8 วิธีแก้อาการสะอึก>O - 8 วิธีแก้อาการสะอึก>O นิยาย 8 วิธีแก้อาการสะอึก>O<...อึ๊ก...อึ๊ก...! : Dek-D.com - Writer

    8 วิธีแก้อาการสะอึก>O<...อึ๊ก...อึ๊ก...!

    แก้การสะอึกนะครับ อึก อึก...... อีกแล้วเป็นตามเค้าไป แหะ แหะ

    ผู้เข้าชมรวม

    355

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    355

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ต.ค. 50 / 17:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

                    อึก...อึก...อึ๊ก โอ๊ยเมื่อไหร่จะหายซักที...มันน่ารำคาญ น้องๆเคยเป็นกันหรือเปล่าจ๊ะ สะอึกแล้วไม่รู้จาทำยังไงวันนี้พี่นัทมีวีธีแก้อาการสะอึกมาฝากจ้า แต่ก่อนอื่นน้องๆต้องรูก่อนว่าอาการสะอึกมันเกิดมาจากอะไรกันแน่ สะอึกเป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดจากกล้ามเนื้อหายใจ ส่วนกระบังลมและกล้ามเนื้อซี่โครงเกิดการหดตัวอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการหายใจเข้าอย่างแรง แต่ถูกหยุดชะงักด้วยการปิดของช่องสายเสียง ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น อ่ะงงอ่ะดิน้องๆ ขนาดพี่ยังงงเลย เอาเป็นว่าอาการนี้ะเป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติชนิดหนึ่งล่ะกานนะจ๊ะ แต่ไม่เป็นไรพี่นัทขอเสนอ 8 วิธีง่ายๆแก้อาการล่ะกันนะจ๊ะ

       


      1.    ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับลิ้นเอาไว้แล้วดึงออกมาข้างหน้าแรงๆ เพื่อช่วยเปิดหลอดลมที่ปิดอยู่
      2.     กลั้นหายใจเอาไว้โดยการนับ 1 – 10 แล้วหายใจออก จากนั้นดื่มน้ำตามทันที

       


      3.    ดื่มน้ำเย็นจัดช้าๆ โดยดื่มตลอดเวลา และกลืนติดๆ กัน ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการสะอึกหาย หรือจนกลั้นหายใจไม่ได้


      4.    เขี่ยภายในรูจมูกให้จาม
      5.     ให้พยายามกลืนน้ำตาลทรายขาวประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ

       


      6.      ทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธ ตื่นเต้น หรือกลัว
      7. ถ้าน้องๆลองทำ1-6แล้วไม่ดีขึ้น อาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อใช้ยาบางตัวช่วย เช่น Lagactil,Baclofen หรือกลุ่มยาช่วยย่อย เช่น Cisapride,Omperazole เป็นต้น

       

       

      8.แต่ถ้าวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วน้องยังไม่หายสะอึกพี่นัทขอแนะนำอีกวิธีนึงดีไหมจ๊ะ คือวิธีนี้อาจจะทำอยากหน่อยนะน้องๆ แบบว่าๆน้องๆคงจะต้องทำใจแล้วอ่ะนะ

      เป็นไงบ้างจ๊ะ สวยเลือกได้อย่างเราๆขนาดสะอึกยังมีวิธีแก้เลย 555+

                     

                         ที่มา : samunpai.com

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×