คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หมอนวด2
หมอนวดเบอร์สอง2
คนที่ถูกเรียกนั่งมึนกันอยู่นาน แบบเขาสองคนโดนเรียกบ่อยกว่าคนอื่นก็จริง แต่ไม่เคยเจอตั้งแต่หัวค่ำแบบนี้ป่ะ สองเพื่อนรักเดินจูงมือกันออกมาหาพี่เฉินที่ยืนรออยู่ตรงทางออกของตู้
“น้องอี้ไปเปิดห้องรอเลยนะ ส่วนน้องแบคไปหาแขกที่โต๊ะสิบสอง” พี่เฉินแจงรายละเอียดตามที่รับมาจากเฮียโจ๊ก พอสองสาว(?) พยักหน้ารับพี่เฉินก็เตรียมหันกลับไปทำงานต่อ แต่มันติดที่น้องแบคเรียกไว้
“พี่เฉินเดี๋ยว…”
“ว่าครับ?”
“เสี่ยคนไหนเล่นเปิดห้องแต่หัวค่ำเลยอ่ะพี่เฉิน” น้องแบคถามแทนเพื่อนแบบนี่มันเพิ่งสามทุ่มๆนิดๆเองนะ ปกติมันควรจะคุยเล่นทำความรู้จักกันก่อนป่ะวะ?
“ก็แค่เปิดไว้น่า เฮียเขายังไม่เข้าไปตอนนี้หรอกรอไปก่อน” พี่เฉินพูดยิ้มๆ
“ห๊ะ? อี้งงหรือแขกเมา…” น้องอี้ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ ถ้าให้เปิดห้องแล้วก็เข้าเลยสิจะได้จบๆ ให้รอทำไมเวลาเป็นเงินเป็นทองนะ น้องอี้ไม่ได้รับแขกวันละคนนะจะบอกถึงจะให้มานั่งรอแบบนี้ แขกคนอื่นรอใช้บริการน้องอี้อีกเยอะแยะ
แหมอี้…ไม่ค่อยอยากรับแขกเลยโน๊ะ =_=
“เมื่อไหร่ที่แขกเขาคุยกับแบคเสร็จ เขาก็จะไปหาอี้ไงไปรอที่ห้องได้แล้วคร้าบบบบ” พี่เฉินเริ่มจะรำคาญเจ้าเด็กจำไมสองคนนี่แล้วนะ ถามมากจริงวุ้ยทำไมไม่เงียบ เรียบร้อย พูดน้อย น่ารักแบบน้องหมินของพี่เฉินเลย
“คนที่เรียกเรานี่คนเดียวกันงี๊ป่ะ?” น้องแบคยังไม่เลิกเซ้าซี้
“อาฮะ…เลิกถามครับ พี่ต้องไปทำงานน้องๆก็ไปทำหน้าที่ตัวเองได้แล้วครับ น้องแบคตามพี่มาเลยแขกรอนานแล้ว” พี่เฉินผายมือมืออันเชิญ
น้องแบคกับน้องอี้โบกมือล่ำลาพอเป็นพิธีแล้วแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง น้องแบคเดินตามพี่เฉินมาที่โต๊ะเบอร์สิบสอง ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหลังให้เขาอยู่ ดูจากข้างหลังแล้วคงจะอายุไม่เท่าไหร่ละมั้ง น้องแบคยิ้มให้พี่เฉินที่ขอตัวไปทำงานก่อนเดินอ้อมไปที่โซฟาสีแดงที่แขกคนแรกของเขานั่งรออยู่
แขนยาวภายใต้เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำเงินดำพาดอยู่ที่พนักพิงด้วยท่าทีสบายๆ กับขายาวๆที่ยกไขว่ห้างกันอยู่พลางกระดิกขาดิกๆ น้องแบคไล่สายตามองไปเรื่อยๆไล่ขึ้นตั้งแต่เท้าจรดหัว(?)
คนอื่นเขามองจากหัวจรดเท้าป่ะแต่น้องแบคอินดี้ไง
!!!
“เฮียอู๋…?”
“หืม?” คนถูกเรียกปรายตามามองคนตัวเล็กที่ยืนนิ่ง คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“รู้จักฉันหรอ?” เฮียอู๋ถามเด็กที่ยังยืนอยู่กับที่ บนใบหน้าจิ้มลิ้มฉายแววตกใจน้อยๆที่ถูกเขาถามกลับ
“ปะ…เปล่าฮะ” น้องแบคปฏิเสธละล่ำละลักพร้อมโบกมือไปมา แต่ใช่ว่าเฮียอู๋จะเชื่อถึงเสียงเพลงจะดังอยู่บ้างแต่หูเฮียอู๋ก็ดีอยู่นาได้ยินชัดเจนว่าเด็กคนนี้เรียกเขาว่า ‘เฮียอู๋’…
“หรอ? นั่งสิ” บุ้ยใบ้หน้าลงพื้นโซฟาที่ว่างอยู่ตรงข้าม ในเมื่อเด็กมันอยากบอกว่าไม่รู้จักเขาก็จะทำเป็นไม่สนใจละกัน เด็กไอ้ชานมันสนใจมากไม่ดีเดี๋ยวลูกน้องมาฉีกอกจะไม่ฮาเอานะ
“ชื่อไรล่ะเรา” เฮียอู๋ถามอีกคนเสียงนิ่งๆตามสไตล์ผู้ชายเย็นชา
“แบคฮะ” น้องแบคแอบตกใจไม่น้อยที่คนที่เรียกเขามาคือเฮียอู๋นี่ถ้าอี้รู้นะ บรึ๋ยยยย ไม่อยากจะคิด ว่าอี้จะทำมิดีมิร้ายอะไรแบคบ้างคนนี้มันยิ่งหมายปองอยู่ด้วย แต่จะว่าไปพี่เฉินบอกว่าลูกค้าของเขากับอี้เป็นคนเดียวกันงั้นก็แปลว่า….
O_O!!!!!
“อะไร?” พอเห็นตาเรียวรีที่จู่ๆก็เบิกกว้างของน้องแบคเฮียอู๋จึงถามออกไป ใจแอบคิดว่าเด็กคนนี้พิลึกชอบทำท่าทางแปลกๆ
ทำไมไอ้ชานมันชอบคนไม่เต็มเต็ง?
“เปล่าฮะ เอ่อ แบคชงเหล้าให้นะฮะ เฮีย…เอ้ย! คุณชอบแบบไหนฮะ?” เกือบจะหลุดเรียกสรรพนามที่คุ้นชิน แต่เขาฉุกคิดได้ก่อนว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้เด็กเรียกเฮียหรือป๋าตามใจชอบถ้าแขกไม่อนุญาต ต้องใช้คำว่าคุณก่อน แล้วแขกอยากให้เรียกอะไรก็ค่อยว่ากันอีกที
“เอาแบบที่นายถนัดนั่นแหล่ะ ฉันกินได้หมด” บอกนิ่งๆ แล้วหันไปให้ความสนใจบรรยากาศในร้านแทน
น้องแบคพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วลงมือชงเหล้า ตอนนี้น้องแบคตัวงี๊เกร็งเชียวประมาทไม่น้อยเลยนะ ถ้าเทียบกับแขกคนอื่นๆ เฮียอู๋เป็นแขกคนแรกที่ไม่รุกหนักตั้งแต่คราแรกที่เจอ
รุกมาเลยทั้งมือทั้งหน้ามันจะยังดีกว่ามานั่งนิ่งๆแบบนี้นะน้องแบคทำตัวไม่ถูก…
“ทำไมถึงมาทำงานที่นี่ล่ะ” อยู่ๆเฮียอู๋ก็หันมายิงคำถามใส่ มือบางที่กำลังคีบน้ำแข็งใส่แก้วชะงักกึก ตากลมใสช้อนมองคนถามอย่างประหม่า
“คือว่า…เรามีกฎไม่ให้ตอบคำถามแบบนี้ฮะ” น้องแบคตอบเสียงแผ่วแสดงความลำบากใจที่จะตอบอย่างชัดเจน
เฮียอู๋พยักหน้าเข้าใจจริงๆแล้วก็ไม่รู้หรอกนะว่าที่นี่มันมีกฎอะไรบ้าง และต้องปฏิบัติตัวกับหมอนวดพวกนี้ยังไง ช่วงที่เขายังเรียนอยู่ก็เป็นวัยรุ่นที่เข้าแต่ผับแต่บาร์ ไอ้จำพวกอาบอบนวดนี่ก็ไม่เคยหรอกถ้าไม่เมาแล้วโดนเพื่อนลากเข้าอีกที
หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของทั้งคู่ เฮียอู๋เอาแต่นั่งดื่มเหล้ามองดูสิ่งรอบตัวไปเรื่อย ไม่ได้สนใจอีกคนเลยแม้แต่นิดซึ่งมันก็ทำให้น้องแบครู้สึกอึดอัดจนตัวเกร็งไปหมด
ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่รักของอี้เพื่อนแบคนะแบคจะไม่ทนนั่งนิ่งอ่ะจริงๆ!
“ปะ...ไปไหนหรอฮะ?” เงยหน้าถามคนตัวสูงที่จู่ๆก็ลุกขึ้นยืนหลังกระดกเหล้าจนหมดแก้ว
“กลับแล้วสิ นี่ดึกแล้วนะ”
“ละ…แล้วห้องที่เปิดไว้?” น้องแบคชี้นิ้วไปโซนที่เป็นทางขึ้นไปห้องบริการอาบอบนวดของร้าน
“อ่อ…ลืมเลย ฝากบอกเพื่อนเธอด้วยแล้วกัน ฉันต้องกลับแล้วนี่ค่าขนม” เฮียอู๋ตอบพร้อมวางแบงค์ห้าร้อยสองใบลงที่โต๊ะเตี้ยก่อนเดินจากไป
“อะไรของเขาวะ…” น้องแบคมองตามอย่างงงๆ นี่อุส่าห์ฟินแทนเพื่อนไปแล้วนะเนี่ย ความฝันของอี้เกือบจะเป็นจริงแล้วนะใกล้จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเฮียอู๋อยู่แล้วเชียว แต่ทำไมเฮียถึงใจร้ายมาดับความฝันของอี้แบบนี้ฮะ!!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“อ้าว..แบค?”
คนที่มาเคาะห้องไม่สนใจใบหน้างุนงงของเพื่อนแม้แต่น้อย น้องแบคแทรกตัวเข้าไปในห้องแล้วเดินไปนั่งแมะบนเตียงนุ่ม น้องอี้ปิดประตูห้องแล้วเดินตามไปนั่งข้างๆเพื่อนที่เตียง
“แบคมีอะไรหรอ?” น้องอี้ถามคนที่ยังคงนั่งทำหน้าตาฟินแปลกๆด้วยความสงสัย
“อี้แกรู้ป่ะ…แขกที่เรียกเราอ่ะเป็นใคร?”
“ไม่รู้สิใครหรอ?” ด้วยความสัจจริงน้องอี้ไม่รู้หรอกว่าใครคือแขกของเขากับแบค แต่ที่อยากรู้ตอนนี้คือทำไมแบคมาอยู่ที่นี่เวลานี้ควรจะอยู่กับแขกไม่ใช่หรอ
“บอกไปอี้ต้องไม่เชื่อแบคแน่เลยอ่ะ” น้องแบคยึกยักท่ามากไม่ยอมเอ่ยปากซักทีจนน้องอี้เริ่มรำคาญ จะพูดอะไรก็ไม่พูดซักทีโวะ!
“ถ้าคิดว่าอี้ไม่เชื่อแน่ๆ แบคก็ไม่ต้องบอกหรอกจบมะ?” น้องอี้พูดปัดบทสนทนาก่อนลุกขึ้นเดินไปยืนพิงผนังห้องกอดอกมองหน้าเพื่อนอย่างกดดันถ้าไม่พูดดีๆวันนี้คงได้ตบกันแทนทำงาน
“โหย อี้ทำหน้าไม่อยากรู้เลยนี่หว่า ช่วยมีอินเนอร์ร่วมแบบอยากรู้หน่อยดิ” น้องแบคกระแซะแหย่อย่างสนุก น้องอี้ก็ทำได้แค่กรอกตาไปมาเบื่อกับความลีลาท่ามากของเพื่อน
“เออ อยากรู้มากก็เลยแล้วใครอ่ะ?” ในเมื่ออยากได้ฟิลอารมณ์น้องอี้ก็เลยจัดให้เต็มที่ แบคจะได้เลิกลีลาสักที
“เฮียอู๋….”
“ตลกหรอแบค” เล่นของสูงเดี๋ยวโดนไม่ใช่น้อยนะ
“แบคพูดจริงๆ เห็นมะบอกแล้วว่าอี้ต้องไม่เชื่อ” น้องแบคคว่ำปากใส่เพื่อน ต้องเห็นกับตาใช่มั้ยถึงจะเชื่อเขาอ่ะ
“เฮียอู๋ติดลูกจะตาย เวลาแบบนี้เขาไม่ออกมาเที่ยวหรอกป่านนี้นอนกอดลูกหลับไปแล้วมั้งถ้าเป็นพี่ชานก็ว่าไปอย่าง” อี้แก้ต่างให้เฮียอย่างออกนอกหน้า
แต่เดี๋ยวนะ!
“จิ๊…นี่เราพูดถึงเรื่องเฮียอู๋อยู่ป่ะ พี่ชานเกี่ยวไร?” ว่าจะเอาข่าวดีมาบอกเพื่อนสักหน่อยแต่ดันมาพูดอะไรอะไรก็ไม่รู้ ไม่มาบอกข่าวดีกับอี้แล้วน้องแบคจะได้ฟินคนเดียวไงงอนนะบอกเลย
“แล้วนี่ตกลงแบคทิ้งแขกมาป่ะเนี่ย ยังไม่หมดเวลาไม่ใช่หรอ?” ถึงอี้จะไม่ได้ใส่นาฬิกาติดตัว แต่น้องอี้ก็พอจะรู้ว่าเวลามันไม่น่าจะผ่านไปเร็วขนาดนั้น
“ก็เฮียอู๋กลับไปแล้วอ่ะ…”
“แบค….” ยังไม่เลิกเล่นอีกเดี๋ยวอี้เล่นกลับบ้างจะหนาวนะ
“ตามใจแล้วกันเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ เค้ามาบอกแค่นี้แหล่ะลงไปข้างล่างแล้วนะ” น้องแบคอุส่าห์รีบมาบอกเพื่อน แต่พอเพื่อนไม่เชื่อก็คร้านจะเซ้าซี้ลงไปนั่งตู้รอแขกคนต่อไปดีกว่าเยอะ
คนที่ถูกลูกจ้างไหว้วานให้ไปสแกนเด็กให้กลับมาที่ร้านในเวลาเกือบๆห้าทุ่มจะว่าไปก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงที่อยู่นอกบ้านคนมีลูกแล้วอ่ะเนอะออกไปนานๆก็ย่อมคิดถึงลูกเป็นธรรมดา เสียงก๊อกแก๊กที่ประตูหน้าร้านทำเอาคนที่นอนก่ายขาบนโซฟาสายตามองทีวีหันขวับไปมองประตูอย่างตกใจนึกว่าขโมยขึ้นบ้าน
“เฮียอู๋?”
“อือ”
“ไมกลับเร็วจังครับ?” ชานเดินเข้าไปถามคนที่กำลังเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่มในครัว เฮียอู๋ปรายตามองอีกคนนิดๆ แบบอยากจะบอกมันจังว่าขอให้กูได้แดกน้ำล้างรสเหล้าในปากสักหน่อยเถอะแล้วค่อยถาม แต่เฮียก็ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ
“สแกนเด็กเอ็งเสร็จแล้วไง จะให้อยู่รอเล่นไพ่ต่อหรอ?” เฮียตอบไปหลังได้ดื่มน้ำไปอึกใหญ่
“ไวไปมั้ยถามจริง” ไอ้ชานล่ะเชื่อเลย อะไรจะไวปานนั้นเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงเฮียอู๋สามารถใช้มันสวิงกิ้งกับเพื่อนของน้องแบคได้อย่างรวดเร็ว
เฮียเมพไปมั้ง =_=
“เฮียไม่ได้ไปหาน้องเบอร์สิบอะไรนั่นหรอก พอคุยกับเด็กเอ็งเสร็จก็กลับมานี่ล่ะคิดถึงลูกว่ะ” เฮียอู๋ตอบแล้วเดินออกจากห้องครัว
“โหยเฮียแบบผมอยากให้เฮียไปเปิดหูเปิดตาดูเด็กเอ๊าะๆที่นั่นนะไม่ใช่แค่ไปสแกนน้องแบคให้ผมอย่างเดียว...เดี๋ยวๆเมื่อกี้เฮียบอกเฮียคุยกับน้องแบค?” บอกตามตรงไอ้ชานโคตรผิดหวังในตัวเจ้านายเลอ และที่หนักที่สุดเฮียอู๋แม่งผิดแผนละบอกให้ไปโจ๊ะกับน้องอี้ไงไปนั่งคุยกับน้องแบคของเขาได้
คนถูกย้อนถามทำมึนไม่สนใจคำบ่นพาลไล่หลังของลูกจ้าง กายสูงเดินตรงไปที่บันไดขึ้นไปบนห้องนอนของตนปล่อยให้ชานมันยืนมองตามตาละห้อย
เขาก็แค่อยากให้คนเป็นนายไปเปิดหู เปิดตา เปิดใจดูสิ่งสวยๆงามๆบ้าง ไม่แน่นะบางทีถ้าฟลุ๊คอาจจะได้แม่ใหม่มาให้น้องคริสก็ได้นะ
ทำไมเฮียทำร้ายชาน!!!
ชานถอนหายใจไล่หลังเจ้านายที่ป่านนี้คงเข้านอนไปแล้ว แบบนี้ชานก็ไม่มีความจำเป็นต้องนอนค้างที่นี่แล้วล่ะออกไปรับจ๊อบดูมีประโยชน์กว่าเยอะ
ชานจัดการเก็บหมอนและผ้าห่มที่ขนออกมานอนให้เข้าที่ ตรวจดูความเรียบร้อยเสร็จก็เดินออกจากร้านโดยไม่ลืมเลื่อนประตูเหล็กพร้อมใส่กุญแจให้ด้วย เดี๋ยวตอนเช้าเขาก็ต้องมาเปิดให้อยู่ดี แต่ถ้าตื่นไม่ทันเฮียอู๋ก็คงเดินอ้อมหลังบ้านมาเปิดเองแหละ
ซูเมอร์เอ็กซ์สีดำเหลืองแล่นเข้ามาจอดที่หน้าวินมอเตอร์ไซด์ของเจ๊ฮวง เยื้องๆกันหน่อยคือร้านข้าวต้มโต้รุ่งของเจ๊ซึ่งเปิดขายตอนกลางคืน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นเหล่าแขกที่มาเที่ยวอาบอวบนวดและผับบาร์ละแวกนี้ รวมไปถึงพวกหนุ่มสาวโรงงานที่เพิ่งออกกะมา ดึกกว่านี้หน่อยก็เป็นบรรดาหมอนวดหนุ่มน้อยสาวสวยที่เลิกงานแล้วไม่ได้ไปต่อกับแขกที่ไหนก็มาแวะทานข้าวก่อนกลับไปนอน
กระท่อมหลังคาดอกหญ้าของวินที่ตอนนี้มีสองหนุ่มรุ่นพี่นักบิดอย่างพี่แจ็คและพี่มาร์คนอนเปลก่ายหน้าผากรอลูกค้า ร้านข้าวต้มและวินมอไซด์นี่อยู่ไม่ห่างจากอาบอบนวดกับร้านเฮียอู๋เท่าไหร่ มันจึงเป็นอีกที่ที่ชานรับจ๊อบหารายได้พิเศษในช่วงกลางคืนและอีกประเด็นคือได้ไปส่งนอนแบคตอนเลิกงานด้วย
ฟินมั้ยล่ะให้ทาย
“ไงมึงไอ้ชาน นึกว่าจะไม่มาแล้วนะเนี่ย” พี่แจ็คพี่ใหญ่ของวินเอ่ยทักรุ่นน้องที่ถอยรถเข้าซอย
“ตอนแรกก็จะไม่มาแหล่ะพี่ แต่เปลี่ยนใจแล้วไง” ชานตอบหลังจากจอดรถเสร็จสรรพก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อน แล้วหยิบไอโฟนออกมาเล่นรอลูกค้า
นั่งไปสักพักก็มีเด็กหนุ่มหน้าใสทำผมสีน้ำตาลอ่อนเดินถือชามข้าวต้มเข้ามาวางบนโต๊ะ
“อ้าวพี่ชาน กินไรมายัง?” เด็กหนุ่มถามพลางนั่งลงข้างๆอีกคน
“ในร้านคนเยอะป่าววะ?” ชานส่ายหน้าก่อนถามกลับ ตอนเขามาถึงแล้วมองไปที่ร้านข้าวต้มเห็นแต่เจ๊ฮวงยืนบังวิวร้านซะเต็มที่ว่าจะเข้าไปกินข้าวสักหน่อยเริ่มเปลี่ยนใจละ
“ไม่รู้ดิพี่ ผมเองก็เพิ่งกลับมาไม่ได้เข้าไปดูในร้านเลย”
“เพิ่งกลับจากมออ่ะนะ” เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอเพื่อถามน้องชาย
“ครับ ซ้อมเชียร์ไงเลยเลิกดึก” ชานพยักหน้ารับรู้จากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาต่ออีก ต่างคนต่างจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำ
“อาฮุน มาเสิร์ฟของหน่อย” เสียงเจ๊ฮวงดังมาจากหน้าร้านข้าว คนถูกเรียกผุดลุกขึ้นยืนแล้วไปช่วยงานร้านอย่างไม่อิดออด
00.00 น.
สองสาว(?)ที่หมดเวลางานแล้วเดินควงแขนกันออกจากร้าน เป็นเพราะเขาต่างจากพวกผู้หญิงที่ทำงานประเภทเดียวกันจึงได้เวลาทำงานต่างกัน แถมแขกส่วนใหญ่ก็มาใช้บริการแต่กับหมอนวดผู้หญิงทั้งนั้นซึ่งมันเป็นผลดีกับพวกหมอนวดผู้ชายเลยแหละได้ทั้งเงินเดือนแถมสบายไม่ต้องเปลืองแรงมาก
ขณะที่กำลังเดินกันอยู่จู่ๆน้องแบคก็เดินหมุนข้อมือเล็กๆของตัวเองไปมา จนเพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆที่มองอยู่ถึงกับต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“เป็นอะไร?”
“เมื่อย” น้องแบคยู่ปากตอบเพื่อน พลางคิดไปถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่จะออกมา
หลังจากที่เขาแยกกับอี้แล้วลงมาทำงานต่อ นั่งอยู่ที่ประจำในตู้ได้ไม่ถึงห้านาทีพี่เฉินก็กดโฟนเรียกเขาออกไปอีกเพราะมีลูกค้าอีกรายมาเรียกตัว
นั่งพูดคุยกินดื่มกันได้แป๊บเดียวน้องแบคก็พาแขกขึ้นห้องที่พี่เฉินเปิดไว้ให้ ไอ้ตอนที่คุยกันอยู่ข้างล่างน่ะมันก็ดีอยู่หรอกนะ แลดูไม่มีพิษภัยดี แต่พอปิดประตูห้องเท่านั้นแหล่ะสันดานเสือหิวโหยเริ่มออกเลย
น้องแบคโดนแขกที่ดูมีฐานะจู่โจมตั้งแต่หน้าประตูเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ร้องบอกว่าเขาทำอะไรให้มากกว่ามือช่วยไม่ได้ แต่ไอ้แขกคนนี้ก็เหมือนจะไม่ฟังจัดการเหวี่ยงแบคนอนลงเตียงกว้างแล้วเตรียมจะขึ้นคร่อม ดีที่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกจึงพอเอาตัวรอดได้ด้วยการ…
ร้องเสียงดังให้เด็กเชียร์แขกหรือไม่ก็พนักงานชายที่เดินอยู่แถวนี้ได้ยิน พอเสียงเด็กโวยวายดังลั่น พวกพนักงานก็จะรู้ทันทีว่าเกิดเรื่อง สรุปไอ้แขกคนนี้ก็โดนเชิญออกไปแต่ถ้าคุณไม่กลับแล้วจะอยู่ต่อก็เรียกเด็กที่ขายมาบำเรอก็แล้วกัน
ส่วนประเด็นที่ทำให้น้องมาบ่นปวดมืออยู่เนี่ยคือหลังเกิดเรื่องก็ฮึดรับแขกต่อตามปกติคราวนี้ถึงกับต้องสแกนกันดีๆหน่อยเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แล้วมันก็โอเคแขกคนนี้ไม่หื่นเท่าไหร่แต่น้องแบคก็ใช้มือน้อยๆช่วยเสร็จไปสองคนๆละหลายรอบเหมือนกันอยู่นะ
“กลับเลยมั้ยหรือกินข้าวก่อน?” น้องแบคหันมาถามเพื่อน น้องอี้ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเอาแต่มองไปฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านเฮียอู๋ประตูเหล็กปิดสนิททุกด้านมีเพียงไฟนีออนหลอดเล็กหน้าร้านที่เปิดทิ้งไว้ เพียงแค่มองประตูร้านก็ทำให้รอยยิ้มหวานผุดขึ้นน้อยๆ
“แค่มองหน้าเขาร้านก็ยิ้มออกได้ขนาดนี้เป็นเอามากนะคุณเพื่อน” น้องแบคพึมพำกับตัวเอง พร้อมจัดการดับมโนเพื่อนด้วยการกระทุ้งแขนไปที่สีข้างน้องอี้เบาๆหนึ่งที
“แบคนี่!”
“อะระ! เมื่อกี้แบคถามว่าหิวมั้ยไปกินไรก่อนกลับป่าวแต่อี้ไม่ตอบอ่ะ” เท้าเอวถามซ้ำด้วยท่าทีเหมือนจะเอาเรื่อง น้องอี้ที่ขี้เกียจต่อบทเลยส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้วพากันเดินไปที่วินมอไซด์เพื่อโดยสารกลับห้องพัก
แต่แล้วสายตาดุจเหยี่ยว(?)ก็มองเห็นอะไรดีๆที่อยู่ในวินเสียก่อน รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นที่มุมปากอิ่ม ตากลมโตมองไปที่เพื่อนที่เดินอยู่ข้างๆ น้องแบคก็แค่เดินหน้านิ่งๆธรรมดาไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษจนมาถึงกระท่อมที่หนุ่มๆวินนั่งพักอยู่
“สองค….”
“ยังก่อนฮะ!” น้องอี้โพล่งขึ้นในตอนที่น้องแบคกำลังจะเรียกวิน
“?”
“อี้หิวอ่ะ”
“เอ้า! เอาไงแน่ เมื่อกี๊บอกไม่กิน” น้องแบคเท้าเอวเตรียมเอาเรื่องอีกรอบโทษฐานที่เพื่อนมันเรื่องมาก คนหน้าหวานก็ทำแค่ยิ้มแหยแล้วรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่างในร้านข้าวต้มทันทีจนน้องแบคต้องเดินตามเข้าไปนั่งด้วยอย่างเสียไม่ได้
“อยากกินข้าวต้มหรอ?”
“อยากกินข้าวขาหมูมั้งแบค นั่งขนาดนี้แล้ว” น้องอี้ตอบเพื่อนไปมึนๆ ฝ่ามือขาวของคนถูกกวนยกขึ้นมาหวังจะประทุษร้ายแต่ติดที่มีคนเดินมารับออเดอร์เสียก่อน
“รับอะไรดีครับ?” น้องแบคผลักหัวเพื่อนไปเบาๆหนึ่งทีแล้วหันไปสนใจคนที่มารับออเดอร์
พี่ชาน…
พอเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างน้องแบคก็แทบอยากจะลากเพื่อนที่นั่งหัวเราะคิกคักอยู่ตรงข้ามมาตบๆๆๆสักหลายๆที ให้หายแค้นนี่คงเป็นแผนของอี้สินะ
“อี้สั่งก่อนดิ” น้องแบคโบ้ยให้เพื่อนที่นั่งกลั้นขำอยู่ ไม่ได้สนใจสายตาพี่ชานที่มองตนเลย
พี่ชานเห็นน้องแบคกับน้องอี้ตั้งแต่สองคนเดินออกมาจากร้านแล้ว เตรียมที่จะจับมอ’ไซด์ของเขาเพื่อไปส่งทั้งๆที่ไม่ใช่คิวของตัวเองแล้วด้วย แถมทั้งวินก็รู้ว่าชานมันจีบแบคอยู่ก็เลยไม่ได้ห้ามอะไรให้รับคิวไปไว้เปลี่ยนรอบกันทีหลัง
พอขึ้นคร่อมรถเตรียมออกตัวไปรอรับ แต่น้องอี้ก็มองมาที่ตนแล้วยิ้มก่อนเดินนำเพื่อนเข้าไปในร้านข้าวต้มแทน ชานก็เลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฮุนที่กำลังจะไปรับออเดอร์สองสาว(?)แทน
“เอาข้าวต้มกุ๊ยฮะ เครื่องเคียงเอาแค่ยำไข่เค็มกับไข่ไชโป้ว” น้องอี้สั่งโดยไม่ต้องดูเมนูเพราะเขามากินที่นี่บ่อยสั่งกี่ทีก็แบบเดิม
“น้องแบคล่ะครับ?” ชานถามอายๆ มือก็ถือปากกาเตรียมจด
“ข้าวต้มหมูสับทรงเครื่อง” ตอบเสียงนิ่งๆตามแบบฉบับตัวเอง “แล้วก็เอสโคล่าสองกระป๋อง”
“กินน้ำอัดลมตอนกลางคืนไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ เปลี่ยนเป็นน้ำอุทัยทิพย์หอมๆดีกว่าไหม?” แนะนำด้วยความเป็นห่วง พี่ชานไม่อยากให้น้องแบคเสียสุขภาพไปกับน้ำอัดลมแบบนั้น
น้องแบคกรอกตาไปมาอย่างหน่ายๆ ไม่ใช่ว่าเบื่อที่พี่เขามาตามจีบหรอกแต่แบบพี่เขาทำเหมือนเป็นแฟนกันแล้วเลยอ่า น้องแบคไม่ชอบแบบนี้นะ
“เอาที่พี่สบายใจละกัน” หันไปตอบยิ้มๆ แต่ก็เป็นยิ้มที่ฝืนหน่อยๆ พี่ชานพยักหน้ารับแล้วเดินไปหน้าร้านเพื่อส่งออเดอร์ลูกค้าให้เจ๊ฮวง
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย!” น้องแบคลูบมือข้างที่โดนเพื่อนตี
“ไปทำหน้าแบบนั้นได้ไง ถ้าพี่เขาเห็นนี่มีเสียใจนะนั่น” น้องอี้บ่นเข้าให้ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นที่แบคแอบเบะปากไล่หลังพี่ชานเมื่อกี้นะ
“ก็ดูพี่เขาทำสิ มาตัดสินใจแทนแบบนั้นได้ไงแบคไม่ชอบ” คนทำผิดเถียงสู้
“ก็เขาเป็นห่วงน่ะรู้จักไหม เป็น-ห่วง” น้องอี้ย้ำเน้นๆ เหนื่อยใจที่เพื่อนรักทำทีไม่สนใจคนมาจีบแบบนั้น พี่ชานก็ใช่ว่าจะไม่ดีออกจะขยันทำมาหากินด้วยซ้ำ ทำไมแบคไม่ชอบก็ไม่รู้
หรือแบคชอบเถื่อนฮาร์ดคอแบบพี่หานฮะ?!
-----------------------------------
#ฟิคหมอนวด
มาต่อกันอีกบทสลับเรื่องคุณนายอู๋
ฟิคเรื่องนี้ไม่มาม่านะที่รักแค่มีหน่วงแต่ไม่มาก
เห็นรีดเดอร์กลัวดราม่ากันไรต์2คนแอบเพลียนิด5555
ถึงสโลแกนเค้าจะเป็น "ไม่ดราม่าไม่ใช่ไรต์ชิงชิง" แต่นั่นสำหรับฟิคพีเรียดนะคะ' '
ส่วนพี่สาวเราที่แต่งร่วมกันนั่นถนัดดราม่าจริงแต่เกรียนก็เทพนะที่รัก
ขอบคุณทุกคอมเม้นและกำลังใจเน้อ
ความคิดเห็น