คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : RED 02
RED 02
โชค ดีจริงๆที่พ่อแม่ของเขาเข้านอนกันไปแล้ว ไม่งั้นคงได้มานั่งอธิบายยืดยาวว่าทำไมถึงกลับมาเสียมืดค่ำ จะโทษใครได้ล่ะ ปาร์คชานยอลคนร้ายกาจหลอกให้เขาไปรอจนมืด ถามจากแม่บ้านเห้นว่าฝ่ายนั้นรถไปรับกลับมาตั้งแต่เย็นแล้ว
นิ้วเรียวสวยกดลงที่สวิตไฟ แสงสว่างสาดส่องไปทั่วทั้งห้อง กระเป๋าเป้ถูกโยนลงบนเตียงกว้างพร้อมกับทิ้งตัวตามลงไปอย่างอ่อนเพลีย
"แบคฮยอน" เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังขึ้น ร่างเล็กที่นอนอยู่ลุกขึ้นมองไปยังหน้าต่างที่ม่านเปิดหราเอาไว้
ทั้งๆ ที่บ้านของทั้งคู่ใหญ่โตจนแทบเรียกได้ว่าคฤหาสน์ ตัวบ้านก็ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางของเนื้อที่ แต่แบคฮยอนก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมห้องของเขาและชานยอลจะต้องเป็นห้องที่ถูก ต่อเติมยื่นออกมาจากตัวบ้านเข้าหากำแพงจนแปทบไปเกยอยู่กับกำแพงสูงนั่น
ห้อง ของทั้งสองคนถูกต่อเติมออกมาให้อยู่ตรงกัน ใกล้ๆกัน ซ้ำยังปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ด้วย ตั้งแต่เด็กๆชานยอลจึงมักจะอาศัยต้นไม้นี่ปีนป่ายข้ามมายังห้องของแบคฮยอน เป็นประจำ
ร่างเล็กลุกพรวดจากที่นอนก่อนจะไปปิดกระจกลงกลอนและกระชากผ้าม่านปิดอย่างแรง
ก็อก ก็อก ก็อก
เสียงเคาะกระจกยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ร่างเล็กทิ้งตัวนอนบนเตียงอีกครั้ง หยิบหมอนใบนั่มมาปิดหูไว้
โกรธมากจริงๆ ไม่อยากคุยกับชานยอลอีกแล้ว
"ถ้าแบคไม่เปิด เราจะกระโดดลงไปเลยนะ เราจะฆ่าตัวตายจริงๆด้วย"
ร่างสูงเริ่มใช้ไม้ตาย ในเมื่อเคาะแล้วไม่เปิด คงต้องลงทุนขู่เสียหน่อย แบคฮยอนที่แสนไร้เดียงสา ก็หลงกลเขาอีกตามเคย
ม่านถูกรูดออกแรงๆพร้อมกับประตูกระจกที่เลื่อนเปิด
"คิดว่าเราโง่หรอ ชั้นสองโดดยังไงก็ไม่ตายหรอก"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วเปิดออกมาทำไมล่ะหื้ม"
"จะออกมาผลักชานยอลไง"
"โหดจริงๆ แล้วนี่ทำไมเพิ่งกลับมาป่านนี้ล่ะ"
"ก็เพราะชานยอลนั่นแหละ"
"เกี่ยวอะไรกับเราครับ"ชานยอลเลิกคิ้วสูง แสดงอาการข้องใจอย่างปิดไม่มิด
"ยังจะทำไมรู้ไม่ชี้อีก เอาโทรศัพท์มาเลย"
"ห๊ะ"
"ส่ง มา"มือสวยแบออกยื่นไปตรงหน้ากดดันให้อีกคนส่งโทรศัพท์ให้ ชานยอลล้วงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงแล้ววางลงบนมือของแบคฮยอนอย่างไม่มี ขัดขืน
นิ้วเรียวสวยกดรหัสปลดล็อคทันที ไม่จำเป็นต้องถามถึงเลขปริศนา เพราะเขารู้ดีอยู่แล้ว
2706
วันเกิดชานยอลกับวันเกิดเขานั่นเอง
แบคฮยอนพยายามเปิดไล่หาข้อความที่ชานยอลส่งให้ แต่กลับพบ แปลกจริงๆ ทำไมไม่มีล่ะ ขาเรียวก้าวกลับเข้าไปในห้องโดยที่อีกคนก็ตามเข้ามางงๆ
แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเพื่อหาข้อความที่ได้รับ
"นี่ไง"ร่างเล็กส่งโทรศัพท์ที่ถูกเปิดค้างไว้ตรงข้อความที่ได้รับจากชานยอล อีกคนรับมาดูแล้วก็ขมวดคิ้วจนเป็นปม
"เราส่งหรอ"
"ชานยอล! ชานไม่ส่งแล้วใครจะส่ง โทรศัพท์ชานไม่ใช่หรอ"
"ในโทรศัพท์เราก็มีข้อความที่ส่งไปหรอ"
"ไม่มีอ่ะ"
"อ้าว"คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วก็ยิ่งขมวดหนักเข้าไปอีก ชานยอลยืนนิ่งทบทวนอยู่สักพัก
"โทษที เราลืม สงสัยไปโดนปุ่มลบเข้าน่ะ แล้วต้องรีบกลับกระทันหันด้วย"
"ยอมรับออกมาแล้วใช่มั้ย คนใจร้าย ทิ้งเราให้รอคนเดียวจนค่ำมืด"
"ขอโทษ ขอโทษ เอางี้ พรุ่งนี้เราจะซื้อขนมให้นะ"
"เราไม่ใช่เด็กนะ"
"เด็กชัดๆ ไปอาบน้ำเถอะ จะได้รีบเข้านอน"
"รู้แล้ว ออกไปสิ เราจะล็อคห้องแล้วนะ"
"ครับผม"ขานรับก่อนจะออกไปทางระเบียงเหมือนตอนที่มา
แบคฮยอนกดล็อคกระจกแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป อาบน้ำไดเพียงไม่นานเพราะอาการอ่อนเพลียอย่างรุนแรงมันรบเร้าให้รีบๆออกไป นอนเสียที
ร่าง เล็กสวมชุดนอนเรียบร้อยพร้อมเข้านอน แต่สายตายังชำเลืองเห็นว่าห้องตรงข้ามนั่นเปิดไฟสว่าง พร้อมกับคนตัวสูงที่คุ้นเคยกำลังยืนยันศอกตามแนวระเบียง
มือหนาข้างนึงกำลังรอคีบบุหรี่ม้วนสั้นๆ ที่บ่งบอกว่าถูกใช้งานมาสักพักแล้ว
ชานยอลละมือข้างที่ว่างจากขอบระเบียงแล้วโบกมือให้กับแบคฮยอนที่มองมาทางตนเอง
แบคฮยอนเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาสูบบุหรี่ คนตัวเล็กไม่ได้ห้ามเพราะเขายืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้ติด เพียงแค่สูบเวลาเครียดๆเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็เช่นกัน เขากำลังเครียด มีเรื่องให้คิดทบทวน เรื่องข้อความที่ส่งไปหาแบคฮยอน...
.
.
.
"แบ คฮยอนรีบลงมาร่วมโต๊ะอาหารในตอนเช้าเช่นประจำทุกวัน จะแตกต่างก็ตรงที่ตอนนี้ ชานยอลนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย อะไรดลใจให้คนตัวสูงมาร่วมมื้อเช้ากับครอบครัวเขา ร่างเล็กแวะเดินไปขอให้แม่บ้านช่วยทำแซนวิซให้ เขาจะเอาไปขอบคุณพร้อมกับหมวกกันน็อคที่ใส่ติดหัวมา หวังว่าคุณคริสคงจะรับนะ
"ชานมาทำไม"
"เรามาหาคุณน้าน่ะ จะมาขอโทษที่ทำให้แบคต้องกลับบ้านดึก"
"อ่อ แล้วว่าไงล่ะ"ร่างเล็กเอ่ยถามพลางนั่งวงยังตำแหน่งที่ว่างอยู่
"พอดีพี่ชายเราย้ายมาอยู่ด้วยกระทันหันน่ะ เราเลยรีบกลับมาก่อนจนลืมแบคไปเลย"
"พี่ชาย? เราไม่เห็นเคยรู้เลยว่าชานยอลมีพี่ชาย"
"คน ละแม่น่ะ ปกติเขาอยู่กับแม่ของเขา แต่ท่านเสียไปแล้ว พ่อก็เลยชวนให้เขามาอยู่ด้วยกัน มาได้สองสามวันแล้ว พักที่เรือนหลังเล็กนั่นล่ะ"
"อ่า งี้เราต้องไปทักทายมั้ย?"
"ไม่ต้องหรอก เขาไม่ชอบสุงสิงกับใครน่ะ"
"อ่า งั้นก็นิสัยเหมือนชานยอลเลยสิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
"กินข้าวเร็วๆเลย"
.
.
.
แบ คฮยอนสาวเท้าสวนนักเรียนคนอื่นออกไปทางประตูทันทีที่รถเลื่อนตัวมาจอดส่งตน ภายในโรงเรียน สองมือหอบหิ้วทั้งกระเป๋า ทั้งหมวกกันน็อค และยังพ่วงมาด้วยแซนวิซนี่อีก
เสียงฮือฮาของนักเรียนโรงเรียนRดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างเล็กในชุดเครื่องแบบมัธยมTมายืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนของตัวเอง คนเริ่มทยอยกันเข้ามามุง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอจะเอ่ยทักทายหรือตั้งคำถามเพื่อหาสาเหตุ
"มี ไรกันวะ"เสียงหนึ่งดังขึ้นราวกับหยุดชะงักความเคลื่อนไหวทุกสิ่ง ชายผิวเข้มสองคน ที่หนึ่งในนั้นแบคฮยอนจำได้ว่าเคยเจอกันตอนที่เอานมไปให้ลูกหมาแล้วโดนคริสว่าเอา
"คือ..."
"คุ้นว่ะ เด็กไอ้คริสป่ะ ที่ชอบไปกกหมาด้วยกันใช่มั้ย"
แบคฮยอนได้แต่ยืนงง อะไรคือเด็กคริสนะ แค่ข้ามฝากมาเขาก็ต้องรู้สึกงุนงงเป็นคนโง่อยู่นาน เขาไม่รู้จักศัพท์แปลกๆเหล่านี้เลย
อะไรคือ เด็กคริส กันนะ
"คือ..."
"อ้ำ อึงอยู่นั่น ตกลงเด็กจากโรงเรียนคุณหนูมาทำอะไรในที่ไม่สมควรครับ"ชายที่ดูเย็นชาและใต้ ตาคล้ำๆเอ่ยถาม ก่อนจะหันมามองหมวกกันน็อกที่แบคฮยอนกอดไว้
"ผมชื่อบยอนแบคฮยอนครับ ผมมาหาคุณคริส จะเอาของมาคืนครับ"
"หมวกกันน็อกอ่ะหรอ"
"ครับ"
"ฉันชื่อเทา ไอ้หัวทองตัวดำนี่ชื่อจงอิน เป็นเพื่อนคริส"
ตัวดำ? จงอินถึงกับหันขวับมามองเพื่อนตัวเอง พูดอย่างกับมึงขาว ไอ้หมีแพนด้าเอ้ย
"แล้วคุณคริสล่ะครับ"
"นั่น"จงอินชี้ไปด้านหลัง คริสกำลังจอดมอเตอร์ไซค์คู่ใจอยู่พอดี ตายยากจริงเพื่อนกู
ร่างสูงใหญ่ละสายตาจากพาหนะของตัวเองมาที่เพื่อนสนิท เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยืนอนู่กับใครก็สาวเท้ามาอย่างรวดเร็ว
"ไอ้เตี้ย มึงสติดีป่ะ คนห่าไรลงจากมอไซค์แล้วไม่ถอดหมวกกันน็อก กุเกือบโดนขวดซิวแล้วเมื่อเช้า"
"ขวด?"
"โง่อีก กูหมายถึงตำรวจ"
"แล้วขวดเกี่ยวอะไรครับ"
มึง รู้จักขวดตำรุนมั้ย? โง่ตลอดอ่ะ เอาหมวกกูมาแล้วมึงก็ไสหัวกลับปราสาทได้ล่ะ"คริสกระชากหมวกกันน็อกจากคนตัว เล็กก่อนจะพยักเพยิดไปทางโรงเรียนT ที่มีกำแพงอิฐสูงล้อมรอบ
แบคฮยอนยังคงนิ่ง เขางงขวดจนสมองประมวลผลต่อไม่ได้ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คริสดึงหมวกกันน็อคแล้วเดินเข้าโรงเรียนไป
"เดี๋ยวครับคุณคริส รับนี่ด้วยครับ เอาไปทานเล่นๆก้ได้ ตอบแทนเรื่องเมื่อวาน"
"อะไร? อาหารหมา?"คริสหันกลับมา ก่อนจะเลิกคิ้วเอ่ยถามอย่างยียวน
"ห๊า... คือ แซนด์วิชครับ"
"กุไม่แดกอาหารฝรั่ง คัน"
"โหย เชี่ยคริส นิสัย มึงรักษาน้ำใจเขาหน่อยดิวะ เขาอุตส่าห์ทำมาให้"
"มึงอยากแดก มึงก็รับไว้สิ แดกแล้วจะตายรึเปล่า"
"มึงนี่... ตายไร แดกได้อยู่ล่ะ ก็แบคฮยอน... แบคฮยอนใช่ป่ะ"
"ครับ"
"แบคฮยอนทำเอง กินได้อยู่แล้วเน๊อะ"จงอินรับกล่องแซนด์วิชมาแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"คือ...ที่จริง ผมไม่ได้ทำเอง"
"กู กะแล้ว พวกลูกคุณหนูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จะมีปัญญาทำห่าไร เสียเวลาว่ะ กุขึ้นห้องล่ะ พวกมึงก็รีบตามมาแล้วกัน"คริสยิ้มเยาะแล้วหันหลังเดินไปโดยไม่เหลี่ยวกลับมา มองอีก
แบคฮยอนได้แต่ก้มหน้าเงียบๆ จนจงอินทนไม่ไหว ยกมือขึ้นตบไหล่บางเบาๆ
"ไม่เป็นไรนะ ไอ้คริสก็งี้ ปากมันเสียเหมือนนิสัยมันอ่ะแหละ"
"ผมไม่เป็นไรครับ คือเรื่องแซนด์วิช..."
"จะเอาคืนหรอ นี่ฉันตั้งใจจะเอาไปกินจริงๆนะ ใช่ป่ะไอ้เทา"
"อืม"
แหม...ช่วยกูได้เยอะเชียว พูดน้อยจังนะมึง
"ครับ ขอบคุณนะครับ ที่อุตส่าห์ช่วยรับไว้แทนคุณคริส ผมต้องไปแล้ว ลานะครับ"แบคฮยอนโค้งให้ทั้งคู่อย่างสุภาพแล้วรีบเดินกลับไป
"เดี๋ยว!" เทาเอ่ยเรียกคนตัวเล็กเอาไว้
"ครับ?"
"ตอนเย็น...ถ้าไม่รีบกลับบ้าน ไปดูไอ้คริสซ้อมบาสดิ โรงยิมอยู่ด้านหลังอ่ะ"
"......."
"ไปได้แล้ว"
"ขอบคุณครับ"
ทันทีที่แบคฮยอนเดินไป จงอินก็กอดคอเพื่อนซี้ทันที
"มึงเจ๋งว่ะไอ้เทา ทำดีมาก เดี๋ยวกูเลี้ยงแซนด์วิช"
.
.
.
"แบค ไปไหนมา"ทันทีที่เดินมารวมกลุ่มกับจุนมยอนและมินซอก เพื่อนตัวขาวก็เอ่ยถามเสียงตื่นทันที
"เอ่อ...เรื่องมันยาวอ่ะ"
"มา ไม่ทันช็อตเด็ด เมื่อเช้าชานยอลไม่ได้รับคยองซูมาด้วยล่ะ แถมยังมานั่งกับพวกเรา แล้วพอเห็นคยองซูเดินมานะ ชานยอลก็ลุกพรวดไปฉุดกระชากคยองซูอย่างแรงเลย ลากไปที่ห้องสมุดแล้ว"มินซอกเล่าอย่างออกรส
"ทะเลาะกันหรอ? เมื่อเช้ามากินข้าวที่บ้านเรายังเห็นชานยอลอารมณ์ดีๆอยู่เลยนะ"
"ชานยอลไปกินข้าวทำไมบ้านแบคล่ะ"
"นี่ล่ะ เรื่องยาว เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง"
.
.
.
"ชานยอล! เราเจ็บนะ"คยองซูโอดครวญทันทีที่ถูกลากมาส่วนในสุดของห้องสมุดที่ปราศจากผู้คน
"เมื่อวาน ยื้มโทรศัพท์เราไปทำอะไร?"
"ก็...ก็...ดูเฉยๆ เราอยากจะดูโทรศัพท์แฟนเราไม่ได้เลยหรอ"
"แค่ดูจริงรึเปล่า คยองซูส่งข้อความให้แบคฮยอนใช่มั้ย"
"ข้อความอะไร เราไม่รู้เรื่องนะ"
"อย่าโกหก!"
"นี่คิดว่าเราโกหกหรอ!"
"แล้วมันใช่รึเปล่าล่ะ"ร่างสูงเริ่มลดระดับเสียงลงแต่ยังคงความจริงจังในน้ำเสียงเอาไว้
"เรา...เราขอโทษ ชานยอล ฮึก ฮึก เราขอโทษนะ"ร่างเล็กเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาก่อนจะโผเข้ากอดอีกคนแน่น
"ทำแบบนี้ทำไมคยองซู"ชานยอลประคองกอดร่างเล็กเอาไว้
อีก แล้ว เขาพ่ายแพ้ต่อท่าทางน่าสงสารของคยองซูอีกแล้ว ทุกครั้งที่เห็นคนตรงหน้าดูเหมือนลูกนกที่ตกลงมาจากรัง อ่อนแอ ไร้ที่พึ่ง เขาก็ไม่สามารถจะปล่อยมือได้จริงๆ
"เรากลัว เราหวงชานยอล เรากลัวชานยอลจะไม่สนใจเราอีก เราขอโทษ เรารักชานยอลนะ"
"เรา เข้าใจ แต่ขอร้องได้มั้ย อย่าไประรานแบคฮยอนแบบนี้อีก คยองซูก็รู้ใช่มั้ยว่าระหว่างคยองซูกับแบคฮยอน ถ้าถึงเวลาต้องเลือก เราจะเลือกใคร? เราอาจจะเห็นแก่ตัว แต่เราก็อยากจะจับมือคยองซูไว้ให้นานที่สุด เพราะงั้น...อย่าทำให้เราต้องปล่อยมือคยองซูโดยไม่เสียใจเลยนะ"
เลือก งั้นหรอ... ทำไมจะไม่รู้ว่าสุดท้ายชานยอลจะต้องทิ้งเขาไปหาแบคฮยอน แต่ตราบใดที่เขายังยืนตรงนี้ เขาจะทำทุกวิธี ไม่ให้ชานยอลปล่อยมือเขาเด็ดขาด
"เรา เข้าใจแล้ว เราขอโทษนะชานยอล เรารู้ตัวเองเองดี เราจะไม่ยุ่งกับแบคฮยอนอีก แต่ขอร้องได้มั้ย จนกว่าจะถึงวันนั้น...มีแค่เราได้มั้ย สนใจแค่เรา สัญญาได้มั้ย"
"อืม สัญญาครับ"ชานยอลกอดร่างเล็กแน่นก่อนจะจูบซับเบาๆลงบนขมับ
คยองซูกระตุกยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้โศกเศร้าเหมือนเดิม
แพ้แล้วชานยอล นายแพ้ฉันอีกแล้ว
.
.
.
"พูดอะไรสับสน เราว่าชานยอลโกหก บอกว่ารีบกลับเพราะพี่ชายมากระทันหัน แต่บอกว่ามาได้สองสามวันแล้ว เราว่าชานยอลไม่ได้ส่ง"
"ทำไมล่ะมินซอก ชานยอลอาจจะแค่พูดผิดก็ได้"จุนมยอนเอ่ยขัด
"ใช่ หรือไม่ก็อาจมีธุระอย่างอื่นที่บอกเราไม่ได้นะ"แบคฮยอนออกความเห็นเพิ่มอีกคน
"โอ๊ยยยย ตัวเองสองคนนี่ก็ เรียบร้อยเหมือนแม่ชี แสนดีเหมือนนางฟ้า มองโลกในแง่ดีจริงๆ ยังไงเราก็มั่นใจว่าชานยอลไม่ได้ส่ง ที่โกหกเพราะต้องปกป้องใครแน่"
"แล้วใครล่ะ เราไม่เคยมีปัญหาให้ใครต้องมาแกล้งเลยนะ อีกอย่างมือถือชานยอล ใครจะเอาไปส่งแกล้งกันง่ายๆ"
"คยองซูไง ชานยอลถึงได้ลากไปแบบนั้น"
"มินซอก ว่าคยองซูอีกแล้วนะ เพราะแบบนี้ไง ชานยอลถึงได้ไม่พาคยองซูมารวมกลุ่มกับพวกเรา"
"นี่จุนมยอนคิดว่าเราผิดหรอ ก็ได้ เราจะไม่พูดอะไรแล้ว ช่างแล้ว"มินซอกสะบัดหน้าหนีเพื่อนตัวขาว
"งื้อ ไม่ใช่นะ มินซอกอ่า อย่างอนสิ"
"พอเถอะ เลิกงอนกันนะ เรามีเรื่องจะรบกวนทั้งสองคนหน่อย"แบคฮยอนเปลี่ยนประเด็นทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักทั้งสองคน
"อะไรหรอ"
"คือเย็นนี้ที่เราบอกว่าจะไปดูคุณคริสซ้อมบาสอ่ะ เราคงไปเรียนพิเศษไม่ได้ มินซอกกับจุนมยอนบอกอาจารย์ลู่ให้เราหน่อยนะ"
"ให้บอกว่าตัวเองไม่มาเรียนเพราะไปดูผู้ชายหรอ"
"มินซอก! อย่าเชียวนะ บอกว่าเรามีธุระก็ได้ นะ นะ"
"ก็ได้....เราจะโทรบอกอาจารย์ลู่ ให้ยกเลิกคลาส เพราะเราจะไปกับแบคฮยอนด้วย"
.
.
.
"เราว่า..."จุนมยอนยืนกอดแขนของมินซอกแน่น ตอนนี้พวกเขาสามคนกำลังทำเรื่องบ้าที่สุดเท่าที่เคยทำมา พวกเขากำลังเข้ามาในโรงเรียนR ด้วยเครื่องแบบโรงเรียนT แม้จะอยู่ตรงข้ามกัน แต่ทั้งสองโรงเรียนก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อะไรทำให้พวกเขากล้าได้ขนาดนี้นะ
"ไม่กลับ"มินซอกเอ่ยขัดทันที ไม่รอให้จุนมยอนพูดจบ
"โรง ยิมอยู่ข้างหลังล่ะ เดินไปตามริมรั้วก็ไม่น่าจะหลงนะ"แบคฮยอนเดินนำอยู่ข้างหน้ายังคงเดินติอไป อย่างมั่นใจ และก็จริงอย่างว่า เขาได้ยินเสียงลูกบาสกระแทกพื้นดังอยู่ไม่ไกล ประตูโรงยิมขนาดกลางเปิดแง้มอยู่ แบคฮยอนรีบวิ่งนำไปก่อนทันที
มือ บางแง้มเปิดช้าๆ สายตามองผ่านประตูเข้าไปเห็นคริสวิ่งวุ่นอยู่กลางสนามพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่เทาและจงอินกลับนั่งอยู่ตรงสแตนด์คนดู มือเรียวสวยกวักเรียกให้เพื่อนอีกสองคนรีบตามเข้ามา ก่อนจะเดินย่องไปนั่งใกล้ๆเทาและจงอิน
"สวัสดีครับ"
"อ้าว มาจริงๆด้วย พาเพื่อนมาด้วยหรอ"จงอินเอ่ยทักทั้งสามคน ก่อนจะสะดุดตากับคนที่อยู่ด้านหลังสุด อยู่ดีๆใจก็เต้นแรงขึ้นมา นี่มันรักแรกพบใช่มั้ย แพ้ความขาวซะแล้วคิมจงอิน ตกหลุมรักกระทันหัน คนๆนี้นี่มัน....
สโนว์ไวท์!
"ครับ คนที่แก้มป่องๆนี่ชื่อมินซอก ส่วนคนขาวๆชื่อจุนมยอนครับ"
"สวัสดี ฉันจงอินนะ ส่วนไอ้หน้านิ่งชื่อเทา"
เทาละสายตาจากเกมส์บาสตรงหน้าก่อนจะหันมาดูแขกที่มาใหม่ทั้งสามคน สายตามองเลยไปยังคนที่ยืนอยู่สุดท้ายก่อนจะเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
"คุณหนู!"
"พี่เทา!"
TBC.
#ฟิคสีแดง
ปล.เจอคำผิดบอกด้วนะคะ
ความคิดเห็น