คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : แฟนเกือบเก่า chapter 1
chapter 1
"พอแล้ว..." คยองซูยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาก็พบว่าตอนนี้ตีสี่สิบห้านาทีเข้าไปแล้ว เพื่อนของเขายังเอาแต่เก็บร้านไม่เลิก พอจะช่วยก็ถูกปฏิเสธ
"แป๊ปนึง จะเสร็จแล้ว" แบคฮยอนยกเอาเก้าอี้ตัวสุดท้ายที่เช็ดเสร็จวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ
งานทำความสะอาดหลังร้านปิดเป็นอีกหนึ่งจ๊อบที่แบคฮยอนขอทำเพิ่มหลังนอกจากงานเสิร์ฟ เขากำลังเก็บเงิน ยิ่งทำงานหนักก็ยิ่งได้เงินมาก เขาทำงานที่ร้านมาร่วมปีแล้ว ทำจนสนิทกับทุกคนรวมไปถึงเจ้าของร้าน มันจึงไม่แปลกที่จะเห็นเจ้าของร้านอย่างโดคยองซูมานั่งรอเพื่อไปส่งที่ห้องทุกวัน
ไม่ได้อยากรบกวนเพื่อนที่พ่วงตำแหน่งเจ้านายมากนัก หากแต่เวลาตีสี่ตีห้าแบบนี้รถราก็หายากเหลือเกิน จะโทรให้ปาร์คชานยอลมารับก็ฝันดีๆนี่เอง ถึงจะเป็นแฟนกันแต่เชื่อเถอะว่าชานยอลจะเป็นคนสุดท้ายที่ยอมมารอรับในเวลาแบบนี้
"แบค..."
"อืม..."
"กลับบ้านเหอะมึง กูพูดจริงๆนะ มึงอยู่แบบนี้ไม่ไหวหรอก" คยองซูพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเห็นแล้วว่าแบคฮยอนทำงานหนักเกินไป
แบคฮยอนเริ่มงานตั้งแต่ร้านเปิดตอนสองทุ่ม พอปิดตอนตีสองก็ยังไม่ได้กลับไปพักผ่อนเหมือนคนอื่นๆ ต้องมาทำงานเก็บร้านต่อเพราะต้องการเงินพิเศษ ถามหาเหตุผล คำตอบที่ได้ก็คือ... อยากย้ายออกจากห้องเดิม คยองซูพอจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแบคฮยอนกับแฟนนักศึกษาตัวโย่งเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นที่ปรับความเข้าใจกันไม่ได้ หลังได้ยินจากเจ้าตัวว่ากำลังเก็บเงินเพราะอยากย้ายออกก็ตกใจไม่น้อย
"กลับไม่ได้หรอก สามปีแล้ว กูกลับไปตอนนี้พ่อต้องฆ่ากูแน่"
แบคฮยอนเป็นเด็กต่างจังหวัด เขาหนีออกจากบ้านมาเมื่อสามปีก่อนเพราะพ่อจับได้ว่าเป็นเกย์ ชานยอลคือเด็กผู้ชายที่เขาติดต่อคบหาผ่านโปรแกรมแชท เพราะเคว้งคว้างและไม่รู้จะไปทางไหน ชานยอลก็ยื่นมือเข้ามา ชวนเขามาอยู่ด้วยกันที่โซล พวกเขาจึงเริ่มคบกันจริงจังตั้งแต่ตอนนั้น
ความรักในช่วงแรกก็แสนมีความสุข แม่ของชานยอลย้ายไปต่างประเทศเพราะงานที่ทำ ช่างโชคดีที่เธอเข้าอกเข้าใจลูกชาย ไม่ว่าจะมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายในฐานะแม่ก็ดูเหมือนจะยอมรับได้ด้วยความรักที่มีต่อลูก แบคฮยอนอิจฉาชานยอลเหลือเกิน แต่ในความรู้สึกนนั้นมันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกรักจนล้นอก เขาที่ไม่มีอะไรก็กลายคนที่มีปาร์คชานยอลเป็นทุกอย่างในชีวิต
แต่โลกที่เขาไม่เคยจินตนาการถึงก็เกิดขึ้น โลกแห่งความจริง โลกของผู้ใหญ่ จบเรื่องรักแบบเด็กๆ เมื่อชานยอลมีสังคมในมหาวิทยาลัย เป็นเดือนคณะใครๆก็รู้จัก กับเด็กจากต่างจังหวัดจบแค่มัธยมปลายใช้ชีวิตในโลกแคบๆไร้สังคม ไร้เพื่อนฝูง อยู่ในห้องพักไม่ได้ไปไหน
ตอนนั้นแบคฮยอนถึงได้รู้ว่าเขาต้องเริ่มพึ่งพาตัวเอง ตอนที่เห็นชานยอลยืนจูบผู้หญิงคนอื่นครั้งแรก ตอนที่อาละวาดจนห้องแทบพังแต่กลับถูกต่อยพร้อมไล่ให้ออกไปสงบสตินอกห้อง แบคฮยอนถึงได้เลิกเป็นบ้าแล้วเริ่มทำความเข้าใจกับทุกสิ่งทุกอย่าง...
ตลอดไป ไม่มีจริง
ไฟในห้องปิดสนิทไปแล้ว มันเป็นแบบนี้เสมอ ชานยอลยังคนต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปเรียน ในขณะที่แบคฮยอนก็นอนมันเกือบทั้งวัน ตั้งแต่เริ่มทำงานพวกเขาก็เจอหน้ากันนับครั้งได้ มันก็คงเหมือนคู่แต่งงานที่เลิกกันแล้วแต่ก็ยังต้องอยู่ด้วยกัน
ร่างกายที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวค่อยๆลูบไล้ทำความสะอาดอย่างใจเย็น แม้จะเกือบตีห้าแต่แต่แบคฮยอนก็ไม่คิดจะรีบร้อนกับการอาบน้ำ หวนนึกไปว่าร่างกายนี้เคยเป็นที่รักของชานยอลมากแค่ไหน ผิวกายที่ชายยอลเคยบอกว่าแสนนุ่มมือ กลิ่นอ่อนๆจากครีมอาบน้ำที่ชานยอลเคยบอกว่าชอบเหลือเกินยามได้นอนกอดยามค่ำคืน
แต่ตอนนี้มันไม่ได้ถูกรักอีกแล้ว
.
.
.
เสียงกุกกักดังปลุกแบคฮยอนขึ้นจากนิทรา ตาปรือมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลเรื่อนใหญ่โตข้างผนัง
เก้าโมงเช้า...
"ตื่นแล้วก็ลุก อย่านอนอมขี้ฟัน กูเหม็นปากแทนมึงล่ะ"
"หืม? มึงไม่ไปเรียนหรอ" แปลกไม่น้อยที่ยังเห็นชานยอลอยู่ในห้อง ปกติต้องไปเรียนตั้งแต่แปดโมงแท้ๆ
"เรียน ตอนบ่าย"
"อืม" คนตัวเล็กลุกจากโซฟา มองไปยังเจ้าของเสียงทุ้มก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังนั่งหินโจ๊กอยู่ที่โต๊ะอาหาร ตรงข้ามกันเป็นถ้วยอีกหนึ่งใบที่มีถุงโจ๊กวางไว้ข้างใน
ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จก็ออกมาเพื่อจัดการกับโจ๊กอีกถุงที่ชานยอลซื้อมาเผื่อ มันเป็นแบบนี้ตลอดมา ถ้าคนตัวสูงไม่มีเรียนในช่วงเช้าก็มักจะออกไปหาซื้ออาหารมาไว้สำหรับตัวเองและแบคฮยอน
"วันนี้จะซักผ้านะ เอาออกมาวางข้างนอกด้วย" ตักโจ๊กเข้าปากได้คำเดียวก็เปิดประเด็นเพื่อทำลายความเงียบแสนอัดอัดใจ
"อืม"
"เย็นนี้จะกินอะไร" แบคฮยอนยังคงถามต่อไป เรื่องอาหารเย็นๆมาค่อยถูกหยิบยกมาคุยกันบ่อยนัก เพราะพวกเขามีโอกาสได้นั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้น้อยเหลือเกิน อีกอย่างคือชานยอลไม่ใช่คนเลือกกิน ไม่ว่าจะทำอะไรเอาไว้ให้ก็กินได้หมด
"วันนี้ไม่ต้องหรอก กูจะไปกินกับเพื่อน คงกลับดึก"
"หรอ แต่ก็คงไม่ดึกเท่ากูแน่ๆ" ประโยคที่แสนเบาราวกับต้องการพูดแค่กับตนเองนั้นไม่ได้รับความสนใจจากคู่สนทนา ชานยอลไม่เคยรู้ว่าแบคฮยอนกลับมาเวลาไหน รู้แค่กลับดึกเพราะทำงานในคลับเท่านั้น แม้แต่ชื่อร้านที่แฟนตัวเองทำงานยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ
คนตัวเล็กยกตะกร้าผ้าที่ชานยอลนำออกมาวางไว้ให้นอกห้องมาแยกเสื้อผ้าที่ละตัว ชานยอลทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แค่เลิกถอดกางเกงในเป็นเลขแปดยังทำไม่ได้เลย
"เฮ้อ..."
อย่าว่าแต่ปาร์คชานยอลที่เบื่อบยอนแบคฮยอน บยอนแบคฮยอนเองก็เบื่อผู้ชายที่ชื่อปาร์คชานยอลเหมือนกัน ตลอดสามปีที่ผ่านมาเขาไม่ต่างจากแม่บ้านที่คนตัวสูงจ้างเอาไว้สักนิด แต่ในความเบื่อนั้นมันก็ยังเต็มไปด้วยความรัก ส่วนชานยอล....เบื่อแน่นอน
แต่ไม่รู้ว่ายังรักรึเปล่า
แบคฮยอนหอบตะกร้าเข้ามาในโซนซักผ้าที่เปิดอยู่หน้าร้านซักรีดของห้องพัก ส่งยิ้มกว้างให้หญิงสาวที่คุ้นเคยกันดี เธอเดินตรงเข้ามาหาก่อนจะช่วยรับตะกร้าแล้วแยกใส่เครื่องซักอย่างที่เคย
"ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะ เดี๋ยวเสร็จแล้วหนูเอาขึ้นไปส่ง"
จองฮวาเป็นลูกสาวของคุณป้าร้านซักรีด เธอมีรูปร่างหน้าตาสะสวยและดูเป็นสาวเกินวัย17ปี แต่สำหรับแบคฮยอน เด็กสาวคนนี้ก็ยังคงมีมุมที่แสนจะน่าเอ็นดูแบบเด็กๆ เธอมีน้ำใจกับเขาเสมอเพราะรู้ดีว่าเขาทำงานกลับมาเกือบเช้าทุกวัน ทั้งเธอและคุณแม่จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือดูแลอยู่เรื่อยๆ
"ไม่เป็นไร พี่ว่าจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์น่ะ กลับมาก็คงซักเสร็จพอดี"
"ไหวรึเปล่าคะ ไม่ใช่ไปหลับบนรถจนเลยป้ายนะ ให้หนูไปเป็นเพื่อนไหม"
"รบกวนเธอเปล่าๆ พี่ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ" แบคฮยอนอยากจะรับความหวังดีนี้ไว้ แต่หากต้องให้เด็กสาวคนนี้ออกไปด้วยกันก็ดูจะลำบากเธอเกินไป หน้าที่ดูแลร้านก็ยุ่งยากพอแล้ว
แบคฮยอนแยกผ้าใส่ถังซักจนครบทั้งสองถัง หันกลับมาเพื่อจะบอกลาจองฮวาที่ยังคงช่วยเขาอย่างเต็มใจ แต่ไม่ทันจะเอ่ยพูดก็เห็นบางอย่างที่สะดุดตาเสียก่อน รอยแดงที่เนินอกเผยออกมาเมื่อเด็กสาวก้มลงจนคอเสื้อตกห้อยลงตามแรงโน้มถ่วง
"จองฮวา" แบคฮยอนชี้ไปที่อกของตัวเองเพื่อให้เด็กสาวรู้ตัว ซึ่งเธอก็ดูงุนงงอยู่สักพักก่อนจะมีสีหน้าตกใจสุดขีด
"คือ... พี่อย่าบอกแม่นะ" เธอขอร้องเสียงสั่น
"เขาเป็นแฟนเธอรึเปล่า" แบคฮยอนถามอย่างจริงจัง ซึ่งจองฮวาเองก็พยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ "เธอยังเด็ก จองฮวา"
"หนูรู้ แต่...เขาจะเลิกกับหนู ถ้าหนูไม่ยอม หนูรักเขาจริงๆนะ"
แบคฮยอนถอนใจกับสิ่งที่ได้ฟัง เด็กสาวที่เขาแสนเอ็นดูต้องมาหม่นหมองเพราะเรื่องแบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีชีวิตที่ดีมากพอที่จะสั่งสอนใคร แต่เพราะชีวิตเขามันห่วยแตกนี่แหละ ถึงได้เอามาเป็นตัวอย่างให้ใครๆได้เป็นภาพชัดเจน
"ฟังพี่นะ... เธอรักเขา แล้วเขารักเธอรึเปล่า? คนรักกันจะไม่บังคับให้ทำเรื่องแบบนี้หรอกนะ" แบคฮยอนคิดแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้ตอนนี้ชานยอลอาจจะไม่รักเขาแล้ว แต่เมื่อก่อนเขามันใจว่าชานยอลรักเขาแน่นอน และเจ้าตัวก็ไม่เคยใช้เซ็กส์มาต่อรองอะไรกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว
"......."
"จองฮวา จำเอาไว้ว่าต้องรักตัวเองให้มากที่สุด คิดถึงหน้าพ่อแม่ให้มากที่สุด นึกถึงอนาคตให้มากที่สุด ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่มีค่า เธอจะได้เจอผู้ชายที่ดีกว่าไอ้เวรนั่นแน่นอน"
"หนู... หนูก็กลัว แต่เพราะคิดว่าสมัยนี้ใครๆก็ทำ... ตอนนี้หนูรู้สึกแย่มาก เมื่อคืนหนูก็นอนไม่หลับ" สีหน้าของเธอไม่สู้ดีนัก
"มันก็จริงที่ใครๆก็ทำ แต่รู้มั้ย... ถ้าโลกนี้มีแต่กุหลาบสีแดงและเธอเป็นสีขาวเพียงดอกเดียว เธอก็จะเป็นดอกที่ใครๆก็ต้องการ" มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะเด็กสาวเบาๆ เขาไม่อยากเห็นเด็กคนนี้ต้องกลายเป็นเหมือนเขา บูชาความรัก บูชาชานยอล และสุดท้ายเมื่อเติบโตขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองก็เป็นแค่คนโง่ๆคนนึงที่แทบจะเอาตัวรอดไม่ได้บนโลกแห่งความจริงใบนี้
สองขาก้าวไปตามทางอย่างไม่รีบร้อน มองรอบตัวที่เต็มไปด้วยผู้คนขวักไขว่ ไม่มีใครสักคนที่เขารู้จัก โลกของเขาเหมือนเป็นพื้นที่แคบๆ ที่เคบคิดว่ามีตัวเขาและชานยอลอยู่ด้วยกัน ทั้งๆที่ความจริง... มันมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น ทุกครั้งที่ส่องกระจก เขาก็เป็นภาพของตัวเองนั่งกอดเขาอยู่ในมุมเงียบๆ มันทั้งมืด ทั้งโดดเดี่ยว เป็นมุมของบยอนแบคฮยอนคนห่วยแตก
แบคฮยอนเลือกนั่งด้านใน พิงศีรษะลงบนกระจกใสที่มองออกไปเห็นด้านนอกรถ ท้องถนนดูวุ่นวาย ริมถนนก็มีผู้คนมากมาย มันคือความมีชีวิตชีวา รถเคลื่อนผ่านสถานที่ที่แบคฮยอนไม่เคยได้เข้าไปสัมผัส มันคือมหาวิทยาลัยS นี่คือที่ที่ชานยอลเรียนอยู่ นักศึกษาทั้งหลายเดินเข้าออกกันพลางพูดคุยด้วยใบหน้าสดชื่น แบคฮยอนรู้สึกอิจฉาคนเหล่านี้จับใจ พวกเขามีความสุข มีอนาคต มีสังคม ซึ่งมันเป็นสังคมของชานยอล สังคมที่ไม่มีบยอนแบคฮยอน
.
.
.
แบคฮยอนยังคงแข็งขันกับงานของตัวเอง แม้จะรู้สึกมึนๆอยู่ไม่น้อยเพราะทั้งวันเขาง่วนอยู่กับการทำความสะอาดห้อง อาจจะไม่สดชื่นสดใสอย่างทุกวันแต่ก็ไม่มีท่าทีบึ้งตึงหรืออ่อนเพลียใดๆให้เห็น หลายคนเป็นลูกค้าประจำ และคุ้นเคยกันดี อย่างน้อยๆที่แคบๆตรงนี้ก็ยังพอมีคนยิ้มให้เขาบ้าง
"โต๊ะ27ครับ" มินฮยอกคือพนักงานอีกคนที่สดใสอยู่เสมอ เด็กหนุ่มอ่อนกว่าแบคฮยอนเพียงปีเดียว แต่กลับสุภาพอ่อนน้อมน่าชื่นชม
"อื้ม" แบคฮยอนรับถาดเครื่องดื่มมาจากมินฮยอกที่มีน้ำใจยกจากบาร์มาให้พร้อมถาดที่เจ้าตัวก็ต้องนำไปเสิร์ฟเช่นกัน แต่ไม่ทันจะได้นำไปเสิร์ฟอย่างตั้งใจ เจ้าของร้านตัวเล็กก็มาดักหน้าเอาไว้เสียก่อน
"กูไปเสิร์ฟเอง"
"อะไร?" แบคฮยอนมองสภาพของคยองซูที่ตอนนี้ยังหอบหิ้วกระเป๋าเอาไว้ ดูก็รู้ว่าเพิ่งเข้ามาที่ร้าน แล้วเพราะอะไรถึงได้รีบร้อนมีน้ำใจแบบนี้
"กูจะไปเสิร์ฟไง มึงก็ไปทำอย่างอื่นสิ" คยองซูยังคงยืนยันหนักแน่นที่จะนำเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่โต๊ะ27แทนแบคฮยอน
"พี่คยองซูครับ ผมว่าพี่รีบไปข้างบนเหอะ" มินฮยอกเป็นคนที่เข้ามาขัดขวางสงครามแย่งงานเล็กๆของพี่ชายตัวเล็กทั้งสองคน
"ไมวะ?"
"นายใหญ่มาครับ บ่นใหญ่ว่าพี่ไม่ยอมไปเรียนเลย"
"ชิบหาย! พ่อฆ่ากูแน่ไอ้แบค มึงเอาไปเสิร์ฟไป กูซวยแล้ววววว" คยองซูปล่อยมือจากถาดที่พยายามยื้อแย่งจากแบคฮยอน ตอนนี้ต้องเตรียมตัวไปรับโทษเพราะขี้เกียจจนไม่ยอมไปมหาวิทยาลัยมาเกือบสองสัปดาห์ มากกว่าการกลัวว่าแบคฮยอนจะเอาเครื่องดื่มไปที่โต๊ะ27 เขาต้องกลัวว่าพ่อจะยึดร้านคืนมากกว่า
แบคฮยอนส่ายหน้าเบาๆพลางกระตุกยิ้มให้มินฮยอกที่ยังคงรู้สึกขำขันกับท่าทางของเจ้านายตัวเล็กเมื่อครู่
มือเรียวยกถาดไปยังโต๊ะเป้าหมาย ที่จริงเขาควรมาเสิร์ฟเร็วกว่านี้หลายนาทีถ้าไม่ติดว่ามัวแต่ยืนเถียงกับคยองซูอยู่
ไม่ทันจะได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจ หัวใจก็แทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าใครที่นั่งอยู่ นี่คงเป็นเหตุผลที่คยองซูพยายามจะกีดกันเขาจากโต๊ะเบอร์27 นั่นเป็นเพราะลูกค้าโต๊ะนี้คือชานยอลกับเพื่อนๆของเจ้าตัว
ทั้งคู่ประสานสายตากันอยู่ครู่หนึ่ง แบคฮยอนก็ตัดสินใจส่งยิ้มตามมารยาทให้ทุกๆคน ประคองถาดด้วยแขนข้างเดียวและค่อยๆยกเสิร์ฟอย่างระมัดระวัง ไม่ทันจะได้ดึงมือกลับก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้ ผู้ชายที่นั่งริมสุดนั่นมองแบคฮยอนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
"มากินร้านนี้เพราะเขาลือว่าเจ้าของร้านน่ารัก ไม่คิดว่าพนักงานก็จะน่ารักด้วย"
"ครับ ขอบคุณครับ" แบคฮยอนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะดึงมือออกก็ถูกจับไว้แน่น จะบอกให้ชานยอลช่วยก็คงไม่เหมาะ เพราะนอกจากจงอินที่เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าตัวแล้ว คนอื่นๆไม่มีใครรู้ว่าชายยอลมีแบคฮยอนคนนี้เป็นแฟน
"อะไรกัน ผู้ชายก็ไม่เว้นหรอวอนโฮ" หญิงสาวหนึ่งเดียวในโต๊ะเอ่ยแซว หล่อนนั่งชิดกับชานยอลเสียจนแบคฮยอนคิ้วกระตุก ยามที่เอื้อมตัวมาเพื่อตีแขนหยอกล้อกับผู้ชายที่ชื่อวอนโฮ ตัวหล่อนก็แทบจะขึ้นมาเกยบนตักของชานยอลแล้ว
"มันเป็นไบ เธอไม่รู้หรอซูจอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงก็ปล่อยเขาได้แล้วไอ้วอนโฮ เดี๋ยวเผื่อเขามีฟงมีแฟนก็ถูกกระทืบเอาหรอก" เป็นจงอินที่เอ่ยอย่างติดตลกแต่ก็ห้ามอย่างจริงจังเช่นกัน
แบคฮยอนไม่คิดว่าตัวเองจะทนยืนตรงนี้ได้นานนัก แต่วอนโฮก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเสียที และชานยอลก็ไม่มีท่าทีที่จะเข้ามาช่วยเหลือแม้แต่น้อย
"โอ๊ะ! ขอโทษนะครับคุณลูกค้า เราไม่มีนโยบายเด็กนั่งดริ้งนะคร้าบบบบ" เป็นเสียงสวรรค์จากมินฮยอกที่เข้ามาช่วยเอาไว้พร้อมกับช่วยแกะมือของแบคฮยอนออกจากการเกาะกุมของวอนโฮ
"อะไรเล่า ฉันก็ไม่ได้ว่าเพื่อนนายเป็นเด็กนั่งดริ้งสักหน่อย อยากรู้จักเฉยๆไม่ได้หรอ หน้าตาก็น่ารัก มือก็สวยด้วย หวงเพื่อนไปรึเปล่า"
มินฮยอกยิ้มกว้างก่อนจะออกแรงดึงมือแบคฮยอนออกจากลูกค้าตรงหน้าปล้วนำมือเรียวสวยของพี่ชายร่วมงานมาจับเอาไว้เอง
"ไม่ใช่เพื่อนครับ นี่แฟนผม ผมหวง"
ปึก!
เสียงแก้วกระแทกลงบนโต๊ะขัดจังหวะของทุกคนให้หยุดนิ่ง สายตาทุกคู่หันไปมองต้นเสียงเป็นตาเดียว มือของปาร์คชานยอลยังคงจับค้างไว้ที่แก้วบรรจุน้ำสีอำพัน สายตาจดจ้องแบคฮยอนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนมามองมือเรียวสวยที่ถูกเด็กหนุ่มใส่ชุดพนักงานแบบเดียวกันจับเอาไว้แน่น
แบคฮยอนเบือนหน้าหนีสายตานั้น เขาเดาใจชานยอลไม่ออก ไม่อยากเข้าข้างว่าท่าทีแบบนั้นเป็นเพราะหึงหวง บางทีเจ้าตัวอาจจะแค่รำคาญก็ได้
"กูจะไปห้องน้ำ" ชานยอลลุกขึ้นทันทีท่ามกลางสายตางุนงงของคนทั้งโต๊ะ เดินผ่านร่างของแฟนตัวเล็กไปโดยไม่มีท่าทีชะงักหรือสนใจแม้เพียงหางตาชำเลืองมอง
"เอ่อ... พวกเราก็ขอตัวไปทำงานนะครับ"
มินฮยอกยิ้มกว้างอีกครั้งแล้วรีบดึงแบคฮยอนให้เดินตามมาทันที พากันไปหยุดยืนอยู่ที่บาร์เพื่อเตรียมตัวทำงานต่อ
"ขอบใจ"
"ไม่เป็นไรพี่ ช่วยๆกัน อีกอย่างพี่ไม่ต้องเดินไปแถวนั้นแล้วนะ เสิร์ฟแค่ตรงนี้พอ ไอ้หมอนั่นน่ากลัวชะมัด"
"อืม"
แบคฮยอนไม่ใช่คนอ่อนแอ จะให้เขาต่อยปากวอนโฮสักทีก็ยังได้ แต่เพราะหมอนั่นเป็นเพื่อนชานยอล และเขาก็ไม่อยากมีเรื่องกับลูกค้าให้คยองซูต้องลำบากใจ
"แบคฮยอน" เสียงทุ้มคุ้นหูเป็นอย่างดีดังขึ้นใกล้ๆแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดคลอในร้าน ชานยอลยืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างเคย
"ครับ" เพราะในเวลางานและชานยอลเป็นลูกค้า เขาจึงต้องสุภาพเอาไว้
"พูดปกติเหอะ กูไม่ชิน"
"อืม"
"ไม่เห็นมึงเคยบอกว่าทำงานที่นี่"
"ก็ไม่คิดว่ามึงจะอยากรู้" แบคฮยอนตอบตามจริง เพราะชานยอลไม่เคยถามเขาสักครั้ง ไม่เคยรู้ว่าเขากลับบ้านกี่โมง ออกไปทำงานตอนไหน
"แล้วมึงเลิกงานกี่โมง เดี๋ยวกูรอ"
"มึงกลับพร้อมเพื่อนเหอะ กูเลิกตีสามตีสี่นู้นแหละ" เขาเห็นชานยอลชะงักไปเล็กน้อย คนตัวสูงแสดงสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับมาในแบบที่แบคฮยอนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
"กูจะไปหลับรอในรถ มึงเสร็จแล้วก็ไปเคาะเรียกแล้วกัน"
TBC.
มันก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวหรอกแก๊
.
.
.
นี่จะบ่นให้ฟังเกี่ยวกับแท็กในทวิตเตอร์
คือตอนฉันจะตั้งเป็นแท็กฟิคเนี่ย ฉันก็เช็คแล้วว่ามันไม่มีใครใช้ไง แล้วทำไมพอฉันใช้ มันถึงมีคนใช้เหมือนกัน
คือกำลังเปิดแท็กอ่านเม้นฟิคมันส์ๆอยู่ เลื่อนมาเจอคนทวิตเรื่องรักใครโอ้ใจเอ๋ยงี้
บางทวิตแม่งไม่ด้ายยยยยยยเกี่ยวไรกะแท็กเลย
ติดมันหมดทั้งแท็กแฟนน่ารัก แฟนยังไม่มี แฟนเกือบเก่า (ตกลงมันมีแฟนมะ?)
อารมณ์ฉันตอนเลื่อนแท็กไปเจอนี่เหมือนกำลังจะได้กับปาร์คชานยอลแล้วบยอนแบคฮยอนเปิดประตูเข้ามา
คือกระชากอารมณ์มาก งงแรง
***ถ้าจะติดแท็กในทวิต ให้ใช้ #นจมอด นะคะ เพราะแท็กนี้จะใช้เป็นแท็กรวมSFทั้งหมด ส่วนที่จะให้ติด2แท็กเพราะเผื่อเวลาที่เราเอาเรื่องอื่นมาลงจะได้รู้ว่าเป็นเม้นของเรื่องไหน แต่ถ้ามันยาวไปก็ไม่ต้อง ให้ใช้แค่ #นจมอด พอ
ตามนี้แหละ อยากบ่นให้ฟัง อึดอัดใจมาก รู้สึกไม่สบายตัวเหมือนคนท้องผูก ;___;
ขอบคุณทุกผู้ทุกคน
[น้ำจ๊ะ แม่ไอ้แดง]
#นจมอด
ความคิดเห็น