ตอนที่ 40 : ๓๔ - น้ำยาความจริง
บทที่ ๓๔
________________________________________________________________________________________________________
NOTE - Destiny's Child - Brown Eyes ลองฟังไปพร้อมๆดูนะคะ :)
'ยองมิน' ใบหน้าเรียวเล็กจองเด็กหนุ่มวั
'ว่าไงจินยอง—" ยองมินเอ่ยถามคนที่มีศักดิ์เป็
"คือ--"เจ้าตัวเอ่ยพูดด้วยน้ำ
และสิ่งที่ได้กลับมาคือ คำพูดที่อยู่ในห้วงความคิดแต่
ฉันเจองูอยู่ในสวนของคุณลุง
ยองมินอมยิ้มกว้างก่อนจะผุดลุกขึ้
'ไหนพาฉันไปดูหน่อย'
ยองมินและจินยองยืนจ้องงูสีดำที่
ยองมินทำเพียงแค่ยืนจ้องหน้างู
คนที่ยืนรออยู่ไกลๆก็ได้แต่
ทำไมยองมินถึงไม่คิดหาอะไรมาตี
แล้วแบบนี้แผนของเขาจะสำเร็จได้
"ยองมิน! นายควรจะฆ่ามันนะ" จินยองตะโกนขึ้นพูด ก่อนที่เจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยเรียกจะหันนิ้วมาทางอีกคนเป็นท่าทางบอกไม่ให้ส่งเสียง
อีกนิดเดียว
นิดเดียวเท่านั้น เขาจะสามารถกล่อมให้งูตัวนี้เลื้อยกลับไปที่ตัวเองจากมาได้แล้ว
พลั่ก!
ยังไม่ทันให้อิมยองมินได้ทำตามความคิดที่เขาตั้งใจไว้ ภาษาพาร์เซลที่ถูกเอ่ยเอื้อนกับงูสีดำก็ถูกพับเก็บไว้ เมื่อร่างของน้องชายเขาโผล่ขึ้นมาในกรอบสายตา พร้อมไม้ท่อนใหญ่ในมือ
จินยองฟาดไม้อันใหญ่ลงไปที่ตัวงูอย่างแรงทันทีจนเขาไม่ทันได้เอ่ยห้ามอะไร เป็นผลให้มันเลิกชูคอทำท่าทางดุร้ายใส่พวกเขา
ไม่ใช่เลิกพยศหรืออะไร
แต่เป็นเพราะมันตายแล้วต่างหาก
จินยองทิ้งไม่ลงพื้นระคนตกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนีไปอีกทาง ทิ้งให้ยองมินยืนจ้องซากศพของงูสีดำที่แสนคุ้นตาด้วยใบหน้าว้าวุ่น
และถ้าสัญชาติญาณของเขามันไม่ผิด
อิมยองมินกำลังจะเดือดร้อน
“ยองมิน! แกทำอะไรงูของฉัน!!!” เสียงเข้มที่ดูมีอำนาจของใครบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา นั่นทำให้ยองมินหันมองแทบจะทันทีเพราะเขารู้ดีว่าเสียงนั่นคือใคร
“คุณลุง—“
นั่นคือพ่อของอูจินยอง
“แกทำอะไรงูของฉัน!!” คนอายุมากกว่าถามซ้ำอีกครั้งด้วยใบหน้าที่โกรธจัดแล้วพร้อมจะขยี้เขาให้แหลกคามือ ถ้าไม่ติดที่พ่อของเขาวิ่งตรงปรี่มาทางนี้แล้วกอดตัวเขาไว้
“ผมไม่ได้ทำ” เขาเอ่ย มันอาจจะเบาเกินไปขนไม่มีใครคิดจะฟัง พ่อของเขาและพ่อของจินยองเอาแต่ถกเถียงกันไปมาอย่างรุนแรง
เด็กวัยเพียงแค่สิบปีที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าได้แต่ยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก
เขาไม่ได้ฆ่ามัน
จินยองต่างหากที่ทำ
คิดได้ดังนั้น ยองมินก็หันสายตามองไปทั่วเพื่อหาร่างของพี่น้องร่วมตระกูลที่เพิ่งตีงูของพ่อตัวเองและวิ่งหนีหายไป
และไม่นาน ยองมินก็มองเห็นร่างของอีกคนที่ยืนถัดจากพ่อตัวเองไปไม่ไกลพร้อมด้วยท่าทางเหมือนคนตกใจ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ใช่
อูจินยองกำลังยิ้มเยาะเขาอยู่
ซึ่งมันทำให้อิมยองมินในวัยสิบขวบเข้าใจเรื่องทั้งหมดได้ทันที
และนับจากตอนนั้น อูจินยองไม่ใช่พี่น้องของเขาอีกต่อไปแล้ว
พรึ่บ!
ร่างโปร่งสะดุ้งตัวตื่นจากสัมผัสที่อยู่ข้างแก้มของตัวเองอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงขยับที่เก้าอี้ดังลั่นไปทั่วชั้นหนังสือในห้องสมุดที่ไร้ผู้คนในยามสายแบบนี้
เซอุนสะลืมสะลือมองไปรอบๆที่ตัวเองอยู่ด้วยสภาพที่ไม่จืดนัก โชคดีที่เช้านี้เรเวนคลอปีสี่ไม่มีเรียนเนื่องจากนักเรียนเรเวนคลอส่วนใหญ่นั้นไม่เคยมีชั่วโมงที่ขาดหายไปเลย นั่นทำให้พวกเขามีเวลามากพอที่จะอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนสอบปลายภาค
และมันก็เป็นสิ่งที่ดีต่อเขามากๆที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันไปกับการสิงอยู่ในห้องสมุด ถึงแม้จะมีผู้คนหลากหลายแต่การอ่านหนังสือคนเดียวที่หอพักมันยิ่งทำให้เขาเบื่อมากกว่าเดิมเสียอีก
เซอุนหันสายตาไปจ้องมือเรียวใหญ่ที่กำลังวางอยู่บนข้างแก้มของเขาด้วยความสงสัย แต่ด้วยสัมผัสที่คุ้นเคย ทำให้ไม่ต้องเดาไปไหนไกลเลย
“พี่ยองมิน?” ดวงตาที่ยังไม่ปรับโฟกัสทำให้เซอุนต้องหยีตาขึ้นแล้วหันไปจ้องหน้าคนที่กำลังยืนค้ำหัวตัวเองอยู่
“ขี้เซานะเรา” คนตัวสูงว่าแล้วยืดแก้มเขาเบาๆ แล้วเลื่อนมือขึ้นไปลูบที่หัวเขาเบาๆ “ว่าแล้วว่าเราต้องอยู่นี่”
เซอุนยิ้มรับแล้วดันหนังสือให้ปิดลงพร้อมกับหันไปจ้องหน้าคนรักอย่างเต็มตา
“ตามหาผมหรอครับ?” เขาเอ่ยถาม และได้รับแรงพยักหน้าลงเบาๆ
“ครับ—“
“มีอะไรหรือเปล่าพี่ยองมิน?” เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่สบายใจของอีกคน นั่นทำให้เซอุนต้องยืดตัวขึ้นยืน แล้วเอื้อมมือไปจับที่หน้าของยองมินเบาๆ
“วันนี้คนจากกระทรวงจะมาสอบสวนพี่” อิมยองมินตอบด้วยใบหน้าที่เครียดหนักกว่าเก่า ก่อนจะได้รับรอยยิ้มจากคนตัวบาง
“ผมอยู่ตรงนี้แล้วครับ อย่ากลัวไปเลย ยังไงพี่ก็ต้องพ้นผิด ผมเชื่อแบบนั้น” เซอุนว่าพร้อมยิ้มกว้าง
ใบหน้าอิดโรยของยองมินทำให้เขารู้สึกกังวลมากกว่าเดิม ถึงแม้พี่ยองมินจะถูกได้รับการอนุญาตให้สามารถเข้าเรียนได้ตามปกติแล้ว และใช้ชีวิตตามเดิมได้แล้วก็ตาม แต่ยังไงมันก็อยากอยู่ดีกับการใช้ชีวิตในปราสาทฮอกวอตส์โดยขาดไม้กายสิทธิ์
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ยองมินเลือกที่จะไม่เข้าเรียนเลย
“แล้วแผนของพี่—เป็นไงบ้างครับ?” ระหว่างทางที่พวกเขาทั้งคู่กำลังจะเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ เซอุนที่หอบหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดสองสามเล่ม(ถึงแม้ตอนนี้จะมีสองเล่มอยู่กับพี่ยองมินก็ตามที)เอ่ยถามขึ้น
“พี่จัดการเรียบร้อยแล้วครับ เอาไปให้อูจินแล้ว” ยองมินพูดตอบ
“ไหนบอกว่าเขาไม่รู้จักพี่ไงครับ”
“ก็เล่าเท้าความนานอยู่พอควร แต่พี่แค่บอกว่าพี่เป็นแฟนเซอุนพี่ชายของซอนโฮเพื่อนของแฟนมัน อูจินก็ตกลงทำให้พี่แล้ว”
“นี่พี่เอาชื่อฮยองซอบไปอ้างหรอครับ” เซอุนเลิกคิ้วถาม
“พี่อ้างชื่อแฟนพี่ต่างหาก” ยองมินตอบด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะได้รับแรงฟาดลงมาที่ไหล่ด้วยแรงที่ไม่เยอะมาก แต่ก็ทำให้รู้สึกแสบๆอยู่ไม่น้อย
“เดี๋ยวนี้เขินแรงขึ้นหรือเปล่า” ยองมินเอ่ยพร้อมหัวเราะเบาๆ ร่างโปร่งหันมองด้วยความหงุดหงิดใจก่อนจะเบะปากใส่คนรักแล้วเร่งฝีเท้าให้ก้าวเร็วขึ้น
นอกจากเวลาเขินแล้วเพิ่มแรงที่ตีขึ้นแล้ว
ก็ยังเพิ่มความน่าฟัดขึ้นอีกด้วยแหะ
อันตรายไปแล้ว
จองเซอุนอันตรายกับเขามากไปแล้ว
เซอุนและยองมินก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่พร้อมกัน ก่อนที่เซอุนจะเอ่ยขอแยกตัวเดินไปหาเพื่อนๆที่โต๊ะนั่งของเรเวนคลอ
ยองมินมองตามไปจนคนเป็นน้องนั่งลงตรงข้ามกับคิมแจฮวานที่กำลังส่งสายตาล้อเลียนมาให้ เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ทำเพียงแค่ยิ้มตอบไป แล้วหันตัวเดินไปทางโต๊ะของตัวเองที่มีร่างของเพื่อนทั้งสามนั่งคุยอย่างสนุกสนานกันอยู่
ทันทีที่ยองมินเดินไปถึง ทั้งสามก็เอ่ยทักเขาด้วยรอยยิ้ม รวมทั้งองซองอูที่ถึงแม้เมื่อเช้าที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นก็ตามที แต่นั่นไม่ทำให้เพื่อหน้าแมวของเขาเลิกเล่นมุขแปลกๆที่เจ้าตัวบอกว่าได้ยินมาจากพวกมักเกิ้ลได้เลย
นั่นนับว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้วกัน
“ให้พวกกูไปอยู่ด้วยไหม” หลังจากที่ยองมินเอ่ยปากเล่าว่าในช่วงบ่ายนั้นเขาต้องไปพบกับพวกคนในกระทรวง ดงฮยอนที่นั่งตรงข้ามก็เอ่ยถามทันที
“ไม่เป็นไรๆ กูไม่อยากให้พวกมึงเครียดตาม” ยองมินว่า
“แต่น้องกูเครียดตามมึงไปแล้วอ่ะ” ซองอูว่าขึ้นบ้าง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่โต๊ะเรเวนคลอ
“กูก็ห้ามเซอุนแล้วนะ แต่น้องมึงดื้อชะมัด”
“เลิกไหมละ?” ยงกุกเอ่ยถาม
“ฝันไปเถอะ” ยองมินเอ่ยตอบแทบจะทันทีแบบไม่คิด จนทำให้เพื่อนอีกสองคนโห่ร้องแซวขึ้นมาด้วยความชอบใจ
ถึงแม้องซองอูจะหมั่นไส้อยู่หน่อยๆ แต่เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยที่เพื่อนเขามันจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งนี้จริงๆ
ยองมินหัวเราะเบาๆก่อนจะเลิกสนใจดงฮยอนและยงกุกที่กำลังถกเถียงกันอยู่ว่าระหว่างเขาและเซอุนใครจะเป็นคนเริ่มจูบก่อน โดยมีองซองอูคนหวงน้องเอ่ยด่าตามทุกคำพูด
คนตัวสูงหันสายตามองไปยังโต๊ะสลิธีรินที่อยู่ถัดไป พลางมองจ้องปาร์คอูจินแล้วพยักหน้าส่งให้เบาๆ อูจินที่มองอยู่ก่อนแล้วก็ยิ้มรับก่อนจะลุกเดินไปทำตามแผนที่เขาวางไว้
และอิมยองมินมั่นใจว่าแผนของเขามันจะต้องสำเร็จแน่นอน
แล้วเราจะได้รู้กันว่าเขาทำอะไรได้มากกว่าที่คิด :)
“ขอบคุณที่ตรงมาที่นี่นะคุณหยาง” เสียงหวานๆถูกเอ่ยขึ้นจากคนที่มีสักดืเป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ ใบหน้าที่เริ่มมีอายุยิ้มออกกว้าง พร้อมยื่นมือไปจับเบาๆกับแขกของเธอในวันนี้ที่ควรจะต้องมาถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว แต่เพราะสภาพอากาศทำให้พวกเขาเดินทางมาได้ช้าขึ้น การสอบส่วนจึงต้องเลื่อนมาตอนหลังเวลาอาหารเย็น
“ผมเต็มใจมา” คู่สนทนาเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา และนั่นมันยิ่งทำให้อีกหลายชนิดที่อยู่ภายในห้องทำตัวลีบไปตามๆกัน
รวมทั้งจองเซอุนที่ได้รับคำอนุญาตจากศาสตราจารย์โบอาแล้วว่าให้สามารถเข้ามาร่วมการไต่สวนได้ และแน่นอน อิมยองมินจับมือเซอุนไม่ปล่อยเลยตั้งแต่มาถึง
ไม่สิ
เซอุนเองต่างหากที่จับมือยองมินแน่นและไม่ยอมให้อีกคนปล่อยมือตัวเองเลย
จนศาสตราจารย์ชีต้าร์ต้องสั่งให้ทั้งสองคนยืนให้ห่างกัน และดันตัวของอิมยองมินให้ไปยืนอยู่ตรงกลางห้องของอาจารย์ใหญ่
“ยินดีที่ได้พบคุณอิม” คุณหยาง หัวหน้ากองปราบปรามของกระทรวงเดินตรงเข้ามาอิมยองมินทันทีแบบไม่ลังเล ด้วยใบหน้าที่นิ่งๆและท่าทางที่ดูน่าเกรงขามทำให้คนที่อุตส่าห์ทำใจอยู่นานรู้สึกกลัวขึ้นมาจนได้
แต่นั่นก็ไม่แย่นัก เพราะเขามั่นใจว่าการไต่สวนครั้งนี้จะทำให้เขารอดพ้นจากข้อหาทุกประการ
“ยินดีเช่นกับคุณหยาง” ยองมินเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนเขาจะถูกเชิญให้นั่งลงบนเก้าอี้
และห้องของศาสตราจารย์โบอาก็ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องสอบสวนขนาดย่อม เหตุเพราะฮอกวอตส์มีกฎไม่ให้นักเรียนออกนอกบริเวณโรงเรียนจนกว่าจะได้รับอนุญาต และ พวกกระทรวงคงไม่สามารถรอจนกว่าจะปิดเทอมได้จึงต้องทำการสอบสวนกันแบบเร่งด่วนอย่างนี้
“เอาละมาเริ่มกันเถอะ” คุณหยางว่า พลางหันไปหาลูกน้องของตน แล้วยื่นมือไปรับอะไรบางอย่างมา
เมื่ออีกคนหันกลับมาอีกครั้งทำให้เขารู้ว่าในมือของคุณหยางคือไม้กายสิทธิ์ของเขาที่ถูกยึดไปทันทีที่ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้ที่ให้การช่วยเหลือนักโทษออกมาจากคุกอัซคาบัน
“เธอมีอะไรจะพูดไหมคุณอิมยองมิน” คุณหยางถาม
“ยืนยันคำเดิม ผมไม่ได้ทำครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
แล้วคุณหยางก็ยกไม้กายสิทธิ์ของตัวเองขึ้นมาจ่อไปที่ไม้ของเขา พร้อมกับเอ่นร่ายคาถาตรวจสอบว่าครั้งล่าสุดที่เขาใช้ไม้นี้เขาให้มันทำอะไรไป และหากมันน่าสงสัยเขาอาจจะไม่สามารถหลุดพ้นได้
แต่น่าเสียดาย
ที่คาถาสุดท้ายของเขา มันคือ
“ออร์คิดดีอุส?” คุณหยางเอ่ยพูดขึ้น พร้อมเลิกคิ้วมองเขาด้วยความสงสัย ก่อนยองมินจะหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเอ่ยตอบ
“ผมเสกดอกไม้น่ะครับ”
“เสกมาทำไม?” คนตรงหน้าถามต่อ
ยองมินถอนหายใจออกมาเบาๆราวกับอึดอัดใจจะบอก
แน่นอนสิ มันคือเซอร์ไพส์ของที่เตรียมไว้ให้แฟน ถ้าพูดออกไปมันก็ไม่เซอร์ไพส์น่ะสิ แต่ไม่พูดเขาก็อาจจะโดนข้อหาโกหกอีก
ไม่มีทางเลือกเลยแหะ
“ผมเตรียมเซอร์ไพส์ให้แฟนครับคุณหยาง” ยองมินเอ่ยตอบด้วยเสียงที่ไม่เบานัก และไม่ต้องหันกลับไปมองเขาก็รู้เลยว่าเซอุนต้องกำลังเขินอยู่แน่ๆ
คุณหยางดูอึ้งๆกับคำตอบของเขาไปนิด แต่ก็ทำเพียงยิ้มตอบกลับมาเท่านั้น
“โชคร้ายที่เราตรวจสอบคาถาย้อนหลังได้เพียงแค่ครั้งเดียว แต่คาถาล่าสุดที่คุณใช้ก็ไม่ได้มีความอันตรายอะไร แต่ก็ไม่ควรวางใจ—นำตัวเขามาสิ” คุณหยางเอ่ยพูดกับเขาด้วยน้พสียงยียวน ก่อนจะหันไปสั่งอะไรกลับลูกน้องสักอย่าง
“คุณไม่ชู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวหรอกคุณอิมยองมิน—คุณอูจินยองก็เป็นหนึ่งในตระกูลของคุณเหมือนกัน บางทีพวกคุณอาจจะร่วมมือกัน” ยองมินหันมองทางประตูพร้อมกับตอนที่ร่างของอูจินยองถูกพาเขามาภายในห้องของศาสตราจารย์โบอา
ท่าทางของอีกคนดูหวาดกลัว ใบหน้าดูตื่นเต้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้วางท่าราวกับผู้ชนะแท้ๆ
สงสัยแผนของเขาจะได้ผลดีไม่น้อย
“คุณอูจินยอง” คุณหยางเอ่ยเรียก เจ้าของชื่อสะดุ้งตกใจก่อนจะขานรับ
“ครับ?”
“คุณกับอิมยองมินรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า” คนตรงหน้าพวกเขาเอ่ยถามขึ้น แต่คราวนี้กับเจาะจงชี้ไปถามอูจินยองเพียงคนเดียว และเมื่อยองมินเห็นท่าทีหวาดๆของจินยองแล้วเขาก็ทำตัวให้สบายขึ้น และรอดูผลลัพท์ของยาเท่านั้น
“ไม่—เป็นครับ เราเป็นพี่น้องกัน” อิมยองมินเลิกคิ้วมองอย่างขบขันหลังจากอีกคนพูดจบ
นานแค่ไหนกันแล้วนะที่เขาไม่ได้ยินจินยองบอกว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน
อาจจะห้าหรือหกปี?
“แล้วคุณรู้เรื่องไหมว่าพี่ของคุณช่วเหลือปู่ของพวกคุณ”
“ไม่—โถ่เว้ย! รู้ครับ ผมรู้” จินยองเริ่มหงุดหงิด เจ้าตัวขยี้หัวตัวเองไปมา และทำเหมือนคนกำลังแบกความผิดไว้อยู่ แตกต่างจากยองมินที่กำลังอยู่ในท่าที่สบาย
ไม่แปลกเลยที่คุรหยางจะเลิดสนใจยองมินแล้วรุกถามคำถามกับอูจินยองแทน
“คุณรู้อะไรมา?” คุณหยางเอ่ยถาม
“...”
“ฉันถามว่าคุณรู้อะไรมาคุณอูจินยอง!!”
“ผมทำเอง!!!” และเมื่อทุกคนเริ่มกดดันขึ้นเรื่อยๆ คนที่กลายเป็นจุดสนใจก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ก่อนจะรีบเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน
“ว่าไงนะ?” เป็นศาสตราจารย์แจซึงที่เอ่ยขึ้นมาพร้อมด้วยท่าทางทีตกใจ
แน่ละ
อูจินยองเป็นคนโปรดนี่น่า
“ผมทำเอง—แม่ง! ผมเป็นคนจัดฉากว่าเป็นอิมยองมิน ผมเป็นคนขโมยเข็มของเขา! ผมร่วมมือกับคนข้างนอกเพื่อช่วยปู่ผมออกมาจากคุกบ้าๆนั่น!” อูจินยองร่ายยาว แต่คำพูดของเขาดูราวกับถูกบังคับให้พูด เพราะหลังจากที่พูดจบ อูจินยองก็ดูตกใจว่าตนพูดอะไรออกไป
ยองมินที่ยืนฟังอยู่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ในที่สุดก็ยอมพูดออกมาจนได้ ถึงแม้จะต้องใช้ตัวช่วยก็ตาม แต่หากจินยองไม่สารภาพเอง เขาคงหาหลักฐานอะไรมาไม่ได้แน่ๆ
“เรื่องนี้ฉันต้องการการสอบสวนอย่างส่วนตัว” คุณหยางที่กำลังงงๆอยู่หันไปเอ่ยกับศาสตราจารย์โบอา ก่อนจะหันมาสบสายตาของเขา แล้วยื่นไม้กายสิทธิ์มาให้
“หากที่คุณอูจินยองพูดมาเป็นความจริง คุณจะพ้นผิดนะคุณอิมยองมิน ตอนนี้คุณต้องออกไป แต่คุณจะยังอยู่ในสายตาของกระทรวง” พูดแค่นั้น ก่อนจะทำท่าทางให้เขาออกไปจากตรงนี้
ยองมินพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย พลางหันตัวไปหาเซอุนที่กำลังยืนมองด้วยความสงสัยไม่ต่างจากคนอื่นในห้อง แล้วเขาก็ยื่นมือไปคว้าแขนคนรักให้ตามออกไปอย่างรวดเร็ว
“นั่นมันเกิดอะไรขึ้นน่ะพี่ยองมิน?” คล้อยหลังจากที่พวกเขาเดินออกมาแล้ว เซอุนก็ถามออกมาทันที
“ความจริงไงครับ” ยองมินเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อย่าบอกนะ—มันมาจากแผนพี่ใช่ไหม” เซอุนเลิกคิ้วถาม ก่อนจะได้รับแรงพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบ
เซอุนยกมือขึ้นมาตะปบเข้าที่แขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของอิมยองมินอย่างแรงทันที
“มันอันตรายน่ะครับ! ถ้าคนอื่นรู้พี่จะโดนทำโทษเอานะ” คนตัวเล็กกว่าพูดด้วยเสียงที่ไม่ดัวงมากนัก เพราะเกรงว่าหากมีใครเดินผ่านมาได้ยินจะแย่เอาได้ ถึงแม้ตอนนี้จะค่ำมากแล้ว และคงไม่มีใครเดินผ่านไปมา เซอุนก็ยังคงระมัดระวังอยู่ดี
“ไม่มีใครรู้นอกจากพี่ เซอุน และอูจิน และถ้าพี่ไม่ใช้น้ำยาพูดความจริง อูจินยองก็จะไม่มีวันรับผิด”
“ผมรู้—แต่มัน พี่นี่ร้ายจริงๆเลย” เซอุนว่าด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคนโกรธ แต่ไม่ใช่เลย เจ้าตัวเพียงแค่เป็นห่วงมากเท่านั้น
เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าพี่ยองมินแอบไปขโมยน้ำยาพูดความจริงมาจากศาสตราจารย์แจซึง และใช้มันโดยให้ปาร์คอูจินแอบใส่มันเข้าไปในน้ำฟักทองของอูจินยอง ละก็
ให้ตาย
อันนี้คือตายจริงๆแน่
“วันหลังพี่ควรจะปรึกษาผมบ้างนะครับ—ผมคิดว่าพี่จะใช้วิธีที่มันถูกกว่านี้” เซอุนว่า ระหว่างที่เดินเขินบันไดวนเพื่อตรงกลับไปที่หอพักของตัวเอง โดยมีคนเป็นพี่เดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง
“โกรธพี่หรอ” ยองมินเอ่ยถามขึ้น
“ครับ โกรธมากๆ พี่ชอบทำอะไรเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว” เซอุนว่าด้วยน้ำเสียงนิ่งๆจนทำให้คนที่อยู่ด้านหลังใจหาย
“ขอโทษนะครับ พี่—พี่คิดน้อยเอง พี่แค่อยากให้อูจินยองรับผิดสักที”
“มันน่าจะมีวิธีอื่นนะครับ ที่จะไม่ทำให้พี่เดือดร้อน” เซอุนพูดพร้อมกับพยายามหันหน้าหนีใบหน้าหล่อๆของคนรักเมื่อพี่ยองมินยื่นหน้ามาหาเขาราวกับกำลังออดอ้อน
และเซอุนก็ไม่เคยทนลูกอ้อนของพี่ยองมินได้เลยสักครั้งเดียว
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยครับ นี่ผมโกรธจริงๆนะ” มันค่อนข้างที่จะยากเมื่อพวกเขากำลังขยับตัวอยู่บนบันไดที่ค่อนข้างชันและอันตรายมากทีเดียว
เซอุนจึงขยับตัวขึ้นไปยืนตรงบริเวณระเบียงที่พวกเขามีความทรงจำร่วมกันถึงสองครั้ง และนี่คงจะเป็นครั้งที่สาม
หากถามว่า ถ้าเขาโกรธแล้วทำไมถึงไม่หนีกลับไปที่หอละ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่เซอุนคิดว่าการโกรธกันข้ามวันข้ามคืนมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย มีแต่ทำให้เข้าใจผิดกันมากขึ้นสียอีก เขาจึงคิดว่าหากเรามีปัญหากัน เซอุนจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องมันค้างคาเกินหนึ่งวันแน่ๆ
คนรักกันไม่ควรโกรธกันนานๆ คุณแม่เขาเคยสอนไว้
“พี่ต้องทำไงเราถึงจะหายโกรธ” พี่ยองมินที่เดินตามมาเอ่ยพูดกับเขา
“ไม่รู้ครับ” เซอุนหันหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
แต่ก่อนที่เขาจะได้แกล้งโกรธอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีบางอย่างดันมาที่ต้นขาของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้สะดุ้งตัว
เซอุนก้มหน้าต่ำลงไปมองอะไรบางอย่างที่กำลังคลอเคลียไปที่ขาของเขา ก่อนจะเบิกตาออกกว้าง
“นี่มัน!” เขาละสายตาจากหมาป่าตัวใหญ่ที่สูงเกือบถึงเอวเขา หันมองคนที่กำลังยืนอมยิ้มอยู่ด้วยความตกใจ
“พี่เสกมันหรอครับ!?”
ยองมินไม่ตอบแต่กลับยื่นมือปาหาหมาป่าที่มาจากการเสกคาถาผู้พิทักษ์ของเขาเอง
“มันดูจะชอบเรานะ” ยองมินว่า ก่อนเซอุนจะวาดรอยยิ้มกว้างมองจ้องไปยังหมาป่าตัวใหญ่ที่กำลังสนุกกับการหยอกล้อของเจ้าของมัน
“พี่ทำมันได้ยังไง”
“...”
“ผมได้ยินว่าคาถาผู้พิทักษ์จะต้องคิดถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต”
“ใช่ครับ” ยองมินละสายตาออกจากผู้พิทักษ์ของตัวเองแล้วจ้องไปที่ดวงตาสุกสว่างของเซอุนแทน
“พี่ทำได้ไง พี่คิดอะไร ทำไมมันถึงสำเร็จ” คนตัวเล็กกว่าถามออกมาไม่หยุด แถมยังดูตื่นเต้นที่ได้เห็นผู้พิทักษ์อีกด้วย แทบลืมไปด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวกำลังโกระเขาอยู่
“เซอุนอยากรู้หรอครับว่าพี่คิดถึงอะไรตอนเสกคาถาผู้พิทักษ์” ยองมินเอ่ยถามขึ้น ก่อนเจ้าของชื่อจะเลิกให้ความสนใจกับสัตว์วิเศษแล้วหันมองหน้าของยองมินบ้าง
“ครับ—อยากรู้”
“เซอุน”
“ครับ? เรียกผมทำไ—“
“พี่คิดถึงเซอุน—ความสุขที่สุดในชีวิตของพี่คือเซอุน" สิ้นเสียงของยองมิน ใบหน้าหวานของเซอุนก็ถูกดึงให้เข้ามาใกล้กับคนเป็นพี่มากขึ้น
ยองมินไม่รอช้า เขากดริมฝีปากประทับลงกับกลีบปากที่เพิ่งเอ่ยถามเขาอย่างเจื้อยแจ้วเมื่อกี้
ความนุ่มหยุ่นที่ราวกับได้ลิ้มรองเยลลี่แสนอร่อย พวกกับความหวานจากริมฝีปากที่เขามักจะคอยจ้องมองอยู่เกือบตลอดเวลาที่เซอุนเอ่ยพูด
พูดกับใครก็ควรมองหน้าคู่สนทนาใช่ไหมละ
แต่ไม่
สำหรับอิมยองมินแล้ว เวลาคุยกับจองเซอุนเขาไม่เคยละสายตาจากริมฝีปากแสนน่ารักนั่นได้เลย
คนตัวสูงไม่ได้รุกล้ำอะไรไปมากกว่าการแช่ริมฝีปากไว้นิ่งๆอยู่หลายนาที จนกระทั่งพอใจ เขาถึงได้ถอนริมฝีปากออกมา
สายตาที่เต็มไปด้วยความรักของอิมยองมินไม่ได้ละสายตาออกจากใบหน้าของเซอุนเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ไม่อยากคิดเลยว่าหากวันนั้นเขาไม่ได้เปิดประตูออกมาเจอเซอุนจะเป็นยังไง
และถ้าวันนั้นเซอุนไม่ได้ล้มใส่เขา ถ้าเราไม่ได้จ้องตากัน
ในวันนี้พวกเขาทั้งคู่จะเป็นยังไง
อาจจะเป็นแค่นักเรียนร่วมสถาบันที่เดินผ่านไปมาเพียงเท่านั้น
และเขาคงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆถ้าปล่อยจองเซอุนไป
แต่มันคงจะไม่มีวันนั้นแน่นอน
“เซอุน—“
“ครับ?”
“ขอบคุณนะครับ”
“—ขอบคุณที่มาเป็นปาฏิหาริย์ ในชีวิตพี่ ขอบคุณจริงๆนะครับ”
บางที่ความรักที่เหมาะสมกับคุณอาจจะไม่ได้อยู่ไกลเกินกว่าที่คุณจะสามารถไขว้คว้า มันอาจจะอยู่ใกล้มากกว่าที่เราคิดก็เป็นได้
เพียงคุณต้องลองเปิดใจ
แล้วคุณจะพบว่าปาฏิหาริย์ มันอยู่รอบตัวคุณเสมอ :)
-talk-
นี่คือจบแล้วหรอ? โนจ่ะะะะะะ 55555555555555555
ยังไม่โจ๊บบบบบบบบ จะจบง่ายอะไรขนาดนั้นนนน เดี๋ยวจะไม่หนุกกก
ตอนนี้พี่ยองมินของเราอบอุ่นดั่งเตาผิงไฟ แงง อุ่นจนร้อนน
ใกล้จบแล้วเนอะ ตื่นเต้นจัง 55555555
ฮือ ต้องรีบจบภายในปีนี้แล้ว หวังว่าทุกคนจะให้ความรักกับมินอุนและมิราเคิลมากๆนะคะ
อย่าลืมนะคะ Miracle is all around :)
เลิ้บๆ จุ้บๆจ้า
ขอกำลังใจด้วยยยย #MiracleMW
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่-ก็เกินไปอ่ะ นางจะพระเอกเกินไปแล้ว ฮือๆๆๆๆ
มียองมินกริฟฟินดอร์อีกคนมั้ยคะ อยากเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว
คนน้องก็น่ารักมากๆ ดูนุ่มนิ่มน่ารักน่าเอ็นดูทุกการกระทำจริงๆอ่ะ ในที่สุดเค้าก็จูบกันแล้วเว้ยยย /ไม่ใช่จูบป่ะ เค้าเรียกจุ๊บ5555555
ชอบความที่อูจินยอมร่วมมือด้วยเพราะพี่ยองมินเป็นแฟนของพี่ชายเพื่อนแฟน(?) อมก. ใจพี่
กีสสสสสสสสสสสส พี่หยองโว้ย อบอุ่นไปแร้ว หน้าจออุ่นจนร้อนแล้วค่ะ ฮือ รักพี่หยอง รักตะอุน รักทุกคน รักอูจินด้วยนะะะ ฮือ ที่สำคัญคือรักไรต์นะคะ เลิฟๆ
รักความหวานของพี่ยองมินเค้าจริง ๆ นะคะซิส หวานละมุนละไมละเกินนนน
ชอบที่บอกว่าเซอุนคือความสุขของพี่ยองมิน ถ้าเราเป็นเซอุนอยากจะเสกให้ตัวเองลองหนได้ชะมัด555 น้องมีความเขินรุนแรง ส่วนอิพี่ก้ออยากเพิ่งตบะแตกนะ ทนๆหน่อย5555