ตอนที่ 38 : ๓๒ - วิชาปรุงยาและโอกาสอีกหนึ่งครั้ง
“ขอทางหน่อยครับรุ่นพี่” ร่างโปร่งที่กำลังหอบหนังสือเล่มหนาพร้อมกับหิ้วกระถ่างต้นแมนเดรก เอ่ยพูดกับคนที่กำลังยืนขวางอยู่หน้าประตูของหอพัก
ก่อนคนที่ถูกเอ่ยพูดด้วยจะรู้ตัว แล้วกระเถิบตัวหนีจากเส้นทางการเดินของสองเพื่อนซี้ที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในบ้านฮัฟเฟิลพัฟ
ซอนโฮโค้งหัวขอบคุณแล้วรีบก้าวออกจากหอพักอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยร่างของเพื่อนตัวเองที่ช่วงนี้ดูสดใสขึ้นราวกับคนละคน
จนเพื่อนๆพี่ๆร่วมบ้านหลายคนชอบมาถามเขาว่าฮยองซอบเป็นอะไรหรือ ทำไมดูดีขึ้นผิดหูผิดตา
อยากจะตอบไปเหลือเกินว่านั่นมันเป็นอาการของคนมีความรักไงละ
แต่ซอนโฮต้องตอบไปเพียงแค่ว่าไม่รู้
สองร่างในชุดคลุมสีเหลืองของฮัพเฟิลพัฟรีบเร่งก้าวฝีเท้าไปให้ถึงจุดหมายอย่างเร่งด่วน
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเกือบสิบนาทีแล้วก็ตามที
“เมื่อไหร่นายจะเริ่มชวนฉันทำเรื่องไร้สาระก่อนนอนสักทีนะฮยองซอบ” ซอนโฮเอ่ยบ่น พร้อมกับถอนหายใจเมื่อเขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มเหนื่อยกับการเร่งฝีเท้าแล้ว
“ฉันก็ลืมไปว่าวันนี้เรามีเรียนวิชาปรุงยาตั้งแต่เช้า ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะนอนตั้งแต่สองทุ่มแล้ว” คนที่อยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้นบ้าง แล้วก้มตัวลงไปมองต้นแมนเดรกในอ้อมแขน เพราะเกรงว่าการพูดคุยของตัวเองจะทำให้มันตื่นขึ้นละส่งเสียงน่ารำคาญออกมา
“เราจะสายทุกครั้งในวิชานี้เลยใช่ไหมเนี่ย” เขาเอ่ย แล้วดันแว่นทรงเดิมขึ้น ก่อนทั้งคู่จะเดินมาถึงหน้าห้องเรียนของวิชาปรุงยา
“เปิดสิฮยองซอบ”
“นายเปิดดิซอนโฮ”
“ฉันมือไม่ว่าง”
“ฉันด้วย”
“แต่—“ ยังไม่ทันให้ซอนโฮได้เอ่ยพูดอะไรเพื่อเป็นการอ้างเหตุผลที่จะไม่เป็นคนเปิดประตู แต่บานประตูตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่ก็แง้มออกมาอย่างช้าๆด้วยฝีมือของคนด้านใน
ทำให้ซอนโฮและฮยองซอบมองเห็นภาพภายในของห้องเรียนวิชาปรุงยา ที่มีนักเรียนนั่งอยู่อย่างพร้อมเพรียง โดยมีที่นั่งว่างอยู่เพียงสองที่สำหรับเขาและเพื่อนหน้ากระต่าย
ศาสตราจารย์แจซึงที่ยืนพิงโต๊ะไม้ตรงกลางกำลังมองจ้องมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกได้ว่า
พวกเขาซวยแล้ว
ซอนโฮกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะค่อยๆอมยิ้มแห้งๆมองคนที่ทำหน้าดุอยู่กลางห้อง แล้วก้าวเดินเข้าไปอย่างช้าๆ
“คุณยู คุณอัน—ผมขอทราบเหตุผลที่คุณมาช้าในวันนี้ด้วย” เสียงเย็นๆของศาสตราจารย์แจซึงเอ่ยพูดกับพวกเขา นั่นทำให้ซอนโฮเสียวสันหลังทันทีที่ได้ฟัง
“คือ—พวกเรา” เป็นฮยองซอบที่เอ่ยออกมาก่อน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“พวเราลืมต้นแมนเดรกไว้ที่ห้องครับ—พวกเราเลยรีบกลับไปเอาเพราะเราไม่อยากพลาดบทเรียนที่แสนวิเศษเกี่ยวกับการปรุงยาถอนพิษจากต้นแมนเดรกของศาสตราจารย์ครับ” เขาเอ่ยด้วรอยยิ้มกว้าง
นั่นเป็นเหตุผลที่นักเรียนอีกสิบกว่าชีวิตในห้องต้องหันหลังกลับมามองพวกเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทำให้ซอนโฮรู้ว่าในห้องไม่ได้มีเพียงแต่นักเรียนฮัฟเฟิลพัฟเท่านั้น
นักเรียนในเสื้อคลุมสีเขียวนั่งอยู่ทุกโต๊ะ และข้างๆก็มีนักเรียนของฮัฟเฟิลพัฟนั่งอยู่
น่าแปลก
“เอาเถอะ ฉันเข้าใจ แต่ถ้าวันหลังเธอยังจะมาช้าอีก ฉันจะตัดคะแนนของฮัฟเพิลพัฟซะ” ศาสตราจารย์ว่าพร้อมกับสะบัดผ้าคลุมไปอีกทาง แล้วเอ่ยต่อ
“ฉันสั่งให้สลิธีรินปีสามกับฮัพเฟิลพัฟปีสามนั่งแยกกันเป็นคู่ และที่ๆเหลืออยู่ข้างๆคุณปาร์คและคุณไลคือที่ของพวกเธอ” พูดแค่นั้นก่อนคนอายุมากจะเดินตรงปรี่ไปที่โต๊ะไม้ตรงกลาง ทิ้งให้ซอนโฮและฮยองซอบต้องมองหน้ากันอย่างงงๆ
“ให้ฉันไปนั่งกับควานลินไหม? เดี๋ยวนายไป—“
“ไม่ต้องหรอกฮยองซอบ อูจินต้องอยากนั่งกับนายอยู่แล้ว” ซอนโฮว่าแล้วผลักตัวเพื่อนของตัวเองไปยังที่นั่งที่มีคนรักของเพื่อนนั่งอยู่
ส่วนเขาก็หันสายตาไปมองแผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างๆไลควานลินด้วยความเกรงๆ
“ไง” ควานลินเอ่ยทักทันทีที่เขานั่ง แต่อีกคนไม่ได้หันสายตามามองเขาเลยสักนิด
คงจะโดนเกลียดแล้วละยูซอนโฮ
“อื้ม—ไง” เขาตอบ แล้ววางต้นแมนเดรกไว้ที่พื้น พร้อมวางหนังสือเล่มหนาลงอย่างเงียบๆ
ซอนโฮสังเกตเห็นว่าหนังสือของอีกคนไร้รอยขีดเขียน ดูราวกับเพิ่งซื้อมาใหม่จากตรอกไดแอกรอนเมื่อวานนี้เลย แตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง เพราะมันเป็นหนังสือที่ตกทอดมาจากพี่เซอุน (อย่างหวังว่าเขาจะใช้ของพี่ซองอู น่าจะดูใหม่ยิ่งกว่าของควานลินซะอีก) หน้าแรกของหนังสือยังมีลายมือหวัดๆของพี่ชายเขาอยู่เลย
แต่ถึงจะดูเก่า แต่มันก็มีการจดบันทึกความรู้เพิ่มเติมมากมายจนทำให้ซอนโฮไม่ต้องถามใครให้ยุ่งยากเลย
มีพี่เป็นเรเวนคลอก็ดีแบบนี้
“เอาละ—เริ่มต้นวันนี้ด้วยการหยิบแมนเดรกของพวกเธอขึ้นมา” เสียงพูดของศาสตราจารย์แจซึงเรียกให้ร่างโปร่งหยุดออกมาจากภวังค์แล้วหันตัวไปหยิบต้นแมนเดรกของตัวเองออกมา
โดยทุกการกระทำของยูซอนโฮตกอยู่ในสายตาของควานลินทั้งหมด
หากถามว่าวันนี้เขาจะได้อะไรกลับไปบ้างจากการเรียนวิชานี้
บอกได้คำเดียวเลยว่า
เขาจะจำได้แต่หน้าของยูซอนโฮเท่านั้น
ทั้งใบหน้ายามกำลังตั้งใจเรียนกับบทเรียนที่ศาสตาจารย์ประจำบ้านของเขาเริ่มสอน ทั้งใบหน้ายามหงุดหงิดตอนที่จดตามคำพูดของคนที่ยืนพูดอยู่หน้าห้องไม่ทัน
สาบานเลย
ไลควานลินพยายามจะโฟกัสเรื่องเรียนแล้ว
ถ้าไม่ติดว่าใบหน้าน่ารักๆของซอนโฮจะดึงความสนใจไปมากกว่า
แย่จริง
“คุณไล” เสียงเรียกชื่อของเขาดังมาจากคนี่กำลังยืนสอนอยู่หน้าห้อง ก่อนคนตัวสูงจะสะดุ้งตัวแล้วหันสายตามองไปด้านหน้าตัวเอง
“ครับ?”
“ฉันมีคำถาม—หากเธอโดนพิษของเห็ดอย่างแรง เธอว่าอะไรจะช่วยให้พิษไม่ฆ่าเธอได้บอกมาสิ” ใบหน้าของควานลินซีดเผือกทันทีที่ได้ยินคำถาม
ตายแล้ว
อะไรละวะเนี่ย
เมื่อกี้ก็ไม่ได้ทันฟังด้วย
ควานลินพยายามหันสายตามองซ้ายมองขวาอย่างคนที่ต้องการใช้ความคิด
ที่จริงแล้วเขาเพียงแต่จะถ่วงเวลาให้ตัวเองเท่านั้น
ก็ไม่รู้คำตอบนี่น่า
แต่ก่อนที่เขาจะได้หัวหมุนไปกว่านี้ หน้าหนังสือจากคนข้างกายก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าเขา พร้อมกับลายมือหวัดๆอย่างรีบๆที่เขียนไว้อยู่บนกระดาษ
'ใข้การสกัดต้นแมนเดรก'
"ใช้การสกัดต้นแมนเดรกครับ" เขาเอ่ยตอบไปตามตัวอักษรที่ถูกขีดเยนบนหน้าหนังสือ ก่อนจะได้รับรอยยิ้มกว้างอย่างคนพึงพอใจจากศาสตราจารย์แจซึง
"เยี่ยมมากคุณความลิน—แต่คราวหน้ากรุณาช่วยให้ความสนใจในบทเรียนมากกว่านี้หน่อยนะ" ศาสตราจารย์เอ่ย พลางหันสายตากลับไปมองในหนังสือแล้วสอนต่อ
ปล่อยให้คนที่เพิ่งถูกถามคำถามต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เกือบไปแล้วไลควานลิน
"ขอบคุณ" เขาเอ่ยขอบคุณกับคนข้างกายด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเพราะเกรงว่าศาสตราจารย์แจซึงจะได้ยินและหันมาเรียกเขาอีกรอบ
แบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่
"ไม่เป็นไร" ซอนโฮเอ่ยตอบเขา แล้วหันหน้ากลับไปมองกระดานตามเดิม
และใช่
เขามองเห็นใบหูที่ขึ้นสีแดงของซอนโฮ
นั่นมันน่ารักเป็นบ้า
หากยูซอนโฮคิดจะให้พวกเขากลับไปเป็นเหมือนเดิมกันจริงๆ ก็ควรจะเลิกทำตัวน่ารักต่อหน้าเขาได้แล้ว
“ก่อนจะจบชั่วโมงไปในวันนี้ ฉันมีเหตุผลที่ให้พวกเธอนั่งแยกบ้านกัน” เสียงของศาสตราจารย์แจซึงดังขัดขึ้นมา ทำให้นักเรียนทั้งฮัฟเฟิลพัฟที่กำลังส่งเสียงออกมาต้องหุบปากลงฉับพลัน แล้วตั้งใจฟังในสิ่งที่ศาสตราจารย์จะเอ่ยต่อ
“การบ้านของพวกเธอในวันนี้คือ การค้นหาพืชที่มีลักษณะคล้ายกับต้นแมนเดรกที่มีอยู่ภายในรั้วโรงเรียนฮอกวอตส์ของเรามาคู่ละหนึ่งอย่าง—แล้วคู่ที่ว่าคือคู่ตามโต๊ะที่นั่งกันอยู่ตอนนี้” สิ้นเสียงคนอายุมาก ทั้งห้องก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ
ซอนโฮหันมองหน้าฮยองซอบที่นั่งอยู่ถัดไปไม่ไกลด้วยความตกใจ แล้วเอ่ยพูดแบบไร้เสียงกับเพื่อหน้ากระต่าย
‘ให้ตาย นั่นมันบ้าไปแล้ว’
นั่นมันหมายความว่ายูซอนโฮต้องคู่กับไลควานลินสินะ!
แต่ก่อนที่ซอนโฮจะได้เอ่ยอะไรต่อ คนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างเขาก็เอ่ยเรียกความสนในเขาไปเสียก่อน
“นายจะเปลี่ยนคู่ไหม? ฉันจะขอศาสตราจารน์แจซึงให้” เขาหันมองใบหน้าขาวซีดของไลควานลิน
ดวงตาของอีกคนดูเศร้าสร้อยเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด
นั่นทำให้ซอนโฮรู้สึกแย่มากหากเขาคิดจะเปลี่ยนคู่ตามคำบอกของอีกคน
มันคงจะไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าซอนโฮคิดจะลองให้โอกาสควานลินดูสักครั้ง
ไม่ใช่นะ
เขาหมายถึงเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนคิดกันอยู่แน่นอน
เรื่องนั้นมันควรจะต้องใช้เวลา
เพราะก่อนหน้าที่เขาจะทำใจได้ ซอนโฮก็เจ็บมาเยอะพอสมควรน่ะนะ ถึงความจริงเขาพร้อมจะให้โอกาสอีกครั้งแล้วก็ตามที
“ไม่ต้องหรอก ฉันคู่นายได้ ไม่ต้องห่วง” ซอนโฮเอ่ยตอบ
“จริงหรอ?” คนตัวสูงหันมาถามพร้อมเบิกตามองอย่างตกใจ
“จริงสิ—มันก็ไม่ได้แย่อะไร” เขาพูดพร้อมกับหันไปสบสาตาคนข้างกาย ก่อนรอยยิ้มของควานลินจะปรากฏออกมาให้เห็นอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานาน
“ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น :)”
“นายมั่นใจใช่ไหมซอนโฮว่าพืชนั่นมันมีอยู่จริง” ควานลินเอ่ยพูดกับคนที่เดินนำหน้าเขาอย่างคนมุ่งมั่น ก่อนเจ้าตัวจะหันกลับมามองใบหน้าของคนตัวสูง
หลักจากที่จบชั่วโมงวิชาปรุงยาที่ลากยาวมาจนถึงมื้อเที่ยงแล้ว ทั้งเขาที่ไม่มีคาบเรียนต่อนอกจากต้องไปซ้อมควิดดิชที่เขาเลือกจะไม่ไปและซอนโฮที่ไม่มีคาบเรียนต่อเช่นกันแต่ขอตัวไปทานมื้อเที่ยงก่อนที่เราสองคนจะนัดมาที่ป่าหลังปราสาทที่ติดกับทะเลสาบ ไม่ใช่ส่วนที่เป็นป่าต้องห้าม เพื่อมาตามหาพืชสมุนไพรที่คนตัวบางบอกว่าเคยเห็นแต่ซึ่งไม่รู้อะไรไปมากกว่าหน้าตามัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่ต้องมาเดินวนไปมาอยู่เกือบชั่วโมงแล้ว
“นายกำลังถามฉันเป็นรอบที่สามอยู่นะเผื่อลืม—และขอตอบอีกครั้งว่าฉันมั่นใจ แต่แค่ไม่รู้ชื่อมันก็เท่านั้น” คนตัวบางกว่าเอ่ยแล้วหันตัวไปหยิบจับต้นไม้ที่อยู่ข้างตัวเอง
“นั่นพัฟฟาฟ็อด—มันไม่ใช่สมุนไพรหรอกนะ” ควานลินเอ่ยขึ้น ก่อนจะขำออกมาเบาๆเมื่อคนที่กำลังจะก้มหน้าลงไปดมเป็นอันต้องจิ๊ปากใส่
อาการแบบนี้เขามักจะเห็นบ่อยๆก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์บ้าๆนั่น
อาจเป็นสัญญาว่ายูซอนโฮคนเดิมกำลังกลับมาแล้ว
คนเดิมที่ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เข้าใกล้
"ฉันค่อนข้างแปลกใจที่เห็นนายใส่แว่นนะซอนโฮ"
"ทุกคนบอกกับฉันแบบนี้ทั้งนั้น มันแย่หรอ?" ซอนโฮเอ่ยถาม พร้อมดันแว่นขึ้นไปให้ตรงกับระดับสายตา ก่อนคนตัวสูงจะส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
"ตอนไม่ใส่แว่นก็น่ารัก แต่ใส่แว่นแล้วก็ดีไปอีกแบบ ฉันว่ามันก็น่ารักทั้งสองแบบที่เป็นนายนั่นแหละ" สาบานได้เลยว่าเมื่อกี้เขาเห็นว่าแก้มกลมๆของซอนโฮขึ้นสีแดงอย่างรวดเร็วด้วยความเขิน
ถึงจะเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่เขามั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด
“มัวแต่พูดมาก—เราควรแยกกันไปหานะ” ซอนโฮเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เบานัก ทำให้คนที่เดิมตามได้แต่เลิกคิ้วมอง
“ฉันไม่รู้ว่านายต้องการจะหาอะไร—“เขาว่า “อีกอย่างนะ” สิ้นเสียงเขา คนที่กำลังจะเดินไปไกลก็ชะงักตัวแล้วหันหน้ามามองด้วยใบหน้าสงสัยปนหงุดหงิด
“อะไร?”
“ฉันไม่อยากให้นายคลาดสายตา” พูดจบ คนที่เพิ่งหันกลับมา ก็รีบหมุนตัวกลับไปทางด้านหน้าแล้วเร่งฝีเท้าเพื่อเดินหนีเขาไป พร้อมกับที่ควานลินได้ยินเสียงเอ่ยบ่ยอะไรสักอย่างดังขึ้นมาแว่วๆ
เช่น
‘ไอ้หัวขโมยบ้า’
‘ไอ้ควานลินคนโง่’
เป็นต้น
น่าแปลกใจที่เขากำลังโดนคนตัวบางเอ่ยด่าอยู่แท้ๆแต่ไลควานลินกลับไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย
“นี่คืออะไร” เสียงใสที่เอ่ยถามเขาดังขึ้นหลังจากที่พวกเขาสองคนตกลงกันแล้วว่าจะแยกกันหา แต่อย่าเรียกว่าแยกเลย เพราะยูซอนโฮอยู่ถัดจากเขาไปถึงเมตรด้วยซ้ำ
ควานลินหันมองตามเรียวนิ้วที่อีกคนชี้ก่อนจะเอ่ยตอบ
“มอลโลว์สวีทน่ะ—สำหรับพวกเซนทอร์ ในป่าต้องห้ามมีอยู่หลายต้นเลย” ซอนโฮพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะอมยิ้มมองไปที่คนที่กำลังจดจ้องกับต้นไม้อยู่ไม่ไกล
“ทำไมนายถึงรู้เรื่องนี้ดีจัง? ท่าทางนายดูไม่เหมือนคนมีความรู้ทางด้านนี้เลยสักนิด” ซอนโฮเอ่ยไปตามความจริง
ใบหน้าที่ดูร้ายๆแบบนี้เนี่ยนะจะมีงานอดิเรกคือการดูพันธุ์ไม้
นึกภาพไม่ออกเลยแหะ
“ก็อืม—พื้นที่ที่บ้านฉันมันกว้าง คุณตาก็ชอบปลูกพืชด้วย เวลาฉันไม่มีอะไรทำก็เลยชอบไปช่วยคุณตาดูแล เลยรู้จักเยอะ” ควานลินเอ่ยตอบ
“แล้วนี่อ่ะ” ควานลินหันสายตามองตามอีกคนอีกครั้ง ก่อนเขาจะเบิกตากว้างอย่างตกใจแล้วรีบดึงข้อมือของซอนโฮให้เข้ามาใกล้ๆตัว
ร่างของซอนโฮถูกดึงตามแรงของคนตัวสูงจนไปชนกับอกของอีกคนอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นริ้วไปทั่วร่างกาย
“โอ๊ย!” ซอนโฮร้องอุทาน
แต่ก่อนที่เจ้าตัวจะได้หันมองคนที่เล่นอะไรบ้าๆ เถาไม้ที่เขาเพิ่งเอ่ยถามควานลินไปเมื่อกี้ก็เลื้อยวนไปอย่างน่ารังเกียจ ไม่ใช่แค่เพียงเถาไม้เส้นเดียวที่พุ่งเข้ามาหาซอนโฮแบบตอนแรก แต่ตอนนี้กลับมีเยอะราวกับงูที่กำลังเลื้อยและใกล้จะฉกเต็มที
“วิ่ง!!” ควานลินเอ่ยสั่งเสียงดัง พร้อมลากข้อมือของซอนโฮให้วิ่งหนีไปจากบริเวณนี้ เสียก่อนที่พันธุ์พืชมีพิษนั่นจะทำร้ายใครสักคน
“นายโอเคใช่ไหม” คนตัวสูงเอ่ยพูดปนกับเสียงหอบอย่างตัวโยนเมื่อพวกเขาเพิ่งจะหยุดวิ่งหนีเถาไม้ที่แสนน่ากลัวนั่น
“นั่น—มันบ้าอะไรน่ะ” ซอนโฮเอ่ยถาม
“นั่นคือ แทนทะคูเลอะมีพิษ มันชอบล่อให้คนตายใจด้วยการเลื้อยเถาวัลย์ไปใกล้ๆ และปล่อยพิษใส่ โชคดีที่มันน่าจะยังไม่โตเต็มที่เท่าไหร่ถึงได้ไม่ค่อยดุร้าย”
ซอนโฮส่ายหัวอย่างกับไม่เชื่อว่านั่นคือแบบที่ไม่ดุร้ายแล้ว
ภาพติดตาชะมัด
คืนนี้เขาจะหลับลงไหมเนี่ย
“ขอโทษนะ” ควานลินที่เงียบไปอยู่นานเอ่ยพูดขึ้นทำลายความเงียบระหว่างทั้งสองคน
ซอนโฮที่กำลังหอบหายใจอยู่ก็เงยหน้ามองคนที่เพิ่งเอ่ยพูดออกมา ร่างโปร่งจ้องเข้าไปในดวงตาที่สว่างไสวของอีกคนก่อนจะเอ่ยบ้าง
“คงไม่ได้หมายถึงเรื่องเมื่อกี้สินะ”
“ก็ทุกเรื่อง—ขอโทษที่ดูแลนายไม่ได้ ขนาดเมื่อกี้เราอยู่ห่างกันๆไม่นิดเดียวฉันยังปกป้องนายไม่ได้เลย”
“ควานลิน—“
“ฉันรู้ฉันพูดขอโทษเยอะไป แต่หากพูดแล้วมันจะทำให้นายรู้สึกดีขึ้นฉันจะพูดมันบ่อยๆ” คนที่ยืนฟังอยู่ได้แต่เบะปากใส่ด้วยความเบื่อหน่าย
พูดเป็นคำเดียวหรือไงนะ
ควานลินที่เห็นท่าทางที่ดูหงุดหงิดแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มราวกับคนมีความสุข ทั้งๆที่เมื่อกี้เพิ่งหนีมากจากพืชมีพิษด้วยซ้ำ
เขาจะลองทำตามวิธีของพี่จินอูอีกสักครั้งก็แล้วกัน
“ซอนโฮ” ร่างสูงเอ่ยเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ด้วยน้ำเสียงที่ต่อให้ฟังจากลอนดอนอายก็คงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมนั้น
ซอนโฮไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่ก็เลิกคิ้วมองแทน
“ถ้าการที่นายเดินตามหลังฉันแล้วมันทำให้นายเจ็บปวด ก็เดินออกมาเถอะ”
“...”
“เดินออกมา—มาอยู่ข้างๆฉันแทน รับรองที่ตรงข้างๆฉันมันจะทำให้นายจะมีความสุขที่สุด”
“...”
“ขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม”
“...”
“ขอโอกาสให้คนที่ชอบนายมากๆคนนี้ที”
ควานลินมองคนที่กำลังก้มหน้ามองพื้นด้วยหัวใจเต้นระส่ำ ก่อนจะได้ยินเสียงเบาๆที่แผ่วออกมาตามลม แต่กลับดังก้องไปหัวใจของเขา
“ฉันจีบยากนะ” ซอนโฮเอ่ย
“ฉันมั่นใจว่าตัวเองทำมันได้แน่ๆ” ซอนโฮหัวเราะ พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนตัวสูงตรงหน้าที่กำลังทำท่าราวกับลุ้นเอาคำตอบจากเขาอยู่
“ก็ลองดู :)”
“สุดท้ายก็ไม่ได้พืชที่ต้องการสินะ—เสียเวลาฉันจริงๆ” ซอนโฮเอ่ยพูด พร้อมกับก้าวเท้าเดินตามทางที่จะตรงกลับเข้าไปในปราสาท
ก่อนเขาจะหันสายตามองคนที่เดินอยู่ข้างๆที่กำลังกุมแก้มตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด
คงไม่ต้องเดาหรอกนะว่าหลักจากที่เขาบอกให้คนตัวสูงนี่ลองจีบแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่ใช่จูบแน่นอน
ซอนโฮไม่รู้ว่าไลควานลินเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้พุ่งมากอดเขาอย่างเต็มรักแบบไม่ทันตั้งตัว
และตามแบบฉบับคนโดนจีบ เขาก็ต้องปฏิเสธการโดนตัวถูกไหมละ
ก็นั่นแหละ
เป็นเหตุผลที่ทำให้ซอนโฮตะปบมือเข้าที่แก้มของควานลินอย่างแรงทันทีที่ร่างสูงคว้าตัวเข้าไปกอด
ถึงได้มาเดินกุมแก้มอยู่ข้างเขาแบบนี้ไง
สะใจชะมัด
“ฉันไม่รู้จริงๆว่านายจะหาพืชอะไร แต่เมื่อกี้ฉันเห็นดิตทานีอยู่ไม่ไกลจากริมทะเลสาบ และมันเป็นสมุนไพรที่มีลักษณะคล้ายแมนเดรกเลย”
“เมื่อไหร่?” ซอนโฮเอ่ยถาม
“ตั้งแต่ที่เราเข้ามาในป่า” ควานลินว่า ก่อนจะโดนสายตาอาฆาตมาจากคนข้างกาย พร้อมเสียงถอนหายใจ
“นายนี่มัน—“
“ซอนโฮๆๆๆ” ไม่ทันให้เขาได้เอ่ยอะไรต่อ ควานลินก็เอ่ยเรียกซอนโฮที่กำลังทำหน้าบึ้งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อะไร?” เขาขานตอบ
“นั่น—พี่ชายซอนโฮหรือเปล่า” ร่างโปร่งมองตามสายตาของควานลินไปเจอกับร่างของพี่ชายตัวเองที่กำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับรุ่นพี่สุดฮอตจากเดิร์มสแตรงก์
เดาจากใบหน้าก็รู้สึกได้ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะพี่คังแดเนียลไม่ได้ยิ้มหรือเอ่ยอะไรออกมาเลย
“อะไรกันน่ะ” เขาเอ่ยถาม พร้อมหันมองใบหน้าของควานลินที่กำลังแอบส่องอยู่เหมือนเขา
“ไม่รู้สิ—แต่เราไม่ควรไปยุ่งหรอก” คนตัวสูงตอบ
แต่ก่อนที่ซอนโฮจะได้เอ่ยอะไรต่อ พี่แดเนียลก็แกะแขนของพี่ซองอูที่กำลังกอบกุมไว้อยู่ออก แล้วหันหลังเดินหนีไป
นั่นสร้างความแปลกใจให้กับซอนโฮอย่างมากๆ
ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่พี่แดเนียลจะทำแบบนั้นกับพี่ชายของเขา
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันละเนี่ย
-talk-
ขอเสียงคนได้บัตรมีตพี่ยองมินหน่อยเร็ววว 555555555 วี้ดดดด
คราวนี้จะได้เจอพ่อพระเอกของเราแล้วฮือ ดีจัย ;-;
ไหนใครอยากเจอเราบ้าง จะเอาของไปแจกด้วยยย แต่ยังคิดไม่ออกลเยว่าแจกไรดี ตังไม่แจกนะคะ เพราะว่าตอนนี้ในบัญชีเหลือศูนย์บาทอย่างจริงจัง
ตอนนี้ก็เคลียร์หลินโฮแร้ววว บางคนอาจจะแบบเคลียร์ง่ายไป แต่อย่าลืมว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกันนะคะ มีเวลาให้น้องซอนโฮเล่นตัวอีกเยอะ เจ็บเยอะก็เล่นตัวเยอะ แต่อยากบอกว่าไม่กี่ต่อจะจบแล้ว เอ้ะ ทำไมมันย้อนแย้งนะ 5555555555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาๆเลยนะคะ เราดีใจที่นิยายของเราทำให้นึกถึงแฮรี่จนต้องย้อนกลับไปดู เพราะเราเป็นอีกหนึ่งคนเลยที่อินในแฮรี่มากๆ
ยังไงก็ฝากติดตามต่อไปด้วยนะคะ #MiracleMW
ปล.ขอบคุณข้อมูลเรื่องสมุนไพรจาก บทความ สมุนไพรศาสตร์ในแฮรี่ ของคุณ รัตติกาลสีม่วง ด้วยนะคะ
เลิ้บๆ ไปแร้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.ระเบิดคู่พี่ใหญ่ลงแรงมากนะคะ เกรงว่าจะทำให้คนอ่านต้องปวดจัย
เต็มอิ่มไปกับตอนนี้น่ารักฝุดๆ เขินแทนคุณยู
มาทิ้งปมกับคู่พี่คนโตอีกแล้ว เกิดอะไรขึ้น
ส่วนเนียลองน้านนนน....เห้ย!! ดราม่าอะไรอ่ะ แถมเป็นเนีลที่โกรธด้วยดิ่
ปล. ขอบคุนอ.แจซึง ไม่รู้หรอกค่ะว่าคิดอะไรถึงให้แยกคู่ตามบ้านแบบนั้น แต่แบบมันดีมาก กราบบบบบ????????????????
ส่วนแดนนี่ยังไงอะ ไปเจออะไรมา
รอติดตามอยู่นะคะ