คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เริ่มเคล้าอุดมการณ์
ตรินภพ เรียนสถาปัตย์ ปี ห้า ใจร้อน ขี้หงุดหงิด มีโลกส่วนตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใคร มีศิลปะ หน้าตาดี คมเข้ม เป็นขวัญใจของสาว ๆ ทั้งสาวเล็ก สาวใหญ่ สาวแท้และสาวเทียม
ตริณภพโตมาด้วยกันกับโต้ง เนื่องจากพ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุรถตกเหวตายเมื่อครั้งที่เขายังเด็ก และยังจำความไม่ได้ พ่อของโต้งซึ่งเป็นเพื่อนรักของพ่อตริณภพ รับตริณภพมาเลี้ยงเหมือนกับลูกแท้ ๆ ของตน ความรัก ของเล่น เสื้อผ้า ทั้งตริณภพและโต้งมักจะได้รับในสัดส่วนที่เท่า ๆ กันเสมอ ยกเว้นหน้าตา ที่โต้งไม่ได้ครึ่งหนึ่งของ ตริณภพเลย ส่วนลีลาการพูดจาของตริณภพก็สู้โต้งไม่ได้เช่นกัน ทำให้สองหนุ่มไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก
ตรินภพพักอยู่คอนโดหรู ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ มีเครื่องเฟอนิเจอร์ครบครัน ภายในห้องตกแต่งด้วย ผลงานภาพวาด ภาพเขียนเกี่ยวกับเวียดนาม เช่น ภาพวาดเมืองฮานอย เมืองแห่งความหรูหราสง่างามที่หาที่ใดเสมอเหมือนมิได้อีกแล้วในเอเชีย เมืองเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม แฝงเร้นไว้ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน เงาอดีตของฮานอยย้ำเตือนให้รำลึกถึงเสน่ห์ของวันวานและชวนเชิญให้สืบสานถึงปริศนาอันน่าพิศวง เงาอดีตของฝรั่งเศสเกาะกุมวิถีชีวิตชาวเวียดนาม ราวกับตะไคร่น้ำที่แทรกตัวอยู่ทุกหนบนกำแพงเก่าของตัวเมือง
นอกจากนี้ภาพวาดเมืองฮานอยของเขายังมีมุมทะเลสาบกลางใจกลางเมืองซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตำนานอันหลากหลายที่เล่าขานสืบต่อกันมาที่จะทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมอันแท้จริงของฮานอย เช่น ตำนานเต่าสีทองที่ผุดขึ้นจากใต้ผืนน้ำของทะเลสาบแห่งนี้ เพื่อถวายดาบวิเศษแด่พระราชาสำหรับใช้ขับไล่ศัตรูที่มาจากตอนเหนือของประเทศในราวคริสต์ศตวรรษที่ 15
เมื่อ ตรินภพกลับมาถึงคอนโดก็ หงุดหงิด ขว้างปาข้าวของกระจัดกระจาย และเมื่อคว้ารูปนกพิราบขึ้นมาก็ชะงัก พร้อมกับนึกถึงความหลัง เมื่อครั้งที่ตรินภพยังคบอยู่กับเรณุกา พวกเขาเคยมีความสุขด้วยกัน ในช่วงฤดูการแข่งว่าวที่ลานสระน้ำในสวนสาธารณะที่ติดกับมหาลัย ตริณภพได้ทำว่าวนกพิราบให้กับเรณุกา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักของตนที่มีต่อเรณุกา เขาบอกว่า "นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของความอิสระของเขาที่ไม่เคยมีใครมาพรากได้ แต่เรณุกาเป็นคนแรกที่เขายอมผูกเสรีภาพไว้กับหัวใจของเธอ เหมือนกับว่าวที่เขาสร้างขึ้นมาที่มีเชือกผูกอยู่ และยอมให้เธอเป็นผู้บังคับทิศทางให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางใดแล้วแต่ใจเธอต้องการ" แต่ตอนนี้ ตริณภพ คงได้แต่เก็บความทรงจำดี ๆ ระหว่างเขากับเธอไว้เท่านั้น เนื่องจาก เมื่อปีที่แล้วเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตกเมื่อครั้งเธอเดินทางไปศึกษาต่อปริญญาโทที่เวียดนาม
ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากที่เรณุกาเสียชีวิต ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเธอเขามักจะไปนั่งวาดรูปนกพิราบอยู่ที่ริมสระน้ำแห่งนั้นเสมอ เพื่อแสดงความรักต่อเธอ เขาไม่มีความคิดที่จะคบใครใหม่ถึงแม้จะมีผู้หญิงคนอื่น ๆ เข้ามาชอบ และตามตื้อเขามากแค่ไหนก็ตาม
พอเขาอารมณ์ดีขึ้นแล้วเขานึกขำความเปิ่นของหล่อน ที่เดินเทอเร่อเทอร่าเข้าไป พร้อมกับขำตัวเองที่ไปทะเลาะกับมายริยา สำหรับมายริยาแล้วหล่อนเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขาหงุดหงิด และหัวเราะได้ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ในแวบแรกเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแต่อีกความรู้สึกหนึ่งก็เหมือนกับว่าจะเป็นการทำผิดต่อเรณุกา
ตรินภพและมายริยาแวะเวียนไปที่บริเวณหน้าสระน้ำแห่งนั้นเป็นประจำแต่คลาดกันตลอด โดยแต่ละวันนั้นพวกเขาจะหอบหิ้วอาหารนกมาด้วยเสมอ บรรดาเหล่านกพิราบทั้งหลายเมื่อได้กลิ่นอาหารก็บินมารวมกันแน่นขนัดตา พอกินอาหารเสร็จนกเหล่านั้นต่างก็แยกย้ายกันไปทางใครทางมัน ก็เหมือนกับเขาและหล่อนคนหนึ่งเลี้ยวซ้าย อีกคนก็เลี้ยวขวา ผิดกันตรงที่นกเหล่านั้นไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนเขากับหล่อนเท่านั้นเอง
ตรินภพและมายริยาแวะเวียนไปที่บริเวณหน้าสระน้ำแห่งนั้นเป็นประจำแต่คลาดกันตลอด โดยแต่ละวันนั้นพวกเขาจะหอบหิ้วอาหารนกมาด้วยเสมอ บรรดาเหล่านกพิราบทั้งหลายเมื่อได้กลิ่นอาหารก็บินมารวมกันแน่นขนัดตา พอกินอาหารเสร็จนกเหล่านั้นต่างก็แยกย้ายกันไปทางใครทางมัน ก็เหมือนกับเขาและหล่อนคนหนึ่งเลี้ยวซ้าย อีกคนก็เลี้ยวขวา ผิดกันตรงที่นกเหล่านั้นไม่ได้ทะเลาะกันเหมือนเขากับหล่อนเท่านั้นเอง
เมื่อย่างเข้าสัปดาห์ที่สองของการเปิดเทอม บรรดาเหล่านักกิจกรรมทั้งหลายรวมตัวกันออกบูทเพื่อรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าชมรมของตน ซึ่งมีทั้งชมรมที่เป็นกลุ่มสัมมนาทางวิชาการ ชมรมกีฬา ชมรมค่ายอาสา
ทางด้านชมรมค่ายอาสา มีการแสดงละครในลักษณะเนียนกับชาวบ้าน บ้างก็ใส่หมวกทรงแหลมที่ผลุบโผล่อยู่ในนาข้าวเขียวขจีกลางเวที บ้างก็ใส่ชุดคนงานแบกปูน พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาเป็นเพลงที่ทุกคนคุ้นหูคุ้นตากันในแวดวงชาวค่าย
"เราอาสาพัฒนา ใจเริงร่าและสามัคคี
เราร่วมจิตอุทิศชีวิตพลี ผูกไมตรีเพื่อพี่น้องผองไทย "
หลังจากนั้นประธานชมรมขึ้นมากล่าวเชิญชวนน้อง ๆ เข้าชมรมและแจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรม รวมถึงแจกแจงลักษณะกิจกรรมเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของน้องใหม่
"ชมรมค่ายอาสา เกิดจากการรวมกลุ่มกันของเหล่านักศึกษาคณะต่าง ๆ แทบจะทุกคณะ เช่น แพทย์ พยาบาล ศิลปกรรม วิศวะ สถาปัตย์ รัฐศาสตร์ บัญชี เป็นต้น เพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคม ชมรมของเราไม่ได้สร้างเพียงถาวรวัตถุเท่านั้น แต่ชมรมของเราสร้างคู่รักมาทุกค่าย !"
"นี่ยัยแป้งเธอจะให้ฉันสมัครจริง ๆ เหรอ ฉันปีสามแล้วนะ เขาให้เฉพาะปีหนึ่งไม่ใช่เหรอยะ อีกอย่างให้ฉันไปขุดดิน ผสมปูนฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ เดี๋ยวมือด้าน" มายริยาพูด
"แหม ! ทำมาเป็นดัดจริตอยู่บ้านนอกแกก็ทำเป็นประจำไม่ใช่หรือยะ เห็นบ่นบอกว่าช่วยพ่อแบกกล้วยไปขายที่ตลาดเป็นประจำ อีกอย่างนะ แกจะไปอายทำไม นี่โอกาสดีของเธอแล้วนะ อย่าลืมสิว่าชมรมนี้นี้เขาสร้างคู่รักกันทุกค่าย แกก็ปาเข้าปีสามแล้วนะ อย่างน้อยแกก็มีโอกาสเจอคนมากหน้าหลายตา และแกอาจจะเป็นคนหนึ่งที่มีคู่ในค่ายนี้ก็ได้นะยะ" แป้งพูดไปพลางกระเซ้าให้มายริยาเข้าไปสมัคร
เมื่อได้ยินดังนั้นมายริยาไม่ลังเลที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชมรม ในใจของหล่อนคิดว่า "ชมรมนี้มีหลายคณะไม่แน่นะเราอาจจะเจอผู้ชายคนนั้นก็ได้"
"แหม ! ทำเป็นอิดออดไม่อยากสมัคร ในใจเธออยากที่จะสมัครเต็มประดาใช่มั๊ยละ ! ฉันรู้หรอกยะ ฉันอยู่กับแกมาสามปีแล้วนะ ทำไมฉันจะไม่รู้" แป้งกระแนะกระแหน พลางช่วยเพื่อนกรอกใบสมัคร
"จ้าแม่คนรู้ใจ แหม ! คนเราก็ต้องมีฟอร์มกันบ้าง ใครจะเหมือนแกละ เจอผู้ชายปั๊บแล้วก็ปิ๊งปุ๊บ ว่าแต่พี่โต้งของแกไปไหนแล้วละ ได้ข่าวว่าอยู่ชมรมนี้เหมือนกันนี่" มายริยาพูด
"ตอนนี้นะพี่โต้งเขาเรียนถาปัตย์ปีห้าแล้วนะยะหล่อน ไม่มีเวลามาถือโทรโข่งแหกปากเรียกคนให้มาสมัครอย่างนี้หรอก วันนี้เขาบอกฉันว่าเขาจะไปสมัครงานนะ" แป้งตอบพร้อมกับทำหน้าชื่นชมสุดฤทธิ์
"โอว ! แป้ง แกเคยได้ยินมั๊ยว่า มีแฟนเป็นเด็กสถาปัตย์ อย่างน้อยก็นอนตายตาหลับแล้วละ ว่าแต่พี่โต้งของแกนะมีเพื่อนบ้างปะ แนะนำให้รู้จักบ้างดิ " มายริยาพูดพลางทำตาโตอยากมีแฟนเป็นเด็กสถาปัตย์บ้าง
"แนะนำเพื่อนพี่โต้ง หรือ พี่โต้งให้รู้จักจ๊ะ" แป้งพูด
"ก็ทั้งสองนั่นแหละ มีอย่างที่ไหนมีแฟนแล้วไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จัก" มายริยาตอบ
พอสองสาวเดินสำรวจชมรมต่าง ๆ เสร็จแล้วก็ชวนกันเดินกลับหอ เมื่อเดินผ่านสนามฟุตบอลมายริยานึกขึ้นได้
"เออยายแป้ง ฉันมีเรื่องจะเม้า ! เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนะฉันไปเจอผู้ชายคนหนึ่งที่ริมสระน้ำฝั่งโน้นนะ โค ตระ หล่อ กำลังนั่งวาดรูปนกพิราบอยู่ ฉันนะคิดว่าต้องเป็นเนื้อคู่ฉันแน่ ๆ แต่แม่ง ! ปากสุนัขไม่รับประทานมากเลย หาว่าฉันเป็นคนไม่มีมารยาท ผู้ชายด่าผู้หญิงอย่างนี้ฉันว่า ไม่แมนแน่ ๆ เลยวะ สาธุ สาธุ ! ชาตินี้ขออย่าให้เจอผู้ชายอย่างนี้เลย !" มายริยาพูด
"ทำเป็นบ่น ถ้าหาได้อย่างนี้เอามั๊ย ?" แป้งค้อน
"เอาสิ ! แต่ที่ฉันเอาไม่ใช่เพื่อตัวฉันเองนะ เพื่อลูกต่างหากละ" มายริยาตอบ
"อย่าเล้ย ! ยัยมายริยา ฉันว่าแกน่าจะเป็นเป็นยีนเด่นนะ ว่าไปฉันสงสารลูกแกวะ" แป้งพูด พลางหัวเราะกันอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งเพื่อน
ความคิดเห็น