ตอนที่ 43 : Red in Love 69%
“มึงรู้ไหม กูลำบากแค่ไหนตอนโทรไปยกเลิกพรีเซนเตอร์น่ะ” หนุ่มตี๋โวยวายกับเพื่อนสนิทเมื่ออยู่ลำพัง
“เออ กูขอโทษ ก็กูมีงบจำกัดนี่หว่า” อีกฝ่ายตอบอย่างขอไปที
“แล้วอะไรดลใจมึงวะ ถึงยอมถ่ายโฆษณาเองแบบนี้”
“กูก็แค่อยากลองใจคน อยากรู้ว่าระหว่างเจ้าหนี้กับผู้มีพระคุณ เขาจะเลือกใคร”
“หา!” เมฆินทร์อ้าปากค้าง สารภาพอย่างจำนน “ยอมรับก็ได้ว่ากูโง่ แต่มึงช่วยอธิบายอะไรมากกว่านี้หน่อยได้ไหม”
พัทธดนย์มองหน้าเพื่อนรักแล้วอ่อนใจ สงสัยคงต้องเล่าให้มันฟังทุกอย่างจริงๆ “บังเอิญกูไปรู้มาว่ายัยขนมเป็นหนี้รัฐเขตอยู่ตั้งห้าล้าน แล้วที่บังเอิญกว่านั้นคือเขาดันเป็นคนที่กูเคยช่วยเอาไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน วันที่จะบินไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้วเกือบตกเครื่องน่ะ”
“เฮ้ย! ทำไมโลกกลมแบบนี้วะ แล้วทีนี้มึงจะเอายังไงต่อ จะเล่นบทบอสเจ้าเสน่ห์ หรือผู้มีพระคุณแสนดี”
จอมเวทหนุ่มคิดตามแล้วความเจ้าเล่ห์ก็พลุ่งพล่านออกมาในคำตอบจนได้ “กูว่า...กูเล่นบทผู้มีพระคุณเจ้าเสน่ห์ดีกว่า”
“ไอ้ดนย์ ไอ้ซาดิสต์ มึงไม่คิดเหลือทางให้เขาปฏิเสธมึงได้เลยหรือไง” เมฆินทร์บริภาษไม่ยั้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา “แล้วไง มึงก็เลยหนีบเขามาดูมึงถ่ายโฆษณาด้วยเนี่ยเหรอ”
“ก็ตามที่กูคุยกับทีมงานของมึงไว้นั่นแหละ อยากได้ภาพสื่ออารมณ์อินเลิฟแบบหวือหวา จะถ่ายกูคนเดียวได้ยังไง”
“มึงเลยจะให้ขนมช่วย” เมฆินทร์กล่าวอย่างรู้ทัน “นี่มึงกะจะแกล้งเขาใช่ไหม”
“ฉลาดขึ้นมากะทันหันเชียวนะมึง” เขาสรุป
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้สองเพื่อนซี้ต้องรีบหยุดการสนทนาลงทันที เมื่อไม่รู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้วครับ เชิญคุณดนย์ด้านนอกได้เลย” ชายร่างผอมที่เปิดประตูเข้ามากล่าวแก่บุรุษที่อยู่ในห้องนั้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนกลับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉิบหายละ” พัทธดนย์สบถอย่างหัวเสีย แล้วหันมาถามเมฆินทร์ “มึงให้ไอ้บอลมาเตรียมงานนี้ด้วยเหรอ”
ความกังวลใจทำให้เขาอยู่ไม่สุข เมื่อเห็นบุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องเจอ พร้อมคำถามที่ตามมาว่า...ขวัญจิราเคยเจอมันหรือเปล่า แล้วจะจำได้ไหม
เมฆินทร์เห็นเพื่อนหน้าเครียดก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดอะไร “ไม่มีอะไรหรอกมั้ง”
“ถ้าความแตก มึงรับผิดชอบนะ” คนขี้กังวลย้อนเข้าให้
“เออ” หนุ่มตี๋รับปากแบบไม่ใส่ใจ แล้วเดินนำพัทธดนย์ออกมาจากห้องนั้น “ไปเถอะ ทีมงานคอยแย่แล้ว”
บุรุษทั้งสองเดินออกมาด้านนอกก็พบขวัญจิราที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากฉากที่เซทขึ้นเพื่อถ่ายโฆษณา โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรสักนิดเลย
วันนี้พัทธดนย์สั่งให้เข้าออฟฟิศแต่เช้า เธอก็ทำตาม พอเขาบอกให้มาก็ยอมมากับเขาแต่โดยดี ตอนแรกคิดว่าเขาจะพามาคุยกับเมฆินทร์เฉยๆ แต่เอาเข้าจริงกลับพาเธอมายังสตูดิโอถ่ายทำ จากนั้นพัทธดนย์กับเมฆินทร์ก็หายเข้าไปในห้องแต่งตัวตั้งนานสองนาน จนบัดนี้...
เขากลับออกมาอีกครั้งด้วยรูปลักษณ์ที่...หล่อจนแทบลืมหายใจ
ขวัญจิราตาโตเมื่อได้เห็นพัทธดนย์แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตขาวข้างในแล้วใส่สูทสีดำสนิททับลงไปอีกชั้น แม้ทรงของสูทจะดูล้ำสมัย และไม่มีทั้งเนคไทหรือหูกระต่าย แต่แค่นี้ก็เป็นทางการที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เพราะทุกทีพ่อคุณมักจะมาแนวลำลองติดแฟชั่น จำพวกเสื้อยืดแขนยาว หรือไม่ก็แจ็คเก็ตหนังหรือยีน
ทรงผมนั่นก็อีก ทุกทีเขาจะเซทง่ายๆ ให้เหลือบางส่วนปรกหน้าผากไว้นิดหน่อย ซึ่งเธอคิดว่าแค่นั้นก็น่ามองจะแย่ แต่วันนี้เขากลับถูกเซทผมให้เปิดหน้าผาก ทว่าไม่ได้เนี้ยบเรียบกริบ กลับดูเท่และสบายๆ มากกว่า
“คุณยอมถ่ายโฆษณาเองเหรอ” หญิงสาวสรุปความจากการแต่งกายของบุรุษตรงหน้าแล้วยิ้มร่าเพราะเห็นเงินลอยมาอยู่ลิบๆ
“อืม ไอเดียคุณน่าสนใจ ผมเลยเสนอคุณแม็ค ซึ่งเขาก็โอเค” พัทธดนย์ตอบรับแล้วหันมายังเพื่อนสนิท
“อ๋อครับ ตามนั้นแหละ” เมฆินทร์ยอมตามน้ำแต่โดยดี
รอยยิ้มของขวัญจิราแผ่ลามไปถึงเมฆินทร์ด้วย แล้วไอเดียบรรเจิดก็เกิดขึ้นทันทีที่สบตาตี่ๆ นั่น “ความจริงฉันช่วยคุณแม็คคิดงานได้นะคะ นี่ก็เล็งๆ อยู่ว่าถ้าเจ้านายคนปัจจุบันขี้งกนัก ฉันจะลาออกไปสมัครงานกับคุณดีไหมคะ”
พัทธดนย์มองคนเจ้าความคิดอย่างอ่อนใจ อยากจะยกมือเขกหัวเธออีกสักที แต่เขาไม่อยากถูกกล่าวหาว่ารังแกผู้หญิงท่ามกลางคนพลุกพล่านขนาดนี้ จึงทำได้เพียงขัดการสนทนานั้นเสีย “รีบไปเถอะ เขาน่าจะพร้อมถ่ายกันแล้ว”
การถ่ายโฆษณาในวันนี้จะเป็นส่วนของภาพนิ่งสำหรับป้ายโฆษณาและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เมื่อเริ่มต้นการถ่ายทำ ขวัญจิราก็มองโน่นมองนี่ไปเรื่อย แต่สิ่งที่ทำให้ละสายตาได้ยากที่สุด คือร่างสูงสง่าของพัทธดนย์ยามอยู่หน้ากล้อง
เขามีเสน่ห์อย่างนี้นี่เอง
ในมือของชายหนุ่มยามนี้มีโทรศัพท์มือถือ Spell ที่ไม่คุ้นตาอยู่ด้วย ขวัญจิราเพ่งมองแล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นรุ่นที่เคยเห็นมาก่อน แต่มันก็ดูเข้ากับพัทธดนย์มาก ราวกับเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายเขา
‘เอ๊ะ! หรือว่านี่จะเป็นการทำแคมเปญสำหรับเปิดตัวสินค้าใหม่’ คำถามน่าคิดที่ผุดขึ้นในหัวทำให้เธอนึกถึงชายหนุ่มอีกคน
ถ้าหากมันเป็นอย่างนั้นจริง จะถือเป็นความลับทางธุรกิจไหมนะ แล้วจะบอกรัฐเขตได้หรือเปล่า บอกแล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรไหม แต่จะบอกตอนนี้ก็คงไม่ได้ เพราะรัฐเขตอยู่ต่างประเทศ แถมยังกำชับเธอไม่ให้พูดถึงพัทธดนย์ผ่านเครื่องมือสื่อสารในทุกกรณีอีก แล้วเธอเองก็มีข้อมูลไม่มากพออยู่ดี เพราะพัทธดนย์เก็บเรื่องนี้สนิทมาก แม้กระทั่งตอนที่ให้ช่วยตัดงบแคมเปญก็ยังไม่หลุดมาสักคำว่าเป็นสินค้าตัวไหน
สงสัยต้องตัดใจยกผลประโยชน์ให้จำเลยซะแล้วสิ
ขวัญจิราคิดไปเรื่อยจนการถ่ายโฆษณาดำเนินไปได้สักพัก ตากลมโตก็เหลือบไปเห็นชายร่างผอมที่เดินไปเดินมาและคอยอำนวยความสะดวกให้ทีมงาน
ผู้ชายคนนี้...เหมือน...คนที่เอาดอกไม้ไปส่งให้รัญชยา ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ จะว่าเป็นคนใน Spell ก็ไม่น่าใช่ เพราะตั้งแต่มาทำงานกับพัทธดนย์ เธอก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้เลย หรือว่าจะเป็นคนของบริษัทเมฆินทร์กันนะ
“ขนม ช่วยผมหน่อยสิ” เสียงทุ้มกังวานดังขึ้นในระยะประชิด ซึ่งหญิงสาวที่มัวแต่มองตามชายร่างผอมไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากองถ่ายปล่อยตัวนายแบบออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ช่วย...อะไร?”
“ทีมงานเขาอยากให้มีรอยลิปสติกบนตัวผมน่ะ คุณช่วยหน่อยได้ไหม” ถ้อยคำของเขาเหมือนขอร้องมากกว่าออกคำสั่ง
“มาสิ จะให้วาดลงตรงไหนล่ะคะ แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันวาดเป็นแต่รูปเรขาคณิตนะ” ขวัญจิราบอกเขาตามประสาซื่อ แต่อีกฝ่ายกลับหรี่ตาลงอย่างมีเลศนัย
“แย่ล่ะ ถ้าอย่างนั้นคงต้อง...ปั๊มเอา”
“ปั๊ม?” เธอทวนคำ
แต่ยังไม่ทันจะได้รับความกระจ่างใดๆ เขาก็ตะโกนประโยคแปลกๆ ไปทางทีมงาน “โทษนะครับ ช่วยทาลิปสติกให้ผู้หญิงคนนี้หน่อย”
สิ้นเสียงเขา ช่างแต่งหน้าร่างยักษ์ก็ตอบรับฉับพลัน พร้อมการเข้าถึงตัวขวัญจิราแบบทันท่วงทีราวกับนัดหมายไว้ และมันรวดเร็วเกินกว่าเธอจะปฏิเสธได้ทัน
สุดท้าย...ริมฝีปากบางก็ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงค่อนข้างเข้มจนได้
พัทธดนย์เห็นใบหน้าอันงุนงงของขวัญจิราอีกครั้งเมื่อช่างแต่งหน้าเคลื่อนร่างออกไปแล้ว และภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้เขาอดคลี่ยิ้มไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าลิปสติกเพียงแท่งเดียวจะทำให้ผู้หญิงเปลี่ยนลุคไปได้ถึงเพียงนี้ เขาไม่เคยเห็นเธอใช้ลิปสติกสีฉูดฉาดขนาดนี้มาก่อน และสีของมันก็ไม่ต่างจากสเวตเตอร์ที่เธอถักให้เขาสักเท่าไหร่
“อะไรกัน เขาจะให้มีรอยลิปสติกบนตัวคุณไม่ใช่เหรอ แล้วมาทาให้ฉันทำไม”
“ก็คุณวาดไม่เป็นนี่” พัทธดนย์เดินเข้ามาใกล้แล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตด้านในลงมาสามสี่เม็ด ก่อนจับสาบเสื้อข้างหนึ่งให้แบะออก เผยให้เห็นแผงอกแน่นราวกับนักกีฬาพลางว่า “ทีมงานเขาอยากได้รอยจูบ...ตรงนี้”
**********************************
คุณดนย์มันร้ายยยยยยยยย แกล้งใครก็เกรงหัวใจเขาจะวายบ้างจิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
