ตอนที่ 44 : บทพิเศษ ๑
“พี่ซองอู—“
“พี่ซองอู!”
ใบหน้าเล็กของเซอุนหันมองหน้าของน้องชายตนเองที่ยืนอยู่ข้างๆกัน หลังจากเจ้าตัวเพิ่งตะเบ็งเสียงเรียกชื่อพี่ชายที่กำลังนอนเหม่ออยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก
พร้อมกับเปิดทีวีเสียงดังลั่นห้อง แต่สายจาของเจ้าตัวไม่ได้โฟกัสอยู่ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมนั่นเลย
“พี่ซองอูเป็นอะไรน่ะ” ซอนโฮเอ่ยกระซิบถาม
“ไม่รู้สิ—แต่พี่เห็นเป็นมาหลายวันแล้วนะ เหม่อบ่อยมากเลย” เซอุนเอ่ยว่า
“แปลกจังเลย” น้องคนเล็กของบ้านเอ่ยตอบต่ออีกครั้ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง
เซอุนมองตามร่างของซอนโฮที่หันมาขยิบตาให้เขา พร้อมกับเดินย่องไปทางหลังโซฟาตัวยาวที่พี่ชายคนโตกำลังนอนอยู่
ซอนโฮก้มตัวลงไปประชิดกับพี่ซองอูที่ขนาดน้องชายเข้าไปใกล้ขนาดแล้วยังไม่รู้สึกตัวอะไรเลย
เพราะแบบนั้น
แผนการเอาคืนของซอนโฮถึงได้สำเร็จไปอีกครั้ง
“พี่แดนมา!!!!!!” เสียงตะโกนของซอนโฮดังทันทีที่สบโอกาส พร้อมกับร่างของพี่ซองอูที่เด้งตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันสายตามองไปรอบห้องระคนตกใจ ก่อนองซอองูจะพบว่าเขาถูกน้องชายตัวดีแกล้งเข้าจนได้
คนขี้แกล้งเอาแต่ขำจนงอตัวไปกองอยู่บนพื้น ลำบากให้เขาต้องเดินไปยื้อตัวขึ้นมา พลางหันไปห้ามไม่ให้สองพี่น้องตีกันก่อนอาหารเช้าวันนี้
ให้ตาย
ซุปข้าวโพดเย็นหมดแล้วแน่ๆ
“แน่ใจนะว่าพวกลูกจะอยู่ได้?” หญิงสาวอายุมากหันมาทางลูกชายทั้งสามคนที่กำลังซดน้ำซุปร้อนๆเข้าคออย่างเอร็ดอร่อย
ก่อนคนเป็นพี่โตสุดจะเอ่ยพูด
“ผมดูแลน้องได้น่าแม่” ซองอูเอ่ยตอบ ก่อนจะหันไปยื้อขนมปังกระเทียมชิ้นสุดท้ายบนโต๊ะกับซอนโฮต่อ จนพ่อที่นั่งดูอยู่ต้องยอมเสียสละขนมปังตัวเองให้กับพี่ซองอูอย่างหน่ายใจ
“แม่รู้ว่าพวกลูกดูแลกันได้ แต่—“
“คุณ—ไปแค่สามวันไหม ห่วงเหมือนไปเป็นเดือน” และเป็นพ่อที่พูดขัดขึ้นมา ก่อนที่ลูกๆทั้งสามคนจะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“ช่ายครับ พ่อกับแม่ไปเที่ยวกันเถอะครับ ไม่ต้องห่วงทางนี้” ซอนโฮตอบพร้อมยิ้มแฉ่งให้คนเป็นแม่
“พวกเราไม่ไปเล่นซนที่ไหนหรอกครับ” เซอุนว่า
โดยทั้งสามไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าเหมือนคนมีแผนของพ่อกับแม่ที่มองกันและกันอยู่เลยสักนิด
“นั่นสิคุณ—ผมว่าลูกเราคงไม่ได้ไปเล่นซนที่ไหนแน่ๆ :)” พ่อตอบด้วยรอยยิ้ม
“แล้วนี้จะไปกันกี่โมงหรอครับ?” ซองอูที่อิ่มเป็นคนแรกก็ลุกขึ้น พร้อมรวบจานของพ่อกับแม่ที่ทานเสร็จแล้วตรงไปที่อ่างล้างจานในห้องครัว
“เดี๋ยวแม่ไปเช็คของก่อนแล้วก็จะไปกันแล้วจ๊ะ”
“เช็คอะไรคุณ ผมขนของใส่รถไปแล้ว”
“นี่จะไปรถวิเศษกันหรอครับ?” เป็นเซอุนที่เพิ่งเช็คปากเสร็จเอ่ยถามขึ้นมา
“ใช่จ๊ะ—แม่ขี้เกียจไปต่อแถวซื้อตั๋วเครื่องบิน แถมในเครื่องบินก็ทำให้แม่อยากอาเจียน” เซอุนมองใบหน้าของแม่ที่บิดเบี้ยวแสดงออกให้เห็นว่าอยากจะอาเจียนจริงๆ เรียกรอยยิ้มจากคนมองดูอย่างช่วยไม่ได้
แม่น่ะ ชอบเล่นหน้าเล่นตาเหมือนกับซอนโฮไม่มีผิด
“แม่แค่งกน่ะเซอุน” พ่อเอ่ยตอบ พลางโดนฝามือของแม่ตะปบเข้ากับไหล่หนาเต็มๆ ก่อนจะถูกแม่เอ่ยปากไล่ให้ไปเตรียมรถได้แล้ว
พ่อก็อีกคน
ขี้เถียงเหมือนพี่ซองอูมากๆ แถมยังชอบแหย่ให้แม่ลงไม้ลงมืออีกต่างหาก
ตอนเด็กๆเซอุนกับพี่น้องยังแอบสงสัยหน่อยๆเลยว่าพ่อแม่ของพวกเขามาพบรักกันได้อย่างไร
แต่เห็นตีกันแบบนี้ ศาสตราจารย์ชีต้าเคยเล่าว่าพ่อกับแม่ของเขาเป็นคู่รักที่หวานชื่นที่สุดในเรเวนคลอด้วยซ้ำ
และ ใช่
ส่วนที่จองเซอุนเหมือนกับพ่อแม่คือความฉลาดเนี่ยละ เขาได้รับถ่ายทอดมาเต็มๆเลย
คนตัวเล็กเลือกที่จะอยู่ช่วยพี่ชายตัวเองเก็บเศษซากของอาหารมื้อเช้าในตอนสายของวัน หลังจากที่พวกเขาออกไปส่งพ่อกับแม่ที่จะเดินทางไปพักผ่อนที่อิยิปต์แล้ว ส่วนซอนโอก็คงจะนอนดูการ์ตูนอยู่ในห้องนั่งเล่น เพราะเขาได้ยินเสียงหัวเราะมาแว่วๆอยู่
เอาตามจริงตั้งแต่ปิดเทอมมาได้เกือบเดือน เขารู้สึกว่าตัวเองใช้เวลาไม่ค่อยคุ้มเอาเสียเลย
วันๆเอาแต่อ่านหนังสือ ไม่ก็หมกตัวอยู่ในห้อง มีบ้างที่จะออกมาเล่นกับพี่น้องในช่วงที่อากาศอุ่นๆเหมาะแก่การออกกำลังกาย
แต่ก็แค่แป๊ปๆเซอุนก็ยอมแพ้และกลับเข้าไปนอนเปื่อยอยู่หน้าทีวีแทน
ก็
มันขี้เกียจนี่น่า
ทุกคนเข้าใจเขาใช่ไหมละ
ฮิ
“พี่ซองอู—วันนี้อากาศดี เราไปเดินเล่นที่สวนกันไหม” เขาเอ่ยถามขึ้นพลางยกจานบางส่วนไปวางยังจุดพักจานที่ถัดไปไม่ไกล
เอ่ยถามไปเกือบนาทีแล้ว แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบรับกลับมา จนเขาต้องหันหน้ากลับไปมองคนที่ยืนอยู่หน้าอ่างล้างจานด้วยความสงสัย
“พี่ซองอู” และอีกครั้ง พี่ชายของเขาเหม่อลอยไปไกลอีกแล้ว
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน แต่ช่วงนี้พี่ชายคนโตของเขาเหม่อบ่อยเหลือเกิน และชักจะน่าเป็นห่วงเข้าไปทุกวันแล้ว
อาการเหมือนคนมีเรื่องไม่สบายใจ
ซึ่งเซอุนนึกไม่ออกเลยสักนิดว่าพี่ซองอูจะไม่สบายใจเรื่องอะไร
อาจจะเรื่องสอบ?
ไม่หรอก พี่ซองอูไม่เคยคิดจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านด้วยซ้ำ จะเครียดไปทำไม
หรือเรื่องพี่แดน?
อาจจะคิดถึงพี่แดนหรือเปล่านะ
เพราะทั้งคู่ก็ไม่เจอหน้ากันมาเดือนกว่าๆแล้ว และไม่ใช่แค่พี่ซองอูกับพี่แดนหรอก เขาก็ไม่เจอพี่ยองมินมาตั้งนานแล้วเหมือนกัน
จดหมายฉบับล่าสุดที่ส่งมาก็เหมือนว่าจะเป็นของอาทิตย์ที่แล้วล่ะมั้ง
เพราะอาทิตย์นี้ไม่มีจดหมายมาส่งเลยชักฉบับ นอกเสียจากจดหมายของมักเกิ้ลที่วางกองอยู่ที่ตู้จดหมายหน้าบ้านนั่น
หากถามว่าคิดถึงไหม
แน่ละ
พี่ยองมินเป็นแฟนเขานี่น่า ต้องคิดถึงอยู่แล้ว
“พี่ซองอู” เซอุนตัดสินใจเรียกชื่อคนเป็นพี่อีกครั้ง พร้อมยื่นมือเข้าไปสะกิดแขนเรียวๆให้รู้สึกตัว
องซองอูสะดุ้งออกจาภวังค์ความคิด ก่อนจะหันสายตามองใบหน้าหวานของน้องชายที่กำลังมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง
“มีอะไรหรอเซอุน?” ซองอูถาม
“ผมต้องถามพี่มากกว่า—โอเคไหมครับ พี่ดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ”
“พี่ดูเป็นงั้นหรอ?” พี่ชายถามย้ำพร้อมเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ดูเป็นมากกว่านั้นด้วยซ้ำ บอกผมได้ไหมว่าพี่เหม่ออไรอยู่” คนตัวบางเอ่ยถาม พร้อมจ้องใบหน้าพี่ชายอย่างจริงจัง
“ไม่มีอะไรหรอกน่า คิดมากน่า” ซองอูตอบคนเป็นน้องด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะโบกมือไปมาแสดงให้เห็นว่าตนไม่เป็นอะไร
“ไม่น่าเชื่อเลย” เซอุนเว้นวรรค “เรื่องพี่แดนหรือเปล่า?”
แววตาของซองอูดูวูบไหวไปทันทีที่เซอุนเอ่ยชื่อของแดเนียลออกมา นั่นคงเป็นคำตอบที่ชัดเจนมากพอที่ทำให้เซอุนเลื่อนมือขึ้นไปลูบหลังอีกคนเบาๆ
“ผมเข้าใจนะ—ไม่สิ ผมไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่พี่เจอจริงๆมันยากกว่าด้วยซ้ำ” เขาว่า
“อืม โคตรยากเลย”
“แต่พี่ต้องผ่านมันไปได้นะ—แล้วสักวันพี่จะขอบคุณตัวเองที่ทำมันได้”
“อื้ม พี่จะพยายาม— แต่โหย น้องชายพี่นี่โตขึ้นเยอะแล้วนะเนี่ย” ซองอูว่าแล้วยกมือขึ้นโยกตัวของคนเป็นน้องด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน เปิดเทอมหน้าผมก็ปีห้าแล้วนะ” เซอุนว่าขึ้น พร้อมยืดตัวขึ้นอย่างคนภูมิใจ
“โตจริงๆด้วย! ไอ้โปเนียวเอ้ยยยย” องซองอูว่าด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนทั้งคู่จะหลุดหัวเราะเสียงดังลั่นไปทั้งห้องครัว
กริ๊ง!
กริ๊ง!
เสียงออดดังขึ้นมาจากทางหน้าประตูบ้าน ทำให้สองพี่น้องหันมามองกันเป็นสายตาเดียว
ใครมากัน?
หรือพ่อกับแม่จะลืมของแล้ววนรถกลับมา?
“ซอนโฮ! ไปเปิดประตูให้ที!” พี่ซองอูตะโกนขึ้นเสียงดัง ก่อนเซอุนจะได้ยินเสียงเดินตึงตังที่เดาแล้วน่าจะเป็นเสียงฝีเท้าของซอนโฮที่กำลังทำตามคำบอกของพี่ชาย
เซอุนและซองอูจึงผละตัวออกจากกัน แล้วหันไปจัดการงานตรงหน้าที่คั่งค้างอยู่ต่อ
แต่ไม่ได้ทันขยับอะไรมากกว่าเดิม เสียงตะโกนของซอนโฮก็ดังขึ้น
“เห้ย!!”
เสียงของน้องชายคนเล็กเรียกความสนใจให้เขาทั้งคู่ละออกจากการล้างจาน แล้วรีบเดินออกจากห้องครัวมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่หน้าบ้านของตนเอง
และดูเหมือนว่าเสียงอุทานของซอนโฮดูเบาลงไปทันทีเมื่อเทียบกับพี่ชายอีกสองคนเดินมาจนถึงหน้าประตู
“เห้ย!!! คังแดเนียล!!?”
“พี่ยองมิน!!!?”
เวรแล้ว
เกิดเรื่องใหญ่แล้วววววววววววว
กึก
เสียงแก้วกระทบกับโต๊ะไม้ดังสะท้อนไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมที่เงียบสนิท ถึงแม้จะมีคนอยู่ภายในห้องถึงหกคนแต่ก็ไม่มีใครคิดที่จะเอ่ยอะไรออกมาเลย
แน่ละสิ
บรรยากาศอึดอัดแบบนี้ใครจะกล้า
“เอ่อ—“ เป็นซอนโฮน้องชายคนเล็กของบ้านที่ส่งเสียงออกมาหลังจากที่เพิ่งวางแก้วน้ำให้กับแขกผู้มาใหม่ทั้งสาม พร้อมส่งรอยยิ้มแหยะๆ
ตอนนี้น้องชายคนเล็กของบ้านก็กลายเป็นศูนย์รวมความสนใจของคนในห้องไป
“ผมอยากรู้ว่ามากันได้ยังไงหรอครับ—เท่าที่รู้มามันก็ไกลใช่เล่นเลย”
“—คุณพ่อคุณแม่ของพวกเราไม่ได้บอกอะไรใช่ไหมครับ?” เป็นพี่ยองมินที่เอ่ยพูดตอบ ก่อนจะยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้าพวกเรา
ซองเหลี่ยมๆสีซีดๆที่คุ้นเคย ทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่ามันคือจดหมายจากพ่อและแม่
พี่ซองอูเอื้อมมือไปรับจากเพื่อนตนเองมาไว้ ก่อนจะค่อยๆแงะซองออก และเปิดจดหมายข้างในขึ้นมาอ่าน
“ถึง ซองอู เซอุน ซอนโฮ ลูกรัก แม่ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่านี้ไม่ใช่แผนของแม่เพียงคนเดียว—แม่แค่มีความคิดว่า หากพ่อกับแม่ไปพักผ่อนในต่างแดน และปล่อยลูกๆอยู่กันตามลำพัง มันคงไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่ แม่จึงเสนอพ่อไปว่าให้พาแฟนของลูกๆไปอยู่ด้วยในระยะเวลาสามวันที่พ่อกับแม่ไม่อยู่” เมื่อสิ้นเสียงของพี่ซองอู เซอุนก็กุมขมับเบาๆ พร้อมกับกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอด้วยความหนักใจ
ให้ตายเถอะ
วุ่นวายแน่ๆแบบนี้
“แม่อยากมั่นใจว่าจะมีคนดูแลลูกๆระหว่างที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ ต้องขอบคุณความใจดีของหัวหน้าพ่อที่อุตส่าห์ทำเรื่องให้หนุ่มๆทั้งสามสามารถเข้าลอนดอนได้อย่างง่ายดาย—แม่หวังว่าลูกๆจะมีความสุขในสามวันนี้นะจ๊ะ รักลูกๆเสมอ จากคุณพ่อและคุณแม่”
“แม่ไม่ปรึกษาเราบ้างเลย” ซอนโฮว่าพร้อมกับเบะปากแล้วหันมองคนตัวสูงตรงข้ามที่กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้เช่นกัน
“พี่ว่าแม่น่าจะทำไปด้วยความเป็นห่วงน่ะ” เซอุนเอ่ยแย้ง
ถึงเขาจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ในใจจริงๆเขาก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อย
และเชื่อได้เลย ว่าทั้งพี่ซองอูและซอนโฮก็คงรู้สึกเหมือนกันกับเขา
“นี่เป็นเหตุผลที่มึงไม่ส่งจดหมายมาหรือเปล่าคังแดเนียล?” เสียงเย็นๆของพี่ซองอูทำให้พวกเขาหันมองใบหน้าของคนพูดอย่างรวดเร็ว ก่อนคู่สนทนาของพี่ชายเขาจะระบายยิ้มออกมาอ่อนๆ แต่ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร
“เอ่อ—ผมว่าเรามาคิดกันดีไหมครับว่าจะให้พวกพี่เขานอนกันที่ไหน” ซอนโฮว่า
“ไม่ต้องลำบากเลย” ควานลินเอ่ยตอบ
“เดี๋ยวพวกพี่นอนกันที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ครับ จะได้ไม่รบกวนพวกเรา” เป็นพี่ยองมินที่เอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“งั้นก็ตามนั้น—ขอตัวก่อนนะ ล้างจานค้างไว้อ่ะ” พี่ซองอูว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกบริเวณห้องนั่งเล่นไปอย่างรวดเร็ว
“ทะเลาะอะไรกันหรอครับ?” คล้อยหลังที่พี่ชายคนโตเดินไปแล้ว ซอนโฮก็เปิดบทสนทนาทันที
“ไม่มีอะไรหรอกครับ—แค่ช่วงนี้แมวดื้อไปหน่อย ขอตัวไปง้อก่อนนะ” พี่แดเนียลว่าด้วยรอยยิ้มที่กว้างจนตาหยีเหลือแค่ขีดเดียว แล้วเดินเลี่ยงตามหลังพี่ซองอูไป
โดยมีสายตาของอีกสี่คนมองตามไปด้วยความสนใจ
“งั้นผมไปขนพวกผ้าห่มกับหมอนมาไว้ดีกว่า” ซอนโฮว่า
“เดี๋ยวฉันไปช่วย” ควานลินเอ่ย ก่อนจะใช้ช่วงขายาวๆก้าวตาม แผ่นหลังเล็กๆของซอนโฮไปยังชั้นสองของบ้านแสนอบอุ่นนี้
เซอุนมองจ้องใบหน้าได้รูปยองมินด้วยความรู้สึกหลากหลาย หลังจากที่พวกเขาถูกปล่อยทิ้งไว้แค่สองคนภายในห้องนั่งเล่น
จะว่ายังไงดี?
เขาทั้งดีใจ สงสัย แล้วก็หงุดหงิดไปในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเซอุนไม่สามารถบรรยายได้เลยว่ามันเกิดมาจากสาเหตุอะไรบ้าง แต่ความรู้สึกที่ชัดเจนมากๆเลยตอนนี้คือ
จองเซอุนคิดถึงอิมยองมินมากๆ
ไม่ใช่ว่าช่วงปิดเทอมเดือนที่ผ่านมาพวกเขาจะไม่ติดต่อกันเลย แต่มีเพียงแค่จดหมาย มันก็ไม่เท่ากับตัวจริงตรงหน้าตอนนี้หรอกใช่ไหมละ
“อ่ะ—“
เสียงพี่ยองมินเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนแขนยาวๆนั่นจะอ้าออกเป็นวงกว้าง ทำท่าทางราวกับให้เขาเดินเข้าไปกอดแบบแนบแน่น
แล้วจะรออะไรอยู่?
เซอุนพุ่งตัวเข้าหาอิมยองมินอย่างทันที ไม่ปล่อยให้อีกคนค้างแขนไว้นาน
อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำเอาเขาไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย มันทั้งอบอุ่น และ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ส่งผ่านมาทางอ้อมแขนแกร่งนี้
มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขานี้คืออิมยองมินตัวจริงเสียงจริง และเขาไม่ได้ฝันกลางวันไป
“ไม่เจอตั้งนาน ขี้อ้อนขึ้นนะครับ” พี่ยองมินว่า พร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ผมไปอ้อนพี่เมื่อไหร่กัน” เซอุนว่า พลางมุยปากเข้าหากัน
“กอดไม่ปล่อยแบบนี้ โคตรอ้อนเลยครับ :)” ยองมินตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“อ่านหนังสือตลอดเลยหรอครับ?” คนตัวสูงเอ่ยถาม พลางมองไปทั่วบริเวณห้องนอนขนาดกลางๆที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีสว่างซึ่งดูเข้ากับเจ้าของห้องเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาทั้งคู่กอดกันกลมที่ห้องนั่งเล่นอยู่นาน เซอุนก็เอ่ยปากชวนคนรักขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง เพราะเขาต้องการจะจัดของในห้อง และไม่อยากปล่อยร่างสูงไว้คนเดียว
“ว่างก็อ่านครับ—แต่ก็ว่างตลอด” คนตัวเล็กว่าตอบ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆจากคนที่กำลังยืนจับข้าวของในห้องไปมา
“มานั่งบนเตียงก่อนสิครับ” เซอุนเอ่ยพูดอีกครั้ง ก่อนจะชี้นิ้วไปยังที่ว่างบนเตียงข้างๆตนเอง
อิมยองมินรู้ดีว่าคนรักตัวเล็กของเขาไม่ได้คิดอะไรหรอกกับประโยคที่พูดมาเมื่อกี้
มันคงจะต้องโทษตัวเขาเองที่ดันไปคิดเยอะกับคำพูดแสนกำกวมนั่น
ใจสั่นเลย
“อย่าไปพูดกับใครแบบนี้อีกนะ—“ ยองมินเอ่ยพร้อมด้วยสีหน้าดุๆ แต่ก็ยอมนั่งลงตามที่อีกคนบอก
“ทำไมหรอครับ? มันไม่ดีหรอ” เซอุนเอียงคอถาม
“ไม่ดีเลยครับ ไม่มีกับใจพี่มากๆ” คนตัวสูงว่า ก่อนจะถูกคนรักยื่นมือเข้ามากุมมือไว้เบาๆ
“เรื่องนั้น—เป็นยังไงบ้างหรอครับ” เซอุนเอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วทรงสวยแทบจะผูกกับเป็นปมใหญ่ แต่ก็ได้นิ้วเรียวของอีกคนยกขึ้นมานวดๆเบา ก่อนจะเลื่อนนิ้วมาวางบนแก้มกลมๆของเขา
“อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิครับ มันไม่มีอะไรแล้ว หมดหน้าที่ของทางโรงเรียนแล้ว และพี่ไม่เกี่ยวแล้วครับ” ยองมินเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพื่อให้คนที่กำลังนั่งหน้าเครียดอยู่สบายใจขึ้นมาบ้าง
“ผมไม่คิดเลยจริงๆว่าจะเป็นอูจินยอง”
“พี่ก็ไม่เคยคิดหรอกครับ—แต่ก็ช่างเถอะ พี่ไม่อยากเก็บมาคิดให้ปวดหัว” ยองมินว่า “เราก็ด้วย พี่มาหาเพราะอยากเจอเรานะ ไหนยิ้มให้พี่หน่อยสิครับ”
เซอุนทำตามอย่างว่าง่าย เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ารักให้คนตรงหน้า
ก่อนแก้มกลมๆของเซอุนจะถูกยืดออกจนใบหน้าบิดเบี้ยว
“อ๊ะ!—เจ็บนะครับ” คนตัวสูงชะงักมือไปทันที ก่อนจะดึงมือกลับ ปล่อยให้แก้มของเซอุนเป็นอิสระ
เสียงถอนหายใจ พร้อมกับท่าทางที่ดูอึดอัดนั่นทำให้เซอุนมองด้วยความรู้สึกสงสัย
พี่ยองมินเป็นอะไรไป?
“พี่ยองมินโอเคไหมครับ?” เขาเอ่ยถาม
“ครับ—โอเค โอเคมากๆ”
ถึงแม้เซอุนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่เขาก็พยายามมองข้ามหน้าตาที่ดูเหมือนกับคนกำลังมีเรื่องให้คิดหนักนั่นไป แล้วหันไปสนใจอย่างอื่นแทน
“ผมได้ยินมาว่าพี่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมควิดดิชทีมชาติหรอครับ?” เขาเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่กำลังนั่งจัดหนังสืออยู่
“หืม? ไปได้ยินมาจากไหนครับเนี่ย พี่ว่าพี่ไม่ได้บอกใครนะ”
“ไม่ใช่แค่คุณอิมยองมินหรอกนะครับที่สายข่าวเยอะ” คนตัวเล็กว่าต่อ ก่อนจะหยีตาใส่คนรักที่นั่งมองอยู่ข้างๆกัน พร้อมด้วยแลบลิ้นใส่อย่างน่ารัก
และจู่ๆบรรยากาศภายในห้องก็เงียบลง
ทันทีที่อิมยองมินขยับตัวไปตรงหน้าของเซอุน ก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปสัมผัสเบาๆที่คางสวยได้รูป มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ก็เอื้อมไปจับเบาๆที่ด้านหลังคอของคนตัวเล็ก ใช้แรงเบาๆเพื่อกดใบหน้าของเซอุนให้เขามาใกล้ขึ้น
ท่าทางที่แสนชำนาญ เรียกให้แก้มกลมของคนในอ้อมแขนขึ้นสีได้ไม่ยาก
และแน่นอน เขาไม่คิดจะปฏิเสธรสจูบหอมหวานที่แสนคิดถึงของอีกคนอยู่แล้ว
ถ้าไม่ติดว่า
“เซอุน~พี่เอาของว่างมาให้— เห้ย!!! เชี่ยยองมิน!!! มึงทำอะไรน้องกู!!!!!”
อ่า
อิมยองมินได้บทเรียนใหม่แล้ว
คราวหน้า
เขาต้องล็อคประตูเสียก่อน :)
-talk-
새해 복 많이 받자요 여러분 ~ สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ผู้อ่านนิยาย Miracle of September มีความสุขในวันปีใหม่นะคะ
คิดอะไรขอให้สมหวังทุกประการเพี้ยง ปีหน้ามาสนุกด้วยกันอีกน้า
ไม่ได้อัพนิยายซะนานเลย งานยุ่งมาก อัพนิยายข้ามปีซะเลย
55555555555555
อาจจะมาอัพไม่ตรงเวลานะคะ เพราะเราไม่ค่อยมั่นใจเลยว่าจะว่างวันไหนบ้าง แต่อย่าเพิ่งลืมกันน้า
ได้ข่าวว่าน้องเซอุนจะมา ฮือ ไว้ไปเจอกันนะคะ คิดถึงทุกคนมากๆเลย มีใครคิดถึงไหม
ไม่แน่ใจว่าจะมีตอนพิเศษทั้งหมดกี่ตอน แต่จะมาเรื่อยๆให้ทุกคนหายคิดถึงกันน้า
ยังไงก็ฝาก #MiracleMW ไว้ในใจด้วยนะคะ รักทุกคนมากๆเลยน้า
ไว้เจอกัน
แฮปปี้นิวเยียร์ และ แฮปปี้เบิร์ดเดย์อิมยองมินย้อนหลังค่า
เลิ้บ จุ้บ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล. สวัสดีปีใหม่นะคับไรท์ :)
Merry Christmas & Happy New Year นะคะ
สวัสดีปีใหม่นะคะไรท์ ขอให้มีความสุขมากๆ แล้วก็ขอให้มีเวลาว่างมาอัพฟิคให้เราอ่านด้วย เย้ๆๆๆ
//hny นะคะไรท์
Happy New Year น้าไรท์
Happy New Year นะคะไรท์