คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ~ ทำเพื่อใคร ~
ตอนที่ 5 ทำเพื่อใคร
เมื่อคนๆนั้นหันมาพร้อมรอยยิ้ม.....
" นายมาที่นี้ทำไม "
" โอ้โฮ้ ทักกันยังงี้เลยหรอครับ "
" ฉันถามนายอยู่ อย่ามานอกเรื่อง " ตอนนี้ฉันไม่เข้านายขี้จริงๆ ทำไมเขาต้องทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย
" ก็ผิงไม่รับโทรศัพท์ของพี่ "
" จำเป็นหรอ? " เพียงวูบเดียว ฉันก็เห็นแววตาของนายขี้ดูเศร้าลง
" ใช่! พี่รู้ มันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรซักหน่อยสิน่ะ " เสียงเศร้าๆ ที่เหมือนกับจะพูดกับตัวเอง
" รู้ก็ดีแล้ว งั้นก็อย่างทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้อีก "
" แต่ผิงก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับผิง... "
" .." รู้แล้วยังไงล่ะ ฉันหันหน้าไปอีกทาง
" พี่ก็แค่อยากจะขอโอกาส.... "
" ถึงแม้ว่ามันจะไปเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ "
" ใช่ ขอเพียงแค่หวัง.....ก็พอ " ฉันรู้สึกถึงเสียงของเขาที่อ่อนแรง แต่คำพูดของเขาทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของกานที่พูดกับฉัน... " กานรู้ว่ามันอาจจะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กานก็อยากจะพยายามซักครั้ง " น้ำเสียงของกานถึงมันจะสั่น แต่มั่นจะก็หนักแน่นในความหมาย
" แต่โอกาสที่นายขอฉัน มันเป็นโอกาสและความเจ็บปวดน่ะ " น้ำเสียงของฉันก็อ่อนแรงลงเช่นกัน
" แต่พี่ก็จะยอมรับมัน "
" ไม่มีทาง! นายควรจะหันไปมองคนอื่นๆ บ้างสิ คนที่นายอาจเพิ่งเจอกับเขา เขาอาจจะพร้อมที่จะให้นายมากกว่าฉัน "
" .." นายขี้มองหน้าฉัน
" อย่าให้มันเริ่มต้น หยุดมันไว้แค่นี้....ถือว่าฉันขอร้อง "
" ทำไมผิงถึง....ถึงพยายามที่จะปฎิเสธทุกอย่าง หรือว่า...... " นายขี้มองหน้าฉันอย่างจริงจัง " ผิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว "
ถึงฉันจะตกใจกับความคิดของนายขี้ แต่ถ้าเขาเข้าใจอย่างนั้นมันก็ดีแล้วนี่
" ใช่ ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันดีที่สุดแล้ว....ฉันคิดว่านายคงเข้าใจ "
" .. "
" นายกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ มันดึกแล้ว " นายขี้เดินมาทางฉัน ที่ยืนอยู่ตรงทางออก
" เป็นห่วงพี่หรอ " เหมือนกับประโยคจะพูดเพื่อยอกล้อ แต่น้ำเสียงของเขากลับคล้ายว่าจะมีความดีใจแฝงอยู่ ทำให้ฉันไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจเขาอีกแล้ว
" ใช่ พี่กายควรจะกลับบ้านได้แล้ว " ฉันตั้งใจเรียกเขาว่าพี่กาย พี่กายยิ้มออกมาแต่มันขัดกับแววตาโดยสิ้นเชิง
" พี่มีอะไรจะบอกผิงอีกอย่าง "
" "
" ไม่ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกัน แต่พี่กายคนนี้จะอยู่เคียงข้างผิงตลอดไป ถึงแม้ว่าผิงจะมองไม่เห็นก็ตาม.... " พี่กายเดินผ่านฉันออกไป ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นกับคำพูดของพี่กาย ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม ทำเพื่อกาน ทำเพื่อตัวพี่กายเอง ใช่! ทำถูกแล้ว แล้วทำไมฉันต้องใจหายกับคำพูดนั้นด้วย ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ฉันหัวเราะกับตัวเองเบาๆ แล้วจึงเดินเคาะหัวตัวเองขึ้นห้องไป
เช้านี้ที่สดใส......
ฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ แต่เมื่อฉันเห็นหน้าไอ้วัทก็ใจหายวาบทันที ฉันทำเพื่อกาน ทำเพื่อพี่กาย แล้วไอ้วัทล่ะ?
" หวัดดี วัท " ฉันเข้าไปทักไอ้วัทที่นั่งอยู่บนโต๊ะเรียน ไอ้วัทมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ
" เออๆ หวัดดี วันนี้เป็นไร กินยาผิดขวดหรือเปล่า? "
" เปล่านี้ สบายดี เอ่อๆ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนไม่ใช่หรอ "
" ก็รอคุณหญิงอยู่ท่านเดียวล่ะครับ " ทำมาประชดเดี๋ยวก็หลังแหวนซะหรอก
" หม่อนฉันขอประทานอภัยเพค่ะ งั้นเชิญเสด็จไปเลยเพค่ะ "
หน้าโรงเรียน
" เอ้าๆ แม่คุณ ไปกินเลือดที่ไหนมาห่ะ เช็ดออกซะเลย......ไอน้องรองเท้าๆ มันผิดระเบียบ กลับมานี่เลย " เสียงของฉันที่ตะโกนโวยวายอยู่คนเดียว ส่วนไอ้วัทน่ะหรอ สาวๆมาต่อคิวให้มันตรวจกันเป็นแถว ที่กับฉันทำไมวิ่งหนีกันเป็นแถว กว่าจะหมดเวลาเข้าโรงเรียนเล่นเอาฉันเสียงแหบ เสียงแห้ง ฉันเลยบอกลุงภารให้ปิดประตูได้แล้วเพราะมันหมดเวลาแล้ว คนที่มาหลังจากนี้ก็ต้องมาลงชื่อไว้ว่ามาสาย
ปริ้นๆๆ !!!!!!!!
เสียงรถคันหนึ่งบีบแตรดังมาแต่ไกล โอ๊ย!!! พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย!!! แล้วรถนั้นก็วิ่งผ่านฉันไป แล้วก็หายไปที่จอดรถในโรงเรียน
" รถใครว่ะ วัท? "
" จะไปรู้หรอ ก็ยืนอยู่ด้วยกัน โอ๊ย!!! " ไม่ต้องตกใจค่ะ แค่มือของฉันมันล่วงไปโดนหัวไอ้วัทเฉยๆ
" ปากดีนัก นะแก "
" รถใครก็ช่าง แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่รถของเด็กนักเรียน...เราก็ไม่ต้องไปลากมันออกมาลงชื่อ โอเค้? "
" เออๆ ไปเข้าแถวเถอะว่ะ " ฉันกับไอ้วัทก็เดินไปเข้าแถว ที่ตอนนี้อาจารย์กำลังขึ้นไปประกาศอะไรซักอย่างอยู่
" ถ้านักเรียนคนไหนสนใจก็มาขอใบสมัครที่ตึกทั่วไปน่ะค่ะ....เชิญเข้าเรียนได้แล้วค่ะ " พอสิ้นเสียงของอาจารย์นักเรียนก็ต่างลุกฮือ ฉันที่กำลังจะถูกเหยียบตายเลยต้องรีบหาพิ้งค์ให้เจอก่อนที่คนมันเหยียบฉันจนจมดิน
" พิ้งค์!!!ๆๆ " เจอแล้วๆๆ
" อ้าวผิง มานี่ๆ เร็วๆ.... " ฉันเลยวิ่งซิกแซกไปหาพิ้งค์ที่ยืนรออยู่ที่บันไดทางขึ้นอาคารเรียน
" สมัครไหมผิง? "
" สมัครอะไร? "
" ก็โรงเรียนของเราเขาสมัครสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่นที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันนะสิ "
"
"
" โรงเรียนของเรามีสาขาอยู่หลายประเทศเลย มีที่ ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลี แล้วก็ จีน น่าสนใจๆๆ "
" .."
" พิ้งค์จะลองสมัครดูอ่ะ ผิงเอาเปล่า? "
" หึๆ ไม่ไหวอ่ะ แค่ภาษาไทยก็เกือบไม่รอด "
" ไม่ลองดูซักหน่อยหรอ "
" ไม่เอาค่ะเปลืองข้อสอบเขาเปล่าๆ ไปเรียนเถอะ " ว่าแล้วฉันก็เดินนำหน้าพิ้งค์ขึ้นห้องเรียนไป พลางหันไปถามไอ้วัทที่เดินตามมาเงียบๆ
" แกล่ะ จะไปสมัครกะเขาบ้างหรือเปล่า "
" ไม่เอาหรอก ยังไงก็สอบติดอยู่ดี ไม่ต้องลองหรอก อยู่นี้เป็นเพื่อนแกดีกว่า " ไอ้วัทพูดได้อย่างหน้าตาเฉยมั่กมาก แล้วก็เอามือมากอดคอฉัน ฉันซึ้งใจจังเลย ไอ้เพื่อนแท้
" ผิงๆๆ "
" อ้าว กาน " ฉันหันหลังกลับไปก็เห็นกานกำลังวิ่งขึ้นบันไดตามมา ฉันหันไปมองไอ้วัท แต่ไอ้วัทกับไปยืนคุยกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้ จะเอายังไงแน่ว่ะ ไอ้นี่นิ!
" ไปไหนมาหรอ ไม่เห็นเข้าแถว "
" อ๋อ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "
" เออ...ผิงเห็นพี่กายบ้างรึเปล่า "
" ไม่อ่ะ ยังไม่เห็นเลย " ใช่สิ ฉันลืมนึกถึงไปเลย ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย ฉันมองส่ายสาตาลงไปขางล่าง ก็เจอคนที่กำลังพูดถึงยืนคุยกับพิ้งค์อยู่
" นั้นไงกาน " กานหันไปมองตามนิ้วของฉันที่ชี้อยู่ แล้วพี่กายกับพิ้งค์ก็เดินออกไปด้วยกันพอดี
" จะไปไหนกันน่ะ? " กานบ่นออกมา " ผิงไปเป็นเพื่อนกานหน่อยน่ะ " ฉันยังไม่ได่เอ่ยปากตกลงก็ถูกฉุดกระชากลากถูกลงมาทันที
" เฮ้ย!! เดี๋ยวกาน สองคนนั้นอาจจะไปคุยธุระกันก็ได้ "
"
" กานไม่ตอบโต้ฉัน เอาเดินลากฉันมาแล้วก็เข้ามาแอบที่มุมตึกที่สองคนนั้นยืนคุยกันอยู่
" ผิงว่าแบบนี้มันไม่ดีนะ...... "
" ฟังสิ! " กานหันมาจุ๊ปากให้ฉันเงียบ อะไรกันเนี้ยกานหึงพี่กายหรอ ฉันมองหน้ากานงงๆ แล้วก็ได้ยินกับพูดที่ออกมาจากสองคนนั้น ที่เกี่ยวกับฉัน
" พี่กายไม่เป็นไรน่ะค่ะ " พิ้งค์ถามกายที่ยืนนิ่งอยู่
" พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณพิ้งค์มากที่เป็นห่วงพี่ "
ครืนๆ ครืนๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงออกฉันสั่น เพราะมีคนโทรเข้า ฉันเลยยกโทรศัพท์ให้กานดูว่ามีคนโทรเข้าและขอตัวออกมาคุย
ไอ้ผิง แกอยู่ไหนว่ะ ปล่อยกรูทิ้งไว้คนเดียว
" ก็ฉันเห็นแกยืนคุยกับยัยเพชร ยัยแพรว อะไรของแกอยู่นี่นา "
ไม่ต้องมาพูดดีเลย แล้วอยู่ไหนน่ะ ไม่ขึ้นเรียนหรือไง
" ติดธุระอยู่ เดี๋ยวขึ้นไป "
ธุระอะไร บอกไม่ได้เลยรึไง
" เออๆ เดี๋ยวขึ้นไปเล่าให้ฟัง " จะโกหกมันว่าไรดีว่ะเนี้ย
เร็วๆแล้วกัน ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เลย
" เจ้าค่ะ แค่นี้น่ะ " ติ๊ด! ฉันกดวางและกำลังจะหันกลับไปแต่........
" ผิงมาทำไรตรงเนี้ย " พระเจ้าช่วยทอด เสียงพิ้งค์นี่ว่า
" ห่ะ! เอ่อ..เออ....มาๆๆ มาตามพิ้งค์ไง " ฉันหันมาทำหน้าไม่ถูกเลย
" อ้าวหรอ งั้นก็ไปสิ "
" เออ....พิ้งค์ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวๆ ผิงไป...ไปห้องน้ำก่อนน่ะ " ซวยแล้วๆๆๆ ทำไงดี กานล่ะ กานอยู่ไหนเนี้ย ฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่ได้ฟังว่าพิ้งค์พูดอะไรต่อ แล้วฉันก็วิ่งกับมาที่เดิมที่กานฉันแยกกับกาน แล้วก็เจอกานจริงๆด้วย
" กาน เป็นไงบ้าง พิ้งค์เห็นกานหรือเปล่า? " ฉันถามกานที่ยืนหลังให้
"
.."
" กาน...กาน...เป็นไรไป " ฉันเอามือจับไหลกานเบาๆ แต่กานกลับสะบัดมือฉันออก แล้วหันหน้ามาหาฉัน ด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา
" กาน.........เกิด..อะ..อะไรขึ้น..บอกผิงสิ " ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว หรือว่ากานจะรู้เรื่องที่พี่กายชอบฉัน หรือว่า......... โอ๊ย!!!! กานเป็นอะไรเนี้ย
" . " กานหันหน้าไปทางอื่น
" กานเกิดอะไรขึ้น บอกผิงสิ พูดออกมาสิ! "
" ทำไมผิง....ผิงไม่บอกกาน...ว่าพี่กาย..กับพิ้งค์..... "
" ทำไม สองคนนั้น ทำไม? "
" ว่าสองคนนั้นชอบกัน.... "
" ไม่ใช่น่ะ พิ้งค์น่ะหรอ ไม่ใช่หรอก พี่กายก็ไม่ได้ชอบพิ้งค์ด้วย "
" งั้น...... " กานหันมามองหน้าฉันด้วยแววตาแปลกๆ " งั้น.....พี่กายก็ชอบผิงใช่ไหมล่ะ " คำพูดที่ออกมาจากปากของกาน ทำให้ฉันตกใจมากก่อนที่จะหลบตาสายของกาน
" ไม่ใช่.... " ฉันพูดได้แค่เนี้ย พูดอะไรที่เข้าท่ากว่านี้ไม่ได้รึไง ฉันจะทำยังไงต่อไปดี " ไม่ใช่เลย...... "
" ผิงทำเพื่ออะไร ที่ผิงบอกว่าจะช่วยกาน เพื่ออะไร? "
" ก็...ผิง..ผิงก็จะช่วยกาน เพราะว่าผิงไม่ได้ชอบพี่กาย เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ผิงบอกให้พี่กายเลิกยุ่งกับผิงแล้ว...... " ฉันมองกานที่เอาแต่ส่ายหัว ไปมา
" ไม่ใช่หรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ ผิงต้องการอะไรบอกกานมาดีกว่า "
" ไม่มี ไม่มีอะไรเลย ผิงไม่ได้ต้องการอะไรจากกานเลย ผิงบอกว่าจะช่วยก็ต้องช่วย .. "
" แต่เมื่อกี้..ที่พี่กายพูดกับพิ้งค์ กานได้ยินหมดแล้วว่าพี่กายไปหาผิงที่บ้าน แล้วผิงก็บอกกับพี่กาย ว่ากลับบ้านได้แล้ว มันดึกแล้ว พี่กายเล่าให้พิ้งค์ฟังด้วยใบหน้าที่มีความสุขมาก...มันหมายความว่ายังไง "
" ........................ "
" พูดสิ ทำไมไม่พูดต่อล่ะ พี่กายยังพูดอีกน่ะ ว่ายังไงพี่ก็จะคอยดูแลผิงอยู่ห่างๆ....ฮึๆๆ " กานหัวเราะออกมาเบาๆ ตายแน่ ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ
" .."
" ผิงกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากพี่กาย โดยการทำเป็นว่าช่วยกาน..... "
" ไม่ใช่!! ที่ผิงช่วยกานเพราะว่ากานเป็นเพื่อนของผิงน่ะ!!! "
" เพื่อนหรอ? เพื่อน....ยังมีหน้ามาพูดคำนี้อีกหรอ!! "
เพี้ยะ!!!!!!
หน้าของฉันหันไปตามแรงตบของกาน กาน....กาน...ตะ..ตบหน้าฉัน เพื่อนของฉัน ตบหน้าฉัน เพราะผู้ชายคนเดียว กานตบฉันเพราะผู้ชายคนเดียว เรี่ยวแรงที่มีมันหายไปไหนหมด ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงจะฟาดหน้ากลับไปแล้ว...แต่ตอนนี้แรงจะยืนแทบจะไม่มี ฉันหันกลับมามองหน้ากาน...
" กานตบผิงเพื่อผู้ชายคนเดียว น่าสมเพช ทุเรศจริงๆๆ " กานยกมือขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ ฉันเตรียมที่จะตั้งท่ารับ แต่ก่อนที่ฝ่ามือจะลงมาประทับที่หน้าฉันอีกครั้ง กลับมีใบหน้าของคนๆหนึ่งมารับไว้แทน
" พี่กาย!!!! " กานร้องออกมาและยืนจับมือของตัวเองแน่น ขณะที่พี่กายที่โดนเข้าไปเต็มๆฝ่ามือกลับหันมาหาฉันที่ยืนอยู่ข้างหลัง
" ผิง ..ผิงไม่เป็นไรใช่ไหม " ฉันไม่ได้สนใจคำถามของพี่กาย ฉันรู้สึกแต่เพียงว่า กานมองหน้าฉันด้วยสายตาที่เพื่อนไม่ควรมองเพื่อนอย่างนี้
" พี่กาย....พี่กาย ไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ " ฉันหันไปทางอื่นเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า กานเดินเข้ามาหาพี่กายด้วยสายตาที่รู้สึกผิด แต่กานกลับมองเพื่อนคนนี้ด้วยสายตาที่เกลียดชัง ฉันไม่เข้าใจว่าฉันจะร้องไห้ทำไม ทั้งที่โดนตบมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แต่น้ำตามันก็ไม่หยุดไหลเสียที
" ผิง ไปเถอะ ไปห้องพยาบาลกับพี่น่ะ" พี่กายพูดขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจกานที่ยืนเสียใจอยู่ข้างหลัง
" ผิง...ผิงทำยังงี้กับกานได้ยังไง " ฉันไม่มีแรงจะอ้างปากพูด ได้แต่หันยิ้มกับคำถามที่กานไม่น่าถามออกมาได้ กานคงไม่พอใจกับรอยยิ้มนั้นจึงเดินเข้ามาหาฉันและพลักฉันล้มลง
" กาน!!!! อย่าแตะต้องตัวผิง " พี่กายพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่ฉันไม่เคยเห็น และพยายามพยุงฉันขึ้นมาแต่ฉันกลับเลือกที่จะลุกขึ้นเอง และเดินเข้าไปหากานพร้อมกับความเป็นเพื่อนที่จะสิ้นสุดลง
เพี้ยะ!!!!!!
หน้าของกานหันไปตามแรงตบของฉัน เพียงเท่านั้นที่ต้องการ ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกเดินออกมาจากตรงนั้น เดินไปเรื่อยๆ กับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้มันไม่มีค่าให้น่าจดจำซักนิด ฉันนั่งลงอย่างหมดแรงที่ฟุตบาทพร้อมกับซบหน้ากับหัวเข่าแล้วเริ่มร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย
" ผิง พี่ขอโทษ พี่อย่าเกลียดพี่เลย พี่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด พี่จะตบ จะต่อย จะด่า จะว่าอะไรก็ไร แต่ขออย่างเดียว อย่าเกลียดพี่ " เสียงของพี่กายดังผ่านโสตประสาทของฉันไป ฉันลุกขึ้นยืนและทำตามที่พี่กายต้องการ
เพี้ยะ!!!
" ไปให้พ้น ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่ ไปซะ "
" พี่จะไป แต่พี่ขออย่างเดียวจริงๆ ผิงอย่าเกลียดพี่ ได้ไหม "
เพี้ยะ!!!
" ถ้าผิงยังไม่พอใจ จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าเกลียดพี่ " ฉันเงยหน้ามองคนข้างหน้า ฉันพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะถูกพี่กายดึงเข้าไปกอด และได้ยินคำพูดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น
" พี่ขอโทษ! "
" '
" พี่ขอโทษ "
" '
" พี่ขอโทษ...... "
" '
ฉันกลับมาถึงบ้านโดยปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง พิ้งค์ที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ไม่ปริปากถามฉันซักคำ นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ แล้วลงมาทานข้าว ก่อนที่เดินล่องลอยขึ้นห้องไปอีกครั้ง
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......
ฉันค่อยเอื้อมมือมาออกมาจากผ้าห่ม กดรับแล้วก็เอาโทรศัพท์เข้ามาคุยใต้ผ้าห่ม
" ฮัลโหล "
ผิง พี่เองน่ะ
"
.."
พี่แค่อยากได้ยินเสียงผิงเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก
"
.."
ทานข้าวหรือยัง
" ทานแล้ว "
แล้วเจ็บหน้าหรือเปล่า เอายาไหมเดี๋ยวเอาไปให้
" ไม่ๆ ไม่! ต้องเลย ไม่เป็นไร "
ฮะๆๆฮ่าๆๆๆ
" ขำไร? "
เปล่าครับ นอนพักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว
" อืมๆ "
ฝันดีครับ อย่ามลืมฝันถึงพี่....ชายคนนี้ด้วยล่ะ
" จะพยายาม "
แค่นี่นะ
" เดี๋ยวๆ เออ..... "
ครับ?
" ฝันดีเหมือนกันน่ะ แค่นี้ล่ะ... " ติ๊ด!
ยัยผิงแกทำไรลงไปเนี้ย!!!!
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......
" ฮัลโหล อะไรอีกล่ะ "
แค่อยากจะบอกว่า มันแน่อยู่แล้ว พี่ฝันดีทุกคืนเลยตั้งแต่ได้เจอกับผิง
"
."
แค่นี้ล่ะ...
"
" ติ๊ด!
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาใน
" อะไรอีกล่ะ!!! "
อะไร? ใครอะไร? ทำไม?
" อ้าว ปอ หรอ "
ก็ใช่น่ะสิแกนึกว่าใครล่ะ
" เปล่า ว่าแต่แกมีไร เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหน้าเลยน่ะ ตั้งแต่คบกับแมนเนี้ยน่ะ "
ก็นิดหน่อยจ๊ะ ก็แมนเค้ามาดักหน้า ดักหลังตลอดเลยอ่ะ ฉันก็รำคาญเหมือนกัน
" อย่าบอกน่ะว่าแกจะเลิกคบน่ะ "
ก็ไม่แน่ ก็ดูสิ ฉันไม่มีเวลาได้อยู่กับแกเลยอ่ะ
" เฮ้ย! มันไม่ง่ายหรอกมั้ง"
ต้องรอดูจังหวะก่อนสิ
" เอ่อๆ แล้วโทรมามีไรอีกเปล่า "
ก็เรื่องที่เขาลือกันให้แซดน่ะสิ
" เรื่องไร? "
ก็เรื่องที่แกกับเด็กใหม่มีเรื่องกันน่ะสิ
"
."
เค้าพูดกันว่า ยัยนั้นเป็นเด็กทุนของโรงเรียน ประมาณว่าบ้านอยากจนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะ
"
.."
ฉันว่าแกก็ไม่น่าไปคบกับยัยนั้นเลย เป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆเลย
" ก็แกไม่อยู่ห้องเป็นเพื่อนฉันเลยนิ ฉันเลยต้องหาเพื่อนใหม่ "
งั้นก็สรุปว่าฉันผิด
" ประมาณนั้น "
แต่ฉันอยากให้แกระวังตัวไว้ด้วยน่ะ ฉันให้แมนลองสืบมาแล้ว
" พ่อแฟนเป็นนักสืบก็ดียังเงี้ย "
อย่ามาแซว ฉันซีเรียสน่ะแก
" เออๆ ฉันรู้แล้ว ใครจะมาทำอะไรฉันได้ ที่ได้เป็น S.D.P ก็เพราะเทควันโด้สายดำน่ะ อย่าลืมสิ "
จ้าๆ แม่คนเก่ง ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก
"
."
เข้าใจที่ฉันพูดน่ะ โอเค้?
" อืมๆ "
งั้นแค่นี้น่ะ เปลืองตังค์ว่ะ
" จ้าๆๆๆๆๆ บ๊าย บาย " ติ๊ด!
ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วกลับไปคิดเรื่องที่ยัยปอโทรมาเตือน กานจะกล้าทำอย่างนั้นเชียวหรอ เฮ้อ!!! แต่ก็ไม่แน่น่ะ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องดูแลพิ้งค์ให้ดีกว่าที่เคย ว่าแต่ปานนี้แล้วยังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่างอยู่หรอเนี้ย แต่ทำไมคนทีตื่นสายกลับเป็นฉันก็ไม่รู้เนอะ แหะๆ นอนดีกว่าเดี๋ยวตื่นสาย
เช้าแล้วววววววววววววววววววววววววว
" มาแล้วค่า คุณแม่ "
" มาแล้วก็รีบทานเลย สายทุกทีเลยเรา "
" พิ้งค์ รอด้วย อยากกินข้าวก่อนอ่ะ "
" ก็รีบกินสิ รออยู่ ให้เวลา 5 นาที "
5 ผ่านไป ชั่วพริบตาเดียวภายในชามว่างเปล่า
" ไปแล้วน่ะค่ะคุณแม่ "
" จ้า ตั้งใจเรียนน่ะ "
โรงเรียนนานาชาติวิทยากรณ์
" ไปก่อนน่ะผิง วันนี้เวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "
" ผิงไปช่วยดีกว่า... " ฉันหันไปบอกกับพิ้งค์ที่ยืนอยู่หน้าประตู เพื่อหาเรื่องที่จะหนีจากไอ้วัทที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโต๊ะเรียน
" ไม่ต้องเลย พิ้งค์ไปเถอะ ไอ้ผิงมีเรื่องต้องคุยกับวัทก่อนน่ะ "
" ไม่เอา จะไปช่วยพิ้งค์ "
" ไม่ต้องหนีเลย ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก บอกมาดีๆ เรื่องที่แกมีเรื่องกับ...กานน่ะ "
"
."
" บอกมาเถอะ กรูไม่เป็นไร " ฉันเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้วัทฟัง มันนั่งทำหน้าเฉยตลอด จนฉันเล่าถึงตอนที่กานตบหน้าฉัน ไอ้วัทก็ทำหน้าตกใจและจับหน้าฉันหมุนไปหมุนมา พอถึงตอนที่ฉันตบกานคืนมันก็ทำหน้าพอใจกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันไม่ได้เล่าตอนที่ฉันกับพี่กายอยู่ด้วยกันให้วัทฟัง แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ
" ดีแล้วล่ะ " วัทเอ่ยออกมาสั้นๆ
" แน่ใจหรอที่พูดแบบนี้อ่ะ "
" ยังไงกรูก็คงไม่ชอบคนที่ทำร้ายเพื่อนกรูหรอก "
" อย่าพูดอย่างนั้นเลย มันคนละคนกัน ไม่แน่กานเขาอาจจะชอบแกได้ "
" ไม่หรอกกรูมีผู้หญิงที่ดีกว่านั้น รออยู่ตั้งหลายคน "
" จ้า พ่อรูปหล่อ "
" เออๆ ไม่ต้องชมกรูหรอก กรูรู้ตัวดี "
" เฮ้อ!! ไปเข้าแถวดีกว่า " ว่าแล้วฉันก็เดินลงมาเข้าแถว แล้วก็ขึ้นไปเรียนคาบแรกในขณะที่พิ้งค์ไปสอบอะไรแลกๆเปลี่ยนๆ เนี้ยล่ะ ฉันเจอกับปอที่นั่งเรียนอยู่ด้วยกัน แต่แม่นั้นนั่งอยู่แถวหลังๆ กับแฟน ฉันที่นั่งหน้าสุดเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร พอเที่ยงหันหลังมาอีกทีก็หายไปทั้งคู่เลยคงจะโดนลากลงไปทานข้าวที่โรงอาหารล่ะมั้ง ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ฉัน กานย้ายไปนั่งข้างหลังกับพวกชะนีดงพวกนั้นแล้ว ฉันลงไปทานข้าวกับวัท และก็นอนหลับตลอดคาบบ่าย (ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างน่ะจ๊ะ) จนเลิกเรียน ฉันก็ลงมารอที่หน้าโรงเรียนกับพิ้งค์ที่บอกว่าลืมหนังสือไว้บนห้องและวิ่งกลับขึ้นไปเอา
" รีบมาน่ะ " ฉันตะโกนตามหลังไป
" จ้าๆ "
" พิ้งค์ไปไหนหรอครับผิง? " พี่กายเดินออกมาทีหลังเมื่อพิ้งค์วิ่งไปแล้ว
" ไปเอาหนังสือบนห้อง "
" พี่ยืนเป็นเพื่อนน่ะ "
" ไม่เป็นไร "
" กินอะไรไหม? " พี่กายถามฉัน พลางหันไปมองที่รถเข็นขายของ สอง สามคันที่ขายของกินอยู่หน้าโรงเรียน
" ไม่อ่ะ ไม่หิว "
" พี่เลี้ยงเอง "
" อยากกินไอติม แต่มันจอดอยู่ฝังนู้นอ่ะ " ฉันพูดและมองไปที่รถไอติมที่จอดอยู่อีกฝังของถนน
" ได้! เดี๋ยวพี่กายจัดให้ " ฉันยืนมองพี่กายที่กำลังข้ามถนน เพื่อไปซื้อไอติมให้ฉัน ฉันหันกลับมามองทางที่พิ้งค์วิ่งไปอีกครั้ง ก่อนจะยืนมองพี่กายต่อแถวซื้อไอติม
************************* พิ้งค์ ********************************
" จ้าๆ " ฉันหันหลังไปขานตอบผิงที่ตะโกนตามหลังมา ฉันวิ่งขึ้นห้องเพราะลืมหนังสือที่เอามาสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนในวันนี้ อีกวันสองวันก็คงจะประกาศผลแล้วล่ะ ฉันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อได้หนังสือแล้วฉันกำลังก้าวเดิน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน กาน กับพวกผู้หญิงที่ผิงมักชอบเรียกพวกชะนีดง เดินเข้ามาในห้อง
" ผิง!!! " กานเรียกฉันว่าผิง ฉันขี้เกียจจะพูดกับคนพวกนี้จึงจะเดินออกจากห้องไป
" จะรีบไปไหนล่ะ ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าหน่อยหรอ " ยัยนีน่า หนึ่งในสามชิกพวกชะนีดงพูดกับฉัน
" ไม่ล่ะ ฉันไม่เคยมีเพื่อน...เออ....อย่างนี้ " ถึงมันจะเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำเอายัยพวกชะนีดงเต้นเป็นเจ้าเข้า
" ปากดีนักน่ะแก "
" ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว "
" เดี๋ยวสิ " กานเข้ามาจับตัวฉันไว้ และตะโกนบอกพวกชะนี " ได้เวลาชำระแค้น "
" ปล่อยฉันน่ะ!!! "
" อยากรู้นัก ถ้าสารวัตรนักเรียนแสนสวยถูกรุมจนหมดสภาพ มันจะเป็นยังไง "
" ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อย!! " ไม่มีใครฟังฉันซักคน ยัยพวกนั้นเข้ารุมทำร้ายจนไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร ฉันช่วยตัวเองไม่ได้เลย นอกจากน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดกับความเจ็บปวดที่ได้รับ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฉันร้องออกมาอย่างสุดเสียง ยัยพวกนั้นยังคงตบฉันอย่างไม่ปราณี
***************************** ผิง ****************************
ฉันหันหลังควับหันไปมองที่อาคารเรียน หลังจากที่ฉันได้ยินเสียง ฉันแน่ใจว่าได้ยิน เสียงคนร้องกรี๊ด
ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก
" พิ้งค์!!!!!!! "
เมื่อคนๆนั้นหันมาพร้อมรอยยิ้ม.....
" นายมาที่นี้ทำไม "
" โอ้โฮ้ ทักกันยังงี้เลยหรอครับ "
" ฉันถามนายอยู่ อย่ามานอกเรื่อง " ตอนนี้ฉันไม่เข้านายขี้จริงๆ ทำไมเขาต้องทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย
" ก็ผิงไม่รับโทรศัพท์ของพี่ "
" จำเป็นหรอ? " เพียงวูบเดียว ฉันก็เห็นแววตาของนายขี้ดูเศร้าลง
" ใช่! พี่รู้ มันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรซักหน่อยสิน่ะ " เสียงเศร้าๆ ที่เหมือนกับจะพูดกับตัวเอง
" รู้ก็ดีแล้ว งั้นก็อย่าทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้อีก "
" แต่ผิงก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับผิง... "
" .." รู้แล้วยังไงล่ะ ฉันหันหน้าไปอีกทาง
" พี่ก็แค่อยากจะขอโอกาส.... "
" ถึงแม้ว่ามันจะไปเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ "
" ใช่ ขอเพียงแค่หวัง.....ก็พอ " ฉันรู้สึกถึงเสียงของเขาที่อ่อนแรง แต่คำพูดของเขาทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของกานที่พูดกับฉัน... " กานรู้ว่ามันอาจจะไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กานก็อยากจะพยายามซักครั้ง " น้ำเสียงของกานถึงมันจะสั่น แต่มั่นจะก็หนักแน่นในความหมาย
" แต่โอกาสที่นายขอฉัน มันเป็นโอกาสและความเจ็บปวดน่ะ " น้ำเสียงของฉันก็อ่อนแรงลงเช่นกัน
" แต่พี่ก็จะยอมรับมัน "
" ไม่มีทาง! นายควรจะหันไปมองคนอื่นๆ บ้างสิ คนที่นายอาจเพิ่งเจอกับเขา เขาอาจจะพร้อมที่จะให้นายมากกว่าฉัน "
" .." นายขี้มองหน้าฉัน
" อย่าให้มันเริ่มต้น หยุดมันไว้แค่นี้....ถือว่าฉันขอร้อง "
" ทำไมผิงถึง....ถึงพยายามที่จะปฎิเสธทุกอย่าง หรือว่า...... " นายขี้มองหน้าฉันอย่างจริงจัง " ผิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว "
ถึงฉันจะตกใจกับความคิดของนายขี้ แต่ถ้าเขาเข้าใจอย่างนั้นมันก็ดีแล้วนี่
" ใช่ ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันดีที่สุดแล้ว....ฉันคิดว่านายคงเข้าใจ "
" .. "
" นายกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ มันดึกแล้ว " นายขี้เดินมาทางฉัน ที่ยืนอยู่ตรงทางออก
" เป็นห่วงพี่หรอ " เหมือนกับประโยคจะพูดเพื่อยอกล้อ แต่น้ำเสียงของเขากลับคล้ายว่าจะมีความดีใจแฝงอยู่ ทำให้ฉันไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจเขาอีกแล้ว
" ใช่ พี่กายควรจะกลับบ้านได้แล้ว " ฉันตั้งใจเรียกเขาว่าพี่กาย พี่กายยิ้มออกมาแต่มันขัดกับแววตาโดยสิ้นเชิง
" พี่มีอะไรจะบอกผิงอีกอย่าง "
" "
" ไม่ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกัน แต่พี่กายคนนี้จะอยู่เคียงข้างผิงตลอดไป ถึงแม้ว่าผิงจะมองไม่เห็นก็ตาม.... " พี่กายเดินผ่านฉันออกไป ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นกับคำพูดของพี่กาย ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม ทำเพื่อกาน ทำเพื่อตัวพี่กายเอง ใช่! ทำถูกแล้ว แล้วทำไมฉันต้องใจหายกับคำพูดนั้นด้วย ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ฉันหัวเราะกับตัวเองเบาๆ แล้วจึงเดินเคาะหัวตัวเองขึ้นห้องไป
เช้านี้ที่สดใส......
ฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ แต่เมื่อฉันเห็นหน้าไอ้วัทก็ใจหายวาบทันที ฉันทำเพื่อกาน ทำเพื่อพี่กาย แล้วไอ้วัทล่ะ?
" หวัดดี วัท " ฉันเข้าไปทักไอ้วัทที่นั่งอยู่บนโต๊ะเรียน ไอ้วัทมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ
" เออๆ หวัดดี วันนี้เป็นไร กินยาผิดขวดหรือเปล่า? "
" เปล่านี้ สบายดี เอ่อๆ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนไม่ใช่หรอ "
" ก็รอคุณหญิงอยู่ท่านเดียวล่ะครับ " ทำมาประชดเดี๋ยวก็หลังแหวนซะหรอก
" หม่อนฉันขอประทานอภัยเพค่ะ งั้นเชิญเสด็จไปเลยเพค่ะ "
หน้าโรงเรียน
" เอ้าๆ แม่คุณ ไปกินเลือดที่ไหนมาห่ะ เช็ดออกซะเลย......ไอ้น้องรองเท้าๆ มันผิดระเบียบ กลับมานี่เลย.... " เสียงของฉันที่ตะโกนโวยวายอยู่คนเดียว ส่วนไอ้วัทน่ะหรอ สาวๆมาต่อคิวให้มันตรวจกันเป็นแถว ที่กับฉันทำไมวิ่งหนีกันเป็นแถว กว่าจะหมดเวลาเข้าโรงเรียนเล่นเอาฉันเสียงแหบ เสียงแห้ง ฉันเลยบอกลุงภารให้ปิดประตูได้แล้วเพราะมันหมดเวลาแล้ว คนที่มาหลังจากนี้ก็ต้องมาลงชื่อไว้ว่ามาสาย
ปริ้นๆๆ !!!!!!!!
เสียงรถคันหนึ่งบีบแตรดังมาแต่ไกล โอ๊ย!!! พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย!!! แล้วรถนั้นก็วิ่งผ่านฉันไป แล้วก็หายไปด้านหลังอาคารที่เป็นที่จอดรถในโรงเรียน
" รถใครว่ะ วัท? "
" จะไปรู้หรอ ก็ยืนอยู่ด้วยกัน โอ๊ย!!! " ไม่ต้องตกใจค่ะ แค่มือของฉันมันล่วงไปโดนหัวไอ้วัทเฉยๆ
" ปากดีนัก นะแก "
" รถใครก็ช่าง แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่รถของเด็กนักเรียน...เราก็ไม่ต้องไปลากมันออกมาลงชื่อ โอเค้? "
" เออๆ ไปเข้าแถวเถอะว่ะ " ฉันกับไอ้วัทก็เดินไปเข้าแถว ที่ตอนนี้อาจารย์กำลังขึ้นไปประกาศอะไรซักอย่างอยู่
" ถ้านักเรียนคนไหนสนใจก็มาขอใบสมัครที่ตึกทั่วไปน่ะค่ะ....เชิญเข้าเรียนได้แล้วค่ะ " พอสิ้นเสียงของอาจารย์นักเรียนก็ต่างลุกฮือ ฉันที่กำลังจะถูกเหยียบตายเลยต้องรีบหาพิ้งค์ให้เจอก่อนที่คนมันเหยียบฉันจนจมดิน
" พิ้งค์!!!ๆๆ " เจอแล้วๆๆ
" อ้าวผิง มานี่ๆ เร็วๆ.... " ฉันเลยวิ่งซิกแซกไปหาพิ้งค์ที่ยืนรออยู่ที่บันไดทางขึ้นอาคารเรียน
" สมัครไหมผิง? "
" สมัครอะไร? "
" ก็โรงเรียนของเราเขาสมัครสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่นที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันนะสิ "
"
"
" โรงเรียนของเรามีสาขาอยู่หลายประเทศเลย มีที่ ญี่ปุ่น เยอรมัน เกาหลี แล้วก็ จีน น่าสนใจๆๆ "
" .."
" พิ้งค์จะลองสมัครดูอ่ะ ผิงเอาเปล่า? "
" หึๆ ไม่ไหวอ่ะ แค่ภาษาไทยก็เกือบไม่รอด "
" ไม่ลองดูซักหน่อยหรอ "
" ไม่เอาค่ะเปลืองข้อสอบเขาเปล่าๆ ไปเรียนเถอะ " ว่าแล้วฉันก็เดินนำหน้าพิ้งค์ขึ้นห้องเรียนไป พลางหันไปถามไอ้วัทที่เดินตามมาเงียบๆ
" แกล่ะ จะไปสมัครกะเขาบ้างหรือเปล่า "
" ไม่เอาหรอก ยังไงก็สอบติดอยู่ดี ไม่ต้องลองหรอก อยู่นี้เป็นเพื่อนแกดีกว่า " ไอ้วัทพูดได้อย่างหน้าตาเฉยมั่กมาก แล้วก็เอามือมากอดคอฉัน ฉันซึ้งใจจังเลย ไอ้เพื่อนแท้
" ผิงๆๆ "
" อ้าว กาน " ฉันหันหลังกลับไปก็เห็นกานกำลังวิ่งขึ้นบันไดตามมา ฉันหันไปมองไอ้วัท แต่ไอ้วัทกับไปยืนคุยกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้ จะเอายังไงแน่ว่ะ ไอ้นี่นิ!
" ไปไหนมาหรอ ไม่เห็นเข้าแถว "
" อ๋อ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "
" เออ...ผิงเห็นพี่กายบ้างรึเปล่า "
" ไม่อ่ะ ยังไม่เห็นเลย " ใช่สิ ฉันลืมนึกถึงไปเลย ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย ฉันมองส่ายสาตาลงไปขางล่าง ก็เจอคนที่กำลังพูดถึงยืนคุยกับพิ้งค์อยู่
" นั้นไงกาน " กานหันไปมองตามนิ้วของฉันที่ชี้อยู่ แล้วพี่กายกับพิ้งค์ก็เดินออกไปด้วยกันพอดี
" จะไปไหนกันน่ะ? " กานบ่นออกมา " ผิงไปเป็นเพื่อนกานหน่อยน่ะ " ฉันยังไม่ได่เอ่ยปากตกลงก็ถูกฉุดกระชากลากถูกลงมาทันที
" เฮ้ย!! เดี๋ยวกาน สองคนนั้นอาจจะไปคุยธุระกันก็ได้ "
"
" กานไม่ตอบโต้ฉัน เอาเดินลากฉันมาแล้วก็เข้ามาแอบที่มุมตึกที่สองคนนั้นยืนคุยกันอยู่
" ผิงว่าแบบนี้มันไม่ดีนะ...... "
" ฟังสิ! " กานหันมาจุ๊ปากให้ฉันเงียบ อะไรกันเนี้ยกานหึงพี่กายหรอ ฉันมองหน้ากานงงๆ แล้วก็ได้ยินกับพูดที่ออกมาจากสองคนนั้น
" พี่กายไม่เป็นไรน่ะค่ะ " พิ้งค์ถามกายที่ยืนนิ่งอยู่
" พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณพิ้งค์มากที่เป็นห่วงพี่ "
ครืนๆ ครืนๆ โทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงของฉันสั่น เพราะมีคนโทรเข้า ฉันเลยยกโทรศัพท์ให้กานดูว่ามีคนโทรเข้าและขอตัวออกมาคุย
ไอ้ผิง แกอยู่ไหนว่ะ ปล่อยกรูทิ้งไว้คนเดียว
" ก็ฉันเห็นแกยืนคุยกับยัยเพชร ยัยแพรว อะไรของแกอยู่นี่นา "
ไม่ต้องมาพูดดีเลย แล้วอยู่ไหนน่ะ ไม่ขึ้นเรียนหรือไง
" ติดธุระอยู่ เดี๋ยวขึ้นไป "
ธุระอะไร บอกไม่ได้เลยรึไง
" เออๆ เดี๋ยวขึ้นไปเล่าให้ฟัง " จะโกหกมันว่าไรดีว่ะเนี้ย
เร็วๆแล้วกัน ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เลย
" เจ้าค่ะ แค่นี้น่ะ " ติ๊ด! ฉันกดวางและกำลังจะหันกลับไปแต่........
" ผิงมาทำไรตรงเนี้ย " พระเจ้าช่วยทอด เสียงพิ้งค์นี่ว่า
" ห่ะ! เอ่อ..เออ....มาๆๆ มาตามพิ้งค์ไง " ฉันหันมาทำหน้าไม่ถูกเลย
" อ้าวหรอ งั้นก็ไปสิ "
" เออ....พิ้งค์ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวๆ ผิงไป...ไปห้องน้ำก่อนน่ะ " ซวยแล้วๆๆๆ ทำไงดี กานล่ะ กานอยู่ไหนเนี้ย ฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่ได้ฟังว่าพิ้งค์พูดอะไรต่อ แล้วฉันก็วิ่งกลับมาที่เดิมที่ฉันแยกกับกาน แล้วก็เจอกานจริงๆด้วย
" กาน เป็นไงบ้าง พิ้งค์เห็นกานหรือเปล่า? " ฉันถามกานที่ยืนหลังให้
"
.."
" กาน...กาน...เป็นไรไป " ฉันเอามือจับไหลกานเบาๆ แต่กานกลับสะบัดมือฉันออก แล้วหันหน้ามาหาฉัน ด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา
" กาน.........เกิด..อะ..อะไรขึ้น..บอกผิงสิ " ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว หรือว่ากานจะรู้เรื่องที่พี่กายชอบฉัน หรือว่า......... โอ๊ย!!!! กานเป็นอะไรเนี้ย
" . " กานหันหน้าไปทางอื่น
" กานเกิดอะไรขึ้น บอกผิงสิ พูดออกมาสิ! "
" ทำไมผิง....ผิงไม่บอกกาน...ว่าพี่กาย..กับพิ้งค์..... "
" ทำไม สองคนนั้น ทำไม? "
" ว่าสองคนนั้นชอบกัน.... "
" ไม่ใช่น่ะ พิ้งค์น่ะหรอ ไม่ใช่หรอก พี่กายก็ไม่ได้ชอบพิ้งค์ด้วย "
" งั้น...... " กานหันมามองหน้าฉันด้วยแววตาแปลกๆ " งั้น.....พี่กายก็ชอบผิงใช่ไหมล่ะ " คำพูดที่ออกมาจากปากของกาน ทำให้ฉันตกใจมากก่อนที่จะหลบตาสายของกาน
" ไม่ใช่.... " ฉันพูดได้แค่เนี้ย พูดอะไรที่เข้าท่ากว่านี้ไม่ได้รึไง ฉันจะทำยังไงต่อไปดี " ไม่ใช่เลย...... "
" ผิงทำเพื่ออะไร ที่ผิงบอกว่าจะช่วยกาน เพื่ออะไร? "
" ก็...ผิง..ผิงก็จะช่วยกาน เพราะว่าผิงไม่ได้ชอบพี่กาย เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ผิงบอกให้พี่กายเลิกยุ่งกับผิงแล้ว...... " ฉันมองกานที่เอาแต่ส่ายหัว ไปมา
" ไม่ใช่หรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านี้ ผิงต้องการอะไรบอกกานมาดีกว่า "
" ไม่มี ไม่มีอะไรเลย ผิงไม่ได้ต้องการอะไรจากกานเลย ผิงบอกว่าจะช่วยก็ต้องช่วย .. "
" แต่เมื่อกี้..ที่พี่กายพูดกับพิ้งค์ กานได้ยินหมดแล้วว่าพี่กายไปหาผิงที่บ้าน แล้วผิงก็บอกกับพี่กาย ว่ากลับบ้านได้แล้ว มันดึกแล้ว พี่กายเล่าให้พิ้งค์ฟังด้วยใบหน้าที่มีความสุขมาก...มันหมายความว่ายังไง "
" ........................ "
" พูดสิ ทำไมไม่พูดต่อล่ะ พี่กายยังพูดอีกน่ะ ว่ายังไงพี่ก็จะคอยดูแลผิงอยู่ห่างๆ....ฮึๆๆ " กานหัวเราะออกมาเบาๆ ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ
" .."
" ผิงกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากพี่กาย โดยการทำเป็นว่าช่วยกาน..... "
" ไม่ใช่!! ที่ผิงช่วยกานเพราะว่ากานเป็นเพื่อนของผิงน่ะ!!! "
" เพื่อนหรอ? เพื่อน....ยังมีหน้ามาพูดคำนี้อีกหรอ!! "
เพี้ยะ!!!!!!
หน้าของฉันหันไปตามแรงตบของกาน กาน....กาน...ตะ..ตบหน้าฉัน เพื่อนของฉัน ตบหน้าฉัน เพราะผู้ชายคนเดียว กานตบฉันเพราะผู้ชายคนเดียว เรี่ยวแรงที่มีมันหายไปไหนหมด ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงจะฟาดหน้ากลับไปแล้ว...แต่ตอนนี้แรงจะยืนแทบจะไม่มี ฉันหันกลับมามองหน้ากาน...
" กานตบผิงเพื่อผู้ชายคนเดียว น่าสมเพช ทุเรศจริงๆ " กานยกมือขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ ฉันเตรียมที่จะตั้งท่ารับ แต่ก่อนที่ฝ่ามือจะลงมาประทับที่หน้าฉันอีกครั้ง กลับมีใบหน้าของคนๆหนึ่งมารับไว้แทน
" พี่กาย!!!! " กานร้องออกมาและยืนจับมือของตัวเองแน่น ขณะที่พี่กายที่โดนเข้าไปเต็มๆฝ่ามือกลับหันมาหาฉันที่ยืนอยู่ข้างหลัง
" ผิง ..ผิงไม่เป็นไรใช่ไหม " ฉันไม่ได้สนใจคำถามของพี่กาย ฉันรู้สึกแต่เพียงว่า กานมองหน้าฉันด้วยสายตาที่เพื่อนไม่ควรมองเพื่อนอย่างนี้
" พี่กาย....พี่กาย ไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ " ฉันหันไปทางอื่นเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า กานเดินเข้ามาหาพี่กายด้วยสายตาที่รู้สึกผิด แต่กานกลับมองเพื่อนคนนี้ด้วยสายตาที่เกลียดชัง ฉันไม่เข้าใจว่าฉันจะร้องไห้ทำไม ทั้งที่โดนตบมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย แต่น้ำตามันก็ไม่หยุดไหลเสียที
" ผิง ไปเถอะ ไปห้องพยาบาลกับพี่น่ะ" พี่กายพูดขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจกานที่ยืนเสียใจอยู่ข้างหลัง
" ผิง...ผิงทำยังงี้กับกานได้ยังไง " ฉันไม่มีแรงจะอ้างปากพูด ได้แต่หันยิ้มกับคำถามที่กานไม่น่าถามออกมาได้ กานคงไม่พอใจกับรอยยิ้มนั้นจึงเดินเข้ามาหาฉันและพลักฉันล้มลง
" กาน!!!! อย่าแตะต้องตัวผิง " พี่กายพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่ฉันไม่เคยเห็น และพยายามพยุงฉันขึ้นมาแต่ฉันกลับเลือกที่จะลุกขึ้นเอง และเดินเข้าไปหากานพร้อมกับความเป็นเพื่อนที่จะสิ้นสุดลง
เพี้ยะ!!!!!!
หน้าของกานหันไปตามแรงตบของฉัน เพียงเท่านั้นที่ต้องการ ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกเดินออกมาจากตรงนั้น เดินไปเรื่อยๆ กับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้มันไม่มีค่าให้น่าจดจำซักนิด ฉันนั่งลงอย่างหมดแรงที่ฟุตบาทพร้อมกับซบหน้ากับหัวเข่าแล้วเริ่มร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย
" ผิง พี่ขอโทษ พี่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด พี่จะตบ จะต่อย จะด่า จะว่าอะไรก็ไร แต่ขออย่างเดียว ผิงอย่าเกลียดพี่ " เสียงของพี่กายดังผ่านโสตประสาทของฉันไป ฉันลุกขึ้นยืนและทำตามที่พี่กายต้องการ
เพี้ยะ!!! พี่กายหันหน้าไปทางซ้าย
" ไปให้พ้น ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่ ไปซะ "
" พี่จะไป แต่พี่ขออย่างเดียวจริงๆ ผิงอย่าเกลียดพี่ ได้ไหม "
เพี้ยะ!!! พี่กายหันหน้าไปทางขวา
" ถ้าผิงยังไม่พอใจ จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าเกลียดพี่ " ฉันเงยหน้ามองคนข้างหน้า ฉันพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะถูกพี่กายดึงเข้าไปกอด และได้ยินคำพูดของพี่กายซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น
" พี่ขอโทษ! "
" '
" พี่ขอโทษ "
" '
" พี่ขอโทษ...... "
" '
ฉันกลับมาถึงบ้านโดยปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง พิ้งค์ที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ไม่ปริปากถามฉันซักคำ แต่นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ แล้วลงมาทานข้าว ก่อนที่เดินล่องลอยขึ้นห้องไปอีกครั้ง
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......
ฉันค่อยเอื้อมมือมาออกมาจากผ้าห่ม กดรับแล้วก็เอาโทรศัพท์เข้ามาคุยใต้ผ้าห่ม
" ฮัลโหล "
ผิง พี่เองน่ะ
"
.."
พี่แค่อยากได้ยินเสียงผิงเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก
"
.."
ทานข้าวหรือยัง
" ทานแล้ว "
แล้วเจ็บหน้าหรือเปล่า เอายาไหมเดี๋ยวเอาไปให้
" ไม่ๆ ไม่! ต้องเลย ไม่เป็นไร "
ฮะๆๆฮ่าๆๆๆ
" ขำอะไร? "
เปล่าครับ นอนพักผ่อนเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว
" อืมๆ "
ฝันดีครับ อย่ามลืมฝันถึงพี่....ชายคนนี้ด้วยล่ะ
" จะพยายาม "
แค่นี่นะ
" เดี๋ยวๆ เออ..... "
ครับ?
" ฝันดีเหมือนกันน่ะ แค่นี้ล่ะ... " ติ๊ด!
ยัยผิงแกทำไรลงไปเนี้ย!!!!
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......
" ฮัลโหล อะไรอีกล่ะ "
แค่อยากจะบอกว่า มันแน่อยู่แล้ว พี่ฝันดีทุกคืนเลยตั้งแต่ได้เจอกับผิง
"
."
แค่นี้ล่ะ...
"
" ติ๊ด! ตาบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาใน
" อะไรอีกล่ะ!!! "
อะไร? ใครอะไร? ทำไม?
" อ้าว ปอ หรอ "
ก็ใช่น่ะสิแกนึกว่าใครล่ะ
" เปล่า ว่าแต่แกมีไร เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหน้าเลยน่ะ ตั้งแต่คบกับแมนเนี้ยน่ะ "
ก็นิดหน่อยจ๊ะ ก็แมนเค้ามาดักหน้า ดักหลังตลอดเลยอ่ะ ฉันก็รำคาญเหมือนกัน
" อย่าบอกน่ะว่าแกจะเลิกคบน่ะ "
ก็ไม่แน่ ก็ดูสิ ฉันไม่มีเวลาได้อยู่กับแกเลยอ่ะ
" เฮ้ย! มันไม่ง่ายหรอกมั้ง"
ต้องรอดูจังหวะก่อนสิ
" เอ่อๆ แล้วโทรมามีไรอีกเปล่า "
ก็เรื่องที่เขาลือกันให้แซดน่ะสิ
" เรื่องไร? "
ก็เรื่องที่แกกับเด็กใหม่มีเรื่องกันน่ะสิ
"
."
เค้าพูดกันว่า ยัยนั้นเป็นเด็กทุนของโรงเรียน ประมาณว่าบ้านอยากจนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะ
"
.."
ฉันว่าแกก็ไม่น่าไปคบกับยัยนั้นเลย เป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆเลย
" ก็แกไม่อยู่ห้องเป็นเพื่อนฉันเลยนิ ฉันเลยต้องหาเพื่อนใหม่ "
งั้นก็สรุปว่าฉันผิด
" ประมาณนั้น "
แต่ฉันอยากให้แกระวังตัวไว้ด้วยน่ะ ฉันให้แมนลองสืบมาแล้ว
" พ่อแฟนเป็นนักสืบก็ดียังเงี้ย "
อย่ามาแซว ฉันซีเรียสน่ะแก
" เออๆ ฉันรู้แล้ว ใครจะมาทำอะไรฉันได้ ที่ได้เป็น S.D.P ก็เพราะเทควันโด้สายดำน่ะ อย่าลืมสิ "
จ้าๆ แม่คนเก่ง ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก
"
."
เข้าใจที่ฉันพูดน่ะ โอเค้?
" อืมๆ "
งั้นแค่นี้น่ะ เปลืองตังค์ว่ะ
" จ้าๆๆๆๆๆ บ๊าย บาย " ติ๊ด!
ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้ว กลับไปคิดเรื่องที่ยัยปอโทรมาเตือน กานจะกล้าทำอย่างนั้นเชียวหรอ เฮ้อ!!! แต่ก็ไม่แน่น่ะ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องดูแลพิ้งค์ให้ดีกว่าที่เคย ว่าแต่ปานนี้แล้วพิ้งค์ยังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่างอยู่หรอเนี้ย แต่ทำไมคนที่ตื่นสายกลับเป็นฉันก็ไม่รู้เนอะ แหะๆ นอนดีกว่าเดี๋ยวตื่นสาย
เช้าแล้วววววววววววววววววววววววววว
" มาแล้วค่า คุณแม่ "
" มาแล้วก็รีบทานเลย สายทุกทีเลยเรา "
" พิ้งค์ รอด้วย อยากกินข้าวก่อนอ่ะ "
" ก็รีบกินสิ รออยู่ ให้เวลา 5 นาที "
5 ผ่านไป ชั่วพริบตาเดียวภายในชามว่างเปล่า
" ไปแล้วน่ะค่ะคุณแม่ "
" จ้า ตั้งใจเรียนน่ะ "
โรงเรียนนานาชาติวิทยากรณ์
" ไปก่อนน่ะผิง วันนี้เวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "
" ผิงไปช่วยดีกว่า... " ฉันหันไปบอกกับพิ้งค์ที่ยืนอยู่หน้าประตู เพื่อหาเรื่องที่จะหนีจากไอ้วัทที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโต๊ะเรียน
" ไม่ต้องเลย พิ้งค์ไปเถอะ ไอ้ผิงมีเรื่องต้องคุยกับวัทก่อนน่ะ "
" ไม่เอา จะไปช่วยพิ้งค์ "
" ไม่ต้องหนีเลย ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก บอกมาดีๆ เรื่องที่แกมีเรื่องกับ...กานน่ะ"
"
."
" บอกมาเถอะ กรูไม่เป็นไร " ฉันเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้วัทฟัง มันนั่งทำหน้าเฉยๆตลอด จนฉันเล่าถึงตอนที่กานตบหน้าฉัน ไอ้วัทก็ทำหน้าตกใจและจับหน้าฉันหมุนไปหมุนมา พอถึงตอนที่ฉันตบกานคืนมันก็ทำหน้าพอใจกับสิ่งที่ฉันทำ แต่ฉันไม่ได้เล่าตอนที่ฉันกับพี่กายอยู่ด้วยกันให้วัทฟัง แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ
" ดีแล้วล่ะ " วัทเอ่ยออกมาสั้นๆ
" แน่ใจหรอที่พูดแบบนี้อ่ะ "
" ยังไงกรูก็คงไม่ชอบคนที่ทำร้ายเพื่อนกรูหรอก "
" อย่าพูดอย่างนั้นเลย มันคนละคนกัน ไม่แน่กานเขาอาจจะชอบแกได้ "
" ไม่หรอกกรูมีผู้หญิงที่ดีกว่านั้น รออยู่ตั้งหลายคน "
" จ้า พ่อคนรูปหล่อ "
" เออๆ ไม่ต้องชมกรูหรอก กรูรู้ตัวดี "
" เฮ้อ!! ไปเข้าแถวดีกว่า " ว่าแล้วฉันก็เดินลงมาเข้าแถว แล้วก็ขึ้นไปเรียนคาบแรกในขณะที่พิ้งค์ไปสอบอะไรแลกๆเปลี่ยนๆ เนี้ยล่ะ ฉันเจอกับปอที่นั่งเรียนอยู่ด้วยกัน แต่แม่นั้นนั่งอยู่แถวหลังๆ กับแฟน ฉันที่นั่งหน้าสุดเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร พอเที่ยงหันหลังมาอีกทีก็หายไปทั้งคู่เลยคงจะโดนลากลงไปทานข้าวที่โรงอาหารล่ะมั้ง ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ฉัน กานย้ายไปนั่งข้างหลังกับพวกชะนีดงพวกนั้นแล้ว ฉันลงไปทานข้าวกับวัท และก็นอนหลับตลอดคาบบ่าย (ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างน่ะจ๊ะ) จนเลิกเรียน ฉันก็ลงมารอที่หน้าโรงเรียนกับพิ้งค์ที่บอกว่าลืมหนังสือไว้บนห้องและวิ่งกลับขึ้นไปเอา
" รีบมาน่ะ " ฉันตะโกนตามหลังไป
" จ้าๆ "
" พิ้งค์ไปไหนหรอครับผิง? " พี่กายเดินออกมาทีหลังเมื่อพิ้งค์วิ่งไปแล้ว
" ไปเอาหนังสือบนห้อง "
" พี่ยืนเป็นเพื่อนน่ะ "
" ไม่เป็นไร "
" กินอะไรไหม? " พี่กายถามฉัน พลางหันไปมองที่รถเข็นขายของ สอง สามคันที่ขายของกินอยู่หน้าโรงเรียน
" ไม่อ่ะ ไม่หิว "
" พี่เลี้ยงเอง "
" อยากกินไอติม แต่มันจอดอยู่ฝังนู้นอ่ะ " ฉันพูดและมองไปที่รถไอติมที่จอดอยู่อีกฝังของถนน
" ได้! เดี๋ยวพี่กายจัดให้ " ฉันยืนมองพี่กายที่กำลังข้ามถนน เพื่อไปซื้อไอติมให้ฉัน ฉันหันกลับมามองทางที่พิ้งค์วิ่งไปอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมามองพี่กายต่อที่แถวซื้อไอติม
************************* พิ้งค์ ********************************
" จ้าๆ " ฉันหันหลังไปขานตอบผิงที่ตะโกนตามหลังมา ฉันวิ่งขึ้นห้องเพราะลืมหนังสือที่เอามาสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนในวันนี้ อีกวันสองวันก็คงจะประกาศผลแล้วล่ะ ฉันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อได้หนังสือแล้วฉันกำลังก้าวเดิน แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน กาน กับพวกผู้หญิงที่ผิงมักชอบเรียกพวกชะนีดง เดินเข้ามาในห้อง
" ผิง!!! " กานเรียกฉันว่าผิง ฉันขี้เกียจจะพูดกับคนพวกนี้จึงจะเดินออกจากห้องไป
" จะรีบไปไหนล่ะ ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าหน่อยหรอ " ยัยนีน่า หนึ่งในสมาชิกพวกชะนีดงพูดกับฉัน
" ไม่ล่ะ ฉันไม่เคยมีเพื่อน...เออ....อย่างนี้ " ถึงมันจะเป็นคำพูดธรรมดา แต่ก็ทำเอายัยพวกชะนีดงเต้นเป็นเจ้าเข้า
" ปากดีนักน่ะแก "
" ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว "
" เดี๋ยวสิ " กานเข้ามาจับตัวฉันไว้ และตะโกนบอกพวกชะนี " ได้เวลาชำระแค้น "
" ปล่อยฉันน่ะ!!! "
" อยากรู้นัก ถ้าสารวัตรนักเรียนแสนสวยถูกรุมจนหมดสภาพ มันจะเป็นยังไง "
" ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อย!! " ไม่มีใครฟังฉันซักคน ยัยพวกนั้นเข้ารุมทำร้ายจนไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร ฉันช่วยตัวเองไม่ได้เลย นอกจากน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดกับความเจ็บปวดที่ได้รับ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฉันร้องออกมาอย่างสุดเสียง ยัยพวกนั้นยังคงตบฉันอย่างไม่ปราณี
***************************** ผิง ****************************
ฉันหันหลังควับหันไปมองที่อาคารเรียน หลังจากที่ฉันได้ยินเสียง... ฉันแน่ใจว่าได้ยิน เสียงคนร้องกรี๊ด
ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก
" พิ้งค์!!!!!!! "
=========================================
ตอนนี้รู้สึกว่าจะรุนแรงอ่ะน่ะ ก็ใช่วิจารณญาณในการด้วยแล้วกันน่ะค่ะ
อย่าลืมไปอ่านเรื่อง รักสุดใฝ่...แต่ใจขอเอื้อม ด้วยน่ะ
ความคิดเห็น