คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Request-6-คนของคิง (Madam)
คนของคิง (Madam)
“มาดามมมมม มาสอนเต้นท่านี้หน่อยยยยย”
“มาดาม! ยืนสมุดเลขมาลอกดิ๊”
“มาดาม บลาๆๆๆ”
มันคือคำเรียกแทนตัวผมจาก “เลย์” เป็น “มาดาม” วันนี้ทั้งวันทั้งเพื่อนในห้อง คนรอบข้าง คนในโฮสต์แม้กระทั่งคนทั้งโรงเรียนก็เรียกแต่มาดามๆๆๆ
ถึงผมจะทำหน้าเฉยๆไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับคำแทนตัวแสนจะกิ๊บเก๊ยุโรปสไตล์นี่แต่ใจจริงมันรู้สึกขนลุกแปลกๆ กับคำๆนี้นะถ้าผมเป็นผู้หญิงผมจะไม่ว่าเลย
แต่นี่ผมเป็นผู้ชายนะครับ เมลอ่ะเมลไม่ใช่ฟีเมลเรียกผมว่ามิสเตอร์จะรู้สึกตื้นตันมากเลย ไปขอให้คุณพี่คริสมันบอกให้คนอื่นช่วยกลับไปเรียกผมว่าเลย์เหมือนเดิมเขาก็ไม่สนใจแถมยังมีหน้ามาพูดว่า
‘นายควรจะชินกับมัน’
จ้ะ!!! ชินก็ชินพะย่ะค่ะคิง
“มาดามหน้าหงอยอีกแล้ว เมื่อคืนคิงไม่ทำการบ้านหรอ?” คำถามจากซูโฮทำผมต้องมองเจ้าตัวอย่างขอคำขยายความหมายที่เขาพยายามสื่อ
ผมเบื่อแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการบ้าน มันจะทำไม่ทำก็เรื่องของมันสิ
“หน้าเลย์มันก็มึนๆหงอยๆแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่ไง?” พี่ลู่หานพูดพลางหันไปหัวเราะกับซิ่วหมินฮยอง
คนในโฮสต์มีใครรักผมแบบคนปกติบ้างเนี่ย ไม่ทับถมก็คอยแกล้งให้งอนเล่นแล้วมานั่งลูบหัวกันทีหลังเจ๋งจริงคนพวกนี้ ผมอยากงอนไม่คุยด้วยสักชั่วโมงจริงๆ
“หยุดวิจารณ์ผมเถอะครับ แล้วพวกน้องๆไปไหนล่ะ” ผมห้ามก่อนเอ่ยถึงน้องใหม่ทั้งสามที่ควรมารวมตัวกันในห้องโฮสต์
“อ่อ เจ้าพวกนั้นไปห้องปกครองกับโชรงเห็นบอกไคมันไปมีเรื่องกับรุ่นพี่มหา’ลัย ดีโอกับแบคฮยอนต้องไปให้ปากคำด้วย” ลู่หานฮยองตอบผม
“ไคมันเจ๋งว่ะ มาไม่เท่าไหร่ก็ได้ฉายานักสู้แห่งเซนต์” พี่ซิ่วหมินชื่นชมรุ่นน้องร่วมคลับออกนอกหน้า
“มันใช่เรื่องน่ายินดีมั้ยครับฮยอง มันออกจะทำให้ไคดูหน้ากลัวจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้” ผมแย้งเสียงหวาดกับท่าทางโมโหร้ายของอีกคนที่ประสบมากับตัว
“ไม่นะเลย์ ช่วงนี้ไคมันออกจะฮอตกว่าสองคนนั้นด้วยซ้ำ แต่ถ้าจับขายแบบแพคคู่ไคกับดีโอยิ่งเป็นอะไรที่เรียกรายได้ให้คลับได้ถล่มเซนต์เลยแหละ” แม่มดหัวการค้าเดินเข้ามาแย้งสวนคำพูดผมก่อนโชว์สมุดตารางงานของไคและดีโอให้ผมดู
ฮอตขนาดมีคิวจองยันปิดเทอม...
“โหย..น่าอิจฉาว่ะ ตอนที่ฉันขายแพคคู่กับลู่หานยังไม่ได้เท่าครึ่งของสองคนนี้เลย” พี่ซิ่วหมินโวยวายหลังเห็นตารางงานของแต่ละคน
“จะขายออกได้ไงล่ะคะ ก็พี่ลู่หานเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแถมเจ้าเด็กนั่นขี้หวงเกินเหตุตารางของพี่เขาก็มีแต่ชื่อเจ้าโอเซจองแทบทั้งปี” นาอึนชี้ปากกาไปที่ชื่อคนจองตัวที่เป็นชื่อของเด็กชุดเหลืองตัวเด่นหลา
บ้านรวยแถมตอนนี้กำลังจะเดบิวส์เป็นนักร้องจะทำอะไรก็คงไม่ผิดหรอกเนอะ
“เหอะ อยากจะบ้าตายเถอะจริงๆ” พี่ลู่หานบ่นอุบ
“แล้วทำไมของเลย์ถึงไม่มีงานจอง?” ซูโฮตั้งคำถามไม่สนใจคำอวดครวญของพี่ตากวาง
“เป็นนาย นายกล้าซื้อเวลาคนของคิงป่ะ?” นาอึนถามกลับ
“เออ ไม่กล้าอ่ะกลัวโดนเนรเทศออกนอกโรงเรียน” ซูโฮยิ้มแหยหลังได้คำตอบที่ตรงล็อค
“โชรงออนนี่ก็เคยบอกแล้วว่านายไม่ต้องมาทำงานโฮสต์แล้วแต่ในเมื่อนายยังอยากจะทำต่อคงให้เปลี่ยนจากหน้าที่โฮสต์เป็นผู้ช่วยฉันแล้วแหละ ขืนเอานายเป็นโฮสต์เหมือนเดิมพี่คิงได้หักคอกันยกคลับ” นาอึนหาข้อสรุปให้คนว่างงานอย่างผม
ก็ใช่ว่าผมอยากทำงานโฮสต์นักหรอกนะครับแต่ถ้าออกไปก็ใจหายเพราะผมสนิทกับพี่น้องในคลับนี้มาก พอเลิกเป็นก็ไม่มีสิทธิ์มาหลบหลีกลี้ภัยกับการตามหาตัวมาดามของแฟนคลับและแอนตี้แฟนทั้งหลาย ผมยอมกลับมาพัวพันกับโฮสต์คลับแห่งนี้ดีกว่ามันเป็นอะไรที่ปลอดภัยแล้วจริงๆ
“อ่า ขอบใจนะนาอึน” ผมยิ้มขอบคุณที่เธอช่วยให้ผมมีชีวิตในคลับต่อ
“แล้ววันนี้นายไม่ออกไปซ้อมบาสแล้วไง?” พี่ลู่หานถามหลังดูนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาจวนเย็น
“ไม่อ่ะ ผมทำภารกิจตามสั่งสำเร็จแล้วนี่คงไม่มีเหตุอะไรต้องกลับไป อีกอย่างพี่คริสเขาก็โอนตัวผมให้ชมรมดนตรีแล้วด้วย” ผมตอบก่อนล้มตัวนอนหนุนตักซูโฮ
“น่าอิจฉามีแฟนตามใจไม่จุกจิกเหมือนเซฮุน ซิ่วหมินไปซ้อมบอลกันเดี๋ยวเจ้าโอเซมันก็มาลากตัวฉันแล้ว” ลู่หานฮยองเบะหน้าอย่างนึกอิจฉาแล้วหันไปเรียกพี่ซิ่วหมินให้ออกไปด้วยกัน
ไม่อยากจะบอกความจริงเลยว่าผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นมาดามของเขาแค่ในนามแค่นั้นแหละครับ หลังผมย้ายชมรมเราก็แทบไม่เจอกันเลยนอกจากตามทางเดินหรือฟู้ดคอร์ด
ผมรู้สึกหวิวแปลกๆกับใจตัวเองจัง...
เย็นในวันนั้นหลังกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่หอผมก็ออกมาเดินเล่นรอบๆเซนต์ และที่ๆผมเดินไปส่วนมากกลับเป็นที่ๆมีความทรงจำเกี่ยวกับใครอีกคน
‘สนามบาสเก็ตบอล’
ก้มลงไปหยิบลูกบาสที่กลมกลิ้งอยู่บนพื้นก่อนจับมันชู้ตเข้าห่วงแบบง่ายๆไม่มีกระทบกับขอบห่วง วิ่งเข้าไปจับแล้วชู้ตอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเหนื่อยหอบล้มตัวนอนบนพื้นอุ่นใกล้เย็นหลังต้องแดดมานมนาน
ลมแผ่วเย็นพัดไหวพัดเส้นผมให้ปลิวไปตามมัน ผมหลับตาไล่ความฟุ้งซ่านต่างๆออกไปจากสมองแต่ยิ่งพยายามทำให้สงบมันยิ่งร้อนจนต้องถอนหายใจหนัก
“คนมึนมีเรื่องเครียดกับเขาด้วย?” คำถามกวนๆและสุดจะวางมาด บวกกับน้ำเสียงเบสทุ้มที่แสนคุ้นเคยเรียกเปลือกตาผมให้เปิดขึ้นมองคนตัวสูงที่เข้ามานั่งมองผมอยู่ข้างๆ
มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?
“เรื่องของผมอ่ะ” ผมลุกขึ้นนั่งกอดเข่าไม่สบมองอีกคน
“คิดถึงฉันหรอ?”
“อะไร ใครคิดถึงฮยองวะ!!!” ผมปฏิเสธกลับทันควัน แล้วสตั้นนิ่งไปสามวิพอนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองดีๆนี่เอง
“มึนแล้วยังไม่ทันคน” เขากระตุกยิ้มมุมปากมองผมอย่างล้อเลียนกับอาการของผมเมื่อครู่
“เฮอะ!!” ผมแค่นเสียงก่อนเตรียมลุกเดินหนีแต่โดนอีกคนจับตัวไว้เสียก่อน
“เป็นคนของฉันควรซื่อสัตย์กับใจตัวเองนะเลย์ คิดถึงก็บอกมาตามตรง” เขาพูดเหมือนสอนพลางยิ้มให้ผมนิดๆ
ตั้งแต่ผมรู้จักกับเขาผมแทบไม่เคยเห็นเขายิ้มอะไรแบบนี้เลย ถึงจะไม่ได้ยิ้มกว้างอย่างจริงใจแต่มันคือยิ้มอ่อนโยนที่สุดจนใจผมสั่นไหวเพียงแค่ได้เห็นมัน
“ฮยองแม่งขี้ตู่ บอกไม่ก็ไม่ไง” ผมย้อนแต่ตาไม่มองเขา
“นี่งอนที่ฉันหายตัวสินะ” เขาถามต่อ
“อะไร ใครงอนฮยองครับ” ผมตวัดตามองเขาอย่างเคืองๆ
“ปากแข็งขนาดนี้คงต้องทำให้มันอ่อน” ใบหน้าหล่อๆแกล้งเลื่อนเข้ามาใกล้จนผมต้องผละถอย
“เฮ้ย! ฮะ...ฮยองจะทำไร” ถามเขาอย่างตกใจกับการจู่โจมไม่มีเตี๊ยมถามความพร้อมเลยสักคำ
“จูบไง” ตอบหน้าตายก่อนโฉบประกบจูบผมที่เอาแต่นั่งมึนประมวลคำพูดของเขา
มารู้ตัวอีกทีลิ้นชื้นๆก็เข้ามาดิ้นดุกดิกในปากผม ตั้งแขนกะผลักเขาออกห่างแต่ก็โดนดันตัวให้นอนราบลงตามเดิมก่อนตรึงแขนผมกับพื้นซีเมนต์
รสจูบที่อ่อนโยนเริ่มเร่าร้อนหยุดผมที่ดิ้นขืนให้โอนอ่อนไปตามรสชาติที่แปลกใหม่ไม่เคยพบเจอมาก่อน หลับตารับสัมผัสครางฮือเมื่อเขาขบเม้นปากล่างจนบวมเจ่อ
ริมฝีปากอุ่นผละออกมีหยาดน้ำใสเกี่ยวพันตามไปด้วย ตาคมชวนมองสบตานิ่งไปเพียงชั่วครู่แล้วกลับมาประกบจูบผมอยู่อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนเปลี่ยนทิศทางลงมาที่ซอกคอขาว
“อ๊ะ!...พี่..พี่คริส ไม่เอาตรงนี้..อื้อ” ผมย่นคอหลบริมฝีปากร้อนที่เพียรมากดจูบคอผมไม่มีทีท่าจะยอมถอย
พอโดนเขาเล้าโลมมากๆร่างกายผมก็อ่อนระโหยไปตามแรงสัมผัสของอีกคน สมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกเมื่อถูกแตะเค้นยอดอกผ่านเสื้อตัวบางที่สวมใส่
“นายมันคือกระต่าย...” เสียงทุ้มกระซิบพร่าใกล้ๆหูเรียกเสียงครางหวานหวิวจากผมได้ง่ายดาย
เรียวขาที่ดิ้นพล่านแตะผ่านสิ่งนูนแข็งกลางตัวคนบนตัว ไม่ต่างจากผมที่ถูกปลุกยากมอดดับความรู้สึกต้องการอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้แค่ว่าถ้าไม่ทำให้ปลดปล่อยผมคงได้หงุดหงิดเพราะค้างคากับความรู้สึกนี้แน่
เขากำลังเล่นตลกอะไรกับตัวผม...?
{Cut}
ตามหาได้จากไบโอทวิต @fanxing0010
ใครเล่นทวิตโปรดติดแท็กบอกเล่าความรู้สึกกันด้วยนะ #ฟิคตามสั่ง
ไรต์อยากอ่าน ไรต์อยากรี ถ้าไม่มีสักแท็กเดี๋ยวตอนหน้าแกล้งให้ทางเมลล์-..-
ตื่นมาอีกทีก็ตอนสายโด่งของอีกวันผมมองหน้าต่างทอแสงอาทิตย์ที่มีม่านสีเขียวหม่นปิดกลั้นแสงให้ลอดผ่านมาในห้อง ว่าจะขยับตัวก็รู้สึกจุกปวดร้าวรานที่ช่วงท้องและด้านหลัง
ข่มตัวทนนอนนิ่งให้คนตัวสูงกอดพลางคิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มันคือความชั่ววูบและเผลอไผลของผมหรือความรู้สึกแปลกใหม่จนต้องเรียกหากันของเราทั้งคู่
ผมรู้สึกยังไงกับคิง...?
อาทิตย์ก่อนก็เป็นมาดามโดยไม่ทันตั้งตัวและรู้จุดประสงค์แท้จริงของอีกคน ไม่เจอกันร่วมสัปดาห์กลับมาอีกทีผมก็ยอมเป็นของเขาอย่างง่ายดายผมคงเป็นคนใจง่ายในสายตาพี่คริส
ตอนนี้ผมรู้สึกยังไงก็ยังไม่รู้เลย ถึงจะบอกได้ว่าเขาโอเคและผมสบายใจที่ได้คุยกับเขาแต่ก็ไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากว่า ‘ชอบ’ หรือ‘รัก’ แถมพี่เขาคิดยังไงกับผมก็ดูกันไม่ออก แต่พอมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นถ้าพี่คริสแค่คิดเล่นๆ กับผมล่ะผมควรทำไงต่อดี?
ถึงผมจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องมานั่งเรียกร้องความรับผิดชอบ แต่ก็รู้สึกเสียใจถ้าอีกคนแค่ต้องการหลอกมีอะไรกับผม...
“คิดอะไรอยู่คนมึน” เสียงของคนข้างหลังทำผมสะดุ้งตัวโยนอย่างตกใจ
“ปะ...เปล่า พี่ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามแต่ไม่หันมองอีกคนเพราะเขินเกินกว่าจะมองหน้าเขาติด
“ตื่นเมื่อกี้ มีกระต่ายหน้ามึนบางตัวถอนหายใจปลุก” เขาพูดเหมือนแอบด่าที่ผมถอนหายใจแรง
ผิดอีกแล้วสินะ...
“ขอโทษ...ผม..ผมไปอาบน้ำดีกว่า พี่นอนไปเถอะ” อยู่ด้วยกันต่อไปก็รู้สึกอึดอัดใจจนต้องพยุงตัวลุกขึ้นแต่ถูกคนที่สวมกอดแล้วกดตัวให้นอนต่อ
“ค่อยอาบน่า วันนี้วันหยุดจะรีบไปไหนกัน” เขากระซิบข้างๆหูก่อนดึงมือผมไปจับไว้ “ใจนายเต้นเร็วไปนะ เขินฉันล่ะสิ” เจ้าของมือหนาที่ทาบตัวตรงอกซ้ายของผมเอ่ยทักหลังสัมผัสถึงแรงระรัวของสิ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ’
“อยู่เงียบๆ ไม่พูดบ้างไม่มีใครว่าพี่ใบ้หรอกนะพี่คิส” ผมกดเสียงต่ำกันปล่อยไก่เหมือนเมื่อคืน
“จะพูด ก็ฉันชอบที่นายเขิน”
...ซ่า...!!!!
เขาจะรู้ตัวป่ะเนี่ยว่าเขาทำผมเขินจนหน้าร้อนเหมือนโดนแดดเผาแค่ไหน ใครบอกว่าคิงแห่งเซนต์ฌองซิแอร์ด้านชาเหมือนราชาน้ำแข็งผมจะเถียงหัวชนฝาเลยว่านี่มันราชาปิศาจชัดๆ
“เงียบไปเลยฮยอง” ผมขู่เขาฟ่อๆเหมือนแมวป้องกันตัวกลัวโดนรังแก
“คนมึนชอบทำตัวน่ารักว่ะ” เขาไม่สนใจคำขู่ฟ่อ ก่อนกระซิบแกล้งผมอีกรอบแล้วยกตัวขึ้นมากดจมูกหอมแก้มผมไปฟอดใหญ่ๆ
ถ้าเขาแกล้งผมแบบนี้บ่อยๆผมคงจะตัวระเบิดเพราะความเขินเข้าสักวัน...
--------------
เม้นแล้วเม้นอีกนะคะ
ไม่เม้นจะแกล้งดองไปสิบวันเลย-.-
ความคิดเห็น