คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : RED 00
RED 00
ประตู สูงตระหง่านของคฤหาสน์หลังใหญ่ปิดลงช้าๆไล่หลังรถคันหรูที่เคลื่อนตัวออกไป ภายในรถที่มีเพียงชายกลางคนประจำตำแหน่งคนขับและเด็กชายในชุดเครื่องแบบนักเรียนชื่อดังตรงเบาะด้านหลัง ดวงตาสีอ่อนทอดมองออกไปนอกรถยามที่ผ่านหน้าคฤหาสน์อีกหลังที่อยู่ติดกัน ประตูรั้วใหญ่เปิดยู่พร้อมกับรถที่กำลังขับเคลื่อนออกมาเช่นกัน
“เดี๋ยวนี้ ไม่เห็นคุณหนูชานยอลไปพร้อมคุณหนูเลยนะครับ” คำถามจากชายคนขับเรียกความสนใจของผู้ที่นั่งด้านหลังให้ละสายตาจากภาพด้านนอก
“ช่วงนี้ชานยอลมีธุระต้องแวะไว้ทำน่ะครับ ก็เลยไม่ได้มาขึ้นรถกับเราแล้ว”
“แล้วคุณหนูแบคฮยอนไม่เหงาหรือครับ นั่งรถก็มีแต่ผมคนเดียว จะคุยกันก็ไม่สนุก”
“โถ่ ลุงครับ ทำเหมือนตอนนั่งกับชานยอล เราคุยอะไรกันอย่างนั้นล่ะ ผมกับเขาไม่ค่อยคุยกันอยู่แล้วลุงก็รู้”
ใช่ ใครๆก็รู้ ว่าบยอนแบคฮยอนกับปาร์คชานยอลไม่ค่อยคุยกัน อันที่จริงปาร์คชานยอลไม่ค่อยคุยกับใครเสียมากกว่า แม้จะเป็นคนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่จำความได้ก็ตาม ปาร์คชานยอลกับเขาเกิดมาในตระกูลร่ำรวย ครอบครัวเป็นผู้ดีเก่าแก่ตั้งรกรากอยู่ใกล้กันมาแต่ไหนแต่ไร ครอบครัวจึงจับทั้งคู่หมั้นหมายกันไว้เพื่อให้มั่นใจว่าสุดท้ายสมบัติทั้งหลายจะไม่หลุดไปถึงมือคนที่ไม่น่าไว้ใจ
แต่เขาและชานยอลก็เป็นเหมือนเพื่อนกันมาตลอด ชานยอลเป็นคนเงียบๆ พูดน้อย แต่ก็เป็นคนพึ่งพาได้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายทั้งคู่ต้องลงเอยกันอย่างไร จึงตกลงที่จะใช้ช่วงเวลานี้ใช้ชีวิตให้อิสระที่สุด ไม่ผูกมัดใดๆแก่กัน และตอนนี้ดูเหมือนชานยอลจะเริ่มใช่อิสระที่มีอย่างเต็มที่ด้วยการ มีแฟน ใช่ ชานยอลมีแฟน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจากที่เคยไปโรงเรียนพร้อมๆกัน ก็กลายเป็นต้องต่างคนต่างไป ชานยอลต้องไปรับแฟนของเขาเพื่อที่จะไปโรงเรียนพร้อมกัน มันช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ตกลงกันเอาไว้แล้ว
ทันที ที่มาถึง แบคฮยอนก็ตรงดิ่งไปยังโต๊ะประจำใต้อาคารที่มีเด็กนักเรียนสองคนนั่งรออยู่แล้ว เด็กหนุ่มร่างเล็กแก้มป่องกับอีกคนที่ความสูงไล่เลี่ยกันแต่ผิวขาวสว่างนั่น ทำให้โดดเด่นจนมองเห็นได้แม้ในระยะไกล
“มินซอก จุนมยอน” แบคฮยอนโบกมือให้เพื่อนทั้งสองคนก่อนจะรีบสาวเท้าไปที่โต๊ะ และทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“อ้าว แล้วชานยอลล่ะ”เพื่อนตัวขาวเอ่ยถาม
“ก็ไปรับคยองซูเหมือนทุกเช้านั่นล่ะ”
“อ่า ตั่งแต่มีแฟนก็ไม่ได้มานั่งคุยกับพวกเราเลยนะ ลืมเพื่อนไปซะแล้วล่ะมั้ง”มินซอกออกความเห็นบ้าง
“ไม่หรอก เขาก็อยู่กับเราตลอดอยู่แล้วนะเวลาเรียน ช่วงว่างแบบนี้ให้ชานยอลไปยู่กับแฟนเขาเถอะ”
“ดูเหมือนชานยอลจะชอบคยองซูมากจริงๆนะเนี่ย”
“แน่ล่ะ สเป็คเลยนี่ เรียบร้อย พูดน้อย ถ่อมตัว กราบผัววันละสามหน”
“มินซอก!!!” แบคฮยอนและจุนมยอนประสานเสียงกันปรามเพื่อนสนิท ไม่ใช่ว่าดัดจริตกันมาจากไหนหรอกนะ แต่พูดถึงฐานะครอบครัว แล้วก็โรงเรียนผู้ดีแบบนี้ คำหยาบทุกชนิดถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างถึงที่สุด
“ก็จริงอ่ะ”
“ไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากที่ไหนเนี่ย เดี๋ยวเถอะมินซอก เราจะไปฟ้องคุณลุงคุณป้า” คำขู่ของแบคฮยอนทำเอามินซอกตาแทบถลนออกมาด้วยความตกใจ
“อย่านะ แบคฮยอนอ่า เราขอโทษ เราจะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว อย่าไปบอกป๊ากับม๊าเลยนะ”
“อย่านะแบคฮยอนอ่า คิก คิก”คนตัวขาวล้อเลียนท่าทางของมินซอกแล้วหัวเราะอย่างขบขัน แบคฮยอนเองก็พลอยได้รื่นเริงไปด้วย ทั้งสามคนยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้ว่า หัวข้อสนทนาก่อนหน้านี้อย่างชานยอลและคยองซูมาถึงแล้ว
คยองซูรั้งแขนชานยอลให้เลี่ยงกลุ่มเพื่อนและไปที่ห้องสมุดด้วยกัน เขาไม่ได้อยากให้ชานยอลทิ้งเพื่อนสักนิด หากแต่จะให้เข้าไปร่วมวงด้วยก็คงไม่ดีแน่ คยองซูมั่นใจเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเพื่อนๆของชานยอลไม่ชอบใจตนเองเอาเสียเลย โดยเฉพาะมินซอกที่มักจะค่อนแขวะเขาเรื่องมาคบกับชานยอลทั้งๆที่คนทั้ง โรงเรียนรู้ดีว่าชานยอลมีคู่หมายอยู่แล้ว แต่คู่หมายอย่างแบคฮยอนยังไม่ว่าอะไรเขาสักนิด แล้วทำไมใครต่อใครต้องมาคอยตำหนิเขาอยู่เรื่อย
เขามั่นใจว่าเรื่องระหว่างเขาและชานยอลนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันคือโชคชะตา โชคชะตากำหนดให้ปาร์คชานยอลเดินเข้ามาในห้องสมุดวันนั้น และโชคชะตาก็กำหนดให้เขาทำเรื่องโง่ๆในวันนั้นเช่นกัน คนที่เรียนดีมากๆอย่างโดคยองซูเกิดพลาดขึ้นมา ผลการเรียนที่ตกลงเพียงเล็กน้อยกลับกลายเป็นความผิดที่ครอบครัวอภัยให้ไม่ ได้ พ่อแม่ที่แสดงท่าทางชัดเจนว่าไม่อาจรักและตามใจเขาเหมือนเดิมได้อีกเมื่อ เขาไม่ได้เป็นความภาคภูมิใจดังเช่นที่ผ่านมา โดคยองซูก็ทำเรื่องโง่ที่สุดในชีวิต....ฆ่าตัวตาย
เขาตั้งใจจะผูกคอตายในห้องสมุดนี้ อยากจะประชดประชันพ่อแม่ที่หวังให้เขาเรียนดีที่สุด ครั้นยามเหยียบบนเก้าอี้ ใจมันก็ฝ่อลงทันที เชือกที่ตั้งใจหยิบมามันเย็นขึ้นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ภาวนาให้ใครสักคนมาเจอเขาเร็วๆ บางทีเขาอาจรอดก็ได้ แต่ไม่ทันได้ทำอะไรดั่งใจคิด ร่างสูงของผู้ชายคนนึงก็มายืนอยู่เบื้องหน้า ตาโตสวยคู่นั่นจ้องมองด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่เขาจำมันได้ดี ทั้งใบหน้านั่น และคำพูด คำที่เปลี่ยนใจคยองซูให้มีชีวิตอยู่ต่อไป
“คุณจะไปเข้าใจอะไร ไม่มีใครรักผมแล้ว ไม่มีใครต้องการผมแล้ว”
“ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะฆ่าตัวตาย ชีวิตคุณมันไม่มีความสุขนี่เอง คนที่มีชีวิตอยู่เพื่อร้องขอความรักจากคนอื่น ช่างไร้ค่าจริงๆ คุณลองเปลี่ยนดูสิ ลองเปลี่ยนมามีชีวิตเพื่อรักคนอื่น คุณจะได้รู้ว่าชีวิตเรามีค่ามากขนาดไหน “
ประโยค เพียงประโยคเดียว มันทำให้เขาตัดสินใจได้ทันที เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไป มีชีวิตอยู่เพื่อรักคนอื่น โดคยองซูจะมีชีวิตอยู่เพื่อรักปาร์คชานยอล
ชานยอลมองดูแฟนตัวเล็กที่เพิ่งลากตนมาห้องสมุด คยองซูไม่พูดอะไรเพียงแต่เดินไปหยิบหนังสือมาอ่านเงียบๆ เขารู้ดีว่าที่อีกฝ่ายทำแบบนี้เพราะไม่อยากจะไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆของ เขา ปัญหาโลกแตกที่ไม่รู้จะแก้อย่างไร คือเพื่อนกับแฟนไม่ถูกกัน ปรับตัวเข้าหากันไม่ได้จึงต้องมาแยกกันแบบนี้ เอาเถอะ อย่างไรพวกนั้นยังมีกันอยู่หลายคน แต่คยองซูตัวคนเดียว เขาทิ้งคนตัวเล็กนี่ไปไม่ได้หรอก
.
.
.
ถ้า มีใครสักคนมาเห็นสิ่งที่บยอนแบคฮยอนทำ รับรองได้ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่นอน ทำอะไรงั้นหรือ? ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรหรอก แค่เขากำลัง… ปีนกำแพงหลังโรงเรียนน่ะสิ!
ร่างเล็กปีนขึ้นไปอย่างอยากเย็น เกิดมา17ปี ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีทักษะด้านกายกรรมขนาดนี้ กำแพงสูงสอเมตร เขายังปีนมันขึ้นไปได้
แบคฮยอนโยนกล่องนมลงกับพื้นหญ้าด้านล่างแล้วทิ้งตัวปุกตามลงมา หลังโรงเรียนเป็นสวนสาธารณะเก่าที่ไม่ค่อยมีใครหลงเข้ามานัก เหตุผลที่เขาต้องเสี่ยงชีวิตทำขนาดนี้ก็เพราะ
“ย๊า เจ้าลูกหมา”
ลูกสุนัขสามตัววิ่งออกมาจากที่กำบังเล็กๆ พวกมันกระดิกหางสั้นๆเมื่อเห็นว่ามีใครมาพร้อมกับกล่องนมสุดโปรด ใช่แล้วล่ะ แบคฮยอนเสี่ยงชีวิตเพื่อเอานมมาให้ลูกสุนัขจรจัดพวกนี้ เขาเจอมันครั้งแรกเพราะชายคนนึง ผู้ชายที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกตะลึงกับใบหน้าที่งดงามราวกับรูปปั้น เทพเจ้า ผู้ชายคนนั้นหล่อมากจนน่าอิจฉา เขามองตามมาจนพบว่า ร่างสูงนั่นเอานมมาให้ลูกหมาพวกนี้ เมื่อเห็นพวกมันก็ตกหลุมรักทันที น่ารักขนาดนี้ใครใจร้ายใจดำเอามาปล่อยทิ้งกันนะ ตั้งแต่วันนั้นแบคฮยอนก็เอานมมาให้พวกมันด้วยเช่นกัน เขามักจะมาก่อนชายคนนั้นเสมอ เอานมให้ลูกหมาแล้วก็จะรีบกลับเข้าโรงเรียนไป
“กินนมกันนะ”มือสวยหยิบกล่องนมมาเทใส่ถาดอาหาร
“มึงเป็นใคร” เสียงที่ดังขึ้นพร้อมร่างสูงใหญ่ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก เมื่อมองขึ้นไปจึงพบว่าเป็นชายคนนั้น ในชุดนักเรียนโรงเรียนR โรงเรียนรัฐบาลธรรมดาที่อยู่เยื้องๆตรงกันข้ามกับโรงเรียนของเขา
“ผม…คือ…”
“มึงนี่เองที่เอานมมาให้พวกมัน”
“ครับ ผมสงสารก็เลยเอามาให้น่ะครับ”
“คราวหลังไม่ต้อง กุเจอพวกมันก่อน หานมมาให้กินก่อน มึงมาทีหลังไม่ต้องเสือกมายุ่งกับพวกมันอีก เข้าใจมั้ย”
แบคฮยอนบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เคยหล่อกว่านี้ตอนไม่พูด แต่พอเอ่ยปากเท่านั้นล่ะ ทำไมถึงพูดหยาบคายกับคนไม่รู้จักได้สนิทปากขนาดนี้
“ก็ คุณมาช้า ผมกลัวว่าพวกมันจะหิว”
“กูก็มาแล้วไง พวกมันไม่หิวแล้ว มึงไปได้แล้ว”ร่างสูงยังคงออกปากไล่อย่างไม่ลดล่ะ
“นี่ คุณจะหวงพวกมันทำไมครับ ลูกสุนัขพวกนี้เป็นของคุณหรือไง คุณก็มาเจอมันเหมือนๆกับผมนี่ล่ะ” ทำปากเก่งไปแบบนั้น แต่ความจริงบยอนแบคฮยอนน่ะกลัวจะแย่ ผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่กว่าเขาตั้งเยอะ นี่ถ้าโดนต่อยสักหมัด มีหวังคงไม่รอดแน่ๆ
“มึงนี่….”ร่างสูงตรงปรี่เข้ามา
ตายแน่แบคฮยอน ทำไงดี
“เชี่ยคริส!”เสียงใครบางคนดังขึ้นช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ชายผิวเข้มในชุดโรงเรียนRวิ่งมาทางพวกเขา ก่อนจะยืนมองเขาและร่างสูงสลับไปมา
“อะไรมึงจงอิน”
“มั่วกกหมาอยู่ได้ ไอ้เทามันมีเรื่องอีกแล้วมึง ไปช่วยแม่งหน่อย เร็วเลย”
เมื่อได้รับคำตอบร่างสูงก็ออกตัววิ่งนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายผิวเข้มจะตามไปติดๆ แบคฮยอนได้แต่ยืนมองอย่างงงๆ เขาไม่เคยพบเจอคนประเภทนี้มาก่อน พูดหยาบคายกันเป็นเรื่องปกติเลยรึไงนะ มันน่าแปลกใจจริงๆ
อ่า ทำไมรู้สึกเหมือนกบที่อยู่แต่ในกะลาแบบนี้นะ เจอแต่สังคมในรั้วสูง ไม่เคยรู้เลยว่าโลกภายนอกเป็นยังไง แล้วผู้ชายคนนั้น…..
คริส
ชื่อคริสนี่เอง
TBC.
ฟิคเก่าเล่าใหม่ รอบที่สามแล้ว ใครกดแบนอีกเราจะโกรธ
ใครที่เคยอ่านแล้ว....จะรู้ว่ามันโดนแบนซ้ำซ้อนไม่จบสิ้น แล้วไฟล์ก็เสียอีก สรุปก็ซ่อมไม่ได้ ต้องพิมพ์ใหม่อีก ฮึก! เรามาสู้ด้วยกันนะทุกคน ;___;
คนที่ยังไม่เคยอ่าน...ยินดีต้อนรับจ้ะ ขอให้สนุกสนาและจงติดงอมแงม โอเครรรรร
รักเหมือนเดิม
[น้ำจ๊ะ แม่ไอ้แดง]
#ฟิคสีแดง
ปล.เจอคำผิดบอกด้วยนะคะ
ความคิดเห็น