ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Happy Ending
    (ต่อ)
“คนที่งี่เง่ามันนายต่างหาก เฟริน งอนบ้าอะไรไม่เข้าเรื่อง”
พูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ทำเอาคนในอ้อมแขนชะงัก มือหยุดเคลื่อนไหว
“ฉันยอมรับว่าฉันผิด ที่ปากไม่ดีไปว่านายอย่างนั้น ขอโทษด้วย”
คาโลพูดออกมานิ่ง ๆ
เฟรินไม่โต้ตอบอะไร เม้มปากแน่น
“แล้วฉันก็ไม่ชอบด้วย เวลานายไปยุ่งกับไอ้หมอนั่น ยอมให้มันโอบได้ยังไง  ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิจะทำ”
พูดกจบตัวเองก็ต้องหน้าแดง เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋ว เหลือบขึ้นมองอย่างอึ้ง ๆ
“ฮึ ทีตัวเองล่ะ..”
เธอเอ่ยขึ้นมาอย่างงอน ๆ  คาโลยิ้มในหน้า เมื่อรู้สาเหตุของน้ำตาเมื่อกี้
“อ๋อ..ร้องให้เพราะเรื่องนี้เองหรือ”
ฟังแล้วอยากเอาหัวไปโขกกำแพง (ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่หัวเขา ต้องเป็นหัวของคนตรงหน้า เจ้าชายคาโล วาเนบลี)
เฟรินหน้าแดงแจ๋ หลบสายตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ปะ..เปล่าซักหน่อย”
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อฉัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กในฐานะน้องสาว ที่สำคัญ เขามีแฟนแล้วด้วย เธอแค่มาขอให้ฉันเต้นรำด้วยเท่านั้นเอง เพราะแฟนเธอเต้นไม่เป็น ”
เฟรินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง 
“แล้วทำไมต้องซบด้วย”
คาโลหัวเราะ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย นายจะทำฉันก็ไม่ได้ว่า มากกว่านั้นก็ได้นะ”
พูดจบก็กดหัวทุยให้ซบลงบนบ่ากว้าง แล้วกอดแน่น
เฟรินดิ้นขลุกขลักซักประเดี๋ยว ก่อนจะนิ่ง
“เฟริน จำไว้นะ  ชั้นรักนายคนเดียวเท่านั้น” (โอ๊ย!!! มดขึ้นคอมแล้ว)
พูดเองก็เขินเอง จึงแก้เขินด้วยการเสมองอย่างอื่น
เฟรินเอื้อมมือไปโอบรอบคอเขา กอดกระชับแน่น
“ชั้นก็รักนาย คาโล วาเนบลี”
พูดจบเจ้าคนพูดก็ดันตัวออก พร้อม จุ๊บเบา ๆ เฉียดริมฝีปากเขา
คาโลยิ้ม ดูอึ้งๆ
“อย่างนั้นเค้าไม่เรียกว่าจูบนะเฟริน”
เจ้าชายน้ำแข็งที่ละลายไปแล้วเอ่ยขึ้นอย่างมีเลสนัย
สาวน้อยก้มหน้าลง หน้าแดงจัด แล้วเจ้าคนตัวโตตรงหน้า ก็เชยปลายคางมนให้เงยขึ้นมาสบตาเขา
แล้วค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปหา ประทับริมฝีปากเข้ากับปากอวบอิ่มสีกุหลาบ
ทั้งสองจูบกันอยู่เนิ่นนาน นานจนเฟรินแทบหายใจไม่ออก
“อืม..”
เธอพยายามดันตัวชายตรงหน้าออก คาโลยังไม่ยอมหยุด
“เฮ้ย!!!คาโล เฟริน”
เสียงเรียกอย่างอารมณ์ดีของนักฆ่าหน่มลอยมาตามลม
ทั้งสองผละจากกันแทบจะทันที
แล้วหันไปมองหน้าเจ้าคนที่เป็น ก.ข.ค.ได้ตลอด
ไม่ใช่แค่คิลคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นทั้งกลุ่มเพื่อน
ครี้ด กัส ซีบิล โร แอนเจลิน่า เรนอน มาทิลด้า ที่สำคัญ สี่บุคคลที่ทำเอาเฟรินอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
โรเวน อาเธอร์  คิงบาโร และ พ่อของตัวเอง เอวิเดส
ครี้ดผิวปากกเฟี้ยว
“อ้าว หยุดทำไมล่ะ ต่อสิ”
ประโยคนั้นเรียกเอาเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ได้ทั้งกลุ่ม
เฟรินงี้หน้าแดง ๆ สุด ส่วนคาโลยังคงยืนนิ่ง รักษามาดน้ำแข้งไว้
“เฟริน ฉันรักนายคนเดียวเท่านั้น หวานจิงวุ้ย”
คำพูดที่คิดว่าจะไม่ได้จากปากเจ้าชายใจสิงห์
“”พวก พวกนาย..เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เธอถามตะกุกตะกัก
“ก็ตั้งแต่ถึงตอนซบลงบนบ่าน่ะแหล่ะ”
คราวนี้แอนเจลิน่าพูด  เฟรินขยับเท้าจะวิ่งหนีความอับอายทันที
“เฟลิโอน่า อยู่กับที่”
เสียงเฉียบขาดดังมาจากเสด็จพ่อของตน ทำเอาเฟรินขาแข็ง
“เอายังไงดีล่ะ คิงบาโร ลูกท่านทำลูกข้าเสียหายแล้วนะเนี่ย”
“ฝ่าบาท เดี๋ยวก่อน..”
สาวน้อยพยามจะแย้ง  แต่เจ้าคนแคระเขากวางส่งสายตาบอกให้เงียบ
คาโลรั้งตัวสาวน้อยให้เข้ามาในอ้อมแขน ท่ามกลางสายตาของเพื่อน ๆ
โรเวนยิ้ม ส่วน เพื่อนคนนอื่นก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่
“คาโล เจ้าจะเอายังไง”
คิงหน้าบากหันมาถามจำเลย เจ้าชายหนุ่มเงียบ
“งั้น หมั้นกันให้เป็นทางการไปเลยล่ะกันท ยังไงก็เรียนจบแล้วนี้”
จ้าวปีศาจเอ่ยยิ้ม ๆ 
“หา ”
เจ้าหัวขโมยจอมยุ่งร้องเสียงหลง
คาโลตวัดร่างเฟรินขึ้นมาจากพื้นดิน เฟรินร้องเฮ้ยอีกครั้ง เมื่อถูกคาโลอุ้ม
เอวิเดสเดินไปที่เวที แล้วประกาศด้วยสุรเสียงดังลั่น
“ข้าขอประกาศอย่างไม่มีพิธีรีตองตรงนี้เลยว่า เจ้าชายคาโล วาเนบลี และเจ้าหญิงเฟลิโอน่า บุตรสาวคนเดียวของข้า จะหมั้นกันอย่างเป็นทางการ ณ ที่นี้ เวลานี้”
บาโรขึ้นมายืนบนเวทีด้วย  ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น จ้องร่างสองร่างไม่กระพริบ
“คาโล เฟลิโอน่า ขึ้นมาเลย”
เจ้าชายน้ำแข็งอุ้มยัยตัวยุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้ยืนเอง
สปอร์ตไลท์ส่องไปที่เฟริน ซึ่งตอนนี้อายสุด ๆ
“คาโล นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”
เธอกระซิบถาม เบา ๆ
คนถูกถามยิ้มในหน้า ไม่ตอบอะไร แต่ควักเอาสร้อยทองคำขาวเส้นเล็ก ซึ่งร้อยไข่มุกแแสงจันทร์เม็ดหนึ่งขึ้นมา
แล้วสวมเข้าที่คอของคนข้าง ๆ พร้อมกระซิบบอก
“ปลอกคอนี่ เป็นสิ่งยืนยันแล้วนะ ว่าฉัน จะครอบครองนายได้คนเดียว”
ทำเอาเฟรินอึ้งกิมกี่
คนข้างล่างตะโกนขึ้นมา
“จูบเลย คาโล”
เสียงเชียร์ยังดังขึ้นเรื่อย ๆ เฟรินรีบ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
“อย่าเชียวนะ”
เจ้าชายคาโล ผู้ซึ่งได้ชื่อว่ายิ้มยากสุด ๆ คราวนี้ลบคำปรามาสนั้นไปเลย ด้วยการยิ้มเจ้าเล่ห์
“แต่ประชาชนเค้าขอมาแล้ว ฉันก็เป็นเจ้าชาย จะให้ทำเพิกเฉยต่อคำขอของเหล่าประชาชนได้อย่างไร
พูดจบก็มีการจูบโชว์อีกรอบ
*END*
**Fiction by PiE**
“คนที่งี่เง่ามันนายต่างหาก เฟริน งอนบ้าอะไรไม่เข้าเรื่อง”
พูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ทำเอาคนในอ้อมแขนชะงัก มือหยุดเคลื่อนไหว
“ฉันยอมรับว่าฉันผิด ที่ปากไม่ดีไปว่านายอย่างนั้น ขอโทษด้วย”
คาโลพูดออกมานิ่ง ๆ
เฟรินไม่โต้ตอบอะไร เม้มปากแน่น
“แล้วฉันก็ไม่ชอบด้วย เวลานายไปยุ่งกับไอ้หมอนั่น ยอมให้มันโอบได้ยังไง  ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิจะทำ”
พูดกจบตัวเองก็ต้องหน้าแดง เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋ว เหลือบขึ้นมองอย่างอึ้ง ๆ
“ฮึ ทีตัวเองล่ะ..”
เธอเอ่ยขึ้นมาอย่างงอน ๆ  คาโลยิ้มในหน้า เมื่อรู้สาเหตุของน้ำตาเมื่อกี้
“อ๋อ..ร้องให้เพราะเรื่องนี้เองหรือ”
ฟังแล้วอยากเอาหัวไปโขกกำแพง (ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่หัวเขา ต้องเป็นหัวของคนตรงหน้า เจ้าชายคาโล วาเนบลี)
เฟรินหน้าแดงแจ๋ หลบสายตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ปะ..เปล่าซักหน่อย”
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อฉัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กในฐานะน้องสาว ที่สำคัญ เขามีแฟนแล้วด้วย เธอแค่มาขอให้ฉันเต้นรำด้วยเท่านั้นเอง เพราะแฟนเธอเต้นไม่เป็น ”
เฟรินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง 
“แล้วทำไมต้องซบด้วย”
คาโลหัวเราะ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย นายจะทำฉันก็ไม่ได้ว่า มากกว่านั้นก็ได้นะ”
พูดจบก็กดหัวทุยให้ซบลงบนบ่ากว้าง แล้วกอดแน่น
เฟรินดิ้นขลุกขลักซักประเดี๋ยว ก่อนจะนิ่ง
“เฟริน จำไว้นะ  ชั้นรักนายคนเดียวเท่านั้น” (โอ๊ย!!! มดขึ้นคอมแล้ว)
พูดเองก็เขินเอง จึงแก้เขินด้วยการเสมองอย่างอื่น
เฟรินเอื้อมมือไปโอบรอบคอเขา กอดกระชับแน่น
“ชั้นก็รักนาย คาโล วาเนบลี”
พูดจบเจ้าคนพูดก็ดันตัวออก พร้อม จุ๊บเบา ๆ เฉียดริมฝีปากเขา
คาโลยิ้ม ดูอึ้งๆ
“อย่างนั้นเค้าไม่เรียกว่าจูบนะเฟริน”
เจ้าชายน้ำแข็งที่ละลายไปแล้วเอ่ยขึ้นอย่างมีเลสนัย
สาวน้อยก้มหน้าลง หน้าแดงจัด แล้วเจ้าคนตัวโตตรงหน้า ก็เชยปลายคางมนให้เงยขึ้นมาสบตาเขา
แล้วค่อย ๆ โน้มตัวเข้าไปหา ประทับริมฝีปากเข้ากับปากอวบอิ่มสีกุหลาบ
ทั้งสองจูบกันอยู่เนิ่นนาน นานจนเฟรินแทบหายใจไม่ออก
“อืม..”
เธอพยายามดันตัวชายตรงหน้าออก คาโลยังไม่ยอมหยุด
“เฮ้ย!!!คาโล เฟริน”
เสียงเรียกอย่างอารมณ์ดีของนักฆ่าหน่มลอยมาตามลม
ทั้งสองผละจากกันแทบจะทันที
แล้วหันไปมองหน้าเจ้าคนที่เป็น ก.ข.ค.ได้ตลอด
ไม่ใช่แค่คิลคนเดียวเท่านั้น แต่เป็นทั้งกลุ่มเพื่อน
ครี้ด กัส ซีบิล โร แอนเจลิน่า เรนอน มาทิลด้า ที่สำคัญ สี่บุคคลที่ทำเอาเฟรินอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
โรเวน อาเธอร์  คิงบาโร และ พ่อของตัวเอง เอวิเดส
ครี้ดผิวปากกเฟี้ยว
“อ้าว หยุดทำไมล่ะ ต่อสิ”
ประโยคนั้นเรียกเอาเสียงหัวเราะจากเพื่อน ๆ ได้ทั้งกลุ่ม
เฟรินงี้หน้าแดง ๆ สุด ส่วนคาโลยังคงยืนนิ่ง รักษามาดน้ำแข้งไว้
“เฟริน ฉันรักนายคนเดียวเท่านั้น หวานจิงวุ้ย”
คำพูดที่คิดว่าจะไม่ได้จากปากเจ้าชายใจสิงห์
“”พวก พวกนาย..เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่”
เธอถามตะกุกตะกัก
“ก็ตั้งแต่ถึงตอนซบลงบนบ่าน่ะแหล่ะ”
คราวนี้แอนเจลิน่าพูด  เฟรินขยับเท้าจะวิ่งหนีความอับอายทันที
“เฟลิโอน่า อยู่กับที่”
เสียงเฉียบขาดดังมาจากเสด็จพ่อของตน ทำเอาเฟรินขาแข็ง
“เอายังไงดีล่ะ คิงบาโร ลูกท่านทำลูกข้าเสียหายแล้วนะเนี่ย”
“ฝ่าบาท เดี๋ยวก่อน..”
สาวน้อยพยามจะแย้ง  แต่เจ้าคนแคระเขากวางส่งสายตาบอกให้เงียบ
คาโลรั้งตัวสาวน้อยให้เข้ามาในอ้อมแขน ท่ามกลางสายตาของเพื่อน ๆ
โรเวนยิ้ม ส่วน เพื่อนคนนอื่นก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่
“คาโล เจ้าจะเอายังไง”
คิงหน้าบากหันมาถามจำเลย เจ้าชายหนุ่มเงียบ
“งั้น หมั้นกันให้เป็นทางการไปเลยล่ะกันท ยังไงก็เรียนจบแล้วนี้”
จ้าวปีศาจเอ่ยยิ้ม ๆ 
“หา ”
เจ้าหัวขโมยจอมยุ่งร้องเสียงหลง
คาโลตวัดร่างเฟรินขึ้นมาจากพื้นดิน เฟรินร้องเฮ้ยอีกครั้ง เมื่อถูกคาโลอุ้ม
เอวิเดสเดินไปที่เวที แล้วประกาศด้วยสุรเสียงดังลั่น
“ข้าขอประกาศอย่างไม่มีพิธีรีตองตรงนี้เลยว่า เจ้าชายคาโล วาเนบลี และเจ้าหญิงเฟลิโอน่า บุตรสาวคนเดียวของข้า จะหมั้นกันอย่างเป็นทางการ ณ ที่นี้ เวลานี้”
บาโรขึ้นมายืนบนเวทีด้วย  ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น จ้องร่างสองร่างไม่กระพริบ
“คาโล เฟลิโอน่า ขึ้นมาเลย”
เจ้าชายน้ำแข็งอุ้มยัยตัวยุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้ยืนเอง
สปอร์ตไลท์ส่องไปที่เฟริน ซึ่งตอนนี้อายสุด ๆ
“คาโล นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”
เธอกระซิบถาม เบา ๆ
คนถูกถามยิ้มในหน้า ไม่ตอบอะไร แต่ควักเอาสร้อยทองคำขาวเส้นเล็ก ซึ่งร้อยไข่มุกแแสงจันทร์เม็ดหนึ่งขึ้นมา
แล้วสวมเข้าที่คอของคนข้าง ๆ พร้อมกระซิบบอก
“ปลอกคอนี่ เป็นสิ่งยืนยันแล้วนะ ว่าฉัน จะครอบครองนายได้คนเดียว”
ทำเอาเฟรินอึ้งกิมกี่
คนข้างล่างตะโกนขึ้นมา
“จูบเลย คาโล”
เสียงเชียร์ยังดังขึ้นเรื่อย ๆ เฟรินรีบ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม
“อย่าเชียวนะ”
เจ้าชายคาโล ผู้ซึ่งได้ชื่อว่ายิ้มยากสุด ๆ คราวนี้ลบคำปรามาสนั้นไปเลย ด้วยการยิ้มเจ้าเล่ห์
“แต่ประชาชนเค้าขอมาแล้ว ฉันก็เป็นเจ้าชาย จะให้ทำเพิกเฉยต่อคำขอของเหล่าประชาชนได้อย่างไร
พูดจบก็มีการจูบโชว์อีกรอบ
*END*
**Fiction by PiE**
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น