ตอนที่ 47 : Special - Happy Valentine's Day
ตอนพิเศษ
สุขสันต์วันแห่งความรัก
__________________________________________________________________________________________________________
NOTE - เป็นตอนพิเศษที่เคยนำไปจากหน้ามีตวนวนะคะ เรานำมาปรับใหม่ แล้วเพิ่มเติมเนื้อหาไปด้วยน้า จุ้บ
“เหนื่อยเป็นบ้าเลยให้ตายเถอะ” เซอุนบ่นออกมาเสียงดัง ก่อนจะล้มตัวลงนอนกับเตียงของตัวเอง
“ยี้ ไปอาบน้ำก่อนเลยนะเซอุน” แดฮวีที่เดินตามเข้ามาเอ่ยพูดกับคนที่นอนอยู่ด้วยน้ำเสียงที่ขึ้นจมูก
“รู้น่า ฉันไม่ใช่แจฮวานนะที่จะไม่ชอบอาบน้ำ” เขาเอ่ยตอบพลางเพยิดหน้าไปยังคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
“อ้าว มาโยนให้กันเฉย” แจฮวานเอ่ยตอบก่อนจะพาดหนังสือเล่มหนาใส่ต้นขาของเซอุน
“น้องเซอุนนน ศาตราจารย์ชีตาร์เรียกหาน่ะ” หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ไม่ทันให้ได้ล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจ เลื้อยตัวเองลงกับนินแล้วเข้าสู่นิทรา เสียงของรุ่นพี่ร่วมบ้านก็ดังขึ้นจากหน้าประตู เรียกให้เซอุนสะดุ้งตัวละหันมองพร้อมถอนหายใจ
"อะไรกันครับเนี่ย ศาสตราจารย์ไม่หลับไม่นอนหรอ" เขาบ่นอุบ พลางยื่นมือไปคว้าเสื้อคลุมมาสวมอย่างเอื่อยๆ
"เขาบอกอยากเคลียร์งานให้เสร็จก่อนปิดเทอมน่ะ"
“สู้เขานะคุณว่าพรีเฟ็ค” แดฮวีและแจฮวานเอ่ยพูดพร้อมกับโบกมืออย่างน่าหมั่นไส้
เจ้าพวกน่าหงุดหงิด!
“ขอโทษทีที่ต้องเรียกมาตอนดึกดื่นนะเซอุน ครูไม่รู้จะใช้ใครดี”
แล้วพรีเฟ็คตัวจริงละครับศาตราจารย์
ป่านนี้พี่มินฮยอนคงนอนหลับฝันดีอยู่แน่ๆ
เซอุนคิด แต่ไม่กล้าพูดออกไปอย่างแน่นอน ถ้าเขายังอยากได้คะแนนดีจากวิชาแปลงร่างอยู่
เขายื่นมือไปรับเอางานบางส่วนมากจากศาสตราจารย์ชีต้า เลื่อนเก้าอี้ออก ก่อนจะลงมือทำด้วยความรวดเร็วเพื่อให้งานมันเสร็จก่อนที่เขาจะหลับล้มพับไป
“ครูว่าเราทำคนเดียวไม่ได้แน่นอน รอเดี๋ยวนะ” ศาสตราจารย์ที่นั่งมองกันอยู่เอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะสาวเท้าไปทางกรอบรูป ที่มีรูปหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีม่วง เธอเอ่ยอะไรบางอย่างกับหญิงสาวในรูป ก่อนเธอจะพยักหน้าตกลงแล้วเดินออกไปจากกรอบ
“เดี๋ยวครูมานะ เธอนั่งรอสักพัก เดี๋ยวตัวช่วยเธอก็จะมาแล้ว” ศาสตราจารย์ชีต้าพูดต่อด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหายไปหลังผ้าม่าน
เซอุนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เขาคืดว่าควรรีบเร่งลงมือทำสิ่งที่คั่งค้างอยู่ในมือต่อ โดยไม่ทันได้สังเกตว่าประตูบานใหญ่ของห้องพักถูกเปิดออกโดยฝีมือคนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“น้องเซอุน? มาทำอะไรตรงนี้ครับ” อิมยองมินในชุดนอนสีดำทั้งตัวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยถาม ทำให้คนที่นั่งทำงานอยู่สะดุ้งกายด้วยความตกใจ
“พี่ยองมิน? ตกใจหมดเลย— ผมโดนศาสตราจารย์เรียกให้มาช่วยตรวจงานน่ะครับ แล้วพี่?”
“เมื่อกี้ศาตราจารย์เขา—ไม่มีอะไร ให้พี่ช่วยไหม?” ยองมินตอบกลับ พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้กข้างๆอีกคนออก
“ก็ดีครับ ผมง่วงมาก กลัวจะตรวจผิด” เซอุนเอ่ยต่อ ก่อนจะหันไปสนใจกระดาษรายงาน ก้มมองอ่านมันทีละตัวกันความผิดพลาด แม้เขาง่วงจนตาแทบปิดแล้วก็ตามที
“คงโดนใช้หนักเลยสินะ คนที่กำลังจะเป็นพรีเฟ็คก็แบบนี้แหละ”
“ตอนพี่อยู่ปีสี่ก็โดนแบบนี้หรอครับ” เซอุนเอ่ยถาม พร้อมวางคนนกลงบนโต๊ะเบาๆ
“เปล่าครับ พี่ได้เป็นพรีเฟ็คเพราะไม่มีใครแล้วต่างหาก” ยองมินตอบพร้อมรอยยิ้ม
“จริงหรอครับ? ผมว่าพี่ก็เหมาะดีนะ ดูภายนอกดุๆ แต่ที่จริงแล้วใจดี แล้วก็เท่มากเลยครับ—ขอโทษครับ ผมง่วงเลยพูดอะไรแปลกๆไป” เซอุนพูดพร้อมกับขยี้ตาไปมา จนทำให้คนที่มองอยู่ต้องยกมือขึ้นมาจับข้อแขนเล็กไว้ไม่ให้ขยี้ต่อ
“อย่าขยี้ตาสิครับ” ยองมินว่า “ชมขนาดนี้ พี่ก็เขินเป็นนะ” เซอุนหันมองอีกคนทันทีที่พูดจบ
“บอกแล้วว่าผมง่วง” เซอุนรีบว่าตอบ เรียกรอยยิ้มจากยองมินได้เป็นอย่างดี
ก่อนทั้งคู่จะพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน ทั้งเรื่องภายในโรงเรียน เรื่องส่วนตัว ไม่เว้นเวลาว่างให้ความเงียบได้ปกคลุมทั้งคู่เลย ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานานแล้วตามที
เซอุนได้รู้อะไรหลายอย่างจากบทสนทนาในครั้งนี้ พี่ยองมินชอบเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดมาก และเขาก็คงมีพรสวรรค์กับวิชานี้มาก เขาได้คะแนนที่หนึ่งตลอดตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง และ อีกอย่างที่เขาเพิ่งจะรู้คือ อิมยองมินไม่เคยควงใครตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี้
นั่นทำให้เขาประหลาดใจ
“ทำหน้าแบบนั้นไม่เชื่อพี่หรือไง”
“ไม่อ่ะ ไม่มีทาง” เซอุนเอ่ยตอบ พร้อมกับพับเก็บกระดาษรายงานใบสุดท้ายใส่กองใหญ่ไว้ แล้วหันหน้ามองคนที่กำลังยิ้มกรุ่มกริ่มใส่เขาอยู่
“คนควงไม่มี แต่คนจีบมีเยอะแยะ” พี่ยองมินเอ่ยตอบ เซอุนได้แต่เบะปากอย่างไม่ชอบใจ
อิมยองมินที่มองอยู่ได้แต่อมยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ
“หึงพี่หรอ?” ยองมินเอ่ยถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เปล่านะ พี่อย่าขี้ตู่สิ” เซอุนเอ่ยต่อ แล้วยกมือขึ้นผลักใบหน้าของอีกคนไปไกลๆ
“เขินจัง น้องเซอุนหึงพี่ด้วย”
“ผมไม่ได้บอกว่าหึงสักหน่อย พี่นี่”
“จริงหรอครับ แล้วทำไมในใจเราถึงวุ่นวายแบบนั้นละ พี่อ่านไม่ได้เลย” ยองมินเอ่ยพูด
“พี่อ่านใจผมโดยไม่ขออนุญาตอีกแล้วนะ” เซอุนเอ่ยพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น
“พี่ขอโทษครับ พี่กลัวว่าเราจะฟุ้งซ่านเหมือนตอนนั้นอีก พี่ปวดใจมากเลยนะ” ยองมินพูดตอบ พร้อมกับเกี่ยวมืออีกคนขึ้นมาจับไว้หลวมๆ
“ครับๆ ผมเข้าใจแล้วน่า พี่อย่าทำหน้างอแงแบบนั้นสิ” เซอุนเลิกขมวดคิ้ว ก่อนจะจับหน้าร่างสูงไว้เบาๆ แล้วเอื้อมนิ้วไปเกลี่ยหางตาเบาๆ
“รู้ใช่ไหมว่าพี่รู้สึกยังไง แต่ให้พูดอีกทีก็ได้นะครับ พี่—“
“น้อยๆหน่อยอิมยองมิน เซอุนเป็นลูกพี่พ่อมีแม่นะ จะจีบเขาไปขอพ่อแม่หรือยัง” ศาสตราจารย์ชีต้าที่หายไปนานแล้วเดินออกมาจากหลังผ้าม่าน ก่อนที่คนเป็นพี่จะพูดอะไรเลี่ยนๆเสียจนทำให้ปราสาทกลายเป็นสีชมพู
“งั้นผมขอลาหยุดสักวันสองวันนะครับ จะไปหาพ่อแม่เซอุน” ยองมินเอ่ยตอบคนอายุมากกว่า พร้อมกับยื้อตัวให้เซอุนลุกขึ้นยืน
“ถ้างั้นฉันจะตัดคะแนนบ้านพวกเธอวันละสิบคะแนนดีไหม แลกกัน” ศาสตราจารย์เอ่ยพูดกลั้วหัวเราะ แต่คนฟังไม่หัวเราะตามเลยสักนิด
“ไปๆได้แล้ว รีบกลับหอพวกเธอไปได้แล้ว ยองมินไปส่งน้องเข้าหอพักด้วยละ”
“ผมกลับเองได้ครับ อยู่แค่นี้เอง” เซอุนเอ่ยตอบด้วยความเกรงใจ
“ให้ยองมินไปส่งเถอะ ดูหน้าเจ้าพรีเฟ็คสิ มันอยากจะไปส่งเธอจะตาย ให้มันไปเถอะ” พูดจบ ศาสตราจารย์ก็โบกมือไล่อย่างเร็วๆ จนทำให้ทั้งเขาและพี่ยองมินต้องก้มตัวโค้งลง แล้วเดินออกไป ไม่วายคนที่เดินออกทีหลังจะหันมองคนในห้องด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเอ่ยขอบคุณออกมาแบบไม่มีเสียง พร้อมกับกระพริบตาส่งให้
ยังไงซะ อิมยองมินก็ยังเป็นกริฟฟินดอร์ที่ร้ายกาจที่สุดอยู่ดี
"บ่ายสอง"
"เที่ยง"
"บ่ายสองงงง"
"เที่ยงดิ"
"บ่ายสองเถอะๆ" ซอนโฮส่งเสียงพูดอย่างหงุดหงิดพร้อมรั้งแขนคนตัวสูงที่กำลังยืนเบะปากใส่เขาอยู่
"บ่ายสองมันช้าไป" ไลควานลินตอบด้วยน้ำเสียงที่งอแงสุดๆ จนคนฟังได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจ
"แต่เที่ยงก็เร็วไปนะ บัตเตอร์เบียร์เสิร์ฟตลอดทั้งวันนะ กลัวไม่ได้กินหรอ" ซอนโฮว่า
"ไม่ได้กลัว แต่อยากไปเที่ยวกับนายเร็วๆแค่นั้นเอง" ควานลินพูดต่อ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนที่กำลังเบะปากใส่อยู่
ซอนโฮดันหน้าคนตัวสูงออก ก่อนจะนึกอะไรบางอย่าง
"งั้นบ่ายโมงตรง หน้าหมู่บ้านฮอกมี้ดส์ ห้ามต่อรองแล้ว ถ้าไม่งั้นก็ไปคนเดียวเลย" ซอนโฮเอ่ยอีกครั้ง ก่อนจะผละตัวเองออกมา แล้วเดินหนีไปอีกทาง ปล่อยให้ร่างสูงมองตามหลังไปด้วยรอยยิ้ม
"นายใส่เสื้อบางนะ" ระหว่างที่ซอนโฮก้าวเดินไปทางด้านหน้าของหมู่บ้านฮอกมี้ดส์ตามนัด ที่มีร่างของไลควานลินกำลังยืนจ้องหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์อยู่
ซอนโฮเบะปากใส่พร้อมกับปาหิมะที่อุตส่าห์กำไว้อยู่นานในมือใส่ร่างสูง
"ก็ฉันไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวมาเผื่อนี่น่า นึกว่าคริสมาสต์ปีนี้จะได้ไปเที่ยวทะเลเสียอีก"
"แล้วอยู่กับฉันมันไม่ดีหรือไง" ควานลินเอ่ยถามพร้อมกับถอดเสื้อคลุมตัวนอกสุดของตัวเองส่งให้อีกคน
"ไม่อ่ะ ไม่เห็นจะดี" ซอนโฮตอบ พร้อมกับยักไหล่แล้วเดินผ่านหน้าคนตัวสูงไปด้วยรอยยิ้ม
ทิ้งให้ควานลินยืนถือเสื้อกันหนาวเก้ออย่างงงๆ
“ซอนโฮๆ ฉันอยากเข้าร้านนี้อ่ะ” หลังจากที่ควานลินได้สติ ก็รีบเร่งฝีเท้าตัวเองวิ่งตามซอนโฮมา ก่อนคนตัวสูงจะชี้นิ้วไปยังร้านที่ถูกทาด้วยสีเขียวเข้ม ตัดกับป้ายหน้าร้านที่มีสีชมพูดสดใส เขียนข้อความไว้ว่า ร้านขนมฮันนี่ดุกส์
ร้านขนมเจ้าประจำของเด็กฮอกวอตส์ที่ไม่ว่าผ่านไปกี่รถ่น ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ หากคุณรักที่จะซื้อขนมรถเข็นบนรถไฟไอน้ำ ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเลือกซื้อขนมจากที่นี้
ภายในร้านเต็มไปด้วยเด็กๆนักเรียนจากหลายชั้นปี มีบ้างที่เขาคุ้นหน้า และอีกหลายคนที่ซอนโฮไม่รู้จักเลย เขาเดินตามร่างสูงๆของควานลินเข้าในร้านอย่างอิดออด
แต่นั่นแหละ เหตุผลหลักที่ทำให้เขาไม่อยากเข้าไปคือ ขนมพวกนี้!
ไม่รู้ว่าควานลินรู้หรือเปล่าว่าเขาโปรดปรานช็อกโกแลตมากขนาดไหน และโดยเฉพาะช็อกโกแลตกบที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาและไลควานลินได้มารู้จักกัน
และยิ่งมาอยู่ในที่ที่ช็อกโกแลตกบถูกนำมาเติมวันต่อวัน มันยิ่งไม่น่าแปลกใจหากเขาจะยืนจ้องขนมกล่องสีฟ้าพวกนี้มามากกว่าห้านาทีแล้ว
“อยากกินหรอ?” ควานลินเอ่ยถามเสียงเบา เพราะไม่อยากให้บทสนทนาของพวกเขารบกวนคนอื่นในร้าน
“—เปล่า” ซอนโฮเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจ จนทำให้คนที่ยืนฟังอยู่ได้แต่ยิ้มขำ
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวร้านไม้กวาดสามอันคนจะเยอะซะก่อน ฉันไม่อยากออกมานั่งกินด้านนอกหรอกนะ หนาวจะตาย” ควานลินพูดต่อ พร้อมกับลากแขนของเขาให้เดินตามอีกคนออกจากร้านไป
ฮือ ขนมจ๋า ซอนโฮอยากกินนนน
“ทำหน้าแบบนี้คือโกรธที่ฉันไม่ให้นายซื้อช็อกโกแลตกบกินงั้นหรอ” หลังจากที่ควานลินทั้งลาก ฉุด กระชากร่างของซอนโฮออกมาจากร้านขนมฮันนี่ดุกส์ ทั้งสองคนก็เดินตรงมาถึงร้านไม้กวาดสามอันอย่างรวดเร็ว ไม่เรียกว่าเขาทั้งสองหรอก เพราะยูซอนโฮเดินนำลิ่วมาเหมือนจะกลัวไม่ได้ที่นั่งมากกว่า
แต่ความจริงเมื่อเขาสั่งอาหารเสร็จและเดินเข้ามานั่งตรงข้ามอีกคน ใบหน้าหวานของซอนโฮกลับบูดลงอย่างเห็นได้ชัด
จนเขาอยากจะล้มเลิกแผนการทั้งหมดแล้วตามใจอีกคนซะให้รู้แล้วรู้รอด
แต่ก็ไม่ได้ เพราะกว่าเขาจะชวนซอนโฮออกมาได้ มันยากยิ่งกว่าการไล่จับลูกสนิชเสียอีก แผนเขาจะเสียไม่ได้
“ไม่นี่” ซอนโฮตอบพลางเสตามองไปรอบๆ แล้วจิ้มขนมในจานเข้าปาก
“จริง?”
“อื้อ” ซอนโฮว่าอีกครั้ง ทำให้คนที่นั่งตรงข้ามหลุดขำออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ขำอะไร?” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้วยุ่ง
“เปล่าๆ บัตเตอร์เบียร์ฉันหมดแล้วอ่ะ ไปเติมให้หน่อย” ควานลินเอ่ย ก่อนจะยื่นแก้วบัตเตอร์เบียร์ที่ว่างเปล่าของตัวเองส่งให้อีกคน ซอนโฮรับมาอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก แต่ก็ยอมลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไปที่เค้าท์เตอร์ที่มีหญิงชรายืนรออยู่
คล้อยจังจากที่ซอนโฮเดินออกไป คนตัวสูงก็รีบหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ชของตัวเอง
ก่อนจะวางเรียงมันไว้บนเก้าอี้ที่นั่งของอีกคนด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ที่พักนี้อูจินจะชอบบอกว่าเขานั้นมีรอยยิ้มแบบนี้บ่อยเกินไปแล้ว
ช่วยไม่ได้ ก็คนมันมีความสุข
ควานลินหันมองด้านหลังตนเอง ก่อนจะพบว่าซอนโฮนั้นได้ทำการเติมบัตเตอร์เบียร์เสร็จแล้ว และกำลังเดินกลับมาที่โต๊ะของพวกเขา
ซอนโฮกำลังถือแก้วบัตเตอร์เบียร์ที่ว่างเปล่าในตอนแรก และถูกเติมจนเต็มมาตามทางที่จะเดินไปสู่โต๊ะที่นั่ง
ก่อนจะสังเกตเห็นถึงอาการลุกลี้ลุกรนของคนตัวสูง ทำให้ซอนโฮต้องส่งสายตามองอย่างสงสัย
แต่ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปากถามอะไรออกไป สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาทำให้ซอนโฮแทบจะปล่อยแก้วบัตเตอร์เบียร์ทิ้งหากเขาขาดสติจริงๆ
ซอนโฮมองกล่องช็อกโกแลตกบสีฟ้าหลายกล่องที่วางเรียงรายอยู่บนเก้าอี้ที่นั่งเขาด้วยสีหน้าตกใจ ปนกับความสุขที่อยู่ในดวงตา
เมื่อเห็นดังนั้นควานลินจริงค่อยๆเอื้อมมือไปสะกิดแขนของคนที่กำลังยืนตาค้างอยู่ พร้อมกับดึงแก้วบัตเตอร์เบียร์วางไว้บนโต๊ะ
“นาย—ซื้อมันมางั้นหรอ” ซอนโฮเอ่ยถามด้วยเสียงสั่น
“แน่นอน หากฉันไม่กลัวนายสงสัย ฉันอาจจะเหมามาทั้งหมด แต่กระเป๋าเสื้อโค้ชของฉันมันเล็กไปหน่อย เลยใส่ไม่สะดวกเท่าไหร่” สิ้นเสียงพูดของควานลิน ซอนโฮก็ไถลตัวเข้าไปหาคนตัวสูง พร้อมกับสวมกอดอย่างแนบแน่นจนคนที่ถูกกอดได้แต่ยืนนิ่งอย่างตกใจ
“ขอบใจนะควานลิน” ซอนโฮเอ่ยพูด พร้อมกับกระชับแขนให้กอดคนตัวสูงให้แน่นขึ้น
“ฉันเต็มใจน่า แต่อย่ากินบ่อย เข้าใจไหม?” เขาเงยหน้ามองคนที่พูดด้วยน้ำเสียงดุๆ ก่อนจะพยักหน้าตกลงอย่างจำใจ แล้วผละตัวออกไปที่เก้าอี้ของตัวเอง พร้อมกับหยิบช็อตโกแลตกบขึ้นมาแกะออกหนึ่งกล่อง แล้วเอามันเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของควานลินตลอดเวลา
“อ้วนเอ๊ย!” ควานลินเอ่ยพูด พร้อมกับขยี้ผมของซอนโฮอย่างรุนแรง ถ้าเป็นเวลาปกติเขาอาจจะได้รับฝ่ามือหนักๆมาก็ได้ แต่พอตอนนี้อีกคนกำลังมีความสุขกับของกินตรงหน้าอยู่ เลยทำเพียงแค่มองค้อนใส่เขาเท่านั้น
รอดตัวไปไลควานลิน
"อยากลองขึ้นเรืองั้นหรอ" ร่างสูงถามคนที่อยู่ข้างตัวด้วยใบหน้างุนงงพร้อมกับวาดวงแขนโอบล้อมตัวของคนที่กำลังเอ่ยพูดอยู่
"ก็อื้อ—แค่อยากรู้ว่าจะเป็นยังไง" ซองอูเอ่ยตอบ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแขนของแดเนียลให้ออกห่างจากตัว
มือปลาหมึกอีกแล้วนะคังแดเนียล!
"ฮ่าๆ—ถ้าพาขึ้นแล้วผมจะได้อะไร" คนตัวสูงเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่มองแล้วน่าหงุดหงิดชะมัด
"มึงนี่!" เขายื่นมือไปฟาดแขนล่ำๆของแดเนียลก่อนจะเอ่ยตอบ "เออๆ อยากได้อะไรว่ามา"
"ทำไมยอมง่ายจัง?"
"ก็อยากไปอ่ะ ขอไปเหอะนะแดนๆๆๆ" ซองอูเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆที่คนฟังอย่างคังแดเนียลใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ให้ตายเถอะ องซองอูรู้จุดอ่อนของเขานี่น่า
"ก็ตามใจ แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นผมไม่รับผิดชอบนะ"
"ช่างดิ กูดูแลตัวเองได้" ซองอูยิ้มร่าทันทีที่อีกคนตอบตกลง
แต่ถ้าหากเขารู้ว่าในใจของแดเนียลคิดอะไรอยู่ ก็อาจจะล้มเลิกความคิดบ้าๆนี่ไปซะก็ได้
"โว๊ว~" เสียงร้องอุทานของซองอูดังขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาภายในเรือสำเภาลำใหญ่ของเดิร์มสแตรงก์
ในเรือถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาน่าจะเฉียดหลักแสน ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะ แถมบางอย่างยังดูเก่าแก่เสียจนเขาคิดว่าหากจับแรงๆเข้ามันอาจจะสลายหายไปกับอากาศเลยก็ได้
“ห้องมึงไปทางไหนอ่ะ” ซองอูเอ่ยถามคนที่กำลังเดินตามมาด้วยรอยยิ้ม
“ตรงไปซ้ายสุดครับ” แดเนียลเอ่ยตอบ แล้วสาวเท้าเดินตามคนที่กำลังเดินไปทางห้องของตัวเองด้วยความกระตือรือร้น
“ให้ตาย! นี่มันใหญ่กว่าห้องกูเป็นสิบเท่าเลย” คนตัวบางผลักประตูเข้าไปในห้องที่อีกคนบอกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยืนชะงักค้างอยู่หน้าประตูด้วยความตะลึง
“แน่นอน แต่ห้องผมที่เดิร์มสแตรงก์ใหญ่กว่านี้อีกนะ สนใจไปไหม?” แดเนียลเอ่ยกระซิบกับคนที่ยืนนิ่งค้างอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะหันมาตะปบมือเข้ากับใบหน้าของเขา
“ลามปาม” ซองอูว่า ก่อนจะค่อยๆเดินก้าวเท้าไปในห้องช้าๆ พลางสอดสายตามองไปทั่วบริเวณห้องที่ถูกทาด้วยสีน้ำตาลตามสีของไม้ และ เตียงขนาดคิงไซส์ที่นอนคนเดียวคงเหลือพื้นที่พอจนสามารถเล่นควิดดิชได้แน่ๆ
คนตัวบางเดินตรงปรี่ไปหาอะไรบางอย่างที่อยู่ติดกับเตียงนอนของเจ้าของห้อง
นี่มันตู้เก็บถ้วยรางวัลควิดดิชนี่
“ของมึงหมดนี้เลยหรอ?” ซองอูเอ่ยถาม พลางชี้ไปที่ถ้วยรางวัลต่างๆที่วางเรียงรายอยู่บนชั้น
“ไม่ครับ เป็นของผู้เล่นทีมชาติบัลแกเรียที่สืบทอดมาเรื่อยๆ และนั่นแค่ส่วนหนึ่ง” แดเนียลตอบ
อีกคนก็พยักหน้าตามคำพูดของร่างสูง ก่อนจะไล่สายตามองไปทั่วชั้นอย่างตั้งใจ
ในชั้นข้างเตียงมีทั้งรางวัลจากการแข่งขันควิดดิชเวิร์ลคัฟ ควิดดิชระดับประเทศ และอีกมากมายหลายรายการที่เขาไม่รู้จัก แต่ดูจากขนาดของถ้วยและจำนวนแล้วคงจะสุดยอดไม่ใช่น้อย และถ้วยที่อยู่บนสุดนั่น ดูเหมือนว่าเพิ่งจะถูกวางไม่นานมานี้ช่วยเรียกความสนใจจากซองอูได้ดีเลยทีเดียว
‘ตำแหน่งซีกเกอร์ยอดเยี่ยมรุ่นที่ 44 คัง แดเนียล’
“นี่มึงเล่นตำแหน่งซีกเกอร์หรอ” ซองอูหันหน้าไปถามคนที่กำลังยืนพิงโต๊ะภายในห้องแล้วส่งสายตามองเขาอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะอมยิ้มออกมา
“ใช่ครับ แล้วผมก็เล่นเก่งมากๆด้วยนะ”
“จะสู้ไอยองมินได้หรอ มันเก่งมากเลยนะ”
“ลองดูไหมละครับ? แต่ผมคิดว่าเรื่องซีกเกอร์อาจจะสู้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นผมมั่นใจว่าเก่งกว่าแน่นอน” ไม่พูดเปล่า คนตัวสูงขยับกายออกจากการพิงโต๊ะ เดินตรงมาหาคนที่กำลังยืนมองอยู่อย่างงงๆ
และอย่างที่คาดไว้ แมวเชื่องๆจะไปสู้เสือหนุ่มเลือดร้อนได้อย่างไรกัน
แดเนียลตรงเข้าไปหาซองอูอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นผลักไหล่ของอีกคนจนซองอูเซล้มลงไปนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ของเขา
ก่อนจะตามด้วยร่างของเจ้าตัวที่ทาบทับลงไปในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วิ
“เล่นบ้าอะไร ลุกออกไปนะโว๊ย!!!” ซองอูเอ่ยพูดเสียงดัง พร้อมกับพยายามผลักไหล่คนตัวสูงให้ลุกออกจากร่างของตัวเองไป
ไม่ใช่แบบนี้สิ!! นี่เขาตั้งใจมาสอดส่องเรือของเดิร์มสแตรงก์เท่านั้นนะ
ไม่ได้จะมาทำอะไรแบบนี้!
“ไม่ลุกครับ มาถึงถ้ำเสือขนาดนี้ ไม่ยอมให้ออกไปง่ายๆหรอก”
“ไอแดเนียล!! อย่างให้กูลุกไปได้นะ มึงตายแน่!!” ซองอูเอ่ยพูด พร้อมดิ้นขลุกขลั่กไปมา แล้วส่งสายตาคาดโทษมองคนที่กำลังยิ้มอยู่
“ลุกมาให้ได้สิครับ ผมยอมทุกอย่างเลย” แดเนียลว่าตอบก่อนจะก้มตัวลงไปหาคนใต้ร่างตัวเอง
"สรุปบอกผมได้หรือยังว่าทำไมถึงอยากขึ้นมาบนเรือ” คนด้านบนเอ่ยถาม พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
“ก็—“
“ก็???” แดเนียลเอ่ยทวนคำพูดของอีกคนซ้ำ
“ก็กูแค่อยากมีเรื่องไปโม้กับเพื่อนบ้างอ่ะ! ไอ้ยองมินมันชอบมาโม้เรื่องเซอุนให้กูฟัง มันรู้เรื่องเวอุนเยอะกว่ากูแล้วมั้ง น่าหงุดหงิด กูก็อยากมีเรื่องไปอวดมั่ง ว่ากูก็เคยขึ้นเรือของเดิร์มสแตรงก์นะ” ซองอูเอ่ยพูดอย่างหงุดหงิด หลังจากตัวเขาหยุดดิ้นหนีแล้ว
“แล้วทำไมไม่อวดไปว่ามีแฟนเป็นเดิร์มสแตรงก์” แดเนียลว่าอีกครั้งด้วยน้ำเสียงยียวน
“ใครจะเป็นแฟนมึงคังแดเนียล!” ซองอูตอบอีกคนอย่างทันควัน พร้อมกับเบะปากใส่
“ซองอูไงครับ” พูดจบ แดเนียลก็ก้มหน้าเข้าให้คนด้านล่างเรื่อยๆจนระยะห่างของทั้งคู่เหลือเพียงไม่กี่เซน
“ทำอะไรของมึง!” ซองอูเอ่ยพูดอย่างเสียงดัง
“ก็ซองอูน่ารัก ผมก็อยากจะให้รางวัล”
“รางวัลอะไร ไม่เอา!!”
“โอ๊ะ! ฉากเรท!” เสียงคนบางคนดังขึ้นจากทางด้านหน้าประตูห้องของแดเนียล ทำให้คนที่กำลังจะแกล้งคนตัวเล็กกว่าเป็นอันต้องล้มเลิกไป ก่อนทั้งคู่จะกระเด้งตัวขึ้นมานั่งกันอยู่บนเตียง
“ผมไม่ได้มาขัดจังหวะใช่ป่ะ แต่นี่ก็เวลาอาหารเย็นแล้วอ่ะ เลยมาตาม แต่เหมือนพี่จะไม่หิวกัน งั้นผมไปละ” จีฮุนเอ่ยพูดกับคนในห้องก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่มมองคนในห้อง
ก่อนไปยังไม่วายเอื้อมมือไปดึงประตูปิดห้องของแดเนียลให้เรียบร้อย
ทิ้งให้แดเนียลรับชะตากรรมที่คิดจะแกล้งคนแมนแห่งกริฟฟินดอร์ไปเพียงคนเดียว
"กล้ามากที่คิดจะลวนลามกู! ตายซะแดเนียล!!"
"โอ๊ย! เจ็บแล้วครับ"
Morning, 14 FEB
“อรุณสวัสดิ์รับพี่มินฮยอน” เซอุนที่เดินออกมาจากหอพักเอ่ยพูดกับคนที่กำลังถือหนังสือออกมาจากชั้นหนังสือด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ว่าไงเซอุน ตื่นเช้านะวันนี้” คนเป็นพี่ตอบกลับมา
“เพิ่งได้นอนนี่เองครับ มันไม่ค่อยหลับเลยออกมาทานข้าวเช้าดีกว่า” เขาตอบ “พี่กำลังจะไปไหนครับเนี่ย”
“ไปห้องโถงใหญ่นะ ต้องรีบกินข้าวน่ะ วันนี้พี่มีนัดไปเที่ยว” พี่มินฮยอนหันมากระซิบให้เบาๆ ก่อนจะเอ่ยชวนให้พวกเขาออกจากหอพักไปพร้อมๆกัน
เซอุนหัวเราะร่วนให้กับคำพูดของรุ่นพี่พรีเฟ็คของเรเวนคลอระหว่างทางที่พวกเขากำลังเดินไปห้องโถงใหญ่ ก่อนที่จะมีร่างสูงของใครบางคนเดินมาสวมกอดหมับเที่ด้านหลังของฮวังมินฮยอน
“อ๊ะ—อ้าว ฮยอนบิน ทำไมตื่นเร็วจัง” คนที่ถูกกอดเอ่ยด้วยความสงสัย ก่อนทั้งคู่จะหยุดเดินเพื่อหันไปสนทยากับผู้มาใหม่
“ผมตื่นเต้นนี่น่า—ไงเซอุนนนนน” ฮยอนบินเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยเสียงยานคางก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ไงฮยอนบิน ช่วงนี้เราไม่เจอหน้ากันเลยนะ” เขาว่า ก่อนจะรับแรงดึงแก้มเบาๆจากร่างสูง
“เราเพิ่งเจอกันไปเมื่อวานที่ห้องนั่งเล่นไหม นายยังทักฉันเรื่องผ้าพันคออยู่เลย” อีกคนว่า และนั่นเรียกเสียงหัวเราะได้จากเราทั้งสามคน
“ฮ่าๆ เซอุน—มีใครเดินมาจากตรงนู้นแล้วน่ะ” จู่ๆพี่มินยอนก็เอ่ยพูดขึ้นมา พร้อมชี้นิ้วไปยังด้านหลังของเขา เรียกให้เซอุนหันมองตาม
อย่างสงสัย
กลุ่มนักกีฬาควิดดิชในชุดยูนิฟอร์มสีแดงหลากหลายคนเดินออกมาจากโถงใหญ่ของฝั่งสวนนอกปราสาท เซอุนส่งสายตามองอย่างชัดๆ ก่อนจะเห็นร่างของใครบางคนเดินนำทีมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
นั่นทำไมเซอุนยกยิ้มขึ้นมาด้วยความขบขัน
“เอาไง ให้พี่รอไหม” พี่มินฮยอนขึ้นอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไปกับฮยอนบินก่อน เดี๋ยวผมตามไป” ว่าจบเขาก็สาวเท้าเดินไปหาคนรักที่อยู่อีกฟากของโถงทางเดิน
พี่ยองมินคงเพิ่งกลับจากการซ้อมควิดดิชยามเช้าของกริฟฟินดอร์ ที่เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมถึงยังมีการสอบทั้งๆทีใกล้สอบแบบนี้
แต่ก็เอาเถอะ
พี่ยองมินก็ดูจะชื่นชอบที่ได้เล่นควิดดิชมากเสียกว่าการอ่านหนังสือจริงๆ
“หน้าบูดจังครับ” ทันทีที่ร่างของเซอุนปรากฏตัวในสายตาของยองมิน จากใบหน้านิ่งๆที่ดูเหมือนไม่สบอารมณ์นั่นก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานจนเพื่อร่วมทีมที่เดินตามหลับอยู่อดจะหมั่นไส้ไม่ได้
โดยเฉพาะ
“มันแข่งแพ้พี่แหละเซอุน” พี่ซองอูที่โผล่มาจากด้านหลังว่าขึ้น ก่อนจะถูกพี่ยองมินดันหัวไปหนึ่งทีแบบแรงๆ
“พูดมากน่า” อีกคนว่า
“ทำไมถึงแพ้ละครับ” เขาเอ่ยถามต่อ
“พี่ง่วงน่ะ—ไม่มีอะไรครับ” ยองมินว่ายิ้มๆ ก่อนจะเอื้อมไปจับมือของคนรักไว้หลวมๆ พลางหันไปส่งสายตาอย่างผู้ชนะให้กับเพื่อนๆ
“รำคาญคนมีคู่โว๊ย” ใครสักคนนึงในกลุ่มตะโกนขึ้นมา เรียกให้เขาหันไปเอ็ดอีกคนเบาๆด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้อยากไปไหนไหมครับ” เขากันมองร่างสูง พี่ยองมินเอ่ยถามหลังจากที่เจ้าตัวเลือกที่จะเดินมากับเขาไปที่ห้องโถงใหญ่แทนที่จะไปกับกลุ่มนักกีฬาควิดดิชเลือกที่จะเดินกลับไปที่หอพักตัวเองเพื่ออาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะมากินอาหารเช้าในวันนี้
“พี่พูดเหมือนเราจะออกไปไหนได้นะครับ” เขาพูดพร้อมกลั้วหัวเราะ
“ก็แค่ในโรงเรียนไงครับ อยากไปอ่านหนังสือตรงไหนไหม เบื่ออ่านในห้องหรือยัง” อีกคนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะเบื่อกับการที่นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างอุดอู้อยู่ในห้องพัก จึงมักจะเอ่ยปากแนะนำสถานที่ที่สงบพอให้เขาอ่านหนังสือได้ และบางครั้งก็ตามไปเฝ้าเขาอ่านด้วยซ้ำ
นั่นมันน่ารักมากๆ
“ผมแค่อยากอ่านในห้องสมุดครับ” เขาตอบไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยต่อเมื่อเห็นใบหน้าเศร้าๆของคนรัก
“แต่วันนี้ผมไม่อ่านหนังสือดีกว่า ไปนั่งเล่นกับพี่ที่ทะเลสาบก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะ” พูดจบ เขาก็หันมองคนตัวสูงที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนพี่ยองมินจะเกี่ยวมือที่ประสานกันอยู่ไว้อย่างแนบแน่น
และถึงแม้พวกเขาทั้งคู่จะเดินมาถึงห้องโถงใหญ่แล้ว แต่ร่างสูงก็ยังไม่วายเดินมาส่งเขาถึงโต๊ะที่นั่งจนทำให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่โถ่แซวขึ้นมา
เซอุนนั่งลงกับที่นั่ง แล้วเงยหน้าจ้องมองไปรอบๆห้องโถงที่ยังไม่ค่อยสายเท่าไหร่ แต่กลับมีนักเรียนนั่งอยู่เต็มไปหมด
จากตรงนี้เซอุนสามารถมองเห็นโต๊ะของฮัพเฟิลพัฟและสลิธีรินได้ และแน่นอน เขามองเห็นน้องชายตัวเองกำลังมีความสุขกับอาหารเช้าแสนอร่อยอยู่
ข้างๆกายของซอนโฮก็มีร่างของอันฮยองซอบเพื่อนซี้ที่กำลังตักมันบดเข้าปากอยู่เช่นกัน แต่หากมองเลยไปจากโต๊ะของฮัพเฟิลพัฟก็จะมองเห็นร่างของสองหนุ่มจากสลิธีรินที่กำลังมองไปที่โต๊ะฮัพเฟิลพัฟด้วยสายตาที่หากเป็นเซอุนที่ถูกมองแบบนั้น เขาคงจะหน้าแดงมากแน่ๆ
และซอนโฮกับฮยองซอบคงจะรู้ตัวว่าถูกมอง ใบหน้าหวานๆถึงได้ขึ้นสีแดงอ่อนๆแบบนั้น
อ่า
เวลาซอนโฮเขินนี่น่ารักจริงๆนะ
เซอุนหันหน้ากลับมามองจานข้าวของตัวเอง ก่อนหางตาจะเหลือบมองเห็นกลุ่มของกริฟฟินดอร์ที่เขาเพิ่งเจอไปเมื่อกี้ที่กำลังเดินเข้ามาภายในห้องโถง และร่างของพี่ซองอูก็เดินตามกลุ่มนั้นเข้ามา แต่ไม่ได้เดินมาคนเดียวนี่สิ
ร่างสูงใหญ่ของสุภาพบุรุษจากเดิร์มสแตรงก์เดินขนาบข้างมากับร่างสมส่วนของพี่ชายเขา ส่วนสูงและขนาดตัวของทั้งสองดูพอดีกันมากทีเดียว
ก็พี่ซองอูกับพี่แดเนียลน่ะ เป็นคู่ที่เหมาะสมมากจริงๆ
เขาคิด ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเซอุนเพิ่งจะชมไปได้ไม่กี่นาที คนเป็นพี่ทั้งสองก็ตีกันอีกเสียแล้ว และคราวนี้ก็เป็นพี่ชายเข้านั้นแหละที่เป็นคนเริ่มแกล้งก่อน
แต่ทั้งคู่ก็ยังคงหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข จนทำให้คนมองดูอยู่อดยิ้มตามไปไม่ได้เลย
สายตาของเซอุนมองเลยไปยังคนที่เพิ่งแยกจากเขาเมื่อกี้ ก่อนพี่ยองมินจะส่งยิ้มกว้างมาให้พร้อมสายตาที่เขาอดไม่ได้เลยที่จะหน้าแดงขึ้นมา
อ่า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่วันที่สิบสี่กุมภาพันธ์ไม่เป็นเพียงแค่วันๆหนึ่ง
เกือบลืมไป
ทุกคนครับ
Happy Valentine’s Day นะครับ :)
-talk-
คิดถึงกันไหมคะ 55555555
วันนี้อย่าลืมบอกรักคนที่คุณรักนะคะ (รักแดเนียลซองอูจินยองอูจินยองมินมินฮยอนดงฮันแจฮยอนลูคัสโดยองเจโ--) แหะ
รักทุกๆน้า เลิ้บ สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ จุ้บ ไว้เจอกันใหม่ ยังเหลือตอนพิเศษของเนียลองอีกนึงตอน รอกันด้วย!
อย่าลืมไปสกรีม #MiracleMW
ฝากเรื่องใหม่ด้วยยย #BurstMW
ด้วยรักและเคารพค่ะ ฮริ้ง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล. happy v day ค่ะไรท์ มีความสุขมากๆนะคะ