ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO Period] เหมยสวาท [KrisLay]

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ ๗. พระสนม

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 57


     

     พระสนม


    หายไปไหน...

     
     

    ร่างสูงของบุรุษนักรบแห่งเมืองใหญ่เดินตามหาคนรักที่หายไปก่อนเขาจะตื่นจากนิทรา อี้ฝานเดินมาหยุดที่โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรสฝีมือคณิกาเลอค่าซึ่งมีจดหมายวางชิดใกล้กับชามข้าว

     

    เห็นแค่นี้กลับทำให้รู้สึกใจหายได้ดีนักถึงมันจะเป็นเพียงแค่กระดาษแผ่นเดียวแต่มันกับเป็นกระดาษที่คมกริบดั่งปลายดาบสามารถกรีดแทงใจเขาได้ไม่ยากนัก มือหนาเอื้อมหยิบมันขึ้นมาคลี่อ่านแม้จะการฝืนใจที่จะอ่านจดหมายฉบับนี้






     

    ท่านอี้ฝาน

    สิ้นสุดเหมันต์แสนเหน็บหนาว

    เหมยฮวาเช่นข้าต้องลาจากท่านชั่วนิรันดร

    นับจากนี้ข้ามิใช่เหมยม่วงที่ท่านรัก

    แต่ข้าจะรักท่านตลอดไป






     

    แววตาคมดุจกริชสั่นไหว ขากำยำล้าหมดแรงนั่งลงกับพื้นห้อง อ่านจดหมายบอกลาจากเหมยงามซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เข้าใจและเจ็บปวดในคราเดียวกัน






     

    เหตุใดต้องลาจากกันตลอดกาล

    ฤดูพฤกษาเวียนซ้ำซ้อนทุกวันปี

    เหตุฉะไหนนางลออไม่หวนกลับ

    หรือเหมยฮวาช่อนี้จะมีใครรับตัวไปเลี้ยงดู







































     

    ร่างระหงย่างกรายเข้าเขตตำหนักในหลังเสร็จพิธีมอบตัวกับประมุขและรับราชโองการแต่งตั้งเป็นสนมในองค์ชายเซฮุน อี้ชิงหยุดการก้าวเดินแล้วทำความเคารพสตรีงามผู้เป็นพระชายา

     

    “ยินดีต้อนรับสู่วังหลวงพระสนมเหมยฮวา” กลีบผกาฝืนวาดยิ้มต้อนรับชายงามเมียรักของสวามีพระนาง

     

    “ขอบพระทัยพะย่ะค่ะพระชายา” เสียงหวานกล่าวรับคำตรัสสตรีผู้สูงศักดิ์

     

    “พระสนมข้องใจหรือต้องการสิ่งใดบอกกล่าวเราได้อย่าเกรงใจ” หัตถ์พริ้มงามเอื้อมแตะศอกฮวาลออ

     

    “ข้าน้อยมิบังอาจรบกวนพระชายา” ศีรษะมนส่ายสั่นปฏิเสธการรบกวนหญิงตรงหน้า

     

    “จะพระชายาหรือสนมแตกต่างกันเพียงยศศักดิ์ แท้จริงนั้นเราต่างเป็นเมียเขาเหมือนๆกัน เจ้ามีหน้าที่ปรนนิบัติองค์ชายห้าโปรดทำหน้าที่ตนให้เต็มที่เรื่องจุกจิกในวังใหญ่เราจะคอยช่วยเจ้าอีกแรง” พระชายาตรัสทิ้งท้ายเสียงเย็นนิ่งก่อนเสด็จผ่านสนมใหม่ไปยังตำหนักของพระนาง

     

    เพียงรำพึงคิดก็อดเจ็บปวดตามเสียไม่ได้เพลานี้นางกำลังกระทำอันใดอยู่ นางไม่เพียงแค่ฆ่าชายรักตายทั้งเป็น แต่กำลังพรากครอบครัวเขาแยกจากกัน สงสารพระชายาสุดสง่าเหลือคณาพระนางคงระทมพระทัยมากอยู่พอตัวกับการเห็นแก่ตัวของอี้ชิง






     

    รออีกเพียงนิดพะย่ะค่ะพระชายาอีกไม่กี่เดือนหาข้าน้อยก็จะจากวังนี้ไป...






     

    “คิดสิ่งใดอยู่หรือดวงใจข้า” เสียงกระซิบแผ่วปลุกพะวงที่หลุดลอยให้หวนคืน แขนกรแกร่งโอบกอดเอวบางคอดจากด้านหลังจูบพรมซับลำคอหอมกลิ่นเหมยแสนเย้าใจ

     

    “อ...องค์ชาย อย่าพะย่ะค่ะ” ร่างอนงค์ขยับหนีสัมผัสปลุกสวาทหลบหลีกโอษฐ์ชื้นอุ่นที่พร่ำตามจูบคอขาวนวลไม่เลิกรา

     

    “อะไรกันเหมยงาม คืนนี้คือคืนเข้าหอของเราเหตุใดจะกระทำการดั่งบ่าวสาวไม่ได้เล่า” องค์ชายหนุ่มตรัสถามอย่างหงุดหงิดที่ถูกเจ้าสาวร่างรัญจวนคอยขัดใจ

     

    “เพลานี้กระหม่อมเพลียเหลือเกิน...ไว้วันพรุ่งกระหม่อมจะปรนนิบัติพระองค์ทดแทนค่ำคืนนี้อย่างสุกพระทัย” กลีบเหมยงามฝืนแย้มยิ้มให้พร่าพรายหวังอีกฝ่ายพึงพอใจในคำกล่าว

     

    “ตามใจเจ้าเถอะพระสนม เราไม่แตะตัวเจ้าก็ได้หากต้องการ” องค์ชายเสด็จจากตำหนักพระสนมไม่แม้แต่จะหันกลับมองเรือนหอร่วมราคะที่เพียรสร้างให้กับฮวาสุดเลอโฉม

     

    คืนนี้รอดมาได้แสนเฉียดฉิว แต่ราตรีหน้านางจะหากลใดมาต่อกรกับองค์ชายผู้นี้กัน จะมีวิธีใดรอดพ้นได้ถึงเดือนจะมีวิธีใดกัน...






     

    เพล้ง!!!






     

    เสียงเครื่องปั้นตกแตกเกลื่อนกลาดทั่วพื้นในตำหนักตน ลู่หานเดินออกจากห้องบรรทมยืนทอดมองสวามีอารมณ์ร้ายขว้างปาข้าวของระบายอารมณ์ยากจะปลอบให้เย็นลง

     

    “จะทรงทำอย่างไรกันดีเพคะพระชายา” นางกำนันที่คอยดูแลพระนางเอ่ยถามหวั่นเกรงนายหนุ่มจะเข้ามาประทุบร้ายหญิงผู้เป็นภรรยา

     

    “เจ้าออกไปก่อน” สตรีผู้เป็นเอกเอ่ยสั่งนางข้าหลวง

     

    “พระชายา...”

     

    “ออกไปก่อน” ลู่หานหันไปเน้นย้ำจนสาวใช้ยอมผละจากไปทางประตูหลังตำหนัก






     

    พระสนมคงมิยอมให้พระองค์นอนร่วมเตียง....






     

    ถอดถอนใจเพียงพึงแผ่วก่อนเดินเข้าหาร่างสูงโปร่งที่นั่งเหนื่อยหอบอยู่บนพื้น ร่างนงครวญค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนพื้นไร้เศษแก้วมือขาววางแตะเบาที่บ่ากว้างอีกข้างหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยซับเม็ดเหงื่อชื้นตามพักตร์คม

     

    “ถ้าพระองค์ทรงระบายออกมาจนพอใจแล้วโปรดเสด็จไปบรรทมเถิดเพคะ ทางนี้หม่อมฉันจะได้เรียกนางกำนันมาจัดการเก็บกวาดตำหนักให้เรียบร้อย” วาจาหวานเอ่ยกล่าวกับบุรุษที่เอาแต่นิ่งงัน

     

    “...” แววตาขวาดขวางสบมองเนตรสกาวประกายระยับที่ทอแสงแห่งความห่วงใยส่งถึงให้รับรู้ มือหนาปื้นโลหิตเอื้อมสัมผัสแก้มนิ่มก่อนโน้มตัวเข้าหาประทับจูบ

     

    แม้ไม่ได้รักหญิงสูงยศศักดิ์เฉกเช่นที่มีใจให้ชายงามร่างเย้าพราย แต่เซฮุนก็โปรดปรานในกลิ่นหอมและรูปกายที่สวยหวานไม่แพ้ร่างของเหมยงาม

     

    “อื้อ..องค์ชาย...อ๊ะ..เราท้อง...” ลู่หานพยายามเปล่งเสียงห้ามปรามสวามีก่อนจะเลยเถิดจนกระทบกับทารกน้อยในท้องนาง

     

    “เราไม่รุนแรงกระทบลูกหรอกอย่าได้กังวลไป” ตอบกลับเสียงเรียบเฉยก่อนก้มประทับจุมพิตปลุกอารมณ์เสน่หาให้กับพระชายาคนสวยสร้างสายใยผูกมัดร่างสะครางและใจดวงน้อยให้อยู่ในกำมือตนชั่วกัปกัลป์




































     

    รุ่งสางตะวันเพียรทอแสงกระทบนภาสว่างไหวส่งสัญญาณเข้าสู่เช้าวันใหม่ให้สิ่งมีชีวิตบนโลกาได้รับรู้ ร่างโปร่งก้าวเดินออกจากตำหนักมองสิ่งรอบกายอย่างครุ่นคิดก่อนเดินไปเขตอุทยานหลวงปลดปล่อยอารมณ์ให้ลดเย็น

     

    ทั้งราตรีอี้ชิงไม่สามารถข่มตาหลับใจคะนึงถึงแม่ทัพหนุ่มที่นางหนีหายมา พลางคิดกลั่นกลวิธีหลีกหนีเอื้อมมือมากพิษรักขององค์ชายสูงศักดิ์

     

    แววตาเศร้ามองกำแพงสูงที่ปิดกั้นตนจากภายนอกยิ่งกว่ากรงไม้ขังวิหกตัวน้อยให้หลบหนี สูงตระง่าถึงเพียงนี้คงมิต่างอะไรกับกรงขังจากเหล็กกล้ากักขังสกุณายันปักษาให้จมปรักกับนรกแห่งวังทอง

     

    “เหตุใดพระสนมมิยินยอมร่วมเคียงหมอนกับองค์ชาย” วาจาทายทักในเช้าวันใหม่จากสตรีทรงครรภ์ เรียกคนมีผิดให้หันไปสบมองก่อนทำความเคารพตามยศศักดิ์แลถ่อมตน

     

    “กระหม่อมมีเหตุผลบางประการ” ทูลตอบไปตามตรงไม่โป้ปดนารีพริ้ม

     

    “เหตุผลของเจ้าคงหนีไม่พ้นเรื่องชายในใจรัก” ลู่หานเอ่ยทายตามเนื้อผ้า

     

    มีเหตุผลไม่กี่อย่างที่คนเราจะขัดขืนการร่วมเตียงกับชายใด ถ้าไม่ใช่เพราะใจรักที่มีให้ชายอื่น ก็อาจเพราะไม่พอใจในตัวสามีตน

     

    “....”






     

    ไม่โต้เถียงคือความจริง...






     

    “ชายผู้นั้นคือใครกันพอจะบอกกับเราได้รึไม่?”

     

    “ขอประทานอภัยพระชายา...กระหม่อมมิสามารถทูลตอบพระนางได้”

     

    “แล้วแต่เจ้าเราไม่บังคับให้ตอบหรอก แต่พระสนมเพลานี้เจ้ามีศักดิ์เป็นเมียองค์ชายห้า เจ้าเลือกที่เจ้าเข้าวังเป็นเมียชายอีกคนก็ควรจะตัดใจแล้วลืมชายรักของเจ้าเสีย” ลู่หานเอ่ยเตือนสติชายร่างงามให้รู้ตำแหน่งตน

     

    “กระหม่อมมีเหตุต้องเข้าวัง และที่กระหม่อมไม่ทรงยินยอมเข้าห้องหอกับองค์ชายเซฮุนเพราะกระหม่อมไม่อยากพรากคนของใครพระชายา ไม่อยากผิดบาปพรากพ่อลูกเขาอีกแล้วพระนางโปรดเห็นใจกระหม่อมเถิดพะย่ะค่ะ” ร่างลออนั่งคุกเข่าต่อพระพักตร์ชายาอย่างร้องขอให้อีกฝ่ายเลิกย้ำเตือนความเป็นจริงแสนน่ารังเกียจที่นางเลือกก้าวผ่าน

     

    “เราเคยนึกเกลียดชังแสนอิจฉาที่เจ้าได้ใจบุรุษที่เรารักไปครอบครอง แต่เพลานี้เรากลับคิดเปลี่ยนผันความไม่ชอบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเห็นใจไปจนได้ จะติดดินเช่นเจ้าหรือสูงเฉียดนภาเช่นเราต่างน่าอดสูไม่แตกต่าง” สองหัตถาแตะสองบ่ามนให้อีกคนลุกขึ้นยืนจากผืนหญ้า

    “เราจะช่วยเจ้าเหมยฮวาจะช่วยเท่าที่เราพอช่วยได้ ไม่ได้ช่วยเพราะกันเจ้าจากองค์ชายแต่ช่วยเพราะเราอยากเห็นเจ้าสามารถโบยบินจากกรงทองแทนตัวเรา” ริมฝีปากสีหวานมอบยิ้มจริงใจให้ชายอนงค์อย่างเป็นมิตร

     

    ลู่หานแม้อยากบินหนีชายใจร้ายที่คิดหวังเพียงกายนางไว้ปรนเปรอแทนใครอื่น แต่เพราะใจที่รักเขาทำให้นางต้องจำทน แต่เหมยงามที่น่าสงสารควรได้รับซึ่งอิสระในชีวัน มิสมควรถูกกลบฝั่งหยั่งรากบนดินทองเฉกเช่นนาง





     

    เหมยฮวาเพียงสบตาก็สร้างความสงสารลบความหมางเคืองจากใจนางจนหมดสิ้น...

     

     

     






     

    ------------------------------------------------------------------------

    พระชายากับพระสนมเขาเข้าใจกันดีไม่ดราม่านะโอ๋เอ๋
                  จะมาดราม่าที่องค์ชายซะมากกว่า เหตุฉะไหนช่างใจร้ายTT

                       =เม้นน้อยจัง' '= 







     

    :-Daisy ✿ 
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×