ตอนที่ 28 : แผนสอง 35%
“เฮ้ยๆ พี่เอื้องลงมาแล้ว”
เสียงพนักงานชายคนหนึ่งตะโกนบอกเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เพื่อให้ทุกคนกลับไปประจำที่ของตัวเอง หลังจากจับกลุ่มหารือกันเกี่ยวกับประเด็นร้อน เมื่อเห็นเอื้องลดาที่เดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานที่ขวัญจิราอยู่ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยและกังวล
ลึกๆ แล้วขวัญจิราเองก็ร้อนใจไม่น้อยเมื่อบอกให้เอื้องลดาไปพบพัทธดนย์ตามที่เขาสั่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะโดนเล่นงานอะไรหรือเปล่า เพราะท่าทางชายหนุ่มไม่ค่อยพอใจนักตั้งแต่เลิกประชุมเมื่อวาน
"พี่เอื้อง เอ่อ...หนมจะเริ่มยังไงดี” เธออึกอัก “คือ คุณพัทธดนย์เขา...เขา...เอ่อ”
“เขาไม่ได้ทำอะไรพี่หรอกค่ะ ก็แค่ตักเตือน” เอื้องลดาตอบทั้งที่ยังฟังคำถามไม่จบ
“ตักเตือน เรื่องอะไรกันคะ หนมไม่เห็นว่าพี่จะทำผิดอะไรเลย”
“ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าเราทำงานกันต่อดีกว่า แต่มีเรื่องนึงพี่อยากให้น้องขนมช่วยหน่อย”
“ได้เลยค่ะ หนมยินดี”
“คือ คุณดนย์อยากให้งานทุกอย่างในฝ่ายขึ้นตรงกับผู้จัดการ แล้วถ้างานไหนที่มันล้นมือจริงๆ ค่อยให้ผู้จัดการมอบหมายให้ผู้ช่วยทำ แต่...น้องขนมต้องประกาศเรื่องนี้ให้พนักงานทุกคนทราบ เพราะถือเป็นอำนาจของผู้จัดการที่จะต้องสั่งการค่ะ”
“เมื่อวานคุณดนย์เขาก็แจ้งเรื่องนี้กับทุกคนในที่ประชุมแล้วนี่คะ ทำไมต้องให้หนมประกาศอีก”
“น้องขนมดูนี่สิ” เอื้องลดาหยิบแฟ้มงานบนโต๊ะเธอให้ขวัญจิราดู “เช้านี้พวกเขาก็ยังส่งงานที่พี่อยู่ดี”
“แล้วทุกทีที่ต้องสั่งการแบบนี้ ผู้จัดการคนเก่าเขาทำยังไงคะ ต้องเดินไปบอกทีละคนหรือเปล่า” ขวัญจิราถามอย่างใคร่รู้ เหมือนเธอมีใจอยากจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างเอื้องลดาและพัทธดนย์มากเกินกว่าจะฉุกคิดตั้งข้อสงสัยใดๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ช่วยคนเก่งยิ้มออก เพราะดูว่าแผนการจะไปได้สวย
“ถ้าไม่ด่วนมากก็รอแจ้งตอนประชุมฝ่าย แต่ถ้าด่วน คุณธนาก็จะไปประกาศกลางฝ่ายอย่างที่คุณดนย์ทำตอนพาน้องขนมมาแนะนำนั่นแหละค่ะ”
“แล้ว...เรื่องนี้คือ...ด่วนใช่ไหมคะ” คนอ่อนวัยกว่าถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ซึ่งเอื้องลดาก็พยักหน้ารับตามแผน
ขวัญจิราคิดหนัก นั่นไง...คนอย่างพัทธดนย์น่ะหรือจะปกป้องเธอ ถ้าสั่งมาแบบนี้ก็ไม่ต่างจากกลั่นแกล้งสักนิด เขารู้ทั้งรู้ว่าในฝ่ายไม่มีใครยอมรับเธอ แล้วยังจะให้ไปประกาศคำสั่งวางอำนาจแบบนั้น ถ้าพวกเขาทนฟังจนจบได้ก็ประหลาดแล้ว แต่ถ้าไม่ทำก็จะโดนเขาหาเรื่องอีก เผลอๆ เอื้องลดาอาจโดนหางเลขไปด้วยก็ได้
เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปเหมือนกำลังใช้ความคิดแล้วก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรสักอย่างบนคอมพิวเตอร์ เอื้องลดาจึงตะล่อมถามเชิงอาสา “น้องขนมจะสั่งการเองไหมคะ หรือจะให้พี่ช่วยก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนมคิดว่าน่าจะพอไหว” เธอตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากหน้าจอ
“แล้วจะออกไปประกาศตอนนี้เลยไหม พี่จะได้เรียกให้ทุกคนมาฟัง”
“ค่ะ หนมจะประกาศเดี๋ยวนี้เลย แต่พี่เอื้องไม่ต้องเรียกใครมาฟังหรอกค่ะ” ขวัญจิราละจากการจับจ้องบางอย่างบนหน้าจอนั่นแล้วหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับคู่สนทนาของเธอ
ขณะเดียวกัน พัทธดนย์ก็ตามเอื้องลดาลงมาแอบดูสถานการณ์อยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้าฝ่าย เพื่อเตรียมเล่นตามแผนสองที่วางไว้ เขากะว่าถ้าขวัญจิราให้เอื้องลดามาประกาศแทน เขาก็จะรีบปรากฏตัวแล้วหาเรื่องตำหนิเอื้องลดาที่ทำเกินหน้าที่ หรือถ้าแม่ผู้จัดการสาวออกมาประกาศด้วยตัวเอง คงเกิดการต่อต้านจากคนในฝ่ายแน่ เอื้องลดาก็จะเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย เขาก็จะหาเรื่องตำหนิเธอได้อยู่ดีนั่นแหละ และคราวนี้จะได้เป็นโอกาสให้เอื้องลดาแสดงความรู้สึกแท้ที่จริงของเธอต่อหน้าทุกคนในฝ่าย เพราะถ้าจะทำให้ทุกคนยอมรับเอื้องลดา ก็ต้องทำให้เข้าใจและเห็นใจอย่างถึงที่สุด
เขาเฝ้าดูอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าผู้บริหารฝ่ายคนใดจะออกมาจากห้อง จะมีก็แต่พนักงานคนอื่นในฝ่ายที่ยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันโดยไม่สนใจทำงาน แล้วทันใดนั้น เอื้องลดาก็เดินออกมาจากประตูและประกาศบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งทุกคนก็ดูตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
สงสัยว่างานนี้ยัยขนมจะไม่ได้บ้าบิ่นมากพอละมั้ง เอื้องลดาถึงออกหน้าให้แบบนี้
ในขณะที่พัทธดนย์กำลังเตรียมพร้อมแต่กลับเกิดเรื่องพลิกผันขึ้น เมื่อเอื้องลดาเพียงแค่แจ้งให้ทุกคนอ่านอีเมลแล้วก็กลับเข้าห้องทำงานไปโดยไม่ได้พูดถึงเรื่องอื่น และไม่มีการปรากฏตัวของขวัญจิราแต่อย่างใด
จอมเวทเจ้าเล่ห์ข้องใจไม่น้อยที่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามแผน เขาเฝ้าครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอีเมลที่เอื้องลดาพูดถึงคืออะไรกัน จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของเขาแจ้งเตือนว่ามีอีเมลใหม่เข้ามา...อีเมลจากขวัญจิรา
‘เรียน ฝ่ายการตลาดทุกท่าน
ตามที่คุณพัทธดนย์ได้แจ้งให้ทุกท่านทราบแล้วในการประชุมฝ่ายครั้งที่ผ่านมา เกี่ยวกับการส่งแฟ้มงานและเอกสารต่างๆ ซึ่งต้องส่งมายังผู้จัดการฝ่ายการตลาดโดยตรง จึงรบกวนทุกท่านโปรดให้ความร่วมมือโดยการนำเอกสารทั้งหมดที่ต้องส่งพิจารณามาไว้บนโต๊ะผู้จัดการฝ่ายการตลาด ทั้งนี้ หากมีกรณีจำเป็นเร่งด่วน ผู้จัดการฝ่ายจะมอบหมายให้ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายร่วมพิจารณาต่อไปค่ะ’
ชายหนุ่มจ้องโทรศัพท์ในมือของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อเห็นว่าขวัญจิราเลือกที่จะประกาศคำสั่งนั้นด้วยการส่งอีเมลให้พนักงานทุกคนในฝ่ายรวมถึงเขาด้วย แถมยังใช้ถ้อยคำสุภาพอย่างที่สุด แล้วอ้างชื่อเขาเพื่อลดทัศนคติแง่ลบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งยังเลี่ยงที่จะบอกว่าตัวเธอเองคือผู้จัดการฝ่ายการตลาดซึ่งมีอำนาจสั่งการ
ร้ายนักนะ...ยัยตัวแสบ ทำแผนการของเขารวนหมด
จอมเวทเจ้าเล่ห์เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงหลังจากอ่านอีเมลจบ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไร มันทั้งหงุดหงิดและตื่นเต้นที่เจอกับสิ่งท้าทาย เขาประเมินสถานการณ์อยู่สักพัก เห็นพนักงานเริ่มเปิดอ่านอีเมล แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ จึงมุ่งหน้าเข้าไปยังห้องทำงานของขวัญจิราและตั้งใจปิดประตูไม่สนิท เพราะรู้ว่าคนทั้งฝ่ายคงต้องมาแอบฟังสิ่งที่เขาสนทนากับผู้บริหารทั้งสองเป็นแน่
“คุณดนย์” เอื้องลดาทักเขาด้วยสีหน้าวิตกที่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามแผน เธอกำลังใช้ความคิดว่าจะปรึกษาเขาอย่างไรโดยไม่ให้ขวัญจิรารู้ แต่หญิงสาวอีกคนกลับคิดว่าเธอวิตกเพราะกลัวจะถูกพัทธดนย์ตำหนิอีก
“คุณมาพอดีเลย ได้รับอีเมลที่ฉันส่งไปหรือยังคะ นี่ฉันทำตามที่คุณสั่งทันทีเลยนะ” ขวัญจิราชวนชายหนุ่มหน้านิ่งคุย แล้วเดินเข้ามาหาใกล้เขาบริเวณหน้าโต๊ะทำงานของเอื้องลดา
“ได้แล้วครับ และหวังว่าคนที่ได้รับอีเมลของคุณทุกคนจะปฏิบัติตาม ใช่ไหมครับพี่เอื้อง” เขาตั้งใจทำเสียงขรึม จ้องมองที่เอื้องลดาด้วยสายตาเอาเรื่อง
“ค่ะ” คนถูกจ้องตอบรับสั้นๆ แล้วรีบหลบตาทันที เพราะกลัวแสดงพิรุธจนขวัญจิราจับได้ แต่อาการแบบนั้นยิ่งทำให้ผู้จัดการคนใหม่เข้าใจว่าเธอกำลังกลัวมากขึ้นไปอีก
“แล้วถ้างานในฝ่ายยังไม่คืบหน้า รายงานรายเดือนยังไม่มี เอกสารยังส่งที่พี่เอื้องอยู่ จะให้ผมจัดการยังไง พี่จะมาออกรับแทนลูกน้องทุกคนแบบที่พูดกับผมเมื่อกี้ไม่ได้แล้วนะ” เขากล่าวหน้าตาย เสียงแข็งดูทรงอำนาจ
เอื้องลดางุนงงเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน หากแต่ไม่ได้ตอบอะไร เพราะเธอกำลังประมวลผลว่าจอมเวทหนุ่มประสงค์สิ่งใดกันแน่
เมื่อครู่ที่ขึ้นไปพบพัทธดนย์บนห้องทำงาน เขาเล่าถึงแผนการขั้นต่อไปว่าจะหาเรื่องตำหนิเธอ และคนอื่นๆ ในฝ่าย จากนั้นก็จะให้เอื้องลดาออกโรงปกป้องทุกคน แต่นั่นไม่ใช่การแสดง เพราะใจจริงของเอื้องลดาก็รักและอยากปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่แล้ว ซึ่งการที่เธอเคยมาขอให้ปลดตัวเองออกจากรักษาการผู้จัดการเพื่อความสบายใจของลูกน้องก็เป็นเครื่องยืนยันที่มากพอ
หรือนี่จะเป็นแผนสำรองของจอมเวทหนุ่มเพื่อดึงสถานการณ์ให้กลับมาเข้าแผนเดิม
“ค่ะ พี่เข้าใจ” เมื่อยังไม่ค่อยแน่ใจนัก เอื้องลดาจึงเลือกที่จะพูดน้อยไว้ก่อน และพัทธดนย์ก็เหมือนจะรู้ทัน เพราะ เขาพูดบทสนทนาต่อไปทันที
“ก็ตามที่ผมพูดกับพี่ไปแล้วตั้งแต่อยู่ข้างบนนั่นแหละครับ ผมรู้นะว่าพี่เอื้องรักลูกน้องและตั้งใจทำงานมาโดยตลอด และผมก็ให้โอกาสพี่โดยการแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้จัดการแล้ว แต่ดูเหมือนสถานการณ์ในฝ่ายมันแย่ลงเรื่อยๆ ผมก็จำเป็นต้องหาผู้จัดการคนใหม่”
“ค่ะ” ผู้ร่วมแผนการของเขาตอบรับพร้อมความมั่นใจที่มากขึ้น เนื่องจากเหลือบไปเห็นประตูที่เปิดแง้มอยู่
ขวัญจิราฟังสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกันแล้วเกิดความเห็นใจเอื้องลดามากเสียจนไม่ได้สนใจสิ่งอื่น ไม่รู้แม้กระทั่งการเข้ามาประชิดตัวของผู้ชายหล่อเหลาคนนั้น
“และเมื่อผมตัดสินใจไปแล้วว่าจะให้ขวัญจิรามาเป็นผู้จัดการ แล้วพี่ทำแทนเขาทุกอย่างแบบนี้ ขวัญจิราเขาจะไม่เสียความรู้สึกแย่เหรอ” พัทธดนย์ตั้งใจโอบไหล่หญิงสาว กระชับมือหนาของตนเพื่อดึงเธอเข้ามาแนบชิด ทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่เอื้องลดา
คนถูกโอบเงยหน้ามองเขาอย่างงุนงง เธอหาได้เคลิบเคลิ้มกับการที่เขาถึงเนื้อถึงตัว แต่กลับขนลุกมากกว่า เหมือนเขาตั้งใจจะเข้าใกล้เธอ เข้าข้างเธอ และปกป้องเธอ แต่ขวัญจิรารู้ว่ามันไม่ใช่ เขาทำตัวแปลกเสียจนเธอต้องทักท้วง
“ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย ความจริงฉันก็ไม่ได้คิดถือสาอะไร”
“คุณไม่ถือ แต่ผมถือนี่”
มือหนารั้งหัวไหล่มนให้เข้ามาชิดมากขึ้นไปอีก เขาบังคับให้เธอเข้าไปใกล้จนรู้สึกอึดอัด ขวัญจิราจึงรีบพาตัวเองออกจากมือเขา
“คุณไปยืนไกลๆ ก็ได้มั้งคะ”
พัทธดนย์ไม่ตอบและไม่ทำตาม เขาไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอก็ได้ แต่จะยืนชิดๆ แบบนี้แหละ ไหนๆ คนในฝ่ายก็ลือว่าเธอเป็นเด็กเส้นของเขาอยู่แล้ว ถ้าช่วยสร้างภาพเสริมข่าวลืออีกหน่อยจะลดเครดิตของขวัญจิราลงไปได้อีกเยอะ
“เอาเป็นว่าพี่จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดค่ะ” เอื้องลดากล่าวเสียงราบเรียบ หน้านิ่ง
“และหวังว่าผมคงไม่ต้องมาฟังคำที่พี่แก้ตัวแทนลูกน้องอีกนะครับ”
พัทธดนย์พูดแล้วหันมาสบตาหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้เขา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาปิดประตูห้องทำงาน แล้วทำทีเหมือนออกไปจากฝ่ายการตลาดโดยไม่มีธุระกับใครในที่นั้นอีก แต่ความจริงแล้วเขายังคงแอบดูสถานการณ์อยู่ด้านนอกนั่นเอง
ทันทีที่เจ้าของบริษัทลับสายตา และผู้บริหารฝ่ายทั้งสองยังอยู่ในห้องทำงานที่ปิดสนิท ก็ได้เวลาที่พนักงานในฝ่ายมาจับกลุ่มคุยกันอีกหน
“เมื่อกี้คุณดนย์บอกว่าพี่เอื้องปกป้องพวกเรา” คนหนึ่งเริ่ม
“ใช่ สงสารพี่เอื้องเหมือนกันนะ อยู่ๆ ก็โดนตำหนิ” อีกคนหนึ่งเสริม
“เหมือนคุณดนย์ลำเอียงเลยเนอะ ดูเข้าข้างผู้จัดการคนใหม่มากกว่าพี่เอื้อง แล้วยังให้พวกเรายอมรับคนใหม่อีก”
“แต่จะให้ยอมรับผู้จัดการหน้าเด็กนั่นมันก็ทำใจยากจริงๆ นะ”
“นั่นสิ ให้พี่เอื้องเป็นผู้จัดการยังจะยอมรับได้มากกว่านี้”
“จริงด้วย”
เสียงปรึกษาหารือของคนในฝ่ายยังคงเจื้อยแจ้ว จอมเวทไอทีก็เริ่มประเมินผล อืม...เท่าที่ฟังดูก็เหมือนว่าแผนสองของเขา ไม่สิ! น่าจะแผนสาม สี่ หรือห้าแล้วก็ไม่รู้ จะแผนที่เท่าไหร่ก็ช่าง แต่มันน่าจะได้ผลมากทีเดียว
*******************************
ขนมเอาตัวรอดจากแผนการของคุณดนย์ได้อย่างไม่รู้ตัวเลย แต่คุณดนย์กับพี่เอื้องนี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
