คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ ๑ พานพบคนงาม
ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองกลายเป็นทารกน้อยช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้เสียแล้วทั้งยังถูกลอยคลออยู่กลางน้ำจนหนาวสั่นไปหมดอีกต่างหาก
โธ่เอ๋ย...ความอับโชคของนาง
ขนาดเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติมาเกิดใหม่แล้วก็ยังตามติดไม่เลิกราหรือนี่
หลังจากนิ่งคิดอยู่นานว่าสภาพปวกเปียกเป็นราวกับก้อนแป้งเช่นนี้จะสามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง
ความเป็นไปได้ทั้งหมดก็ถูกตัดทอนจนเหลือเพียงหนึ่งเดียวคือ...ร้องไห้
พักหนึ่งเลยทีเดียวกว่าจะมีคนได้ยินเสียงร้องและช่วยก้อนแป้งไร้ประโยชน์เช่นนางขึ้นไปจากน้ำ
ชั่วขณะนั้นคงเป็นเวลาเที่ยงวัน
เพราะพระอาทิตย์เหนือหัวที่สว่างจ้านำพาให้เงาของผู้มีคุณทาบทับลงบนร่างก้อนแป้งน้อยจนไม่อาจเห็นหน้าค่าตาอีกฝ่ายได้
นางรู้สึกเพียงตนถูกอุ้มขึ้นอย่างไม่ค่อยจะทนุถนอมนัก
พอมองโดยรอบอีกทีก็ถูกวางลงบนเตียงในบ้านกลางป่าแล้ว
ตอนนั้นเองก้อนแป้งน้อยถึงได้เห็นผู้มีพระคุณของตัวเองอย่างชัดเจนถนัดตาเป็นครั้งแรก...
อุต๊ะ!
หล่อมากกกกกก...หล่อวัวตายควายล้ม
คนผู้นี้เป็นบุรุษ ดูจากหน้าตาอายุอย่างไรก็ไม่เกินยี่สิบห้า
ผิวพรรณขาวกระจ่างมีออร่าราวกับเทพเซียน จมูกโด่ง
ดวงตาหงส์ล้อมกรอบด้วยคิ้วคมคายไม่หนาไม่บางเกินไปรับกับริมฝีปากบางเฉียบแดงระเรือ
ยิ่งพิจยิ่งชวนให้หลงใหล...ช่างเป็นชายที่รูปงามล่มบ้านล่มเมืองอะไรขนาดนี้
ก้อนแป้งน้อยพิจมองอีกที...ดวงตาของเขาเป็นสีเทาประกายฟ้าดูโดดเด่น
เส้นผมสีดำสนิทเป็นเงางามเรียบลื่นราวกับธารน้ำตก
ยาวมันระสะโพกสอบเพรียว...มองแล้วตัดกันอย่างยิ่งกับชุดขาวสะอาดที่เขาสวมใส่
ขณะนั้นก้อนแป้งน้อยคิดกับตัวเอง...บางทีนางอาจไม่ได้อัปโชคอย่างที่เข้าใจมาโดยตลอด
“@#^@%&#@^%”
ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำชวนให้อ่อนระทวยนั้นพูดอะไรอยู่ข้างตัว
แต่เงียหูฟังอย่างไรก็ฟังไม่ออก
จังหวะนั้นเองก้อนแป้งน้อยถึงเริ่มสะกิดใจ...
ดวงตาดำขลับกลมโตกรอกมองสำรวจผู้มีพระคุณขึ้นลงอีกครั้ง...
ชุดนั่นเป็นชุดจีนที่เคยเห็นนักแสดงชายในละครแนวอภินิหารเทพเซียนสวมใส่กันเมื่อชาติก่อน....
เหลือกตาพยายามมองไปยังหน้าต่างที่อยู่ไม่ไกล...
ทัศนียภาพภายนอกคือขุนเขาสายน้ำที่เรียงตัวลดหลั่นจนเกิดเป็นความงดงามยากจะบรรยาย...
ภูมิทัศน์ที่มองอย่างไรก็คอนเฟิร์มได้เพียงอย่างเดียวว่าไม่ใช่ประเทศไทยแน่แล้ว....
อุ้แววววววววววววววววว!
ยามที่ตระหนักเช่นนั้นได้...เจ้าก้อนแป้งน้อยก็น้ำตาคลอก่อนจะแหกปากร้องไห้ตีอกชกลมราวกับจะขาดใจ...
อัปโชค....นางช่างอัปโชคจริงๆ!
“อุ๊บส์”
อยู่ๆเสียงร้องก็ขาดหายเนื่องจากในปากเล็กถูกมือของผู้มีพระคุณยัดเศษผ้าใส่เต็มจนไม่อาจหุบปากได้
สันหลังก้อนแป้งน้อยพลันคันยิบ
รู้สึกราวกับเส้นขนทั้งร่างที่อุปมาว่ามีลุกชันขณะผินสายตากลับมาจับจ้องชายหนุ่มผู้งดงามอีกครั้ง
“@#%$#%” เขายังคงพูดจาด้วยภาษาที่นางไม่เข้าใจ
แต่พอจะเดาได้ว่าคนงามคงอยากให้นางเงียบ
“...”
ริมฝีปากเล็กจึงหุบฉับลงในทันทีอย่างรู้งานยิ่ง
คนงามหรี่ตามองก้อนแป้งน้อยพริบตาหนึ่งก็หมุนตัวหันหลังเดินออกไปนั่งบนตั่งที่อยู่อีกห้องหนึ่ง
ท่าทางราวกับกำลังนั่งสมาธิ
ก้อนแป้งน้อยมองแล้วก็วิเคราะห์ตาม
เกรงว่าคนงามคงจะเป็นพวกนักพรตที่หลบเรื่องวุ่นวายทางโลกมาบำเพ็ญตบะหวังกลายเป็นเซียน
เพราะเห็นนั่งนิ่งอยู่ท่าเดิมไม่ขยับเขยื่อนมาเป็นครึ่งค่อนวันแล้ว
โครกกกกก!!
...และตอนนี้นางก็หิวเอามากๆ
แต่จะร้องเรียกอีกฝ่ายก็ไม่ได้อีกเพราะผู้มีพระคุณไม่รู้ว่าลืมหรือจงใจทิ้งเศษผ้าคาปากนางอยู่อย่างนี้
ก้อนแป้งน้อยหิวจนท้องไส้บิดมวน
ถ้ายังไม่ให้นางกินอะไรไม่เกินพรุ่งนี้คงได้ตายเป็นแน่ ทารกน้อยจึงกำลังชั่งใจว่าการขยับตัวให้กลิ้งตกลงไปจนเกิดเสียงดึงความสนใจเขาจะได้คุ้มเสียหรือไม่
แต่ตอนที่ก้อนแป้งน้อยคิดจนปวดหัวจู่ๆนัยตาหงส์ก็ปรือเปิดขึ้นพอดี
ฉุกละหุกจนหูเล็กๆคล้ายได้ยินเสียงดังพรึบ!
กำลังจะขยับตัวโบกแขนขยับขา
แต่หางตานางดันเหลือบไปเห็นคนงามแหวกสาบเสื้อจนร่างกายอันสมบูรณ์แบบเปิดเผยอล่างฉ่างจึงชะงักกึก
ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่อีกฝ่ายนิ่งงันอย่างฉงนสงสัยว่าเขาถอดเสื้อถอดผ้าทำไมและคำตอบก็มาอย่างไม่เร็วไม่ช้าเมื่อมือเรียวยาวขาวสะอาดของผู้มีพระคุณเลื่อนเข้าไปกอบกุมบางอย่าง
ขยับข้อมือขึ้นลง
ลำคองดงามของเขาเกร็งเขม่งจนเส้นเลือดปูดโปนขณะร้องคำรามต่ำๆออกมาหลายคำ
โอ๊ยคุณพร๊ะ!
ก้อนแป้งน้อยเบิกตามองฉากตรงหน้าอย่างโง่งม....แม้รู้ว่าหญิงสาวที่ดีงามไม่ควรมองกิจกรรมนั้นอย่างยิ่งแต่นางกลับคิดไม่ทันจริงๆ
...ว่าต้องปิดตา
รอจนคนงามเสร็จกิจกรรมของวัยหนุ่ม
ก้อนแป้งน้อยจึงเริ่มขยับแขนขาพยายามเปล่งเสียงร้องครางอือๆอาๆเรียกความสนใจจากเขาที่เข้ามาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
ร่างสูงโปร่งแต่ไม่ผอมบางเดินเข้ามาข้างเตียง
เอียงคอมองก้อนแป้งน้อยที่พยายามเปล่งเสียงร้องผ่านเศษผ้าที่อุดปากอยู่จนหน้าดำหน้าแดงท่าทางทรมานจึงช่วยดึงออกให้อย่างเสียมิได้แล้วยื่นมือมาบีบคางเล็กๆไว้
เอ่ยออกมาหลายคำ
ก้อนแป้งน้อยเจ็บจนหน้ายู่
แต่ก็เดาได้ว่าคนงามคงอยากให้นางหยุดร้อง
ปากเล็กๆจึงไม่ร้องส่งเสียงอีกแต่กลับหันไปงับนิ้วหัวแม่มืออีกฝ่ายมาดูดจ๊วบๆแทน
ต้องการสื่อทางอ้อมว่านางหิว!
“@$#@$#$#@$#@$#@$#@$#@”
ดวงตาเปี่ยมเสน่ห์ของคนงามหรี่มองก้อนแป้งน้อยอย่างขบคิดก่อนนิ้วที่เหลือของเขาจะลูบไล้ใบหน้าใสแผ่วเบา
แสงที่วาบขึ้นมาพริบตาหนึ่งในดวงตาเขาพาลให้นางหวนคิดไปถึงสายตาของพญายมราชยามบอกจะพาขึ้นสวรรค์อย่างประหลาด
ขนลุกขนชันจนต้องอ้าปากปล่อยนิ้วมือแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
แต่เพราะความหิว....สุดท้ายนางจึงต้องหันหน้ากลับไปมองเขาน้ำตาคลออยู่ดี
ปากก็ดูดนิ้วตัวเองจ็วบๆอย่างน่าสงสารทว่าไม่กล้าร้องอีก
ทั้งสองปลุกปล้ำกันอยู่นาน
แต่คนงามก็ยังไม่เข้าใจแป้งน้อย สุดท้ายรำคาญมากเข้า...ทำท่าจะเอาเศษผ้าอุดปากนางอีก...นางจึงได้แต่แกล้งทำเป็นหลับตานอนนิ่งไม่รู้เรื่อง
ผู้มีพระคุณถึงยอมรามือกลับไปนั่งสมาธิอีกแล้ว
คราวนี้เขานั่งยาวไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน
ทารกอย่างแป้งน้อยจึงอาการร่อแร่...
พอออกจากสมาธิและทำกิจกรรมวัยหนุ่มอีกหนึ่งยกคมงามก็เพิ่งจะสังเกตุว่าทารกที่เก็บมาทั้งไม่ขยับและส่งเสียงมากเหมือนวันแรกแล้ว
คราแรกเขานึกว่าอีกฝ่ายแค่หลับ
แต่ที่ไหนได้เมื่อลองพิจดูดีๆกลับจะเห็นว่าริมฝีปากเล็กๆนั้นแห้งแตก
ใบหน้าขาวซีดราวกับศพ
ชั่วขณะนั้นเขามุ่นคิ้วอย่างสงสัย
มือเอื้อมแตะชีพจรที่เต้นแผ่วจนแทบไม่ยินจึงเข้าใจ
ก้อนแป้งน้อยอดข้าวอดน้ำจนป่วยนี่เอง
คิ้วไม่หนาไม่บางขมวดมุ่น
เหตุใดเขาจะไม่รู้...ว่าก้อนแป้งเป็นนางปิศาจจิ้งจอกน้อยแต่นางอ่อนแรงถึงเพียงนี้ก็น่าจะกลับคืนร่างจริงได้แล้ว
ไม่ควรคงรูปมนุษย์ไว้
แต่ไรมาอาหารของปิศาจจิ้งจอกเพศเมียคือพลังหยิน
หากไม่สูบเอาจากคนตายก็ต้องเป็นบุรุษเท่านั้น
มองซ้ายมองขวาแล้วก็เกรงว่าอาหารของนางคงจะมีเพียงแต่ตัวเขาเองแล้ว...ลังเลครู่หนึ่งก็ลองยื่นมือออกไป
แตะทาบลงบนพวงแก้มนิ่มเดงเปล่งปลั่งอย่างแผ่วเบา
จ๊วบบบบบ!
พริบตาที่มือเขาแตะก้อนแป้งน้อย
นางก็เอี้ยวคออ้าปากหันมางับนิ้วชี้เรียวงามราวกับหยกเข้าไปทั้งดุน
ดูดจ๊วบๆราวกับเห็นมันต่างทรวงอกมารดาอย่างไรอย่างนั้น
ขณะนี้เองที่ขุมพลังหยินในร่างชายหนุ่มที่ไม่ค่อยจะเสถียรอยู่แล้วพลันเกิดการปั่นป่วนขึ้นมาระลอกใหญ่
ร่างสูงโปร่งสง่างามถึงกับทรุดเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น
กายท่อนล่างปวดร้าวราวกับถูกบีบด้วยคีมเหล็ก
อันว่าความเจ็บปวดเช่นนี้....คนธรรมดาคงได้กรีดร้องลงไปดิ้นทุรายๆแล้ว
ยังจะหาใครที่การควบคุมตัวเองเป็นเลิศชนิดที่แม้แต่ใบหน้าก็ยังเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนสีได้เช่นเขาอีก
ดวงตาหงส์หรี่ลงน้อยๆเมื่อเลือดในกายเดือดพล่าน
ปราณไหลย้อนกลับก่อนจะถูกสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงหน้าสูบกินอย่างเอาเป็นเอาตาย
มือเรียวอีกข้างที่ยังว่างอยู่ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปสัมผัสชีพจรของทารกน้อย
ใบหน้าราบเรียบคิดคำนวณปริมาณที่พอเหมาะพอดีอยู่เงียบๆ จนกระทั่งเอ่ยปากขึ้น
“พอก่อน”
จ๊วบๆๆๆๆๆๆ
“อาหลิว...”
หืม?
ก้อนแป้งน้อยที่กำลังตะกละตะกลามหยุดชะงัก
ดวงตากลมโตสีดำสนิทใสกระจ่างกรอกไปมาจนสบเข้ากับสีครามในดวงตาของคนงามอย่างงงๆ
หมายถึงนางหรือ?
“หากเจ้าสูบพลังหยินของข้าต่อจนธาตุไฟเข้าแทรก...ต่อไปก็จะไม่มีให้กินแล้ว”
ถ้อยชี้แจ้งของเขานุ่มทุ้ม ฟังดูนุ่มนวลอ่อนโยนเอามากๆจนนางถึงกับเคลิบเคลิ้มไปพักหนึ่ง
“เด็กดี...”
รอยยิ้มกระจ่างดุจจันทราและสัมผัสแผ่วเบาที่ประทับลงบนพวงแก้มทำเอาก้อนแป้งน้อยแทบลืมหายใจ
อ้าปากปล่อยนิ้วของคนงามออกจากปากในทันใด
คนงาม...
ท่านเป็นเทพสวรรค์องค์ใดจำแลงกายลงมา...ความงามเช่นนี้สมควรเป็นของมนุษย์หรือ
หากใช่...เพื่อครอบครองท่าน...เลือดจะต้องไหลนองแผ่นดินมากมายเท่าไรกัน...
ความคิดเห็น