คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Request-14- ห้ามก้าวผ่าน (Stop It)
เปิดจองฟิคตามสั่ง รายละเอียดคลิ๊กเลยจ้า
=PreOrder=
ห้ามก้าวผ่าน (Stop It)
.Kris part.
ตอนนี้ผมอยู่ที่ฉางชาตามที่ได้ข้อมูลจากคิมจุนมยอนเพื่อนในแก๊งค์โฮสต์ของเลย์ ดีที่ผมพอคุ้นชินกับการคมนาคมของจีนอยู่บ้างเลยทำให้ผมเดินทางคล่องจนถึงบ้านเลย์
จ่ายค่าแท็กซี่แล้วลงจากรถมาหยุดยืนหน้าบ้านหลังหนึ่งที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ตามสภาพครอบครัว เอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าบ้านหวังภาวนาให้คนที่ผมตามหายอมออกมาให้ผมเจอ
“เอ่อ...มาหาใครคะ?” ผู้หญิงที่ดูจะอายุมากกว่าผมสักห้าปีเดินออกมาถาม
“ผมมาหาจางอี้ชิงครับ” ผมโค้งทักทายเธอแล้วเอ่ยถึงคนที่ผมต้องการพบ
“มาหาน้องฉัน? อย่าบอกนะว่านาย...”
“ครับผมชื่อคริส เป็นแฟนอี้ชิง”
“เหอะ! ไม่รอมาตอนที่น้องฉันหนีไปอยู่แคนาดาก่อนล่ะ” พี่สาวเลย์ดูจะโมโหผมมากพอตัว เธอมองผมอย่างไม่พอใจแถมยืนกอดอกไม่ยอมเปิดประตูให้ผมเข้าไปหาน้องชายเขา
“ผมขอเข้าไปหาเลย์ได้มั้ยครับ” ผมถามแกมขอร้องพี่สาวของเลย์
“อืม ยังไงมันก็เรื่องของพวกนายสองคนไปเคลียร์กันเอาเองเถอะ” เธอนิ่งคิดไปสักพักสุดท้ายก็ยอมเปิดประตูให้ผมเข้าไปก่อนเดินนำเข้าตัวบ้าน
“นั่นใครน่ะลี่อิน” หญิงกลางคนเอ่ยถามพี่สาวหลังเห็นแขกแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน
“คนสำคัญของอี้ชิงค่ะแม่ น้องฉันอยู่ข้างบนห้องซ้ายมือ” พี่ลี่อินตอบคนเป็นแม่ก่อนหันมาบอกทางกับผม ผมโค้งทักทายแม่ของเลย์แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนตามที่เธอบอก
ผมหยุดยืนหน้าห้องที่มีไม้ตัวอักษรเรียงเป็นชื่อปะอยู่บ่งบอกว่าใครคือเจ้าของ แล้วตั้งสติสักพักก่อนเคาะประตูส่งสัญญาณถึงคนในห้อง
“ครับ พะ..พี่คริส” หลังเปิดประตูจากสีหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นตกใจทันทีที่เห็นผม พอตั้งสติได้เลย์เตรียมจะปิดประตูหนีแต่ผมรีบดันไว้ก่อนแล้วสอดตัวเข้าไปในห้องได้สำเร็จ
“เลย์ฟังฉันก่อน” ผมดึงตัวเขาไว้ไม่ให้หนีออกไปก่อนล็อคห้องแล้วรวบอีกคนเข้ามากอด
“ผมจะฟัง แต่พี่ต้องปล่อยผมก่อน” เลย์ยื่นข้อเสนอท่าทีนิ่งๆไม่โวยวายอย่างที่ผมเคยคาดการณ์
“ก็ได้” ผมยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ เจ้าของห้องหันมองผมสีหน้าเรียบเฉย แล้วเดินไปนั่งบนเตียงพลางผายมือเชิญผมนั่งที่เก้าอี้อีกตัวที่เขาลากออกมาจากโต๊ะทำงาน
“อยากพูดอะไรก็พูดมาสิครับ ผมมีเวลาให้ฮยองครึ่งชั่วโมง” เลย์มองนาฬิกาบนผนังก่อนหันมาเอ่ยกับผมเหมือนเร่งเวลาไล่กันทางอ้อม
“เลย์เรื่องวันนั้นฉันไม่ได้คิดแต่งงานกับนาอึน ที่ฉันไปทำเพราะต้องการหาข้อมูลไปเล่นงานคุณนายอู๋ให้หล่อนเลิกบงการชีวิตฉันหรือใครๆ ฉันขอโทษที่ทำให้นายต้องเดือดร้อนเลย์ นายหายโกรธฉันได้มั้ย?” ผมเอื้อมมือไปกอบกุมมือขาวที่วางนิ่งอยู่บนตัก
“จะจัดการเรื่องอีกคนแต่ใช้ผู้หญิงที่เขาไม่รู้เรื่องเป็นเครื่องมือมันใช่หรอครับ?” เลย์ดึงมือออกจากการกอบกุมแล้วลุกขึ้นออกไปให้ห่างจากผม
“ผมรู้ว่านาอึนก็ทำไม่ถูกที่เคยใช้วิธีลอบกัดกับผม แต่ที่เธอทำเพราะเธอรักพี่เป็นใครก็ไม่อยากให้คนของเราไปยุ่งกับคนอื่น เรื่องของเรามันจบแล้วอย่ายื้ออีกเลยครับ”
“แต่ฉันรักนายจางอี้ชิง เลิกผลักไสฉันให้คนอื่นจะได้มั้ย ฉันมาขอคืนดี มาขอโอกาสจากนายมันไม่มีหวังเลยหรอเลย์” ผมจ้องมองแววตาที่วูบไหวเหมือนกำแพงสูงที่เขาพยายามก่อเริ่มสั่นคลอน แต่เลย์กลับใจแข็งกว่าที่คิด
“ผมคงให้ฮยองไม่ได้แล้ว เพราะผมให้โอกาสนั้นกับเทาไปแล้วครับ...ผมเสียใจ” เลย์หลบสายตากลัวผมเห็นหยดน้ำตาที่ไหลออกมาแต่เขาหลบช้าไป
ผมเห็นมันแล้ว...
“นายคิดดีแล้วหรอที่ทำแบบนี้ นายไม่รักฉันแล้วใช่มั้ย”
“....”
“ไม่รักฉันแล้วจริงๆน่ะหรอ?”
“....”
ตอบฉันมาได้มั้ยว่านายยังรักฉัน....
“เลย์...”
“อ...ออกไป”
“ล...เลย์”
“ผมบอกให้ออกไป!!”
“ก็ได้...แต่ฉันรักนายนะ นายคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน...ฉันรักนายนะควีนคนมึนของฉัน” ผมบอกความในใจทั้งหมดที่มีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนยอมเป็นฝ่ายเดินจากไปตามความต้องการ
“อึก...ฮึก...ฮึก...ฮือ” เสียงร้องไห้ที่ดังเล็ดรอดออกมานอกห้องเหมือนปลายมีดที่คอยทิ่มแทงหัวใจผม อยากเข้าไปปลอบอยากกอดให้เขาเลิกร้องไห้แต่ขาผมกับไม้กล้าพอที่จะกลับเข้าไปหา
ในเมื่อเขาเลือกนายก็ขอให้นายดูแลเลย์ให้ดีกว่าฉันนะจื่อเทา...
.Part End.
.Lay Part.
“ตาแดงแพคคู่กันนี่คือเลิกกันชัวร์?” พี่ลี่อินถามหลังเห็นอาการตาแดงขั้นโคม่าของพวกผม
“ลี่อินไปเก็บผักไป” แม่เดินมาเอาตะกร้าผักยัดใส่มืออาเจ้ตัดวิถีนักข่าวเซเลปดังแล้วพาผมไปนั่งที่โซฟา
“แม่...ผมทำถูกมั้ย?” ผมล้มตัวนอนหนุนตักแม่ย้อนวัยเป็นเด็กอนุบาลที่ชอบอ้อนแม่เวลาอยากไปเที่ยว แต่ในเวลาที่เปลี่ยนไปในวันนี้ผมกลับต้องการกำลังใจมากกว่าอ้อนขอให้พาไปที่ไหนซะอีก
“ที่ทำไปถ้าแฮปปี้ก็คือถูก แต่ถ้ามานั่งครายแบบนี้ไม่ถูกชัวร์” คุณนายจางใช้ศัพท์อินเทรนชนิดเข้าใจง่ายให้ผมต้องนั่งทวนตัวเองอีกหนึ่งยก
“แต่ถ้าผมไม่ตัดใจทำแบบนี้ พี่เขาคงวุ่นวายไม่เลิกอ่ะ อีกอย่างผมยังเคืองกับสิ่งที่เขาทำไว้” หาข้ออ้างมาแย้งความเห็นแม่
บางคนอาจไม่เข้าใจความคิดผมหากอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่ผมบ้าบิ่นขับรถออกจากบ้านรุ่นพี่แฝด หากได้เห็นข้อความขู่เตือนมากมายจากคุณนายอู๋และนาอึน
คุณต้องเป็นอีกคนที่ยอมเสียสละเพื่อคนรัก...
‘ไปจากชีวิตเขา แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับคริสอู๋’
“แล้วคนรักกันนี่มันต้องจับมือก้าวผ่านเรื่องร้ายๆไปด้วยกันใช่ป่ะ นายมาทิ้งเขาให้เผชิญชะตากรรมคนเดียวนี่ใช่หรอ ตรรกะไหนในซีรี่ย์ที่นางเอกต้องยอมทิ้งพระเอกฝันหวานว่าตัวร้ายจะเลิกตอแยยะ”
“....”
“แม่ว่าคนเราไม่มีใครทำถูกไปซะทุกอย่างหรอกนะอี้ชิงถ้านายเปิดใจให้กว้างพอก็รู้เอง คริสเขาต้องการให้นายอยู่ข้างๆเขานะ เป็นกำลังใจให้เขาคอยดูแลเขาเหมือนที่คนรักเขาทำกัน” มือหอมนุ่มลูบผมเหมือนปลอบให้ผมได้ผ่อนคลาย
นั่นสินะบางอย่างที่เราทั้งคู่ทำก็ไม่ได้ถูกใจอีกฝ่ายไปซะทุกอย่าง....
“แม่..”
“ว่า?”
“แม่พาผมออกไปข้างนอกหน่อย...”
จากที่โทรถามเทาเรื่องโรงแรมที่พี่คริสพักตอนนี้ผมกับแม่ก็มาถึงหน้าโรงแรมที่หมาย ผมลงจากรถแล้วตรงเข้าไปในลอบบี้เพื่อถามหมายเลขห้องของฮยอง
“คุณอู๋อี้ฟานเพิ่งเช็ดเอาท์ออกไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วค่ะ” พนักงานบอกหลังเช็คข้อมูลให้ผมเสร็จ
ฮยองกลับเกาหลีแล้ว...
“ในที่สุดแอเรียลก็ยอมขึ้นบกมาตามหาพระราชา” ผมหันไปมองหวงจื่อเทาที่ยืนพิงเสามองผมอยู่ตลอด
ออกจากโรงแรมผมกับเทาก็มาอยู่กันที่สวนสาธารณะ แล้วให้แม่กลับไปเตรียมอาหารรับแขกเมืองจีนแต่อิมพอร์ตจากเกาหลีก่อน
“ฉางชามีไรอร่อยอ่ะ?” เทาถามหลังเราเดินกันจนมาถึงซุ้มร้านอาหารต่างๆริมข้างทาง
“ก็อร่อยหมดแหละถ้านายไม่เรื่องมาก แล้วนี่นายมาที่นี่ทำไม?” ผมตอบซึนใส่ก่อนถามเจ้าคนข้างๆกลับ
“คิงบอกให้มาดูแลควีนที่อยากลดพระยศเป็นปริ๊นเซสแต่ดูท่าทางคงไม่ใช่” เทาตอบพลางเฉมองร้านข้างทางไม่มองสบตาผม
“แล้ว...”
“คริสฮยองต้องรีบกลับไปทำธุระเรื่องงานในเซนต์แทนคุณอา น่าสงสารเนอะเป็นราชาประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่ถูกเร้าให้ไปดูแลเซนต์เชื่อเถอะว่าฮยองไม่ยอมถอดใจตื้อพี่หรอก” เขาลอบมองปฏิกิริยาผมหลังพูดถึงอีกคน
“อ...อือ” พอฟังถึงสาเหตุที่พี่คริสต้องรีบกลับผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยได้แต่ส่งเสียงรับรู้
“เจ้าชายบางองค์ยังไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหญิง...ปีเตอร์แพนก็คงไม่จำเป็นต้องคู่กับเวนดี้”
คำพูดของเทาเรียกผมให้หันมองอย่างสงสัยว่าเจ้านี่พยายามจะสื่ออะไรกับผม ไอ่เจ้าชายเจ้าหญิงพอเข้าใจแต่โยงมาเรื่องปีเตอร์แพนนี่คืองง
งานมึนต้องมาอ่ะพาร์ทนี้...
“ผมว่าทิงเกอร์เบลล์ก็น่ารักดีนะ...”
นี่คือกำลังเพ้อแข่งผม?
“เทา...นายไหวมะ?” ในที่สุดผมก็ถามไปอย่างเป็นห่วง
“ฮยองคิดว่าผมบ้าไง? ขนาดพี่เองยังเอาตัวเองไปเปรียบกับเมอร์เมดผมก็อยากเป็นปีเตอร์แพนบ้าง” ไม่สำนึกว่าทำให้ผมมึนยังไม่พอคนตัวสูงขยังด้นสดเพ้อนิทานต่อไปอีก
“ย๊า!!....ฉันไม่มีอารมณ์มาฟังนายเล่านิทานนะจื่อเทา” คือแบบทนไม่ไหวและไม่อยากทนชั่วโมงก่อนผมร้องไห้หนักคือปวดตาคือห่วงพี่คริส แล้วน้องชายเขามาสร้างประสบการณ์ความซึนใส่ผมอีก
ฆ่าปีเตอร์แพนก่อนที่มันจะเจอทิงเกอร์เบลล์ผิดมั้ย?
“เลย์ฮยอง...ผมชอบที่พี่ทำหน้ามึนบ่นเก่งไม่ทันคนมากกว่ามายืนหน้าบูดตาแดงมากกว่าว่ะ แล้วคนที่จะทำให้พี่มึนได้คงมีแค่คิงอี้ฟาน เรื่องที่เราเคยตกลงกันไว้ผมว่าฉีกมันทิ้งเถอะ” ครั้งแรกในรอบสิบนาทีที่เขายอมหยุดเดินแล้วหันมาคุยกับผมดีๆ
คราวนี้เป็นผมที่หลบตาไม่กล้ามองเทาเหมือนครั้งแรก ความรู้สึกในใจผมตีกันยุ่งเหยิงไปหมดทั้งอยากกลับไปตามที่ทุกคนแนะนำแต่ก็กลัว อยากหยุดแล้วเว้นช่องว่างระหว่างเราแต่ก็ทำไม่ได้
“นายแน่ใจแล้วหรอ?” ย้ำขอคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้งว่าเขาแน่ใจในตัวเองแล้วว่าเขาต้องการใคร
ระหว่างผมและทิงเกอร์เบลคนนั้น...
“อืม บางทีสิ่งที่มีค่าที่สุดน่ะอยู่ใกล้ตัวเราแค่เอื้อมมือแต่เรากลับมองข้ามไป ตอนนี้ผมรู้ตัวเองแล้วล่ะว่าใครสำคัญกับผมที่สุด แล้วพี่ล่ะหัวใจตัวเองกับเรื่องเวรๆที่ผ่านเข้ามาอะไรสำคัญกับพี่?”
......
“อีกสองวันก็งานโอเพ้นเฮาส์ละ ถ้าว่างก็บินกลับไปช่วยโชรงนูน่าดูแลโฮสต์หน่อยล่ะคุณนายเธอบ่นมาหลายวันแล้วว่าขาดคน” พอผมไม่คิดตอบคำถามเขาก็เลือกที่จะมัดมือชกทางอ้อมโดยการยัดตัวกลับเกาหลีใส่มือผม
แค่ถอยหลังกลับกันคนละก้าวแล้วมาเรียนรู้กันใหม่อีกครั้งคงไม่สายเกินไปใช่มั้ย...
ช่วยสร้างกำลังใจเล็กๆให้ไรต์ด้วยนะคะ
เม้น+โหวต
#ฟิคตามสั่ง
ความคิดเห็น