คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9:สงครามง้องอน
สงครามง้องอน
“บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าออกมา” วาจาดุดันแผ่รังสีสังหารหมู่อสูรให้ตายสิ้นยกเว้นบริวารเจ้าจอมมารที่หลบหนีทันก่อนโดนเชือดเพราะมนตรา
ร่างบอบบางล้มทั้งยืนอย่างเหนื่อยล้าไร้การโต้เถียง ลมหายใจหอบถี่ก่อนใกล้หมดสติก็มีร่างของคนที่เพิ่งเอ็ดรีบเข้ามาประคองเธอไว้อย่างห่วงใย
“บทเรียนของคนดื้อ” รำพึงอยู่รำพังลำแขนแกร่งช้อนร่างเบาหวิวขึ้นเกี่ยวกอดเพื่อพาเธอกลับเข้าหอไปนอนพักที่ห้อง
“เจ้าชายไม่น่าช่วยเธอเลย” คำพูดไร้ความเห็นใจจากชายร่างเล็กเรียกสายตายะเยือกเย็นให้หันมองแต่ไม่มีการกระทบกระทั่งตอบจากผู้เป็นเจ้าชาย
“ถือว่าตนเป็นเทพแล้วกร่างหาเรื่องบูชาตน”
“พอได้แล้วคยองซู นายกลับไปหอของนายได้แล้ว” ป่วยการจะโต้เถียงคุณหนูของท่านเสนาแห่งแอสซาเรส ไล่กลับหอคงเป็นอะไรที่ดีสำหรับตอนนี้
“เหอะ พะย่ะค่ะ” ค่อนคอดก่อนทูลลาแม้ไม่ยินยอมจะทำมัน
ไหนๆตำแหน่งว่าที่ชายาคู่บารมีต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว ถึงเจ้าชายจะทรงสนใจในนางอื่นก็เป็นไปได้เพียงนางสนมไม่มีสิทธิ์ปีนป่ายเทียบเท่าเขา
แม้เธอผู้นั้นจะเป็นเทพก็หมดสิทธิ์...
“ไปเจอตัวที่ไหนล่ะ” คำถามจากเพื่อนนัยน์ตากวางที่มานั่งรอเขาในห้องพร้อมสหายที่เหลือของว่าที่เทพในอ้อมกอด
“ชายป่าแทบใต้” ตอบตามคำถามก่อนวางร่างเนียนลงนอนอย่างเบามือ
“ก็เตือนแล้วว่าปิศาจพวกนั้นกระหายกลิ่นเทพยังบ้าจี้ตามพวกมันไป” เจ้าชายแห่งภูตน้ำบ่นระงมพลางตรวจอาการของเพื่อนร่วมสายชั้น“ ยังดีที่เสียพลังไม่มากทานยาฟื้นฟูสักหน่อยน่าจะดีขึ้น เดี๋ยวผมไปปรุงยามาให้นะครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวละกัน” เจ้าชายจากแดนหนาวปิดปากหาวก่อนเดินออกจากห้องพร้อมๆกับเฉินและลู่หาน
พอเหลือเพียงสองคนรูมเมทรุ่นพี่หันมองเสี้ยวหน้าซีดเซียวที่หลับใหล พลางถอนหายใจกับความดื้อซนของว่าที่เทพสาวที่พูดไม่เคยฟังถ้าเขาไม่เจอลู่หานหน้าหอพักคงไม่รู้ว่าเธอคนดีวิ่งไปติดกับปิศาจน่ารังเกียจพวกนั้น
เวลาเช้ากับร่างกายที่คืนตัวเป็นชายหนุ่ม เปลือกตาบางกระพริบปรือปรับแสงจ้าที่แสบตาก่อนรู้สึกถึงความวิงเวียนยากอาเจียนเสียเหลือเกิน
“อยากอ้วกก็ปล่อยมา” เสียงทุ้มลึกเอ่ยบอกพร้อมยื่นโถเงินวาววับให้ร่างโปร่งที่ทำหน้าพะอืดพะอมเพราะฤทธิ์ยาจากเจ้าชายภูตน้ำ
มือขาวรีบคว้าโถใบเงินแล้วโก่งคออาเจียนออกจนหมดโดยมีมือหนาคอยช่วยลูบหลังอยู่ใกล้ๆ พออาหารออกมาหมดก็ปิดตาล้มนอนอย่างเหนื่อยล้า
“เมื่อคืน...”
“นอนรอสักพักเดี๋ยวแม่ครัวจะนำอาหารมาส่งนายจะได้ทานยา” คริสไม่รอฟังวาจาจากรูมเมทร่วมห้อง ร่างสูงเดินวนเวียนจัดแจงของเตรียมไปเรียนในช่วงเช้า
จะผิดไหมที่เขาคิดเคืองเจ้ารุ่นน้องจอมขัดนี่...
เลย์มองรุ่นพี่ร่างสูงอย่างุนงงกับพฤติกรรมแปลกๆ ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงเค้นถามแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรไปแต่เวลานี้แรงจะขยับยังไม่มีเลย
ร่างสูงออกไปเรียนได้สักพักแม่ครัวที่เอ่ยถึงก็นำอาหารเข้ามาให้ พร้อมช่วยป้อนข้าวป้อนยานักเรียนหนุ่มที่นอนป่วยในห้องเพียงลำพัง
“มาป่วยในวันแบบนี้แย่หน่อยนะคะคุณหนู เพื่อนๆก็ไปเรียนกันเสียหมด” หญิงร่างอวบชวนพูดคุยระหว่างประคองร่างโปร่งหลังไปผลัดเปลี่ยนชุดใหม่
“นั่นสิครับ ผมขอบคุณคุณป้านะครับที่มาดูแลผม” กลีบปากซีดแย้มยิ้มขอบคุณหญิงกลางคน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเต็มใจรับใช้ท่านเทพ” เธอตอบรับอย่างไมตรี
“คุณป้ากลับไปทำงานต่อเถอะครับ ขอบคุณอีกครั้ง”
“เวลานี้ดิฉันไม่มีงานอื่นใดแล้วค่ะ เจ้าชายอี้ฟานให้ดิฉันอยู่ดูแลคุณ” ร่างอวบบอกเล่าแล้วเดินไปนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้าม
หน้าตาบึ้งตึงเหมือนง้องอนแต่ใจจริงกลับห่วงใย...
“เฮ้อ..”
...เหลือบ...
“ฮื่อ...”
มอง...
“โธ่เว้ย!”
หันมาคุยกับแม่งดีกว่า...
“เป็นไรหัวหน้า?” เพื่อนข้างโต๊ะทนเสียงถอนหายใจของร่างสูงไม่ไหวจนต้องเอ่ยถาม
“เปล่า”
“เปล่าห่าไร นายถอนหายใจตั้งแต่คาบแรกยันคาบสามแล้วไอ่คริส” ลูกชายเสนาคลังชักจะเริ่มหงุดหงิดกับเจ้าชายจอมวางมาด
“เออน่า เอาเลคเชอร์อาจารย์นักรบนั่นมาลอกทีซองกยู” คริสไม่สนใจตอบโต้เพื่อนในสายชั้น เลือกที่จะแย่งสมุดมาจดงานที่ค้างไว้
“ห่วงเขาก็ไปดูแลเขาสิองค์ชาย” ลูกเสนาพูดปราบเปรยให้เจ้าชายรู้ตัวสักทีว่าจิตใจตัวเองอยู่ในขั้นวิกฤตขนาดไหน
“ห่วงห่าอะไร?...เงียบปากไปเลยไอ่กยู” คนปากแข็งยังไงก็ยังปากแข็งอยู่วันยังค่ำ
“เหอะ!! ไหนบอกกษัตริย์ห้ามโป้ปดปากอย่างใจอย่างระวังจะเสียของ” พูดไปแค่นั้นแล้วหันกลับไปสนใจกองงานของตัวเองต่อ
คริสหยุดการจดงานหันมองเพื่อนข้างๆพลางคิดไปถึงใครอีกคนที่อยู่ในห้อง อยากออกไปตามคำของซองกยูแต่อีกใจกลับอยากทำทีไม่สนใจดัดนิสัยดื้อรั้นของร่างโปร่งให้เชื่องลง
“เฮ้! รีบลอกสิเจ้าชายเหม่อหาเมียอยู่ได้” ซองกยูเร่งเพื่อนที่เอาแต่เหม่อไม่สนใจงาน
“เมียห่าไรของมึงอีก” มือหนาตบหัวเพื่อนไปหนึ่งทีจนหัวเล็กๆโขกลงกับโต๊ะเต็มแรง
“ไอ่เจ้าชาย กูเจ็บนะมึง” ซองกยูหันไปโวยพลางลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ
“ไม่ต่อยปากก็บุญแล้วคุณซองกยู”
“ทำไม ก็พูดจริงนี่หว่าใครๆเขาก็รู้ว่านายกับเทพนั่นมีซัมติงกัน แล้วไอ่ท่าทางใจห่วงปากแข็งนี่มันท่างอนเมียชัดๆ” คนถูกทำโทษยังไม่เลิกต่อปากต่อคำ
“ไอ่ตาปิด มึงเคยนั่งอยู่ดีๆแล้วตกเก้าอี้มั้ยเพื่อน?” เจ้าชายหนุ่มยกเท้าวางบนขอบเก้าอี้เตรียมถีบคนปากมาก
“ไอ่โหด กูเพื่อนมึงนะ” คนตัวเล็กกว่ารีบลุกจากเก้าอี้ก่อนจะโดนเจ้าชายจอมโหดถีบตกจริงๆ
“เพราะเพื่อนไงถึงกล้าทำ” ยักคิ้วใส่แล้วหันกลับมาจดงานต่อ
ฝากไว้ก่อนเถอะไอ่คริสเรื่ององค์เทพถึงหูองค์จักรพรรดิแน่...
ตาเล็กๆมองคาดโทษเพื่อนสนิทแต่วัยเด็ก ก่อนเดินเอางานไปส่งบนโต๊ะรับงานของอาจารย์ประจำวิชาแล้วดินออกไปจากห้องเรียน
ช่วงบ่ายแก่ๆเฉิน ซูโฮ และสองรุ่นพี่เข้ามาเยี่ยมเลย์ในห้องพร้อมให้เลคเชอร์ของวันนี้ ทั้งสี่คนกระจายตัวทั่วห้องโดยมีเลย์นั่งนิ่งอยู่ที่เตียงมองเพื่อนๆสำรวจห้องยังกับเดินดูพิพิธภัณฑ์
“ทำไมจะหาตัวปิศาจแต่ละตนนี่มันยากจัง ไอ้ที่ว่าใช่เอาเข้าจริงกับไม่แน่” ลู่หานบ่นก่อนหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้มุมห้อง
“อย่างน้อยก็ตัดไปสองคนเซฮุน แบคฮยอนที่หลุดออกจากข่ายต้องสงสัย” ซิ่วหมินปลุกกำลังใจ
“แต่ไอ่คนที่เหลือๆอยู่นี่บิ๊กพลังเวทย์เลยนะครับ ยิ่งรุ่นพี่คริสนี่ไม่ต้องพูดถึงช่างเป็นเจ้าชายที่เก็บอารมณ์เก่งเกิน” เลย์ขัดใจนึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรคนตัวสูงนั่นได้เลย
“สรุปเมื่อคืนก็ไม่ได้เรื่องอะไรแถมตัวล่อยังมาเจ็บตัวอีก คืนนี้เอาไงต่อ?” ซูโฮหันมองเหล่าสมาชิกที่นั่งทำหน้าจนปัญญา ก่อนรวมใจกันหันไปมองเจ้าชายนักปราชญ์ที่พึ่งสุดท้าย
“ยังไงคืนนี้ก็ต้องเลย์เหมือนเดิม นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าเจ้าชายคริสมีปฏิกิริยาต่อแรงกระตุ้น” เฉินยืนยันใช้แผนซ้ำ
“ไอ่จะว่าใช่มันก็ใช่ แต่สองคนที่อยู่ปีหนึ่งมันก็น่าสงสัยไม่ต่างกันทำไมไม่ไปเล็งสองคนนั้นรอให้ฉันหายป่วยก่อนล่ะ แล้วค่อยวกกลับมาที่รุ่นพี่” เลย์แย้งขอความเห็นใจ
“นายป่วยๆนี่แหละดี ใช้มารยาในร่างหญิงจัดการพี่เขาซะเผื่อพลุ๊คองค์เทพจะได้เขยเป็นเจ้าชายติดไม้ติดมือกลับไป” เฉินยักคิ้วยิ้มกริ่มจนคนข้างๆต้องหยิกแขนอย่างหมันไส้
คราวก่อนก็รุ่นพี่ทีนี้มาเป็นเพื่อน ใจคอเจ้าชายจงแดจะไม่ให้ใครครองคานเลยรึไง?
“เหอะ...โอเคๆ ภารกิจฉันจะได้จบๆ”
ขอแค่เสียจูบแต่ไม่เสียตัว ได้โปรด...
“พี่คริส...” เสียงหวานๆของสาวน้อยเรียกชายร่างสูงที่นั่งทำงานอยู่อีกมุม
“มีอะไร” อีกคนถามแต่ไม่สนใจจะมองมาที่เธอความเคืองงอนยังไม่หายแม้ค่ำมืด
“ผะ...เอ่อ ฉันอยากอาบน้ำ” เอ่ยเสียงแผ่วก้มมองชุดตัวโคร่งไร้บราเซียแล้วเกิดอาการเขินอย่างประหลาดที่ต้องมานั่งตัวโล่งในห้องกับเขาในตอนนี้ แต่ก็ต้องกัดฟันเริ่มแผนยั่วหมาป่าในอีกวัน
ยั่วกันในสภาพนี้แหละไม่มีอารมณ์ก็ตายด้านเกินคนแล้ว...
“ลุกขึ้นมาสิ” มือหนายื่นไปตรงหน้าแต่หน้าเจ้าตัวกลับหันไปทางอื่น ก็พอจะเข้าใจทำไมต้องหันหนีไม่ใช่แค่งอนสาวแต่....
เสื้อที่แม่คุณใส่จะคอกว้างไปไหนกัน!
มือบางจับเข้าที่ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นยืนแม้อาการจะดีขึ้นแต่ใช่ว่าพลังธาตุจะฟื้นกลับมาได้ในเร็ววัน แค่โดนอีกฝ่ายดึงนิดเดียวก็แทบล้มตัวลงดีเหลือเกินที่เขากอดประคองเธอไว้ทัน
“มันสาปเธอเป็นฟองสบู่รึไงถึงได้ตัวเบานัก” ตาคมจ้องร่างเบาหวิวในอ้อมกอด
“ไม่รู้ รู้แต่แรงจะเดินแทบไม่มี” สาวเจ้าทำหน้าหงอใส่คนที่ช่วยรับ
จะทันได้คิดกันมั้ยว่าเขางอนเธออยู่...คิดรึเปล่าว่าเลย์ในตอนนี้เป็นสาว...จะคิดกันรึยังว่าเลย์ใส่เสื้อเพียงตัวเดียวเพราะกางเกงที่เคยใส่มันหลวมจนต้องถอด...และคริสจะรู้สึกรึยังว่าอกอิ่มไร้ชั้นในของสาวน้อยทาบทับอกแกร่งตนมากแค่ไหน
แน่นอนว่าคริสลืมความงอนและกำลังอดทนไม่ตะครุบกระต่ายสาว...!!!
“แค่ปิดม่านแล้วเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าดีมั้ย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างข่มใจกับร่างเย้ายวนตรงหน้า
“ไม่เอา...” แม่ตัวดีก็ดื้อเพ่งเสียเหลือเกิน
“เลย์...” ช่วยเห็นใจกันทีเถอะคนสวย
“ก็ฉันอยากอาบน้ำนี่คะ รุ่นพี่ช่วยอุ้มฉันไปส่งในห้องน้ำหน่อยสิ” แขนขาวผ่องยกโอบกอดลำคอแกร่ง
“อะไรนะ?” แค่กอดเธอก็คลั่งแทบใจวายนี่จะให้สัมผัสขาเนียนขาวไปส่งในห้องน้ำอีกหรือ ไม่พาส่งเตียงแล้วจับกินก็ดีเท่าไหร่แล้ว
“อุ้ม...” ทำตาใสออดอ้อนราชสีห์ให้ติดกับ
….
อยากจะทนไม่แตะตัวอยู่หรอกนะ แต่แม่คุณให้ท่าขนาดนี้ทนเมินได้ก็ยอดคน!!!
--------------------------
อยากเห็นพ่อหมาป่าแอ้มกระต่าย
โปรดเม้นกันอีกรอบ มิเช่นนั้นข้าน้อยดอง
โอเคป่ะ!!!
ความคิดเห็น