ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO]-TaoHo-Your's RequestII-My Peterpan

    ลำดับตอนที่ #16 : Request-13- ฟองอากาศ (Mermaid)

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 57


    เปิดจองฟิคตามสั่ง รายละเอียดคลิ๊กเลยจ้า

     

    =PreOrder=

     




     

    ฟองอากาศ (Mermaid)


                แท็กซี่บางทีแม่งก็ตีนผีไปนะครับ ผมว่าผมขับตามไปติดๆแล้วนะเผลอโทรเรียกให้ไอ่เฮนออกมาเอารถมันแปบเดียวรถคันนั้นกลับหายไปเหมือนล่องหน

     

    พอเจอทางตันหนทางแรกที่ผมย้อนกลับคือที่หอพักนักเรียนเซนต์ฌองซิแอร์ จอดรถทิ้งไว้หน้าหอแล้วเดินไปปลุกยามมาเปิดประตูให้จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นบันไดแทนลิฟต์ไปชั้นสี่ตรงไปยังห้องของเลย์

     

    ปึงๆๆๆ!!!

     

    “ใครวะ!!...อ้าว คริสฮยอง” เด็กเอกเดียวกันที่เป็นรูมเมทเลย์โวยวายกับการเคาะประตูแบบโคตรมีมารยาทของผม ก่อนเหวอไปนิดที่เห็นว่าเป็นใคร

     

    “เลย์กลับมาที่หอมั้ย?” ไม่ขอโทษไม่พอยังจะถามคนที่ต้องการพบ ผมดูเป็นคิงที่ดีใช่มั้ยล่ะ

     

    “เลย์? ไม่นะครับฮยองแต่ซูโฮเขามาเก็บเสื้อผ้าเลย์ก่อนหน้าฮยองสักพักเห็นบอกเลย์จะลาหยุดแล้วบินไปเมืองนอก” รูมเมทเลย์ให้ข้อมูล

     

    “ไปเมืองนอก? นายพอจะรู้มั้ยว่าประเทศไหน” จากคิดหนักคราวนี้เหมือนจะโดนแช่แข็งไปแล้ว ยิ่งเห็นอีกคนส่ายหน้าไม่รู้ทางยิ่งมืดกว่าเดิม

     

    ผมยกแขนขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกเวลาเกือบตีหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่รถแล้วขับออกยังสนามบินอินชอนใจภาวนาขอให้เลย์ยังไม่ขึ้นเครื่อง

     

    สนามบินตอนตีหนึ่งคิดว่าคนจะน้อยแต่มันกลับสวนทางกว่าที่คิด คนๆเดียวในหมู่คนนับร้อยผมจะตามหาได้ยังไง และผู้ช่วยคนแรกที่ผมคิดออกคือพีอาร์

     

    “คุณจางอี้ชิงเข้าเกทไปได้สักครู่ครับ” ฝ่ายพีอาร์ของสนามบินรายงานพ้นค้นหาที่ผมขอให้ช่วย

     

    “ครับ ขอบคุณ” โค้งขอบคุณแล้วออกจากที่ตรงนั้น

     

    ล้วงมือหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนกดโทรออกเบอร์เดิมที่ผมโทรตั้งแต่เขาขึ้นแท็กซี่จนตอนนี้ สัญญาณติดต่อยังมีอยู่ไม่ถูกปิดเครื่องยืนรออยู่สักพักให้ปลายสายยอมรับสายของผมและสุดท้าย...

     

    (ครับ...)






     

    เลย์ยอมรับสายผมแล้ว!!!






     

    “เลย์นายกลับออกมาได้มั้ยฉันต้องการจะอธิบาย ขอร้องกลับมาหาฉันได้มั้ย?” ทั้งชีวิตนอกจากแม่ผมก็ไม่เคยขอร้องใคร ไม่เคยอ่อนให้ใครแม้แต่พ่อ

     




     

    เลย์คืออีกหนึ่งคนที่ผมแคร์...

     




     

    (พี่เคยอ่านลิตเติ้ลเมอร์เมดมั้ยครับ)

     

    คนมึนมาสไตล์ไหนอีก?

     

    “....”

     

    (เมอร์เมดที่ตอนจบไม่ได้สวยหรูเหมือนการ์ตูนของดิสนี่ย์ เมอร์เมดที่ตอนจบเธอต้องกลายเป็นฟองอากาศเพราะความรัก ผมกำลังจะเป็นเมอร์เมดในตอนนี้)

     

    “เลย์...ไม่นะเลย์” ผมร้องห้ามอย่างเข้าใจสิ่งที่อีกคนต้องการบอก

     

    เขาจะจากผมไปตลอดกาล เหมือนเงือกน้อยที่จากไปเพราะเจ้าชายหลงพิษมายาของแม่มด...

     

    (ลาก่อนครับ)

     

    “เลย์!!

     

    ผมพยายามกดโทรกลับไปหาเลย์อีกเป็นสิบครั้ง เป็นร้อยครั้งแต่สิ่งที่ได้คือสัญญาณที่ถูกปิด ไม่มีอะไรทำให้ผมหงุดหงิดเท่านี้มาก่อน เลย์อยู่ใกล้กันเพียงแค่ประตูกั้นแต่ผมเข้าไปรั้งเขากลับมาไม่ได้อีก

     

    “โธ่เว้ย!!!” สบถออกมาอย่างหัวเสียยอมเดินกลับไปที่รถด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า

     

    แม่สอนผมมาเสมอว่าผมต้องเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งไม่อ่อนไหวกับเรื่องอะไรง่ายๆ นอกจากเรื่องแม่ที่จากไปคราวนี้เลย์คืออีกคนที่ทำให้ผม






     

    เสียน้ำตา...












































     

    “คุณคริสคะ ป้าขอร้องใจเย็นก่อนนะคะ คุณคริส คุณคริสคะ!!!” ป้าหัวหน้าแม่บ้านเดินตามผมมาตั้งแต่ได้ยินเสียงบีบแตรเปิดประตูจนเดินเข้ามาในตัวบ้านที่เงียบสงัดเพราะทุกคนนอนกันหมด

     

    ไม่ใช่ทุกคนสิต้องบอกว่ามีแค่ยัยแม่มดนั่นคนเดียวที่อยู่บ้านใหญ่หลังนี้ บ้านของตระกูลหวงที่อยู่ในกรรมสิทธิ์ของตระกูลอู๋ บ้านที่ไม่มีใครคิดจะมาอยู่แม้กระทั่งทายาทตระกูลหวงอย่างหวงจื่อเทา

     

    ผมหันไปบอกแม่บ้านของบ้านหวงด้วยสายตาให้เธอหยุดพูดอะไรที่ตื่นตูมเกินจำเป็น ก่อนเดินไปเคาะประตูห้องของผู้หญิงที่มีศักดิ์เป็นคุณนายแห่งอู๋กรุ๊ป





     

    ตำแหน่งคุณนายที่เธออุส่าตะเกียกตะกายได้มันมา...






     

    “ว่าไงพ่อลูกชาย มาหาแม่เวลานี้คงมีเรื่องสำคัญมาก” ยัยแม่มดยิ้มอย่างชอบใจที่เห็นผมเดือดได้ขนาดนี้

     

    “ป้าไม่ใช่แม่ผม!” ผมปัดคำแทนตัวไม่ไว้หน้า

     

    “ใช่ไม่ใช่แต่ฉันก็เป็นเมียของพ่อเธอ เป็นคุณผู้หญิงของบ้านอู๋ และที่สำคัญฉันมีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงเธอนะอู๋อี้ฟาน” ผู้หญิงคนนี้เวลานอนหน้ายังโบกปูนอยู่รึไงถึงไม่สะเทือนกับอะไรเลยสักนิด

     

    “เมียพ่อ?...ช่วยขยายความหน่อยสิว่ามาเป็นเมียพ่อฉันได้ยังไง คุณผู้หญิงของบ้านอู๋?...แล้วทำไมดัชเชสยังอยู่นี่ไม่ไปอยู่บ้านอู๋ล่ะ ข้อสุดท้ายบอกว่าเป็นแม่เลี้ยงใช่มั้ย?...ถ้าไม่ใช้มารยาหญิงมาหลอกพ่อให้นอนด้วยเธอคงเป็นได้แค่แม่หม้ายผัวทิ้งที่ตะเกียกตะกายอัพเกรดตัวเอง!” ผมตอกกลับจนหน้าหนาๆของเธอเกิดรอยร้าวขึ้นมาทันที

     

    “ไอ่เด็กปากเสีย!” ฝ่ามือบางยกขึ้นเตรียมจะตบหน้าผมแต่ผมจับข้อมือเธอทันเสียก่อน

     

    “สนุกมากใช่มั้ยที่ทำแบบนี้ทำชีวิตครอบครัวตัวเองพังไม่พอยังมาทำชีวิตคนอื่นพัง ฉันไม่แปลกใจหรอกนะว่าทำไมคุณลุงหวงกับจื่อเทาถึงทิ้งเธอให้อยู่คนเดียว ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไมพ่อไม่พาเธอไปอยู่บ้านอู๋เพราะความมักมากไม่รู้จักพอของเธอไง!!!

     

    “อู๋อี้ฟานหยุดเดี๋ยวนี้!!

     

    “ไม่! ตลอดเวลาที่ฉันเงียบไม่มางัดข้อกับเธอเพราะเห็นแก่หน้าพ่อ แค่หลงคว้าผู้หญิงข้างถนนไม่เจียมตัวมาเป็นเมียว่าแย่แล้วยังคุมเมียใหม่กับลูกให้รักกันไม่ได้อีก”

    “แต่เธอ...เธอทำความอดทนของฉันหมดเพราะความหน้าเงินคิดขายลูกเลี้ยงให้พวกลูกคุณหนู เพราะความริษยาในตัวแม่ฉันที่ได้สามีที่รักภรรยาไม่ทอดทิ้งเหมือนที่เธอเจอ แล้วทีนี้สะใจรึยังที่ทำให้คนที่ฉันรักจากฉันไปอีกคน!!” ผมตะคอกอย่างเหลืออดก่อนผลักเธอเซถลาชนกับผนังห้อง

     

    “หึ...ฮ่าๆ...ฮ่าๆๆๆ” ยัยแม่มดจู่ๆก็หัวเราะออกมาร่างที่เกือบล้มนั่งกับพื้นยืดตัวตรงหันมองผมด้วยสีหน้าที่คิดว่าเธอเหนือกว่า “ใช่...ฉันสะใจ สะใจมากด้วยคริสที่ความรักของแกพัง ทั้งแกทั้งแม่แกมันก็มารขัดขวางความสุขฉัน ถ้าไม่มีแม่แกพ่อของแกก็ต้องหันมามองฉันถ้าไม่มีแกเทาลูกฉันต้องได้สืบทอดธุรกิจของอู๋กรุ๊ป ในเมื่อฉันทำแกตายตามแม่ของแกไม่ได้ก็ต้องทำให้แกตายทั้งเป็นเหมือนๆฉัน!!

     

    “เหอะ! ไม่แปลกใจสักนิดว่าทำไมคุณลุงหวงไม่มอบพินัยกรรมให้จื่อเทาเพราะท่านกลัวเธอจะผลาญลูกตัวเองเพื่อความสุขส่วนตัว ไม่แปลกใจว่าทำไมพ่อถึงไม่พาเข้าบ้านไม่พาออกสังคมเพราะรังเกลียดผู้หญิงเพศยาอย่างเธอ และฉันก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเทาถึงขอไปอยู่คอนโดไม่กลับมาบ้านนี้อีก” ผมอีกคนสีหน้าเรียบเฉยเหมือนที่ทำมาตลอดก่อนพูดทิ้งท้าย

    “ที่ทำมาทั้งหมดคิดว่ามีความสุขแล้วหรอ แต่สีหน้าเธอมันดูเศร้ากว่าที่คิดนะดัชเชส...ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าต่อไปนี้ฉันจะไม่เป็นของกำนัลที่เธอจะเอาจับยัดกล่องให้ใครอีก ถ้าอยากพังชีวิตคนอื่นเขามากนักก็เอาตัวเองเข้าแลกสิทีนี้ตระกูลอู๋จะได้พังสมใจ...”

    “สตรีอันดับหนึ่งของอู๋กรุ๊ปสำส่อนลักลอบมีสัมพันธ์กับคู่ค้าจนบ้านแตก รับรองว่าไม่มีคุณนายที่ไหนเชื่อใจปล่อยให้สามีมาลงทุนกับพ่อแน่”

     

    ผมออกจากบ้านหวงแล้วขับรถตรงกลับคอนโดไม่คิดแวะไหนเพราะความเหนื่อยและกดดันมันสะสมเยอะเกินกว่าจะฝืนท่องราตรี ขายาวก้าวเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นของห้องพักพอเดินไปถึงหน้าห้องก็หยุดยืนเพียงนิดเพราะเห็นเทายืนอยู่หน้าห้องผม

     

    “ไง...ได้ข่าวว่าไปเปิดศึกกับแม่มดมา” เทาเอ่ยทัก

     

    ขนาดลูกแท้ๆยังเรียกแม่ว่า แม่มด

     

    “อืม...อย่างทรหดแม่นายจิตเป็นบ้า” ผมบ่นให้ลูกเธอฟังก่อนสอดคีย์การ์ดปลดล็อคห้อง แล้วเปิดประตูเดินเข้าไปโดยมีเจ้าน้องร่วมสายเลือดตามเข้ามา

     

    “แต่พี่ก็เอาชนะแม่ผมได้ พี่จิตกว่าป้านั่นอีกนะเนี่ย” ไอ่คนเป็นลูกรู้สึกจะแฮปปี้ที่ผมล้มแม่ตัวเองได้มากกว่าจะโกรธกันซะอีก






     

    คนที่จิตที่สุดน่าจะเป็นเจ้านี่แหละ...






     

    “ว่าแต่นายมีอะไร” ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับน้องชายเลยเลือกจะดึงเข้าประเด็น

     

    “แค่จะมาชวนคนเฮิร์ตชนแก้วฉลองเมียทิ้ง” ผมตวัดตามองคนพูดที่ดูอารมณ์ดีผิดวิสัย เพิ่งไปงัดข้อกับคนแม่สงสัยต้องงัดหมัดกับคนลูกต่อแน่ถ้ามันไม่เลิกจี้จุดผม

     

    “ไม่มีอารมณ์” ตอบไปหน้านิ่งก่อนเดินหนีเข้าห้องนอน

     

    “ตอนเขาอยู่ไม่คิดทำจะทำอะไรให้ชัดเจน พอเขาไปถึงจะมาตามล้างตามเช็ดเลย์ฮยองคงไว้ใจจะกลับมาอยู่หรอกนะ” ขาที่ก้าวเข้าห้องนอนผันกลับไปยืนประจันหน้ากับไอ่เด็กที่ไม่เลิกพูดกวนส้น

     

    “เทา...กลับไปก่อนที่ฉันจะต่อยปากนาย”

     

    “หึ...ผมเคยบอกแล้วว่าถ้าพี่ทำให้พี่เลย์เสียใจ ผมจะมาเอาคืน รอบนี้คือตาของผมที่จะได้ดูแลพี่เลย์แทนพี่” คำพูดของเทาทำผมต้องฉุกคิด

     

    “นายติดต่อกับเลย์?”

     

                ถ้าเป็นไปตามข้อสันนิฐานก็แสดงว่าไอ่รถแท็กซี่ที่มาได้จังหวะ เรื่องคนที่ไปเก็บของให้เลย์ถึงหอ ไหนจะเรื่องเที่ยวบินกระทันหันเป็นฝีมือลูกพี่ลูกน้องผมสินะ

     

    “ใช่ และพี่เลย์เขาก็ให้โอกาสผม” เทากระตุกยิ้มมุมปากก่อนเดินออกไปจากห้องไม่รอให้ผมไล่ไปซ้ำสอง

     

    เลย์ให้โอกาส?...นี่เลย์คิดจะตัดผมจริงๆหรอ






     

    แต่คิดหรอว่าผมจะยอม!






     

     .End Part.
































     

    .Lay Part.

     

    “คนเรานะคนเราถ้าไม่อกหักคงไม่คิดจะกลับบ้าน” พี่สาวของผมบ่นทันทีที่เห็นหน้าน้องชายที่หายไปเกือบปีอย่างผมลงจากรถมากดออดที่หน้าบ้าน

     

    “ใครบอกผมอกหัก ผมเป็นคนบอกเลิกเขานะคนทางโน้นต่างหากที่อกหัก” เชิดหน้าเถียงพี่สาวทั้งๆที่ตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้มาตั้งแต่ขึ้นเครื่องที่อินชอนยันมาถึงฉางชา

     

    “เหอะ อย่ามาโกหกดูหน้านายก็รู้ว่ะ แล้วนี่ทำไมไม่บอกให้แม่แวะไปรับฮะทำไมนั่งแท็กซี่มาเอง” อาเจ้ช่วยจูงกระเป๋าเดินทางอีกใบเข้าไปในบ้าน

     

    “ไม่เอา ไม่อยากให้แม่เหนื่อยขับรถเทียวไปกลับปล่อยท่านไปทำงานเถอะ” ผมตอบปัดก่อนล้มตัวนั่งบนโซฟา

     

    “แล้วกลับมานี่จะอยู่สักกี่วัน” เธอถามพลางยื่นแก้วบรรจุน้ำเย็นให้ผมดื่มลดความเหนื่อยร้อนในร่างกาย

     

    “คงสักพัก เจ้อ่ะจะกลับไทยเมื่อไหร่?” ตอบแบบไม่มีกำหนดที่ตายตัว ก่อนย้อนถามพี่สาวคนเดียวที่ไปทำงานที่เมืองไทย

     

    “กำหนดลาพักร้อนหมดอาทิตย์หน้าก็คงกลับก่อนประมาณสามวัน”

     

    “จางลี่อิน” ผมเรียกเธอเต็มยศซึ่งเธอก็รับรู้ว่าผมต้องขออะไรแน่






     

    คนบ้านนี้เรียกชื่อเต็มกันทีไรต้องมีเรื่องที่อยากได้...






     

    “ขอไปอยู่ไทยด้วยคนสิ”

     

    “?”

     

    “ต๊าย!! ลูกฉันยังไม่ได้พาลูกเขยมาไหว้แม่นี่เลิกกันตัดหน้าไปซะละ คนมือสองนี่ขายได้ราคาเท่าไหร่อ่ะลี่อิน” คุณแม่สุดที่รักเอ่ยแซวหลังกอดหอมกันอยู่พักใหญ่

     

    แม่ครับ ลูกแม่ไม่ใช่ไอโฟนนะจะได้เอาไปขายเป็นเครื่องมือสองได้!

     

    “ไม่รู้สิคะ ต้องดูที่อะไหล่ถ้ายังโอราคาคงสูงอยู่” พี่สาวผมก็ร่วมผสมโรงกับแม่ด้วย






     

    คนบ้านนี้ชอบแกล้งอี้...






     

    “พูดอีกทีผมงอนนะ” ผมทำปากคว่ำบีบน้ำตาที่ไม่มีเหลืออีกแล้วเรียกร้องความสงสาร

     

     “โอ๋...แม่แค่อยากทำให้ลูกแม่หายเศร้า เห็นอี้ชิงของแม่เข้มแข็งได้ขนาดนี้แม่ก็สบายใจ” ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดดึงผมเข้าซบไหล่พลางลูบหัวอย่างปลอบโยน

     

    น้ำตาที่ว่าหมดแอบมีซึมครับงานนี้

     

    “เออแม่ น้องจะขอไปอยู่กับหนูที่ไทยแม่จะว่าไงคะ?” พี่ลี่อินถามความเห็นจากไทเฮาของบ้านที่สบมองสายตาอ้อนขออนุญาตของผม

     

    “แล้วไม่กลับไปเรียนที่เซนต์แล้วหรอ?”

     

    “เรียน แต่ผมขอย้ายสาขาไปเรียนที่แคนาดา ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินเรื่องฮะ” พอได้คำตอบจากผมทั้งแม่และพี่สาวก็หันมองหน้ากันก่อนหันกลับมามองผม

     

    ก็เข้าใจหรอกนะว่าแค่ไปเรียนที่โซลผมก็แทบไม่ได้กลับบ้านเลย แล้วทั้งพี่และแม่ต่างก็ยุ่งกับงานของตัวเองจนไม่มีเวลาไปหาผมขนาดพี่ลี่อินลาพักร้อนยังมีงานมาทำด้วย คราวนี้ผมจะย้ายไปแคนาดาการไปมาหากันยิ่งยากเป็นสองเท่า

     

    “จางอี้ชิง...นายขอไปเรียนโซลแม่ก็ไม่เคยห้าม นายมีแฟนมีความรักแม่ก็ไม่เคยขัด แต่พออกหักนายจะทำลายชีวิตตัวเองที่พยายามสร้างมันมาเกือบสองปีแล้วไปเริ่มงมหาทางออกใหม่อย่างนั้นหรอ เข้าใจว่าวัยรุ่นอย่างนายเรื่องความรักมันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวแต่เรื่องการเรียนสำคัญกว่านะอี้ชิง” แม่สอนผมให้ผมทบทวนกับสิ่งที่ผมกำลังทำ

     




     

    นั่นสินะผมกำลังทำอะไรอยู่ สิ่งที่ผมตัดสินใจมันดีแล้วใช่มั้ย?






     

    “เฮ้อ...นี่ถ้ามีหนังสือตอบรับให้แกไปเรียนที่โน่นฉันคงต้องลางานไปส่งแกถึงที่อีกสินะ” พี่ลี่อินบ่นเหมือนหน่ายกับการไปมอบตัวของผม แต่จริงๆแล้วเธอจะไปศึกษาเส้นทางเพื่อไปหาผมในครั้งหน้าซะมากกว่า

     

    “บอกจะไปอยู่กับพี่ที่ไทยก่อนใช่มั้ย? แม่อนุญาตนะจะไปแคนาดาเมื่อไหร่โทรมาบอกแม่ด้วยแล้วกัน ตอนนี้ไปพักต่อไปเดี๋ยวกับข้าวเย็นเสร็จจะไปเรียก” แม่ตบบ่าผมเบาๆก่อนขึ้นไปเปลี่ยนชุดทำงานเป็นชุดอยู่บ้านแล้วลงมาทำอาหารเย็นโดยมีพี่ลี่อินเป็นลูกมือ

     

    ผมเดินจะไปช่วยสองสาวเขาเข้าครัวแต่ก็ไล่ออกมาให้นั่งดูทีวี พอเงียบไม่มีคนชวนคุยหน้าของคนที่ผมหนีมาก็ประเดประดังเข้ามาในสมองไหนจะเรื่องมากมายที่ผมทิ้งไว้ที่เกาหลี





     

    ผมจากมาแบบนี้ผู้หญิงคนนั้นคงจะเลิกก่อเรื่องให้พี่คริสสักทีนะ...





     

    ถือกระเป๋าMCMใบเก่งที่คริสฮยองซื้อให้มาวางบนตักก่อนรูดซิบกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อมูลต่างๆหลังปิดเครื่องไว้ และเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้ว่าผมโง่มากที่เช็คมันไม่ว่าจะเป็นการโทรที่นอกเหนือจากการโทรออกของผมเอง แล้วไหนจะข้อความทุกๆทางการติดต่อผู้ส่งคือเขาทั้งหมด

     

    พี่คริสพยายามติดต่อผมแทบทั้งคืน






     

    เขาไม่หลับไม่นอนเลยรึไง...






     

    อยากโทรกลับอยากได้ยินเสียงเขา แต่ในเมื่อผมเลือกจะหันหลังก็ต้องข่มใจแล้วลืมมัน....






     

    ในเมื่อเจ้าชายต้องแต่งงานกับใครอื่นเมอร์เมดอย่างผมคงต้องยอมรับแล้วจากไปแต่โดยดี











    ------------------------------------
    คุยท้ายพาร์ท!!!
    จะดราม่าสำบัดสำนวนยังมาเต็ม
    ไรต์กลับไปแต่งพีเรียดดราม่าดีกว่าเนอะภาษาเริ่มโบราณตามเหมยม่วง


    อีกประมาณสี่พาร์ทควีนเลย์เราก็จะลากันแล้ว
    ใครไม่เคยเม้นก็เม้น ใครไม่เคยโหวตก็โหวตโค้งสุดท้ายแล้วนะคะ #ฟิคตามสั่ง แท็กกันบ้างกราบเลยค่ะ-/\-
    ขอกำลังใจสักนิดเถิดคนดีของไรเตอร์;_; 

    จบคิงอู๋กับควีนเลย์ก็มาต่อ เทาตัวเขียวและซูโฮผู้น่าสงสาร
    รักรีดเดอร์มากมายจ้า!


     

     

     

    :-Daisy ✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×