คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Receive My Call [HBD Changmin]
Receive My Call
ท่าทางว่าอดีตเพื่อนที่รักของชิมชางมินจะอยากแก้แค้นเอาคืนเรื่องเมื่อตอนวันเกิดตัวเองเป็นแน่ ถึงได้ปล่อยให้เจ้าชายโทรหาตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงตอนนี้ก็เข้าวันใหม่มาได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว ร่างสูงพรูลมหายใจก่อนจะวาง anycall ที่ได้รับอานิสงส์จากพี่จุนซูผู้เป็นพรีเซนเตอร์ให้ได้ใช้กันฟรีๆลงที่ข้างหมอน
ชางมินเข้าใจดีว่าคิวงานที่อัดแน่นนาทีต่อนาทีของศิลปินเป็นยังไง เข้าใจเสียยิ่งกว่าเข้าใจ แต่นี่มันจะตีสามอยู่แล้ว งานจะแน่นอะไรกันนักหนา แต่จะว่าไปวงเพื่อนบ้านจะมีงานอะไรได้ในเมื่อต้องไปซ้อมคอนเสิร์ต..........จะซ้อมกันข้ามวันข้ามคืนไม่สนใจสุขภาพนักร้องกันเลยรึไง คนดีของเค้าเพิ่งหายป่วยนะ!
แต่จริงๆแล้วด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งมวลที่กล่าวมาล้วนแต่เป็นข้ออ้าง
จริงๆชางมินคิดแค่ว่า.......วันนี้มันวันเกิดเจ้าชายชิมของสาวๆนะ รับโทรศัพท์แค่นี้มันจะยากเย็นอะไร
ยังไม่ทันที่จะได้ข่มตานอน ร่างผอมบางก็ก้าวพ้นประตูเข้ามาเสียก่อน กลีบปากสีจัดยกยิ้มกว้าง นั่งลงตรงขอบเตียงของน้องชาย.......จะเรียกว่านั่งคงไม่ถูกนัก อาการแบบนั้นควรจะเรียกว่าคร่อมเสียมากกว่า เอาเถอะ.....ถ้าเป็นเมื่อก่อนชางมินคงร้องโวยวาย แต่ตอนนี้เค้าชินแล้ว ขอแค่เจ้าของตัวจริงอย่าเปิดประตูมาเจอเป็นพอ พริ้นชิมยังอยากใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขอยู่ในวงทงบังชินกิ
“พี่แจจุง.....ผมง่วง”
“เดี๋ยวนี้ไล่หรอ ใช่สิ พอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนก็ลืมพี่ใช่มั้ยหล่ะ”
ร่างสูงยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเอง ก่อนจะดันไหล่พี่ชายหน้าสวยให้อยู่ห่างในระยะปลอดภัย(?) มองเรียวปากสีสวยที่เบ้ออกตามอารมณ์แล้วอดจะหมั่นไส้ไม่ได้..........พี่อย่าพูดเหมือนผมเป็นสมบัติของพี่มาก่อนได้รึเปล่า น่าขนลุกชะมัด........นั่นคือเรื่องที่อยากพูดออกไป แต่ก็ได้แค่คิดในใจ แน่หล่ะ ขืนขัดใจคุณนายตอนนี้ ชีวิตเป็นสุขที่ชางมินใฝ่ฝันก็คงจะสลายไปในพริบตาเช่นกัน
“แฟนเป็นตัวเป็นตนมีที่ไหน แค่เสียงยังไม่มีเลยตอนนี้”
“นี่มันวันเกิดเจ้าชายชิมนะ ไม่มีสายตรงจากเกาหลีมาเลยรึไง”
“อย่าว่าแต่สายตรงจากเกาหลีเลย ผมโทรหายังไม่รับเลย”
“ผ่านไปสิบห้าวัน........พริ้นชิมสุดหล่อก็มีแววจะโดนทิ้งซะแล้ว”
พูดจบก็หัวเราะคิกตามสไตล์คิมแจจุง ใครจะรู้ว่าการได้แกล้งน้องเล็กมันคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ของแจจุงคนนี้ ยิ่งเห็นชางมินโวยวายบอกให้ถอนคำพูดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ยิ่งสนุก..........นี่แหละน้าเด็กน้อยน่าแกล้ง
“พี่แจจุงอ่า.......พูดอย่างนี้ได้ยังไง นี่มันวันเกิดผมนะ ต้องพูดเรื่องดีๆสิ”
“อย่างนั้นหรอกหรอ ถ้างั้นก็สุขสันต์วันเกิด แต่ระวังสุดที่รักของนายโดนคังอินกับซีวอนจับกินเอาหล่ะ........ฮ่าฮ่า”
ว่าจบเสียงหัวเราะนางมาร(?)ก็ค่อยๆลดความดังลงไปเรื่อยๆจนหายไปพร้อมกับร่างของเจ้าของเสียง ชางมินได้แต่นั่งอ้าปากเหวออยู่บนเตียง........นี่แค่ปาร์คยูชอนมันไม่พอ จะต้องมีก้างตัวใหญ่เหมือนหมีควายอีกสองตัวอีกรึไงกัน(วะ)เนี่ย
แสงแดดยามสายไม่ได้มีผลต่อการนอนของเจ้าของวันเกิดแม้แต่น้อย คุณนายคิมแจจุง(คนเดิม)เท้าเอวมองน้องคนสุดท้องของวงอย่างหน่ายๆ จะเป็นวันเกิด วันทำงาน วันเช้งเม้ง วันอะไรก็ช่างเถอะ ขิมชางมินน้องชายคนดีก็ไม่เคยตื่นขึ้นมารับวิตามินดีในยามเช้าเลยซักวัน.......ไอ้ตัวขี้เกียจ ไอ้ที่สูงเอาสูงเอานั่นหน่ะ เพราะสันหลังมันยาวขึ้นทุกวันหรอก
“ชิมชางมิน จะเรียกครั้งสุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่ตื่นไม่ต้องกินแน่ๆข้าวเช้าหน่ะ”
สิ้นเสียงคำว่าข้าวเช้า ร่างสูงกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีง่วงงุนแต่อย่างใด แจจุงเบ้ปาก ทีเรื่องของกินหล่ะกระตือลือร้นขึ้นมาทันใดเลยเชียว.....อยากจะรู้นักว่าถ้าต้องเลือกระหว่างของกินกับคยูฮยอน เจ้าน้องชายมันจะเลือกอะไร
.
.
.
มื้อเช้าของชาวคณะทงบังชินกิผ่านไปอย่างปกติ พี่ยุนโฮยังคงเอาแต่เทคแคร์พี่แจจุงเว่อจนไม่เห็นหัวน้องอย่างทุกวัน พี่แจจุงก็ปล่อยให้พี่ยุนโฮดูแลไปโดยไม่ปริปากพูดอะไรเหมือนกับทุกวัน พี่ยูชอนยังคงจิกกัดสลับกับหยอดคำหวานจีบพี่จุนซูเหมือนทุกวัน ในขณะที่พี่จุนซูก็ยังคงสนใจจะพูดถึงแต่ฟุตบอลคู่เมื่อคืนโดยไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของพี่ยูขอนแม้แต่น้อย เหมือนเดิมอีกเช่นกัน.........ชางมินก็ได้แค่นั่งดูสองคู่ชู้ชื่นเงียบๆ เหมือนเดิมอีกเช่นกัน
ที่ไม่เหมือนเดิมคือวันนี้มันไม่สนุก ไม่ได้รู้สึกแฮปปี้กับสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว สิ่งที่ชิมชางมินสนใจตอนนี้ไม่ใช่อาหารเช้าอีกต่อไป(เพราะกินหมดไปแล้ว) แต่กลับเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิม ที่กดโทรออกตั้งแต่เมื่อคืน.....จนถึงตอนนี้มันก็ยังคงแนบหู พร้อมกับเสียงสัญญาณที่ดังต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ หากแต่กลับไม่มีคนตอบรับแต่อย่างใด
ร่างสูงสะดุ้งเฮือกหลุดออกจากภวังค์เมื่อมือบางตบปุลงบนไหล่ ตาเรียวหันไปมองพี่ชายตัวเล็กที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยเสียงเอกลักษณ์ก่อนจะถอนหายใจออกมา.........เห็นคนตกใจมันมีอะไรน่าขำนักหนากันครับพี่จุนซู
“ชางมินอ่า....เล่นเกมส์กันเหอะ นะ นะ เล่นเกมส์กัน”
“วันนี้ไม่ต้องทำงานหรอพี่จุนซู”
“ถ้ามีแล้วจะชวนมั้ยหล่ะ......ไปเร็ว ชักช้าเป็นคนแก่ไปได้”
ไม่พูดเปล่า แขนเรียวลากตัวน้องชายให้เซแถ้ดๆไปตามทางที่จุนซูพาไป จนถึงวันนี้ชางมินก็ยังอดสงสัยว่าพี่จุนซูก็ตัวเล็กเท่านี้ แต่เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนมากมายถึงได้บ้าพลังขนาดนี้........หรือว่าคิมจุนซูสะสมพลังงานไว้ที่สะโพก มันถึงได้ใหญ่สะท้านใจเหลือเกิน
.
.
.
ผ่านไปกี่ตาแล้วก็ไม่รู้ที่ชางมินเอาชนะพี่ชายที่น่ารักไม่ได้ซักที ถ้าจอยที่อยู่ในมือเป็นของตัวเองหล่ะก็ รับรองได้ว่าตอนนี้มันไปนอนกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว แต่มันติดอยู่ตรงที่มันเป็นของคนที่นั่งเล่นอยู่ข้างๆนี่สิชางมินถึงไม่กล้า........โดยคิมจุนซูวีนเป็นเรื่องน่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
“พี่จุนซู เลิกเล่นเหอะ เล่นอีกกี่ทีพี่ก็ชนะทุกทีอ่ะ”
“ก็นายอ่ะไม่ตั้งใจเล่นนี่หน่า เอาแต่โทรศัพท์อยู่ได้ มันจะชนะได้ยังไงเล่า”
“ก็...............”
“ได้ข่าวว่าโทรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่ใช่รึไง......โทรไม่ติดก็เลิกเหอะ เดี๋ยวเค้าก็โทรมาเองนั่นแหละ”
ไม่ทันได้ต่อความอะไร คนเป็นพี่ก็จัดการปิดเกมส์แล้วก็เดินหนีไปหาพี่ชายปากห้อย(?)ที่ห้องทำงาน ชางมินจิ๊ปากด้วยความเซง ก็ให้รู้กันไปสิว่าคนอย่างเซียจุนซูแห่งวงทงบังชินกิก็สักแต่ว่าใช้คนอื่น(ให้เล่นเกมส์)จนตัวเองพอใจแล้วก็จากไป
ร่างสูงพรูลมหายใจก่อนจะกดโทรศัพท์ในมือโทรออกไปยังเลขหมายเดิมอีกครั้ง อยากจะรู้นักว่าเจ้าของโทรศัพท์จะตกใจขนาดไหนที่ได้เห็นว่ามีมิสคอลทั้งหมดกี่ครั้ง........ชางมินไม่ได้นับหรอก แต่คิดว่ามันคงเกินร้อยไปแล้วแหงๆ
ชางมินนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาตลอดทั้งบ่ายเพราะตัวเองว่างจัด พ่อกับแม่ผลัดกันโทรหาข้ามน้ำข้ามประเทศมาให้ชื่นใจ พี่ๆในวงก็อวยพรวันเกิดกันจนครบแล้ว.........เหลือคนสำคัญอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่ยังไม่ได้คุยกันซักคำ
ด้วยความสัตย์จริงอีกครั้ง..........
เจ้าชายก็เคืองเป็นนะจะบอกให้!
แต่แล้วเจ้าชายก็ต้องสะดุ้งเฮือกเป็นครั้งที่สองของวันเมื่อจู่ๆเสียงเรียกเข้าที่ตั้งไว้เพื่อคนสำคัญดังขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว มือใหญ่รีบกดรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็วด้วยความปลาบปลื้มสุดชีวิต แต่แล้วความสุขก็ถูกทำลายลงเมื่อได้ยินเสียงปลายสาย
“/ไม่ต้องทำเสียงอ่อนเสียงหวาน นี่ไม่ใช่คยูฮยอน/”
โอเคเลย.....แจ่มแจ้งแล้วว่าไม่ใช่ เพราะคยูฮยอนคงไม่เสียงทุ้มต่ำไร้คีย์ไร้อารมณ์ได้เท่าเจ้าของเสียงที่โทรมาหรอก เสียงแบบนั้นมันก็มีแต่คิมคิบอมเท่านั้นแหละที่ทำได้
“แล้วทำไมใช้เบอร์คยูฮยอนโทรมา”
“/ไม่ได้อยากโทรนักหรอก แต่รำคาญ ดังแม่งทั้งวันทั้งคืน เลิกโทรได้แล้ว คืนนี้ค่อยโทรใหม่ แค่นี้นะ/”
ชางมินฟังเสียงไร้อารมณ์จากปลายสายแล้วก็อดจะแปลกใจนิดๆไม่ได้ นี่ท่าทางจะรำคาญหนักถึงได้พูดออกมาเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ปกติแค่สามคำก็เก่งแล้วสำหรับไอ้ตาหยีคิบอม แต่ครั้งนี้โทรมาบ่นๆๆๆแล้วก็ไป......เอากับมันสิ วันเกิดเพื่อนก็จำไม่ได้ แน่หล่ะ ชีวิตมันจะจำอะไรได้บ้างนอกจากบทละครกับเรื่องของพี่ทงเฮ.......ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ต้องบอกว่ามันจะได้แต่พี่ทงเฮอย่างเดียว เพราะมันไม่มีละครจะเล่นแล้ว
ชางมินละความพยายามจะโทรทางไกลข้ามประเทศไปแล้วเรียบร้อย เพราะคิดว่าเดี๋ยวคิบอมก็คงบอกว่าเกิดอะไรขึ้นจากการที่เก็บโทรศัพท์ที่คยูฮยอนลืมทิ้งไว้ที่ห้องซ้อม......คิดว่ามันคงจะบอก เหอะๆ
แม้จะไม่ได้กดโทรออกด้วยตัวเอง แต่ตาเรียวก็ยังคงจดจ้องอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องเล็กอยู่เป็นระยะ จนพี่ๆเริ่มสงเสียงกระแอมพร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียนที่มุมปาก......เออ ยิ้มกันเข้าไปเถอะ อย่าให้ถึงทีชายชิมบางแล้วกัน จะเอาคืนให้หน้าหงายเลยเชียว
แต่แล้วแทนที่ anycall ของตัวเองจะแผดเสียงร้อง เสียงที่ดังขึ้นกลับเป็นเรื่องโทรศัพท์ที่อยู่ภายในห้องพักที่ดังขึ้น ชางมินนึกแปลกใจตั้งแต่ที่พี่แจจุงเดินไปกด speaker ให้เสียงปลายสายทั่วห้องให้ทุกคนได้ยิน แทนที่จะยกหูขึ้นรับสายตามปกติ........แล้วลางสังหรณ์มันผิดซะที่ไหนหล่ะ
เสียงทุ้มหวานที่ร้องเพลงวันเกิดผ่านสายโทรศัพท์มาไม่ต้องบอกก็จำได้ว่าเป็นเสียงใคร ชิมชางมินได้แต่ยืนเงียบพร้อมกับใบหน้าร้อนฉ่า มองหน้าพี่ๆทุกคนที่อมยิ้มกรุ่มกริ่มให้ตนเองพร้อมกับแยกย้ายสลายตัวกันอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องนัดหมาย..........วางแผนกันไว้แล้วใช่มั้ยหล่ะนั่น!
มือใหญ่ยกหูขึ้นแนบกับใบหูของตัวเองเมื่อเสียงเพลงวันเกิดจบลง เสียงปลายสายหัวเราะคิกคักด้วยความพอใจ ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาว่าปฏิกิริยาตอบรับจากท่านเจ้าชายจะเป็นเช่นไร.....ไอ้ที่เงียบอยู่หน่ะ กำลังควานหาลิ้นตัวเองอยู่เป็นแน่
“/เป็นไงชางมินอ่า.......เซอร์ไพส์ดีมั้ย/”
“.......นี่กะจะให้อายมุดดินหนีไปเลยใช่มั้ย”
“/ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีหน่ะสิ จะได้รู้ไงว่าเวลาคนถูกทำให้เขินเค้ารู้สึกยังไง/”
ร่างสูงส่งเสียงหึในลำคอ เอากับเค้าสิ เห็นเรื่องแกล้งคนเป็นเรื่องสนุกไปอีกคนแล้ว เห็นตาใสๆเสียงหวานๆแบบนั้น ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วโจคยูฮยอนก็ขี้แกล้งไม่ได้ต่างอะไรกับคิมแจจุงนักหรอก
“/นี่ชางมินอ่า.............เห้ย! พี่คังอินนนนนนนนนนน/”
ชางมินอ้าปากเหวอ เมื่อกี้คนดีของเค้าเรียกชื่อใครนะ.......ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรเสียงทุ้มต่ำของคนอื่นที่ไม่ใช่คนที่อยากคุยด้วยก็ดังขึ้นที่ปลายสายเสียแทน
“/ไอ้หนู โทรทางไกลข้ามประเทศมันแพงนะ วางๆไปได้แล้ว รู้........../”
ยังไม่ทันที่บุคคลไม่ได้รับเชิญจะพูดจบ เสียงหวานเสียงเดิมที่อยากจะได้ยินก็ดังขึ้นปนเสียงหอบนิดๆ ไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น โจคยูฮยอนคงโดนพี่ชาย(คุณพ่อ)แกล้งเอาอีกแล้ว.......แอบได้ยินเสียงคยูฮยอนสบถด่าพี่ชายอีกต่างหาก เยี่ยมซะไม่มี
“/ขอโทษที พี่คังอินบ้าบอไปนิดนึง/”
“อื้ม....ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เมื่อกี้จะพูดว่าอะไรนะ”
“/เอ่อ.......ก็ ไม่มีอะไรหรอก แค่จะสุขสันต์วันเกิด/”
“ขอบคุณนะ......แค่นั้นหรอ ไม่มีอย่างอื่นเลยงั้นหรอ”
“/ก็........ไม่มีแล้ว/”
“งั้นก็วางเถอะ เดี๋ยวค่าโทรก็กระฉูดหรอก”
คยูฮยอนรับคำงึมงำก่อนจะเอ่ยคำลา หากแต่ก่อนที่ชางมินจะวางหูโทรศัพท์ลง เสียงทุ้มหวานก็เรียกเอาไว้เสียก่อน ร่างสูงครางหือในลำคอแทนคำถาม
“/รักนะเจ้าชาย........ฝันดีหล่ะ/”
เสียงปลายสายเอ่ยขึ้นอย่างเร็วๆแล้วก็ตัดสายไปทันที ถึงจะพูดทั้งรัวทั้งเร็วแต่คนฟังก็ยังจับใจความได้อย่างชัดเจน เรียวปากบางยกยิ้มกว้างที่สุดในรอบวัน จะว่าไปแล้วก็แทบจะลอยเข้าไปในห้องนอน วันเกิดปีนี้มันจะดีอะไรขนาดนี้กันนะ.......ดีที่สุดเท่าที่เกิดมา 20 ปีเลยเชียวหล่ะ
มือใหญ่กดข้อความอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะกดส่งไปที่เบอร์ที่ตัวเองเพียรโทรหามาตลอดวัน อดยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่กำลังจะได้รับข้อความ......
...ชั้นก็รักเจ้าหญิงเหมือนกัน....
Fin
รายนามของบุคคลที่ถูกพาดพิงจิกกัดจากฟิคทั้งสองตอน...
ขอให้รู้ไว้ว่าจิกกัดด้วยความรักยิ่ง อิอิ
ไม่รักไม่กัดหรอกนะจะบอกให้...
มาลงแบบเลทๆ เลยวันเกิดของทั้งสองคนไปแล้ว
แต่ก็ดีกว่าไม่มาอัพเลยนะคะ....^^
หวังว่าจะมีคนถูกใจ
บุญรักษาค่ะ
ความคิดเห็น