ตอนที่ 35 : ๒๙ - แผนการที่ล้มเหลว
“ซอนโฮ”
“...”
“ซอนโฮ”
“...”
“ซอนโฮ!!!”
เฮือก!
“ห๊ะ??” คนร่างโปร่งสะดุ้งตัวเพราะเสียงเอ่ยเรียกชื่อของตัวเองดังขึ้นจากคนที่กำลังยืนค้ำหัวเขาอยู่
“เรียกเป็นชาติแล้วไม่หันเสียที เป็นอะไรไป?” ซอนโฮเงยหน้ามองพี่ชายตัวเองที่กำลังยืนขมวดคิ้วจ้องมองมาด้วยความไม่พอใจ
“ผมกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ครับ” ซอนโฮตอบ “พี่ไม่มีเรียนหรอ”
“มี—วิชาประวัติศาสตร์หน่ะ” ซองอูเอ่ยตอบไป ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตรงข้ามคนเป็นน้อง
“หรอครับ” ซอนโฮขานตอบ พร้อมเซตามองไปยังอีกฟากของสวนกลางปราสาท
“นี่ยูซอนโฮ”
“ครับ?”
“เมื่อไหร่จะเล่าให้พี่ฟังซะทีว่าเกิดอะไรขึ้น” ซองอูเอ่ยพูด เอียงหน้าไปมา ก่อนจะวางใบหน้าตัวเองลงกับฝ่ามือ
ตั้งแต่เห็นน้องชายตัวเองร้องไห้แบบนั้น องซองอูก็ไม่กล้าปล่อยให้เจ้าเจี๊ยบอยู่คนเดียวเลยสักครั้ง เอาแค่เดินวนเวียนอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง
ยิ่งไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งทำให้คนเป็นพี่ห่วงเข้าไปใหญ่
“ผม—ผมไม่อยากพูดเลย” เขาตอบ
“ไม่อยากพูดไม่ได้แล้ว อาการหนักขนาดนี้”
“เห้อ” เขาถอนหายใจออกมายาวๆ พลางพยักหน้าขึ้นลงเป็นการตอบตกลง “ผมชอบไลควานลิน”
“คนเมื่อคืนน่ะหรอ?” ซองอูเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัยเมื่อน้องชายเอ่ยชื่อใครบางคนออกมา
“อื้อ—คนนั้นแหละ”
“แล้วไงต่อ? บอกเขาไปแล้วหรอ” ซองอูเอ่ยถามต่อ
อันที่จริงซองอูไม่แปลกใจเสียเท่าไหร่ เดาได้จากท่าทางน้องชายก็พอจะรู้แล้ว ว่ายูซอนโฮต้องรู้สึกอะไรกับเด็กตัวสูงเมื่อคืนแน่ๆ
อีกอย่างซอนโฮไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องไหนเลย หากจะร้อง มันคงเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหวแน่ๆ
“บอกแล้ว” ซอนโฮว่าต่อ
“แล้ว? ไม่สมหวังหรอ”
“ไม่อ่ะ ไม่เลยสักนิด—ควานลินบอกว่าที่เขามาทำดีกับผมแค่เพราะอยากเอาชนะพี่ชายตัวเอง เขาแค่อยากชนะพนันเท่านั้น” สิ้นเสียงของเขา ซอนโฮก็เงยหน้ามองพี่ชายที่นั่งฟังอย่างตั้งใจอยู่ตรงข้ามแทบจะทันที
“แล้วไงต่อ”
“ไม่มีอะไรต่อ ผมก็แค่พยายามถอยห่างจากเขา พยายามไม่ยุ่ง แต่ที่พี่เห็นเมื่อคืน เขาตั้งใจจะมาขอโทษผม แต่มัน—มันเจ็บจนให้อภัยไม่ได้”
ก่อนสีหน้าของพี่ซองอูจะเปลี่ยน พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ซอนโฮต้องเอื้อมมือไปจับข้อแขนเล็กของอีกคนไว้
“แต่—พี่อย่าโทษควานลินนะครับ ผมผิดเองที่ไม่ระวังใจ ไปเผลอชอบทั้งๆที่ไม่ควร” ซอนโฮไม่รอให้พี่ชายตัวเองเอ่ยอะไรออกมา เขาก็รีบเอ่ยดักความคิดของอีกคนไว้ก่อน
“...”
เมื่อเห็นพี่ซองอูไม่พูดอะไร เขาก็ยิ่งร้อนใจขึ้นกว่าเดิม
“พี่ซองอู—พี่อย่าเงียบสิครับ” ซองอูหันหน้าหนีคนเป็นน้องแล้วมองออกไปอย่างใช้ความคิด
“ยังชอบอยู่ใช่ไหม” พี่ซองอูที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยถามขึ้น
“ห๊ะ?”
“กับควานลินหน่ะ—ยังชอบอยู่ใช่ไหม”
เมื่อพี่ชายตัวเองเอ่ยพูดจบ ซอนโฮไม่ได้เอ่ยตอบอะไรออกไปเลยสักนิด มีแต่สายตาที่หมองลงราวกับคนถูกจับได้
“นั่นไง—เราเป็นพี่น้องกันนะซอนโฮ พี่รู้ดีว่าแกเป็นคนยังไง” ซองอูว่า “เอาตามจริง แกก็เสียใจที่ถูกหักอกแบบนั้นใช่ไหมละ แต่พี่เชื่อเลยว่าแกยังชอบควานลินอยู่แน่ๆ ไม่งั้นแกคงไม่เอาแต่วิ่งหนีเขาแบบนี้หรอก เพราะแกกลัวว่าจะใจอ่อนให้อภัยเขาง่ายไป”
ซอนโฮหันสายตามองคนที่กำลังเอ่ยพูดด้วยความตกใจ
ใครกันเนี่ย
ทำไมพี่ชายของเขาถึงได้พูดมีสาระขนาดนี้?
“ผม—“
“เพราะแกไม่ชอบมาเล่าให้พวกพี่ฟังไงเวลามีปัญหาอะไร ชอบจัดการเองตลอด แล้วแกไม่รู้หรอกว่าแกไม่เคยจัดการปัญหานั้นได้เรียบร้อยสักที ถ้าไม่ใช่เซอุนก็พี่เนี่ยละที่ตามจัดการปัญหาของแกอยู่ลับหลัง”
“จริงหรอ?” เขาเอ่ยถามต่อ
“โคตรจริงอ่ะ—พี่เข้าใจว่าแกกำลังโตเป็นหนุ่ม คงไม่อยากเล่าอะไรให้พี่กับเซอุนฟังมากนักหรอก แต่นะ การที่มีคนช่วยแบ่งเบาปัญหา ช่วยหาทางออก มันก็ดีกว่าแบกไว้คนเดียวนะซอนโฮ”
“...”
“แล้วปัญหาของแกตอนนี้คือ แกอยากให้อภัยควานลินจนแทบบ้าแล้วใช่ไหม? แต่แค่แกรู้สึกว่ามันง่ายไป”
“นี่มันโคตรไม่ใช่พี่เลยอ่ะพี่ซองอู” ซอนโฮเอ่ยพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมาเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
คนที่เอาแต่กวนตีนเขาทำไมถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมาได้กันเนี่ย
น่าแปลกใจชะมัด
“เออ พี่เองเนี่ยแหละ”
“เป็นเพราะพี่แดเนียลหรอ? พอมีความรักแล้วดูเป็นผู้เป็นคนมีเหตุผลขึ้นเยอะเลยแหะ”
“ยูซอนโฮ!”
“ล้อเล่นครับ—ที่พี่พูดมามันก็ถูกแหละ ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถามว่าโกรธไหม ผมก็ยังโกรธอยู่นะ แต่ถ้าให้ไปโวยวายใส่ก็ไม่เอาแล้ว เหนื่อย อยากให้อภัยแล้ว แต่ผมว่าเขาควรได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้เสียหน่อย”
“ถ้างั้น พี่ขอก่อนอย่างนึง” ซองอูเอ่ยขึ้นต่อ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเขา
“ว่ามาเลยครับ” ซอนโฮขานตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“ห้ามใจอ่อนจนกว่าจะได้ยินคำสารภาพรักตกลงไหม?”
“คืออะไรอ่ะพี่ซองอู” เขาเอ่ยถามก่อนจะมองหน้าคนที่กำลังยิ้มกรุ่มกริ่มอย่างสงสัย
“พี่มีแผนดีๆมาเสนอ” ซองอูเอ่ยตอบ พร้อมกับเอ่ยกระซิบอะไรบางอย่าง
ได้เวลาสนุกแล้วสิ :)
“ซอนโฮๆๆๆ” เสียงเรียกและเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเข้าหอพักของหอพักฮัฟเฟิลพัฟ จนทำให้เจ้าของชื่อหันมองตามที่มาของเสียง
ใบหน้าตื่นๆของเพื่อนหน้ากระต่ายทำให้คนที่กำลังแอบหลับโดยการเอาหนังสือเล่มโตปิดหน้าไว้อยู่หน้าเตาผิงต้องสะดุ้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” ซอนโฮเอ่ยถาม
“ทำไมนายไม่ออกไปกินข้าวเย็นละ” ฮยองซอบเอ่ยถาม
“ฉันไม่หิวหรอก กินอะไรไม่ลง” ซอนโฮว่าตอบ พร้อมโยนหนังสือไว้บนโต๊ะข้างๆเตาผิง
“ฉันจะบอกนายดีไหมนะ” ฮยองซอบเอ่ยพูดอะไรสักอย่างที่ซอนโฮไม่ได้ยิน ก่อนเพื่อนของเขาจะเดินตรงปรี่มาหาเขา แล้วคว้ามือเขาขึ้นไปจับไว้หลวมๆ
“ฉันจะทำเป็นครั้งสุดท้าย” ฮยองซอบว่า
“หื้อ? นายพูดถึงอะไรเนี่ยฮยองซอบ ป่วยหรือเปล่า” เขาว่า ก่อนจะพยายามดึงมือตัวเองออกจากการกอบกุมเพื่อยกขึ้นมาแตะไปยังศีรษะของอีกคน
แต่ฮยองซอบก็ยังคงยื้อแขนเขาไว้ตามเดิม
“ฟังให้ดีๆนะ—ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากพี่ซองอุนที่ได้ยินมาจากพี่มุนบกที่ไปรู้มาจากชีฮยอนที่ได้ฟังมาจากอูจินอีกทีว่า ควานลินอยากเจอนาย หมอนั่นจะรอนายอยู่ที่เดิมที่นายชอบไป” ฮยองซอบร่ายยาวแบบไม่พักหายใจจนจบประโยค ซอนโฮที่ยืนฟังอยู่ได้แต่อ้าปากค้างด้วยความไม่เข้าใจ
“คือ ควานลินอยากเจอฉัน? แค่นั้นถูกไหม” ซอนโฮพยายามเอ่ยทวนจากคำพูดแสนยาวเหยียดของเพื่อนสนิท ก่อนจะได้รับแรงพยักหน้าตอบกลับมา
“แต่ฉันไม่ได้เจอควานลินหรอกนะ จริงๆ ฉันไม่เจอเขาเลย ฉันได้ยินมาจากพี่ซองอุน”
“นี่ฮยองซอบ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ทำไมถึงร้อนตัวละ”
“เปล่านะ! แค่กลัวนายจะรู้สึกไม่ดี” ฮยองซอบว่า
“เอาเถอะ ขอบใจที่มาบอกนะ—งั้นเดี๋ยวฉันมา” ซอนโฮเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มที่ดูกว้างขึ้นกว่าวันก่อนนิดหน่อย
“ไม่จำเป็นต้องไปก็ได้นะซอนโฮ ถ้านายไม่อยากไป” คนหน้ากระต่ายเอ่ยพูด พลางฉุดแขนเพื่อนตนไว้
“ครั้งสุดท้ายแล้ว—“ เขาตอบก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปยังประตูหอพัก
ฮยองซอบมองตามเพื่อนตาละห้อย ก่อนเขาจะดุ้งตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงของแขนที่พาดลงมาบนไหล่
“พี่ไปพูดเรื่องนี้ตอนไหนกันอันฮยองซอบ” ใบหน้าหวานของคนที่เขาคุ้นเคยเอ่ยถาม ก่อนจะเลิกคิ้วมองคนเป็นน้องอย่างสงสัย
“พี่ซองอุน!? มาเมื่อไหร่ครับ” ฮยองซอบเอ่ยถามพร้อมทำตาโต
“มาทันได้ยินนายอ้างชื่อพี่ว่าได้ยินเรื่องที่ควานลินอยากเจอซอนโฮอ่ะ” ซองอุนเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อะ—แหะๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ควานลินนี่ใช่คนเดียวกับที่นายยืนคุยอยู่หน้าหอเมื่อกี้หรือเปล่า” คนเป็นพี่เอ่ยถาม
“ชะ—ใช่ครับ”
“งั้นทำไมไม่บอกไปละว่าหมอนั้นยืนรออยู่หน้าหอตั้งนาน”
“โหพี่ซองอูครับ พูดแบบนั้นซอนโฮต้องใจอ่อนแน่ๆ เพื่อนผมต้องใจแข็งแกร่งดั่งฮิปโปกริฟฟ์สิ”
“เออ—พอเรื่องตัวเองแฮปปี้แล้วก็มาวุ่นวายเรื่องคนอื่นเขาเนอะเรา” ซองอุนเอ่ยอีกครั้ง พร้อมกับดันหัวคนหน้ากระต่ายให้ไปห่างตัว
“โหพี่ซองอุนครับ” ฮยองซอบอ่ยอีกครั้ง พร้อมกับเบะปากใส่อีกคน
“แต่เรื่องความรักอ่ะฮยองซอบ มันเป็นเรื่องของคนสองคน พอมีคนที่สามเข้ามาไม่ว่าจะในฐานะไหน มันไม่สนุกหรอกจำไว้เลย” พูดจบ เจ้าตัวก็ผละตัวออกไป เดินก้าวบันไดขึ้นไปยังฝั่งหอพักชายของฮัฟเฟิลพัฟ
ทิ้งให้ฮยองซอบมองตามหลังอย่างงงๆ
ซอนโฮก้าวเท้าเดินไปตามทางอย่างไม่รีบร้อน เขาเดินผ่านเด็กนักเรียนหลากหลายบ้านที่เพิ่งเดินกลับมาจากการรับประทานอาหารค่ำในห้องโถงใหญ่
ส่วนใหญ่ก็หันสายตามามองเขาด้วยความสงสัย แล้วหันไปเอ่ยพูดกับเพื่อนตัวเอง
เออ
แปลกดีจริง
ไม่รู้ว่าพูดเรื่องของเขาอยู่หรือเปล่า
แต่การหันมามองหน้าเขาแล้วหันกลับไปซุบซิบเนี่ยนะ มันไม่แย่ไปหน่อยหรอ
แต่ช่างมัน
เขาไม่ได้หายใจอยู่ได้เพราะพวกนั้นเสียหน่อย สนใจทำไมกัน
ซอนโฮหลุดออกจากภวังค์พอดีกับที่เขาเดินมาจนถึงทางลงที่จะนำเขาไปสู่ที่ประจำของเขาเวลาที่ไม่สบายใจ
ห้องครัวของฮอกวอตส์
ซอนโฮสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะผ่อนออกมายาวๆ แล้วก้าวเดินลงไปตามที่บันไดนำทาง
ถึงแม้ว่าเวลาจะค่ำแล้วก็ตามที แต่การที่ห้องครัวของฮอกวอตส์อยู่ด้านในของตัวประสาท ลึกพอๆกับคุกใต้ดินและหอพักของสลิธีริน ทำให้แสงไม่ค่อยมีผลเสียเท่าไหร่กับที่นี้
เมื่อซอนโฮก้าวเท้าลงถึงพื้นทางเรียบได้แล้ว แสงไฟรำไรๆช่วยให้เขามองเห็นร่างสูงที่กำลังนั่งยองๆกอดเข่าตัวเองอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตูห้องครัว
ซอนโฮพยายามทำใจไม่ให้รู้สึกเมื่อเจ้าของร่างที่กำลังนั่งอยู่นั่นเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“ซอนโฮ—“ ควานลินเอ่ยเรียกชื่อเขาเบาๆ ราวกับว่าเจ้าตัวแปลกใจที่เจอเขา
“อืม ฉันเอง” ซอนโอเอ่ยตอบไป
ก่อนไลควานลินจะยืดตัวขึ้นเต็มความสูง พลางก้าวเดินมาหาเขาใกล้ๆ
จุดที่ซอนโฮยืนอยู่ค่อนข้างจะมีแสงสว่างมากพอที่จะมองเห็นใบหน้าโทรมๆของอีกคนได้
ให้ตายเถอะ
ต้องหลับตาไหมเนี่ย
ใบหน้าของควานลินนั้นแตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ขอบตาของอีกคนดูคล้ำมากกว่าเดิมบวกด้วยสภาพโดยรวมที่ดูแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด
นั่นทำให้ซอนโฮใจสั่น เพราะกลัวจะเผลอแสดงท่าทีใจอ่อนใส่อีกคนไป
แผนต้องเป็แผนสิ
นายจะทำแผนล่มไม่ได้นะยูซอนโฮ
เขาคิด ก่อนจะพยายามหันหน้าหนีไม่สายตาของคนตัวสูงที่มองมา แล้วเอ่ยพูด
“รีบพูดเถอะ ใกล้จะถึงเวลาเข้าหอแล้ว”
“ขอโทษ—“
ซอนโฮถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ
“นี่—พูดเยอะไม่เบื่อบ้างหรอ? ถ้าจะเรียกมาเพื่อเอ่ยขอโทษแค่นี้ งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ” เขาว่า ก่อนจะทำท่าหันหลังให้กับอีกคน
แต่ภายในใจเขาเต้นแรงจนแทบระเบิด
แต่ก่อนที่ซอนโฮจะได้ก้าวเดินไปไหนไกล ก็มีเสียงขยับเขื่อนร่างกายบางอย่างจากคนด้านหลัง นั่นเรียกให้ซอนโฮหันไปมองโดยทันที
เขาเบิกตาออกกว้าง เมื่อหันไปเห็นไลควานลินที่กำลังทำเรื่องบ้าๆอยู่
บ้ามาก
หมอนั้นต้องบ้าไปแล้ว
ทำไมถึงต้องคุกเข่าแบบนั้น
ใช่
ไลควานลินกำลังคุกเข่าขอโทษเขาอยู่
“ขอโทษ” ควานลินพูด พร้อมกับก้มตัวลงคุกเข่าให้คนที่กำลังจะหันหลังเดินหนีไป
ซอนโฮแทบจะเอ่ยบอกให้อีกคนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยยกโทษให้ถ้าไม่ติดที่ว่า คำๆนั้นที่ควานลินกำลังพูดอยู่ยังไม่ใช่ที่เขาต้องการ
“ไลควานลิน—นายไม่ควรจะทำแบบนี้นะ นายไม่ควรจะคุกเข่าให้ใครง่ายๆ” เขาเอ่ยพูดตามความเป็นจริง
“ถ้าทำแล้วนายจะให้อภัยฉัน ฉันยอมทำทุกอย่าง” ควานลินเอ่ยตอบ พลางเงยสายตาขึ้นมาสบกับเขาที่กำลังมองอีกคนอยู่เช่นเดียวกัน
แย่แล้ว
เขากำลังจะใจอ่อน
ซอนโฮรีบหันสายตาหลับทันทีที่คิดได้ แล้วค่อยๆเลื่อนตัวเข้าไปใกล้อีกคน
“ลุกเถอะ—“ ซอนโฮเอ่ยพูด ก่อนจะสะกิดที่ไหล่กว้างของอีกคน
“ซอนโฮ”
“ฉันให้อภัยแล้ว” เขาว่าอีกครั้ง พลางหันสายตาหนีเมื่อคนที่กำลังคุกเข่าอยู่เมื่อกี้ก็หันหน้ามอง พร้อมยกยิ้มด้วยความดีใจ
“จริงหรอ!? พูดจริงใช่ไหม” ควานลินเอ่ยถาม
“อื้อ—ให้อภัยแล้ว”
“เยส!” ควานลินร้องออกมาเสียงดังก่อนเจ้าตัวจะหยุดขยับตัวแล้ว หุบยิ้มโดยฉับพลันเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาเอ่ยต่อ
“แต่—นายต้องเลิกพยายามได้แล้ว ฉันให้อภัยนายแล้ว เราไม่มีเรื่องบาดหมางกันแล้ว เราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”
“เหมือนเดิม?” คนตัวสูงเอ่ยทวน
“คนไม่รู้จักกันไง อย่าลืมว่าตอนแรกเราไม่รู้จักกันเลยนะควานลิน” ซอนโฮพูดขึ้นอีกครั้ง
“แต่ว่า—“
“ฉันให้อภัยนายได้ แต่ฉันจะไม่มีวันกลับไปยืนอยู่ตรงที่เคยทำให้ฉันเจ็บปวดอีกเป็นอันขาด” คนร่างโปร่งเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มที่ควานลินไม่เห็นมันมานานแล้ว
แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงได้รู้สึกว่ารอยยิ้มของอีกคนมันไม่สวยเลยนะ
“เข้าใจฉันหน่อยนะควานลิน” ซอนโฮว่า “ได้โปรด ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักฉันเหมือนเดิมที” คำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาจากคนตรงหน้ามันเหมือนกลับการย้อนเรื่องของเมื่อคืนบนเรือไม่มีผิด
แต่แตกต่างกันตรงที่คราวนี้ เขาดันไม่เห็นหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยนั่นอีกแล้ว และท่าทางของซอนโฮก็ดูเหมือนกับคนที่พร้อมจะก้าวหนีเขาไป
ราวกับว่า อีกคนไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว
ทำไมกัน ทั้งๆที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่ารู้สึก
แต่ซอนโฮกลับเลิกรู้สึกไปแล้วงั้นหรอ
ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“ถ้าแบบนั้นมันจะทำนายมีความสุขขึ้น—ก็ได้ ฉันจะเลิกมายุ่งวุ่นวายกับนาย” ควานลินเอ่ยพูดด้วยท่าทางราวกับคนที่กำลังหมดแรง
ก่อนคนตัวสูงจะเอื้อมมือไปที่กระเปาผ้าคลุมสลิธีรินของตัวเอง แล้วหยิบอะไรบางอย่างมาตรงหน้าของซอนโฮ
ขนมปังหลากหลายรูปร่าง ขนาด และสีสันที่ถูกห่อมาอย่างดีถูกยื่นไปที่หน้าของอีกคน
“ฉันไม่เห็นนายอยู่ที่ห้องโถงตอนทานมื้อค่ำ—ฉันคิดว่านายต้องหิวแน่ๆ เลยห่อมันมาฝาก”
“...”
“นายจะเอาไปโยนทิ้งก็ได้นะ แต่แค่รับมันเอาไว้ก่อน ให้ฉันมั่นใจว่านายจะได้กินมัน” ควานลินเอ่ยร่ายยาว ก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนที่เพิ่งรับขนมปังจากเขาไป
“...” ซอนโฮไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมา แล้วก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาด้วย
ให้ตาย
นี่มันเจ็บชะมัด
“งั้น—ฉันกลับหอก่อนนะ นายก็รีบกลับละ เดี๋ยวจะโดนพรีเฟ็คดุเอาได้นะ”
“ควานลิน—“ อีกฝ่ายเรียกชื่อของเขาออกมา ก่อนควานลินจะพยักหน้าเป็นรับรู้
“โอเค ฉันคงพูดมากไป—ไปนะ” พูดจบ คนตัวสูงก็เดินผ่านร่างของอีกคนไปอย่างรวดเร็วทันที โดยไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามองอีกคนเลยสักนิด
ซอนโฮมองตามร่างสูงของควานลินไปจนอีกคนเดินไปจนสุดทาง พร้อมกับตะกองกอดขนมปังของควานลินไว้แน่น
พี่ซองอู
แผนของพี่มันโคตรห่วย
แบบนี้มัน—
ทำผมเจ็บยิ่งกว่าเดิมซะอีก
-talk-
ไหนใครบอกฟิคเราดราม่ากัน ไม่จริ๊ง 55555555
ไม่อยากดราม่านานเลยปวดจุย สาบานว่าจะไม่ดราม่าแร้ว /แอบไขว้นิ้ว
วันนี้ผังคอนพี่ยองมินออกแหละ ไหนขอเสียงคนไปหน่อยเร็วววว ไปเจอกันอีกๆนะ ถ้ากดบัตรได้ อาจจะเอาของไปแจกด้วย กรี้ด
คราวนี้อาจไปอโลน หาเพื่อนไป ใครอยู่แถวๆปากเกร็ดแล้วไปมีตมาจอยกันหน่อย ไม่มีเพื่อนเด้อ ;-; /กราบ เราไม่กัดนะ 555555555
ไว้เจอกันนะคะ เลิ้บๆ วันนี้ไปนอนแร้ว
ฝันดีคังแดเนียลรอบเตียง แอร้ย จุ้บ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อย่าลืมว่านางเป็นเพื่อนอิมยองมิน แม่หวังว่าก็คงจะร้ายไม่แพ้กัน แต่ก็เฮ้อออ แต่ก็เป็นแผนขององซองอูอ่ะ ไม่รู้จะรอดมั้ย555555 /โดนโบก
แต่นี่แอบชอบแผนนี้ ยากๆแบบนี้แหล่ะพรี่ชอบ!
แต่ถ้าจำไม่ผิดเหมือนควานลินจะอ่านใจได้ไม่ใช่เหรอ /หรือจำผิด55555 ไม่ใช่ว่านางรู้แผนการอยู่แล้วเลยเล่นไปตามน้ำหรอกนะ
ควานลินก็รักน้องเหลือเกิน รักจนยอมปล่อยน้อง ยอมทุกอย่างให้น้องมีความสุข
ซอนโฮก็เออออห่อหมกตามพี่ชายไป แผนพี่ชายเธอมันได้เรื่องไหมอ่ะ 555555
พี่ซองอูนี่ก็นะ แหม พอรักตัวเองราบรื่นก็ขยันป่วนคู่อื่นจีๆ ต้องให้คุณแดนจัดการ
ควานลินก็ยอมแพ้ง่ายไป สงน้องซอนโฮ
ฮือออออออออออ
แงงงง ขอควานหวานให้หลินโฮ เท่ากับที่น้องเสียน้ำตาไปทีนะคะไรต์ต์ต์ ฮืออออ