คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8:ซาตานที่แท้จริง
ซาตานที่แท้จริง
ต้องเป็นเขา...สัญชาตญาณของผู้ถูกล่ารับรู้ถึงกลิ่นสาปคาวของซาตานในตัวร่างสูง ยิ่งเห็นใบหน้าหล่อคมดุจงานศิลป์ประปรายไปด้วยเหงื่อเม็ดใสดั่งข่มมนตราในกายให้สงบ เลย์ยิ่งฟันธงว่าเจ้าชายตรงหน้าคือบุรุษผู้ถูกสาป
ที่เหลือแค่ให้คริสเผยตัวตนในร่างอสูร...
คนด้านล่างใช้โอกาสที่ร่างแกร่งเผลอพลิกตัวเป็นฝ่ายคร่อมทับร่างนั้นให้อยู่ในอาณัติ มือบอบบางกดบ่ากว้างให้อยู่นิ่งมากที่สุดพลางจดจ้องดวงตานิลกาฬที่เริ่มเปลี่ยนสี
“ท่านคือมนุษย์หมาป่า?” เลย์รำพึงเพียงแผ่ว น้ำหนักตัวที่มีพยายามกดทับร่างที่ดิ้นขืนให้หลุดจากกายโปร่งแสนยั่วเย้า
จะปลุกอสูรต้องใช้เสน่ห์และล่อลวง...
เปลือกตาบางปิดลงตั้งสติก่อนเปิดเผยดวงเนตรงามทอประกายร่ายมนตราให้หลงใหล มือนิ่มเลื่อนไล้ประคองแก้มสากใบหน้าสวยสมสตรีก้มจรดกลีบพิ้งค์โรสประทับจูบบนเนื้ออุ่นสีแดงชื้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จากหยุดยั้งเป็นคล้อยตามมือหนาที่เคยเพียรดันร่างบางให้ออกห่างกลับสวมกอดให้กายหอมนั้นแนบชิด มนต์เสน่ห์ขององค์เทพที่ใครก็มิอาจต้านทานแม้ใจจะคัดค้าน
ว่าที่เทพเริ่มคิดค้นทฤษฏีบทสวาททั้งหลายตามที่ได้รับรู้จากรอบข้าง นอกจากจูบเขาก็ไม่รู้หรอกว่าต้องทำอะไรกันอย่างไรสงสัยคงต้องคล้อยตามคนใต้ร่างที่ดูเจนจัดกว่าเขามาก
“จะรุกล้ำแต่ไม่รู้วิชาหรอคนสวย” แกล้งแหย่ถามหลังผละรสหวานให้หลุดลอย
“ใครจะไปเก่งกาจเหมือนรุ่นพี่กัน” รู้สึกเสียหน้ายังไงก็ไม่รู้แต่ก็ยังใจกล้าพอที่จะต่อกรกับเจ้าชาย
“หึ ไว้วันหลังฉันจะสอนให้แล้วกัน” คริสยิ้มกริ่มหวังจะพลิกร่างงามให้ล้มนอนแล้วผละจากเมื่อร่างกายใกล้จะยากเกินควบคุม แต่สาวเจ้ากับเหนี่ยวรั้นไม่ยอมให้เขาได้ตีจากไปไหน
แม้เป็นหญิงแต่แรงกายยังมีมากอยู่เช่นเดิม แล้วเขาจะทำยังไงกับเทพคนสวยด้านบนดีจะลงแรงก็กลัวอีกฝ่ายจะเจ็บตัว พอไม้อ่อนก็ดื้อซะน่าตีให้ตายเถอะ
“ฉันอยากเรียนวันนี้นี่คะ” เทพงามสวนกลับ
ทำไมต้องวันนี้...
“ไม่ได้...ฉันไม่ว่าง” เสียงทุ้มปัดความต้องการของหญิงสาวแม้ใจจริงก็อยากจะทำตามคำขอของแม่เจ้าประคุณ
“ทำไมล่ะ?” เจ้าตัวยังคิดรั้ง
ถ้าเป็นเจ้าชายคนนี้จริงอีกเพียงไม่กี่นาที ยั่วยุถ่วงเวลาอีกไม่กี่อึดใจคริสต้องเผยอะไรออกมาให้เห็นแน่ แม้จะอายกับคำพูดขัดเขินกับการกระทำแต่ถ้าทำแล้วทำให้เลย์ได้พิสูจน์จนรู้แจ้งก็ต้องทนมันต่อไป
“เลย์ อย่าดื้อจะได้มั้ย” เสียงเริ่มกดต่ำดั่งข่มจิต
“ไม่ได้ดื้อ” นี่ก็ยังคงตอบโต้ได้มั่นคง
“ฉันเหนื่อยจะพูดกับเธอแล้วนะเลย์” ร่างสูงจับอีกฝ่ายผลิกกายนอนอย่างไม่เก็บแรงเฉกเช่นเก่าแล้วเปลี่ยนเป็นฝ่ายคุมเกมนี้เสียเอง
“นายท่าน” เสียงสะท้อนจากหน้าต่างเรียกคนทั้งสองให้หันมองร่างมังกรตัวมหึมา
“เอช...” เจ้าของมังกรเอ่ยชื่อสัตว์สหาย
“ข้างล่างเกิดเรื่องขอรับนายท่าน” เอชรายงานสถานการณ์เร่งด่วนกับนายตน
“อยู่บนนี้อย่าคิดลงไป” คริสหันมาสั่งกับร่างใต้อาณัติก่อนเดินออกไปจากห้อง
เกิดเรื่อง...เกิดเรื่องอะไรกันล่ะ?
ขาเรียวเตรียมก้าวไปที่ประตูแต่กลับไปไม่ถึงประตูนั่น เพราะข่ายเวทย์ของเจ้าชายหนุ่มที่กักขังเขาไว้ไม่ให้ลงไปดูเหตุการณ์ด้านล่างแม้ร่ายมนต์ทำลายเวทย์นั่นก็ไม่มีทีท่าจะพังครืน
“นายท่านสั่งห้ามนายหญิงก็ไม่ควรจะขัดคำนะขอรับ” มังกรตัวเดิมเอ่ยสมทับคำสั่งของเจ้านายที่มีให้กับร่างงาม
“อะไร ใครนายหญิงของเจ้า” เสียงหวานหันไปวีนใส่เจ้ามังกรตัวโตด้วยสำเนียงแปลกแปล่ง
“ยังดื้อรั้นไม่เคยเปลี่ยน” มังกรตัวดีส่ายหัวอย่างระอากับท่าทีดื้อเพ่งของหญิงผู้เป็นใจรักของเจ้านายสูงศักดิ์ ก่อนโฉบบินขึ้นสู่ท้องนภาจนลับตา
“ใกล้จะจับตัวมนุษย์หมาป่าได้อยู่แล้วเชียว อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีกนะมังกือบ้าจะจับเสียบไม้ย่างแทนไก่เลยคอยดู” เลย์คาดโทษมังกรตัวนั้นพลางคิดหาวิธีออกไปจากห้องนี้ให้ได้
ร่างโปร่งเดินไปยังหน้าต่างที่มังกรเคยบินเทียบก็พบว่าที่ตรงนี้ไม่มีข่ายเวทย์ กลีบปากอิ่มแย้มยิ้มจนแก้มบุ๋มลึกวาทมือเรียกกิ่งก้านต้นพืชสูงให้เข้าหาก่อนเกี่ยวจับกิ่งไม้นั้นเพื่อลงสู่พื้นดิน
เสียงต่อสู้และโต้เถียงดังจากอีกฝากฝั่งเขตป่าลับห้ามเข้าใกล้ เท้าเรียวก้าวเดินไปยังจุดน่าสงสัยอย่างระวังไม่ให้คนฝั่งโน้นได้ล่วงรู้
“ไค ชานยอลฉันบอกให้นิ่ง!” คำตวาดแผ่อำนาจของเจ้าชายแห่งแอสซาเรสสั่งสองชายรุ่นน้องให้หยุดนิ่ง
“ทุกคนที่นี่มีอาการไม่ต่างกันหรอกนะ นายกับองค์ชายชานยอลสงบอารมณ์กันก่อนเถอะอย่ามามาตีกันเองแบบนี้” จื่อเทาที่เกี่ยวรั้งร่างองครักษ์พาเลนเซียเอ่ยเตือนเพื่อน
“ปกติพี่ไม่ใช่คนเลือดร้อนขนาดนี้เลยนะ วันนี้พี่เป็นอะไรไปเนี่ย” เซฮุนถามพี่ร่างสูงที่เขาช่วยแบคฮยอนคุมตัวไว้ไม่ให้เข้าไปปะทะกับไคอีกรอบ
“ไม่รู้ ฉันรู้แค่ไม่ชอบที่มันพูดกับแบคฮยอน” ชานยอลตอบรุ่นน้องสูงศักดิ์แต่ตายังจดจ้องที่รุ่นน้องผิวแทนอย่างเตรียมจะกระโจนเข้าไปต่อยได้อีกรอบ
“แล้วมันไม่จริงรึไง ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าชายแบคฮยอนพวกเราคงไม่ต้องมานั่งทรมานกันแบบนี้ผมพูดผิดตรงไหนฮะ!!” เจ้าคนอารมณ์ร้อนเป็นทุนเดิมพอใกล้คืนจันทร์ขึ้นยิ่งร้ายกาจยิ่งกว่าเก่า
“ไอ่ไค!!!” เจ้าชายหนุ่มเตรียมกระโจนเข้าหาองครักษ์รุ่นน้องอีกรอบ
“ห้ามดีๆไม่ฟังก็นอนไป” พี่ใหญ่ในกลุ่มน้องร่ายเวทย์นิทราสกัดน้องชายและรุ่นน้องให้หลับใหล
“นี่ก็กว่าจะงัดวิชาออกมาใช้กะจะเล่นให้พวกผมเหนื่อยตายก่อนรึไงครับพี่” เซฮุนย้อนรุ่นพี่ปีสามเสียงเนือย
“พูดมาก เดี๋ยวนายก็ได้พักตามเจ้าพวกนี้หรอก” คริสโต้ตอบพลางตวัดสายตามองเจ้าองค์ชายปากดี
“ถ้าเป็นแบบนี้เราคงต้องใช้วิธีเดิมที่เราเคยทำเมื่อครั้งก่อน” เทาดึงสมาชิกที่เหลือเข้าสู่ประเด็นก่อนจะมีศึกตีปากกันอีกรอบ
“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง ยิ่งมีองค์เทพอยู่ใกล้ตัวพลังอสูรยิ่งต่อต้านลำพังฉันคนเดียวสะกดทุกคนไม่อยู่หรอกนะ” แบคฮยอนเอ่ยค้านคำ
“ผมจะสะกดร่างพวกพี่เองครับ นอกจากพี่แบคฮยอนผมก็ไม่ใช่คนที่ถูกกัดเหมือนกัน” เจ้าชายนักเวทอาสาทำงาน
“นายรู้ได้ไง” เทาหันไปถามเพื่อนร่วมรุ่น
“รู้ก็แล้วกันวางใจฉันได้” เซฮุนยิ้มกริ่มให้เพื่อนพ้องมายืนสงสัยกันเล่น
“ถ้างั้นก็ฝากนายอีกคนแล้วกันเซฮุน” คริสสรุปปัญหาและฝากฝัง
การกระทำทุกอย่างของคนกลุ่มนั้นอยู่ในสายตาเลย์ทั้งหมด พอได้มาเห็นกับตาก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคริสจะเป็นมนุษย์หมาป่า ไหนจะสองชายร่างสูงที่น่าสงสัยนั่นอีก
งานนี้ไม่ง่ายดั่งที่ใจหวังแล้วสิ...
ร่างโปร่งเดินกลับออกมาจากป่าหวงห้ามพลางครุ่นคิดเรียบเรียงเหตุการณ์และความเป็นไปได้หลายๆอย่างเพื่อหาตัวเจ้ามนุษย์หมาป่าตัวจริง
“ดีใจที่ได้เจอกันเทพคนสวย” เสียงแหบแห้งชวนสะพรึงเรียกดวงแก้วใสให้หันมองชายชุดคลุมมืดและสหายอสูรนับสิบที่ยืนอยู่ใต้เงาไม้
“พวกเจ้าเข้ามาได้ยังไง” คิ้วงามขมวดปมนึกสงสัยกับการปรากฏตัวของพวกอสูรที่ลอดผ่านเวทกั้นขวางเข้ามาในโรงเรียนได้ง่ายดาย
“พวกเด็กน้อยเลือดหมาป่าเข้ามาได้ พวกข้าก็เข้าได้ง่ายดายเสียงยิ่งกว่า” ปิศาจตนเดิมเอ่ยตอบให้หญิงสาวหายข้องใจ
นั่นสินะเวทคงเสื่อมหลังมีมนุษย์หมาป่าข้ามเขตแดน...
“กลับไปซะ” เสียงหวานเอ่ยไล่วิญญาณร้ายให้กลับถิ่น
“กลับแน่ถ้าข้าได้ตัวท่านกลับไปด้วย” ทันทีที่พูดจบอสูรที่คิดว่ามีแค่สิบกลับเพิ่มจำนวนเป็นร้อยแล้วล้อมรอบว่าที่เทพไร้ทางหนี
มือบางเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์แล้วจับมั่นแก้วตาหวานวาวโรจน์แผ่ฤทธิ์เดชของเลือดเทพกระจายตัวข่มศัตรู แต่ยิ่งแผลงฤทธิ์กายมากเท่าไหร่พวกที่คิดว่าจะถดถอยกับเพิ่มจำนวนจนยากต้านทาน
“หึหึ เจ้าพวกนี้มันกระหายกลิ่นกายเทพยิ่งท่านเผยไอเทพมันยิ่งเพิ่มจำนวนจนยากจะต่อกร” เจ้าหัวหน้าอสูรเผยความลับของอสูรที่เรียกตัว
“อยากจะบ้า..” รำพึงกับตัวเองอย่างหัวเสียแล้วเริ่มวาดดาบฆ่าฟันเจ้าตัวร้ายให้หมดสิ้น
ยิ่งฆ่ายิ่งเพิ่มยิ่งฟาดฟันยิ่งขยายวงนี่เขาจะทำยังไงกับเจ้าพวกนี้กัน ในร่างหญิงก็ทำอะไรลำบากกว่าที่หวังเห็นหนทางพ่ายแพ้รำไรแล้วล่ะสิ
“เลย์นายแค่ป้องกันอย่าฆ่ามัน!!” เสียงตะโกนจากเจ้าชายเวทย์น้ำแข็งเรียกสายตาคนในวงล้อมให้หันมองพร้อมพยักหน้าทำตามคำเอ่ยเตือน
เหล่าเจ้าชายดินแดนเวทย์ต่างพร่ำมนตร์สะกดปิศาจกระหายกลิ่นเทพให้หยุดนิ่ง ซิ่วหมินวาดมนตร์แช่แข็งใส่ร่างหยาบนะสะอิดสะเอียนก่อนที่เฉินจะใช้เวทย์สายฟ้าทำลายตอบ
ร่างอสูรแหลกสลายปานหิมะเกลื่อนพื้นหญ้าเจ้าชายภูติน้ำวาดมือสลายน้ำแข็งดั่งรดน้ำให้พื้นดินได้ชุ่มฉ่ำ พอหมดอสูรให้กำจัดทุกคนก็มองหาร่างเทพสาวที่หายตัว
“เลย์ไปไหนวะ” ลู่หานเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“อย่าบอกนะว่าวิ่งตามไปฆ่าไอ่ขี้ข้าปิศาจ” ซิ่วหมินที่พอจะดูเกมออกพูดตอบ
“เจ้าเด็กนี่หาเรื่องใส่ตัวจริง” เจ้าชายตากวางสบถบ่นก่อนออกตามหาว่าที่องค์เทพเจ้าปัญหา
“แพ้แล้วหนีหรือ” ร่างโปร่งงามดักหน้าเจ้าปิศาจชุดดำที่หลบหนี
“ไม่ได้หนีแค่ล่อเหยื่อให้ติดกับ” เสียงแหบตอบค้านพร้อมวาดยิ้มเหยียดใต้หมวกคลุม แล้วอสูรอีกส่วนก็ถูกปลุกมาล้อมรอบร่างระหงนี่อีกครา
อะไรมันจะเยอะนักเจ้าพวกบ้า...
ก่นด่ามันในใจก่อนกระชับดาบในมือเตรียมป้องกันตัว มองรอบๆอย่างระวังพลางครุ่นคิดหามนตราแบบมนุษย์งัดมาใช้
ตั้งแต่มาเรียนยังไม่ได้เข้าคลาสเวทย์เบสิคแล้วเขาจะไปมีคาถาแบบมนุษย์มาใช้ได้ไงกัน ในหัวก็มีแต่คาถาเทพที่เพียรแต่จะสร้างกองกำลังศากศพให้เพิ่มพูน
“ขอให้สนุกกับของเล่นของท่านเจ้านะเทพน้อย” เจ้าขี้ข้าจอมมารอวยพรเขาอย่างเลิศหรู แล้วยืนมองรอเวลาที่เทพสาวนั้นหมดแรงเพื่อจะได้จับคุมไปโดยง่าย
ใครจะยอมพ่ายแพ้แบบนั้นกัน...
--------------------------------------------------
ความคิดเห็น