ตอนที่ 49 : season 2 l o๑ - ครั้งแรกกับกุญแจนำทาง
“ง่วงสินะ—หน้าบูดเชียวซอนโฮ” คนตัวบางเอ่ยพูดกับน้องชายตัวเองด้วยเสียงที่ไม่เบานัก ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางออกจากบ้านในยามรุ่งเช้าแบบนี้
ใครมันจะอยากจะตื่นเช้าในวันปิดเทอมกันละ
“ง่วงมาก! ผมเพิ่งจะได้นอนเอง” ซอนโฮเอ่ยตอบเขาอย่างนั้น พร้อมยกนิ้วขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเบาๆ
“แล้วทำอะไรทำไมไม่นอน—พี่บอกแล้วนะว่าวันนี้ต้องเดินทางเช้า” สุรเสียงทุ้มแหบของพี่ชายคนโตดังขัดบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองคนขึ้นมา ก่อนจะปรากฏร่างขององซองอูที่กำลังหอบกระเป๋าใบโตไว้ที่หลังด้วยสีหน้าแจ่มใส
“ผมรู้น่า—แต่ช่วยไม่ได้ที่เกมของมักเกิ้ลพวกนั้นทำให้ผมติด” ซอนโฮเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงยานคาง
“เอาแต่เล่นเกม หนังสือไม่อ่านเลยนะยูซอนโฮ” เขาเอ่ยพูดต่อบ้าง ก่อนจะได้รับสีหน้าปากที่เบะของน้องชายตอบกลับมา
“โห ทำไมมารุมผมกันแบบนี้—แม่ครับ!”
ทั้งเขาและพี่ซองอูก็ได้แต่สั่นหัวอย่างเอือมระอาในความหัวดื้อของน้องคนเล็กที่จะเริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
“เราเดินทางพร้อมคุณจอห์นสันใช่ไหมครับ” เซอุนเอ่ยถามคนเป็นพ่อด้วยความสงสัย เมื่อหันสายตาไปเห็นร่างสูงใหญ่ของคุณจอห์นสันและภรรยา พ่วงมาด้วยลูกชายอีกหนึ่งคน
อ่าดูเหมือนน้องเฮนรี่จะไม่ได้มาด้วยสินะ
“ใช่แล้ว” พ่อตอบรับคำ พลางก้าวเท้าเดินไปจับมือทักทายคุณจอห์นสันและพูดคุยอะไรบางอย่าง
เขาจับใจความอะไรไม่ได้นัก เพราะคริสกับซอนโฮที่กำลังคุยกันออกรสอยู่ทำซะเสียสมาธิ
คริสน้องชายจากครอบครัวผู้วิเศษที่อยู่ในละแวกบ้านของเรา ที่เพิ่งจะมีโอกาสได้เข้าสู่โลกเวทย์มนต์เพราะเขาเพิ่งจะอายุ 11 เมื่อไม่นานมานี้ และคริสก็กำลังจะเข้าศึกษาในฮอกวอร์ตปีนี้เช่นเดียวกัน (ได้ข่าวว่าจดหมายเชิญถูกส่งให้คุณจอห์นสันในวันเกิดของคริสด้วย)
แต่เด็กคนนี้มีแววจะเป็นพ่อมดที่เก่งกาจมาตั้งแต่แบเบาะ แล้วบางทีอาจจะเก่งกว่าเขาอีกก็เป็นได้
“ผมตื่นเต้นมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ดูมัน” คริสว่าด้วยอาการตื่นเต้น
“ครั้งแรกของพี่ด้วยคริส—“
“แต่พี่เคยดูมาสองนัดแล้วนะ” เป็นพี่ซองอูที่ว่าต่อ พร้อมยืดอกแสร้งทำราวกับว่านั่นเป็นเรื่องที่แสนน่าภูมิใจ
แค่เคยดูควิดดิชเวิร์ลคัพสองครั้ง มันน่าภูมิใจมากงั้นหรอ
และ ใช่
พวกเรากำลังจะไปดูควิดดิชเวิร์ลคัพกัน ทั้งพ่อแม่ของ พี่น้องของเขา และเพื่อนบ้านผู้วิเศษของเราด้วย
เห็นพี่ซองอูคุยว่านัดครั้งนี้ ดุเดือดมาก และห้ามพลาดเลยสักคนเดียว
จึงเป็นเหตุผลที่จองเซอุนต้องมายืนรอเวลาอยู่ตรงนี้ แทนที่จะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม แล้วตื่นขึ้นมาอ่านหนังสืออย่างที่ตั้งใจ
อย่างที่ทุกคนรู้กัน เซอุนไม่ได้หลงใหลในกีฬาควิดดิชเหมือนพี่ซองอูหรือซอนโฮ เขาเพียงแค่รู้จักมันเพื่อจะได้เข้าใจในสิ่งที่ทั้งสองคนพูดเท่านั้น
อ่า
ตอนนี้คงต้องเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง
จะใครละ
ก็ซีกเกอร์มือหนึ่งของกริฟฟินดอร์ไง
“นี่พี่ยองมินไปดูหรือเปล่าอะพี่เซอุน” ระหว่างที่เรากำลังเดินเท้าจากบริเวณหน้าบ้านไปยังกุญแจนำทางที่คุณพ่อของเราบอกว่ามันอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้านนี่เอง ร่างของซอนโฮก็เดินพุ่งมายเดินข้างเขา
“น่าจะไปดูนะ พี่ยองมินไม่น่าจะพลาดอะไรแบบนี้” เซอุนตอบ
“อื้อ—ผมกำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าควานลินจะไปไหม”
“อ้าว ไม่ได้ถามในจดหมายไปหรอ”
“ครับ ผมลืมไปเลย เพิ่งนึกได้ตอนที่พี่ซองอูเตือนเมื่อคืนแหละครับ” ซอนโฮว่าพร้อมถอนหายใจ
เขาขำ พลางยกมือไปบีบคางน้องชายตัวเอง
“คิดถึงควานลินมากเลยสินะ”
“ก็—ครับ คิดถึงมาก” ซอนโฮตอบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่โคตรจะงอแง
แบบนี้พ่อหนุ่มสลิธีรินคนนั้นจะไปไหนรอดละ
“น่า พี่คิดว่าบีตเตอร์ของสลิธีรินไม่มีทางจะพลาดการแข่งขันครั้งนี้นะ” เซอุนตอบไปตามที่คิด ก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นว่าน้องชายตัวเองยิ้มออกมาแล้ว
“ผมก็คิดงั้น! เรารีบเดินกับเถอะครับ ผมอยากจะไปถึงที่งานจะแย่แล้ว”
เซอุนขำออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้ารับ พร้อมเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะเจอกุญแจนำทางแล้ว
ร่างโปร่งชะเง้อใบหน้ามองไปยังด้านในวงที่กำลังมุงกันอยู่ด้วยความอยากรู้
เอ้ะ
นั่นมันกระป๋องน้ำอัดลม?
นี่หรอคือกุญแจนำทาง
เดี๋ยวสิ
กระป๋องนี่นะ?
“ทำไมทำหน้างงแบบนั้นวะนั่น ไม่เคยเห็นกุญแจนำทางหรอ” พี่ซองอูที่ยืนอยู่ข้างกัน ถามออกมาพร้อมกลั้วหัวเราะ
“เคยได้ยินแต่ชื่อ คิดว่ามันเป็นกุญแจจริงๆ” เขาตอบ
“เอ้า โปเนียว ถ้าเป็นกุญแจจริง พวกมักเกิ้ลมันจะไม่หยิบไปหรือไง” พี่ซองอูตอบอีกครั้ง
“ก็ไม่รู้นี่” เขาว่าพร้อมย่นใบหน้าหนีคนเป็นพี่ที่ทำให้อารมณ์เขาหงุดหงิดอีกแล้ว
ก็ตามชื่อมันคือกุญแจนี่น่า มันควรจะมีรูปร่างคล้ายชื่อเสียหน่อย
แต่คงเป็นกฎของกระทรวงอีกตามเคย ส่วนใหญ่ของวิเศษของพ่อมดแม่มดก็เป็นของธรรมดาที่พวกมักเกิ้ลเห็นจนชินตา
แต่เขาไม่คิดเลยจริงๆว่ามันจะเป็นกระป๋องน้ำอัดลมแบบนี้
"เอ้า มัวแต่ยืนนิ่ง รีบๆแตะกระป๋องเร็วเข้า พวกเราไม่อยากจะไปสายหรอกนะ” พ่อของเราพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ทุกคนต่างเอื้อมมือเข้าไปแตะที่กระป๋องน้ำอัดลมนั่น
และทันทีที่เขาแตะมือไปยังกุญแจนำทางในรูปน้ำอัดลมนั้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าลอยได้ จู่ๆทุกอย่างรอบกายของเขาก็หมุนเป็นวงกลมไปมาราวกับเกิดพายุหมุน
ใบหน้าของคริสและซอนโฮบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัวเพราะลมที่ตีปะทะเข้าหน้าพวกเขา
เขาไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ รู้แค่ว่าตอนนี้เราเริ่มถูกเหวี่ยงไปมามากขึ้น และรู้สึกได้ถึงอากาศที่เริ่มจะเบาลง และมีฝุ่นผงเข้ามาแทนที่
แต่ก่อนที่พายุจะพัดตัวพวกเราให้ปลิวออกจากกัน พ่อก็เอ่ยพูดขึ้นมา
“ทุกคนปล่อยมือ! เราถึงที่หมายแล้ว” เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาจึงปล่อยมือออกจากกระป๋องน้ำอัดลมพร้อมกับคนอื่นๆ
“อ๊ากกกกกก”
เสียงหวีดร้องของใครสักคนดังขึ้น หลังจากที่พวกเราปล่อยมือแล้ว ร่างกายอันหนักอึ้งของเขาก็ถูกดูดเข้าไปในอะไรสักอย่าง พร้อมกับโดนหมุนไปมาราวกับเล่นเครื่องเล่นแสนน่าหวาดเสียวของมักเกิ้ล และนั่นมันทำให้เขาแทบอยากอ้วกออกมา
อั่ก!
อั่ก!
อั่ก!
ยังไม่ทันให้เขาได้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ แสงสว่างของพระอาทิตย์ก็สาดเข้ากับใบหน้าของเขา พร้อมกับอากาศเย็นที่สัมผัสเข้าที่ผิวกาย
ทำให้เซอุนรู้ได้ว่าเขาน่าจะหลุดออกจากพายุนั่นแล้ว
แต่
ไม่เห็นมีใครบอกว่าพอตกถึงพื้น มันจะตกลงแรงขนาดนี้!
“โอ๊ย—“ เสียงอุทานดังออกมาจากหลายคน รวมถึงเขาด้วย
ร่างโปร่งพยุงตัวลุกขึ้นยืนทันทีที่ตั้งสติได้ ก่อนดวงตากลมจะเสมองไปรอบกายตัวเอง
คริสและซอนโฮก็มีสภาพไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่
แต่กลับกัน ดูเหมือนคริสจะดูติดใจในการเดินทางด้วยกุญแจนำทางแบบนี้ เพราะเด็กนั่นเอาแต่ยิ้มแล้วมองไปมาด้วยความตื่นเต้น
“หน้าบูดเชียวน้องพี่” พี่ซองอูที่ค่อยๆลอยลงมาจากอากาศพร้อมกับพวกผู้ใหญ่คนอื่นๆว่าขึ้น ก่อนจะหันไปหัวเราะคิกคักกับตัวเอง
ให้ตาย
พี่ชายเขาทำไมน่าหงุดหงิดแบบนี้
การมีพี่แดเนียลไม่ช่วยให้พี่ซองอูหายเป็นพี่ชายที่น่าโมโหเลย
ฉะนั้นเขากับซอนโฮก็ยังไม่คิดจะเลิกสาปด้วย
“เอาละ เด็กๆ ขอต้อนรับเข้าสู่ควิดดิเวิร์ลคัพ” เสียงของพ่อเรียกให้เขาละความสนใจจากพี่ซองอูเพื่อหันไปมองยังด้านล่างของภูเขาที่ถูกจัดให้กลายเป็นที่สำหรับกางเต๊นท์และผู้คนมากมายกำลังสนุกสนานอยู่ในนั้น
“ที่นี้ที่ไหนอะครับพ่อ” เป็นซอนโฮที่ยืนได้เต็มความสูง หันมาถามด้วยความตื่นเต้น
“ไม่มีใครรู้หรอกพ่อหนุ่ม พวกกองควบคุมเกมและกีฬาเวทมนต์ไม่เคยปริปากบอกใครอยู่แล้ว” คุณจอห์นสันเอ่ยตอบขึ้นมาแทน
ก่อนเขาจะเอ่ยไล่ให้พวกเราไปยังที่กางเต็นท์ได้แล้ว เสียก่อนที่จะไม่มีเวลาเตรียมตัวก่อนเริ่มการแข่ง
“นั่นคือเต็นท์ของเราหรอ!” เสียงโหวกเหวกของซอนโฮทำให้ผู้คนรอบกายต่างหันมาสนใจเรา น้องชายคนเล็กชี้ไปยังเต๊นท์ที่เทียบได้แล้วความสูงเกือบเท่ากับเซอุนเลย
แต่เท่าที่จำได้ ภายในของมันจะกว้างใหญ่พอๆกับบ้านเลย นั่นจึงทำให้การกางเต็นท์เป็นสิ่งที่ผู้วิเศษนิยมกันอย่างมาก
คนเป็นแม่พยักหน้ารับเล็กน้อย พร้อมเดินตรงเข้าไปยังเต็นท์ตามคนรีบร้อนอย่างซอนโฮที่ปรี่เข้าไปก่อนอย่างรวดเร็ว
“เซอุน!!” เขาชะงัก ก่อนจะหันหาที่มาของเสียงที่คุ้นเคยที่เอ่ยเรียกชื่อของขา
“แจฮวานนนน” เขายิ้มกว้าง เมื่อมองเห็นร่างของเพื่อนตนเองที่กำลังวิ่งมาทางนี้
“ไม่คิดว่านายจะมานะเนี่ย” แจฮวานว่าอีกครั้ง พร้อมสวมกอดเขาเบาๆด้วยรอยยิ้ม
“ก็โดนพี่ซองอูบังคับมานั้นแหละ นัดสำคัญนี่เนอะ” แจฮวานทำท่านึกอะไรสักอย่างหลังจากเขาพูดจบ
“อ่อ! นึกออกแล้ว เห้ยนี่ฉันเกือบลมไปแล้วนะเนี่ย” อีกคนพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง
พวกเราคุยอะไรกันอีกนิดหน่อย เซอุนก็ถูกแม่เรียกเข้าไปยังด้านในเต็นท์เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ทานข้าว และเตรียมตัวก่อนจะไปที่สนาม
“เอ้อ! ฉันเห็นเต็นท์ของพี่ยองมินอยู่ถัดจากนายไปทางนู้นนะ” แจฮวานเอ่ยอีกครั้ง พร้อมชี้นิ้วไปตามที่ตนบอก
เขายู่ปาก ก่อนจะรีบเดินหนีเพื่อนตัวเองเข้าไปได้ด้านใน
ให้ตาย
สีหน้าล้อเลียนของคิมแจฮวานนั่นน่าเบื่อ!
“จำที่นั่งของบ้านเราได้ใช่ไหมซองอู” คุณพ่อเอ่ยย้ำอีกครั้งพลางเลิกคิ้วมองมายังพวกเราสามคน
“จำได้ครับ—ที่นั่งประจำของเราทุกปี” พี่ซองอูตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนคุณพ่อจะพยักหน้าเข้าใจ แล้วโบกมือไล่เราทั้งสามออกไปตามที่ขอไว้
อ่า พวกเราขอไปเดินเล่นก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม
“พวกแกไม่ต้องแยกไปไหนนะ เดี๋ยวจะหลงกันเปล่าๆ” พี่ซองอูเอ่ยขึ้น ก่อนสายตาจะหันมองไปรอบอย่างสนใจ แล้วออกเดินไปตามทาง
“ปกติคึกคักกันอย่างนี้หรอครับ” เซอุนเอ่ยถาม
“ปีนี้คึกคักมากกว่าปกติอ่ะ เพราะส่วนใหญ่ก็จะมีแต่พวกคอควิดดิชที่จะมาดู แต่คราวนี้ดูมีคนนอกมาดูเยอะเลย” อีกคนตอบ
“แหม—พี่ก็รู้ ทุกคนต่างอยากมาดูซีกเกอร์มือใหม่ที่ทำให้ทีมชนะเข้ารอบมาอย่างขาดลอยกันทั้งนั้นแหละ”
สิ้นเสียงซอนโฮ พี่ชายคนโตของบ้านก็ชะงักตัวไป พร้อมกับหันมาเบ้ปากใส่น้องชายตัวเอง
“ไม่เห็นน่าดูตรงไหน” ซองอูพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเบาๆ ก่อนจะรีบสะบัดตัวเดินหนีไปอีกทาง
ทิ้งให้เขาและซอนโฮหัวเราะกันด้วยความสนุก
“อ้าววว องเพื่อนรักกกก” เสียงกวนประสาทที่คุ้นเคยดังเข้าหูของเขาพร้อมกับร่างแคระๆของเพื่อนตัวดีที่เดินเข้ามาในกรอบสายตา
“อะไรมึง!” เขาว่าตอบไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เอ้า! นี่มึงหงุดงหงิดอะไรเนี่ยซองอู” คิมยงกุกเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตามมาด้วยคิมดงฮยอน และอิมยองมินที่เพิ่งสาวเท้าตามมาทัน
“อะไรกัน” เป็นยองมินที่เอ่ยขึ้นมา
“กูไม่รู้มัน หงุดหงิดใส่กูเฉย ทำไมอะ ผัวมีชู้อ่อ” ยังไม่วายที่คิมยงกุกจะได้หาโอกาสแหย่เพื่อนหน้าแมว (มึงก็หน้าแมวไอ้ยงกุก!)
“ชู้อะไรของมึง!!!” ซองอูเอ่ยเถียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“อ้าว—เสียงดังว่ะ แสดงว่าเรื่องจริง?” คิมดงฮยอนที่กำลังจัดหมวดทรงสูงสีแดงของตัวเองให้เข้าที่เอ่ยถามขึ้นพร้อมหัวเราะเบาๆ
“ไม่จริงโว้ย! พวกมึงแม่ง” เขาโวยวายออกมาเสียงดัง ก่อนน้องชายของเขาทั้งสองคนจะเดินเข้ามาในวงสนทนา
“อ้าว สวัสดีครับพี่ๆ” ซอนโฮเอ่ยทักทายเพื่อนเขาทั้งสามด้วยรอยยิ้ม ตามมาด้วยเซอุนที่เอ่ยต่อ ก่อนจะขยับตัวไปยืนกับไอ้ยองมินที่ยื่นมือมารออยู่แล้ว
“หวัดดีเว้ยซอนโฮ—ไอ้ซองอูเป็นอะไรของมันวะน้อง อยู่ๆก็หงุดหงิดใส่พวกพี่เฉย” ดงฮยอนเอ่ยตอบ พร้อมชี้นิ้วมาทางเขาเมื่อเอ่ยถึง
“ฮ่าๆๆๆ สงสัยหงุดหงิดที่ผมแซวไปเมื่อกี้”
“แซวอะไรวะ?”
“ฮ่าๆ ผมแค่บอกว่าที่วันนี้คนเยอะก็เพราะทุกคนอยากมาเชียร์ซีกเกอร์ของบัลแกเรียกันน่ะครับ” ซอนโฮตอบพร้อมกุมท้องอย่างนึกขัน เมื่อหันไปเห็นสีหน้าราวกับแมวขู่ของพี่ชายตัวเอง
“เออว่ะ กูก็ว่างั้น ยงกุก มึงได้ยินที่สาวๆเต็นท์ข้างๆเราคุยกันป่ะ ที่บอกว่าอยากตีสนิทกับซีกเกอร์ของบัลแกเรีย” ดงฮยอนว่า พลางหันสายตาไปยังเพื่อนหน้าแปะ
“เออๆได้ยินอยู่ รู้สึกว่ามาจากอเมริกาเหนือด้วยมั้ง สวยโคตร เป็นใครก็ต้องเหลียวหลังอ่ะ” ยงกุกพูดต่อ แถมด้วยการพยักหน้าลงอย่างเห็นด้วย
“พวกมึงพูดมากจังวะ! กูจะไปหาซื้อหมวกแล้วก็เพ้นหน้าทีมของเวลส์แล้ว! ไม่ต้องตามมานะเว้ย” สิ้นเสียงเขา องซองอูก็พาร่างของตัวเองออกมาทันที ก่อนที่เขาจะได้ยินอะไรที่น่าหงุดหงิดไปมากกว่านี้
“เห้ย! แต่ซองอู มึงใส่เสื้อทีมบัลแกเรียอยู่นะเว้ย!”
“นี่เชียร์ทีบัลแกเรียกันหมดทุกคนเลยหรอครับ” เสียงหวานๆของเด็กหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มกว้างหลังจากที่เจ้าตัวเอ่ยถามจบ
ทั้งสามที่สวมเสื้อสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของทีมบัลแกเรียเลิกคิ้วขึ้น
หลังจากที่พวกเขาแยกตัวออกมาจากพี่ยงกุกและพี่ดงฮยอนที่บอกว่าจะไปนั่งคุยกับพวกเพื่อนๆกริฟฟินดอร์ก่อนการแข่งเริ่ม
นั่นทำให้พวกเขา พี่เซอุน และพี่ยองมิน เดินลัดเลาะไปตามจุดกางเต็นท์ ก่อนจะพบเข้ากับเพื่อนหน้ากระต่ายของตัวเอง
“ใช่ พอดีพี่ก็ไม่ค่อยรู้จักทีมอะไรเท่าไหร่ ก็เชียร์ตามครอบครัวไปนั่นแหละ” พี่ชายคนกลางของบ้านเอ่ยตอบ ก่อนตัวของซอนโฮจะหันไปกระซิบบางอย่างกับคนที่เพิ่งเอ่ยถาม
“ความจริงคือพี่ซองอูบังคับให้เชียร์หน่ะ” ซอนโฮว่า
“ฮ่าๆๆ จริงด้วยนะ” เพื่อนของเขาเอ่ยต่อ “เนี่ย ที่ฉันเชียร์เวลส์ไม่ใช่ว่าชอบหรอกนะ อูจินน่ะสิ บอกว่าปีนี้ทีมเวิร์คของเวลส์ดีกว่าบัลแกเรีย น่าจะชนะได้มากกว่า”
“อูจินมันเชียร์เวลส์งั้นหรอ?”
“อูจินบอกมางั้น”
“อืม—ตอนที่พี่ไปบ้านมัน พี่ยังได้ยินมันตะโกนเชียร์บัลแกเรียไปลั่นเลยตอนรู้ว่าบัลแกเรียผ่านเข้ามารอบชิงแล้ว” พี่ยองมินที่เงียบไปก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง
“อ้าว—อะไรของมัน” ฮยองซอบเอ่ยด้วยความสงสัย ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนรักของตนเดินเข้ามาหา
“อ้าว หวัดดีซอนโฮ สวัสดีครับพี่ยองมิน พี่เซอุน” เจ้าตัวเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท ก่อนจะยื่นแก้วน้ำพร้อมกล่องขนมไปตรงหน้าของฮยองซอบ
“สบายดีไหม” ซอนโฮเอ่ยถาม
“ก็สบายดี แต่น้อยกว่าไอ้ควานลินมันนิดนึง” อูจินตอบพร้อมยิ้มกริ่ม พลางหันไปพเยิดหน้าไปยังทางด้านข้างตัวเอง
ซอนโฮมองตามอย่างสนใจ ก่อนเขาจะมองเห็นร่างสูงของไลควานลินที่กำลังเดินตรงมาทางนี้
อีกคนสวมใส่เสื้อทีมของบัลแกเรีย ใบหน้าก็ถูกเติมแต่งด้วยธงสัญลักษณ์ของทีมเดียวกัน
เพราะผิวที่ขาวจัดของเจ้าตัวทำให้การสวมใส่สีแดงยิ่งขับให้ควานลินหน้ามองมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว จนอดไม่ได้ที่ซอนโฮจะรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
“สวัสดีครับ” ควานลินโค้งก้มหัวให้ทุกคนเบาๆ ก่อนจะยืดตัวกลับมาฉีกยิ้มให้เขา
“หล่อขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย” พี่เซอุนเอ่ยทักขึ้น
“ฮ่าๆ ไม่หรอกครับ พี่เซอุนอาจจะไม่ได้เจอผมนาน” เขามองทั้งสองคุยกันด้วยรอยยิ้มกว้าง
ตามจริงกว่าพี่เซอุน หรือพี่ยองมินจะคุยกับควานลินด้วยความสนิทก็ใช้เวลาอยู่นานพอควร
ก็นั่นสิเนอะ ควานลินเป็นคนหวดบลัดเจอร์ใส่พี่ยองมินจนตกลงมาจากไม้กวาดนี่ เป็นเขาก็คงไม่ยอมญาติดีง่ายๆหรอก
แต่นี่คือพี่เซอุนที่ไม่ค่อยโกรธใคร และพี่ยองมินที่ตามใจพี่เซอุนทุกอย่าง
ทั้งสามเลยพูดคุยกันอย่างสนิทใจกันมากขึ้น
“พี่ว่าการแข่งใกล้เริ่มแล้ว เรารีบไปที่สนามกันเถอะครับ ก่อนคนจะเยอะ” คนอายุมากที่สุดเอ่ยว่าขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายจับมือพี่เซอุนแล้วเดินไปทางที่จะเข้าไปสู่สนามได้
“อ้าว แล้วพี่ซองอูละครับ” ซอนโฮเอ่ยถาม
“ไม่ต้องห่วงพี่เราครับ พี่บอกให้แดเนียลไปหาแล้ว” คนตัวสูงหันมาตอบพร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม ที่ทั้งเขาและพี่เซอุนมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“พี่ยองมินไปบอกพี่แดนตอนไหนอะ?”
“ความลับครับ :)”
-talk-
สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ ไรท์เองค่ะ คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือจะกลับมาแล้วค่า
ด้วยการกักตัวเนอะ มันว่างแหละ สอบเสร็จแล้ว ไม่รู้จะทำอะไร รีไรท์ซีซั่นสองเลยแล้วกัน เพราะมีบางจุดที่เราว่ามันไม่ค่อยโอเคจะปรับเปลี่ยนใหม่
ไว้เจอกันในตอนถัดไป พร้อมกับซีซั่นสองที่สนุกขึ้นกว่าเดิมนะคะ
อย่าลืมไปทักทายกันที่ #MiracleMW ด้วยน้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เรานี่ตั้งตารออ่านตอนใหม่เลยค่ะ^^
แต่ซซนี้อยากรู้เรื่องดงฮยอนกับดงฮันง่ะ ซซที่แล้วค้างมาก ถ้ามาต่อจะเป็นพระคุณมากๆค่ะ T0T
น้องเซอุนกับพี่ยองมินยังคงความอบอุ่นในความสัมพันธ์ เจี๊ยบนี่ตีกับพี่องได้ทุกครั้งเลยนะ ว่าแต่ซองอูนี่บั่บ 555555 หึงก็บอกหึงเด้อ ซีกเกอร์แดนเค้าแซ่บมากนะจ๊ะะะ
ปล.ทีมบัลแกเรียด้วยคนค้าบ