ตอนที่ 17 : ๑๔ - ภารกิจที่ ๑ [๑oo%]
บทที่ ๑๔
๑oo%
________________________________________________________________________________________________________
‘ก็แล้วแต่พี่ แต่ผมจะบอกพี่แล้วกัน ภารกิจแรกคือมังกร’
‘มังกร?? ให้ทำอะไร มันต้องอันตรายแน่ๆ’
‘ไหนบอกไม่มีทาง’ ซอนโฮเอ่ยพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
‘ก็แค่อยากรู้ป่ะวะ’ ซองอูเอ่ยตอบ
‘หรอคร้าบ ไม่รู้นะ ผมบอกพี่ไปแล้ว อยู่ที่พี่แล้วว่าจะไปบอกเขาหรือเปล่า แต่บอกก็ดีนะครับ เพราะตัวแทนคนอื่นรู้กันหมดแล้ว ถ้าเขาไม่รู้อยู่คนเดียวคงน่าสงสารแย่’
ยูซอนโฮนะ ยูซอนโฮ!!!
มันน่าหงุดหงิดเสียจริงที่คำพูดของน้องชายของเขาที่เอ่ยบอกตั้งแต่ช่วงเที่ยง มันเล่นวนอยู่ในหัวของเขามาได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว!
และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้องซองอูเดินวนอยู่ในห้องพักตัวเองราวกับหนูติดจั่นจนทำให้โดนคิมยงกุกและคิมดงฮยอนปาหมอนใส่พร้อมกับคำด่าทอมาอีกหลายประโยค
“จะหยุดเดินได้ยังวะซองอู?” เสียงของดงฮยอนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เตียงตรงกันข้ามกับเขาเอ่ยขึ้นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนมันจะปิดหนังสือลงอย่างดังแล้วกอดอกจ้องมองเขาอย่างกดดัน
“นั่นดิ กูจะอ้วกแล้ว” ยงกุกที่กำลังนั่งลูบแมวตัวโปรดของมันที่ชอบหายไปบ่อยๆ(เขาได้ยินว่ามันชอบไปอยู่ที่หอสลิธีริน) อยู่บนเตียงอีกฝั่งของเขาก็เอ่ยขึ้นตาม
“กูจะทำไงดีวะมึง” ซองอูหยุดเดินไปมา ก่อนเขาจะก้าวเท้าเดินไปที่เตียงของยงกุกพร้อมกับฟุบหน้าลงกับหมอนที่มีแต่ขนแมวของมัน
เคราเมอร์ลินเป็นพยาน ตอนสอบวิชาปรุงยายังไม่รู้สึกเครียดขนาดนี้เลย
“เรื่องอะไรละวะ กูถามมึงรอบที่สิบแล้วนะ มึงก็ไม่ตอบกูสักที” ยงกุกตอบ พร้อมใช้เท้าของมันยกขึ้นมาเขี่ยขาของเขาให้ออกจากลูกรักของมัน
“เออมึง กูอยากรู้ว่าภารกิจแรกคืออะไรว่ะ ตื่นเต้นชะมัด” ดงฮยอนเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างของมันที่ค่อยๆเดินตรงมาที่ปลายเตียงที่พวกเขานั่งอยู่
“ขอสนุกๆอ่ะ เอาแบบเลือดสาด มังกรอะไรแบบนี้ได้ก็ดี” สิ้นเสียงคำตอบของยงกุก ซองอูก็รู้สึกเหมือนร่างกายที่กำลังจะสงบของเขากลับมากระตุกเกร็งแบบแปลกๆอีกครั้งเมื่อได้ยินคำว่ามังกร
ประสาทหลอนไปแล้ววววว
“ถ้าเป็นมังกรนะมึง คนที่ไม่ได้เตรียมตัวต้องบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถลงแข่งต่อได้แน่เลย” ดงฮยอนเอ่ยตอบด้วยสีหน้าแบบนึกสนุก ก่อนทั้งเจ้าตัวและยงกุกก็ต้องขมวดคิ้ววุ่นเมื่อหันไปมองเพื่อนตัวเองที่เมื่อกี้กำลังฟุบหน้ากับหมอนอยู่ดีๆ กลับลุกพรวดพราดขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“เจอกันห้องโถงนะมึง!” ซองอูพูดทิ้งทายไว้แค่นั้น พร้อมกับปิดประตูห้องลงอย่างแรง
“เป็นอะไรของมันเนี่ย”
“ไม่รู้วะมึง เอ้า สลิปเปอร์เป็ดกูหายไปไหน ทำไมเหลือแต่—ไอซองอู!!”
“อยู่ไหนวะเนี่ย”
“พอเวลาอยากเจอนี่หาตัวเจออยากจริงเลยโว้ย!”
“ออกมาสิโว้ย”
“พี่หาใครอะ?” ซองอูสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อเขาหันไปเห็นน้องชายคนกลางของบ้านกำลังมองมาที่เขาด้วยใบหน้าปนสงสัย
ในมือของน้องชายเขามีหนังสือสองสามเล่มที่หนาจนเขาคิดว่าถ้าหากวันไหนเซอุนเกิดหงุดหงิดที่เขาแหย่ขึ้นมา หนังสือพวกนี้คงเป็นอาวุธชั้นดีในการเอาคืนเขา
น่าจะทำให้สลบไป แล้วฟื้นอีกทีชาติหน้าไปเลย
“เปล่านี่ ว่าแต่แกพอจะเห็นพวกเดิร์มสแตรงก์บ้างไหม” ซองอูเลิกสนใจหนังสือในมือน้องชาย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเอ่ยตอบ
ก่อนเขาจะได้รับสายตาที่ล้อเลียนแบบปิดไม่มิดตอบกลับมา
“เดิร์มสแตรงก์? พี่หาพวกเขาไปทำไมอะ?” เซอุนถามซ้ำ
“ไม่ได้หาเว้ย แค่ถามว่าเจอบ้างไหม” เขาเอ่ยตอบพร้อมกับพยายามสอดสายตาไปให้ทั่วรอบๆด้วย
“เจอก็ได้” เซอุนตอบ “ผมเจอพวกเขาอยู่ตรงสวนตอนเดินผ่านมาเมื่อกี้” ไม่รอให้เซอุนพูดจบ คนมีศักดิ์เป็นพี่ก็รีบเดินตรงปรี่ไปตามทางที่น้องชายชี้ไปทันที
เซอุนมองตามหลังคนเป็นพี่ด้วยรอยยิ้มกว้างแล้วเอ่ยขำออกมาเบาๆ พร้อมกับ หันหน้าไปทำท่าโอเคส่งให้กับน้องชายคนเล็กที่ยืนแอบอยู่ไม่ไกล
แผนการล้มพี่ซองอูคนแมน ให้กลายเป็นเหมียวน้อยอ๋งอ๋ง สำเร็จไปอีกหนึ่งขั้นแล้ว!
“แฮ่กๆ” ซองอูหอบออกมาเบาๆ เมื่อเขาวิ่งมาจนถึงสวนตรงกลางปราสาทที่ตอนนี้ผู้คนเริ่มเบาบางลงแล้ว เพราะนี่ก็จวนจะใกล้เวลาอาหารค่ำ คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะกลับไปเก็บของที่หอของตัวเองก่อนจะออกไปรับประทานอาหารเย็นที่ห้องโถงใหญ่
ยกเว้นเสียแต่กลุ่มของสุภาพบุรุษจากเดิร์มสแตรงก์ที่กำลังนั่งหยอกกันไปมาอยู่อย่างสนุกสนาน
ซองอูชะเง้อคอมองหาตัวการที่ทำให้เขาต้องวิ่งมาให้ถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะกลับไปที่เรือเสียก่อน
คังแดเนียลกำลังนอนฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะถัดไปจากที่พวกเดิร์มสแตรงก์กลุ่มใหญ่นั่งอยู่ ราวกับว่าเขาไม่อยากให้ใครมารบกวนในเวลานี้แม้กระทั่งเพื่อนของเขาเอง
แต่แล้วไงละ เขามีเรื่องสำคัญมากๆที่จะคุยด้วย ไม่งั้นเขาคงเลี้ยวเข้าห้องโถงใหญ่ไปนานแล้ว ไปมัวมาวิ่งวนเพื่อตามหาตัวอีกคนรอบปราสาทหรอก
ซองอูเดินจ้ำเท้าอย่างรวดเร็วไปหาคนที่กำลังฟุบหลับอยู่ เมื่อเพื่อนของคนตัวสูงไม่มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจ เขาจึงนั่งลงข้างๆกับที่อีกคนนอนอยู่
“มึง” ซองอูเอ่ยเรียกด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก
“มึงตื่น” เมื่อเรียกแล้วๆอีกคนไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวหรือลุกขึ้นมาตอบเขาเลย ทำให้ซองอูเลือกที่จะเลื่อนมือขึ้นไปแตะแขนพร้อมกับเขย่าเบาๆ
“ได้ มึงเลือกที่จะไม่ตื่นเองนะ” สิ้นเสียงของซองอู เขาก็ขยับหน้าเข้าไปใกล้คังแดเนียลมากขึ้น พร้อมกับเป่าลมใส่หูอีกคนอย่างแผ่วเบา
นั่นเป็นวิธีการที่เขาชอบแหย่เวลาเจ้าน้องชายเขานอนหลับตอนกลางวันที่ห้องนั่งเล่น
มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ทั้งเซอุนและซอนโฮอยากจะสาปเขาให้หายไปจากโลกนี้อยู่ตลอดเวลา
“ฮืม—“ ถามว่าได้ผลไหม แน่นอนว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลอยู่ตลอดเวลาเขาแกล้งเจ้าน้องชายของเขา
แต่องซองอูคงจะลืมไปว่าคนตรงหน้านี้ไม่ใช้เซอุนหรือซอนโฮ
แต่เป็นคังแดเนียลที่กล้าทำสิ่งที่บ้าบิ่นกับเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน
“เล่นบ้าอะไรวะ?” เพราะอีกคนยังไม่ลืมตา เจ้าตัวถึงได้แสดงสีหน้าที่หงุดหงิดเหมือนโดนแย่งขนมรสโปรดไป
และสีหน้าแบบนั้นทำให้ซองอูชะงักทันที
ทำไมใบหน้าเมื่อกี้มันถึงคุ้นราวกับว่าเขาเคยเจอมาจากที่ไหนมาก่อน
แต่นึกเท่าไหร่ก็ไม่นึกไม่ออกเสียที
“ซองอู?” เจ้าตัวอันตรายลืมตาตื่นอย่างเต็มตา ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งมองใบหน้าเขาอย่างสงสัย
“เออกูเอง” ซองอูตอบเสียงเบา
“มีอะไรหรือเปล่า?” คนที่เพิ่งฟื้นจากนิทราเอ่ยถามด้วยเสียงแหบๆตามแบบฉบับคนที่เพิ่งตื่นนอนก่อนจะขยับถอยห่างจากตัวเขาเมื่อรู้สึกว่าเราทั้งคู่ใกล้กันมากเกินไป
ซองอูเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่ได้สนจะไร เพราะเรื่องที่เขากำลังจะบอกมันสำคัญกว่า
“ฟังกูดีๆนะ กูจะพูดครั้งเดียว” ซองอูเอ่ยตอบ “พรุ่งนี้จะมีการแข่งขันภารกิจแรกใช่มั้ย ไม่ต้องตอบ แค่ฟังกู—กูไปรู้มาว่าจะมีภารกิจให้ต่อสู้กับมังกร แล้วกูก็เอามาบอกมึง ถ้ารู้แล้วไปเตรียมตัวซะ” พูดจบ ซองอูก็ตบไหล่อีกคนอย่างแรก ก่อนจะชี้นิ้วใส่เมื่อเขาเห็นว่าคนตัวสูงกำลังจะอ้าปากเอ่ยอะไรบางอย่าง
“พอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น กูไม่อยากได้ยินเสียงมึง” ซองอูเอ่ยอีกครั้ง ก่อนจะยืดตัวขึ้นสูงแล้วสูดหายใจลึก
ก่อนเขาจะรีบวิ่งออกมาจากสวนอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนที่เพิ่งตื่นนอนได้แต่มองตามใบด้วยใบหน้างุนงง
“เอาวะเพื่อนเรา เขามาหาถึงที่เลยครับ” เสียงของจูจินอูเป็นตัวปลุกให้แดเนียลออกมาจากภวังค์ พร้อมกับหันไปยกยิ้มมุมปากใส่มัน
“เมื่อกี้เขามาว่าไงบ้างวะ” คิมซังบินและเพื่อนๆเดิร์มสแตรงก์หันตัวมาหาเขาทันทีที่เห็นแผ่นหลังของเด็กกริฟฟินดอร์คนนั้นลับตาไป
ใครว่าพวกเขาไม่ได้ยินกันละ? สองคนนี้ไม่ได้คุยกันเสียงดังหรอก แต่เพราะบริเวณนี้มันเริ่มเงียบแล้ว แค่เสียงคนคุยกันเบาๆมีหรอที่จะไม่ได้ยิน แต่แค่ไม่ได้ยินเท่านั้นว่าคุยอะไรกันบ้าง ได้ยินแต่เสียงความรักที่ลอยฟุ้งไปทั่วสวน
“เมื่อกี้เขามาคุยกับใคร” คังแดเนียลเอ่ยถาม
“มึงไง” ซังบินเอ่ยตอบพร้อมกับชี้นิ้วไปที่เพื่อนตัวเอง
“แล้วมันเป็นเรื่องของใคร?”
“เรื่องของ—ไอแดน!!!” ซังบินที่ถูกเพื่อนหลอกด่าได้แต่สบถอย่างหงุดหงิดก่อนจะโดนคนอื่นหัวเราะด้วยความสะใจ
“ไอคุณชายมันร้ายวะ” ซองรีเอ่ยต่อ
“ผมแปลกใจจริงๆที่พี่ไม่อาละวาดตอนมีคนกวนตอนหลับ หรือ เพราะเป็นพี่คนนั้น?” จีฮุนที่กำลังนั่งเขย่าลูกแก้วในมือไปมาเอ่ยถามขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มล้อเลียน
ที่ถ้าเป็นคนอื่นๆที่ไม่ใช่จีฮุนคงจะโดนไอคุณชายแห่งเดิร์มสแตรงก์โบกหัวไปคนละทีสองที ที่บังอาจมาล้อเลียนเจ้าตัว
แต่เพราะเป็นจีฮุน สิ่งที่แดเนียลทำก็แค่ชี้หน้าคาดโทษเท่านั้น
โคตรสองมาตรฐาน
แดเนียลไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่อมยิ้มน้อยๆเท่านั้น
นั่นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าทำไมคงขี้หงุดหงิดแบบคังแดเนียลถึงไม่แสดงอารามณ์หงุดหงิดออกมาตอนที่คนตัวบางจากกริฟฟินดอร์คนนั้นมาปลุกให้ตื่น แถมยังมีหน้ามาอมยิ้มจนแก้มแทบปริอีก
“เออ อาจารย์เอาหนังสือมาให้มึงเมื่อกี้ตอนมึงหลับอยู่” จินอูเอ่ยพูด พร้อมกับโยนหนังสือใส่คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“หนังสืออะไรวะ?” คังแดเนียลเอ่ยถาม
“คู่มือเกี่ยวกับมังกรมั้ง กูไม่รู้ แต่ดีนะที่อาจารย์เราแอบไปรู้มาว่าภารกิจแรกคือมังกร ไม่งั้นมึงก็จะไม่ได้เตรียมตัวแบบนี้แน่นอน” คนตรงข้ามเขาตอบอีกครั้ง
คังแดเนียลมองหนังสือในมืออย่างอารมณ์ดี พลางคิดไปถึงคนที่มาพูดจาอะไรแปลกๆกับเขาเมื่อกี้ด้วย
สงสัยจะไม่มีใครบอกองซองอูสินะว่า โรงเรียนที่รู้ก่อนโรงเรียนแรกคือเดิร์มสแตรงก์และเป็นเขาเองที่เป็นคนไปบอกตัวแทนของฮอกวอตส์ที่ชื่อฮวังมินฮยอน และเจ้านั่นคงไปบอกตัวแทนของโบบาตงซ์เรียบร้อยแล้ว
เท่ากับว่าตัวแทนทั้งสามคนรู้เรื่องภารกิจมังกรกันหมดแล้ว
แต่ถึงจะรู้แล้ว เขาจะถือว่าคำพูดของอีกคนเมื่อกี้เป็นกำลังใจที่ทำให้ไม่ว่าเขาจะได้มังกรพันธุ์ไหนเป็นคู่ต่อสู้เขามั่นใจว่าจะชนะมันและเอาไข่มาได้แน่นอน
เพราะอีกคนต้องรีบร้อนมาบอกเขามากแน่ๆ
สังเกตได้จาสลิปเปอร์ขององซองอูทีข้างซ้ายเป็นสลิปเปอร์สีดำเรียบๆ แต่อีกข้างเป็นสลิปเปอร์เป็ดสีเหลืองหัวโต บ่งบอกได้เลยจ้าตัวไม่ได้แต่จะสนใจการแต่งตัวของตัวเองเลย
และนั่นมันโคตรน่ารัก
องซองอูต้องเลิกทำให้เขาชอบมากขึ้นสักที
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเจออีกคนเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ไม่รู้แล้วจริงๆว่าคังแดเนียลตกหลุมที่ชื่อว่าองซองอูไปแล้วกี่ครั้ง
แต่ที่รู้ตอนนี้คือเขากำลังไม่อยากปีนขึ้นมาจากหลุมอีกแล้ว :)
"องซองอูโว้ยยยยย นี่มึงเดินหรือคลานเนี่ย"
"ถ้าไปถึงแล้วไม่ได้ที่นั่งดี
เสียงเพื่อนรักของเขาทั้งสองดั
ซองอูเบะปากใส่ยงกุกและดงฮยอนที่
ถ้ามีไอยองมินด้วย บอกเลยว่าองซองอูคนนี้จะไม่ได้
แต่น่าจะถูกยำเละแทน
"ใจเย็นได้ป่ะวะ ที่นั่งเขาก็ต้องจัดให้พอดีกั
"ไม่ได้ เวลาของกูมันเป็นทองแกลเลียน" ยงกุกที่เดินนำหน้าอยู่หันมาตอบ
"พี่ยงกุก" ก่อนจะมีเสียงเรียกชื่อไออากงดังขึ้
องซองอูหันหน้าไปมองพร้อมกับเพื่อนทั้งสอง ก่อนเขาจะไอค่อกๆแค่กๆออกมาอย่
จะเป็นใครได้ นอกเสียจากเมียเด็กของเพื่
คิมชีฮยอน ปีสาม สลิธีริน
"น้องชีฮยอน~~" เพื่อนรักนับเบอร์วันแบบเขามี
"ผมเรียกพี่ยงกุกครับ ไม่ใช่พี่" น้องชีฮยอนเอ่ยตอบเขา ก่อนจะย้ายร่างตัวเองไปหาคนที่
เขาหันมองหน้าไอยงกุกก่อนจะหันไปส่งสายกับดงฮยอนเป็นอันรู้กัน
วิญญาณอากงเข้าสิงเพื่อนกุกอีกแล้วครับผม
"อะไร" ยงกุกเอ่ยตอบ แต่ไม่ได้หันมามองคู่สนทนาแต่
ท่าทางแบบนั่นทำให้ทั้
"ผมดีใจที่พี่ไม่ได้รับเลื
"อืม" ยงกุกเอ่ยตอบเสียงเรียบแต่เจ้
ไม่อยากจะเม้าเพื่อนหรอกครับ แต่เห็นมันเก็กท่าทางขรึมแบบนั้นแล้วโคตรน่าหมั่นไส้
แล้วเวลามันเจอน้องชีฮยอนทีไรชอบทำเป็นนิ่ง กลายเป็นหนุ่มคูลๆ ขึ้นมาทันที
จนทำให้พวกเขาเคยคุยกันว่าอยากจะไปแอบดูเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทีบ้านลำพังจริงๆ ว่าไอแปะคิมยงกุกมันยังนิ่งอยู่แบบนี้ได้ไหม เพราะนี่ขนาดอยู่กันโล่งๆที่โรงเรียน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่ใช่น้อยๆ น้องชีฮยอนก็ยังออดอ้อนออกเซาะไม่ต่างจากแมวรักของมันเลย
นี่ถ้าเขาไม่ฉลาดสักหน่อยคงจะคิดว่าเจ้าแมวผีที่ไม่ชอบอยู่ที่ห้องนั่นคือน้องชีฮยอนไปแล้ว
ซองอูเบะปากมองเพื่อนตัวเองก่
แล้วสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคื
“สั่นไปหมดแล้วทำไงดี” เสียงของเด็กหนุ่มที่กำลังนั่งลูบมือตัวเองไปมาเอ่ยพูดขึ้น พร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง เรียกให้คังแดเนียลต้องเอื้อมมือไปลูบหลังอีกคนอย่างแผ่วเบา
“ใจเย็นนะ” คิมชองฮาที่กำลังควงไม้กายสิทธิ์อยู่เอ่ยตอบไป ก่อนเต็นท์ของตัวแทนจะถูกเปิดออกอย่าแรง พร้อมด้วยร่างของศาสตรจาย์โบอา และอาจารย์ใหญ่ของทั้งสองสถาบันที่ค่อยๆเดินเข้ามา พร้อมด้วย มิสเตอร์จอห์นนี่คัง รัฐมนตรีของกระทรวงเวทย์มนต์ของอเมริกา
หรืออีกชื่อคือพ่อของเขานั่นเอง
คังแดเนียลอมยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินลากเท้าช้าๆตรงไปหาคนที่ยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ทั้งคู่กอดกันแน่น เอ่ยพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มที่ทำให้คนมองยิ้มตามได้อย่างง่ายได้ แต่ก็ต้องหยุดฮิปโปรกริฟฟ์ไว้ก่อนศาสตราจารย์โบอาส่งเสียงพูดขึ้นมา
“เอาละ นี่ก็ใกล้เวลาเริ่มภารกิจแรกแล้ว ตัวแทนทั้งสามมายืนรวมกันตรงนี้ด้วย” พูดจบ แดเนียลก็ละออกมาจากพ่อตัวเองเพื่อเดินตรงไปยังที่ศาสตราจารย์โบอายืนอยู่
หากนับจากทางด้านซ้ายของเธอ ก็จะเป็นคิมชองฮา เขา และฮวังมินฮยอน ในมือของศาสตราจารย์โบอามีถุงใบใหญ่ที่มันขยับไปมาเหมือนกันมีอะไรอยู่ในนั้น
ก่อนเธอจะเอ่ยอีกครั้ง
“ในนี้จะมีตัวแทนของมังกรที่เธอจะต้องต่อสู้ด้วย จำไว้ว่าสิ่งที่พวกเธอต้องนำมาคือไข่ของมัน—ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเธอไม่ได้ไข่มา ภารกิจหน้าเธอก็จะไม่ได้เข้าร่วม และที่สำคัญ ใครที่สามารถแสดงทักษะการใช้เวทย์มนต์ได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดจะได้รับคะแนนจากกรรมการไป คะแนนที่พวกเธอจะได้ในภารกิจนี้ผลต่อภารกิจหน้า เพราะฉะนั้น อย่ายอมแพ้ถ้าเธอยังไม่ได้ลองทำอะไรสักอย่าง จำไว้ว่าพวกเธอถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของสามโรงเรียนที่ดีที่สุดแล้ว อย่าทำให้เพื่อนๆของพวกเธอผิดหวัง” ศาสตราจารย์เอ่ยร่ายยาว ก่อนเธอจะยื่นถุงไปตรงหน้าของคิมชองฮา
คิมชองฮามองอย่าลังเลใจ ก่อนจะโดนศาสตราจารย์บาดาที่ยืนอยู่ด้านหลังบีบไหล่เป็นกำลังใจ เธอจึงเอื้อมมือลงไปในนั้น พร้อมกับหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาด้วย
“พันธุ์นอร์เวย์หลังเป็นสัน—ถือว่าเธอโชคดีนะคิมชองฮา” ศาตราจารย์โบอาเอ่ยพูด พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้
แล้วเธอก็หันมาหาคังแดเนียลที่ยืนอยู่ข้างกันไม่ไกล
เขาเอื้อมมือลงไปอย่างไม่ลังเล ควานหาบางอย่างในนั้น เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังทิ่มมือเขาก่อนจะหยิบมันขึ้นมา
“ปีศาจเป็นพยาน! นั่นมันพันธุ์จีนลูกไฟ!” เสียงของศาตราจารย์โบอาดูตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนเธอจะเปลี่ยนจากสีหน้าตกใจเมื่อครู่เป็นรอยยิ้มที่หวานหยดเหมือนเดิม
เขามองเจ้ามังกรสีแดงในมือก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง
เท่าที่ได้อ่านจากหนังสือของศาตราจารย์ท็อปเมื่อคืนนี้แล้ว เขารู้สึกว่าเจ้ามังกรพันธุ์นี้ดุร้ายมาก และหากยิ่งเป็นตัวเมียก็จะดุร้ายมากกว่าเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าคนที่จะปราบมันได้หากไม่เก่งพอก็ต้องฉลาดที่จะวางแผน
เขาแอบแปลกใจนิดหน่อยที่กระทรวงเวทย์มนต์อนุญาตให้เจ้ามังกรดุร้ายนี่เข้ามาร่วมในการแข่งขันด้วย
แต่ในเมื่อเขาจับมันขึ้นมาได้แล้ว ก็คงจะต้องเอาชนะมันและทำภารกิจให้สำเร็จเพื่อนำชัยชนะมาให้กับเดิร์มสแตรงก์ให้ได้
เขาได้ยินศาตราจารย์โบอาพูดว่าตัวแทนจากฮอกวอตส์ฮวังมินฮยอนจับได้พันธุ์เปรูเขี้ยวพิษ ก่อนเจ้าตัวจะทำหน้าอย่างพึงพอใจ
“มิสคิมชองฮา เธอจะได้เริ่มเป็นคนแรก เตรียมตัวไปนำไข่มาเมื่อได้ยินเสียงปืนใหญ่” สิ้นเสียงศาตราจารย์โบอา พวกคณะอาจารย์รวมทั้งพ่อเขาก็เดินออกไปจากเต็นท์ รออยู่ไม่นานเสียงปืนใหญ่ก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างของคิมชองฮาในลุดวอร์มสีฟ้าสลับขาว เส้นผมสีอ่อนของเธอถูกมัดรวบตึง ก่อนจะเดินออกไปนอกเต้นด้วยท่าทางที่มั่นใจ จนทำให้เขาและฮวังมินฮยอนหันมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่คล้ายกัน
เธอช่างดูแมนกว่าพวกเราเสียอีก
“นายดูไม่กังวลคังแดเนียล” อยู่ๆมินฮยอนก็เอ่ยพูดกับเขา ระหว่างการต่อสู้อันดุเดือดของคิมชองฮาด้านนอก ทั้งเขาและมินฮยอนก็อยู่ไม่สุขเสียเท่าไหร่ แต่จริงๆเรียกได้ว่าแค่เจ้าพรีเฟ็คเรเวนคลอคนนั้นดีกว่าที่เอาแต่เดินวนไปมารอบเตียงตัวเองจนเขารู้สึกมึนหัวแทน แถมยังต้องเอ่ยปรามเป็นระยะว่าให้ใจเย็น
“ก็กังวล แต่ผมไม่จำเป็นต้องแสดงออกมา” เขาตอบ พร้อมกับขยับถุงมือไปมาให้พอดีกับมือเขา
“ฉันได้ยินว่านายสนใจในตัวองซองอูงั้นหรอ” มินฮยอนเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเพื่อลดความตื่นเต้นของเขา คังแดเนียลหันมองหน้าอีกคน ก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“นายรู้หรอ?”
“รู้ตั้งแต่ที่นายไปหอมแก้มเจ้าบ้านั่นแล้ว” อีกคนตอบ เรียกรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าของคังแดเนียลได้เป็นอย่างดี
“พี่น้องบ้านนี้น่ารักดีนะ ถึงซองอูมันจะดูแมนๆบ้าๆไปหน่อย แต่มันก็อ่อนไหวใช่เล่นเลย”
“อ่อนไหว??”
“ฉันหมายถึงว่าขี้แยอะไรประมาณนี้” มินฮยอนเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนเขาจะกระเด้งตัวขึ้นมายืนตรงเมื่อได้ยินเสียงพูดของศาสตราจารย์โบอา
“ตัวแทนของโบบางตงซ์คิมชองฮา สามารถขโมยไข่มาได้สำเร็จ ขอเสียงปรบมือ!” เธอเอ่ยพูด “ตัวแทนคนต่อไป ฮวังมินฮยอน ตัวแทนจากฮอกวอตส์”
แดเนียลลุกขึ้นไปตบหลังอีกคนเบาๆ พร้อมกับดันหลังให้รีบเดินออกไปโดยเร็ว
คล้อยหลังจากฮวังมินฮยอนเดินออกไปจากเต็นท์ เขาได้ยินเสียงมังกรคำรามพร้อมกับ เสียงโห่ร้องเรียกชื่อของเจ้าตัวดังไปทั่ว
นี่เขาเริ่มจะรู้สึกตื่นเต้นแล้วให้ตายสิ
“เจ้ามังกรนั่นมันดุมากเลยโว้ย” องซองอูเอ่ยออกมาเสียงดัง หลังจากที่การต่อสู้กับมังกรของตัวแทนคนที่สองจากฮอกวอตส์จบไปแล้ว ร่างสะบักสะบอมของฮวังมินฮยอนก็ถูกหน่วยพยาบาลลากออกไปอย่างรวดเร็ว ในมือของมันยังกอดไข่ใบโตไว้แน่น
“แต่มันอึดใช่เล่นนะ โดนฟาดไปตั้งหลายทียังลุกขึ้นมาสู้ต่อได้” อิมยองมินหันมาพูดกับเขา ก่อนจะได้รับการพยักหน้าตอบกลับไป
“แต่คนต่อนี่สิครับ”
“ทำไมครับเพื่อนกุก”
“เดี๋ยวคอยดูนะครับ เพื่อนเราต้องพุ่งลงไปสู้กับมังกรแทนแน่ๆเลยครับ” เสียงไอเพื่อนรักทั้งสอง ที่ยังเขาขากันได้ดีไม่หยุดเอ่ยพูดไปมา ก่อนจะหันไปหัวเราะคิกๆคักๆกันสองคน
ปั๊ก!!
“โอ๊ย!!! / โอ๊ย!!!” มันทั้งคู่ร้องออกมาเสียงดังพร้อมกัน ด้วยฝีมือขององซองอูคนแมนคนนี้นี่เอง
เขายกแผ่นไม้ที่เขียนว่าฮอกวอตส์ที่กำลังถืออยู่ขึ้นมาตีลงไปบนหัวทั้งสองด้วยแรงที่เบานัก
“ไออง! เจ็บนะโว้ย”
“เจ็บก็ดี จะได้เงียบสักที กูรำค๊าญ” ซองอูเอ่ยตอบ
“เดี๋ยวนี้เขินแล้วเล่นแรงนะมึงอ่ะ หัวกูจะแตกไหมเนี่ย” ดงฮยอนพูดต่อ พร้อมกับลูบหัวตัวเองมา
“พอแล้วพวกมึง ไปแกล้งไอซองอูมัน” ยองมินที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยพูดขึ้น
ซองอูหันมองเพื่อนหัวแดงของเขาด้วยใบหน้าที่ปริ่มความรัก แล้วเขาก็ซบไปที่หลาดไหล่กว้างของมัน
“ใช่ๆๆ พี่ยองมินของน้องอ๋ง” เขาพูดต่อ
“อย่าให้กูพูดนะยองมินนนน” ก่อนเสียงของดงฮยอนจะดังขึ้น ทำให้ไอหัวแดงรีบผลักหัวเขาออกจากไหล่มัน พร้อมกับสีหน้าเลิ่กลั่ก
“งั้นเชิญมึงแกล้งมันตามสบาย”
“ไอเพื่อนเลววว”
“ต่อไป ผู้แข่งขันคนสุดท้าย ตัวแทนจากเดิร์มสแตรงก์ คังแดเนียล!” เสียงศาตราจารย์โบอาดังขึ้น ก่อนเขาทั้งสี่จะหยุดต่อล้อต่อเถียงกัน แล้วหันไปมองภาพตรงหน้าต่อ
ซองอูเพ่งสายตามองอีกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากเต็นท์ที่พักของตัวแทน ร่างสูงในชุดลำลองสีแดงเลือดหมูสลับกับสีครีม พร้อมกับเส้นผมที่ปลิวสไวเมื่อถูกกับลม
“คังแดเนียล! คังแดเนียล! คังแดเนียล!” เสียงเรียกชื่อคนตัวสูงดังระงมไปทั่ว ก่อนเจ้าตัวจะเดินออกมาช้าๆ พร้อมกับหันซ้ายหันขวามองหามังกรไปด้วย
แต่ยังไม่ทันได้ออกมาจากจุดที่อีกคนยืนอยู่ มังกรสีแดงตัวใหญ่ก็ถูกปล่อยมา พร้อมกับเสียงคำรามของมันที่ดังกึกก้องไปทั่วสนามแข่ง
เสียงหายใจฟึดฟัดของมันทำให้แลดูน่ากลัวไม่ใช่เล่น ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าตัวเมื่อกี้ของมินฮยอนซะอีก เพราะเจ้านี่มันทั้งตัวใหญ่ แถมยังดูดุมากอีกด้วย
ซองอูกำมือแน่นเมื่ออีกคนพยายามที่จะเดินอย่างช้าๆเข้าไปหาไข่ทองคำที่วางไว้อยู่ตรงกลาง แต่แค่แดเนียลขยับตัว เจ้ามังกรนั่นก็ฟาดหางมันลงตรงหน้าอีกคนทันที
“โอ๊ย น่ากลัวชะมัด” เสียงของดงฮยอนเอ่ยพูดกับเขา
ซองอูไม่ได้สนใจในสิ่งที่เพื่อนตัวเองพูดเลย เขาเอาแต่จ้องอีกคนไม่วางตา ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน เขาแค่รู้สึกว่าถ้าคนตัวสูงอยู่ในสายตาตลอดเวลามันจะทำให้เขาสบายใจขึ้นมา
และเมื่อได้โอกาสเหมาะ คนตัวสูงก็รีบวิ่งจากจุดที่ยืนอยู่ตรงไปที่หินก้อนใหญ่ที่จะเป็นเกาะกำบังให้เขาได้ ซึ่งนั่นมันก็ตรงกับที่องซองอูยืนอยู่พอดิบพอดี ทำให้เขามองเห็นอีกคนได้อย่างชัดเจน
และคังแดเนียลก็เหมือนรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ เพราะอีกคนเอาแต่ส่งสายตามองเขาอยู่ตลอดเวลา
‘ระเบิดหินด้านหลังดึงความสนใจมันซะ’
เขาคิดในใจตอนที่กำลังมองหน้าอีกคน พลางภาวนาให้อีกคนสามารถใช้คาถาอ่านใจได้ทีเถอะ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่เขาจะช่วยอีกคนได้แล้ว
คังแดเนียลพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบ ทำให้คนที่อยู่บนแสตนยิ้มออกมากว้าง
“รีดัคโต!” เสียงของคังแดเนียลที่เปล่งคาถาออกมาดังก้องไปทั่ว พร้อมกับหันไม้กายสิทธิ์ไปด้านหลังของมังกร ทำให้คาถาไปโดนกับหินที่อยู่ด้านหลังมันเต็มๆ ก่อนหินนั่นจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ทำให้เศษชิ้นส่วนบางอย่างกระเด็นถูกเจ้ามังกรสีแดง ทำให้มันละสายตาจากแดเนียลไป
เป็นโอกาสเหมาะให้เขาได้วิ่งเข้าไปใกล้ไข่ทองคำที่วางอยู่ แต่เพราะเจ้ามังกรฉลาดเกินไป มันหันกลับมาที่คนตัวสูงในเวลาที่รวดเร็ว พร้อมกับเปิดปากของมันออกกว้าง ก่อนจะพ่นลูกไฟออกมาในทันที
คังแดเนียลที่มองเห็นอย่างนั้นก็รีบไถลตัวลงไปกับพื้น ทำให้ตัวของเขากลิ้งหล่นไปตามช่องว่างของซอกหิน
“โอ๊ย” เขาร้องออกมาเสียงไม่เบา นั่นทำให้คนที่อยู่บนแสตนเชียร์ชะโงกหน้ามองอย่างตกใจ
ก่อนเจ้ามังกรจะสะบัดตัวเอาหินออก แล้วกางปีกบินขึ้นไปหาที่คังแดเนียลหลบอยู่ แล้วมันก็ตรงปรี่เข้าไปหาอีกคนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟาดหางใส่อย่างรุนแรง ถึงคนตัวสูงจะหลบได้ แต่เมื่อหางของมันไปกระแทกโดนหินก็ทำให้หินพวกนั่นแตกไปชิ้นๆและกระเด็นมาใส่เขา
เล่นเอาเจ็บไม่ต่างกัน
และมันคงจะเหนื่อยที่จะสะบัดหางแล้ว ถึงหยุดนิ่งอยู่แบบเดิม แต่ไม่กี่วิถัดมามันกลับร้องคำรามแล้วพ่นไฟออกมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว คังแดเนียลรีบหาที่กำบังอย่างรวดเร็ว แต่เพราะเจ้ามังกรนั่นพ่นไฟออกมาอย่างรวดเร็วจึงทำให้แขนของเขาถูกไฟถากไปจนเกิดเป็นรอยแผลใหญ่
“เจ็บชะมัด” แดเนียลเอ่ยเสียงเบา ก่อนจะคิดแผนที่จะจัดการเจ้านี้แบบที่เขาไม่ต้องเจ็บตัวไปมากกว่านี้ ระหว่างนั้น มังกรก็ไม่หยุดที่จะพ่นไฟ และฟาดหางใส่เขา
“ดื้อด้านจริงๆ” เขาหันลองมองมันจากรอยแตกของหิน ก่อนจะมองเห็นหินใหญ่ยักษ์ที่อยู่ด้านบนของหัวของมันแบบพอดิบพอดี แดเนียลยกยิ้มเมื่อคิดแผนดีๆได้แล้ว
“ขอโทษทีแล้วกันนะที่ยื้อเกมนานไปหน่อย” เขาเอ่ยพูดเสียงดัง พร้อมกับหลบตัวออกมาจากทีกำลังแล้วชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ก้อนหินก้อนนั้น
“ลงนรกไปซะ!” สิ้นเสียงเขา ก้อนหินก้อนใหญ่ก็กลิ้งลงมาตามทางจนพุ่งตรงเข้ากับที่มังกรอยู่พอดี และเพราะโซ่เหล็กยาวที่กำลังล่ามมันไว้อยู่อยู่ถูกเขาเสกให้มันไปอยู่ใต้หินก้อนที่ใหญ่ไม่ต่างกันตอนที่มันกำลังสนใจแต่จะทำร้ายเขา จึงทำให้เจ้ามังกรไม่สามารถหนีไปไหนได้
เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินคือเสียงมันคำรามดังลั่น ก่อนจะถูกเสียงคนดูบนแสตนโห่ร้องดีใจอย่างดีใจ
คังแดเนียลตรงไปที่ไข่ทองคำ ก่อนเขาจะคว้ามันขึ้นมาแล้วยกขึ้นเหนือหัว แล้วกดจูบลงบนหินอย่างแรง
พร้อมกับส่งสายตาไปหาคนที่ยืนเมินหน้าใส่เขาอยู่บนแสตน ราวกับว่าก่อนหน้านี้เจ้าตัวไม่ได้ส่งสายตาว่าจะลงมาสู้กับมังกรแทนเขาเลย
ดูเหมือนว่าปราบมังกรจะง่ายกว่าปราบองซองอูเสียอีก
-talk-
มาครบแล้วนะคะะะะะ
มาช้าไปหน่อย แต่มาเวลาปกตินะคะ 555555555 ทำไมเป็นองเนียลแล้วเราแต่งยาวตลอดเลย ช่วยด้วย 555555555
ขอบคุณทุกการติดตามอีกครั้งนะคะ
มีใครไปมีตบ้างไหมเอ่ย เหมือนคุณกึ้งจะเจ็บแค้นเคืองโกรธเราเลย จะทีม #เจนี่ แล้วนะ 555555555
แอบกระซิบว่าเราอาจจะไปแจกฟิคตอนพิเศษที่งานด้วยแหละ จะมาแจ้งอีกทีนะคะ (เป็นตอนที่อาจจะไม่ลงในบทความ)
และ พ่ามพ้ามมมม
ฟิคเราติดอันดับแล้วนะคะ ฮือ ขอบคุณมากนะคะที่มาบอก เราไม่ได้เช็คเลยจนมีรีดมาบอก ฮือ ขอบคุณมากๆค่ะ ขอบคุณที่สนใจในฟิคเรา
*อัพเตล่าสุดเหมือนจะปลิวหายไปแล้วนะคะ 555555555555
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เคยติดครั้งนึงก็น้ำตาจะไหลแล้ว ฮืออออ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ จะเข้าถึงช่วงไคลแมกซ์แล้วน้า ฮือ เกือบจะถึงกลางเรื่องแล้วนะคะทุกคน ใกล้แล้ว
อยู่กันไปจนจบเลยนะคะ
รักทุกคน จุ้บๆๆ เจอกันตอนหน้านะคะ
ปล.คำผิดตอนนี้ท่าจะเยอะเพราะเรายังมึนๆอยู่เลย 5555555555
ปลล. ไปเล่นแท็กกันนน #MiracleMW อยากพูดคุยกับทุกคนนน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปราบแมวดื้อแบบพี่ซองอูมันก็จะยากๆหน่อยนะแดเนียล
ห่วงเขาขนาดนั้นเลยนะคะ แต่ปากมันแข็งๆอะเน้อ งี้แหละนะคะ คนหล่อก็ต้องฟอร์มนิดนึงเนอะลูกเนอะ /สปอยล์ลูกชายเว่อ 55555
ขอกลัวน้องชีด้วยคนได้มั้ยคะ น้องดูน่ากลัวหรือว่าน้องจะเป็นแมวผี55555555
จนตอนนี้ซองอูเค้าก็ยังจำเรื่องราวในวัยเด็กไม่ได้ เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นเรื่อชาติแล้วป่ะ ถึงไม่เกทซักทีเนี่ย555555555555 มึนๆอึนๆกันทั้งสามพี่น้องจริงๆ
อยากให้ซองอูรู้แล้วว่าเพื่อนนางที่ชื่อยองมินกำลังจะขโมยน้องไปจากอก /ชอบใจนัก อยากรู้ว่าพี่แกจะมีปฏิกิริยายังไง55555
อยากจะแหม~อ๋งอ๋งไปให้ถึงดาวลูกไก่ คนซึน2017 ห่วงเค้าแต่ก็ปากแข็ง ชิส์ๆๆๆๆ
คอนเกรตค่ะไรท์ ยินดีด้วยยยยยที่ติดtop100แล้วววว ดีใจๆๆๆ
มีความแอบช่วยเค้าา
รออออ