ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic EXO {KrisLay.ChanBaek} :หมอนวด

    ลำดับตอนที่ #1 : หมอนวด1

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 57


    หมอนวดเบอร์ 1


     

    เปิดประตูสู่สวรรค์

     

     

     

    Lucky อาบ อบ นวด

    สถานบันเทิงยอดนิยมของเหล่าอาเสี่ยลงพุงไปจนถึงอาซ้อกระเป๋าหนัก พูดถึงชื่อก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากมายว่าบริการอะไร เก็ทนะ?

     

    น้องๆหมอนวดที่นี่มีทั้งแบบผู้ชายวัยขบเผาะ หน้าจิ้มลิ้ม ชวนขบเคี้ยว ไปจนถึงสาวสวย อกอึ๋ม ลีลาเด็ด ได้ลองเล่นกับน้องๆแล้วท่านจะขอต่อชั่วโมงจนถึงเช้า

     









     

    -ณ เวลา 17.34 นาที-

     

    เหล่าน้องๆประจำร้านย่างกรายเข้าสู่อาณาเขตทีละคน สองคนตามแต่จะสนิทและจิกตบรวมไปถึงสองสหายน้องใหม่สดซิงวัยเพิ่งยี่สิบยังไม่เสียจิ้นให้ผู้ใด


    น้องอี้หรืออี้ชิง หมอนวดเบอร์10 ขาว หมวย(?) ลักยิ้มสวย และอกอึ๋มไม่แพ้ชะนีใด

    น้องแบค หมอนวดเบอร์ 4  ตัวเล็ก น่ารัก ตาเรียวรี แม้หางตาจะตกแต่ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สองสาว(?)ดาวดวงใหม่ของลัคกี้ อาบ อบ นวด!!

     


     

    “น้องแบคครับ เพื่อนพี่มันฝากมาให้” พี่เทาเด็กส่งเหล้าร้านเฮียอู๋เดินเข้ามาหาน้องแบคแล้วยื่นดอกกุหลาบให้ด้วยท่าทีเขินๆพอๆกับคนฝากส่ง




     

    อุต๊ะ! คนสวยถูกเซอร์ไพร์ส




     

    “ขะ...ขอบคุณฮะ” น้องแบครับกุหลาบมาถือไว้พร้อมทำหน้าเขินอายพองาม พลางชายตามองคนให้อย่างมีจริตแล้วเดินเกี่ยวแขนอี้ชิงเข้าไปโซนพนักงานพร้อมกัน

     

    “แบคๆ อี้ว่าพี่ชานเขาเอาจริงแน่ๆอ่ะ” อี้ชิงเปิดประเด็นพูดทันทีที่เข้าถึงโซนห้องแต่งตัว แบบมันไม่ใช่อะไรมากหรอกนะคืออี้เป็นห่วงเพื่อนอ่ะจริงๆ ไม่ได้อิจฉาเลยอันนี้อี้สาบาน

     

    “คนสวยก็งี้แหละอี้ ถ้าพี่เขาเงินถึงก็ยอมให้เอาจริงถึงใจเลย” คนสวยยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างพอใจกับความฮอต แล้ววางดอกไม้ในกองดอกกุหลาบที่ได้สะสมมาทุกๆวันจากคนหลายๆคน




     

    ไม่สวย ไม่เจิด ทำไม่ได้นะบอกเลย ฮริ๊งง!




     

    “หมั่นไส้” น้องอี้ยู่ปากนึกหมั่นไส้คนขี้อวด พลางใช้นิ้วชี้เรียวๆผลักหัวเพื่อนไปเบาๆจนหน้าแทบคะมำลงไปกองกับกระเป๋าเครื่องสำอางค์ตรงหน้า

     

    “เน่! หงุดหงิดอะไรมาไม่ทราบ อย่าพาลนะขอร้อง” น้องแบคไม่ใช่คนที่จะมายอมอะไรแบบนี้นะ!

     

    “พาลไร ไม่มี๊” คนมีลักยิ้มยักไหล่ขึ้นสองทีพลางเบะปากแล้วหันไปกรีดตาด้วยอายไลเนอร์

     

    หงุดหงิดจากเฮียอู๋มาป่ะเนี่ย?” กระแซะถามอย่างรู้ทัน ไม่รู้ได้ไง เพื่อนน้องแบคน่ะแอบปลื้มพ่อหม้ายร้านเหล้ามานมนานละ แต่ไม่มีท่าทีว่าจะได้แอ้มซักที ได้แต่มองๆๆๆ

     

    พอพูดถึงเฮียอู๋ของน้องอี้แก้มขาวๆก็แดงก่ำตัวบิดไปมาเหมือนไส้เดือนโดนยาดอง หน้าหล่อๆของเถ้าแก่ร้านเหล้าลอยมาให้ได้ฟินจนอยากเก็บเอาไปฝันถึงทุกคืน ถ้าน้องอี้ยังเรียนม.ปลายแล้วครูให้เขียนเรียงความอาชีพที่อยากเป็นน้องอี้ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยจ้ะว่าน้องอี้...




     

    อยากเป็นเมียเฮียอู๋!




     

    “เบื่อคนขี้มโนจัง” ตาเรียวๆทำใสๆมองเพื่อนอย่างเดียงสา

     

    ฉึก!

     

    “ตบมั้ยแบค?” ปรายตามามองเพื่อนรักที่นั่งใส่คอนแทคเลนส์ ไม่สนับสนุนให้เอาผัวแก่แต่หล่อไม่ว่าแต่อย่ามาดับมโนกันได้มั้ยเคืองนะบอกตรง

     

    “บังเอิญเป็นพวกไม่ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหา ^____^” น้องแบคหันมายิ้มหวานใส่ นั่นทำเอาคนท้าเบ้ปากใส่อีกรอบ

     

    แกอย่าพลาดแล้วกันแบค ใช้สมองให้ได้ตลอดนะจะรอดู

     

    .

    .

    .

    .

    .











     

    ร้านเฮียอู๋

     

    ถ้าให้พูดถึงร้านค้าส่งเหล้าในละแวกนี้คงจะไม่มีร้านไหนใหญ่เท่าร้านของเฮียอู๋คนหล่อพ่อหม้ายลูกหนึ่ง ซึ่งเฮียอู๋เป็นคนใหญ่โตรู้จักกันดีกับเจ้าของผับบาร์แถวนี้ ไอ้ที่เด่นจนคนจำได้คือเจ้าของร้านหล่อแบบไม่อยากจะเม้าท์ว่าหล่อยันลูกน้อง ถ้าอายุเฮียยังยี่สิบเอ๊าะๆนี่พาลูกน้องสองคนเดบิวต์เป็นนักร้องบอยแบนด์ได้เลย

     

    “เทาเพื่อนเอ็งมันเป็นไรมากรึเปล่า?” เฮียเอ่ยถาม เพราะก่อนออกไปรับน้องคริสที่โรงเรียนก็เห็นชานมันดีๆอยู่เลยกลับมาอีกทีทำไมมันยิ้มได้ยิ้มดียังกับคนเมากาว

     

    “อ้อ! วันนี้น้องแบคเขายิ้มให้มันเฮีย มันเลยฟินตัวแตก” เทาอธิบายให้เฮียอู๋เข้าใจความรู้สึกของวัยรุ่นที่มีความรัก

     

    “ป๊าๆ ใครคือน้องแบค?” น้องคริสถามพร้อมกระตุกมือพ่อสองสามทีอย่างเร่งเร้าเอาคำตอบ

     

    “ป๊าก็ไม่รู้จักครับ” เฮียอู๋ตอบลูกชายแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องเพื่อขอคำขยายความ

     

    “น้องเขาเป็นหมอนวดที่ร้านเฮียโจ๊กไงเฮีย” คนแนะนำก็งงพอกันที่เฮียอู๋ไม่รู้จักน้องหมอนวดคนสวย ถ้าเฮียเปิดร้านธูปเทียนทางธรรมนี่จะไม่งงเลย แต่นี่เปิดร้านเหล้านะเว้ยต้องคลุกคลีกับคนในวงการนี้ไม่ใช่หรอวะครับ?!

     

    “หมอนวดคือระ?” ว่าที่เถ้าแก่น้อยก็ถามขึ้นอีก

     

    “ก็ลูกจ้างในร้านเหมือนๆพี่เทากับพี่ชานแหละลูก คริสไปอาบน้ำทำการบ้านไปเดี๋ยวพ่อให้พี่ชานไปซื้อข้าวกับขนมให้” เฮียอู๋ตอบให้ลูกเข้าใจในความหมายที่เหมือนกันแทนที่จะบอกตรงๆเพราะน้องยังเด็ก มือหน้าลูบหัวลูกชายเบาๆแล้วปล่อยให้ไปทำกิจวัตรประจำวันของเด็ก

     

    หนึ่งเจ้านายและสองลูกน้องนั่งสุมหัวกันอยู่หน้าร้านเพื่อพูดคุยถึงเรื่องรักๆใคร่ๆของลูกน้อง ถ้ามันไปรักลูกแม่ค้าผลไม้ หรืออาหมวยร้านข้าวเฮียจะไม่ห่วงเลยแต่นี่มันกลับไปชอบพอเด็กร้านอาบอบนวดคือไม่ได้มองว่าเด็กที่ทำอาชีพนี้เป็นคนไม่ดีหรอกนะแต่มันเสี่ยงหลายอย่างไหนจะโรคติดต่อ หรือไม่ก็โดนเด็กมันหลอกเล่นๆพอแก้เหงา เพราะดูจากที่เห็นผ่านๆถ้าไม่รวยเป็นเสี่ยเด็กพวกนี้ไม่เสียเวลามานั่งคุยหรอก

     

    “เอ็งแค่ชอบเขาเพราะสวยน่าเอาใช่มั้ยไอ้ชาน?” เฮียอู๋ถามไปตรงๆ

     

    “ไม่อ่ะเฮียผมชอบน้องเขาจริงๆนะเว้ย ชอบแบบอยากเป็นแฟนเลยอ่ะครับ” ฝั่งคนถูกก็ตอบตรงไปตรงมาอย่างหนักแน่นกับความรู้สึก




     

    วัยรุ่นสมัยนี้มันคิดอะไรอยู่วะ?




     

    “เฮียเข้าใจมันเถอะแบบคนมันจะรักเลือกไม่ได้หรอกว่าเมียมันจะเป็นพ่อค้า เด็กห้าง เด็กผับหรือหมอนวด” เทาเห็นเฮียอู๋ทำหน้าเครียดๆเลยช่วยเพื่อนพูดอีกแรง

     

    “ถือหางกันขนาดนี้ก็ตามใจพวกเอ็งแล้วกันโดนเด็กมันหลอกอย่ามานั่งซดเหล้าในร้านเฮียล่ะ” เฮียอู๋พยักหน้าอย่างยอมจำนนกับเสียงข้างมากเรื่องรักเด็กบริการด้วยร่างกาย

     

    “เฮียยังฝังใจเรื่องเมียเก่าเฮียใช่ป่ะเนี่ย?” พอเฮียอู๋เลิกพยายามให้ตัดใจชานก็พลิกบทเป็นฝ่ายซักถามเอง

     

    ถึงเขากับเทาจะเพิ่งมาทำงานส่งเหล้าที่ร้านเฮียอู๋ได้ไม่ถึงปีก็พอจะรู้เรื่องแม่ของลูกชายเฮียอยู่บ้างทั้งฟังจากพี่ที่เคยทำงานและที่เฮียเล่าให้ฟังตอนเมา เมียเก่าเฮียชื่อมินเคยเป็นเด็กเสิร์ฟในผับตอนนั้นเฮียอู๋ก็เป็นเด็กมหาลัยติดเที่ยวอยู่พอสมควรเที่ยวไปเที่ยวมาได้เมียเป็นเด็กเสิร์ฟนี่แหละ

     

    เมียเฮียอู๋ท้องพอดีกับที่เฮียเรียนจบแล้วมารับช่วงต่อกิจการของพ่อ พอเฮียเริ่มสนใจงานจริงๆก็ไม่มีเวลาสนใจเมียมากนักประจวบกับที่ธาตุแท้ผู้หญิงเริ่มออกคลอดน้องคริสได้เดือนสองเดือนก็ออกไปหาผู้ชายมาบำเรอความสุขจนเฮียจับได้ผู้หญิงเลยรีบหอบผ้าหอบผ่อนและขโมยเงินก้อนหนึ่งหนีไปกับชู้โดยที่ทิ้งลูกไว้ให้เฮียเลี้ยง ซึ่งมันก็ดีแล้วแหละขืนคนเป็นแม่เอาไปด้วยไม่รู้ป่านนี้น้องคริสจะไปอดอยากที่ไหน

     

    “ก็ส่วนหนึ่งเอาจริงๆเฮียไม่อยากให้เอ็งโดนเด็กทิ้งภายหลัง เอ็งทำงานเป็นลูกจ้างค่าแรงขั้นต่ำ มาอยู่ด้วยกันเด็กเอ็งจะทนได้สักกี่น้ำเขาเป็นหมอนวดให้เสี่ยเลี้ยงคืนๆหนึ่งนี่ได้เหยียบหมื่น จะให้เขาออกจากงานแล้วมาอยู่กินกับเองเฮียว่าคงได้กินแต่มาม่า” คนที่มีประสบการณ์มาก่อนพูดเตือนให้ลูกน้องคิดตาม

     

    “เออว่ะ เฮียเขาก็พูดถูกนะไอ้ชานดูจากที่กูเป็นเบี้ยส่งดอกไม้แทนมึงทุกวันน้องแบคเขาก็ไม่ได้สนใจไรมึงเลย อีกอย่างคนรวยมาติดน้องเยอะแยะ แค่เด็กส่งเหล้าอย่างมึงเขาจะแลหรอวะเพื่อน” พอคิดตามคำพูดนายจ้างไอ้เทาที่ว่ารักเพื่อนก็พลิกฝ่ายมาเทคะแนนข้างเฮียอู๋




     

    ไอ้เพื่อนเหี้ย!




     

    “ก็กูรักของกูอ่ะมันไม่ได้ง่ายเหมือนเบ่งขี้นะเว้ยที่จะเจอกันแป๊บเดียวแม่งก็ออกจากตูด” คนโดนขวางชักสีหน้าก่อนจะมองหน้าเฮียอู๋เหมือนคิดอะไรออก “ในฐานะที่เฮียมีประสบการณ์มาก่อนเฮียก็ต้องดูคนออกมากกว่าผม”

     

    “แล้ว?”

     

    “เฮียลองเข้าไปใช้บริการน้องในร้านดิ แล้วสแกนน้องแบคให้ผมถ้าเขาไม่ดีผมจะได้เลิกจีบ” คำท้าพิสูจน์จากชานเกือบโดนร้องเท้าแอ๊ดด้าของเฮียอู๋ถีบท้องให้มีอย่างที่ไหนมาท้าให้ไปเอาหมอนวด หกปีมานี่ตั้งแต่ลูกชายเกิดเฮียอู๋ละทางโลกีย์อย่างไม่คิดกลับเข้าไปถึงจะขายของเมาแต่ไม่ใช่ว่าต้องเข้าไปเมาพร้อมเสพความสุขทางเพศเสมอไป

     

    “ดูจากสีหน้าเฮียเขาคงไม่เอากับมึงหรอกไอ้ชาน” เทามองหน้านายจ้างที่ทำท่ารับไม่ได้แล้วพูดให้เพื่อนเลิกท้าทายเฮีย




     

    แต่ถ้ามองทางกลับกันคือเทาจะบอกว่าเฮียอู๋ป๊อดแก่แล้วไม่ใจ




     

    “เออ แล้วต้องทำไงเฮียไม่เคยเข้าร้านแบบนั้น” จะว่าไม่เคยก็ไม่เชิงหรอกแต่มันผ่านไปเกือบเจ็ดปีแล้วนะครั้งสุดท้ายนี่ก่อนจบปีสี่มั้ง ร้านเหล้าร้านเบียร์มันก็ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางร้านให้น่าสนใจบ้างแหละวิธีซื้อขายชั่วโมงหมอนวดก็ต้องเปลี่ยนตาม

     

    ไอ้ที่ว่าสนิทกับเจ้าของร้านเขาก็มาตีซี้ซื้อขายกันที่ร้านนี้เฮียอู๋ไม่เคยไปร้านลูกค้าเลยสักราย มีแต่ส่งลูกน้องที่มีหน้าที่ส่งเหล้าไปติดต่อซื้อขายอีกที ไหนจะต้องคอยสอนคอยเล่นกับลูกเรื่องที่จะมีความคิดเข้าไปแหล่งอโคจรนี่เฮียอู๋หมดสิทธิ์คิด

     

    “อย่างแรกเลยนะเฮียต้องแต่งตัวหล่อๆแต่แบบเฮียแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงดำก็หล่อเหี้ยๆละ” ชานแนะนำวิธีเข้าร้านอย่างชำนาญเหมือนเคยเข้าใช้บริการเอง

     

    แต่ไอ้หล่อเหี้ยๆนี่มันชมหรือหลอกด่า?

     

    “อือ”

     

    “พอเปิดประตูเข้าไปนะสิ่งแรกที่เฮียจะเจอคือ...” ไอ้คนแนะนำมือใหม่หัดเที่ยวเว้นคำให้เจ้านายได้ลุ้นระทึก

     

    “เจอ?”

     

    “ตู้!

     

    “ตลกตายล่ะมึง” ฝ่ามือหนาตบจากเทาตบหัวเพื่อนไปเต็มเหนี่ยวโทษฐานที่มันริกวนตีน

     

    “ไอ้ห่า กูพูดผิดตรงไหนมึงก็ไปส่งเหล้ากับกูก็เห็นนี่ว่าเข้าไปแม่งก็เจอตู้เลือกเด็กละ” ชานยกมือลูบหัวตัวเองแล้วหันไปขยายความกับเพื่อน

     

    “เออๆ แล้วไงต่ออย่าลีลานะเอ็งไม่งั้นเฮียไม่ช่วยเป็นเถ้าแก่สู่ขอเด็กเอ็งแน่” เฮียอู๋ล้มศึกกวนตีนของลูกน้องให้มันรีบพูดให้จบๆจะได้ไปสแกนเด็กนั่นสักที

     

    “ก็จะมีคนเชียร์แขกเข้ามาเสนอเด็กให้เฮียแต่อย่าไปเชื่อมันมากนะของอย่างนี้ต้องดูจากความสนใจของเฮียเอง ไอ้พวกนั้นมันจะชอบแนะนำเด็กเก่าช่วงล่างเสื่อมให้ขายออกก่อนจะเสนอเด็กใหม่ให้ไอ้พวกเสี่ยกระเป๋าหนัก พอได้น้องขั้นตอนต่อไปคงไม่ต้องบอกนะโตๆกันแล้ว” ปากบอกโตแต่ตาแม่งมองต่ำกว่าสะดือเฮีย




     

    ไอ้ชานมันแอบคิดไรกับเฮียรึเปล่า?




     

    “เออเฮียครับ” เหมือนอยู่ๆชานก็คิดอะไรได้จนคนถูกเรียกต้องหันมอง

     

    “ว่า?”

     

    “เฮียลองซื้อชั่วโมงเด็กเบอร์สิบดิ น้องเขาเป็นเพื่อนน้องแบค” คำแนะนำเลือกเด็กเรียกคิ้วเข้มของเฮียอู๋ขมวดเข้าหากันจนแทบชิด

     

    “ทำไมไม่ให้ซื้อเด็กเอ็งเลยล่ะ” จะให้ดูเด็กให้ทำไมต้องดูผ่านเพื่อนเขา?

     

    “ไม่ได้เฮียผมหวง”

     

    ไอ้นี่ท่าจะเป็นเอามากจริงๆ

     





























     

    -20:38 น.-

     

    ถ้าจำไม่ผิดร้านเปิดตั้งแต่หนึ่งทุ่ม และตอนดูนาฬิกาครั้งสุดท้ายหลังออกไปซื้อข้าวซื้อขนมให้น้องคริสเขาจำได้ว่าเฮียอู๋แต่งตัวเสร็จตั้งแต่หกโมงกว่าแล้ว แต่ตอนนี้ปาเข้าไปจะสามทุ่มแล้วไงอาเฮียแกยังนั่งกระดิกเท้าดูแมวเสือโคร่งกับลูกเฉย

     

    ช้าเป็นเต่าขนาดนี้น้องอี้ก็โดนสอยไปก่อนหรอกเฮียคร้าบ

     

    “เฮียจะออกไปกี่โมง?” นี่พี่ชานอุตส่าห์มานอนเป็นเพื่อนลูกเฮียเลยนะ คือปกติเวลานี้พี่ชานต้องไปรับจ๊อบขับวินหน้าร้านข้าวต้มเจ๊ฮวงแล้ว




     

    พี่ชานยอมทุ่มขนาดนี้แต่เฮียแม่งไม่เข้าใจชาน!




     

    “จะออกไปแล้ว ดูน้องดีๆล่ะเอ็ง” เฮียอู๋ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเงิน ก่อนวกกลับมาพูดคุยกับลูกชายอีกนิดหน่อยแล้วเดินออกไปจากร้าน




     

    ไม่กระตุ้นคือไม่ไป?





     

    สองเท้าเดินข้ามถนนในซอยเพื่อไปยังสถานบันเทิงอาบ อบ นวดที่อยู่ตรงข้ามร้านของเขา ใช่อ่านไม่ผิดหรอกมันอยู่ใกล้กันแบบแค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้วแต่เขาไม่เคยเข้าใช้บริการหรอก เวลาร้านเปิดร้านของเขาก็ปิดเพราะไม่อยากให้คริสเห็นภาพที่ไม่ดีต่อเด็ก เคยคิดจะเอาคริสไปอยู่กับพ่อแม่ที่อยู่ในเมืองสิ่งแวดล้อมเจริญกว่านี้แต่เจ้าลูกชายเขากลับงอแงอยากจะอยู่กับเขามากกว่าเลยทำให้เขาต้องสร้างข้อตกลงเล็กๆกับลูกไว้อย่างน้อยก็จนกว่าคริสจะโตเป็นวัยรุ่น

     

    ตาคมมองป้ายร้านสีแสบตาก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆกับปัญหาของลูกน้องที่เขาต้องตามล้างตามเช็ด จะละเลยไม่ช่วยไม่สนใจก็ทำไม่ลงอย่างน้อยก็เด็กในร้านมันช่วยเขาเรียกลูกค้าขนของไปส่งตามเวลาและหลายๆที่โดยไม่มีบ่นไม่มีอู้ แค่ช่วยดูลักษณะนิสัยว่าที่แฟนมันสักหน่อยคงไม่หนักหนาอะไร

     

    “อะ...อู๋ลมอะไรหอบมึงมาวะ?” เฮียโจ๊กทักทายอดีตรุ่นน้องร่วมสถาบันตอนม.ปลายอย่างตกใจ คือใครๆก็รู้ว่าเถ้าแก่ร้านขายส่งเหล้านี่ห่างจากเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ลูกโตจู่ๆเปิดประตูเข้ามาในร้านเข้าได้นี่ไม่ตกใจก็ไม่รู้จะยังไงแล้ว




     

    เอาเรื่องไอ้อู๋เข้าร้านไปแทงหวยจะถูกมั้ยวะ?




     

    “เด็กที่ร้านมันท้าว่ะพี่ ไม่มามันก็หาว่าผมไม่ใจ” คนโคตรใจตอบเสียงนิ่งๆตากวาดมองบรรยากาศที่ห่างหายไปนานอย่างไม่คุ้นชิน ไม่อยากจะพูดว่าเริ่มป๊อดละกลัวปล่อยไก่แต่ก็ต้องทำใจแข็งอยู่ต่อไปจะหันหลังกลับตอนนี้ไอ้ชานได้หัวเราะเยาะทั้งวัน

     

    “เออ ต้องอย่างนี้สิวะโลกเรามีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะยิ่งร้านเฮียเด็กเด็ดๆเพียบนะมึงรับรองได้เล่นกับหนูๆแล้วจะติดใจ” ฝ่ามือใหญ่ตบบ่ารุ่นน้องอย่างถูกใจพร้อมโฆษณาสรรพคุณเด็กในร้านด้วยเสร็จสรรพ

     

    เฮียอู๋ยิ้มรับคำเจ้าของร้านตามองสองเด็กหนุ่มที่ดูจะสะดุดตากว่าใครนั่งพูดคุยกันในตู้กระจกใสบานใหญ่ที่กั้นระหว่างแขกกับเด็กบริการ แล้วมองป้ายสีน้ำเงินระบุเบอร์ก็ต้องแปลกใจที่เบอร์ของทั้งคู่คือเป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมา จากที่แอบถามเทาตอนที่ชานออกไปทำธุระให้เขาน้องแบคของมันเป็นเด็กเบอร์4 ส่วนคนที่ชานแนะนำให้ชื่อน้องอี้เป็นเด็กเบอร์10

     

    “ป้ายสีๆที่มีเบอร์นี่บอกอะไรบ้าง?” เฮียอู๋ถามอย่างรายละเอียดเพราะแต่ละคนมีป้ายบอกเบอร์สีไม่เหมือนกันไปทั้งหมด




     

    ก็สมัยที่เขาเที่ยวมันสีน้ำเงินทั้งร้านนี่หว่า...




     

    “อ้อ บอกเกรดเด็กอ่ะสีน้ำเงินก็เกรดหนึ่งค่าชั่วโมงถูกหน่อยเพราะใช้แค่มือ พวกสีเหลืองเกรดสองก็อัพขึ้นอีกนิดเด็กมันใช้ทั้งมือทั้งปาก เกรดสามนี่แพงสุดและเด็ดจริงใช้ทั้งตัว มึงเล็งใครบอกมาเดี๋ยวเฮียจัดให้ไอ้น้องชาย” เฮียโจ๊กอธิบายราคาและโค๊ดป้ายพลางรบเร้ารุ่นน้องใช้บริการเด็กตน




     

    ใช้แค่มือจะแน่ใจได้ไงว่าไม่เคยผ่านใคร?




     

    “ผมขอซื้อสองคนได้มั้ยเฮีย” เฮียอู๋หันกลับมาสอบถามต่อ จะให้ดูเด็กให้ก็ต้องดูที่เจ้าตัวจริงๆไม่ใช่ไปดูที่เพื่อนเขาไม่ใช่ลูกพ่อแม่เดียวกันนิสัยมันเหมือนกันซะที่ไหน ยังไงซะตรงนี้ก็ไม่มีไอ้คนวางแผนก็ขอทำตามทฤษฎีตัวเองแล้วกันภาคปฏิบัติค่อยไปตามคำชี้นำของมัน

     

    “ไอ้นี่โผล่มาทีเสือกเบิ้ลสอง ก็ได้ๆเห็นว่ามึงเป็นน้องนะเนี่ยอยากได้ใครว่ามา” เจ้าของร้านตกลงกับแขกที่สนิทกันพร้อมกวักมือเรียกคนเชียร์แขกให้เดินมาหาพวกเขา

     

    “ผมสนใจเบอร์4 เบอร์10 แต่ขอนั่งคุยกับเด็กเบอร์4 ก่อนนะเฮียอีกคนให้ไปรอในห้องเลย” ลูกค้าวีไอพีแจงรายละเอียดเสร็จสรรพ

     

    “เฉินเอ็งไปเรียกน้องแบคมาแล้วบอกน้องอี้เปิดห้องรอ” พอได้ฟังความต้องการของลูกค้าเฮียโจ๊กก็หันไปสั่งเด็กเชียร์แขกให้ทำตาม

     

    “ได้ครับเฮีย” เฉินโค้งรับคำแล้วเดินไปกดปุ่มเรียกเด็กตามบัญชาจากนายจ้าง

     

    “เคลียร์ค่าขนมน้องๆเสร็จแล้วก็ตามสบายเลยนะอู๋เครื่องดื่มเฮียเลี้ยงเอง” เฮียโจ๊กปลีกตัวให้แขกคนพิเศษจ่ายค่าชั่วโมงกับเคาน์เตอร์แล้วสั่งเด็กในร้านดูแลรุ่นน้องของตนให้ดีที่สุด

     

     








    ------------------------------------------
    เปิดเจิม!!!!!
    อาจจะป่วงไปนิดนะ555



     

    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×