ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO]-TaoHo-Your's RequestII-My Peterpan

    ลำดับตอนที่ #8 : Request-7- ว่าที่ควีน (The Queen)

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 57


    ว่าที่ควีน (The Queen)


    …Kris Part…                                                               

     

    ผมตรวจงานที่กองพะเนินบนโต๊ะทำงานของพ่อในห้องผอ. ก่อนวานให้เลขาเอาแฟ้มที่ผมต้องเซ็นไปไว้ในห้องชมรม หมดหน้าที่แล้วผมก็เดินไปนอนราบลงกับโซฟาตัวยาวอย่างเหนื่อยล้าเหลือบตามองดูเวลาติดผนังบ่งบอกเวลาที่จวนเย็นพลางนึกถึงคนหน้ามึนที่ควรจะเข้ามาหาผมตามที่แมสเสจไปบอก

     




     

    ไปหลงทางอยู่ที่ไหนรึเปล่า?






     

    เรื่องเมื่อวานใจจริงก็แค่อยากแกล้งเล่นแต่แกล้งไปแกล้งมากลับติดใจจนเตลิดถึงขึ้นเตียง มารู้ตัวอีกทีก็เห็นคนตัวขาวมานอนให้กอดอยู่ข้างผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ผมรู้สึกอยากสัมผัสเจ้าเด็กนั่นอย่างประหลาด

     

    มันรู้สึกดีตั้งแต่เคยจูบกับเขาในรถเมื่อวันนั้น จะบอกว่าผมชอบเจ้านั่นรึเปล่า...ก็ไม่รู้สิครับผมก็บอกไม่ได้นักหรอกนะเพราะผมไม่เคยรักใครจริง ใครหลายคนอาจคิดว่าผมหลงชอบเลย์เข้าถึงขนาดยอมให้ขึ้นเป็นมาดามของผม แต่ความเป็นจริงแล้วผมมีความจำเป็นที่ประกาศตัวว่าเขาคือมาดาม






     

    เหตุผลที่ไม่สามารถบอกใครได้....






     

    และที่ผมหายตัวเหมือนหลบหน้าไปหลายวันนั่นก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่เรียนเยอะงานหนัก แต่ก็คอยหาเวลาเดินผ่านตึกเด็กเอกเต้นเพื่อมองคนๆนั้นแค่เห็นเสี้ยวหน้าหวานๆนั่นเพียงนิดเดียวผมก็โอเค






     

    อย่าบอกเลย์ล่ะว่าผมแอบมองเขา ขอให้เป็นความลับระหว่างเรานะครับ...
































     

    ก๊อกๆๆ!!!

     

    เสียงเคาะประตูเปิดหนังตาที่ใกล้หลับให้ลืมตาตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งมองแขกใหม่ที่กำลังเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทีแรกก็คิดว่าคนที่มาคือเลย์แต่กลับเป็นเด็กในคลาสเดียวกันกับคนมึน

     

    “รุ่นพี่ครับเกิดเรื่องกับมาดามครับ” คำบอกเล่าของเจ้านั่นทำผมลุกขึ้นยืนทันทีก่อนสาวเท้าเข้าไปหาเพื่อไถ่ถาม

     

    “เลย์เป็นอะไร!” ผมถามกลับเสียงดังอย่างใจร้อน

     

    “โดนแกล้งครับ ตอนนี้อยู่ที่บ่อตื้นข้างตึกเอกเต้น”

     

    ผมรีบวิ่งไปยังจุดที่เขาบอก ผมวิ่งชนอะไรใครบ้างก็ไม่คิดจะสนใจ ในตอนนี้ผมห่วงอยู่อย่างเดียวห่วงคนมึนที่ชอบเซ่อไม่ทันใครอย่างเลย์ไงครับ

     

    “อยู่ไหน...ฮึก...ไม่หายนะ...ฮึก” เสียงกลั้นสะอื้นเหมือนเด็กน้อยเรียกสายตาผมให้หันมอง คนตัวบางก้มๆเงยๆควานหาของในบ่อเปื้อนดินโคลน ขากางเกงตัวยาวเปื้อนน้ำเกือบครึ่ง แขนเสื้อเชิ้ตสีสะอาดถูกพับขึ้นกันเปื้อนอย่างลวกๆ

     

    จากสภาพเหมือนเหมือนโดนแกล้งขโมยกระเป๋ามาเทกระจาดในบ่อนี้ เพราะกระเป๋าและข้าวของที่เปียกโชกถูกเอามาวางตากเรียงรายบนพื้นหญ้า

     

    “เลย์ นายหาอะไรอยู่” ผมเดินเข้าไปยืนริมบ่อเอ่ยถามอีกคนที่เอาแต่ควานหาไม่ทันมองเห็นการมาของผม

     

    “พะ...พี่คริส” เจ้าของใบหน้าหวานหันมองผมอย่างตกใจก่อนยกแขนขึ้นปาดน้ำตาให้พ้นแก้ม

     

    “มานี่” ผมเรียกเขาให้มาหาแต่อีกคนยังยืนลังเลไม่กล้าขยับตัวออกมาจากที่ตรงนั้น






     

    มาทำหน้ามึนใส่กันอีก...






     

    “ผมขอหาของก่อนได้รึเปล่า” คนมึนเอ่ยปากต่อรอง

     

    ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจัดการถอดรองเท้า ถุงเท้า พับขากางเกงและแขนเสื้อแล้วเดินลงไปหาเจ้ากระต่ายตัวยุ่งที่ยืนนิ่งในน้ำโคลน

     

    “ตกลงกำลังหาอะไรอยู่คนมึน” ถามเขาอีกรอบพลางยกหลังมือช่วยเช็ดคราบน้ำตาและคราบโคลนให้คนมึนที่เบะปากจะร้องไห้เวลามีคนโอ๋เหมือนเด็กอนุบาลซะมัด

     

    “ฮึก...ส...สร้อยคอที่แม่ผมเคยให้หะ...หายครับ” เลย์บอกผมด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลร่วงเป็นเขื่อนแตก






     

    ของรักของหวงมากสินะ...







     

    “หยุดร้องไห้ซะคนมึน มาร้องไห้แบบนี้ไม่น่ารักเลยว่ะ” ผมเขกหัวเจ้าตัวเตี้ยนี่เบาๆ

     

    “อ่ะ...ฮยองแม่ง” มีหน้ามาด่าทั้งๆที่ยังร้องไห้ซึนมั้ยล่ะมาดามของเซนต์

     

    “ไปนั่งไปเดี๋ยวฉันหาให้” ผมดันอีกคนให้ไปนั่งรอ แต่เจ้าดื้อก็ยังขืนตัวไม่ยอมไปให้ผมสักที

     

    “ผม...”

     

    “จะไปนั่งดีๆ หรือให้ฉันจูบนายก่อน” ผมขู่แกมแกล้งโน้มหน้าเข้าหาจนคนดื้อรีบผละหนีอย่างอายๆ

     

    “คิงหื่น...” ยื่นปากมาว่าตามหลังก่อนยอมเดินขึ้นไปนั่งบนพื้นหญ้าตามคำสั่ง

     

    ผมมองพื้นน้ำที่คละฝุ่นดินจนดำคล้ำก่อนก้มควานหาสิ่งที่เรียกว่าสร้อยคอให้คนตัวบางที่นั่งสะอื้นมองผมอย่างรอหวัง ผมขยับเดินหามันไปเรื่อยๆจนไปสะดุดกับของบางสิ่งที่อยู่แถวรูปปั้นตัวใหญ่






     

    สร้อย...?







     

    “เลย์ นี่รึเปล่า” ผมยื่นสร้อยคอที่หาเจอให้เขาดู

     

    “อ๊ะ! สร้อยของผม” เลย์ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่เห็นมันขาเรียววิ่งลุยน้ำเข้ามารับสร้อยจากมือผม “ขอบคุณครับพี่คริส ขอบคุณครับ” แขนเล็กๆยกโอบกอดรอบคอผมแล้วกระโดดไปมาอย่างดีใจ

     

    “เลย์...ฉันหายใจไม่ออก” ก็ชอบนะที่เด็กคนนี้มันมากอดแต่กอดรัดขนาดนี้มันจะทำผมตายเร็วสิไม่ว่า

     

    “เอ่อ ผมขอโทษ” เด็กมึนรีบผละตัวออกจากผมก่อนพยายามก้มหน้าซ่อนความอายหลังรู้ตัวว่าทำอะไรลงไปเห็นแบบนี้แล้วมันน่าแกล้งคนแก้มบุ๋มนี่ชะมัด

     

    “กระต่ายแม่งขี้อาย...ที่บ่นปวดเอวเมื่อวานหายแล้วไงถึงมาเรียนได้” ผมพูดแหย่พลางยกนิ้วจิ้มรอยบุ๋มที่ข้างแก้ม

     

    “เง้อ อย่ามาแกล้งผมดิคิงแม่ง” คนขี้อายขยับหนีแล้วยกมือตัวเองขึ้นมากัดเล็บ

     

    “ย๊าส์...เล็บสกปรกยังจะกัด” ผมตีมือข้างที่เขากัดก่อนดึงแขนให้ขึ้นฝั่งด้วยกัน

     

    “ฮยองชอบทำตัวเป็นพ่อผมตลอดเหอะ” เลย์บ่นใส่ผม ตามึนๆมองเล็บดำๆ แล้วถึงกับทำหน้าแหยเกรับไม่ได้กับสภาพเล็บตัวเอง

     

    “ไปล้างมือ เดี๋ยวฉันไปส่งที่หอ” ผมสั่งให้เด็กดื้อไปล้างมือที่ก๊อกน้ำ ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคนที่จะช่วยสืบเรื่องนี้

     

    ยืนคุยธุระได้สักพักเลย์ก็เดินสะบัดๆมือเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้มน่ารักตามสไตล์คนหน้ามึน นิ้วสะอาดชี้ที่มือเปื้อนโคลนของผมเหมือนจะบอกกรายๆว่าผมก็มือสกปรกพอๆกัน

     

    “ฝากที” ส่งโทรศัพท์ให้เขาถือก่อนเดินไปล้างมือ

     

    “เฮ้อ...MCMใบโปรดเน่าซะแล้ว” ปากอิ่มเริ่มออกฤทธิ์บ่นงึมงำขึ้นมาอีกครั้ง ตากลมๆมองกระเป๋าที่เปียกน้ำพลางนั่งลงเก็บของทุกอย่างเข้ากระเป๋า

     

    “คนมึนลุกขึ้นเร็วจะพาออกไปข้างนอก” ผมเดินเข้าไปเรียกเด็กน้อยที่เอาแต่นั่งอาลัยอาวรณ์กับของเปียกๆ ที่ไม่สามรถเอากลับมาใช้ได้อีกแล้ว

     

    “ไปไหน?” หันมาถามอย่างสงสัย มือขาวล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงส่งคืนผม

     

    “ตามมาเดี๋ยวก็รู้เอง”

     

    ขับรถไล่คนมอมแมมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอก่อนขับออกจากโรงเรียนไปที่ๆคนเขาเรียกกันว่าห้าง ผมหันไปจับคนมึนให้เดินตามผมมาก่อนที่จะเอ๋อจนหลงแล้วพาเข้าไปร้านกระเป๋าเป็นที่แรก

     

    “นายชอบสีอะไร?” ผมหันไปถามคนข้างตัวที่ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม เอาแต่มองรอบๆร้านเหมือนเด็กต่างเมืองไม่เคยเข้าห้างใหญ่

     

    “ม่วง...”

     

    “เอาใบนี้ครับ” ผมชี้ไปที่กระเป๋าสีม่วงยี่ห้อโปรดของคนมึนแล้วส่งการ์ดให้พนักงาน

     

    “เฮ้! ฮยองกำลังจะทำอะไร?” หายแตกตื่นก็หันมาซักไซ้ไถ่ถามกับสิ่งที่ผมทำ

     

    “ซื้อของให้ว่าที่ควีน” ผมเซ็นกำกับใบเสร็จแล้วรับถุงกระเป๋าจากพนักงานมาถือ

     

    “ไม่จำเป็นอ่ะพี่คริส ของพวกนี้ผมซื้อเองได้พี่ไม่ต้องมาซื้อให้ผมหรอก” คนมึนจับแขนผมที่กำลังจะลากเขาไปอีกร้าน

     

    “นี่...อย่าลืมว่านายกำลังจะเป็นควีนของฉัน จะซื้อของให้คนของตัวเองแค่นี่ไม่หนักหนาอะไรหรอกน่า” หันไปต่อล้อต่อเถียงกับคนหน้าบูดไม่ยอมรับของจากผม





     

    พูดกับเจ้านี่แล้วเหมือนเลี้ยงเด็กอนุบาลว่ะ...






     

    “ฮยอง ผมแค่ควีนในนามไม่ใช่มะ...” มือขาวรีบยกมาปิดปากตัวเองหลังรู้ตัวว่ากำลังจะเผลอพูดอะไรออกไป

     

    “เมื่อกี้จะบอกว่าไม่ใช่เมีย? แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นที่สนามบาสกับในห้องชมรมนั่นคืออะไรจำไม่ได้เดี๋ยวฉันย้อนความจำให้นายเองเอามั้ย” แกล้งไล่ต้อนลูกกระต่ายให้เข้าไปติดกับ คนตัวบางถอยหลังหนีจนแผ่นหลังบางติดกระตกร้าน

     

    “ย๊าส์...อ...อยากซื้อนักก็ซื้อแล้วผมจะเป็นคนเลือกเองด้วยฮยองมีหน้าที่แค่จ่ายเงินพอ ผมจะถลุงเงินฮยองให้หมดตูดเลยคอยดู” ขู่ฟ่อๆแล้วเดินเลี่ยงเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่ง

     

    คำขู่มันไม่ใช่แค่คำขู่สำหรับกระต่ายมึนของผมซะแล้วสิ เขาทำจริงครับเลย์กวาดซื้อทุกอย่างและทุกร้านพูดตามตรงมีกี่ชั้นมีกี่ร้านพ่อคุณเข้าออกหมด แล้วได้ของติดมือออกจากร้านอย่างต่ำก็สองชิ้นจนผมต้องวานรปภ. ห้างให้มาช่วยถือของของคุณชายไปส่งที่รถกันเลยทีเดียว

     

    มองจากบิลที่บานเบอะในกระเป๋ากางเกงตีราคาก็หลายล้านอยู่ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรนักหรอกกับราคาของถ้ามันทำให้เลย์อารมณ์ดีขึ้นไม่ร้องงอแงเหมือนตอนที่เจอกันตรงบ่อน้ำนั่น สิ่งที่ผมทำและจ่ายให้เขาทั้งหมดถือว่าเป็นการไถ่โทษจากคิงที่ไม่สามารถดูแลมาดามของตัวเองได้







     

    รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะมาเอาใจคนมึน แต่ผมก็อยากทำไม่รู้เพราะอะไร...







     

    ตอนนี้ผมพอจะรู้สาเหตุที่เลย์โดนทำแบบนี้แล้วแต่คนที่กระทำกับเป็นคนถูกจ้างวาน ผมรอสายจากคนของผมที่จะโทรมาแจ้งหลังหาตัวคนบงการเจอ ระหว่างนี้คงต้องพาเลย์มาพักอยู่ที่ๆไกลจากโรงเรียนก่อน






     

    อีกเดี๋ยวก็จะได้รู้กันว่าใครกล้ามาแกล้งควีนของผม...






     

    “พาผมมาที่ไหนอีกเนี่ย...” คนขี้บ่นเริ่มเปิดปากบ่นหลังเผลอหลับระหว่างทาง

     

    “คอนโดฉันเอง” ผมตอบก่อนเรียกรปภ.หน้าตึกให้มาช่วยถือของขึ้นไปบนห้องพัก

     

    “คะ..คอนโด? พี่พาผมมาทำไม”

     

    “พรุ่งนี้วันหยุดไม่ใช่หรอ ช่วงนี้พักอยู่ที่นี่ก่อนละกันเดี๋ยวฉันสะสางเรื่องที่เซนต์ได้เมื่อไหร่นายค่อยกลับ” จับข้อมือขาวลากเข้าไปในคอนโดตรงดิ่งไปยังลิฟต์แล้วกดชั้นที่ต้องการไม่รอให้คนมึนจอมบ่นได้ออกปากบ่นผมอีก

     

    “ไม่มีที่อื่นไงคิง ผมไม่ชอบคอนโดอ่าผมไม่ชอบห้องสี่เหลี่ยมพาผมกลับหอเถอะน่า” ขนาดขึ้นลิฟต์มายังโวยวายไม่ยอมเลิก

      

    “ขืนพูดมากอีกทีฉันปล้ำนายตรงนี้นะเลย์!

       

    “....” พอถูกขู่ปากห้อยๆก็หุบฉับลงทันที

     

    รู้อย่างนี้ผมน่าจะขู่ตั้งแต่ก้าวผ่านประตูหลัก เวลาวีนเสียงแหลมๆนี่มันน่าหนวกหูชะมัด


































     

    จัดการกับกระต่ายมึนให้อยู่เป็นที่เป็นทางเสร็จผมก็ขับรถกลับไปโรงเรียน ไปยังดาดฟ้าตึกดนตรีที่ๆคนของผมจับตัวคนบงการเรื่องของเลย์ไว้เพื่อรอการสอบสวน

     

    “เธอกำลังคิดจะทำอะไร” คำทักทายที่เข้าประเด็นไม่อ้อมค้อมจากผมหลังไล่ให้ลูกน้องลงไปรออยู่ด้านล่าง เพื่อเคลียร์ปัญหากับผู้หญิงคนนี้ได้สะดวก

     

    “คิดจะแย่งตำแหน่งที่ฉันควรจะได้คืนมาไงคะ” เธอตอบกลับพร้อมหันมายิ้มให้ผม

     

    โดนจับได้แทนที่จะขลาดกลัวแต่ยังมีหน้ามาย้อนกลับเหลือเชื่อจริงๆผู้หญิงคนนี้...

     

    “ตำแหน่งอะไร?”

     

    “ตำแหน่งมาดามที่ควรเป็นของฉัน”

     

    “เหอะ แล้วอะไรที่ทำให้เธอคิดว่ามันเป็นของเธอ”

     

    “เพราะฉันคือคู่หมั้นคุณ...เพราะฉันคือผู้หญิงคนแรกของคุณ...และฉันคือคนของคุณผู้หญิงคุณจะกล้าขัดคำสั่งของแม่คุณหรอคะคริส”

     

    ผมนิ่งไปชั่วครู่กับเหตุผลร้อยแปดของเธอ ที่พูดมาก็ใช่และไม่ใช่ทั้งหมดเธอคือคนโปรดของคุณนายอู๋ เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ผมนอนด้วย แต่เธอไม่ใช่คู่หมั้นผมนอกจากคุณนายแอบทำการอะไรลับหลังผม






     

    เล่นอย่างนี้ใช่มั้ย?







     

    “แล้ว?”

     

    “ฉันก็จะทำทุกทางที่จะได้คุณกลับมาเป็นของฉันไงคะ เรื่องที่บ่อน้ำนั่นแค่ทดลองแต่ต่อไปฉันเอาจริง” แววตามาดมั่นนั่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอจะลงมือจริง

     

    แล้วคิดหรอครับมาผมจะยอมให้ใครมาทำอะไรคนของผม เลย์จะเป็นหรือตายมีแค่ผมเท่านั้นที่จะทำกับเจ้านั่นได้ใครก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง

     

    “ฉันขอโทษนะ แต่เธอเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าถ้าฉันหมั้นกับเธอพ่อฉันคงไม่อนุญาตให้ฉันประกาศตัวว่าเลย์คือมาดามของฉัน และเลย์คือว่าที่คู่หมั้นตัวจริงของฉัน” ผมแย้งคำเสียงเรียบต่างจากอีกคนที่หลุดมาดคุณหนูใกล้วีนแตกอยู่รำไร

     

    “มะ...ไม่..ไม่จริง!!

     

    “อีกสามวันผอ.จะบินกลับจากแคนนาดาเพื่อมาเซ็นตราแต่งตั้งควีนของเซนต์...ต้อนรับว่าที่สะใภ้ตัวจริงของตระกูลซึ่งคนๆนั้นไม่ใช่เธอแน่ๆ” ผมกระตุกยิ้มนิดๆกับท่าทีอยู่ไม่สุกของหญิงสาว

     

    “คุณมันบ้าไปแล้ว คุณคงไม่รู้สินะว่าเจ้านั่นไม่ใช่ลูกเศรษฐีอะไรหรอกมันก็แค่...”

     

    “เด็กทุน..ฉันรู้ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะโง่โดนอี้ชิงหลอกหรอกนะ” ผมชิงพูดตัดหน้าเธอ “อี้ชิงคือเด็กทุน...แล้วเธอล่ะมีปมอะไรถึงต้องไปทำงานในโฮสต์ ฉันรู้มาว่าโฮสต์คือแหล่งรวมกลุ่มเด็กมีปมแต่ความคิดและจิตใจของพวกเขาออกจะดูดีเกินกว่าพวกคุณหนูคุณชายที่เอาแต่ดูถูกเขาซะอีกนะ”

     

    “ค...คุณคริส”

     

    “เลย์เขาไว้ใจเธอ เขาเชื่อใจเธอไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่คอยช่วยเหลือเขาจะย้อนกลับมาฆ่าเขาเอง”

     

    “ก็ฉันเกลียดมัน!!!

     

    “กลับไปจัดการกับบรรดาเสี่ยกระเป๋าหนักที่คอยหนุนหลังเธอให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยกลับมาอิจฉาคนที่กำลังจะได้เป็นควีนของฉัน” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินจากไป

     

    คราแรกก็เห็นว่าเลย์เข้มแข็งพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆรอบตัวผมหลังได้รับตำแหน่งมาดาม แต่เอาเข้าจริงกระต่ายก็ย่อมเป็นกระต่ายบอบบางและอ่อนแอ แค่เรื่องของที่ถูกทิ้งลงน้ำก็ร้องไห้ตัวโยนถ้าเจอหนักกว่านี้คงช็อคเข้าสักวัน






     

    สงสัยผมคงต้องคอยปกป้องกระต่ายหน้ามึนแทนที่จะปล่อยตามสภาพเหมือนวันก่อนๆ...
















     

    ------------------------------------------------------------

    โอ๊ะโอ เธอคนนั้นคือใครไรต์ให้ทาย-..-
             อาเทาของเรายังไม่หายนะจ้ะตอนหน้าเจอกันแน่
     
    มีรีดเดอร์บอกไรต์ชอบขู่-3-
    ไรต์ป่าวขู่แค่บังคับ(?)555 ถ้าไม่ทำรีดที่อ่านแต่ไม่เม้นก็จะไม่เม้นกันต่อไป

    ไรต์ท้ออ่ะจริงๆTT
    ขอเม้น ขอโหวต ขอแชร์ ขอบอกต่อ
    ไม่กระทำจะจับควีนปลดตำแหน่งเป็นปรินเซส-0- โอเค๊


    รักรีดเดอร์ โอมายเลิฟ จุ้บๆ









     

     

     

     

     

     

     

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×