ตอนที่ 42 : ๓๖ - จดหมายจากแดนไกล
__________________________________________________________________________________________________________
“ซองอู?—ไม่ลงไปหรอวะ” เสียงทุ้มแหบของคนหัวดำเข้มดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอดีสำหรับคนสี่คน แต่เมื่อเหลือเขาอยู่เพียงคนเดียวในห้องมันก็ดูกว้างขวางมากขึ้น
หรือเพราะความรู้สึกแปลกๆของเขาตอนนี้กันก็ไม่รู้
“อืม—กูควรไปดีไหม”
“นี่มึงคิดอะไร” ยองมินเอ่ยถามพร้อมขมวดคิ้วยุ่ง “มึงต้องไปบอกลาเขาสิ”
“กูไม่พร้อมว่ะ เรื่องนี้มันเร็วเกินไป”
หลังจากคำบอกเล่าของดงฮยอนและยงกุกเมื่อเช้า สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของเขาคือการออกไปจากหอแล้วตรงไปที่เรือของเดิร์มสแตรงก์ให้เร็วที่สุด
แต่ไม่กี่นาทีถัดมา ความรู้สึกกลัวก็ก่อขึ้นในจิตใจของเขา
กลัวการสูญเสีย
องซองอูไม่เคยมีคนรัก แม้แต่คนเข้ามาคุยยังไม่มีเลยเสียด้วยซ้ำ
เขาใช้ชีวิตในรั้วฮอกวอตส์ด้วยความสงบ ไม่มีเรื่องให้ปวดหัว นอกเสียจากเรื่องควิดดิช เพื่อน ครอบครัวแล้ว ก็ไม่เคยมีอย่างอื่นในหัวเขาเลย
แต่ตั้งแต่มีคังแดเนียลเข้ามา ชีวิตขององซองอูที่แสนจะจืดชืดก็เปลี่ยนไปราวกลับพลิกหน้าเหรียญ
อยู่ๆก็มีผู้ชายหน้าตาดีเดินเข้ามาหา พร้อมสร้างปัญหาให้มากมายจนพี่คนโตของบ้านอย่างเขาแทบรับไม่ไหว
แต่ไม่รู้ทำไม แทนที่เขาจะรู้สึกเหนื่อย ซองอูกลับรู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิมเสียอีก
ยอมรับเลยว่าคังแดเนียลเป็นอีกหนึ่งความสุขในชีวิตเขา
และเขาคงจะประมาทมากเกินไป
มีพบก็ต้องมีจาก ข้อนี้เขารู้ดี
เขาอยู่กับอีกคนมากไปจนลืมคิดว่าเจ้าหมานั่นไม่ได้เรียนอยู่ที่นี่ แม้แต่บ้านก็ไม่ได้อยู่ในอังกฤษด้วยซ้ำไป
ซองอูไม่คิดเลยว่าวันที่คังแดเนียลต้องกลับจะมาถึงเร็วแบบนี้
และเมื่อวานนี้เราก็เพิ่งจะตึงใส่กันอีกต่างหาก
เป็นตอนจบที่ไม่สวยเอาซะเลย
“เร็วไปยังไง ยังไงแดเนียลก็ต้องกลับ มึงเปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก” ยองมินเอ่ยพูดกับเขาด้วยความหน่ายใจ ก่อนมันจะยกมือขึ้นมาแตะไหล่เขาเบาๆ
“มึงควรไป จริงๆนะ อย่างน้อยบอกลากันสักคำ” ยองมินว่า
ซองอูนิ่งไปสักพัก เขามั่นใจในความรู้สึกตัวเองแล้วหลังจากที่นั่งคิดมาทั้งคืน
มั่นใจมากๆเสียจนถ้าไม่ได้พูดออกไปให้คังแดเนียลรู้ ซองอูต้องรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิตแน่ๆ
“กูว่ากูไปสายแล้ว” เขาตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางหันสายตามองนาฬิกาเรือนโตที่ตั้งอยู่ข้างตู้เก็บของ
ขาเรียวของคนร่างโปร่งก้าวเท้าออกจากห้องด้วยความรีบร้อน โดยไม่แม้แต่รีรอเพื่อนหน้าหล่อที่กำลังมองตามไปด้วยรอยยิ้ม ไม่วายขำออกมาอย่างรสเมื่อมองเห็นความผิดปกติของเพื่อนตัวเอง
สักทีนะซองอู
ด้านหน้าของปราสาทฮอกวอตส์เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ที่ฉุดตัวเองขึ้นมาจากเตียงในเวลายามเช้าแบบนี้ เพื่อมารอส่งนักเรียนจากโบบาตงซ์และเดิร์มสแตรงก์ที่เปลี่ยนกำหนดการเดินทางกลับเป็นวันนี้แทนตามที่แจ้งบอกเมื่ออาหารค่ำของเมื่อวาน
ซองอูกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาจนถึงหน้าประตูของปราสาทที่มีคนยืนอยู่จนไม่สามารถมองอะไรเห็นได้เลย และคงต้องความมึนของเขาเองที่ดันใส่รองเท้ามาผิดคู่
ใช่
ซองอูสวมสลิปเปอร์เป็ดของยงกุกมากอีกแล้ว
ให้ตายเถอะ จะรีบร้อนอะไรขนาดนั้นกันนะ
ซองอูทึ้งหัวตัวเองเพื่อลงโทษในความไม่รอบคอบของตัวเอง ก่อนใบหน้าหวานจะเงยขึ้นมองสบตากับใครบางคนที่เอ่ยทักชื่อของเขา
“คุณซองอู” ใบหน้าหวานหยดย้อยของคิมชองฮาเอ่ยพูดกับเขาด้วยรอยยิ้ม
ก่อนสาวเจ้าจะเดินตรงมาทางเขาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนรอบข้างเลย
“คะ—ครับ?” ซองอูเอ่ยเสียงตอบออกไป พลางกลืนน้ำลายหนืดลงคอเมื่อดวงตาหวานของชองฮาหันสบกับเขา
“สุดท้ายก็ยังไม่ได้คุยกันเลย เสียดายจังค่ะ” เธอเอ่ยเรียบๆด้วยรอยยิ้ม
“ผมไม่คิดว่าคุณชองฮาจะอยากคุยกับผมนะครับ” ซองอูตอบพร้อมกลั้วหัวเราะเบาๆ
“ไม่อยากได้ยังไงกันคะ—ฉันฟังแดเนียลเล่าเรื่องคุณจนอดไม่ได้ที่จะอยากคุยเลยค่ะ” เธอตอบ
“เล่าเรื่องผม? อ่า เขาน่าจะเผาผมให้ฟังสินะ”
“การที่แดเนียลเอาแต่พูดถึงคุณพร้อมกับการเอ่ยชมมันไม่น่าจะเรียกว่าเผานะคะ”
ชม???
เดี่ยวนะ
นี่เขาหูฟาดหรอ?
“แดนชมผมหรอ? เขาว่าอะไรบ้างหรอครับ”
“หลายอย่างเลยค่ะ—มากเสียจนฉันคิดว่าคุณมีข้อเสียบ้างหรือเปล่านะ ฮ่าๆ”
“...”
“ถ้ามองจากคนภายนอกนะ ฉันคิดว่าคังแดเนียลต้องชอบคุณมากแน่ๆเลยค่ะ” สิ้นสียงของชองฮา ใครบางคนก็โผล่ออกมาจากทางด้านหลังของเธอ พร้อมเอ่ยกระซิบอะไรบางอย่าง
สาวเพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันสายตามามองเขา
“โบบาตงซ์ต้องไปเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว—หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะคุณซองอู” ชองฮายื่นมือมาตรงหน้าเขา ก่อนซองอูจะยกมือขึ้นไปสัมผัสเบาๆ
“ลาก่อนครับคุณชองฮา”
“—เขากำลังรอคุณอยู่นะคะ อย่าทำให้เขารอเก้อล่ะ” ใบหน้าหวานเอ่ยอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวเดินออกไปจากบริเวณที่เขายืนอยู่
ซองอูถอนหายใจราวกับว่าชีวิตนี้มันเป็นการถอนหายใจครั้งสุดท้ายแล้ว
คนร่างโปร่งยืดตัวขึ้น พร้อมหันสายตามองไปรอบๆโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะเริ่มหาจากตรงไหน
แต่ต้องขอบคุณผมสีสว่างของเจ้าหมางั่ง และความโดนเด่นท่ามกลางผู้คนนั่น
หรือจะต้องขอบคุณที่สายตาของซองอูมีไว้เพื่อมองหาคนๆนี้กันแน่ๆ
ไม่ให้เสียเวลามากกว่านี้อีกแล้ว เมื่อมองเห็นร่างของคังแดเนียล เขาก็ขยับฝีเท้าตรงไปทิศทางนั้นทันทีโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้น
ใบหน้าขาวๆของคังแดเนียลที่เขามองเห็นจากตรงนี้ ดูเศร้าหมองเสียจนแทบอยากจะวิ่งเข้าใส่
อ่า
นั่นสินะ
ทำไมเขาถึงไม่วิ่งเข้าไปกันละ
รอให้มันไปก่อนหรือไงเล่า!
คิดได้ดังนั้น ฝีเท้าของคนร่างโปร่งก็ถูกขยับเร่งขึ้นจนสามารถเข้าไปถึงตัวแดเนียลที่กำลังยืนหันหลังได้ภายในเวลาอันอย่างรวดเร็ว และไม่รอช้า ซองอูสวมกอดเข้าที่เอวสอบอีกคนอย่างแนบแน่นจนร่างของอีกคนโน้มไปข้างหน้าด้วยแรงของเขา
และแน่นอน
การกระทำนั่นตกอยู่ในสายตาของคนทุกคนบริเวณนี้
ถามว่าซองอูสนใจไหม
ไม่
“แดน—“ ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเสียงของเขาถึงได้อ่อนลงขึ้นมาได้ เสียงเรียกชื่อคนในอ้อมแขนดูราวกับจะปลิวไปหากลมในตอนเช้าแรงกว่านี้
อีกคนไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่ก็ไม่ได้ขืนตัวออกจากอ้อมกอดของเขา
นั่นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี ซองอูจึงเริ่มพูดต่อ
“กู—กูรู้แล้ว กูไปนอนคิดมาทั้งคืนเลย”
“...”
“ที่จริงกูรู้ตั้งนานแล้ว กูแค่ไม่กล้าที่จะบอกมึง—“
“...”
“แถมกูยังโง่ที่ไม่รู้อีกว่านี้คือวันสุดท้ายของมึง กูขอโทษแดน” ซองอูมั่นใจว่าเสียงตัวเองดังพอ และฟังรู้เรื่องแน่นอน ขนาดคนที่ยืนอยู่ถัดจากที่เขายืนอยู่ยังยิ้มออกมาเลย
เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าคนหุ่นหมีนี่จะไม่ได้ยิน แต่ทำไมถึงไม่พูดอะไรตอบกลับมาเลย
“แดน—โกรธกูมากเลยหรอ” เขาเอ่ยถาม ก่อนจะผละตัวเองออกมา เพื่อที่จะหมุนตัวอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเอง
ใบหน้าขาวๆของเจ้าตัวตีสีหน้าเรียบนิ่งจนใจของซองอูนึกกลัว
แย่แล้ว
ดูเหมือนยังโกรธอยู่เลย
“แดน กูอ่านใจมึงแบบที่มึงทำไม่ได้นะ มึงต้องบอกกูสิว่ามึงเป็นอะไร” ซองอูว่าด้วยน้ำเสียงที่เริ่มขาดห้วงเพราะก้อนสะอึกที่ติดอยู่ในลำคอ
“...”
“หรือไม่ก็อ่านใจกูสิ อ่านใจกูมึงจะรู้ว่ากูรู้สึกยังไง”
“ซองอูไม่ชอบให้ผมทำแบบนั้น” และในที่สุด คนตรงหน้าก้เอ่ยปากพูดกับเขาเสียที ถึงไม่ใช่ประโยคที่เรียกรอยยิ้มแต่อย่างน้อยก็ยอมพูดออกมาแล้ว
“แต่ตอนนี้ชอบแล้ว เอาเลยสิ—อ่านเลย” ซองอูว่า
“ไม่ครับ—ผมไม่อยากรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของซองอู” แดเนียลว่า “ถ้าซองอูไม่มีอะไรจะบอกผมก็ขอตัวนะครับ ต้องไปเตรียมตัวเดินทางแล้ว”
ซองอูคว้าตัวอีกไว้ทันทีด้วยแรงทั้งหมดที่มี ถึงจะไม่มากนัก แต่เป็นเพราะอีกคนก็ให้ความร่วมมือหยุดยืนอยู่กับที่ไม่เดินหนีไปไหน ราวกับรอให้เขาพูดคำนั้นออกมา
โถ่
อย่ามองกดดันแบบนั้นได้ไหมเล่า!
ซองอูถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาเพื่อทำใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
สิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตอันจืดชืดของซองอูไปตลอดกาล
“เมื่อวาน—ที่กูไม่ตอบมึงไปเพราะกูกลัวนะแดน กลัวมากๆ ไม่ใช่เพราะกูไม่ไว้ใจมึง แต่กูกลัวใจตัวเองต่างหาก กูไม่เคยมีแฟน และถ้าแฟนคนแรกของกูจะอยู่ห่างแสนไกล กูต้องทำตัวยังไง”
“...”
“แต่พอมาคิดดูแล้ว กูจะกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นทำไม แล้วความรู้สึกกูแม่งก็มากเกินกว่าจะเก็บไว้แล้ว”
“...”
“กูทำใจอยู่นานนะมึงรู้ไว้ซะด้วย!!” เมื่อเอ่ยจบ มือเรียวของเขาก็ยกขึ้นมาโอบรอบคอของแดเนียล พร้อมกับดึงตัวอีกคนให้เข้ามาใกล้ใบหน้าของตัวเอง
หึ
คนแมนๆเขาไม่จูบหน้าผากกันหรอกนะ
ริมฝีปากได้รูปของซองอูประกบลงไปกับอวัยวะเดียวกันกับคังแดเนียลอย่างอ้อยอิ้ง ไม่เร่งรีบ แต่สัมผัสวาบหวามจนใจสั่น
ผู้คนบริเวณใกล้เคียงต่างยืนนิ่งมองเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
ไม่คาดคิดว่าคนอย่างองซองอูที่ประกาศก้องไว้ตั้งแต่วันแรกๆแล้วว่าตนเองเป็นคนแมน จะมาทำอะไรแบบนี้ท่ามกลางสายตาของคนทั้งโรงเรียน
ราวกับเหตุการณ์ในวันแรกที่คังแดเนียลมาเหยียบที่ฮอกวอตส์เกิดซ้อนทับขึ้นมา แต่แตกต่างกันตรงที่ตอนนี้ทั้งคู่มีมากกว่าความรู้สึกสนุกและไม่เข้าใจ
ใครจะรู้กันว่าคนที่ตีกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในวันนั้น จะมายืนจูบกันไม่อายใครในวันนี้
จากตอนแรกที่ริมฝีปากของซองอูเป็นคนนำเกมจากการที่เริ่มจูบก่อน แต่จู่ๆริมฝีปากของคัวแดเนียลก็เปลี่ยนมาเป็นคนบดเบียดและรุกล้ำอีกคนจนเกิดเสียงที่น่าอายออกมา
ซองอูเกือบเคลิ้มถ้าเขาไม่นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน
คนร่างโปร่งค่อยๆดึงริมฝีปากตัวเองออกมา แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีใครคิดที่จะแยกใบหน้าออกจากกันเลย
สีหน้าของแดเนียลไม่ได้ดูตึงเหมือนในตอนแรกแล้ว กลับยิ้มกว้างออกมาเสียด้วยซ้ำ
ไม่คิดเลยว่าซองอูจะเป็นคนเริ่มจูบก่อน
แผนนี้มันสุดยอดไปเลยให้ตายเถอะ
ซองอูยิ้มหวานส่งไปให้คนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างออกมาด้วยเสียงที่หวานเหมือนรสจูบเมื่อกี้นี้
“แดน”
“ครับ?” อีกคนเอ่ยตอบแทบจะในทันที
“เป็นแฟนกับกูนะ”
หมับ!!
คนร่างใหญ่ไม่เอ่ยตอบ แต่กลับดึงตัวอีกคนเข้าในอ้อมแขน พร้อมกอดคนตัวบางเข้าไปจนแทบจะจมอกหนา
“ผมไม่เคยคิดจะปฏิเสธอยู่แล้วครับ” แดเนียลกระซิบบอกอีกคนอย่างแผ่วเบา แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของทั้งคู่เป็นคำตอบที่ดีสำหรับหลายคนที่กำลังรอฟังอยู่
ในที่สุด
องซองอูก็มีแฟนแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย
“ต้องส่งจดหมายมาทุกอาทิตย์นะ”
“ทุกวันก็ได้ถ้าซองอูต้องการ”
“นกมึงคงล้าตายคาอากาศพอดีอ่ะ” ซองอูตอบพร้อมกลั้วเสียงหัวเราะ ก่อนจะยกมือขึ้นมาปัดเศษฝุ่นที่ติดอยู่บนไหล่กว้างของคนตัวสูง
“ที่บ้านผมมีหลายตัว ให้ส่งวันละสิบฉบับก็ยังได้” แดเนียลว่าตอบพร้อมฉีกยิ้มกว้างจนอดไม่ได้ที่จะฟาดมือเข้าที่ไหล่ของอีกคนอย่างแรง
ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็ย้ายมาอยู่ที่ท่าเรือของปราสาทฮอกวอตส์ที่มีเรือของเดิร์มสแตรงก์จอดไว้อยู่
และที่น่าใจหายคือ ธงของเดิร์มสแตรงก์ถูกปล่อยลงมาจากเสากระโดงเรือ
นั่นเป็นสัญญาณว่าเรือกำลังจะออกเดินทางแล้ว
ถึงเมื่อกี้จะเกิดเหตุการณ์หน้าอายขึ้น แต่คังแดเนียลก็ยังคงเป็นคังแดเนียลที่สนใจแต่เพียงคนที่ตัวเองแคร์เท่านั้น
เขาแทบไม่ได้สนใจเลยว่าการที่พวกเขายืนจูบกันเมื่อกี้คนอื่นจะมองว่ายังไง แตกต่างกับซองอูที่เอาแต่มองไปรอบๆ และยังคงกังวลอยู่เหมือนเดิม
แต่ก็เพราะฝ่ามืออุ่นๆของแดเนียลที่เอื้อมมือมาจับกันไว้ ทำให้ซองอูรู้สึกได้ว่าเขาไม่ควรกังวลอะไรอีกแล้ว
ถึงแม้อีกไม่กี่นาทีความอบอุ่นนี้จะหายไป แต่เขามั่นใจว่ายังไงความรู้สึกของพวกเขายังคงมั่นคงต่อกันอย่างแน่นอน
“อย่ามาอวดนะ—แล้วไม่ต้องคิดจะทำจริงด้วย” ซองอูว่าต่อพร้อมมองจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาดุๆ
“นี่ผมชักกลัวแล้วนะ สรุปซองอูก็อ่านใจได้ใช่ไหมเนี่ย”
“อ่านใจอะไร กูมองตามึงก็รู้แล้ว คนแบบมึงอ่ะอ่านง่ายจะตายไป”
“จริงหรอครับ :)”
“หยุดยิ้มหน้าขนลุกแบบนั้นด้วย หน้าเหมือนคนแก่โรคจิตชะมัด” ซองอูว่าพร้อมดันตัวของแดเนียลให้ห่างจากตัวมากขึ้น
แต่ด้วยแรงแค่นั้น แดเนียลไม่ได้ขยับไปไหนเลยสักนิด
คนตัวใหญ่หันสายตามามองจ้องเขาอย่างจริงจัง พร้อมกับจับมือของเขาอย่างแนบแน่น
“ซองอูครับ”
“อะไร?” เจ้าของชื่อขานตอบพร้อมเลิกคิ้วมอง
“เชื่อใจผมนะ แล้วผมก็เชื่อใจซองอูมากๆเหมือนกัน”
“รู้แล้วน่า”
“เราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่?” ใบหน้าของแดเนียลดูหงอยลงทันทีเมื่อเอ่ยถามจบ
เขาส่ายหัวไปมาอย่างไม่คิดจะหาคำตอบอะไรอีกแล้ว
“อย่าไปคิดถึงเรื่องอนาคตเลยเว้ย คิดแค่ว่าวันนี้มึงต้องรีบกลับไปที่บ้านแล้วเขียนจดหมายมาหากูด้วย เข้าใจ?”
“ครับ” แดเนียลตอบรับด้วยการพยักหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าที่เพื่อนสนิทอย่างจูจินอูมองเห็นแล้วต้องหันไปโก่งคออ้วกอยู่ข้างๆ
มันตอแห- ครับทุกคน
“แดนนนนนน” คนตัวบางเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยเสียงที่ดังขึ้น พร้อมโถมตัวเข้าใส่จนทั้งคู่เซไปอีกข้าง
“เดี๋ยวล้มนะครับซองอู”
“มึงก็ต้องรอรับกูอยู่ปะ จะปล่อยให้กูล้มหรอ” ซองอูเอ่ยตอบด้วยเสียงที่อู้อี้เพราะกำลังซบหน้าลงกับลาดไหล่กว้างของอีกคน
“ไม่แน่นอนครับ” คนตัวใหญ่เอ่ยตอบพร้อมโอบหลังเขาไว้หลวมๆ
“แดน”
“ครับ?”
“ไว้เจอกันใหม่นะ” ซองอูว่าขึ้นอีกครั้ง
“ครับ—ไว้เจอกันใหม่”
“กูจะไม่บอกลามึงหรอกนะ เพราะกูกับมึงยังไม่ได้จากกันไปไหน” เขาว่าต่อ พร้อมขยับตัวออกจากวงแขนอีกคนด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ผมด้วย ผมไม่ยอมจากซองอูไปไหนแน่ๆ”
“จะคอยดูนะ ฮ่าๆ” ยังไม่ทันให้พวกเขาเอ่ยพูดอะไรต่อ เสียงเรียกชื่อคังแดเนียลก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน
แล้วนั่นก็เป็นการบอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้วจริงๆ
“แดน! ต้องไปแล้วนะ” คังแดเนียลหันไปพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจ ก่อนจะหันกลับมามองใบหน้าหวานอีกครั้ง
“โชคดีนะแดน เดินทางปลอดภัย” ซองอูว่า พร้อมดันหลังของคังแดเนียลให้ตรงไปหาเพื่อนๆที่รออยู่บนเรือได้แล้ว
เพราะถ้าหากอยู่นานกว่านี้ซองอูจะไม่ยอมปล่อยให้ไปแล้วนะ
แดเนียลเดินตามแรงผลักของซองอูจนเจ้าตัวเดินขึ้นไปถึงประตูทางเข้าของเรือ ที่มีร่างของจินอูและซังบินยืนอยู่
ร่างโปร่งของซองอูมองตามด้วยรอยยิ้ม ก่อนเขาจะวาดรอยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อสะพานที่พาดระหว่างเรือและท่าถูกร่นกลับไป และประตูค่อยๆปิดลง
ผู้คนที่อยู่รอบตัวเขากำลังโบกมือลาสุภาพบุรุษจากเดิร์มสแตรงก์ที่เรือของพวกเขากำลังลอยไปกลางน้ำ และรถม้าของโบบาตงซ์ที่พร้อมจะบินขึ้นเช่นเดียวกัน พร้อมเอ่ยเสียงขึ้นมาจนดังก้องไปทั่ว รวมทั้งเพื่อนๆของเขาด้วย
ไอ้ดงฮยอนกับยงกุกนี่ตัวดีเลย ตะโกนบอกลาโบบาตงซ์จนเขาปวดหูไปหมด
แต่ซองอูก็ยังคงทำเพียงแค่ยืนยิ้มมองเรือลำใหญ่ที่ออกจากท่าไปเท่านั้น และเรือก็ค่อยๆจมลงสู่ผืนน้ำเพื่อเป็นการเดินทางกลับไปยังที่ที่จากมา
ไว้เจอกันใหม่แล้วกันนะคังแดเนียล :)
“สีหน้ามึงก็ดูดีนะ คิดว่าจะเศร้ากว่านี้ซะอีก” คิมยงกุกเอ่ยพูด พร้อมยกซ้อมขึ้นมาชี้หน้าเขาระหว่างเอ่ยไปด้วย
“กูต้องร้องไห้ฟูมฟายสามวันสามคืน ไม่กินข้าวเลยไหมละ” เขาตอบไปพร้อมตักมันบดเข้าปากคำโต
วันนี้ทั้งวันของซองอูดำเนินไปอย่างปกติ ถึงเขาจะเพิ่งสละโสดมาเมื่อเช้า แต่ทุกอย่างกลับดูปกติเหมือนเดิม จนหลายคนอดแปลกใจไม่ได้
ทำให้ก่อนถึงเวลาอาหารเย็น ซองอูที่มาถึงห้องโถงใหย่ก่อนใครโดนรุมถามจนหัวหมุนไปหมด
ดีที่มีน้องชายทั้งสองของเขาเดินมาช่วยห้ามไว้ก่อน
“อย่างน้อยก็ให้กูรู้สึกหน่อยเถอะว่าผัวมึงกลับไปแล้วจริงๆ หน้ามึงสดเหมือนตอนมีมันอยู่เลย—โอ๊ย!!” เสียงของยงกุกขาดห้วงไปเมื่อเจ้าตัวถูกเพื่อนข้างกายตบหัวเข้าให้ชุดใหญ่
“อยู่ๆเงียบสักนาทีนึงก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้นะยงกุก” ดงฮยอนว่า ตามมาด้วยเสียงหัวเราะอย่างชอบใจของหลายๆคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆกับพวกเขา
ซองอูวาดรอยยิ้มหัวเราะตามไปด้วย ก่อนจะหันสายตาไปมองหัวโต๊ะที่เคยมีโต๊ะเสริมออกมา เป็นที่นั่งสำหรับนักเรียนจากเดิร์มสแตรงก์
และถ้าเขาหันไปทีไรมักจะเจอสายตาของคังแดเนียลทุกที
แต่ครั้งนี้กลับไม่
มันว่างเปล่า และดูโล่งไปเลย
ใจหายเหมือนกันแหะ
“มึงโอเคปะเนี่ย” ซองอูหันสายตามามองใบหน้าของอิมยองมินที่นั่งอยู่ข้างกันและกำลังทำใบหน้าแสดงถึงความห่วงใยอยู่
“โอเคดิ ทำไมจะไม่ละ” เขาตอบ
“ไม่ได้คิดถึงแน่นะ”
“ไอ้คิดถึงอ่ะ กูคิดถึงตั้งแต่เรือมันยังไม่ออกจากท่าแล้ว”
“ซองอูเอ๊ย!” ยองมินเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงขบขันก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวเขาเบาๆ
พรึ่บ!
เสียงอะไรบางอย่างอยู่บนเหนือหัวของเขา เสียงตีปีกของมันทำให้ซองอูรับรู้ได้ว่ามันคือนกฮูก และในปากมันก็คาบอะไรบางอย่างมาด้วย
ใช่
มันคือนกฮูกส่งจดหมาย
เขายื่นนิ้วชี้ไปบนหัวแบบที่ใครบางคนสอนไว้ ก่อนเจ้านกฮูกสีน้ำตาพันธุ์สวยนี้จะบินโฉบลงมาเกาะบนนิ้วของเขาที่รออยู่ก่อนแล้ว
ปานสีดำข้างหางตาของมันเป็นที่น่าจดจำสำหรับซองอูมาก และ เพราะเจ้าของมันนั่นแหละที่พามาเล่นด้วยอยู่หลายครั้งจนมันคุ้นชินในสัมผัสของซองอูราวกับเป็นเจ้าของมันอีกคนแล้ว
ซองอูรับจดหมายจากปากปีเตอร์ (ชื่อประหลาดมากเพราะมันเป็นนกฮูกตัวเมีย) ก่อนจะยื่นนิ้วก้อยไปสัมผัสกับหลังหัวมันเบาๆเป็นการขอบคุณ ก่อนจะส่งมันบินขึ้นกลับไปตามทางที่ถูกส่งมา
“หู๊ยยยย—จากกันไม่ถึงวัน มีจดหมายมาแล้วว่ะ” เสียงแซวดังขึ้นจากยงกุกตัวดีที่ยังไม่เข็ดจากการโดนฟาดหัวไปเมื่อกี้
นั่นทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องโถงใหญ่ทันทีแบบไม่ต้องสงสัย
“มึงยุ่งเรื่องมันอีกละนะ” คราวนี้เป็นตายองมินบ้างที่เอ่ยด่า และหากไม่เกรงใจบรรดาศาสตราจารย์ที่นั่งอยู่ด้านหน้า คนตัวสูงคงคิดจะอยากปาผลไม้ไปหาอีกคนแน่นอน
ซองอูไม่คิดจะเอ่ยเถียงต่อให้มากความ เขาเก็บจดหมายใส่กระเป๋าเสื้อคลุมอย่างรวดเร็วและหันไปสนใจซี่โครงหมักที่เพิ่งถูกซามูเอลที่นั่งอยู่อีกฝั่งแย่งชิ้นสุดท้ายไป
“ไอ้แซม!!!”
ถึง องซองอูผู้น่ารักของผม
ผมทนความคิดถึงไม่ไหวจึงต้องเขียนจดหมายหาซองอูแบบด่วนๆ โชคดีที่วันนี้ปีเตอร์ไม่ดื้อกับผม และเมื่อผมบอกมันว่าให้ไปหาซองอู มันก็มีท่าทีดูดีใจมากๆ จนผมละอิจฉาเลย
ตอนนี้ผมยังเดินทางได้ไม่ถึงครึ่งทาง คนบนเรือส่วนใหญ่หลับไปแล้ว คงมีแต่ผมเท่านั้นที่ยังตื่นอยู่ ก็แน่ละ ผมคิดถึงซองอูจนนอนไม่หลับเลย
คนเป็นแฟนกันวันแรกเขาทำยังไงกันนะ
ผมเคยเห็นพวกมักเกิ้ลทำกัน พวกเขาจะอยู่ด้วยกันในวันแรกของการเป็นแฟนกัน
ขอโทษที่ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ผมก็เร่งเขียนจดหมายมาหาซองอูแล้ว ด้วยความคิดถึงเลยครับ
ผมเขียนอะไรซึ้งๆไม่เป็นซะด้วย และตอนนี้ก็มีจีฮุนมาคอยช่วยแก้คำให้และเพิ่มเติมบางจุดด้วย ผมไม่เคยเขียนจดหมาย นี่เป็นครั้งแรก แล้วมันน่าตื่นเต้นชะมัด ผมหวังว่าปีเตอร์จะนำจดหมายไปส่งถึงมือซองอูภายในคืนนี้นะ ไม่งั้นผมต้องอกแตกตายแน่ๆ
ผมรู้ว่าการพูดต่อหน้ามันน่าจะฟังดูดีกว่า
แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ
คิดถึงนะครับองซองอู
รักมากๆเลยด้วยนะครับ
หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งเร็วๆนี้
ด้วยรัก จากคังแดเนียล
ถึง ไอ้หมางี่เง่าคังแดเนียล
หัดรอซะมั้งนะ ไปบังคับปีเอตร์มาละสิ กูไม่เชื่อหรอกว่ามันเต็มใจมา ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ ถ้าวันหลังไม่เชื่อกันอีกกูจะไม่ตอบจดหมายมึงแล้วนะ
กว่าจดหมายจะส่งถึง มึงคงถึงบ้านแล้วแหละ หวังว่าจะกินอิ่ม นอนหลับนะ
กูไม่เคยเขียนจดหมายเหมือนกัน กูมาขอให้ยัยเยจองที่ชอบเขียนจดหมายให้ศิลปินบ่อยๆมาช่วยเลยนะ สำนึกไว้ด้วย
กูไม่รู้ว่าคนเป็นแฟนกันเขาทำอะไรกันวันแรก แต่กูก็พอใจแล้วที่วันแรกของเรามันจะเป็นแบบนี้ไอ้หมางั่ง
ขอบคุณที่มาเป็นปาฏิหาริย์ในชีวิตกูนะ ขอบคุณที่ยังจำกูได้หลังจากวันนั้น ขอบคุณที่มาที่ฮอกวอตส์ แต่กูไม่ขอบคุณที่มาหอมแก้มกูวันนั้นหรอกนะ ไม่มีทาง
ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องตลกหรือเปล่าที่เราทั้งคู่แม่งอยู่ห่างไกลคนละฟากโลก แต่อยู่ๆเราก็มาพบกัน แม่งแปลกอ่ะ
แต่ก็ต้องขอบคุณเรื่องตลกนั้นที่ทำให้เราเป็นแบบตอนนี้
กูไม่หวังให้มันออกมาพิเศษหรอกนะแดน แค่มีมึงมีกู ทุกอย่างก็พอแล้ว
เลิกทำอะไรเลี่ยนๆด้วย กูเขิน
ยังไงก็ รักนะไอ้หมีงั่ง
มาเจอกันอีกครั้งเร็วๆนะ
ด้วยรัก จากองซองอู
ขอบคุณทุกโชคชะตา ขอบคุณทุกปาฏิหาริย์ที่ทำให้พวกเขามาพบกัน
ไม่เคยมีใครคิดเลยว่าคนต่างขั้วกันแบบพวกเขาจะมาบรรจบกันได้
แต่ถึงจะแตกต่างกันมากแค่ไหน ถ้าเราต่างเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้าคู่กัน ไม่ว่าอยู่ห่างไกลแค่ไหน ซองอูก็มั่นใจว่าเขากับแดเนียลจะเชื่อต่อกันติดตลอดเวลา
และต่อให้ต้องพวกเขาต้องส่งจดหมายหากันแบบนี้ไปอีกหลายปี เขาก็ยังคงมั่นใจในความรักของแดเนียลตลอดไป ไม่มีวันจางหายไป :)
"ยิ้มหน้าบานเลยขรั่บเพื่อนกู" คิมยงกุกที่เพิ่งกลับมาจากการอาบน้ำล้างหน้าก็เอ่ยพูดเสียงดัง พร้อมยืนมองเขาที่กำลังอ่านจดหมายของแดเนียลด้วยรอยยิ้ม
"เรื่องกูน่า" ซองอูตอบปัดอย่างไม่สนใจ
"ตอนง้องอนกันไม่เห็นแฮปปี้ขนาดนี้ ถ้ามึงบอกตกลงกับไอ้แดนตั้งแต่อยู่ที่ริมทะเลสาปอ่ะ ป่านนี้คงได้สวีทกันแล้ว" ยงกุกเอ่ยต่อพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ
แต่เดี๋ยว
เขารู้สึกได้ว่ามันเพิ่งสารภาพอะไรบางอย่างออกมา
"มึงรู้ได้ไงว่ากูกับแดเนียลไปคุยกันที่ริมทะเลสาบ?" เขาเอ่ยถามเลิกคิ้วขึ้นสูงมองจ้องหน้าเืพ่อนหน้าแปะตัวดี
"ก็มึงเล่าให้กูฟังเองปะ ทำมาเป็นลืมมม"
"ไอ้แปะ กูจำได้ว่ากูไม่ได้บอกใคร" ซองอูเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว และ ดูจากสีหน้าของเพื่อนตัวเองแล้วเขาคงเดามาถูกทางด้วย
"ไม่มีอะไรเว้ย! ไม่มีจริงๆๆๆ" คิมยงกุกเอ่ยด้วยสีหน้าตื่นสุดๆจนเขาอดไม่ได้ที่จะหาเรื่องแกล้งกดดันมันต่อ
"มึงจะพูดไหม!"
"ไม่!!"
"หนึ่ง" เขาเริ่มนับถอยหลังแล้ว
"เดี๋ยววววว"
"สอง"
"ทำไมมีผัวละมึงดูมีอำนาจขึ้นงี้ว่ะซองอู!!"
"สา—"
"มันเป็นแผนของแดเนียลที่อยากให้มึงเป็นคนรุกมันบ้าง เอาจริงๆคือมันอยากให้มึงขอมันเป็นแฟนเลยแกล้งงอนให้มึงมาง้อ แต่ที่มึงจูบมันอ่ะไม่อยู่ในแผนนะเว้ย มึงแถมให้มันเอ๊งงงงง" และในที่สุดผู้สมรู้ร่วมคิดก็เอ่ยชี้ตัวคนร้ายเสียที
ไม่น่าละ
เขาว่าแล้วว่าทำไมมันถึงดูแปลกๆ
คนอย่างแดเนียลด้านทนจะตายไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปฏิเสธไป แต่อยู่ๆมันก็มางอนซะงั้น
อดแปลกใจไม่ได้
แต่ตอนนี้รู้ความจริงแล้ว
หึ
ได้เลย
คังแดเนียล
:)
"ฮัดชิ้ว!!!"
"เอ้า—เป็นหวัดหรอพี่แดน" เสียงหวานๆของจีฮุนเอ่ยถามคนที่กำลังเล่นหมากรุกตรงข้ามตรงเองอยู่
"ไม่นะ สงสัยจะแพ้อากาศน่ะ" แดเนียลเอ่ยตอบไป พร้อมถูจมูกตัวเองเบาๆ
"หรือพี่ซองอูคิดถึงหรือเปล่า?" คนเป็นน้องถามด้วยสีหน้ากรุ่มกริ่ม ก่อนจะถูกอีกคนยืดแก้มออก
"เป็นงั้นก็ดีน่ะสิ" คนตัวสูงพูดตอบด้วยรอยยิ้ม
ถ้าซองอูคิดถึงจริงๆเขาคงจะมีความสุขน่าดู
แต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกขนลุกขึ้นมาแบบนี้กันนะ แถมยังเสียวสันหลังแบบเปลกๆอีกด้วย
เอ๊ะ
หรืออาจจะไม่สบายจริงๆ
เดี๋ยวไปขอยากันหวัดไว้หน่อยละกัน บรึ้ย
-talk-
ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากอีกหนึ่งตอน กรี๊ดดดดดดดดดด
ง่วงมากไม่ไหวแล้ว งานเยอะมากๆๆๆด้วย ปลีกตัวมาแต่งไม่ได้เลย แงง
เป็นกำลังใจให้เราหน่อย เหนื่อยมากๆ ไม่กี่ตอนแล้วนะ ;-;
แงง
ไม่รู้จะพูดไรเลยเพราะง่วงมาก
ถ้างงตรงไหนบอกด้วยนะขรั่บ เพราะมึนจริงๆช่วงนี้ ไว้เจอกันหม่ายยยย
ไปละ จุ้บบบ #MiracleMW
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เหม็นกลิ่นน้ำตาลหวานของคนพึ่งมีแฟน 555555
ภัยจะถึงตัวแล้วยังไม่รู้อีก!!!! โดนแน่เจ้าหมา 5555555
ปอลิง คุณแดนเขาร้ายนะคะ ร้ายมากกกกก มั่ยชอบความกรุ้มกริ่มใดๆจากคุณแดนเพราะอ่านละเขินแทน .//.
ปอลิงลิง ซองอูน่าร้ากกกกกกกกก ถ้าเป็นคุณแดนจะกอดให้จมเลย แงง เจ้าแมวของคังดาเนียล
ส่วนหน่วง....คือเคยมีประสบการณ์55555 เอาจริงๆมันคิดถึงกันมากนะ ถึงปากจะบอกว่าทำใจได้ โอเค คุยกันทางสไกป์ก็ได้ไรงี้ แต่มันก็ไม่เหมือนกับที่เราได้อยู่ด้วยกันจริงๆอ่ะนะ
น่ารักมากเลยค่ะ ขอแซมฮุนเขียนจดหมายถึงกันบ้างด้วยได้มั้ยคะ ><
ปล.อยากจับพี่ยงกุกมาตีปาก พูดมากจริงๆเลย กลับไปหาน้องเลยไปปปปปปปปปป