ห้องสมุดเวทย์มนต์ประจำโรงเรียน

ลำดับตอนที่ #3 : ประเภทของเวทมนต์

 การแบ่งชนิดเวทมนตร์แบ่งได้หลายประเภท ทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับวิธีใช้ สี(MoJo) หรือตามแนวคิดของคนสอน หรือตามการประมวลโดยรวม ฉะนั้นควรศึกษาให้รู้เฉยๆแล้วสรุปวิเคราะห์อีกที ไม่ใช่เชื่อว่ามันมีแต่ประเภทนี้อย่างเดียว 

2 หลักการใช้เวทมนตร์ ต้องศึกษาชนิดให้ดีก่อนเข้าใจในรายละเอียดลึกๆของการศึกษา

อันนี้Focusคร่าวๆ 
Celestial Magick; Ceremonial Magick, Contagious Magick; Defensive Magick; Destructive Magick; Enochian Magick; High Magick; Image Magick; Imitative Magick; Low Magick; Mortuary Magick; Natural Magick; Protective Magick; Sexual Magick; Sympathetic Magick and White Magick 


รายละเอียด 
1.Black Magick(มนต์ดำ) 
มนต์ดำ นั้นรายละเอียดมีกล่าวถึงไว้มากมายตามเวบต่างๆซึ่งในนิยามความหมายต่างกันทั้งนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับระดับของผู้ให้การนิยาม(ระดับทางศาสตร์มืด)หรือความเข้าใจของแต่ละบุคคล ซึ่งในนิยามต่างๆมีดังนี้ 

1.1นิยามของทั่วๆไป"มนต์ดำ คือ อำนาจในทางมืดมนของซาตาน ปีศาจ ความชั่วร้าย ใช้เพื่อเจตนาแห่งการทำลาย ทำร้ายผู้อื่น" 
นั่นคือความรู้เบื้องต้นจริงๆ หากรู้ขึ้นมาหน่อยก็ 

1.2"มนต์ดำ คือ อำนาจแห่งความมืด อ้างอิง ซาตาน ปีศาจ ความชั่วร้าย หากแต่ไม่ผิดต่อบาปเก้า(Nine satanic sin)และกฏปฏิบัติ 11(eleven satanic rule)" 

1.3"มนต์ดำ คือ อำนาจแห่งความมืดที่สนองตอบต่อความชั่วร้ายของตนเอง โดยที่ไม่ทำความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นผู้ใด (เหมือนปล่อยใจตามความชั่วไม่ควบคุม)" 
ถามว่า มนต์ดำนั้น ชั่วร้ายถึงกับต้องทำลายต้องกำจัดมั้ย? 
ตอบได้ว่า ถ้าอยู่กันอย่างสมดุลย์ก็ไม่ต้องหมายความถึง การมีอยู่ของขาวและดำที่ไม่อาจจะพรากจากกันได้หากแต่ไม่เหลื่อมลำกันมากเกินไปจนเสียสันติวิธีเท่านั้น ยามที่เสียสมดุลย์จึงค่อยมีปฏิกริยาตอบสนอง 



2.Celestal Magick (มนต์เกี่ยวกับดวงดาว) 
มนต์ชนิดนี้ หรือแขนงนี้เชื่อในดวงดาวที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ เช่น 
ดวงดาวที่จะมีทูตสวรรค์,อัครเทวดา(archangels)ประจำอยู่ ยกตัวอย่างคือ 
Tzaphkiel (Saturn); Raphael (Sun); Haniel (Venus); Michael (Mercury); Gabriel (Moon); Sandalphon (Earth). 
3.Ceremonial Magick(เวทมนต์เกี่ยวกับพิธีกรรม) 
นิยาม 
"เป็นการใช้ระบบพิธีกรรม,สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์,พิธีการเพื่อป็นสื่อแสดงถึงอำนาจธรรมชาติหรือโน้มนำอำนาจธรรมชาติมา"และบางแห่งก็กล่าวดว้ยว่า มนต์ทางพิธีกรรมนี้จะช่วยกระตุ้น,ปลุกเร้าประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ ด้วย เครื่องแต่งกาย เครื่องหอม พิธีสาบาน พิธีเฉลิมฉลองเป็นต้น 
ซึ่งในปัจจุบันระบบพิธีการนี้พัฒนาไปมากและมีคนนิยมมากด้วย(มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่อ่อนแอจำเป็นต้องมีกลุ่ม-ผู้เขียน*อ้างอิงสังคมศาสตร์) 
เช่นอาจจมีเรื่องน่าสนใจ อย่าง 
Key of solomon 
Lesser pentagram ritual 
Libellus Magicus 
On calling spirits 
An Approach To The Operation Of The Arbatel Of Magic 



4.Contagious Magick(มนต์แห่งการเชื่อมโยง) 
มนต์ชนิดนี้ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเพราะหลายคนอาจจะเคยเห็นแต่ไม่ทราบว่าเป็นมต์ชนิดนี้ หลักการคือ"การเชื่อมต่อต่อบุคคลนั้นด้วยวัตถุหรือวิธีใดก็ตาม หัวใจคือการต้องหาจุดเชื่อมโยงกับบุคคลที่จะโดนร่ายมนต์ใหได้)เช่น การครอบงำทางความคิด ,การใช้สว่นของเส้นผมมาทำของ,การใช้ตะปูฝาโลงทำคุณไสย เป็นต้น 



5.Defensive Magick(มนต์เกี่ยวกับการตั้งรับ) 
เป็นมนต์ที่ใช้สำหรับต้านทาน พิทักษ์ ให้รอดพ้นจากอำนาจที่จะมาทำร้าย 
(คล้ายๆprotection แต่จะแตกต่างกันในรายละเอียดลึกๆขั้นต้นบางตำราอาจผนวกเป็นอย่างเดียวกัน) 



6.Destructive Magick (มนต์เกี่ยวกับการทำลาย) 
เป็นแขนงที่แตกออกมาจากมนต์ดำ(ฉะนั้น จึงจะกล่าวหาว่ามนต์ดำมีแต่การทำลายอย่างเดียวไม่ได้-ผู้เขียน)หลักการ คือ การใช้อำนาจแห่งความมืด การอ้างอิงอำนาจชั่วร้าย เจตนาร้าย ทำลายบุคคลวัตถุหรืออันใดก็ตามให้พินาสพิบัติด้วยอำนาจจิต 



7.Enochian Magick 
ระบบเวทมนตร์นี้ได้กำเนิดมาจากElizabethan Dr. John Dee and Edward Kelleyที่ได้ทำการmeetingในปี ค.ศ.1581ซึ่งพวกเขาได้ทำขี้ผึ้งแหะสัญลักษณ์และคิดค้นอักษรEnochianขึ้น ซึ่งแพร่หลายในหมู่Astrologer กับmagicianในเวลาต่อมา ซึ่งหลักการของมนต์นี้ที่สำคัญจะขึ้นอยู่กับการเรียกอัญเชิญเหล่าเทวดาต่างๆ เนื่องจากมีผู้สนใจได้เข้ามาถามผมจึงขอเอาตัวอย่างการออกเสียงออกอักษรEnochianกับประโยคพร้อมwebให้เอาไปค้นคว้าต่อกันเลย


[C]http://bbznet.pukpik.com/scripts2/view.php?user=amrn&board=3&id=1&c=1&order=numtopic