ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] โอเอซิส

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 คนป่วย

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 58




    บทที่ 4 คนป่วย




     
    เช้าวันรุ่งขึ้นเช้าวันให่มมันนี้ลมแรงนิดหน่อย ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำงานใขณะที่โซราเมะกลับถูกเทมาริกำชับให้อยู่เฝ้าบ้านแทนด้วยเหตุผลงานเธอจะกลับมาในเย็นนี้พร้อมกับข้อมูลและอาจจะได้วิธีคลายคาถา พวกเขาเชื่อว่าที่เธอความจำเสื่อมน่าจะมาจากวิชานินจา

     
    "เฮ้ย"กลางวันกลายเป็นผู้ชาย โซราเมะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เจ้าหนุ่มวัยสิบหกนอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาห้องรับแขกโดยที่บนหลังคายังมีร่างนินจาหนึ่งคนคอยติดตามดูอยู่ไม่ขาด ถึงจะไม่มีคนอยู่ในบ้านแต่ก็มีคนเฝ้า มันก็ไม่แปลกหรอก ก็เขามันคนแปลกหน้านิน่า

     
    ร่างโปร่งมองดูนาฬิกาอีกรอบ เจ้เทมาริบอกว่าวันนี้ตอนสิบโมงแม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาด แต่ไม่ยักจะเห็นเลยแฮะ นี้ก็เที่ยงแล้วด้วย

     
    ร่างบางมองเศษหลอดไฟที่แตกจากเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วก็รูอันใหญ่สองสามรู้ที่เกิดจากการปะทะ ร่างสูงมองสักพักจึงตัดสินใจหยิบเอาเครื่อมมือทำความสะอาดมาจัดเองเสียเอง มันมองดูแล้วน่าหงุดหงิดที่ห้องมันรก

     
    จากเพียงแค่ไม้กวาดที่เก็บเศษหลอดไฟ เริ่มลามไปทั่วห้องจากห้องรับแขก ไปยังห้องครัว จากห้องครัวก็ไปทางด้าน จากแค่ไม่กวาดก็เริ่มมีถังใส่น้ำและผ้าเช็ดฝุ่น จากที่กำลังเบื่อตอนนี้เขากำลังเมามันส์กับการทำความสะอาด ร่างโปร่งของบุรุษในชุดผ้ากันเปื้อนชวนให้นินจาติดตามทำหน้างงไม่น้อย เพระาอีกฝ่ายกำลังเก็บกวดบ้านของท่านคาเซะคาเงะอยู่


     
    กว่าจะเสร็จก็ตกเย็นมากแล้ว ร่างบุรุษได้ทำหน้าที่เพียงทำความสะอาดเท่านั้น ร่างโปร่งมองท้องฟ้าที่กำลังใกล้มือจึงตัดสินใจกลับห้องแล้วไปอาบน้ำ แน่นอนว่าเขาชอบอาบน้ำนาน กว่าจะอาบเสร็จท้องฟ้าก็มืดแล้ว ร่างกายจึงเปลี่ยนเห็นหญิงสาวอีกครั้ง

     
    เจ้าตัวหยิบเอาเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนของเทมาริมาใส่โดยที่ใช้ผ้าพันอกไว้เหมือนเดิม เจ้าตัวเกินกลับเข้าไปในครัวแล้วตัดสินใจที่จะทำอาหารเย็นรอต้อนรับการกลับมาของผู้มีพระคุณทั้งสอง เธอตัดสินใจทำข้าวหน้าเนื้อ

     
    เธอทำอาหารไม่น่าก็เสร็จ เธอจัดโต๊ะรอสำหรับคนสามคนแล้วนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว เธอยังคงจำได้ถึงครั้งแรกที่ฟื้นคืนสติ ไม่มีผู้คนไม่มีใคร เธออยู่กลางทะเลทรายไว้ความช่วยเหลือ กว่าจะเดินทางมาที่นี้ได้ก็แทบจะอดน้ำตาย การถูกคนทั้งสองช่วยไว้มันทำให้เธอเร่าเริงอีกครั้ง และเพราะแบบนั้นเธอจึงอยากเห็นใบหน้าของพวกเขาอีก

     
    "เมื่อไหร่จะกลับมาน่าาา..."เธอนั่งยิ้มอยู่คนเดียวมองชุดอาหารสามชุดอย่างใจจดใจจ่อ รอค่อยให้ทั้งสองคนกลับมา...

     
    ทว่าจนกระทั้งเวลาผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะกลับมา โซราเมะนั่งถอนหายใจอีกครั้ง นาฬิกาบ่งบอกว่าสี่ทุ่มจวนจะห้าทุ้มแล้ว พวกเขาก็ยังคงไม่กลับมาเนตรสีครามฉายแววหมองออกมา เธอตัดสินใจทานอาหารของตัวเองแล้วเก็บอาหารกวาดให้เรียบร้อย ส่วนของพวกเขาสองคนเธอก็ปิดแลปให้เรียบร้อยเพื่อว่าพวกเขาจะกลับมาทาน

     
    แต่เธอยังไม่อยากขึ้นไปนอนเธอเลยตัดสินใจไปนั่งรอที่โซฟา เปิดอ่านหนังสือรอไปกว่าจะรู้ตัวเธอก็หลับไปเสียแล้ว

     
    สองพี่น้องทำงานจนคำมืดวันนี้ เทมาริตามติดคันคุโร่หลังจากได้รับแจ้งข่าวว่าต้องการกำลังเสริม กาอาระรับเรื่องเอกสารและประชุมกันอย่างเข้มข้นในเรื่องของการลอบสังหารและวิเคราะห์หากลุ่มเป้าหมายที่น่าจะเป็นผู้ลอบสังหาร ซึ่งพวกเขาลงความเห็นว่าน่าจะเป็นคนจากหมู่บ้านคิริ เพราะทั้งยาพิษและวิธีการต่อสู้ต่างใช้คาถาน้ำเป็นหลัก

     
    กาอาระกลับบ้านมาคนเดียวด้วยสีหน้าเรียบ เขานึกถึงเจ้าคนที่อยู่เฝ้าบ้านให้เขา ปานนี้แล้วจะหลับไปรุ้ยังนะ

     
    "ฮัดชิ้ว!"เนตรสีหยกจามอีกครั้งหลังจากพึ่งจะเดินเข้าบ้านได้ไม่นาน ร่างสูงเห็นไฟในห้องรับแขกกับห้องครัวเปิดอยู่ ร่างสูงเดินเข้าไปจึงเห็นร่างบางกำลังหลับอยู่บนโซฟา เส้นผมเส้นน้อยร่วงปิดใบหน้าของเธอ ร่างสูงมองด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอื่อมมือไปขยับเส้นผมหน้าให้กลับเข้าที 

     
    ทุกครั้งที่จ้องมองเขามักจะคิดว่าเขาจ้องมองเธอเพราะอะไร เพราะดวงหน้ากลมหวานนี้หรือ เพราะจมูกเล็กนี้ หรือเพราะริมฝีปากสีระเรื่อ มือหน้าเกลี่ยสัมผัสแก้วใสมีเลือดฟาดมันเย็นสบาย และมันยังนุ่มนิ่มน่าราวกับขนมโมจิ


     
    ร่างสูงยิ้มเบา ปล่อยมือจากใบหน้าของคนตัวเล็ก เขารู้สึกว่าตัวเองตัวร้อนยังไงชอบกล เชาตัดสินใจเดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบยามาทาน แต่เขาก็เห็นชุดข้าวสองชุดเสียซะก่อน ร่างสูงหันไปมองร่างเล็กที่หลับไหลสลับกับอาหาร


     
    เธออุตสาห์ทำเพื่อพวกเขา น่าเสียดายที่เทมาริติดธุระคงจะไม่กลับมาสักสองสามวันนี้

     
     
    ร่างสูงตัดสินใจทานข้าวหน้าเนื้อก่อนจะทานยา ข้าวมื้อดึกที่ทำให้เขาอิ่มท้อง รสมือที่ถูกปากทำให้เขารู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก
    "แค่กๆ"จากอาการจามเริ่มเปลี่ยนเป็นอาการไอ วันนี้เขาฝืนตัวเองมาทั้งวัน อาการเจ็บคอเริ่มปรากฏขึ้น แม้จะป่วยแต่เขาก็ไม่ลืมจะพาคนขี้โวยวายเข้าห้องนอน


     
    ร่างบางถูกเจ้าของเนตรสีหยกอุ้มขึ้นอย่างเบามือ ศรีษะของเธอแอบชิดกับอกข้างซ้ายของเขา กลิ่นหอมอ่อนๆกลิ่นเดิมลอยขึ้นเตะจมูก มันคือกลิ่นที่เขาสบายใจและผ่อนคลาย ร่างสูงพาโซราเมะกลับไปยังห้องนอน เขาปูฟูกให้เธอก่อนจะห่มผ้าให้อีกฝ่าย และเดินกลับไปที่ห้อง


     
     
    +++++++++++++++++++


     
     
    เป็นอีกครั้งที่เป็นเช้าสดใส ร่างโปร่งตื่นขึ้นมาในชุดเดียวกับชุดเมื่อคืน เพราะร่างกายใหญ่ขึ้นเสื้อกับกางเกงขึ้นคับไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก ทุกอย่างยังคงเหมือนเช้าวันแรก ที่แปลกไปก็มีแค่เขากลับมานอนฟูกได้ไง

     
    โซราเมะยืดเส้นยืดสายเข้าห้องน้ำไปตามปกติ เช้าแบบนี้คิดว่าพวกคาเซะคาเงะคงจะออกไปทำงานแล้วมั้ง

     
    หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย เจ้าตัวตั้งใจจะไปทำข้าวเช้า วันนี้เขาคงต้องออกไปข้างนอก เพราะว่าเมื่อวันเขาไม่ได้เบาะแสอะไรเกี่ยวกับตัวเองเลย เพราะหลับไปก่อนที่พวกเทมาริจะกลับมา

     
    ระหว่างกำลังเดินไปที่ครัว โซราเมะเห็นประตูห้องหนึ่งถูกเปิดออก ไม่สิเรียกว่าปิดไม่สนิทจะดีกว่า เพระาความอย่างรู้อยากเห้นหรืออะไรไม่ทราบดลใจ โซราเมะถือโอกาสแอบจ้องเข้าไปในในห้องนั้นก่อนจะตกใจเมื่อสิ่งที่เห็นคือร่างของกาอาระที่กำลังหอบหายใจลำบากเพราะพิษไข้ เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างไร้กำลัง ใบหน้าแดงระเรื่อเพราะพิษไข้

     
    เจ้าของเนตรสีครามไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปพยุ่งร่างสูงก่อนจะผลักให้อีกฝ่ายนอนลง

     
    "ท่านคาเซะคาเงะ นอนลงก่อนเถอะครับ ท่านไม่สบายอยู่นะครับ"ร่างโปร่งเอ่ยพลางพยายามกล่อมให้ร่างสูงนอนลง แต่คนหน้าตายนั้นทำตัวดื้อดึงกว่าที่คิด ร่างสูงส่ายหน้าให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร ทั้งๆตัวร้อนขนาดนี้

     
    "ท่านตัวร้อนมากเลยนะครับ วันนี้พักก่อนเถอะ"ร่างโปร่งกล่าวกับคนตัวใหญ่กว่า ก่อนจะพยายามดันให้ร่างสูงนอนลง ในที่สุดกาอาระก็พ่ายแพ้โซราเมะ เขายอมลงนอนเสียแต่โดยดี ใบหน้าของกาอาระขึ้นสีระเรื่อและลมหายใจร้อนจัด

     
    หลังจากกล่อมให้คนไม่สบายนอนลงกับเตียงได้แล้ว ร่างโปร่งรีบวิ่งกลับไปที่ห้องรับแขกเพื่อหยิบกล่องยา รวมไปถึงการทำข้าวต้มใส่ต้นหอมเยอะเพื่อช่วยทุเลาอาหารไข้หวัด

     
    ร่างโปร่งเดินกลับเข้ามาให้ห้องของกาอาระพร้อมกับถาดใส่อาหารและยา ห้องของกาอาระนั้นรกนิดหน่อยเพราะมีหนังสือวางอยู่เต็มไปหมด โซราเมะเกลี่ยหนังสือออกจากโต๊ะก่อนจะวางถาดอาหารลงไปแทน

     
    "...น้ำ"เสียงทุ้มดังขึ้น ร่างสูงคอแห้งผากและริมฝีปากเริ่มแตก อาการขาดน้ำกำลังปรากฏขึ้น โซราเมะใจไม่ดียังไงชอบกล เขารีบหยิบแก้วน้ำและประคองร่างของกาอาระให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะส่งแก้วให้จิบน้ำ


     
    "แค่กๆ"ดื่มเข้าไปได้ไม่เท่าไหร่กาอาระก็ไออีกครั้ง ร่างโปร่งรู้สึกเป็นห่วงคนตรงหน้าขึ้นมาจับใจ เขารีบยื่นข้าวต้มให้อีกฝ่าย แต่ดูเหมือนเพราะเป็นไข้หวัดใหญ่ร่างกายของกาอาระแทบไม่เหลือแรงใดๆ


     
    "ไหวรึเปล่าครับ? ให้หอมตามหมอไหม?"อาการของกาอาระหน้าเป็นห่วงเกินไปที่จะให้เขาดูแล กาอาระต้องการหมอ


     
    "ไม่ต้อง ให้ฉันนอนพักสักหน่อยก็คงดีขึ้น"ร่างสูงกล่าวเสียงแหบพร่า แแม้จะเจ็บป่วยแต่เขาก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมา สีหน้านั้นแม้จะเรียบไร้อารมณ์แต่ก็รู้สึกได้ถึงความทรมาณ

     
    "งั้นทานข้าวต้มหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะได้ทานยา"เนตรสีครามกล่าวด้วยความห่วงใย เขาช่วยถือประคองถ้วยข้าวต้มไม่ให้หกในระหว่างที่กาอาระกำลังพยายามทานข้าวต้มลงคอ

     
    "พอแล้วละ ฉันทานต่อไม่ไหวแล้ว"ในที่สุดข้าวต้มในคำที่ห้าก็หมดลง เขาได้รับยาและน้ำหลังจากทานข้าวต้มอุ่นๆ เนตรสีหยกปรือลงเพราะพิษไข้ ร่างสูงส่งทรายออกไปยังข้างนอกเพื่อให้เป็นตัวแจ้งข่าวว่าวันนี้เขาไม่เข้าสำนักงาน

     
    กว่าจะรู้ตัวผ้าเย็นๆก็ถูกประคบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาของเขา มือบางของบุรุษครึ่งเพศกำลังเช็ดหน้าให้เขาอยู่ เพราะอะไรไม่รู้ยามนี้ที่กาอาระเห็นคือเด็กสาวโซราเมะในยามเย็นคนนั้นแทน

     
    "เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้ ไข้จะได้ลดไงครับ"ไม่ว่าเปล่ามือเรียวของโซราเมะจึงเริ่มเช็ดถูไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ตัวคลุมตัวนอนถูกถอดออกเหลือแต่เสื้อหนังสีแดงชั้นใน โซราเมะผู้ไม่เคยมียางให้จัดการถอดของพวกนั้นออกจนหมดจะเหลือก็แค่กางเกงที่เจ้าตัวไม่ยอมให้ถอด

     
    "ทำไมละครับ? แบบนี้ผมก็เช็ดตัวได้ไม่หมดนะสิ"

     
    "เธอเป็นผู้หญิง"

     
    "อะ ตอนนี้ผมเป็นผู้ชายนะ"


    "แต่ก็เป็นผู้หญิงด้วย"เถียงกันไปเถียงกันมาสุดท้ายโซราเมะก็ยยอมแพ้ให้กลับคนป่วย ตอนป่วยรู้สึกจะพูดมากกว่าตอนไม่ป่วยเสียอีก
    สุดท้ายโซราเมะก็ได้แต่เช็ดตัวแค่ท่อนบนเท่านั้น ผ้าสีขาวไล่ไปตามลำแขนแกร่ง เขาพึ่งสังเกตเห็นแววกาอาระมีร่างกายที่กำยำไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งแผ่นอกกว่าแล้วก็นหน้าท้องแกร่งมีลูกคลื่นพอสวยงาม


    โซราเมะที่เผลอทะลึ่งลวนลามอีกฝ่ายทางสายตาอย่างไม่เจตนา  กาอาระนิ่งเงียบกับการกระทำนั้น ไม่ได้ว่าอะไรมากมาย นอกจากใบหน้าแดงๆของตัวเอง....รู้สึกขะเขินอย่างพิกลเมื่อถูกเจ้าหนุ่มตัวเล็กกว่าตรงหน้าจับจ้องร่างกายของเขา


    ในที่สุดการเช็ดตัวก็เป็นอันเสร็จสิ้น เสื้อสีฝุ่นตัวใหม่ถูกหยิบมาให้กาอาระสวมใส่พร้อมกับกางเกง โซราเมะตัดสินใจหยกกะละมังใส่น้ำและถาดข้าวออกไปเพื่อปล่อยให้คนป่วยได้พักผ่อน


    เพราะพิษไข้ทำให้กาอาระหลับลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้รู้สึกถึงเสียงกึกกักจากฝีมือของเจ้าตัววุ่นที่ถือวิสาสะกลับเข้ามาเก็บกวาดให้ ร่างโปร่งเก็บกวาดหนังสือกองโตให้เข้าที่เข้าทางแล้วมาสะดุดที่หนังสือเล่มหนึ่ง มันเขียนว่าของสำนักงาน


    ความอยากรู้อยากเห็นมีมากเป็นทวีคูณบวกกับเพราะเป็นคนร่าเริง เจ้าตัวคิดไปเองทันทีเลยว่านี้อาจจะเป็นหนังสือวิธีแก้ความจำเสื่อมที่กาอาระเอามาจากสำนักงานให้เขาก็ได้


    โซราเมะยิ้มร่ารีบเปิดหนังสืออ่านเพื่อหาเนื้อหาที่ใกล้เคียงที่สุด


    "....นี้ไงๆ"เขาอุทานเบาๆเมื่อเจอวิชานินจาแพทย์หนึ่งน่าจะเป็นวิธีลบความทรงจำ


    วิชานี้ถูกคิดค้นขึ้นด้วยคาเซะคาเงะรุ่นสอง เป็นวิชาต้องห้ามเนื่องจากมีผลกระทบกับจิตใจของมนุย์ษย์มากเกินไป และเป็นวิชาที่ไม่สมบูณย์อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพต่างๆตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่ผู้ที่โดนวิชานี้จะต้องเป็นที่ผู้ยินยอมให้ลบความทรงจำ เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับทางจิตใจด้วย ต้องใช้คนสนิทเท่านั้นถึงจะทำพิธีนี้ได้



    เมื่อเสร็จสิ้นพิธี ผู้ถูกวิชานี้ควบคุมจะลืมบ้านเกิดและตัวตนของตัวเองโดยสิ้นเชิงอาจจะมีร่างกายบางส่วนที่เปลี่ยนไปเช่นมีมือหรือขาข้างหนึ่งเป็นไม้ หรือเปลี่ยนเป็นธาตุทั้งห้าหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย กลายเป็นคนใหม่หรือบางคนก็อาจจะสูญเสียความทรงจำไปโดยไม่สูญเสียตัวตน ในสมัยก่อนมันถูกใช้กับไดเมียวและราชวงค์ในกรณีที่เกิดการถูกเนรเทศ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่บ้างแคว้นที่ใช้วืธีนี้กับนักโทษเนรเทศ

     
    อ่านไปได้สักพัสีหน้าของโซราเมะก็เริ่มเปลี่ยนไป....บางแคว้นยังใช้วิธีนี้ในการเนรเทศอยู่ หรือว่าเขาจะเป็นคนที่ถูกเนรเทศออกมา เมื่อเริ่มคิดมาก ร่างโปร่งพยายามอ่านข้อความถัดไปเพื่อหาวิธีแก้ไข เขาต้องรู้ให้ได้ว่าอดีตของเขาคืออะไร!



    วิชาลบความทรงจำต้องใช้ผู้ทำพิธีสองคนขึ้นไป วิชานี้จะไม่สามารถคลายด้วยคาถาคลายได้ต้องทำให้เกิดอาการช็อคเท่านั้น ถึงจะคลายวิชาได้
    เมื่ออ่านจนจบโซรามายืนชันคางอย่างใช้ความคิด แสดงว่าต้องทำให้ตัวเขาช็อคมากๆสินะถึงได้คลายคาถาได้....แล้วไอ้เรื่องเดี๋ยวหญิงเดี๋ยวชายนี้มันหมายความว่าไง? มันเกิดจากไอ้คาถานี้รึเปล่านะ?
     



    ชักจะเริ่มปวดหัวแล้วสิ




    ++++++++++++++++++

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×