ตอนที่ 18 : ๑๕ - วิชาสัตว์วิเศษวิทยา
บทที่ ๑๕
_________________________________________________________________________________________________________
"แบบนี้พี่มินฮยอนคงฮอตแย่เลยน่
"ก็คงงั้นแหละ" เซอุนตอบ ก่อนทั้งคู่จะหันหน้าไปมองคนที่
พรีเฟ็คมินฮยอนหรือที่ตอนนี้เป็
"สงสัยเขาคงจะเลือกไม่ถูกเลยว่
"ฉันก็เลือกไม่ถูกนะ" แดฮวีเอ่ยพูดบ้าง
"นี่มีคนมาขอนายเป็นคู่เต้
"ไม่มีเลยต่างหาก! เพราะงั้นมันถึงเลือกยากไง" แดฮวีพูดตอบพร้อมกั
"แล้ว—รุ่นพี่"
"หยุดนะคิมแจฮวาน!" อยู่ๆแจฮวานก็เอ่ยขึ้นถึ
"ฉันหมายถึงพวกรุ่นพี่ที่เคยให้
"แล้วไป" คนข้างกายเขาเอามือลง ก่อนจะรวบหนังสือขึ้นไว้กั
แดฮวีน่ะมีวิชาเรียนแตกต่างกั
นั่นทำให้พวกเขามักจะไม่ค่อยได้
“นายคิดหรือยังว่าจะชวนใคร” คล้อยหลังแดฮวีไปไม่นาน เซอุนก็เอ่ยถามขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังเก็บของเพื่อไปที่หลังปราสาทที่เป็นสถานที่เรียนในวิชาแรกของวัน
“แน่นอน” แจฮวานเอ่ยตอบ
“ใครหรอ”
“ไม่จำเป็นต้องบอก” แจฮวานหันไปยักคิ้วใส่คนข้างกายอย่างผู้ชนะ ก่อนเจ้าตัวจะโดนคนตัวเล็กกว่าฟาดสันหนังสือใส่หลังเต็มๆ
“พวกเดิร์มสแตรงก์นั่นคึกจริงเชียวนะ” ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินผ่านทะเลสาบที่แสนกว้างใหญ่ มองไปไกลๆจะพบกับเรือขนาดใหญ่ที่ยังคงเป็นที่พูดถึงกันในหมู่นักเรียนฮอกวอตส์เสมอ เซอุนมองตามเรียวนิ้วของแจฮวานที่เอ่ยบอกให้ดูชายหนุ่มทั้งหลายที่กำลังวิ่งลัดเลาะทะเลสาบอย่างสนุกสนาน
ก่อนเขาจะมองเห็นใบหน้าของคังแดเนียล เป้าหมายหลักของทั้งเขาและซอนโฮในภารกิจกำราบพี่ซองอูที่ร่วมมือกัน กำลังวิ่งเยาะๆด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม พร้อมกับมีสาวๆวิ่งตามกันเป็นขบวนยาว เรียกว่าไม่ต่างจากที่พี่มินฮยอนเจอเลยสักนิด
น่าอิจฉาเสียจริง
“เขาคงจะรู้สึกยากเหมือนกันว่าจะเลือกใครควงไปดี”
“ไม่เห็นยาก พี่ว่าพี่ชายเรานั่นแหละที่จะเสนอตัวให้เขาเอง” เสียงทุ้มนุ่มที่พักนี้ชอบวนเวียนเข้ามาในห้วงความคิดเขาบ่อยๆดังขึ้นตรงหน้า
ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้าต้องหยุดชะงัก ก่อนที่เซอุนจะเงยหน้ามองคนที่เคยหัวแดง ตอนนี้กลับเปลี่ยนสีผมเป็นสีที่เข้มขึ้นจนเกือบดำแล้วที่กำลังมองใบหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“พรีเฟ็คยองมินนี่น่า~” เสียงแจฮวานเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับใบหน้ายียวนนั่นหันมองมาหาเขา
“พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ” เซอุนทำเป็นไม่สนใจเสียงของเพื่อนข้างกายแต่หันไปมองคนตรงหน้าแทน
“เปล่าครับ เรากำลังจะไปไหนกัน เรียนสัตว์วิเศษหรอ” พี่ยองมินเอ่ยพูด
“ครับ อย่าบอกนะพี่—“
“ครับ กำลังจะไปเรียนเหมือนกัน” พี่ยองมินตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ฮัลโหล เห็นคิมแจฮวานไหมเอ๋ย เห็นไหมคร้าบบบบ” เซอุนละจากใบหน้าของคนเป็นพี่ ก่อนจะหันมามองแจฮวานด้วยสายตาเหนื่อยใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปด้านหลังแล้วแอบหยิกที่แขนย้วยๆของเพื่อนอย่างแรงจนอีกคนร้องมาเสียงดัง
“โอ๊ย!! เจ็บนะจองเซอุน! เลิกล้อแล้วก็ได้” แจฮวานเอ่ยพูด ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่ด้านหลังของปราสาทอย่างรวดเร็ว
“เพื่อนเรานี่ตลกดีจัง” ยองมินมองตามแผ่นหลังของคนที่เดินนำไปพร้อมกับยิ้มขำ
“มันเป็นบ้าครับพี่” เซอุนตอบ
พร้อมกับออกก้าวเดินไปข้างหน้า ทำให้คนตัวสูงก้าวเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน
“น้องเซอุนได้คะแนนวิชานี้เยอะหรือเปล่าครับ?” พี่ยองมินที่เงียบไปนานเอ่ยถาม
“ไม่ค่อยครับ แจฮวานเขาเก่งกว่าผมอีก” เซอุนตอบ พร้อมกระชับหนังสือเล่มโตแน่นขึ้น
“ดีจัง พี่โคตรโง่วิชานี้เลย”
“แล้วทำไมพี่มาลงเรียนละครับ”
“พี่ลงตามเราไง พี่อยากเจอหน้าเราบ่อยๆ” พี่ยองมินเอ่ยตอบด้วยเสียงเรียบราวกับประโยคนั้นเป็นประโยคธรรมดาที่พูดกันทั่วไป ไม่ใช่ประโยคที่ทำให้เซอุนใจเต้นแรงเลย
“ล้อเล่นครับ” เซอุนหันมองหน้าคนตัวสูงที่เพิ่งเอ่ยพูดออกมาด้วยสายตาหงุดหงิด ก่อนจะก้าวเดินฉับๆให้ไกลอีกคนให้ได้มากที่สุด
มาทำให้คนอื่นใจเต้นแรงแล้วมาบอกล้อเล่น มันน่าสาปให้เป็นคางคกเสียจริง
ยองมินที่เห็นอีกคนเริ่มก้าวเดินเร็วขึ้นก็รู้สึกตัวได้ทันทีว่าคนตัวเล็กต้องไม่พอใจกับคำพูดเขาแน่ๆ ร่างสูงจึงเดินเข้าไปใกล้ๆอีกคนมากเรื่อยๆ แต่ยังไม่ทันได้ประชิดตัว คนที่เดินนำหน้าอยู่ก็หยุดชะงักตัวเองอย่างรวดเร็ว จนทำให้แผ่นอกของยองมินที่เดินตามมาชนเข้ากับไหล่เล็กอย่างแรง
“โอ๊ย น้องเซอุนหยุดแล้วไม่บอกพี่เลย” ยองมินเอ่ยพูด ก่อนจะเอื้อมมือจขึ้นไปโอบไหล่เล็กของคนด้านหน้าไว้หลวมๆ
“พะ...พี่ยองมินครับ” เซอุนเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ จนทำให้คนด้านหลังต้องเอี้ยวตัวออกมาดูสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกคน
ยองมินขมวดคิ้วยุ่งพร้อมกับมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าที่กำลังชูคอขึ้นสูงแล้วค่อยๆเลื้อยตัวตรงมาหน้าพวกเขาสองคนเรื่อยๆ
ร่างของเซอุนถูกรุ่นพี่ตัวสูงผลักไปอยู่ด้านหลังของแผ่นหลังกว้าง ก่อนอีกคนจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่างที่เขาฟังไม่ออกกับเจ้างูสีเขียวเข้มตัวนั้น ที่บังเอิญเลื้อยผ่านมาตอนที่เซอุนกำลังเดิน เหตุพราะในวัยเด็ก เซอุนเคยถูกงูกัดมาแล้วหนึ่งครั้ง นั่นเป็นสิ่งที่ฝังใจเขามาโดยตลอด ว่าหากเจอสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้เมื่อไหร่ ร่างกายของเขาจะเหมือนถูกแช่แข็งไปทันที
และสิ่งที่รุ่นพี่จากกริฟฟินดอร์พูด ไม่ว่าเขาจะตั้งใจฟังแค่ไหนก็ไม่สามารถจับใจความได้เลยว่าสิ่งที่คนตัวสูงพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร
มันฟังดูแล้วราวกับไม่ใช่ภาษาของคนเลยสักนิด
เซอุนกลั้นใจก่อนจะชะเง้อหน้าผ่านหลาดไหล่สูงของรุ่นพี่ไป ก็พบว่าเจ้างูตัวนั้นยังคงอยู่ที่เดิม แต่ดูสงบลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทีท่าเหมือนจะเข้ามาทำอันตรายพวกเขาแล้ว
“คุณพูดภาษาพาร์เซลได้ด้วยหรอ” ร่างสูงในชุดวอร์มสีน้ำตาลอ่อนเดินออกมาจากพุ่งไม้เอ่ยพูดขึ้น ก่อนจะเดินตรงมาหาเจ้างูที่เลิกชูคอแล้ว พร้อมกับอุ้มมันไว้กับอก
บ้าไปแล้ว
ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ก็ได้นิดหน่อย” พี่ยองมินเอ่ยตอบไปอย่างไม่สนใจ
“แต่ทำให้งูของผมสงบลงได้นี่ก็ไม่ใช่เล่นเลยนะ” เซอุนมองคนสองคนที่กำลังพูดอะไรบางอย่างอย่างไม่เข้าใจ
ภาษาพาร์เซลงั้นหรอ?
มันเป็นภาษาที่พ่อมดจะใช้สื่อสารกับงู ซึ่งมันก็เป็นภาษาที่ตายไปแล้ว เพราะคนที่สามารถพูดได้มีแค่พวกฝักใฝ่ในศาสตร์มืด หรือเป็นพวกที่ข้องเกี่ยวกับสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น
เอาง่ายๆคือพวกที่พูดได้ส่วนใหญ่หากไม่อยู่บ้านสลิธีริน ก็อยู่คุกอัซคาบันเท่านั้น
เซอุนเคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่เรียนชั้นปีหนึ่ง แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่ามันพูดอย่างไร
ถ้าหากสิ่งที่คนตัวสูงพูดคือภาษาพาร์เซลจริงๆ ทำไมเขาถึงพูดได้ทั้งๆที่เขาไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด
และเหตุผลที่สำคัญมากคือเขาเป็นกริฟฟินดอร์
มันจึงเป็นสิ่งที่แปลกมากหากเขาสามารถพูดมันได้จริงๆ
“งูของคุณ? ทำไมถึงได้ปล่อยออกมาเพ่นพล่านแถวนี้ได้? นี่ไม่ใช่โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ของคุณนะ” จินอูมองใบหน้าอีกคนด้วยรอยยิ้ม
เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้ากริฟฟินดอร์คนนี้เป็นห่วงเด็กข้างหลังคนนั้นมากขนาดไหน
“ขอโทษที พอดีเมื่อกี้มีเด็กคนนึงมาขอให้ผมไปงานเต้นรำกับเธอ ผมมัวแต่คุยเพลิน หันมาอีกทีเจ้าเดซี่ก็หายไปแล้ว” ชายหนุ่มจากเดิร์มสแตรงก์เอ่ยตอบ ก่อนจะเอาหัวไปถูไถกับหัวของเจ้างูนั้น
เดซี่?
ชื่อราวกับดอกไม้แสนสวย แต่หน้าตานี่อย่างกับผู้คุมวิญญาณ
เซอุนได้แต่เบ้ปากมองด้วยความไม่ชอบใจ พร้อมกับกำเสื้อคลุมของอีกฝ่ายแน่น
หากจะนับว่าสิ่งใดบนโลกนี้บ้างที่เซอุนกลัว สิ่งแรกที่ถูกเรียกขานคือสิ่งมีชีวิตเลื้อยคลานนี่ มันทำให้เขาเกือบไม่ผ่านวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดเมื่อปลายเทอมที่แล้วที่เขาต้องต่อสู้กับบ็อกการ์ตที่แปลงร่างเป็นงูอนาคอนด้าขนาดใหญ่
เขาจำได้แม่นเลยว่าตอนนั้นตัวเองสติแตกขนาดไหน เขาลืมแม้กระทั่งคาถาง่ายๆที่จะกำจัดมันอย่างคาถาริดิวคิลัส
โชคดีที่คิมแจฮวานที่ต่อหลังเขาตะโกนเรียกสติให้กลับคืนมา ทำให้เซอุนไม่ต้องสอบวิชานี้ใหม่อีกหนึ่งครั้ง
“หากเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือดูแลมันให้ดีที่สุด ไม่ให้มันทำอันตรายกับคนอื่นได้”
“ใจเย็นครับพี่ยองมิน” เจ้าของชื่อหันมองใบหน้าของคนที่อยู่ด้านหลังด้วยอารมณ์คุกกรุ่น ก่อนเขาจะหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเพื่อคลายความหงุดหงิดเมื่อเซอุนเอื้อมมือมาลูบไปที่ท้องแขนเขาเบาๆ
“ขอโทษที คุณคงจะเป็นพรีเฟ็คซินะ สมหน้าทีดี—เอาไว้คราวหน้าผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” จูจินอูพูดตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ก่อนจะโค้งตัวให้ทั้งคู่เบาๆ “ฝากขอโทษแฟนคุณด้วยที่ทำให้ตกใจ” พูดจบ คนตัวสูงก็เดินกลับไปตามทางที่มา โดยไม่ฟังคำค้านของเซอุนเลย
“เดี๋ยวสิ! ผมไม่ใช่แฟ—“
“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้ว” เซอุนยังไม่ทันเอ่ยพูดจบ คนตัวสูงก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน พร้อมกับอมยิ้มมองเขา ทำเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เขาไม่มีท่าทีเหมือนจะเข้าไปสู้กับนักเรียนชายคนนั้น จนทำให้เซอุนต้องเอ่ยปากห้ามไว้
“ใครจะเป็นกันครับ พี่นี่ขี่ตู่ชะมัดเลย” เซอุนเอ่ยตอบด้วยความหงุดหงิด คิ้วที่ขมวดกันยุ่งทำให้คนที่กำลังมองอยู่ได้แต่อมยิ้มอย่างชอบใจ
เซอุนหันหน้าหนีอีกคนก่อนจะรีบเดินไปที่ด้านหลังปราสาทให้เร็วที่สุดก่อนที่ชั่วโมงเรียนจะเริ่มเสียก่อน
“นึกว่าไปสวีทกันจนไม่มาเรียนแล้วซะอีก” เซอุนหันมองคนที่กำลังนั่งอยู่บนโขดหินใหญ่ ก่อนจะหันกลับไปจ้องศาสตราจารย์ดันมิลส์ที่กำลังเอ่ยพูดถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบด้วยใบหน้าจริงจัง
“เงียบน่าแจฮวาน” เขาตอบเสียงเบา พร้อมกับกระทุ้งศอกใส่อีกคน
“เขินละรุนแรงตลอดเลยนะเซอุน”
แจฮวานมองคนที่ทำเป็นไม่สนใจคำพูดเขา เอาแต่ก้มๆเงยมองหน้าหนังสือสลับกับหน้าศาตราจารย์ด้วยสายกรุ่มกริ่ม ก่อนเขาจะมองเลยไปที่ฝั่งกลุ่มของกริฟฟินดอร์ที่มีนักเรียนปีห้ากำลังนั่งยิ้มมองมาทางนี้
ที่เขารู้ว่าสองคนนี้กำลังมีความสัมพันธ์สีชมพูอยู่ เหตุก็มาจากแฟนหนุ่มรุ่นพี่สุดน่ารักของเขาเลย
‘แจฮวาน นายว่าพรีเฟ็คยองมินกับเพื่อนนายกำลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่หรือเปล่า’ แจฮวานที่กำลังตักขนมเค้กเข้าปากต้องหยุดชะงักก่อนจะเอียงหัวมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
‘พี่ซองอุนหมายถึงใครอ่ะ’
‘น้องเซอุนไง’
‘ห๊ะ!! เซอุนกับพี่ยองมิน!!!!’ แจฮวานตะโกนออกมาสุดเสียง จนทำให้รุ่นพี่ตรงหน้าต้องเอามือชี้ไปที่ปากเพื่อบอกให้เขาลดเสียงลงหน่อย
‘ตกใจอะไรละ? ไม่เคยสังเกตหรอ เวลาสองคนนี้อยู่ใกล้กันทีไร เหมือนมีรังสีชมพูแปลกๆออกมา’
นั่นเป็นเหตุผลที่คิมแจฮวานเริ่มสังเกตเพื่อนตัวเองกับเจ้าของฉายาซีกเกอร์สุดหล่อของกริฟฟินดอร์มากขึ้น จนเขาเข้าใจในสิ่งที่แฟนตัวเล็กของเขาเอ่ยปากบอกแล้ว
รังสีความรักที่แผ่ออกมาจากตัวรุ่นพี่หัวแดงมาให้เพื่อนหน้ามึนของเขา
ไม่ต้องให้ใครสักคนเอ่ยบอกเลย เพราะสิ่งที่ออกมาจากสายตาของรุ่นพี่ยองมินก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจนมากอยู่แล้ว
“แล้วคิดจะขอพี่เขาไปงานเต้นรำปะ ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่มีคู่นะ” แจฮวานปิดหน้าหนังสือลง ก่อนจะกระโดดลงจากโขดหินมายืนอยู่ข้างเพื่อนตัวเอง
“ไม่มีทาง” เซอุนตอบออกไปแบบไม่คิด
“โห้ย ไรอ่ะ พี่เขาอาจจะรอนายไปขอเขาควงก้ได้นะ คิดสิคิด”
“อยากได้ก็ไปขอเองไป๊ รำคาญ” เขาเอ่ยตอบ พร้อมกับหันหน้าหนีเพื่อนตัวดีที่กำลังทำหน้ากรุ่มกริ่มใส่ แต่เหมือนกับเขาคิดผิด
เพราะทางที่เขาหันหนีอีกกคนนั้นตรงกับที่พวกกริฟฟินดอร์ยืนอยู่พอดี
มองขนาดนี้กินเขาไปเลยก็ได้นะครับพี่ยองมิน
เซอุนคิดในใจและไม่มีวันพูดออกมาแน่นอน เพราะถึงอีกคนไม่ได้อยู่ใกล้ๆแต่ยังมีเจ้าเพื่อนรักของเขาที่พร้อมจะพุ่งไปรายงานคนตัวสูงทันทีที่เขาพูดจบ
“ได้หรอ?” เซอุนมองเห็นคนตัวสูงเอ่ยขยับปากแบบไร้เสียงตอบกลับมา ทำให้เซอุนตาโตขึ้นอย่างตกใจ
นอกจากพูดพาร์เซลได้แล้ว พี่ยองมินยังอ่านใจได้อีกด้วยหรอ
เซอุนแอบทึ่งกับความสามารถของอีกคนนิดหน่อย ไม่คิดว่าพ่อมดคนนึงจะสามารถมีความสามารถหลากหลายขนาดนี้ ทั้งเมื่อกี้ยังปกป้องเขาจากเจ้างูตัวนั้นอีก
หากเขาบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่อีกคนทำให้เมื่อกี้นี่ก็คงเป็นการโกหก ท่าทางที่ดูน่าเกรงขามเมื่อเผชิญหน้ากับงู และท่าทางเอาจริงเอาจังเมื่อโต้เถียงกับหนุ่มจากเดิร์มสแตรงก์อีก
เป็นอีกด้านที่เขาเพิ่งเคยเห็นจากรุ่นพี่คนนี้
และปฎิเสธไม่ได้เลยจริงๆพรีเฟ็คกริฟฟินดอร์ทำให้ใจเขาเต้นแรง และไม่เป็นตัวเองอีกแล้ว
“ซอนโฮได้คู่เต้นรำแล้วงั้นหรอ?” ระหว่างสับเปลี่ยนชั่วโมงเรียนในวันนี้ เขาเดินผ่านกับกลุ่มเด็กฮัพเฟิลพัฟกลุ่มใหญ่ที่น้องชายของเซอุนอยู่ ก่อนทั้งคู่จะเดินละออกมาจากเพื่อนตัวเองมายืนคุยกันไม่ไกลจากห้องโถงใหญ่
“ครับ ผมว่าจะไปกับฮยองซอบ” เจ้าน้องชายตอบด้วยรอยยิ้ม
“จริงหรอ? พี่คิดว่าฮยองซอบะไปกับอูจินซะอีก”
“คือเรื่องมันยาวอ่ะพี่เซอุน ไว้ผมจะเล่าให้ฟังนะ” ซอนโฮเอ่ยตอบอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ “พี่ยังหาคู่ไม่ได้งั้นหรอ?”
“ก็ใช่ คือ—เอาจริงๆพี่ไม่รู้จะไปกับใครด้วยซ้ำ แจฮวานมันคงจะไปกับพี่ซองอุนแล้ว และแดฮวีก็มีคู่แล้วเหมือนกัน พี่เลยจนปัญญามากเลยเนี่ย”
“ทำไงดีละ เหลืออีกแค่วันเดียวแล้ว ถ้าพี่ไม่ได้เข้าร่วมงานพี่จะโดนตัดคะแนนนะ” คนเป็นน้องเอ่ยถาม ก่อนจะขยับตัวไปมาอย่างร้อนรน
“พี่รู้น่า เลยมาเครียดแบบนี้ไง” เซอุนเอ่ยตอบอีกคน พร้อมกับถอนหายใจออกมายาวเหยียด
“ไม่มีใครแล้วจริงๆหรอพี่ แบบคนที่พี่อยู่กับเขาแล้วสบายใจอ่ะ” สิ้นคำพูดของซอนโฮ เซอุนก็นึกถึงใบหน้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ลอยเข้ามา
พี่ยองมิน
แต่ให้ตายเถอะ คนฮอตแบบนั้นยังไงก็คงมีคู่เต้นรำแล้ว เผลอๆอาจจะได้นางฟ้าโบบาตงซ์สักคนไปครองก็ได้
และเซอุนก็ไม่ได้เจอพี่ยองมินมาหลายวันแล้ว เรียกได้ว่าไม่เห็น และไม่เดินสวนกันเลย ทั้งระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน หรือในห้องโถงใหญ่
“ก็มีนะ แต่พี่คิดว่าเขาคงจะมีคู่ไปแล้ว” เซอุนตอบ
“พี่อย่าคิดไปเองสิ พี่ต้องลองไปถามเขาดูก่อน ถ้าไม่กล้าถามก็แบบถามอ้อมๆก็ได้ ถ้ามีแล้วพี่ก็แค่เดินหนี ถ้าไม่มีก็เป็นโอกาสของพี่แล้ว” เซอุนมองหน้าน้องชายอย่างลังเล แต่ซอนโฮก็มองคนเป็นพี่ด้วยสายตาที่สื่อว่าจริงจัง จนทำให้เซอุนต้องถอนหายใจออกมาอีกระลอก
“โอเค พี่จะลองดู”
ก็อกๆ
“ขออนุญาตนะครับ” เซอุนเอ่ยพูดกับคนที่อยู่หลังประตู ก่อนจะเปิดประตูห้องพักของศาสตราจารย์กาฮีเข้าไปเบาๆ
ก่อนหน้านี้เขาลองไปหารุ่นพี่จากกริฟฟินดอร์จากหลายที่ทั่วปราสาทฮอกวอตส์แล้ว ทั้ง ห้องโถงใหญ่ ห้องสมุด สวนกลางปราสาท และชะเง้อคอหาตามห้องเรียน แต่ก็ไม่พบต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นใจแบบนี้เลย
แต่ก่อนที่เขาจะได้ถอดใจแล้วกลับไปนอนเล่นที่หอพักตัวเอง เซอุนก็บังเอิญเจอพี่ดงฮยอนและพี่ยงกุกเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกับพี่ซองอูซึ่งก็คือกลุ่มของพี่ยองมิน เดินผ่านหน้าไป ไม่รอให้เสียเวลาอีก เซอุนก็รีบตรงปรี่ไปหาพี่ดงฮยอนเพื่อถามหาคนที่กำลังตามหาอยู่ทันที คำตอบที่เขาได้รับคือคนตัวสูงเข้าไปช่วยงานที่ห้องพักของศาสตราจารย์กาฮีตั้งแต่หลังมื้อเที่ยงแล้ว
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เซอุนต้องมาอยู่ภายในห้องของศาตราจารย์กาฮีแบบนี้
เซอุนมองไปด้านในห้องอย่างระมัดระวัง ก่อนเขาจะเห็นรุ่นพี่ผมเข้มกำลังจดจ่อกับอะไรสักอย่างอยู่ในมือ
“พ—พี่ยองมิน” เพราะเขากลัวจะเป็นการรบกวนอีกคน ทำให้เซอุนไม่กล้าส่งเสียงออกไปเท่าไหร่ แต่เพราะห้องนี้ค่อนข้างเงียบ และก็ไม่ได้ใหญ่มากเท่าไหร่นัก ทำให้เสียงพูดเบาๆก็ได้ยินแล้ว
เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงก่อนจะอมยิ้มกว้างมองเขา พี่ยองมินปิดหนังสือเล่มหนาลง พร้อมกับเดินมาทางเขาช้าๆเหมือนคนไม่มีแรง
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นผงที่กระจัดกระจายไปทั่ว บ่งบอกได้ว่าเขาน่าจะคลุกตัวอยู่ในห้องนี้นานพอสมควร
“หน้าพี่มัน—สกอร์จิฟาย!” เซอุนพยายามกลั้นขำเมื่อมองใบหน้าคนตัวสูง ก่อนเขาจะเอื้อมมือลงไปหยิบไม้กายสิทธิ์จากกระเป๋าเสื้อคลุมตัวเองขึ้นมาโบกไปตรงหน้าอีกคนพร้อมกับเอ่ยคาถา
แล้วฝุ่นผงบนหน้าคนตัวสูงก็หายวับไปกับตา แล้วพี่ยองมินก็โค้งขอบคุณให้เขาเบาๆ
“นี่พี่คงไม่ได้อยู่ในนี้ทั้งวันหรอกใช่ไหม”
“เปล่า” พี่ยองมินตอบ “ตั้งแต่เมื่อวานแล้วต่างหาก” พูดจบ อีกคนก็เปิดปากหาวอย่างสุดเสียง พร้อมกับยกมือบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อยล้า
“แล้วทำไมพี่ถึง—“
“พวกอาจารย์น่ะสิ ยุ่งกับการเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่คืนวันศุกร์นี้ ปล่อยให้พวกพรีเฟ็คจัดการทั้งงานเต้นรำและภารกิจที่ 2” คนตัวสูงบ่นออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วยุ่ง จนเซอุนอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วไปจิ้มที่คิ้วของอีกคนเบาๆ
“น้องเซอุนคิดถึงพี่หรอครับ”
“เปล่าครับ ไม่เลยสักนิด” เซอุนตอบกลับแบบทันควัน ทำให้คนตรงหน้ามองเขาด้วยความขบขัน
ปากแข็งจริงๆเด็กสมัยนี้
“แล้วมาหาพี่ทำไมครับ?” พี่ยองมินเอ่ยถาม ก่อนจะหันไปเก็บหนังสือใส่เข้าชั้นให้เรียบร้อย แล้วหันมาจ้องคนที่กำลังก้มหน้าต่ำมองพื้นอยู่
“คือว่า—” ยองมินเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ เมื่ออยู่ดีๆเซอุนก็พูดตะกุกตะกักขึ้นมา
“มีอะไรบอกพี่ได้นะครับ” ยองมินเห็นคนเป็นน้องดูกังวล จากสีหน้าและท่าทาง เขาจึงไม่พยายามกดดันอีกคน ด้วยการหันไปหยิบจับนู้นนี่ไปเรื่อย ละพยายามไม่ใช้คาถาอ่านใจด้วย ถึงแม้เขาอยากจะใช้มากแค่ไหนก็ตามที
“ผมอยากรู้ว่าพี่มีคู่เต้นรำหรือยังครับ” ในที่สุด เซอุนก็รวบรวมความกล้าเอ่ยพูดออกไปจนได้
ยองมินมองคนตัวเล็กด้วยสายตาอึ้งๆ
เขาไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำขอเต้นรำออกมาจากจองเซอุนคนมึนที่มักชอบจะเอ่ยปากว่าเขา หรือไม่ก็แสดงทีท่าหงุดหงิดตลอดที่เขาเข้าใกล้
ที่จริงยองมินคิดว่าอาจจะไปขอเซอุนเป็นคู่เต้นรำในวันพรุ่งนี้ เพราะเขาเองก็มัวยุ่งแต่เรื่องงานพรีเฟ็คจนลืมไปเกือบสนิท มานึกขึ้นได้เมื่อช่วงเช้านี่เอง แต่ก็ยังไม่ทันให้เขาได้ตามหาเซอุนเพื่อเอ่ยคำขอไปงานเต้นรำกับน้อง ยองมินก็ถูกศาตราจารย์กาฮีเรียกไปช่วยงานซะก่อน
อาจจะต้องขอบคุณศาสตราจารย์กาฮีแล้วที่ทำให้เขาได้ยินสิ่งดีๆแบบนี้
“น้องเซอุนคิดว่าไงครับ?” ยองมินเอ่ยถามกลับด้วยรอยยิ้ม
“คิดว่าพี่น่าจะมีแล้ว แต่ผมแค่มา—“
“ชู่ว—ให้พี่เป็นคนพูดเองดีกว่าครับ” ไม่รอให้เซอุนได้เอ่ยเอื้อนจนจบ ร่างสูงของยองมินก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวของคนตัวเล็ก ก่อนจะเอ่ยกระซิบเสียงเบา ทั้งๆที่ห้องนี่มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
“น้องเซอุนไปงานเต้นรำกับพี่ได้ไหมครับ” ยองมินเอ่ยพูดทีละคำอย่างนุ่มนวล เรียกให้แก้มของเซอุนขึ้นสีแดงจนเห็นได้ชัด นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ประดับบนใบหน้าของร่างสูงได้เป็นอย่างดี
“ถ้าผมตอบว่าไม่ละครับ” เซอุนว่ากลับ แต่ไม่ทำให้รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของรุ่นพี่จากกริฟฟินดอร์เลย
“พี่ก็จะถามไปเรื่อยๆจนกว่าน้องเซอุนจะตอบตกลง”
“ขี้ตื้อ”
“ฮ่าๆ ยอมรับครับ” ยองมินหัวเราะร่าออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้าอีกครั้ง
“น้องเซอุนตกลงไหมครับ ถ้าไม่ตก—“
“ตกลงครับ” เซอุนตอบออกไป ก่อนจะก้มหน้างุดมองเท้าตัวเอง ยองมินมองคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยปากไล่ให้ออกจากห้องพักไปเสียก่อนที่ศาสตราจารย์กาฮีจะกลับมาดุเอาได้
อย่าไปบอกใครนะครับว่าตอนนี้อิมยองมินยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้ว
เคราเมอร์ลินเป็นพยาน วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับเขาเลย
ไม่แปลกหรอกค่ะที่เราจะเริ่มรู้สึกหวั่นไหวกับคนที่เห็นอยู่ทุกวัน ชอบมาทำให้ใจสั่นอยู่ตลอด ยิ่งเขามาปกป้องเราในสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดอีก
และถ้าหล่อๆแบบพี่ยองมินแร้ว บอกเลยว่าเป็นเรานี่กระโดดกอดตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้ว
ขอบคุณทุกการติดตามมากๆนะคะ หากมีอะไรสงสัยแท็กถามได้ที่ #MiracleMW ได้เสมอน้า เรารอเม้าอยู่ 5555555555
ฝันดีนะคะ จุ้บๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยองมินนนนนนนนนคือเขินแทนไปหมดแล้ว
โอ้ยพี่ยองมินนน ทำไมพระเอกเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ ใจแม่ไม่ดีเด้อ
ทำไมพี่จะดีไปหมดทุกอย่างไม่ได้นะ ดีเกินไปแล้ววว ดีใจที่น้องอุ่นลูกแม่มีว่าที่แฟนที่มีครบเครื่องขนาดนั้น คังแดเนียลก็เถอะ สู้พี่ยองมินไม่ได้อ่ะตอนนี้ ต้องให้เค้าจริงๆครับผมมม
โอ้ยพี่ยองมินนน ทำไมพระเอกเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ ใจแม่ไม่ดีเด้อ
ทำไมพี่จะดีไปหมดทุกอย่างไม่ได้นะ ดีเกินไปแล้ววว ดีใจที่น้องอุ่นลูกแม่มีว่าที่แฟนที่มีครบเครื่องขนาดนั้น คังแดเนียลก็เถอะ สู้พี่ยองมินไม่ได้อ่ะตอนนี้ ต้องให้เค้าจริงๆครับผมมม
ปล. คิดถึงอูซอบจังเลยค่ะ จูดี้จะปล่อยให้อูจินคู่กะคนอื่นหรอ จริงปะจ๊ะ ล้อกันเล่นอ๊ะเปล่าาา