชื่อตระกูลปาร์คก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก  เกาะผีเสื้อที่ตั้งใจจะไปพักนั้นก็รู้ว่าเป็นของตระกูลปาร์ค  อาจโชคไม่ดีนักที่ไปไม่ถึงเกาะผีเสื้อแต่ก็ได้เจอกับเจ้าของเกาะตัวเป็นๆ ซ้ำยังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านเขาเสียนี่

     

    “งั้นที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวหรอครับ” 

     

    “ครับ  นี่คือเกาะฉลาม  มาจากฉายาของนายหัวน่ะครับ”

     

    ในฐานะที่ครอบครัวของพวกเขาก็อยู่ในวงการธุรกิจใหญ่  ถึงจะเป็นแค่เด็กมัธยมแต่ก็พอมีความรู้   สำหรับชื่อเสียงของปาร์คชานยอล  ประมุขแห่งตระกูลปาร์คคนปัจจุบัน  ฉายาที่ใครๆก็รู้กันดีนั่นคือ ฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก  ตอนนี้พวกเขาได้มาเห็นกับตาใกล้ๆ แม้จะแสดงออกอย่างสุภาพแต่ก็มีภาพลักษณ์ที่ดุดันและแข็งแกร่ง  ก็ถือว่าสมฉายาเขาล่ะ

     

    “คุยกันเพลินเลยนะครับ”  นายหัวชานยอลเดินเข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของผู้ดูแลอย่างคิมซายังและแขกทั้งสี่  บัดนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงผ้ายืดสบายตัว  นั่งลงตรงหัวโต๊ะซึ่งเป็นที่ประจำในขณะที่สายตาก็มองไปยังเด็กน้อยจิ้มลิ้มที่เสหน้าหันหนีไปทางอื่น 

     

    พยศไม่เลิก

     

    “นายหัวแต่งแบบนี้แล้วหล่อเชียวครับ  ดูดีกว่าตอนถอดเสื้อเดินตากแดดเป็นไหนๆ  แบบนี้จะได้หานายหญิงให้ตระกูลปาร์คได้สักที”  ซายังเอ่ยอย่างติดตลก  แต่ก็หวังเอาไว้จริงๆว่านายหัวของเขาจะหาคนมาอยู่เคียงข้างกันเสียที  อายุก็ปาไปสามสิบหกสามสิบเจ็ดแล้วแต่ยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน 

     

    “อะไรกัน  ยังไม่แต่งงานอีก  ได้ข่าวว่าแก่แล้วนี่ครับ”  แบคฮยอนเอ่ยพลางกระตุกยิ้ม  แขวะนิดแขวะหน่อยนี่สะใจเขานักล่ะ

     

    “แก่แต่แรงไม่ตกหรอกนะครับ”  ชานยอลพูดกับคนตัวเล็กจอมดื้อพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์เสียจนอีกฝ่ายเบ้ปากใส่ 

     

     

    ทั้งหมดทานอาหารค่ำจนเต็มอิ่มแล้วจึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน  แม้บ้านจะใหญ่โตแต่ก็มีห้องรับรองแค่สองห้องเท่านั้น  เซฮุนและคยองซูนอนห้องหนึ่ง  ส่วนจงอินและแบคฮยอนก็นอนด้วยกันอีกห้องหนึ่ง  ถึงจะรักความเป็นส่วนตัวและนอนคนเดียวจนเป็นนิสัย  แต่เอาจริงๆมันก็ไม่เลวนัก  ทั้งแบคฮยอนและจงอินเองก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมาในห้องเรียน  ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องตลกที่ไม่ว่าจะนึกถึงสักกี่ครั้งก็ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เสมอ  แม้จะอยากคุยกันไปเรื่อยแต่ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ทำเอาร่างกายฝืนไม่ไหว  จงอินนั้นชิงหลับไปก่อนจนอีกคนไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็พากันเข้าสู่ห้วงนิทราไปทั้งคู่ 

     

    .

    .

    .

     

    แสบตา

     

    นี่คือสิ่งที่แบคฮยอนรู้สึกพร้อมๆกับอาการโคลงไปมาคล้ายว่าเตียงนอนมันกำลังกลายร่างเป็นเรือลอยล้อคลื่นอยู่กลางทะเล  พยายามขยับตัวให้นอนได้สบายขึ้นแต่ก็ไม่ได้ผลสักนิด  ทำไมที่นอนมันถึงได้แข็งราวกับไม้กระดานทั้งๆที่ก่อนนอนเขาก็เห็นว่ามันนุ่มดีอยู่แท้ๆ  จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาเพราะแสงที่สาดเข้าใส่  ค่อยๆลืมตาช้าๆก็ยิ่งพาให้ข้องใจ  เจ้าแสงสีเขียวพวกนี้คืออะไรกัน  ทำไมมันถึงได้เข้ามาอยู่ในห้อง

     

    เดี๋ยวนะ!

     

    ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอน  มองไปรอบๆด้วยความตระหนก  รอบตัวมืดมิดไปหมดมีเพียงแสงไฟสีเขียวที่สาดส่องช่วยในการมองเห็น 

     

    “เป็นไปไม่ได้”  พึมพำกับตัวเองหลังจากพบว่าบัดนี้บยอนแบคฮยอนกำลังอยู่บนเรือหาปลา  เรือลำเดียวกับที่นายหัวชานยอลขับไปเจอพวกเขา  และที่แย่กว่าเรือหาปลาคือตอนนี้เขากำลังลอยลำอยู่กลางทะเล

     

    กลางทะเล!

     

    “ไงครับ  แบคฮยอน”  เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก  ใบหน้าหล่อเหลาดุดันฉายแววเจ้าเล่ห์จนเด็กน้อยขนลุกไปทั้งตัว  ชานยอลยิ่งก้าวเข้าไปแบคฮยอนก็ยิ่งถอยหนี 

     

    “อย่าเข้ามานะ  คุณทำบ้าอะไร  คุณเป็นคนพาผมมาที่นี่ใช่มั้ย”

     

    “แหมโทษผมคนเดียวก็ไม่ถูก  ถ้าคุณไม่หลับลึกจนเกินไปก็คงรู้สึกตัวตั้งแต่ผมเข้าไปอุ้มมาจากเตียงแล้ว”

     

    แบคฮยอนอยากจะกระโดดลงทะเลให้จบๆไปเสีย  ถูกเขาอุ้มจากเตียงพามาถึงกลางทะเลได้โดยไม่รู้สึกตัวสักนิด  พ่อแม่คงอับอายแน่ๆถ้ารู้ว่าลูกชายคนเดียวมันไม่ได้เรื่องขนาดนี้ 

     

    “แล้วคุณพาผมมาทำไม”

     

    “ผมสนใจคุณยังไงล่ะ เด็กน้อย”  เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหูจนคนถูกรุกรานผวาตัวไปตั้งหลักห่างกันอีกครั้ง

     

    “คุณมันโรคจิต!  พาผมกลับเข้าฝั่งเดียวนี้  ไม่งั้นผมจะกระโดดลงไปแน่”

     

    “โดดสิครับ  เผื่อคุณจะไม่รู้ว่าแถบนี้ฉลามชุมขนาดไหน”  ชานยอลไม่ได้พูดเล่น  ดูเหมือนหลายคนจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉายาของเขาถึงเป็นฉลาม  ทะเลฝั่งตะวันออกนั้นมีฉลามชุกชุมมากที่สุด  และเพราะเขาคุมเขตฝั่งนี้ทั้งหมดถึงถูกเรียกว่าเป็นฉลามไปด้วย  ที่นี่คือเขตฉลาม  แน่นอนว่าถ้าคนตัวเล็กกระโดลงไปล่ะก็คงไม่เหลืออะไรกลับไปหาพ่อหาแม่

     

    “คุณมันไม่ใช่แค่ฉลามอย่างที่ใครๆบอกหรอก  คุณน่ะมันปีศาจ  เป็นปีศาจฉลาม  ชั่วร้ายที่สุด”   แบคฮยอนค่อยๆขยับตัวเข้ามาด้านใน  ถึงจะรั้นสักแค่ไหนก็ต้องมีขอบเขต  ใครจะอยากเป็นอาหารฉลามกันเล่า  “ต้องการอะไรก็พูดมาเลย  จะได้จบๆแล้วก็กลับเข้าฝั่งสักที”

     

    “ผมบอกไปแล้ว ผมต้องการคุณ”  แขนแกร่งที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดจนไร้ชองว่าง  โน้มใบหน้าลงไปจรดปลายจมูกเข้ากับผิวแก้มน่าหยิก  เอ่ยกระซิบเสียงพร่าให้คนฟังขนอ่อนลุกชันไปทั้งร่าง  “ผมจะพากลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย  แต่คุณต้องเป็นเด็กดีของผมทั้งคืน”




    CUT





    ร่างกายเจ็บร้าวจนขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว  แบคฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว  แต่กลับไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา  เจ็บไปหมด  ยิ่งช่องทางด้านหลังนั้นยิ่งปวดแสบกว่าส่วนไหนๆ   มือสวยลูบไปทั่วก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มของที่นอน  อ่า กลับมาแล้วสินะ


     “ไหวมั้ย”  เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ  แน่นอนว่ามันคือเสียงของปาร์คชานยอล  ไอ้โรคจิต!


     ฝืนลืมตาจนสำเร็จก็พบว่ามันคือห้องที่ตนเข้ามานอนพร้อมจงอินเมื่อคืนนี้  แต่ตอนนี้เพื่อนซี้หายไปแล้ว  เหลือเพียงตนเองที่นอนแผ่หลาอยู่และร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้กับเตียงนอน   


     “จงอินไปไหน”


     “เพื่อนคุณข้ามเกาะไปแล้วตั้งแต่เช้า”


     “ห๊ะ!  สภาพร่างกายไม่อำนวยเท่าไรแต่เสียงยังคงโหวกเหวกโวยวายได้เหมือนเดิม  บอกเลยว่านี่แหละคือความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงของบยอนแบคฮยอน  พ่อแม่พูดเสมอว่าเขาตัวเล็กแต่เสียงดังเหมือนสุนัขพุดเดิ้ลไม่มีผิด  นั่นถือเป็นคำชมพุดเดิ้ลน่ารักจะตาย


     “ผมบอกเรื่องเมื่อคืนกับพวกเขาแล้ว  โทรบอกพ่อแม่คุณด้วย”


     “ห๊ะ!  ถามว่าตอนนี้แบคฮยอนยังจะพูดอะไรได้อีก


     “จะพาลูกคนอื่นไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วไม่รับผิดชอบได้ยังไงล่ะ  ผมคุยกับพ่อแม่คุณแล้ว  บริษัทเงินทุนบยอนกับธุรกิจน่านน้ำตะวันออก  ตกลงกันง่ายเลย”


     ไม่อยากจะเชื่อ  ทำไมทุกอย่างมันง่ายราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย  พ่อแม่รู้หรือเปล่าว่าลูกตัวเองโดนอะไรไปเมื่อคืนนี้  แน่นอนว่าแบคฮยอนไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ตกลงกันว่าอย่างไรแต่ก็คงไม่พ้นเรื่องธุรกิจ  ให้ตายสิ  นี่พ่อแม่เห็นอนาคตอันรุ่งเรืองของบริษัทสำคัญกว่าลูกคนเดียวไปแล้ว


     …….  หมดคำจะพูด


     “เดี๋ยวซายังจะยกอาหารกับยามาให้  กินซะ  หายแล้วจะพาไปดูเกาะนางเงือก”  นายหัวเอ่ยเสียงเรียบอย่างเคยแล้วออกจากห้องไปทันที


    เกาะนางเงือกอะไรกันอีกวะ   พูดเองเออเองอยู่คนเดียวแล้วก็เดินหนีไปซะเฉยๆ  ชีวิตบยอนแบคฮยอนจะมีอะไรน่าสงสารมากกว่านี้ได้อีก  ถูกขืนใจไม่มีใครช่วย  ตื่นมาเพื่อนก็ทิ้ง  พ่อแม่ก็ไม่แยแส    นี่แค่มาเที่ยวฉลองจบไฮสคูลทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้


     


    “ขออนุญาตนะครับ  ผมเอาอาหารกับยามาให้  ลุกไหวหรือเปล่าครับ”  ซายังวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห้นเด็กหนุ่มมีท่าทางอ่อนแรงเหลือเกิน


     “พอไหวครับ  ขอบคุณมากเลย”  แบคฮยอนยิ้มแห้ง  ค่อยๆพยุงตัวขึ้นช้าๆ  “ขอถามหน่อยได้มั้ยครับ  เกาะนางเงือกคืออะไรหรอ”


    “เกาะนางเงือก?   อ๋อ  ห่างออกไปอีกหน่อยนึงครับ  หายหัวเพิ่งซื้อเอาไว้สองสามเดือนก่อน  บอกว่าอายุเยอะแล้วอาจจะได้แต่งงานเร็วๆนี้เลยซื้อเอาไว้เป้นของรับขวัญเจ้าสาวน่ะครับ”


     “อ่อ  ครอบครัวบยอนก็ไม่ได้ฐานะขี้ริ้วขี้เหร่อะไร  เปิดบริษัทเงินทุนได้ก็ถือว่าร่ำรวยไม่น้อย  แต่ไอ้ที่ซื้อเกาะเป็นของขวัญอะไรแบบนี้มัน…. โคตรรวย  นายหัวชานยอลจอมเถื่อนนี่จะรวยเกินไปแล้ว  ยอม 


     “ผมขอตัวก่อนนะครับ  มีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย”  ซายังโค้งอย่างสุภาพอย่างเคย


    “ขอบคุณครับ”


    แบคฮยอนอยู่ในสภาวะจำยอมเมื่อพ่อแม่ของตนพ่ายแพ้ให้กับความร่ำรวยของปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อย  และตอนนี้เขาก็พอจะเข้าใจถึงความอภิมหาความรวยเว่อร์ๆหลังจากรู้ว่านายหัวฉลามซื้อเกาะเตรียมไว้เป็นของขวัญให้เจ้าสาวของตนเอง   ที่จริงมันก็ไม่เลวร้ายเมื่อนึกถึงความสุขสบาย  แต่ภาพเมื่อคืนที่ตนถูกอีกฝ่ายรังแกย้อนกลับเข้ามาก็ทำเอาคิดหนักอีกครั้ง  ทำไมเด็กอายุ18อย่างเขาต้องมาใช้ชีวิตกับลุงโรคจิตป่าเถื่อนบ้ากามวัย36  ไม่ได้ใช้ชีวิตธรรมดาเสียด้วย  ต้องอยู่กันไปตลอดชีวิต  แล้วปาร์คชานยอลท่าทางจะอายุยืนอีก  นี่เขาไม่ต้องโดนมุกเจ็ดเม็ดทุกวันหรือยังไงกัน! นรกชัดๆเลย!!!


     “อ้อ!  ซายังที่กำลังจะออกไปจากห้องเกิดชะงักขึ้นมาราวกับนึกบางอย่างที่สำคัญได้กะทันหัน  


    “มีอะไรหรอครับ?”  แบคฮยอนเอ่ยถามหลังจากถูกดึงสติจากห้วงความคิดกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน  มองคนที่หันกลับมายิ้มให้อย่างเป็นมิดด้วยความสงสัย


     “ผมลืมสวัสดีอย่างเป็นทางการน่ะครับ”  ซายังส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กน้อยที่ทำหน้าฉงนอยู่บนเตียงกว้าง  “ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวฉลามครับ  นายหญิง”


     


    THE  END





    สาระสำคัญของเรื่องคืออะไร?  ได้ปั๋วเป็นของขวัญจบมอปลาย?  ดีเน๊อะ


     ฉากคัทอยู่ในทวิตเรา @mainKEY492  ไม่ก็แท็ก  #นจมอด


     ใครขี้เกียจไปหาในทวิต  เปิดอาจารย์กู  แล้วเสิร์ช  BROWNIEPAVI  ก็เจอเลยจ้ะ  สู้นะจ๊ะ  รักจ้ะ 


      

     




     

     

     




     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×