ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แฝดจอมจุ้น...ลุ้นรัก...นายตัวร้าย~

    ลำดับตอนที่ #5 : ~ ทำเพื่อใคร ~

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 49


     

    ตอนที่ 5   ทำเพื่อใคร

    เมื่อคนๆนั้นหันมาพร้อมรอยยิ้ม.....

    " นายมาที่นี้ทำไม "

    " โอ้โฮ้  ทักกันยังงี้เลยหรอครับ "

    " ฉันถามนายอยู่  อย่ามานอกเรื่อง "         ตอนนี้ฉันไม่เข้านายขี้จริงๆ   ทำไมเขาต้องทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย

    " ก็ผิงไม่รับโทรศัพท์ของพี่ "

    "  จำเป็นหรอ? "    เพียงวูบเดียว ฉันก็เห็นแววตาของนายขี้ดูเศร้าลง

    " ใช่!  พี่รู้  มันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรซักหน่อยสิน่ะ "       เสียงเศร้าๆ ที่เหมือนกับจะพูดกับตัวเอง

    " รู้ก็ดีแล้ว  งั้นก็อย่างทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้อีก "

    " แต่ผิงก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับผิง... "

    "…………………….."   รู้แล้วยังไงล่ะ  ฉันหันหน้าไปอีกทาง

    " พี่ก็แค่อยากจะขอโอกาส.... "

    " ถึงแม้ว่ามันจะไปเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ "

    " ใช่  ขอเพียงแค่หวัง.....ก็พอ "         ฉันรู้สึกถึงเสียงของเขาที่อ่อนแรง  แต่คำพูดของเขาทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของกานที่พูดกับฉัน... " กานรู้ว่ามันอาจจะไม่มีทางเป็นไปได้  แต่กานก็อยากจะพยายามซักครั้ง "  น้ำเสียงของกานถึงมันจะสั่น  แต่มั่นจะก็หนักแน่นในความหมาย  

    " แต่โอกาสที่นายขอฉัน มันเป็นโอกาสและความเจ็บปวดน่ะ "   น้ำเสียงของฉันก็อ่อนแรงลงเช่นกัน

    " แต่พี่ก็จะยอมรับมัน "

    " ไม่มีทาง! นายควรจะหันไปมองคนอื่นๆ บ้างสิ   คนที่นายอาจเพิ่งเจอกับเขา  เขาอาจจะพร้อมที่จะให้นายมากกว่าฉัน "

    " …………………….."     นายขี้มองหน้าฉัน

    " อย่าให้มันเริ่มต้น   หยุดมันไว้แค่นี้....ถือว่าฉันขอร้อง "

    " ทำไมผิงถึง....ถึงพยายามที่จะปฎิเสธทุกอย่าง หรือว่า...... "  นายขี้มองหน้าฉันอย่างจริงจัง " ผิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว "

      ถึงฉันจะตกใจกับความคิดของนายขี้  แต่ถ้าเขาเข้าใจอย่างนั้นมันก็ดีแล้วนี่

    " ใช่  ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว   เพราะฉะนั้นเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันดีที่สุดแล้ว....ฉันคิดว่านายคงเข้าใจ "

    " ………………………….. "

    " นายกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ  มันดึกแล้ว "   นายขี้เดินมาทางฉัน ที่ยืนอยู่ตรงทางออก

    " เป็นห่วงพี่หรอ "     เหมือนกับประโยคจะพูดเพื่อยอกล้อ  แต่น้ำเสียงของเขากลับคล้ายว่าจะมีความดีใจแฝงอยู่  ทำให้ฉันไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจเขาอีกแล้ว

    " ใช่   พี่กายควรจะกลับบ้านได้แล้ว "    ฉันตั้งใจเรียกเขาว่าพี่กาย  พี่กายยิ้มออกมาแต่มันขัดกับแววตาโดยสิ้นเชิง

    " พี่มีอะไรจะบอกผิงอีกอย่าง "

    " ……………… "

    " ไม่ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกัน  แต่พี่กายคนนี้จะอยู่เคียงข้างผิงตลอดไป  ถึงแม้ว่าผิงจะมองไม่เห็นก็ตาม.... "      พี่กายเดินผ่านฉันออกไป        ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นกับคำพูดของพี่กาย  ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม  ทำเพื่อกาน  ทำเพื่อตัวพี่กายเอง   ใช่! ทำถูกแล้ว   แล้วทำไมฉันต้องใจหายกับคำพูดนั้นด้วย  ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ    ฉันหัวเราะกับตัวเองเบาๆ แล้วจึงเดินเคาะหัวตัวเองขึ้นห้องไป

    เช้านี้ที่สดใส......

    ฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ  แต่เมื่อฉันเห็นหน้าไอ้วัทก็ใจหายวาบทันที  ฉันทำเพื่อกาน  ทำเพื่อพี่กาย แล้วไอ้วัทล่ะ?

    " หวัดดี วัท "    ฉันเข้าไปทักไอ้วัทที่นั่งอยู่บนโต๊ะเรียน  ไอ้วัทมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ

    "  เออๆ  หวัดดี  วันนี้เป็นไร กินยาผิดขวดหรือเปล่า? "

    " เปล่านี้  สบายดี  เอ่อๆ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนไม่ใช่หรอ "

    " ก็รอคุณหญิงอยู่ท่านเดียวล่ะครับ "    ทำมาประชดเดี๋ยวก็หลังแหวนซะหรอก

    " หม่อนฉันขอประทานอภัยเพค่ะ   งั้นเชิญเสด็จไปเลยเพค่ะ "

    หน้าโรงเรียน

    " เอ้าๆ  แม่คุณ ไปกินเลือดที่ไหนมาห่ะ  เช็ดออกซะเลย......ไอน้องรองเท้าๆ มันผิดระเบียบ  กลับมานี่เลย "   เสียงของฉันที่ตะโกนโวยวายอยู่คนเดียว  ส่วนไอ้วัทน่ะหรอ สาวๆมาต่อคิวให้มันตรวจกันเป็นแถว  ที่กับฉันทำไมวิ่งหนีกันเป็นแถว  กว่าจะหมดเวลาเข้าโรงเรียนเล่นเอาฉันเสียงแหบ  เสียงแห้ง  ฉันเลยบอกลุงภารให้ปิดประตูได้แล้วเพราะมันหมดเวลาแล้ว  คนที่มาหลังจากนี้ก็ต้องมาลงชื่อไว้ว่ามาสาย

    ปริ้นๆๆ !!!!!!!!

    เสียงรถคันหนึ่งบีบแตรดังมาแต่ไกล  โอ๊ย!!!  พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย!!!  แล้วรถนั้นก็วิ่งผ่านฉันไป แล้วก็หายไปที่จอดรถในโรงเรียน

    " รถใครว่ะ วัท? "

    " จะไปรู้หรอ  ก็ยืนอยู่ด้วยกัน   โอ๊ย!!! "   ไม่ต้องตกใจค่ะ แค่มือของฉันมันล่วงไปโดนหัวไอ้วัทเฉยๆ

    " ปากดีนัก นะแก "

    " รถใครก็ช่าง  แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่รถของเด็กนักเรียน...เราก็ไม่ต้องไปลากมันออกมาลงชื่อ โอเค้? "

    " เออๆ  ไปเข้าแถวเถอะว่ะ  "    ฉันกับไอ้วัทก็เดินไปเข้าแถว  ที่ตอนนี้อาจารย์กำลังขึ้นไปประกาศอะไรซักอย่างอยู่

    " ถ้านักเรียนคนไหนสนใจก็มาขอใบสมัครที่ตึกทั่วไปน่ะค่ะ....เชิญเข้าเรียนได้แล้วค่ะ "  พอสิ้นเสียงของอาจารย์นักเรียนก็ต่างลุกฮือ  ฉันที่กำลังจะถูกเหยียบตายเลยต้องรีบหาพิ้งค์ให้เจอก่อนที่คนมันเหยียบฉันจนจมดิน

    " พิ้งค์!!!ๆๆ "      เจอแล้วๆๆ

    " อ้าวผิง มานี่ๆ  เร็วๆ.... "   ฉันเลยวิ่งซิกแซกไปหาพิ้งค์ที่ยืนรออยู่ที่บันไดทางขึ้นอาคารเรียน

    " สมัครไหมผิง? "

    " สมัครอะไร? "   

    " ก็โรงเรียนของเราเขาสมัครสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่นที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันนะสิ "

    " ………………………… "

    " โรงเรียนของเรามีสาขาอยู่หลายประเทศเลย มีที่ ญี่ปุ่น  เยอรมัน  เกาหลี  แล้วก็ จีน น่าสนใจๆๆ "

    "………………………….."

    " พิ้งค์จะลองสมัครดูอ่ะ  ผิงเอาเปล่า? "

    " หึๆ ไม่ไหวอ่ะ  แค่ภาษาไทยก็เกือบไม่รอด "

    " ไม่ลองดูซักหน่อยหรอ "

    " ไม่เอาค่ะเปลืองข้อสอบเขาเปล่าๆ  ไปเรียนเถอะ "    ว่าแล้วฉันก็เดินนำหน้าพิ้งค์ขึ้นห้องเรียนไป  พลางหันไปถามไอ้วัทที่เดินตามมาเงียบๆ

    " แกล่ะ จะไปสมัครกะเขาบ้างหรือเปล่า "

    " ไม่เอาหรอก ยังไงก็สอบติดอยู่ดี ไม่ต้องลองหรอก อยู่นี้เป็นเพื่อนแกดีกว่า "   ไอ้วัทพูดได้อย่างหน้าตาเฉยมั่กมาก แล้วก็เอามือมากอดคอฉัน ฉันซึ้งใจจังเลย ไอ้เพื่อนแท้

    " ผิงๆๆ "

    " อ้าว  กาน "   ฉันหันหลังกลับไปก็เห็นกานกำลังวิ่งขึ้นบันไดตามมา  ฉันหันไปมองไอ้วัท  แต่ไอ้วัทกับไปยืนคุยกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้  จะเอายังไงแน่ว่ะ ไอ้นี่นิ!

    " ไปไหนมาหรอ ไม่เห็นเข้าแถว "

    " อ๋อ  วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "

    " เออ...ผิงเห็นพี่กายบ้างรึเปล่า "

    " ไม่อ่ะ ยังไม่เห็นเลย "     ใช่สิ ฉันลืมนึกถึงไปเลย ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย  ฉันมองส่ายสาตาลงไปขางล่าง ก็เจอคนที่กำลังพูดถึงยืนคุยกับพิ้งค์อยู่

    " นั้นไงกาน "   กานหันไปมองตามนิ้วของฉันที่ชี้อยู่  แล้วพี่กายกับพิ้งค์ก็เดินออกไปด้วยกันพอดี

    " จะไปไหนกันน่ะ? "   กานบ่นออกมา   " ผิงไปเป็นเพื่อนกานหน่อยน่ะ "   ฉันยังไม่ได่เอ่ยปากตกลงก็ถูกฉุดกระชากลากถูกลงมาทันที

    " เฮ้ย!!  เดี๋ยวกาน  สองคนนั้นอาจจะไปคุยธุระกันก็ได้ "

    "………………………"    กานไม่ตอบโต้ฉัน เอาเดินลากฉันมาแล้วก็เข้ามาแอบที่มุมตึกที่สองคนนั้นยืนคุยกันอยู่

    " ผิงว่าแบบนี้มันไม่ดีนะ...... "

    " ฟังสิ! "    กานหันมาจุ๊ปากให้ฉันเงียบ  อะไรกันเนี้ยกานหึงพี่กายหรอ  ฉันมองหน้ากานงงๆ แล้วก็ได้ยินกับพูดที่ออกมาจากสองคนนั้น  ที่เกี่ยวกับฉัน

    " พี่กายไม่เป็นไรน่ะค่ะ "    พิ้งค์ถามกายที่ยืนนิ่งอยู่

    " พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ  ขอบคุณพิ้งค์มากที่เป็นห่วงพี่ "    

    ครืนๆ ครืนๆ  โทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงออกฉันสั่น เพราะมีคนโทรเข้า  ฉันเลยยกโทรศัพท์ให้กานดูว่ามีคนโทรเข้าและขอตัวออกมาคุย

    ไอ้ผิง แกอยู่ไหนว่ะ  ปล่อยกรูทิ้งไว้คนเดียว

    " ก็ฉันเห็นแกยืนคุยกับยัยเพชร ยัยแพรว อะไรของแกอยู่นี่นา "

     ไม่ต้องมาพูดดีเลย  แล้วอยู่ไหนน่ะ ไม่ขึ้นเรียนหรือไง

    " ติดธุระอยู่   เดี๋ยวขึ้นไป "

    ธุระอะไร  บอกไม่ได้เลยรึไง

    " เออๆ  เดี๋ยวขึ้นไปเล่าให้ฟัง "     จะโกหกมันว่าไรดีว่ะเนี้ย

    เร็วๆแล้วกัน  ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เลย

    " เจ้าค่ะ  แค่นี้น่ะ "   ติ๊ด!   ฉันกดวางและกำลังจะหันกลับไปแต่........

    " ผิงมาทำไรตรงเนี้ย "   พระเจ้าช่วยทอด  เสียงพิ้งค์นี่ว่า

    " ห่ะ!  เอ่อ..เออ....มาๆๆ มาตามพิ้งค์ไง "     ฉันหันมาทำหน้าไม่ถูกเลย

    " อ้าวหรอ  งั้นก็ไปสิ "

    " เออ....พิ้งค์ไปก่อนเถอะ  เดี๋ยวๆ  ผิงไป...ไปห้องน้ำก่อนน่ะ "      ซวยแล้วๆๆๆ  ทำไงดี  กานล่ะ กานอยู่ไหนเนี้ย  ฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่ได้ฟังว่าพิ้งค์พูดอะไรต่อ  แล้วฉันก็วิ่งกับมาที่เดิมที่กานฉันแยกกับกาน  แล้วก็เจอกานจริงๆด้วย

    " กาน เป็นไงบ้าง  พิ้งค์เห็นกานหรือเปล่า? "     ฉันถามกานที่ยืนหลังให้

    "……………………….."

    " กาน...กาน...เป็นไรไป "    ฉันเอามือจับไหลกานเบาๆ  แต่กานกลับสะบัดมือฉันออก  แล้วหันหน้ามาหาฉัน ด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา

    " กาน.........เกิด..อะ..อะไรขึ้น..บอกผิงสิ "     ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว  หรือว่ากานจะรู้เรื่องที่พี่กายชอบฉัน หรือว่า......... โอ๊ย!!!!  กานเป็นอะไรเนี้ย

    " …………………. "     กานหันหน้าไปทางอื่น

    " กานเกิดอะไรขึ้น  บอกผิงสิ  พูดออกมาสิ! "

    " ทำไมผิง....ผิงไม่บอกกาน...ว่าพี่กาย..กับพิ้งค์..... "

    " ทำไม สองคนนั้น ทำไม? " 

    " ว่าสองคนนั้นชอบกัน.... "

    " ไม่ใช่น่ะ   พิ้งค์น่ะหรอ   ไม่ใช่หรอก  พี่กายก็ไม่ได้ชอบพิ้งค์ด้วย "  

    " งั้น...... "    กานหันมามองหน้าฉันด้วยแววตาแปลกๆ  " งั้น.....พี่กายก็ชอบผิงใช่ไหมล่ะ "   คำพูดที่ออกมาจากปากของกาน  ทำให้ฉันตกใจมากก่อนที่จะหลบตาสายของกาน

    " ไม่ใช่.... "    ฉันพูดได้แค่เนี้ย  พูดอะไรที่เข้าท่ากว่านี้ไม่ได้รึไง   ฉันจะทำยังไงต่อไปดี   " ไม่ใช่เลย...... "

    " ผิงทำเพื่ออะไร  ที่ผิงบอกว่าจะช่วยกาน เพื่ออะไร? "

    " ก็...ผิง..ผิงก็จะช่วยกาน  เพราะว่าผิงไม่ได้ชอบพี่กาย  เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ผิงบอกให้พี่กายเลิกยุ่งกับผิงแล้ว...... "    ฉันมองกานที่เอาแต่ส่ายหัว ไปมา

    " ไม่ใช่หรอก  มันต้องมีอะไรมากกว่านี้  ผิงต้องการอะไรบอกกานมาดีกว่า "

    " ไม่มี  ไม่มีอะไรเลย  ผิงไม่ได้ต้องการอะไรจากกานเลย  ผิงบอกว่าจะช่วยก็ต้องช่วย….. "

    " แต่เมื่อกี้..ที่พี่กายพูดกับพิ้งค์   กานได้ยินหมดแล้วว่าพี่กายไปหาผิงที่บ้าน  แล้วผิงก็บอกกับพี่กาย ว่ากลับบ้านได้แล้ว มันดึกแล้ว  พี่กายเล่าให้พิ้งค์ฟังด้วยใบหน้าที่มีความสุขมาก...มันหมายความว่ายังไง "

    " ........................ "

    " พูดสิ  ทำไมไม่พูดต่อล่ะ  พี่กายยังพูดอีกน่ะ  ว่ายังไงพี่ก็จะคอยดูแลผิงอยู่ห่างๆ....ฮึๆๆ "    กานหัวเราะออกมาเบาๆ  ตายแน่  ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

    "……………….."

    " ผิงกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากพี่กาย โดยการทำเป็นว่าช่วยกาน..... "

    " ไม่ใช่!!  ที่ผิงช่วยกานเพราะว่ากานเป็นเพื่อนของผิงน่ะ!!! "

    " เพื่อนหรอ?  เพื่อน....ยังมีหน้ามาพูดคำนี้อีกหรอ!! "

    เพี้ยะ!!!!!!

    หน้าของฉันหันไปตามแรงตบของกาน   กาน....กาน...ตะ..ตบหน้าฉัน   เพื่อนของฉัน  ตบหน้าฉัน  เพราะผู้ชายคนเดียว  กานตบฉันเพราะผู้ชายคนเดียว    เรี่ยวแรงที่มีมันหายไปไหนหมด  ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงจะฟาดหน้ากลับไปแล้ว...แต่ตอนนี้แรงจะยืนแทบจะไม่มี    ฉันหันกลับมามองหน้ากาน...

    " กานตบผิงเพื่อผู้ชายคนเดียว……น่าสมเพช  ทุเรศจริงๆๆ "    กานยกมือขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ  ฉันเตรียมที่จะตั้งท่ารับ  แต่ก่อนที่ฝ่ามือจะลงมาประทับที่หน้าฉันอีกครั้ง กลับมีใบหน้าของคนๆหนึ่งมารับไว้แทน

    " พี่กาย!!!! "   กานร้องออกมาและยืนจับมือของตัวเองแน่น   ขณะที่พี่กายที่โดนเข้าไปเต็มๆฝ่ามือกลับหันมาหาฉันที่ยืนอยู่ข้างหลัง

    " ผิง…..ผิงไม่เป็นไรใช่ไหม "   ฉันไม่ได้สนใจคำถามของพี่กาย   ฉันรู้สึกแต่เพียงว่า  กานมองหน้าฉันด้วยสายตาที่เพื่อนไม่ควรมองเพื่อนอย่างนี้

    " พี่กาย....พี่กาย  ไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ "     ฉันหันไปทางอื่นเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า  กานเดินเข้ามาหาพี่กายด้วยสายตาที่รู้สึกผิด  แต่กานกลับมองเพื่อนคนนี้ด้วยสายตาที่เกลียดชัง    ฉันไม่เข้าใจว่าฉันจะร้องไห้ทำไม  ทั้งที่โดนตบมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย  แต่น้ำตามันก็ไม่หยุดไหลเสียที

    " ผิง ไปเถอะ  ไปห้องพยาบาลกับพี่น่ะ"    พี่กายพูดขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจกานที่ยืนเสียใจอยู่ข้างหลัง 

    " ผิง...ผิงทำยังงี้กับกานได้ยังไง "    ฉันไม่มีแรงจะอ้างปากพูด  ได้แต่หันยิ้มกับคำถามที่กานไม่น่าถามออกมาได้  กานคงไม่พอใจกับรอยยิ้มนั้นจึงเดินเข้ามาหาฉันและพลักฉันล้มลง

    " กาน!!!!  อย่าแตะต้องตัวผิง "    พี่กายพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่ฉันไม่เคยเห็น  และพยายามพยุงฉันขึ้นมาแต่ฉันกลับเลือกที่จะลุกขึ้นเอง  และเดินเข้าไปหากานพร้อมกับความเป็นเพื่อนที่จะสิ้นสุดลง

    เพี้ยะ!!!!!!

    หน้าของกานหันไปตามแรงตบของฉัน  เพียงเท่านั้นที่ต้องการ  ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกเดินออกมาจากตรงนั้น  เดินไปเรื่อยๆ   กับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้มันไม่มีค่าให้น่าจดจำซักนิด  ฉันนั่งลงอย่างหมดแรงที่ฟุตบาทพร้อมกับซบหน้ากับหัวเข่าแล้วเริ่มร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย

    " ผิง  พี่ขอโทษ   พี่อย่าเกลียดพี่เลย  พี่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด  พี่จะตบ จะต่อย จะด่า จะว่าอะไรก็ไร แต่ขออย่างเดียว  อย่าเกลียดพี่ "     เสียงของพี่กายดังผ่านโสตประสาทของฉันไป  ฉันลุกขึ้นยืนและทำตามที่พี่กายต้องการ

    เพี้ยะ!!! 

    " ไปให้พ้น  ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่  ไปซะ "

    " พี่จะไป  แต่พี่ขออย่างเดียวจริงๆ  ผิงอย่าเกลียดพี่ ได้ไหม "

    เพี้ยะ!!!

    "  ถ้าผิงยังไม่พอใจ  จะทำอะไรก็ได้  แต่อย่าเกลียดพี่ "     ฉันเงยหน้ามองคนข้างหน้า  ฉันพยักหน้าช้าๆ  ก่อนที่จะถูกพี่กายดึงเข้าไปกอด  และได้ยินคำพูดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น

    " พี่ขอโทษ! "

     "……………'

    " พี่ขอโทษ "

    "……………'

    " พี่ขอโทษ...... "

    "……………'

    ฉันกลับมาถึงบ้านโดยปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง  พิ้งค์ที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว   ก็ไม่ปริปากถามฉันซักคำ  นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ   ฉันเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ แล้วลงมาทานข้าว  ก่อนที่เดินล่องลอยขึ้นห้องไปอีกครั้ง

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......

    ฉันค่อยเอื้อมมือมาออกมาจากผ้าห่ม  กดรับแล้วก็เอาโทรศัพท์เข้ามาคุยใต้ผ้าห่ม

    " ฮัลโหล "

    ผิง  พี่เองน่ะ

    "………….."

    พี่แค่อยากได้ยินเสียงผิงเฉยๆ   ไม่มีอะไรหรอก

    "………….."

    ทานข้าวหรือยัง

    " ทานแล้ว "

    แล้วเจ็บหน้าหรือเปล่า  เอายาไหมเดี๋ยวเอาไปให้

    " ไม่ๆ ไม่! ต้องเลย  ไม่เป็นไร "

    ฮะๆๆฮ่าๆๆๆ

    " ขำไร? "

    เปล่าครับ  นอนพักผ่อนเถอะ  พี่ไม่กวนแล้ว

    " อืมๆ "

    ฝันดีครับ  อย่ามลืมฝันถึงพี่....ชายคนนี้ด้วยล่ะ

    " จะพยายาม "

    แค่นี่นะ

    " เดี๋ยวๆ  เออ..... "

    ครับ?

    " ฝันดีเหมือนกันน่ะ  แค่นี้ล่ะ... "    ติ๊ด!

    ยัยผิงแกทำไรลงไปเนี้ย!!!!

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......

    " ฮัลโหล อะไรอีกล่ะ "

    แค่อยากจะบอกว่า  มันแน่อยู่แล้ว พี่ฝันดีทุกคืนเลยตั้งแต่ได้เจอกับผิง

    "………………."

    แค่นี้ล่ะ...

    " ……………… "   ติ๊ด!

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาใน

    " อะไรอีกล่ะ!!! "

    อะไร?  ใครอะไร? ทำไม?

    " อ้าว ปอ หรอ "

    ก็ใช่น่ะสิแกนึกว่าใครล่ะ

    " เปล่า  ว่าแต่แกมีไร  เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหน้าเลยน่ะ  ตั้งแต่คบกับแมนเนี้ยน่ะ "

    ก็นิดหน่อยจ๊ะ  ก็แมนเค้ามาดักหน้า ดักหลังตลอดเลยอ่ะ  ฉันก็รำคาญเหมือนกัน

    " อย่าบอกน่ะว่าแกจะเลิกคบน่ะ "

    ก็ไม่แน่  ก็ดูสิ ฉันไม่มีเวลาได้อยู่กับแกเลยอ่ะ

    " เฮ้ย!  มันไม่ง่ายหรอกมั้ง"

    ต้องรอดูจังหวะก่อนสิ

    " เอ่อๆ  แล้วโทรมามีไรอีกเปล่า "

    ก็เรื่องที่เขาลือกันให้แซดน่ะสิ

    " เรื่องไร? "

    ก็เรื่องที่แกกับเด็กใหม่มีเรื่องกันน่ะสิ

    "……………."

    เค้าพูดกันว่า ยัยนั้นเป็นเด็กทุนของโรงเรียน ประมาณว่าบ้านอยากจนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะ

    "…………….."

    ฉันว่าแกก็ไม่น่าไปคบกับยัยนั้นเลย  เป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆเลย

    " ก็แกไม่อยู่ห้องเป็นเพื่อนฉันเลยนิ  ฉันเลยต้องหาเพื่อนใหม่ "

    งั้นก็สรุปว่าฉันผิด

    " ประมาณนั้น "

    แต่ฉันอยากให้แกระวังตัวไว้ด้วยน่ะ  ฉันให้แมนลองสืบมาแล้ว

    " พ่อแฟนเป็นนักสืบก็ดียังเงี้ย "

    อย่ามาแซว ฉันซีเรียสน่ะแก

    " เออๆ  ฉันรู้แล้ว  ใครจะมาทำอะไรฉันได้  ที่ได้เป็น S.D.P  ก็เพราะเทควันโด้สายดำน่ะ อย่าลืมสิ "

    จ้าๆ แม่คนเก่ง  ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก  แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก

    "…………………."

    เข้าใจที่ฉันพูดน่ะ โอเค้? 

    " อืมๆ "

    งั้นแค่นี้น่ะ  เปลืองตังค์ว่ะ

    " จ้าๆๆๆๆๆ บ๊าย บาย "    ติ๊ด!

    ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วกลับไปคิดเรื่องที่ยัยปอโทรมาเตือน   กานจะกล้าทำอย่างนั้นเชียวหรอ  เฮ้อ!!! แต่ก็ไม่แน่น่ะ  ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องดูแลพิ้งค์ให้ดีกว่าที่เคย  ว่าแต่ปานนี้แล้วยังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่างอยู่หรอเนี้ย  แต่ทำไมคนทีตื่นสายกลับเป็นฉันก็ไม่รู้เนอะ  แหะๆ  นอนดีกว่าเดี๋ยวตื่นสาย

    เช้าแล้วววววววววววววววววววววววววว

    " มาแล้วค่า  คุณแม่ "

    " มาแล้วก็รีบทานเลย  สายทุกทีเลยเรา "

    " พิ้งค์ รอด้วย อยากกินข้าวก่อนอ่ะ "

    " ก็รีบกินสิ  รออยู่  ให้เวลา 5 นาที "

    5        ผ่านไป  ชั่วพริบตาเดียวภายในชามว่างเปล่า

    " ไปแล้วน่ะค่ะคุณแม่ "

    " จ้า  ตั้งใจเรียนน่ะ "

    โรงเรียนนานาชาติวิทยากรณ์

    " ไปก่อนน่ะผิง  วันนี้เวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "

    " ผิงไปช่วยดีกว่า... "     ฉันหันไปบอกกับพิ้งค์ที่ยืนอยู่หน้าประตู  เพื่อหาเรื่องที่จะหนีจากไอ้วัทที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโต๊ะเรียน

    " ไม่ต้องเลย  พิ้งค์ไปเถอะ  ไอ้ผิงมีเรื่องต้องคุยกับวัทก่อนน่ะ "

    " ไม่เอา จะไปช่วยพิ้งค์ "

    " ไม่ต้องหนีเลย  ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก  บอกมาดีๆ  เรื่องที่แกมีเรื่องกับ...กานน่ะ "

    "……………………."

    " บอกมาเถอะ  กรูไม่เป็นไร "    ฉันเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้วัทฟัง  มันนั่งทำหน้าเฉยตลอด  จนฉันเล่าถึงตอนที่กานตบหน้าฉัน  ไอ้วัทก็ทำหน้าตกใจและจับหน้าฉันหมุนไปหมุนมา  พอถึงตอนที่ฉันตบกานคืนมันก็ทำหน้าพอใจกับสิ่งที่ฉันทำ  แต่ฉันไม่ได้เล่าตอนที่ฉันกับพี่กายอยู่ด้วยกันให้วัทฟัง  แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

    " ดีแล้วล่ะ "   วัทเอ่ยออกมาสั้นๆ

    " แน่ใจหรอที่พูดแบบนี้อ่ะ "

    " ยังไงกรูก็คงไม่ชอบคนที่ทำร้ายเพื่อนกรูหรอก "

    " อย่าพูดอย่างนั้นเลย  มันคนละคนกัน  ไม่แน่กานเขาอาจจะชอบแกได้ "

    " ไม่หรอกกรูมีผู้หญิงที่ดีกว่านั้น รออยู่ตั้งหลายคน "

    " จ้า พ่อรูปหล่อ "

    " เออๆ  ไม่ต้องชมกรูหรอก  กรูรู้ตัวดี "

    " เฮ้อ!!  ไปเข้าแถวดีกว่า "   ว่าแล้วฉันก็เดินลงมาเข้าแถว    แล้วก็ขึ้นไปเรียนคาบแรกในขณะที่พิ้งค์ไปสอบอะไรแลกๆเปลี่ยนๆ  เนี้ยล่ะ   ฉันเจอกับปอที่นั่งเรียนอยู่ด้วยกัน แต่แม่นั้นนั่งอยู่แถวหลังๆ กับแฟน  ฉันที่นั่งหน้าสุดเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร  พอเที่ยงหันหลังมาอีกทีก็หายไปทั้งคู่เลยคงจะโดนลากลงไปทานข้าวที่โรงอาหารล่ะมั้ง   ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ฉัน  กานย้ายไปนั่งข้างหลังกับพวกชะนีดงพวกนั้นแล้ว  ฉันลงไปทานข้าวกับวัท   และก็นอนหลับตลอดคาบบ่าย (ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างน่ะจ๊ะ)  จนเลิกเรียน ฉันก็ลงมารอที่หน้าโรงเรียนกับพิ้งค์ที่บอกว่าลืมหนังสือไว้บนห้องและวิ่งกลับขึ้นไปเอา

    " รีบมาน่ะ "   ฉันตะโกนตามหลังไป

    " จ้าๆ "  

    " พิ้งค์ไปไหนหรอครับผิง? "   พี่กายเดินออกมาทีหลังเมื่อพิ้งค์วิ่งไปแล้ว

    " ไปเอาหนังสือบนห้อง "

    " พี่ยืนเป็นเพื่อนน่ะ "

    " ไม่เป็นไร "

    " กินอะไรไหม? "   พี่กายถามฉัน พลางหันไปมองที่รถเข็นขายของ สอง สามคันที่ขายของกินอยู่หน้าโรงเรียน

    " ไม่อ่ะ  ไม่หิว "

    " พี่เลี้ยงเอง "

    " อยากกินไอติม  แต่มันจอดอยู่ฝังนู้นอ่ะ "   ฉันพูดและมองไปที่รถไอติมที่จอดอยู่อีกฝังของถนน

    " ได้!  เดี๋ยวพี่กายจัดให้ "   ฉันยืนมองพี่กายที่กำลังข้ามถนน  เพื่อไปซื้อไอติมให้ฉัน  ฉันหันกลับมามองทางที่พิ้งค์วิ่งไปอีกครั้ง  ก่อนจะยืนมองพี่กายต่อแถวซื้อไอติม

    *************************  พิ้งค์  ********************************

    " จ้าๆ "   ฉันหันหลังไปขานตอบผิงที่ตะโกนตามหลังมา  ฉันวิ่งขึ้นห้องเพราะลืมหนังสือที่เอามาสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนในวันนี้  อีกวันสองวันก็คงจะประกาศผลแล้วล่ะ   ฉันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว  เมื่อได้หนังสือแล้วฉันกำลังก้าวเดิน  แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน  กาน กับพวกผู้หญิงที่ผิงมักชอบเรียกพวกชะนีดง  เดินเข้ามาในห้อง

    " ผิง!!! "   กานเรียกฉันว่าผิง   ฉันขี้เกียจจะพูดกับคนพวกนี้จึงจะเดินออกจากห้องไป

    " จะรีบไปไหนล่ะ  ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าหน่อยหรอ "   ยัยนีน่า หนึ่งในสามชิกพวกชะนีดงพูดกับฉัน

    " ไม่ล่ะ ฉันไม่เคยมีเพื่อน...เออ....อย่างนี้ "    ถึงมันจะเป็นคำพูดธรรมดา  แต่ก็ทำเอายัยพวกชะนีดงเต้นเป็นเจ้าเข้า

    " ปากดีนักน่ะแก "

    " ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว "

    " เดี๋ยวสิ "     กานเข้ามาจับตัวฉันไว้  และตะโกนบอกพวกชะนี  " ได้เวลาชำระแค้น "

    " ปล่อยฉันน่ะ!!! "

    " อยากรู้นัก ถ้าสารวัตรนักเรียนแสนสวยถูกรุมจนหมดสภาพ มันจะเป็นยังไง "

    " ปล่อยฉัน  ฉันบอกให้ปล่อย!! "    ไม่มีใครฟังฉันซักคน   ยัยพวกนั้นเข้ารุมทำร้ายจนไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร  ฉันช่วยตัวเองไม่ได้เลย  นอกจากน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดกับความเจ็บปวดที่ได้รับ

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ฉันร้องออกมาอย่างสุดเสียง  ยัยพวกนั้นยังคงตบฉันอย่างไม่ปราณี

    *****************************  ผิง ****************************  

    ฉันหันหลังควับหันไปมองที่อาคารเรียน หลังจากที่ฉันได้ยินเสียง  ฉันแน่ใจว่าได้ยิน เสียงคนร้องกรี๊ด

    ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก  แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก

    " พิ้งค์!!!!!!! "    

    เมื่อคนๆนั้นหันมาพร้อมรอยยิ้ม.....

    " นายมาที่นี้ทำไม "

    " โอ้โฮ้  ทักกันยังงี้เลยหรอครับ "

    " ฉันถามนายอยู่  อย่ามานอกเรื่อง "         ตอนนี้ฉันไม่เข้านายขี้จริงๆ   ทำไมเขาต้องทำอะไรแปลกๆ อย่างนี้ด้วย

    " ก็ผิงไม่รับโทรศัพท์ของพี่ "

    "  จำเป็นหรอ? "    เพียงวูบเดียว ฉันก็เห็นแววตาของนายขี้ดูเศร้าลง

    " ใช่!  พี่รู้  มันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรซักหน่อยสิน่ะ "       เสียงเศร้าๆ ที่เหมือนกับจะพูดกับตัวเอง

    " รู้ก็ดีแล้ว  งั้นก็อย่าทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้อีก "

    " แต่ผิงก็รู้ว่าพี่คิดยังไงกับผิง... "

    "…………………….."   รู้แล้วยังไงล่ะ  ฉันหันหน้าไปอีกทาง

    " พี่ก็แค่อยากจะขอโอกาส.... "

    " ถึงแม้ว่ามันจะไปเป็นไปไม่ได้งั้นหรอ "

    " ใช่  ขอเพียงแค่หวัง.....ก็พอ "         ฉันรู้สึกถึงเสียงของเขาที่อ่อนแรง  แต่คำพูดของเขาทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของกานที่พูดกับฉัน... " กานรู้ว่ามันอาจจะไม่มีทางเป็นไปได้  แต่กานก็อยากจะพยายามซักครั้ง "  น้ำเสียงของกานถึงมันจะสั่น  แต่มั่นจะก็หนักแน่นในความหมาย  

    " แต่โอกาสที่นายขอฉัน มันเป็นโอกาสและความเจ็บปวดน่ะ "   น้ำเสียงของฉันก็อ่อนแรงลงเช่นกัน

    " แต่พี่ก็จะยอมรับมัน "

    " ไม่มีทาง! นายควรจะหันไปมองคนอื่นๆ บ้างสิ   คนที่นายอาจเพิ่งเจอกับเขา  เขาอาจจะพร้อมที่จะให้นายมากกว่าฉัน "

    " …………………….."     นายขี้มองหน้าฉัน

    " อย่าให้มันเริ่มต้น   หยุดมันไว้แค่นี้....ถือว่าฉันขอร้อง "

    " ทำไมผิงถึง....ถึงพยายามที่จะปฎิเสธทุกอย่าง หรือว่า...... "  นายขี้มองหน้าฉันอย่างจริงจัง " ผิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว "

      ถึงฉันจะตกใจกับความคิดของนายขี้  แต่ถ้าเขาเข้าใจอย่างนั้นมันก็ดีแล้วนี่

    " ใช่  ฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว   เพราะฉะนั้นเราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันดีที่สุดแล้ว....ฉันคิดว่านายคงเข้าใจ "

    " ………………………….. "

    " นายกลับบ้านไปได้แล้วล่ะ  มันดึกแล้ว "   นายขี้เดินมาทางฉัน ที่ยืนอยู่ตรงทางออก

    " เป็นห่วงพี่หรอ "     เหมือนกับประโยคจะพูดเพื่อยอกล้อ  แต่น้ำเสียงของเขากลับคล้ายว่าจะมีความดีใจแฝงอยู่  ทำให้ฉันไม่อยากที่จะทำร้ายจิตใจเขาอีกแล้ว

    " ใช่   พี่กายควรจะกลับบ้านได้แล้ว "    ฉันตั้งใจเรียกเขาว่าพี่กาย  พี่กายยิ้มออกมาแต่มันขัดกับแววตาโดยสิ้นเชิง

    " พี่มีอะไรจะบอกผิงอีกอย่าง "

    " ……………… "

    " ไม่ว่าเราสองคนจะเป็นอะไรกัน  แต่พี่กายคนนี้จะอยู่เคียงข้างผิงตลอดไป  ถึงแม้ว่าผิงจะมองไม่เห็นก็ตาม.... "      พี่กายเดินผ่านฉันออกไป        ฉันได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นกับคำพูดของพี่กาย  ฉันทำถูกแล้วใช่ไหม  ทำเพื่อกาน  ทำเพื่อตัวพี่กายเอง   ใช่! ทำถูกแล้ว   แล้วทำไมฉันต้องใจหายกับคำพูดนั้นด้วย  ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ    ฉันหัวเราะกับตัวเองเบาๆ แล้วจึงเดินเคาะหัวตัวเองขึ้นห้องไป






     

    เช้านี้ที่สดใส......

    ฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ  แต่เมื่อฉันเห็นหน้าไอ้วัทก็ใจหายวาบทันที  ฉันทำเพื่อกาน  ทำเพื่อพี่กาย แล้วไอ้วัทล่ะ?

    " หวัดดี วัท "    ฉันเข้าไปทักไอ้วัทที่นั่งอยู่บนโต๊ะเรียน  ไอ้วัทมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ

    "  เออๆ  หวัดดี  วันนี้เป็นไร กินยาผิดขวดหรือเปล่า? "

    " เปล่านี้  สบายดี  เอ่อๆ วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนไม่ใช่หรอ "

    " ก็รอคุณหญิงอยู่ท่านเดียวล่ะครับ "    ทำมาประชดเดี๋ยวก็หลังแหวนซะหรอก

    " หม่อนฉันขอประทานอภัยเพค่ะ   งั้นเชิญเสด็จไปเลยเพค่ะ "



     

    หน้าโรงเรียน

    " เอ้าๆ  แม่คุณ ไปกินเลือดที่ไหนมาห่ะ  เช็ดออกซะเลย......ไอ้น้องรองเท้าๆ มันผิดระเบียบ  กลับมานี่เลย.... "   เสียงของฉันที่ตะโกนโวยวายอยู่คนเดียว  ส่วนไอ้วัทน่ะหรอ สาวๆมาต่อคิวให้มันตรวจกันเป็นแถว  ที่กับฉันทำไมวิ่งหนีกันเป็นแถว  กว่าจะหมดเวลาเข้าโรงเรียนเล่นเอาฉันเสียงแหบ  เสียงแห้ง  ฉันเลยบอกลุงภารให้ปิดประตูได้แล้วเพราะมันหมดเวลาแล้ว  คนที่มาหลังจากนี้ก็ต้องมาลงชื่อไว้ว่ามาสาย

    ปริ้นๆๆ !!!!!!!!

    เสียงรถคันหนึ่งบีบแตรดังมาแต่ไกล  โอ๊ย!!!  พ่อคุณ แม่คุณเอ๊ย!!!  แล้วรถนั้นก็วิ่งผ่านฉันไป แล้วก็หายไปด้านหลังอาคารที่เป็นที่จอดรถในโรงเรียน

    " รถใครว่ะ วัท? "

    " จะไปรู้หรอ  ก็ยืนอยู่ด้วยกัน   โอ๊ย!!! "     ไม่ต้องตกใจค่ะ แค่มือของฉันมันล่วงไปโดนหัวไอ้วัทเฉยๆ

    " ปากดีนัก นะแก "

    " รถใครก็ช่าง  แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่รถของเด็กนักเรียน...เราก็ไม่ต้องไปลากมันออกมาลงชื่อ โอเค้? "

    " เออๆ  ไปเข้าแถวเถอะว่ะ  "    ฉันกับไอ้วัทก็เดินไปเข้าแถว  ที่ตอนนี้อาจารย์กำลังขึ้นไปประกาศอะไรซักอย่างอยู่

    " ถ้านักเรียนคนไหนสนใจก็มาขอใบสมัครที่ตึกทั่วไปน่ะค่ะ....เชิญเข้าเรียนได้แล้วค่ะ "  พอสิ้นเสียงของอาจารย์นักเรียนก็ต่างลุกฮือ  ฉันที่กำลังจะถูกเหยียบตายเลยต้องรีบหาพิ้งค์ให้เจอก่อนที่คนมันเหยียบฉันจนจมดิน

    " พิ้งค์!!!ๆๆ "      เจอแล้วๆๆ

    " อ้าวผิง มานี่ๆ  เร็วๆ.... "   ฉันเลยวิ่งซิกแซกไปหาพิ้งค์ที่ยืนรออยู่ที่บันไดทางขึ้นอาคารเรียน

    " สมัครไหมผิง? "

    " สมัครอะไร? "   

    " ก็โรงเรียนของเราเขาสมัครสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนอื่นที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันนะสิ "

    " ………………………… "

    " โรงเรียนของเรามีสาขาอยู่หลายประเทศเลย มีที่ ญี่ปุ่น  เยอรมัน  เกาหลี  แล้วก็ จีน น่าสนใจๆๆ "

    "………………………….."

    " พิ้งค์จะลองสมัครดูอ่ะ  ผิงเอาเปล่า? "

    " หึๆ ไม่ไหวอ่ะ  แค่ภาษาไทยก็เกือบไม่รอด "

    " ไม่ลองดูซักหน่อยหรอ "

    " ไม่เอาค่ะเปลืองข้อสอบเขาเปล่าๆ  ไปเรียนเถอะ "    ว่าแล้วฉันก็เดินนำหน้าพิ้งค์ขึ้นห้องเรียนไป  พลางหันไปถามไอ้วัทที่เดินตามมาเงียบๆ

    " แกล่ะ จะไปสมัครกะเขาบ้างหรือเปล่า "

    " ไม่เอาหรอก ยังไงก็สอบติดอยู่ดี ไม่ต้องลองหรอก อยู่นี้เป็นเพื่อนแกดีกว่า "   ไอ้วัทพูดได้อย่างหน้าตาเฉยมั่กมาก แล้วก็เอามือมากอดคอฉัน ฉันซึ้งใจจังเลย ไอ้เพื่อนแท้

    " ผิงๆๆ "

    " อ้าว  กาน "   ฉันหันหลังกลับไปก็เห็นกานกำลังวิ่งขึ้นบันไดตามมา  ฉันหันไปมองไอ้วัท  แต่ไอ้วัทกับไปยืนคุยกับสาวที่ไหนก็ไม่รู้  จะเอายังไงแน่ว่ะ ไอ้นี่นิ!

    " ไปไหนมาหรอ ไม่เห็นเข้าแถว "

    " อ๋อ  วันนี้เป็นเวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "

    " เออ...ผิงเห็นพี่กายบ้างรึเปล่า "

    " ไม่อ่ะ ยังไม่เห็นเลย "     ใช่สิ ฉันลืมนึกถึงไปเลย ตั้งแต่เช้าฉันก็ยังไม่เห็นหน้าเขาเลย  ฉันมองส่ายสาตาลงไปขางล่าง ก็เจอคนที่กำลังพูดถึงยืนคุยกับพิ้งค์อยู่

    " นั้นไงกาน "   กานหันไปมองตามนิ้วของฉันที่ชี้อยู่  แล้วพี่กายกับพิ้งค์ก็เดินออกไปด้วยกันพอดี

    " จะไปไหนกันน่ะ? "   กานบ่นออกมา   " ผิงไปเป็นเพื่อนกานหน่อยน่ะ "   ฉันยังไม่ได่เอ่ยปากตกลงก็ถูกฉุดกระชากลากถูกลงมาทันที

    " เฮ้ย!!  เดี๋ยวกาน  สองคนนั้นอาจจะไปคุยธุระกันก็ได้ "

    "………………………"    กานไม่ตอบโต้ฉัน เอาเดินลากฉันมาแล้วก็เข้ามาแอบที่มุมตึกที่สองคนนั้นยืนคุยกันอยู่

    " ผิงว่าแบบนี้มันไม่ดีนะ...... "

    " ฟังสิ! "    กานหันมาจุ๊ปากให้ฉันเงียบ  อะไรกันเนี้ยกานหึงพี่กายหรอ  ฉันมองหน้ากานงงๆ แล้วก็ได้ยินกับพูดที่ออกมาจากสองคนนั้น 

    " พี่กายไม่เป็นไรน่ะค่ะ "    พิ้งค์ถามกายที่ยืนนิ่งอยู่

    " พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ  ขอบคุณพิ้งค์มากที่เป็นห่วงพี่ "    

    ครืนๆ ครืนๆ  โทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงของฉันสั่น เพราะมีคนโทรเข้า  ฉันเลยยกโทรศัพท์ให้กานดูว่ามีคนโทรเข้าและขอตัวออกมาคุย

    ไอ้ผิง แกอยู่ไหนว่ะ  ปล่อยกรูทิ้งไว้คนเดียว

    " ก็ฉันเห็นแกยืนคุยกับยัยเพชร ยัยแพรว อะไรของแกอยู่นี่นา "

     ไม่ต้องมาพูดดีเลย  แล้วอยู่ไหนน่ะ ไม่ขึ้นเรียนหรือไง

    " ติดธุระอยู่   เดี๋ยวขึ้นไป "

    ธุระอะไร  บอกไม่ได้เลยรึไง

    " เออๆ  เดี๋ยวขึ้นไปเล่าให้ฟัง "     จะโกหกมันว่าไรดีว่ะเนี้ย

    เร็วๆแล้วกัน  ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เลย

    " เจ้าค่ะ  แค่นี้น่ะ "   ติ๊ด!   ฉันกดวางและกำลังจะหันกลับไปแต่........

    " ผิงมาทำไรตรงเนี้ย "   พระเจ้าช่วยทอด  เสียงพิ้งค์นี่ว่า

    " ห่ะ!  เอ่อ..เออ....มาๆๆ มาตามพิ้งค์ไง "     ฉันหันมาทำหน้าไม่ถูกเลย

    " อ้าวหรอ  งั้นก็ไปสิ "

    " เออ....พิ้งค์ไปก่อนเถอะ  เดี๋ยวๆ  ผิงไป...ไปห้องน้ำก่อนน่ะ "      ซวยแล้วๆๆๆ  ทำไงดี  กานล่ะ กานอยู่ไหนเนี้ย  ฉันวิ่งออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่ได้ฟังว่าพิ้งค์พูดอะไรต่อ  แล้วฉันก็วิ่งกลับมาที่เดิมที่ฉันแยกกับกาน  แล้วก็เจอกานจริงๆด้วย

    " กาน เป็นไงบ้าง  พิ้งค์เห็นกานหรือเปล่า? "     ฉันถามกานที่ยืนหลังให้

    "……………………….."

    " กาน...กาน...เป็นไรไป "    ฉันเอามือจับไหลกานเบาๆ  แต่กานกลับสะบัดมือฉันออก  แล้วหันหน้ามาหาฉัน ด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา

    " กาน.........เกิด..อะ..อะไรขึ้น..บอกผิงสิ "     ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว  หรือว่ากานจะรู้เรื่องที่พี่กายชอบฉัน หรือว่า......... โอ๊ย!!!!  กานเป็นอะไรเนี้ย

    " …………………. "     กานหันหน้าไปทางอื่น

    " กานเกิดอะไรขึ้น  บอกผิงสิ  พูดออกมาสิ! "

    " ทำไมผิง....ผิงไม่บอกกาน...ว่าพี่กาย..กับพิ้งค์..... "

    " ทำไม สองคนนั้น ทำไม? " 

    " ว่าสองคนนั้นชอบกัน.... "

    " ไม่ใช่น่ะ   พิ้งค์น่ะหรอ   ไม่ใช่หรอก  พี่กายก็ไม่ได้ชอบพิ้งค์ด้วย "  

    " งั้น...... "    กานหันมามองหน้าฉันด้วยแววตาแปลกๆ  " งั้น.....พี่กายก็ชอบผิงใช่ไหมล่ะ "   คำพูดที่ออกมาจากปากของกาน  ทำให้ฉันตกใจมากก่อนที่จะหลบตาสายของกาน

    " ไม่ใช่.... "    ฉันพูดได้แค่เนี้ย  พูดอะไรที่เข้าท่ากว่านี้ไม่ได้รึไง   ฉันจะทำยังไงต่อไปดี   " ไม่ใช่เลย...... "

    " ผิงทำเพื่ออะไร  ที่ผิงบอกว่าจะช่วยกาน เพื่ออะไร? "

    " ก็...ผิง..ผิงก็จะช่วยกาน  เพราะว่าผิงไม่ได้ชอบพี่กาย  เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ผิงบอกให้พี่กายเลิกยุ่งกับผิงแล้ว...... "    ฉันมองกานที่เอาแต่ส่ายหัว ไปมา

    " ไม่ใช่หรอก  มันต้องมีอะไรมากกว่านี้  ผิงต้องการอะไรบอกกานมาดีกว่า "

    " ไม่มี  ไม่มีอะไรเลย  ผิงไม่ได้ต้องการอะไรจากกานเลย  ผิงบอกว่าจะช่วยก็ต้องช่วย….. "

    " แต่เมื่อกี้..ที่พี่กายพูดกับพิ้งค์   กานได้ยินหมดแล้วว่าพี่กายไปหาผิงที่บ้าน  แล้วผิงก็บอกกับพี่กาย ว่ากลับบ้านได้แล้ว มันดึกแล้ว  พี่กายเล่าให้พิ้งค์ฟังด้วยใบหน้าที่มีความสุขมาก...มันหมายความว่ายังไง "

    " ........................ "

    " พูดสิ  ทำไมไม่พูดต่อล่ะ  พี่กายยังพูดอีกน่ะ  ว่ายังไงพี่ก็จะคอยดูแลผิงอยู่ห่างๆ....ฮึๆๆ "    กานหัวเราะออกมาเบาๆ   ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

    "……………….."

    " ผิงกำลังจะเรียกร้องความสนใจจากพี่กาย โดยการทำเป็นว่าช่วยกาน..... "

    " ไม่ใช่!!  ที่ผิงช่วยกานเพราะว่ากานเป็นเพื่อนของผิงน่ะ!!! "

    " เพื่อนหรอ?  เพื่อน....ยังมีหน้ามาพูดคำนี้อีกหรอ!! "

    เพี้ยะ!!!!!!

    หน้าของฉันหันไปตามแรงตบของกาน   กาน....กาน...ตะ..ตบหน้าฉัน   เพื่อนของฉัน  ตบหน้าฉัน  เพราะผู้ชายคนเดียว  กานตบฉันเพราะผู้ชายคนเดียว    เรี่ยวแรงที่มีมันหายไปไหนหมด  ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงจะฟาดหน้ากลับไปแล้ว...แต่ตอนนี้แรงจะยืนแทบจะไม่มี    ฉันหันกลับมามองหน้ากาน...

    " กานตบผิงเพื่อผู้ชายคนเดียว……น่าสมเพช  ทุเรศจริงๆ "    กานยกมือขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ  ฉันเตรียมที่จะตั้งท่ารับ  แต่ก่อนที่ฝ่ามือจะลงมาประทับที่หน้าฉันอีกครั้ง กลับมีใบหน้าของคนๆหนึ่งมารับไว้แทน

    " พี่กาย!!!! "   กานร้องออกมาและยืนจับมือของตัวเองแน่น   ขณะที่พี่กายที่โดนเข้าไปเต็มๆฝ่ามือกลับหันมาหาฉันที่ยืนอยู่ข้างหลัง

    " ผิง…..ผิงไม่เป็นไรใช่ไหม "   ฉันไม่ได้สนใจคำถามของพี่กาย   ฉันรู้สึกแต่เพียงว่า  กานมองหน้าฉันด้วยสายตาที่เพื่อนไม่ควรมองเพื่อนอย่างนี้

    " พี่กาย....พี่กาย  ไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ "     ฉันหันไปทางอื่นเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า  กานเดินเข้ามาหาพี่กายด้วยสายตาที่รู้สึกผิด  แต่กานกลับมองเพื่อนคนนี้ด้วยสายตาที่เกลียดชัง    ฉันไม่เข้าใจว่าฉันจะร้องไห้ทำไม  ทั้งที่โดนตบมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย  แต่น้ำตามันก็ไม่หยุดไหลเสียที

    " ผิง ไปเถอะ  ไปห้องพยาบาลกับพี่น่ะ"    พี่กายพูดขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจกานที่ยืนเสียใจอยู่ข้างหลัง 

    " ผิง...ผิงทำยังงี้กับกานได้ยังไง "    ฉันไม่มีแรงจะอ้างปากพูด  ได้แต่หันยิ้มกับคำถามที่กานไม่น่าถามออกมาได้  กานคงไม่พอใจกับรอยยิ้มนั้นจึงเดินเข้ามาหาฉันและพลักฉันล้มลง

    " กาน!!!!  อย่าแตะต้องตัวผิง "    พี่กายพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่ฉันไม่เคยเห็น  และพยายามพยุงฉันขึ้นมาแต่ฉันกลับเลือกที่จะลุกขึ้นเอง  และเดินเข้าไปหากานพร้อมกับความเป็นเพื่อนที่จะสิ้นสุดลง

    เพี้ยะ!!!!!!

    หน้าของกานหันไปตามแรงตบของฉัน  เพียงเท่านั้นที่ต้องการ  ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกเดินออกมาจากตรงนั้น  เดินไปเรื่อยๆ   กับสิ่งที่ได้พบเจอในวันนี้มันไม่มีค่าให้น่าจดจำซักนิด  ฉันนั่งลงอย่างหมดแรงที่ฟุตบาทพร้อมกับซบหน้ากับหัวเข่าแล้วเริ่มร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย

    " ผิง  พี่ขอโทษ   พี่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด  พี่จะตบ จะต่อย จะด่า จะว่าอะไรก็ไร แต่ขออย่างเดียว  ผิงอย่าเกลียดพี่ "     เสียงของพี่กายดังผ่านโสตประสาทของฉันไป  ฉันลุกขึ้นยืนและทำตามที่พี่กายต้องการ

    เพี้ยะ!!!       พี่กายหันหน้าไปทางซ้าย

    " ไปให้พ้น  ผิงไม่อยากเห็นหน้าพี่  ไปซะ "

    " พี่จะไป  แต่พี่ขออย่างเดียวจริงๆ  ผิงอย่าเกลียดพี่ ได้ไหม "

    เพี้ยะ!!!        พี่กายหันหน้าไปทางขวา

    "  ถ้าผิงยังไม่พอใจ  จะทำอะไรก็ได้  แต่อย่าเกลียดพี่ "     ฉันเงยหน้ามองคนข้างหน้า  ฉันพยักหน้าช้าๆ  ก่อนที่จะถูกพี่กายดึงเข้าไปกอด  และได้ยินคำพูดของพี่กายซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น

    " พี่ขอโทษ! "

     "……………'

    " พี่ขอโทษ "

    "……………'

    " พี่ขอโทษ...... "

    "……………'




     

    ฉันกลับมาถึงบ้านโดยปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง  พิ้งค์ที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว   ก็ไม่ปริปากถามฉันซักคำ  แต่นั้นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการ   ฉันเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ แล้วลงมาทานข้าว  ก่อนที่เดินล่องลอยขึ้นห้องไปอีกครั้ง

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......

    ฉันค่อยเอื้อมมือมาออกมาจากผ้าห่ม  กดรับแล้วก็เอาโทรศัพท์เข้ามาคุยใต้ผ้าห่ม

    " ฮัลโหล "

    ผิง  พี่เองน่ะ

    "………….."

    พี่แค่อยากได้ยินเสียงผิงเฉยๆ   ไม่มีอะไรหรอก

    "………….."

    ทานข้าวหรือยัง

    " ทานแล้ว "

    แล้วเจ็บหน้าหรือเปล่า  เอายาไหมเดี๋ยวเอาไปให้

    " ไม่ๆ ไม่! ต้องเลย  ไม่เป็นไร "

    ฮะๆๆฮ่าๆๆๆ

    " ขำอะไร? "

    เปล่าครับ  นอนพักผ่อนเถอะ  พี่ไม่กวนแล้ว

    " อืมๆ "

    ฝันดีครับ  อย่ามลืมฝันถึงพี่....ชายคนนี้ด้วยล่ะ

    " จะพยายาม "

    แค่นี่นะ

    " เดี๋ยวๆ  เออ..... "

    ครับ?

    " ฝันดีเหมือนกันน่ะ  แค่นี้ล่ะ... "    ติ๊ด!

    ยัยผิงแกทำไรลงไปเนี้ย!!!!

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาในใจ.....ถ้าเธอยังลืมเขาไม่ได้.......

    " ฮัลโหล อะไรอีกล่ะ "

    แค่อยากจะบอกว่า  มันแน่อยู่แล้ว พี่ฝันดีทุกคืนเลยตั้งแต่ได้เจอกับผิง

    "………………."

    แค่นี้ล่ะ...

    " ……………… "   ติ๊ด!     ตาบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ถ้า.......เธอยังคิดถึงเขา..........ยังคงมีแต่เขาใน

    " อะไรอีกล่ะ!!! "

    อะไร?  ใครอะไร? ทำไม?

    " อ้าว ปอ หรอ "

    ก็ใช่น่ะสิแกนึกว่าใครล่ะ

    " เปล่า  ว่าแต่แกมีไร  เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหน้าเลยน่ะ  ตั้งแต่คบกับแมนเนี้ยน่ะ "

    ก็นิดหน่อยจ๊ะ  ก็แมนเค้ามาดักหน้า ดักหลังตลอดเลยอ่ะ  ฉันก็รำคาญเหมือนกัน

    " อย่าบอกน่ะว่าแกจะเลิกคบน่ะ "

    ก็ไม่แน่  ก็ดูสิ ฉันไม่มีเวลาได้อยู่กับแกเลยอ่ะ

    " เฮ้ย!  มันไม่ง่ายหรอกมั้ง"

    ต้องรอดูจังหวะก่อนสิ

    " เอ่อๆ  แล้วโทรมามีไรอีกเปล่า "

    ก็เรื่องที่เขาลือกันให้แซดน่ะสิ

    " เรื่องไร? "

    ก็เรื่องที่แกกับเด็กใหม่มีเรื่องกันน่ะสิ

    "……………."

    เค้าพูดกันว่า ยัยนั้นเป็นเด็กทุนของโรงเรียน ประมาณว่าบ้านอยากจนอะไรประมาณเนี้ยอ่ะ

    "…………….."

    ฉันว่าแกก็ไม่น่าไปคบกับยัยนั้นเลย  เป็นเด็กมีปัญหาแน่ๆเลย

    " ก็แกไม่อยู่ห้องเป็นเพื่อนฉันเลยนิ  ฉันเลยต้องหาเพื่อนใหม่ "

    งั้นก็สรุปว่าฉันผิด

    " ประมาณนั้น "

    แต่ฉันอยากให้แกระวังตัวไว้ด้วยน่ะ  ฉันให้แมนลองสืบมาแล้ว

    " พ่อแฟนเป็นนักสืบก็ดียังเงี้ย "

    อย่ามาแซว ฉันซีเรียสน่ะแก

    " เออๆ  ฉันรู้แล้ว  ใครจะมาทำอะไรฉันได้  ที่ได้เป็น S.D.P  ก็เพราะเทควันโด้สายดำน่ะ อย่าลืมสิ "

    จ้าๆ แม่คนเก่ง  ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก  แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก

    "…………………."

    เข้าใจที่ฉันพูดน่ะ โอเค้? 

    " อืมๆ "

    งั้นแค่นี้น่ะ  เปลืองตังค์ว่ะ

    " จ้าๆๆๆๆๆ บ๊าย บาย "    ติ๊ด!

    ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้ว  กลับไปคิดเรื่องที่ยัยปอโทรมาเตือน   กานจะกล้าทำอย่างนั้นเชียวหรอ  เฮ้อ!!! แต่ก็ไม่แน่น่ะ  ถ้าอย่างงั้นฉันก็ต้องดูแลพิ้งค์ให้ดีกว่าที่เคย  ว่าแต่ปานนี้แล้วพิ้งค์ยังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่างอยู่หรอเนี้ย  แต่ทำไมคนที่ตื่นสายกลับเป็นฉันก็ไม่รู้เนอะ  แหะๆ  นอนดีกว่าเดี๋ยวตื่นสาย




     

    เช้าแล้วววววววววววววววววววววววววว

    " มาแล้วค่า  คุณแม่ "

    " มาแล้วก็รีบทานเลย  สายทุกทีเลยเรา "

    " พิ้งค์ รอด้วย อยากกินข้าวก่อนอ่ะ "

    " ก็รีบกินสิ  รออยู่  ให้เวลา 5 นาที "

    5        ผ่านไป  ชั่วพริบตาเดียวภายในชามว่างเปล่า

    " ไปแล้วน่ะค่ะคุณแม่ "

    " จ้า  ตั้งใจเรียนน่ะ "


     

    โรงเรียนนานาชาติวิทยากรณ์

    " ไปก่อนน่ะผิง  วันนี้เวรหน้าโรงเรียนอ่ะ "

    " ผิงไปช่วยดีกว่า... "     ฉันหันไปบอกกับพิ้งค์ที่ยืนอยู่หน้าประตู  เพื่อหาเรื่องที่จะหนีจากไอ้วัทที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนโต๊ะเรียน

    " ไม่ต้องเลย  พิ้งค์ไปเถอะ  ไอ้ผิงมีเรื่องต้องคุยกับวัทก่อนน่ะ "

    " ไม่เอา จะไปช่วยพิ้งค์ "

    " ไม่ต้องหนีเลย  ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก  บอกมาดีๆ  เรื่องที่แกมีเรื่องกับ...กานน่ะ"

    "……………………."

    " บอกมาเถอะ  กรูไม่เป็นไร "    ฉันเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้วัทฟัง  มันนั่งทำหน้าเฉยๆตลอด  จนฉันเล่าถึงตอนที่กานตบหน้าฉัน  ไอ้วัทก็ทำหน้าตกใจและจับหน้าฉันหมุนไปหมุนมา  พอถึงตอนที่ฉันตบกานคืนมันก็ทำหน้าพอใจกับสิ่งที่ฉันทำ  แต่ฉันไม่ได้เล่าตอนที่ฉันกับพี่กายอยู่ด้วยกันให้วัทฟัง  แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ

    " ดีแล้วล่ะ "   วัทเอ่ยออกมาสั้นๆ

    " แน่ใจหรอที่พูดแบบนี้อ่ะ "

    " ยังไงกรูก็คงไม่ชอบคนที่ทำร้ายเพื่อนกรูหรอก "

    " อย่าพูดอย่างนั้นเลย  มันคนละคนกัน  ไม่แน่กานเขาอาจจะชอบแกได้ "

    " ไม่หรอกกรูมีผู้หญิงที่ดีกว่านั้น รออยู่ตั้งหลายคน "

    " จ้า พ่อคนรูปหล่อ "

    " เออๆ  ไม่ต้องชมกรูหรอก  กรูรู้ตัวดี "

    " เฮ้อ!!  ไปเข้าแถวดีกว่า "   ว่าแล้วฉันก็เดินลงมาเข้าแถว    แล้วก็ขึ้นไปเรียนคาบแรกในขณะที่พิ้งค์ไปสอบอะไรแลกๆเปลี่ยนๆ  เนี้ยล่ะ   ฉันเจอกับปอที่นั่งเรียนอยู่ด้วยกัน แต่แม่นั้นนั่งอยู่แถวหลังๆ กับแฟน  ฉันที่นั่งหน้าสุดเลยไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร  พอเที่ยงหันหลังมาอีกทีก็หายไปทั้งคู่เลยคงจะโดนลากลงไปทานข้าวที่โรงอาหารล่ะมั้ง   ส่วนคนที่นั่งข้างๆ ฉัน  กานย้ายไปนั่งข้างหลังกับพวกชะนีดงพวกนั้นแล้ว  ฉันลงไปทานข้าวกับวัท   และก็นอนหลับตลอดคาบบ่าย (ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างน่ะจ๊ะ)  จนเลิกเรียน ฉันก็ลงมารอที่หน้าโรงเรียนกับพิ้งค์ที่บอกว่าลืมหนังสือไว้บนห้องและวิ่งกลับขึ้นไปเอา

    " รีบมาน่ะ "   ฉันตะโกนตามหลังไป

    " จ้าๆ "  

    " พิ้งค์ไปไหนหรอครับผิง? "   พี่กายเดินออกมาทีหลังเมื่อพิ้งค์วิ่งไปแล้ว

    " ไปเอาหนังสือบนห้อง "

    " พี่ยืนเป็นเพื่อนน่ะ "

    " ไม่เป็นไร "

    " กินอะไรไหม? "     พี่กายถามฉัน พลางหันไปมองที่รถเข็นขายของ สอง สามคันที่ขายของกินอยู่หน้าโรงเรียน

    " ไม่อ่ะ  ไม่หิว "

    " พี่เลี้ยงเอง "

    " อยากกินไอติม  แต่มันจอดอยู่ฝังนู้นอ่ะ "     ฉันพูดและมองไปที่รถไอติมที่จอดอยู่อีกฝังของถนน

    " ได้!  เดี๋ยวพี่กายจัดให้ "    ฉันยืนมองพี่กายที่กำลังข้ามถนน  เพื่อไปซื้อไอติมให้ฉัน  ฉันหันกลับมามองทางที่พิ้งค์วิ่งไปอีกครั้ง  ก่อนจะหันกลับมามองพี่กายต่อที่แถวซื้อไอติม


     

    *************************  พิ้งค์  ********************************

    " จ้าๆ "   ฉันหันหลังไปขานตอบผิงที่ตะโกนตามหลังมา  ฉันวิ่งขึ้นห้องเพราะลืมหนังสือที่เอามาสอบนักเรียนแลกเปลี่ยนในวันนี้  อีกวันสองวันก็คงจะประกาศผลแล้วล่ะ   ฉันเข้าไปในห้องที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว  เมื่อได้หนังสือแล้วฉันกำลังก้าวเดิน  แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเสียก่อน  กาน กับพวกผู้หญิงที่ผิงมักชอบเรียกพวกชะนีดง  เดินเข้ามาในห้อง

    " ผิง!!! "   กานเรียกฉันว่าผิง   ฉันขี้เกียจจะพูดกับคนพวกนี้จึงจะเดินออกจากห้องไป

    " จะรีบไปไหนล่ะ  ไม่คิดจะทักทายเพื่อนเก่าหน่อยหรอ "   ยัยนีน่า หนึ่งในสมาชิกพวกชะนีดงพูดกับฉัน

    " ไม่ล่ะ ฉันไม่เคยมีเพื่อน...เออ....อย่างนี้ "    ถึงมันจะเป็นคำพูดธรรมดา  แต่ก็ทำเอายัยพวกชะนีดงเต้นเป็นเจ้าเข้า

    " ปากดีนักน่ะแก "

    " ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว "

    " เดี๋ยวสิ "     กานเข้ามาจับตัวฉันไว้  และตะโกนบอกพวกชะนี  " ได้เวลาชำระแค้น "

    " ปล่อยฉันน่ะ!!! "

    " อยากรู้นัก ถ้าสารวัตรนักเรียนแสนสวยถูกรุมจนหมดสภาพ มันจะเป็นยังไง "

    " ปล่อยฉัน  ฉันบอกให้ปล่อย!! "    ไม่มีใครฟังฉันซักคน   ยัยพวกนั้นเข้ารุมทำร้ายจนไม่รู้ว่า ใครเป็นใคร  ฉันช่วยตัวเองไม่ได้เลย  นอกจากน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่สิ้นสุดกับความเจ็บปวดที่ได้รับ

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ฉันร้องออกมาอย่างสุดเสียง  ยัยพวกนั้นยังคงตบฉันอย่างไม่ปราณี

    *****************************  ผิง ****************************  

    ฉันหันหลังควับหันไปมองที่อาคารเรียน หลังจากที่ฉันได้ยินเสียง...  ฉันแน่ใจว่าได้ยิน เสียงคนร้องกรี๊ด


    ฉันน่ะไม่ได้ห่วงแกเท่าไรหรอก  แต่ที่ห่วงน่ะยัยพิ้งค์ต่างหาก

    " พิ้งค์!!!!!!! "    




    =========================================


    ตอนนี้รู้สึกว่าจะรุนแรงอ่ะน่ะ   ก็ใช่วิจารณญาณในการด้วยแล้วกันน่ะค่ะ

    อย่าลืมไปอ่านเรื่อง  รักสุดใฝ่...แต่ใจขอเอื้อม  ด้วยน่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×