ตอนที่ 30 : ๒๕ - กระจกสะท้อนใจ
บทที่ ๒๕
_______________________________________________________________________________________________________
Note – อ่านด้านของซอนโฮไปก็แล้ว ด้านจีฮุนก็แล้ว มาลองอ่านพาร์ทของควานลินกันบ้างนะคะ J
ควานลินสอดสายตามองไปทั่วสนามควิดดิชที่ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นสนามแข่งสำหรับการประลองเวทย์ภารกิจที่สาม คนตัวสูงมองไปยังที่นั่งสำหรับคนดูแต่ละที่อย่างใจเย็น พร้อมกับใช้คาถาอ่านใจไปด้วย
แต่สิ่งที่เขาได้มากลับมีเพียงความว่างเปล่า
ไม่มียูซอนโฮ
อันที่จริงเขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเสียเท่าไหร่ ว่าทำไมการที่เขาไม่ได้เจอหน้าซอนโฮมาหลายวันมันทำให้เขารู้สึกวุ่นวายในใจแบบแปลกๆ
ทั้งๆที่เป็นคนไล่อีกคนไปแท้ๆ
ทำไมตอนนี้ถึงเอาแต่มองหากันนะ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
“มึงคิดว่าใครจะชนะวะควานลิน?” ซังกยุนที่นั่งอยู่ข้างกันเอ่ยถามขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะหันหน้ามาทางเขา
“ไม่รู้สิ เดิร์มสแตรงก์มั้ง คังแดเนียลน่าจะทำได้ดีในภารกิจนี้”
“แต่กูว่า—ฮวังมินฮยอนก็ไม่เลวนะ เขาอาจจะนำชัยในภารกิจนี้ก็ได้” ซังกยุนเอ่ยตอบ
“หรอ” ควานลินส่งเสียงเอ่ยอย่างไม่ดังนัก พลางส่งสายตามองไปที่เขาวงกตอย่างเหม่อลอย
“เออ ว่าแต่มึงเป็นอะไรป่าววะ ช่วงนี้หน้าตาดูไม่สดใส” คนข้างกายเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง เรียกให้เขาละจากภาพตรงหน้าหันมองคนถาม
“กูดูเป็นอย่างนั้นหรอ?” ควานลินเอ่ยถามซ้ำ
“มาก เหมือนคนอกหักอะไรแบบเนี้ย กูเคยเห็นพวกนักเรียนหญิงเวลาอกหักแล้วหน้าตาแบบเดียวกับมึงเลย”
“พูดซะกูดูสาวเลย”
“เอาจริงๆนะเว้ย—กูไม่รู้หรอกมึงเป็นอะไร แต่กูไม่ชอบเห็นเพื่อนเศร้าว่ะ ไออูจินมันก็สมหวัง หนีเราไปนั่งกับแฟนแล้ว มึงก็ควรทำให้ได้แบบมันบ้าง” ซังกยุนเอ่ยพูด “—ความรักมันไม่ใช่เรื่องยากนะเว้ยควานลิน แค่ทำตามใจมึงก็พอ เรื่องอื่นช่างแม่ง”
“พูดเหมือนมึงรู้อะไร” ควานลินเอ่ยถาม
“กูหรอ? กูรู้อะไรที่ไหนละ กูก็จำมาจากนิยายที่จัสตินให้กูอ่านอ่ะ” ซังกยุนตอบ พร้อมส่งยิ้มเพ้อฝันมาให้เขาเมื่อนึกถึงเด็กเรเวนคลอหัวเหลืองที่มันชอบไปตามตูดเขาต้อยๆอยู่หลายเดือน
ถึงมันจะดูบ้าๆแบบนี้
แต่พอมีความรักก็จริงจังใช่เล่น
เขาละยอมแพ้เลย
“มึงจะกลับหอเลยใช่ไหม?”
“เออ กูง่วงจะแย่” ควานลินเอ่ยตอบปาร์คอูจิน หลังจากที่การประลองภารกิจที่สามจบแล้ว ซังกยุนก็รีบพาร่างของตัวเองตรงปรี่ไปหากลุ่มนักเรียนสีน้ำเงินอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เขาต้องเดินมาหาไอเขี้ยวคนเดียว
ก่อนควานลินจะหันสายตาไปมองคนที่กำลังจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยสายตาที่หากเป็นมีดหรือดาบคงฟันเขาคอขาดไปแล้ว
“นายควรเลิกมองฉันแบบนั้นได้แล้วฮยองซอบ ฉันกลัว”
“ฉันจะไม่เลิก จนกว่าเพื่อนฉันจะหายเสียใจ” พูดจบ เจ้าตัวก็สะบัดหน้าแล้วหมุนตัวเดินไปอีกทาง ทิ้งให้เขาและอูจินต้องมองหน้ากันอย่างปลงๆ
“งั้นกลับหอดีๆละมึง กูไปส่งฮยองซอบที่หอก่อน” อูจินว่าขึ้นอีกครั้ง
“เออๆ” ควานลินเอ่ยตอบไป ก่อนไอเขี้ยวมันจะวิ่งตามทางที่ฮยองซอบเดินหนีไป
ควานลินจึงเลือกที่จะหันหลังเดินไปอีกทางที่จะนำเขาไปสู่หอพักของสลิธีรินที่อยู่บริเวณคุกใต้ดินได้
ปราสาทฮอกวอตส์โดยรอบยังคงมีนักเรียนเดินเตร็ดเตร่อยู่หลายคน บางส่วนก็ยังคงพูดคุยเรื่องภารกิจที่เพิ่งผ่านไปไม่จบ เลยไม่คิดที่จะเดินแยกกลับไปที่หอพักตนเอง
อย่างที่ซังกยุนมันคิด
ฮอกวอตส์ชนะ ถึงคนที่กลับออกมาจากเขาวงกตได้จะมีถึงสองคน แต่ตัวแทนของฮอกวอตส์เป็นคนที่ถือถ้วยอัคนีเอาไว้
สภาพหมอนั้นดูไม่จืดสักนิด แผลสดเต็มตัว เสื้อผ้าขาดวิ่นจนน่ากลัว
และเมื่อร่างของฮวังมินฮยอนและคังแดเนียลโผล่มากลางสนามพร้อมถ้วยอัคนี คนที่ตรงปรี่เข้าไปหากลับไม่ใช่ศาสตราจารย์ซอฮยอนหรือพวกคณะอาจารย์
แต่กลับเป็นร่างสูงๆของใครสักคนจากเรเวนคลอที่เขารู้สึกคุ้นหน้าอยู่หน่อยๆ และองซองอู ปีห้ากริฟฟินดอร์พี่ชายของซอนโฮ ที่ต่างรีบเข้าไปหาทั้งคู่
พร้อมกับดูแลอย่างดีจนคนที่อยู่บนที่นั่งได้แต่มองด้วยความอิจฉา หรือบางทีอาจจะมีเขาเพียงคนเดียวก็ได้ที่รู้สึกอิจฉา
ควานลินก้าวเท้าเดินไปตามทางอย่างไม่รีบร้อนด้วยความรู้สึกปั่นป่วนในอก เขามองไปยังนักเรียนชายสองคนที่เดินสวนมาด้วยความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาบนอกกว้าง
ใบหน้าของคนหนึ่งอมยิ้ม พลางจิ้มนิ้วไปที่บริเวณแก้มของอีกคนอย่างสนุกสนาน
อีกคนก็เอาแต่ปัดมือที่กำลังจิ้มแก้มตนอยู่ทิ้ง แต่ไม่วายที่จะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่
ทำไมพวกเขาถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้นกันนะ?
แล้วต้องทำยังไงไลควานลินถึงจะยิ้มได้อย่างมีความสุขแบบนั้นบ้าง
เขาหัวเราะแบบไร้เสียงพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างหน่ายใจกับตัวเอง ก่อนคนตัวสูงจะเดินผ่านผนังที่คั่นอยู่ระหว่างห้องเรียนที่เป็นพื้นที่โล่งและว่างเปล่าที่เขาคุ้นเคย เพราะการจะไปที่หอพักของสลิธีรินได้นั้นเขาต้องผ่านทางนี้อยู่เป็นประจำ
แต่ก่อนที่ควานลินจะได้เดินไปไหนไกล ผนังที่เคยว่างเปล่ากับมีเสียงของการขยับเขยื้อนไปมาพร้อมกับหินอ่อนบนผนังก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างไป ตามด้วยพื้นที่ว่างเปล่าที่มีลวดลายนูนขึ้นมา ไม่นานนัก พื้นที่โล่งตรงนั้นมันก็กลายเป็นประตูทรงโค้งบานใหญ่สีดำ
ควานลินมองไปรอบๆอย่างสงสัย ก่อนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้
นี่คือ ห้องต้องประสงค์
หรืออีกดชื่อคือ ห้องมาและไป ที่นักเรียนฮอกวอตส์คนอื่นชอบเรียกกัน
เท่าที่เคยได้ยินเพื่อนจากบ้านเดียวกันบอกมา มันคือห้องที่จะโผล่ขึ้นมาเมื่อผู้ใช้ต้องการที่จะให้งานมัน
แต่ทำไมมันถึงได้โผล่ขึ้นมาตอนนี้กันละ? เขาไม่ต้องการใช้มันเสียหน่อย
ควานลินหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่พบใคร เขาจึงเลิกคิ้วมองบานประตูด้วยความฉงน ก่อนอะไรบางอย่างจะฉุดให้เขาเดินไปใกล้ๆกับประตู พร้อมกับที่เขาเอื้อมมือไปผลักประตูบานใหญ่ออก แล้วแทรกตัวเขาไปด้านในในเวลาไล่เรี่ยกัน
ทันทีที่ประตูปิดลง แสงไฟภายในห้องกูลุกโชนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ราวกับว่ามันกำลังรอเขาอยู่
และเพราะแสงที่สว่างขึ้นมา ทำให้เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างในห้องได้ชัดเจน
ภายในห้องต้องประสงค์เหมือนกับห้องเก็บอะไรสักอย่าง ที่มีหน้าตาเหมือนกับกองขยะมากกว่า เพราะมีของมากมายที่กองอยู่เป็นภูเขา แถมก็ไม่ใช่แค่กองเดียวด้วย มีมากมายจนมองไปสุดลูกหูลูกตา
แต่นั่นก็ไม่ทำให้เขาหายสงสัยได้
ว่าทำไมอยู่ๆห้องต้องประสงค์ถึงได้ปรากฏมาตรงหน้าเขาได้
ไม่รอช้า ควานลินเดินวนสำรวจรอบบริเวณที่เขายืนอยู่อย่างไม่รีบร้อน โต๊ะเก้าอี้หรือโซฟาหลากหลายอันก็ถูกกองรวมกันอยู่ พร้อมไม้กวาดที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น และของเล่นของใช้ของพ่อมดแม่มดมี่มากมายที่กองรวมกันไว้อยู่
นั่นยังไม่นับร่วมตู้ทรงประหลาดมากมายที่ทำให้เขารู้สึกอย่างจะเปิดออกดู ถ้าไม่เกรงว่าเขาอาจจะไม่ได้ออกไปจากห้องนี้หากเปิดมัน
ควานลินเดินลัดเลาะไปทั่วพร้อมกับสอดสายตามองไปรอบๆพื่อหาคำตอบให้กับความสงสัยของตัวเอง
เดินออกไปจุดเดิมได้ไม่ไกล ใบหน้าคมก็เหลือบมองเห็นอะไรบางอย่างที่ถูกผ้าคลุมสีแดงอันใหญ่คลุมปิดไว้อยู่ ขนาดของมันก็ใหญ่และสูงกว่าเขาเสียอีก
เขาเดินตรงหามันด้วยความสงสัยก่อนจะล้วงเอาไม้กายสิทธิ์ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาถือไว้ มืออีกข้างก็เอื้อมไปกระชากผ้าคลุมสีแดงให้หลุดร่วงลง
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของเขาคือกระจกวงรีบานใหญ่ที่มันกำลังสะท้อนใบหน้าของเขาอยู่
ควานลินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนเขาจะเดินเข้าไปดูใบหน้าตัวเองในกระจกใกล้ๆ
“ให้ตายเถอะ มึงโทรมชะมัด” ควานลินเอ่ยพูดกับตัวเองด้วยเสียงไม่เบานัก พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าขาวของตัวเองไปมา
ก่อนเขาจะต้องนิ่งค้างไปเมื่อสิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจกนอกเหนือจากเขาคือร่างของบางคนที่เขาไม่อยากปฏิเสธเลยว่าคือคนที่ทำให้เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
“ซอนโฮ—“ ควานลินเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยเสียงสั่นๆ ก่อนเจ้าตัวจะหันหลังเพื่อจะได้มองมาใหม่ได้อย่างชัดเจน
แต่เมื่อหันกลับมาแล้ว สิ่งที่เขาพบมีแต่เพียงความว่างเปล่า
ซอนโฮไม่ได้อยู่ด้านหลังของเขา
ควานลินเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ เพราะเมื่อเขาหันกลับมามองที่กระจกอีกครั้ง คนที่ยืนอยู่ด่านหลังของเขาก็ยังคงเป็นซอนโฮเหมือนเดิม
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
ทำไมเขาเห็นซอนโฮได้เพียงมองกระจกเท่านั้นละ?
“นาย—ทำไมนายอยู่ในกระจก?” ควานลินเอ่ยถาม ก่อนคนที่สะท้อนอยู่บนกระจกจะอมยิ้มแล้วมองมาเขา และไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่กลับเลื่อนตัวเขามาใกล้เขามาขึ้น แล้วยกแขนเล็กขึ้นมากอดไปที่เอวสอบของเขาอย่างแนบแน่น
ควานลินยืนตัวเกร็งแบบคนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเขาถูกซอนโฮที่อยู่ในกระจกกอด แต่ความจริงคือเขารู้สึกดีใจไม่น้อยที่อีกคนทำแบบนี้ แม้เขาจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกที่ถูกกอดได้ แต่แค่เพียงมองแขนที่แสนบอบบางของซอนโฮที่กำลังสวมกอดเอวของคนตัวสูงอยู่ ความรู้สึกข้างในควานลินก็ราวกับถูกปลดปล่อยออก
ในความคิดของเขาในตอนนี้ หากมันเป็นความจริง เขาอาจจะมีความสุขมากเสียจนอยากเก็บมันไว้ตลอดไป
“ทำไงดีวะ—กูไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย” เขาเอ่ยพูดอีกครั้ง แต่คนที่กำลังกอดเขาอยู่ไม่ได้เอ่ยตอบมาเช่นเดิม เอาแต่ส่งรอยยิ้มแสนน่ารักมาให้เขา
“กู—กูแค่อยากจะรัก แต่กูทำไม่ได้”
“...”
“มึงไม่มีทางทนคนแบบกูได้หรอก—ซอนโฮ” ควานลินว่าอีกครั้ง ก่อนจะยกแขนที่เขารู้สึกว่ามันหนักกว่าทุกครั้งขึ้นมาช้าๆ พลางเลื่อนแขนไปวางทับกับมือของคนตัวเล็กกว่าที่กำลังสะท้อนภาพที่กำลังกอดตัวเขาอยู่
คนตัวสูงทำเหมือนกับภาพที่อยู่ในกระจกคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เขาเอาแต่ลูบท้องตัวเองไปมา ให้เหมือนกับว่าเขากำลังลูบเนื้อแขนอีกคนอยู่เช่นกัน
“กูขอโทษ” เสียงพูดของคนตัวสูงเริ่มจะขาดห้วง เมื่อก้อนสะอึกค่อยๆดันขึ้นมาสู่ลำคอเขา ทำให้หายใจได้อย่างยากเย็น
“กูแค่อยากขอโอกาส—อีกสักครั้ง ให้กูได้แก้ตัว”
“...”
“ซอนโฮ—“
“เรียกไปก็เท่านั้น ไม่มีทางที่หมอนั้นมันจะตอบหรอกนะควานลิน” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา พร้อมกับร่างของคนตัวเล็กที่เดินมาหาเขาจากทางด้านหลัง
แปลก
ในเงากระจกสะท้อนไม่มีร่างของปาร์คจีฮุน
ทำไมกัน?
“หมายความว่าไงจีฮุน แล้วทำไมในกระจกถึงไม่มีเงาของนาย?” ควานลินเอ่ยถาม แต่เขาไม่ได้ละสายตาออกจากกระจกบานใหญ่แม้แต่วินาทีเดียว เพราะเขากลัวว่าหากละสายตาไป ภาพของซอนโฮอาจจะจางหายไป
“นี่มันคือ กระจกเงาแห่งแอริเซด ไงละ” คนมาใหม่เอ่ยตอบ
“กระจกเงาแห่งแอริเซด?” ควานลินเอ่ยถามทวนอีกครั้ง “มันคืออะไร”
“ให้ตายเถอะ—ควานลินควรเลิกหลับในวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนต์สักทีนะ” จีฮุนว่าพร้อมถอนหายใจออกมา
ควานลินแทบไม่ได้สนใจสิ่งที่จีฮุนพูดเลย เพราะเขามัวแต่มองจ้องใบหน้าของคนในกระจกด้วยรอยยิ้มกว้าง จนทำให้คนที่ยืนมองอยู่ด้านหลังชะงักด้วยความแปลกใจ
ไลควานลินกำลังยิ้มอยู่งั้นหรอ?
จีฮุนเบิกตามองอีกคนด้วยความตกใจ
นี่เขาไม่เห็นควานลินยิ้มกว้างแบบนี้มานานแค่ไหนกันแล้วนะ อาจจะสอง หรือ สาม ปี
ยูซอนโฮคือคนที่ทำให้ควานลินกลับมายิ้มได้อีกครั้งหรอ
“ควานลิน—ควานลินจะสัญญากับเราไหมว่าควานลินจะไม่ทำยูซอนโฮเสียใจอีกเป็นครั้งที่สอง” จีฮุนเอ่ยพูด พร้อมกับจับไหล่หนาๆของอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา
นี่ปาร์คจีฮุนไม่ได้จะใจอ่อนอะไรหรอกนะ
แค่เห็นความรู้สึกผิดที่ออกมาจากน้ำเสียงของไลควานลินเท่านั้นแหละ
ใบหน้าของควานลินติดจะหงุดหงิดอยู่เมื่อถูกบังคับให้หันหลังกลับไปมองอีกคน ก่อนที่คำพูดของจีฮุนจะทำให้เขาหยุดชะงัก
สัญญางั้นหรอ?
“ถ้าเราสัญญาแล้วจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เราจะไม่เพียงแค่สัญญา แต่จะทำให้เห็น” ควานลินเอ่ยตอบด้วยใบหน้าที่ดูดีขึ้น
จีฮุนมองใบหน้าขาวๆนั่นด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ พร้อมถอนหายใจออกมา
“เราจะบอกควานลินอะไรบางอย่าง ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะช่วยให้ควานลินฉลาดขึ้นบ้างหรือเปล่า แต่—กระจกนั่น คือ กระจกวิเศษที่สามารถมองเห็นสิ่งที่เราปรารถนาอยู่ในใจ แม้อยู่ลึกสุดของขั้วหัวใจ” จีฮุนเอ่ยต่อ ก่อนคนตัวสูงจะละสายตาจากคนตรงหน้าหันไปมองที่กระจกอีกครั้ง ก็มีใบหน้าของซอนโฮกำลังส่งยิ้มให้เขาอยู่อย่างมีความสุข
“หมายความสิ่งที่เรามองเห็นในกระจกนี้ คือสิ่งที่เราต้องการให้มันเกิดขึ้นใช่ไหม” เขาเอ่ยถาม
จีฮุนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ
“เราคิดว่าควานลินอาจจะกำลังสับสน แต่พอควานลินเห็นสิ่งที่กระจกสะท้อนสิ่งที่อยู่ในใจนายออกมา แล้วไม่เห็นเราอยู่ในกระจก เพราะในใจของควานลินไม่ได้ต้องการเราไง ควานลินจะได้รู้ตัวสักทีว่าสิ่งที่ควานลินรู้สึกกับซอนโฮ มันมากกว่าคนที่เป็นหมากในการพนัน—และกระจกไม่เคยโกหก” คนตัวเล็กว่าต่อ “แต่ละคนมองเห็นไม่เหมือนกันหรอกนะ แต่จากที่เราได้ยินเสียงควานลินเรียกหาซอนโฮ เราก็เดาได้แล้วละว่าคนที่ควานลินมองเห็นคือเขาสินะ” ควานลินพยักหน้าเป็นคำตอบ
“ใช่—เรามองเห็นซอนโฮ แค่ซอนโฮ”
“ถ้างั้นรออะไรอยู่ละ? ในเมื่อกระจกสะท้อนสิ่งที่หัวใจควานลินต้องการ ทำไมถึงยังจะมายืนโง่อยู่นี่ละ” จีฮุนเอ่ยพูดเสียงดัง ก่อนจะทุบไปที่หลังของคนตัวสูงจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้อง
น่าแปลกที่คราวนี้ควานลินไม่ได้เอ่ยโวยวายให้อีกคน แต่กลับหันมาส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาแบบที่จีฮุนชอบ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
จีฮุนหันมองตามหลังกว้างของอีกคนไปด้วยรอยยิ้ม หากสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้หาไลควานลินเจอ
เอาตามจริงคือ เขายังคงเฝ้ามองดูความเป็นไปของชีวิตไลความลินอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไร หากคนตัวสูงทำมันที่นอกหอพักของสลิธีริน ก็จะอยู่ในสายตาปาร์คจีฮุนอยู่ตลอด
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
เขาตามอีกคนเขามาในนี้ ก่อนจะได้ยินน้ำเสียงที่เจ็บปวดของคนตัวสูงที่เอ่ยออกมา นั่นทำให้ปาร์คจีฮุนใจอ่อนอย่างช่วยไม่ได้
หวังว่าเรื่องมันจะจบเร็วๆนี้นะ
จะว่าเขาอาจจะใจดีเกินไปก็ได้ แต่สิ่งที่ควานลินเจอ และ สิ่งที่ซอนโฮเจอ ต่างเป็นสิ่งที่เจ็บปวดไม่แพ้กันเลย
ทั้งคู่ต่างน่าสงสารจนเขาทำใจแข็งไม่ได้แล้ว
คล้อยหลังควานลินเดินออกไปไม่นาน จีฮุนก็ก้มลงหยิบผ้าคลุมสีแดงที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา พลางเงยหน้ามองสิ่งที่ถูกจารึกไว้อยู่บนกระจกวิเศษบานใหญ่นี้
Erised Stra ehru oyt ube cafru oyt on wohsi
‘คุณจะมิได้เห็นใบหน้า หากแต่เห็นความปรารถนาในหัวใจ’
เขาอ่านทวนซ้ำจากที่เคยได้ยินมาในหนังสือด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะค่อยๆเลื่อนสายตามองไปที่กระจกที่กำลังสะท้อนในสิ่งที่หัวใจเขาปรารถนาออกมา
“เลิกมองกันด้วยสายตาแบบนั้นสักทีคิมซามูเอล!” พูดจบ คนตัวเล็กก็รีบสะบัดผ้าคลุมเพื่อปิดกระจกไว้ตามเดิมแล้วรีบจ่ำเท้าด้วยความรวดเร็วออกจากห้องต้องประสงค์ไป
-talk-
ฮัลโหลลลล มาแร้วว
ที่บอกว่าตอนต่อไปดราม่าจัดเต็มนี่เราจำผิดคิวนะคะ ยังไม่ใช่ตอนนี้ 55555555555
ถ้าให้คืนดีกันเร็วไปเรื่องก็จะจบเร็ว เราขอมายื้อด้วยพาร์ทของควานลินสักหน่อย ;-;
เอาตามจริงก็เหลือคู่ละสองตอนเองนะคะ ฮือ เศร้ามาก แต่เพื่อนเราก็เร่งให้เขียนเรื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา 55555555
วันนี้มาเม้าแค่นี้ หากมีอะไรสงสัยมาถามได้นะคะ เพราะพาร์ทนี้แต่งยากจนท้อเลย เพราะกว่าจะทำให้ตัวเองมีฟีลแบบควานลินได้หมดหนังไปหลายม้วนเลย แงง
ยังไงก็อย่าลืมไปสกรีมที่ #MiracleMW ด้วยน้า แท็กเหง๊าเหงา จุ้บ g9 ค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อมก ที่แท้คนใจร้ายก็มีปมอ่ะ ว่าไม่อยากทำให้หนูเจี๊ยบเสียใจ
ไปค่ะลูก ไปคืนดีกันเสียที แม่ไม่อยากเห็นใครต้องเจ็บปวดอีกแล้ว ฮือ
แซมฮุนว่ะคุณ เรือพี่กลับมาแล้ว /อ้าแขนรับลมทะเล
ไรท์ขา แซมฮุนก้อมาอะะะะ งือออ อยากเห็นเขาอยู่ด้วยกัน55555
แล้วที่แซมมาคุยกะซอนโฮนี่คนจ้างคือจีฮุนสินะ แหมมมีแซมฮุน
ปล. รอคู่เนียลองนะคะ /-\
ส่วนหลิน ไม่รู้ว่าเคยเจออะไรมา ถึงบอกว่ารักไม่ได้ ก็ขอให้ได้โอกาสนั้นละกันนะ โอกาสที่ได้คืนดีกับน้อง แต่ก็ขอให้ยัยน้องเล่นตัวซักหน่อยเถอะ หมันไส้ ทำน้องเจ็บแต่จะมาเอาโอกาสง่ายๆไม่โอเคนะจ๊ะ
(สาบานรอบที่ล้านว่าเมนหลิน แต่ยัยเจี๊ยบคือลูกชายตัวน้อยของคูมแม่ รักและสปอยให้ทุกสิ่งอัน)