คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [OS Special Halloween] I'm in love with a monster
[OS Special Halloween] I’m in love with a monster
“กูไม่ชอบทะเล”
เสียงเอาแต่ใจดังขึ้นทำลายบรรยากาศจนผู้ร่วมทางพากันหยุดเดิน ทุกสายตาหันกลับมามองคนตัวเล็กที่เดินรั้งท้ายด้วยใบหน้างองุ้ม ดวงตาสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจ้องกลับไปไม่แคร์ใครทั้งสิ้น
“ตลกหรอแบคฮยอน มึงนั่นแหละที่ร่ำร้องอยากมาทะเล แล้วนี่เป็นห่าไรครับ” เพื่อนที่เดินนำอยู่เอ่ยถามอย่างข้องใจ
“กูไม่ชอบทะเล…ที่นี่ กูอยากเที่ยวทะเล แต่ไม่ใช่ที่นี่ มันไม่มีอะไรสักอย่าง หาดก็สกปรก ทะเลก็เล่นไม่ได้ เรือโทรมๆอะไรก็ไม่รู้จอดอยู่เต็มไปหมด มองไปก็มีแต่ป่า ป่า…” สายตามองเลยไปยังคนที่เดินนำอยู่หน้าสุด ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ผิวสีเข้มจากการตากแดดตากลมโชว์หราเพราะร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ “ป่าเถื่อนด้วย นี่ก็จะมืดอยู่แล้ว ไหนโรงแรม ไหนบ้านพัก ฮึ! คืนนี้ต้องมุงใบจากนอนกันแล้วล่ะมั้ง”
“ไม่ต้องห่วงครับ ที่นี่ไม่มีต้นจาก คุณจะได้ใช้ใบมะพร้าวแทน” เสียงทุ้มจากชายเจ้าถิ่นนั้นเรียบนิ่งไม่สามารถบอกได้เลยว่าคนพูดรู้สึกอย่างไรในเวลานี้ “อีกอย่าง ผมคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ชายหาดของเราสวยไม่พอ แต่คุณคงไม่มีทางเลือกมากหลังจากเรือของคุณนั้นน้ำมันหมดไปก่อนที่จะถึงเกาะปลายทาง”
ชายคนนี้พูดไม่ผิดสักนิด และนั้นก็ทำให้แบคฮยอนยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่ที่เรือของพวกเขาดันเกิดน้ำมันหมดอยู่กลางทะเล ซ้ำโทรศัพท์ก็อับสัญญาณจนไม่อาจติดต่อกับโรงแรมที่จองเอาไว้ จะว่าโชคดีก็ใช่ที่ชายคนนี้ขับเรือหาปลาผ่านมาเจอเข้า แต่ก็โชคร้ายอยู่ดีที่อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะพาพวกเขาไปส่งโดยให้เหตุผลว่าใกล้ค่ำและพายุกำลังมา โกหกทั้งนั้น เขาไม่เหาพายุที่ไหนเลยสักนิด สุดท้ายก็มาพักที่เกาะโง่ๆ ดูร้างๆโทรมๆเหมือนจะมีผีสิง บางทีพวกเขาอาจจะถูกหลอกมาฆ่าแบบในหนังปิดเกาะเชือดอะไรแบบนี้ จะไปไว้ใจได้ยังไง
“อย่าเรื่องมากเพื่อนรัก กูขอร้อง”
“สาบานว่าได้กลับบ้านเมื่อไร กูจะเลิกคบมึงจงอิน” แบคฮยอนแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่เอาแต่พูดขัดเขาอยู่เรื่อย เซฮุนกับคยองซูก็เดินฟังเขาบ่นได้ไม่เห็นจะขัดอะไร แต่งจงอินนั้นไม่เคยตามใจเขาอย่างคนอื่นสักนิด จริงๆแล้วจะขัดกันก็ไม่ว่า หากแต่มันต้องไม่ใช่ต่อหน้าคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น ไอ้ชาวเกาะท่าทางป่าเถื่อนนั่น! สายตาที่หมอนั่นใช้มองมาช่างไร้มารยาทและดูล่วงเกินอย่างถึงที่สุด ไม่ชอบใจจริงๆ
ทั้งหมดเดินกันมาจนถึงบ้านไม้หลังใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย กลุ่มแขกจำเป็นตื่นตาตื่นใจไม่น้อย ใครจะคิดว่าเกาะที่ดูร้างผู้คนจะมีบเนหลังใหญ่และสวยงามขนาดนี้ มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรีบโค้งให้อย่างสุภาพ
“แขกของนายหัวหรอครับ” ประโยคที่ชายคนนี้เอ่ยถามทำเอาหลายคนต้องขมวดคิ้ว นายหัวงั้นหรือ เขาหมายถึงใครล่ะ ตรงนี้มีแค่แขกสี่คนและชายเปลือยท่อนบนอีกหนึ่งคน
อย่าบอกนะว่า….
“คุณเป็นเจ้าของเกาะหรอเนี่ย” เป็นจงอินที่ถามอย่างตื่นเต้น
“ก็แค่เกาะร้างๆกับบ้านหลังเดียว มึงจะตื่นเต้นอะไร” ขอให้ได้ขัด บางทีฉายาของแบคฮยอนคงเป็นสก็อตไบรท์แน่ๆ ลองได้ไม่ถูกชะตาใครแล้วก็ไม่มีทางได้สงบสุข ตามกัดจิกไม่ปล่อยง่ายๆจนกว่าจะมีใครยอมแพ้ราบคาบกันไปข้าง
นายหัวหน้าดุนั้นไม่ได้โต้ตอบใดๆ กระตุกยิ้มเล็กๆแล้วเดินนำเข้าไปในบ้านทันที ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเมื่อตั้งใจเอาไว้แล้วว่าคืนนี้จะสั่งสอนคนอวดดีทั้งคืน ยอมรับว่าใบหน้าจิ้มลิ้มกับท่าทางพยศแบบนั้นดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น มันช่างน่ารังแกให้หอบสะอื้นจนขาดใจ
“ผมขอไปทำธุระสักครู่ เชิญพวกคุณทานอาหารกันได้เลย ซายังจะจัดการดูแลให้ รวมถึงที่นอนด้วย”
“เชิญทางนี้ครับ”
ชายที่ชื่อซายังเดินนำแขกเข้ามาภายใน ก่อนจะพาไปยังโต๊ะอาหารโดยให้วางสัมภาระเอาไว้ที่ห้องโถง โชคดีที่พวกเขาไม่ได้มีข้าวของมากมาย ตั้งใจจะมาเที่ยวกันแบบเด็กๆจึงพกแค่เป้สะพายหลังคนละใบเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกของพวกเขา เพราะเป็นการฉลองจบไฮสคูล พ่อแม่ของจงอินจึงใจดีทุ่มทุนออกค่าที่พักสุดหรูซ้ำยังให้เรืออีกหนึ่งลำไว้ใช้ส่วนตัว แต่เด็กก็คือเด็ก พวกเขารู้แค่ใช้เท่านั้น สุดท้ายก็มาน้ำมันหมดโง่ๆทั้งที่ยังไม่ถึงที่พัก ใครจะไปรู้ว่าตระกูลคิมรวยขนาดนั้นจะให้ยืมเรือแต่ไม่เติมน้ำมันเต็มถังไว้ให้ ทริปในฝันเป็นอันต้องพังทลายเพราะดันมาตายตอนจบแบบนี้
“บ้านใหญ่ดีนะครับ” คยองซูมองไปรอบๆก็เอ่ยชื่นชมขึ้นมา
“นายหัวออกแบบเองน่ะครับ ตอนนั้นยังวัยรุ่นไฟแรง จบมาใหม่ๆก็ร้อนวิชา ผ่านมาก็สิบกว่าปีแล้วบ้านก็ยังสวยเหมือนเดิม” ซายังเล่าไปก็จัดสำรับไป ไม่ค่อยมีคนมาที่เกาะนี้บ่อยนัก นานๆเขาจะมีเพื่อนคุยสักที
“เขาจบออกแบบแต่มาอยู่เกาะแบบนี้หรอครับ” เซฮุนเอ่ยถามในสิ่งที่เพื่อนอีกสามคนก็คงสงสัยเช่นกัน อีกอย่างนอกจากบ้านหลังนี้ ทั้งเกาะก็ไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่านายหัวคนนั้นทำมาหากินอะไร
“ตระกูลปาร์คก็มีธุรกิจท่องเที่ยวครับ เกาะผีเสื้อที่พวกคุณกำลังไปก็ของนายหัวนะครับ รีสอร์ทนั่นฝีมือออกแบบของนายหัวด้วย นอกจากนี้ก็มีเกาะไข่มุกที่เพาะเลี้ยงหอยมุกรายใหญ่ของแถบตะวันออก… ไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะครับ”
แขกทั้งสี่ได้แต่กระพริบตาปริบๆกับเรื่องที่กำลังฟัง ในใจก็คำนวณถึงความร่ำรวยจากธุรกิจเหล่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มที่พวกเขาคิดว่าเป็นแค่คนหาปลาธรรมดานั้น กลับกลายเป็นมหาเศรษฐี แน่นอนว่าพอได้ยินชื่อตระกูลปาร์คก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก เกาะผีเสื้อที่ตั้งใจจะไปพักนั้นก็รู้ว่าเป็นของตระกูลปาร์ค อาจโชคไม่ดีนักที่ไปไม่ถึงเกาะผีเสื้อแต่ก็ได้เจอกับเจ้าของเกาะตัวเป็นๆ ซ้ำยังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านเขาเสียนี่
“งั้นที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวหรอครับ”
“ครับ นี่คือเกาะฉลาม มาจากฉายาของนายหัวน่ะครับ”
ในฐานะที่ครอบครัวของพวกเขาก็อยู่ในวงการธุรกิจใหญ่ ถึงจะเป็นแค่เด็กมัธยมแต่ก็พอมีความรู้ สำหรับชื่อเสียงของปาร์คชานยอล ประมุขแห่งตระกูลปาร์คคนปัจจุบัน ฉายาที่ใครๆก็รู้กันดีนั่นคือ ฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก ตอนนี้พวกเขาได้มาเห็นกับตาใกล้ๆ แม้จะแสดงออกอย่างสุภาพแต่ก็มีภาพลักษณ์ที่ดุดันและแข็งแกร่ง ก็ถือว่าสมฉายาเขาล่ะ
“คุยกันเพลินเลยนะครับ” นายหัวชานยอลเดินเข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของผู้ดูแลอย่างคิมซายังและแขกทั้งสี่ บัดนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงผ้ายืดสบายตัว นั่งลงตรงหัวโต๊ะซึ่งเป็นที่ประจำในขณะที่สายตาก็มองไปยังเด็กน้อยจิ้มลิ้มที่เสหน้าหันหนีไปทางอื่น
พยศไม่เลิก
“นายหัวแต่งแบบนี้แล้วหล่อเชียวครับ ดูดีกว่าตอนถอดเสื้อเดินตากแดดเป็นไหนๆ แบบนี้จะได้หานายหญิงให้ตระกูลปาร์คได้สักที” ซายังเอ่ยอย่างติดตลก แต่ก็หวังเอาไว้จริงๆว่านายหัวของเขาจะหาคนมาอยู่เคียงข้างกันเสียที อายุก็ปาไปสามสิบหกสามสิบเจ็ดแล้วแต่ยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน
“อะไรกัน ยังไม่แต่งงานอีก ได้ข่าวว่าแก่แล้วนี่ครับ” แบคฮยอนเอ่ยพลางกระตุกยิ้ม แขวะนิดแขวะหน่อยนี่สะใจเขานักล่ะ
“แก่… แต่แรงไม่ตกหรอกนะครับ” ชานยอลพูดกับคนตัวเล็กจอมดื้อพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์เสียจนอีกฝ่ายเบ้ปากใส่
ทั้งหมดทานอาหารค่ำจนเต็มอิ่มแล้วจึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน แม้บ้านจะใหญ่โตแต่ก็มีห้องรับรองแค่สองห้องเท่านั้น เซฮุนและคยองซูนอนห้องหนึ่ง ส่วนจงอินและแบคฮยอนก็นอนด้วยกันอีกห้องหนึ่ง ถึงจะรักความเป็นส่วนตัวและนอนคนเดียวจนเป็นนิสัย แต่เอาจริงๆมันก็ไม่เลวนัก ทั้งแบคฮยอนและจงอินเองก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมาในห้องเรียน ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องตลกที่ไม่ว่าจะนึกถึงสักกี่ครั้งก็ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เสมอ แม้จะอยากคุยกันไปเรื่อยแต่ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ทำเอาร่างกายฝืนไม่ไหว จงอินนั้นชิงหลับไปก่อนจนอีกคนไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็พากันเข้าสู่ห้วงนิทราไปทั้งคู่
.
.
.
แสบตา
นี่คือสิ่งที่แบคฮยอนรู้สึกพร้อมๆกับอาการโคลงไปมาคล้ายว่าเตียงนอนมันกำลังกลายร่างเป็นเรือลอยล้อคลื่นอยู่กลางทะเล พยายามขยับตัวให้นอนได้สบายขึ้นแต่ก็ไม่ได้ผลสักนิด ทำไมที่นอนมันถึงได้แข็งราวกับไม้กระดานทั้งๆที่ก่อนนอนเขาก็เห็นว่ามันนุ่มดีอยู่แท้ๆ จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาเพราะแสงที่สาดเข้าใส่ ค่อยๆลืมตาช้าๆก็ยิ่งพาให้ข้องใจ เจ้าแสงสีเขียวพวกนี้คืออะไรกัน ทำไมมันถึงได้เข้ามาอยู่ในห้อง…
เดี๋ยวนะ!
ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอน มองไปรอบๆด้วยความตระหนก รอบตัวมืดมิดไปหมดมีเพียงแสงไฟสีเขียวที่สาดส่องช่วยในการมองเห็น
“เป็นไปไม่ได้” พึมพำกับตัวเองหลังจากพบว่าบัดนี้บยอนแบคฮยอนกำลังอยู่บนเรือหาปลา เรือลำเดียวกับที่นายหัวชานยอลขับไปเจอพวกเขา และที่แย่กว่าเรือหาปลาคือตอนนี้เขากำลังลอยลำอยู่กลางทะเล
กลางทะเล!
“ไงครับ แบคฮยอน” เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก ใบหน้าหล่อเหลาดุดันฉายแววเจ้าเล่ห์จนเด็กน้อยขนลุกไปทั้งตัว ชานยอลยิ่งก้าวเข้าไปแบคฮยอนก็ยิ่งถอยหนี
“อย่าเข้ามานะ คุณทำบ้าอะไร คุณเป็นคนพาผมมาที่นี่ใช่มั้ย”
“แหม… โทษผมคนเดียวก็ไม่ถูก ถ้าคุณไม่หลับลึกจนเกินไปก็คงรู้สึกตัวตั้งแต่ผมเข้าไปอุ้มมาจากเตียงแล้ว”
แบคฮยอนอยากจะกระโดดลงทะเลให้จบๆไปเสีย ถูกเขาอุ้มจากเตียงพามาถึงกลางทะเลได้โดยไม่รู้สึกตัวสักนิด พ่อแม่คงอับอายแน่ๆถ้ารู้ว่าลูกชายคนเดียวมันไม่ได้เรื่องขนาดนี้
“แล้วคุณพาผมมาทำไม”
“ผมสนใจคุณยังไงล่ะ เด็กน้อย” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหูจนคนถูกรุกรานผวาตัวไปตั้งหลักห่างกันอีกครั้ง
“คุณมันโรคจิต! พาผมกลับเข้าฝั่งเดียวนี้ ไม่งั้นผมจะกระโดดลงไปแน่”
“โดดสิครับ เผื่อคุณจะไม่รู้ว่าแถบนี้ฉลามชุมขนาดไหน” ชานยอลไม่ได้พูดเล่น ดูเหมือนหลายคนจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉายาของเขาถึงเป็นฉลาม ทะเลฝั่งตะวันออกนั้นมีฉลามชุกชุมมากที่สุด และเพราะเขาคุมเขตฝั่งนี้ทั้งหมดถึงถูกเรียกว่าเป็นฉลามไปด้วย ที่นี่คือเขตฉลาม แน่นอนว่าถ้าคนตัวเล็กกระโดลงไปล่ะก็… คงไม่เหลืออะไรกลับไปหาพ่อหาแม่
“คุณมันไม่ใช่แค่ฉลามอย่างที่ใครๆบอกหรอก คุณน่ะมันปีศาจ เป็นปีศาจฉลาม ชั่วร้ายที่สุด” แบคฮยอนค่อยๆขยับตัวเข้ามาด้านใน ถึงจะรั้นสักแค่ไหนก็ต้องมีขอบเขต ใครจะอยากเป็นอาหารฉลามกันเล่า “ต้องการอะไรก็พูดมาเลย จะได้จบๆแล้วก็กลับเข้าฝั่งสักที”
“ผมบอกไปแล้ว… ผมต้องการคุณ” แขนแกร่งที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดจนไร้ชองว่าง โน้มใบหน้าลงไปจรดปลายจมูกเข้ากับผิวแก้มน่าหยิก เอ่ยกระซิบเสียงพร่าให้คนฟังขนอ่อนลุกชันไปทั้งร่าง “ผมจะพากลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย แต่คุณต้องเป็นเด็กดีของผม…ทั้งคืน”
CUT
ร่างกายเจ็บร้าวจนขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว แบคฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว แต่กลับไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา เจ็บไปหมด ยิ่งช่องทางด้านหลังนั้นยิ่งปวดแสบกว่าส่วนไหนๆ มือสวยลูบไปทั่วก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มของที่นอน อ่า… กลับมาแล้วสินะ
“ไหวมั้ย” เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ แน่นอนว่ามันคือเสียงของปาร์คชานยอล ไอ้โรคจิต!
ฝืนลืมตาจนสำเร็จก็พบว่ามันคือห้องที่ตนเข้ามานอนพร้อมจงอินเมื่อคืนนี้ แต่ตอนนี้เพื่อนซี้หายไปแล้ว เหลือเพียงตนเองที่นอนแผ่หลาอยู่และร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้กับเตียงนอน
“จงอินไปไหน”
“เพื่อนคุณข้ามเกาะไปแล้วตั้งแต่เช้า”
“ห๊ะ!” สภาพร่างกายไม่อำนวยเท่าไรแต่เสียงยังคงโหวกเหวกโวยวายได้เหมือนเดิม บอกเลยว่านี่แหละคือความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงของบยอนแบคฮยอน พ่อแม่พูดเสมอว่าเขาตัวเล็กแต่เสียงดังเหมือนสุนัขพุดเดิ้ลไม่มีผิด นั่นถือเป็นคำชม… พุดเดิ้ลน่ารักจะตาย
“ผมบอกเรื่องเมื่อคืนกับพวกเขาแล้ว โทรบอกพ่อแม่คุณด้วย”
“ห๊ะ!” ถามว่าตอนนี้แบคฮยอนยังจะพูดอะไรได้อีก
“จะพาลูกคนอื่นไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วไม่รับผิดชอบได้ยังไงล่ะ ผมคุยกับพ่อแม่คุณแล้ว บริษัทเงินทุนบยอนกับธุรกิจน่านน้ำตะวันออก ตกลงกันง่ายเลย”
ไม่อยากจะเชื่อ… ทำไมทุกอย่างมันง่ายราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย พ่อแม่รู้หรือเปล่าว่าลูกตัวเองโดนอะไรไปเมื่อคืนนี้ แน่นอนว่าแบคฮยอนไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ตกลงกันว่าอย่างไรแต่ก็คงไม่พ้นเรื่องธุรกิจ ให้ตายสิ นี่พ่อแม่เห็นอนาคตอันรุ่งเรืองของบริษัทสำคัญกว่าลูกคนเดียวไปแล้ว
“…….” หมดคำจะพูด
“เดี๋ยวซายังจะยกอาหารกับยามาให้ กินซะ หายแล้วจะพาไปดูเกาะนางเงือก” นายหัวเอ่ยเสียงเรียบอย่างเคยแล้วออกจากห้องไปทันที
เกาะนางเงือกอะไรกันอีกวะ พูดเองเออเองอยู่คนเดียวแล้วก็เดินหนีไปซะเฉยๆ ชีวิตบยอนแบคฮยอนจะมีอะไรน่าสงสารมากกว่านี้ได้อีก ถูกขืนใจไม่มีใครช่วย ตื่นมาเพื่อนก็ทิ้ง พ่อแม่ก็ไม่แยแส นี่แค่มาเที่ยวฉลองจบไฮสคูลทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
“ขออนุญาตนะครับ ผมเอาอาหารกับยามาให้ ลุกไหวหรือเปล่าครับ” ซายังวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห้นเด็กหนุ่มมีท่าทางอ่อนแรงเหลือเกิน
“พอไหวครับ ขอบคุณมากเลย” แบคฮยอนยิ้มแห้ง ค่อยๆพยุงตัวขึ้นช้าๆ “ขอถามหน่อยได้มั้ยครับ เกาะนางเงือกคืออะไรหรอ”
“เกาะนางเงือก? อ๋อ ห่างออกไปอีกหน่อยนึงครับ หายหัวเพิ่งซื้อเอาไว้สองสามเดือนก่อน บอกว่าอายุเยอะแล้วอาจจะได้แต่งงานเร็วๆนี้เลยซื้อเอาไว้เป้นของรับขวัญเจ้าสาวน่ะครับ”
“อ่อ…” ครอบครัวบยอนก็ไม่ได้ฐานะขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เปิดบริษัทเงินทุนได้ก็ถือว่าร่ำรวยไม่น้อย แต่ไอ้ที่ซื้อเกาะเป็นของขวัญอะไรแบบนี้มัน…. โคตรรวย นายหัวชานยอลจอมเถื่อนนี่จะรวยเกินไปแล้ว ยอม!
“ผมขอตัวก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย” ซายังโค้งอย่างสุภาพอย่างเคย
“ขอบคุณครับ”
แบคฮยอนอยู่ในสภาวะจำยอมเมื่อพ่อแม่ของตนพ่ายแพ้ให้กับความร่ำรวยของปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อย และตอนนี้เขาก็พอจะเข้าใจถึงความอภิมหาความรวยเว่อร์ๆหลังจากรู้ว่านายหัวฉลามซื้อเกาะเตรียมไว้เป็นของขวัญให้เจ้าสาวของตนเอง ที่จริงมันก็ไม่เลวร้ายเมื่อนึกถึงความสุขสบาย แต่ภาพเมื่อคืนที่ตนถูกอีกฝ่ายรังแกย้อนกลับเข้ามาก็ทำเอาคิดหนักอีกครั้ง ทำไมเด็กอายุ18อย่างเขาต้องมาใช้ชีวิตกับลุงโรคจิตป่าเถื่อนบ้ากามวัย36 ไม่ได้ใช้ชีวิตธรรมดาเสียด้วย ต้องอยู่กันไปตลอดชีวิต แล้วปาร์คชานยอลท่าทางจะอายุยืนอีก นี่เขาไม่ต้องโดนมุกเจ็ดเม็ดทุกวันหรือยังไงกัน! นรกชัดๆเลย!!!
“อ้อ!” ซายังที่กำลังจะออกไปจากห้องเกิดชะงักขึ้นมาราวกับนึกบางอย่างที่สำคัญได้กะทันหัน
“มีอะไรหรอครับ?” แบคฮยอนเอ่ยถามหลังจากถูกดึงสติจากห้วงความคิดกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน มองคนที่หันกลับมายิ้มให้อย่างเป็นมิดด้วยความสงสัย
“ผมลืมสวัสดีอย่างเป็นทางการน่ะครับ” ซายังส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กน้อยที่ทำหน้าฉงนอยู่บนเตียงกว้าง “ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวฉลามครับ นายหญิง”
THE END
สาระสำคัญของเรื่องคืออะไร? ได้ปั๋วเป็นของขวัญจบมอปลาย? ดีเน๊อะ
ฉากคัทอยู่ในทวิตเรา @mainKEY492 ไม่ก็แท็ก #นจมอด
ใครขี้เกียจไปหาในทวิต เปิดอาจารย์กู แล้วเสิร์ช BROWNIEPAVI ก็เจอเลยจ้ะ สู้นะจ๊ะ รักจ้ะ
ความคิดเห็น