ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] โอเอซิส

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 เพราะรัก...(คู่รองปรากฏตัว!)

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58




    บทที่ 7 เพราะรัก...(คู่รองปรากฏตัว!)


     
     
    เมื่อสิ้นสุดการประชุมในครั้งสุดท้าย กาอาระสั่งย้ายร่างของโซราเมะให้มาพักฟื้นในห้องของเขา เหล่าโจนินต่างพากันงงกันเป็นไก่แตกว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคาเซะคาเงะถึงได้ให้คนไช้เข้าไปพักฟื้นที่ห้องพักของตัวเองละ

     
    โซราเมะยังคงหลับตานิ่ง เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้กาอาระรู้สึกโล่งใจไม่น้อยก่อนจะเขานั่งลงที่ขอบเตียงมือหนาเกลี้ยใบหน้าเกลี่ยงเกลาอย่างเบามือ ก่อนที่นิ้วเรียวจะแตะที่จมูงเล็กๆของเธอ

     
    สาวเจ้าทำจมูกย่นน้อยๆเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่น่ารำคาญกำลังไต่อยู่บนใบหน้าของเธออยู่ กาอาระอดยิ้มไม่ได้ท่าทีของอีกฝ่าย พอใจเขารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีคืออะไร เขารู้สึงปรอดโปร่ง โล่งใจและอบอุ่น

     
    "อืมมม....กา..อาระหรอ?"เสียงครางเบาๆดังขึ้นอย่างัวเงีย ร่างบางกวาดตาไปรอบๆห้องก่อนจะมองเห็นกาอาระที่นั่งอยู่บนขอบเตียงไม่ห่าง
    "ฟื้นแล้วหรอ รู้สึกเป็นไงบ้าง"ร่างสูงกล่าวถามคนตัวเล็ก รอยยิ้มหวานครั้งแรกถูกส่งให้กับเธอจนโซราเมะรู้สึกแปลกใจ

     
    "ทำไมนายดูอารมณ์ดีจัง นี้ฉันพึ่งถูกทำร้ายมานะ?"เธอค้อนใส่คนอารมณ์ดี เธอพึ่งถูกแทงมาหมาดๆเขากลับอารมณ์เนี่ยนะ น่าโมโหซะจริง 

     
    "ก็เปล่านิ"ร่างสูงกล่าวจบจึงช่วยประคองให้ร่างบางลุกขึ้นนั่งได้อย่างสะดวกก่อนจะขยับหมอนให้เธอนอนพิงได้อย่างสบาย น่าแปลกเธอรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าอีกฝ่ายดูแลเธอใกล้ชิดขึ้น

     
    "นี้ฉันหลับไปนานแค่ไหน?"

     
    "หลังจากที่เธอถูกทำร้ายก็ผ่านมาสามชั่วโมงแล้ว"ร่างสูงกล่าวโดยที่เขายังคงนั่งประคองคนตัวเล็กไว้ใกล้ตัว ร่างเล็กมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง ก่อนจะพึ่งรับรู้ได้ถึงเรื่องใหญ่

     
    "ดะ เดี๋ยวนะนี้มันกลางวันไม่ใช่หรอ? แล้วทำไหมฉันถึงยังเป็นผู้หญิงอยู่นะ"เพราะมัวแต่ตกใจเธอจึงเผลอล้วงคอเสื้อเปิดดูข้างใน ดูว่ายังมีหนองโพอยู่ไหม ซึ่งมันก็ใช่ มันยังอยู่ครบประการ เธอลืมไปเลยกว่ากาอาระมองอยู่

     
    ร่างสูงเงยหน้าขึ้นเพดานไม่กล้ามองอะไรไปไม่มากกว่านี้ ถ้ามันโผ่ลพ้นคอเสื้อออกมาเองก็คงเป็นอีกเรื่อง แต่นี้เจ้าแม่ประคุณเล่นเปิดโชว์แบบนี้แล้วจะให้เขาทำหน้ายังไง

     
    "มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน!?"เหมือนสาวเจ้าจะสติแตก เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ขนาดตอนโดนแทงเธอยังนึกว่าเป็นความฝันเสียด้วยซ้ำ เกือบเฉียดตายไปแล้วตั้งรอบนึงแหนะ!

     
    "ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ"ร่างสูงกล่าวพลางมองคนขี้โวยวายสติแตก ไม่ต้องกลายสภาพนั้นแหละดี! เพราะถ้ากลายเป็นผู้ชายขึ้นมาพวกนินจาคนอื่นๆคงมองเขาแปลกไปแน่

     
    "เป็นสิ ผมเป็นผู้ชายนะ!"เพราะไปฟันธงเอาเองว่าตัวเองนั้นชายแท้แน่นอนเธอจึงโวยวายต่อไป กาอาระส่ายหัวเอื่อมระอากับความช่างเถียงของเธอ เขาควรเล่าความจริงให้เธอฟังดีไหมนะ เกี่ยวกับเรื่องราวของตัวเธอเอง

     
    "เธอเป็นผู้หญิง"

     
    "นายรู้ได้ยังไง?"

     
    "เอาเป็นว่ารู้ละกัน"ร่างสูงไม่คิดจะเถียงคนตัวเล็กต่อ เขาจับร่างบางให้ลงนอนเพื่อพักผ่อนต่อ แต่ดูเหมือนเธอยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม พยายามจะลุกขึ้นยืนท่าเดียวโดยไม่สนใจว่าบาดแผลมันจะเปิดหรือไม่ซึ่งเพราะฤทธิ์ยาชาทำให้เธอดิ้นออก แต่พอหมดฤทธิ์เมื่อไหร่เธอคงจะร้องโอดครวญเมื่อนั้น


     
    "นอนได้แล้ว เดี๋ยวแผลก็ไม่หายหรอก"ร่างสูงกล่าวเสียบเนิบๆเขาจับเธอนอนพร้อมห่มผ้าให้เป็นครั้งที่สอง แต่โซราเมะก็ยังไม่ยอม เธออยากกลับไปนอนพักที่บ้านของกาอาระ ที่นั้นมีสัมภาระของเธออยู่ร่วมไปถึงเสื้อผ้าด้วย


     
    "แต่ฉันอยากได้กระเป๋าของฉันนิน่า"

     
    "เดี๋ยวฉันให้คนไปเอามาให้ นอนได้แล้ว"ร่างสูงเรื่องเหนื่อยกับการกล่อมคนตัวเล็ก มันจะมีสักวิธีไหมที่ทำให้เธอยอมนอนลงได้โดยที่เขาไม่ต้องเปลืองแรง.....อืมมม....ก็เหมือนจะมีอยู่นะ

     
     
    หมับ!

     
     
    เพราะเธอไม่ยอมนอนเสียแต่โดยดี ร่างสูงจัดการล้มตัวลงนอนก่อนจะคว้าตัวเธอเข้ามากอดไว้ เขาตีหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ในขณะที่โซราเมะนอนเกร็งตัวแข็งถือโดยมีผ่าห่มผืนบางเป็นตัวกั้นเขากับเธอ


     
    "นอนได้แล้ว"เขาพูดอีกครั้งก่อนจะกระชับอ้อมแขนไว้แน่น นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้กอดคนคนหนึ่งด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ครั้งแรกชีวิต ความอุ่นแผ่ซ่านไปทั่ว ร่างบางรู้สึกประหม่าและขะเขินกับวิธีการบังคับให้นอนของอีกฝ่ายยังไงก็ไม่รู้ เล่นทำเอาตกใจจนพูดไม่ออกเลย

     
    "...ไข้ยังไม่หายหรอ?"คงเพราะการถูกกอดทำให้เธอรู้ว่ากาอาระยังไม่หายไข้สนิท ร่างกายยังคงมีความร้อนอยู่มาก กาอาระพยักหน้าให้ทั้งๆที่หลับตาอยู่ 

     
    "ขอพักหน่อยก็แล้วกัน"เสัยงทุ้มเอ่ยด้วยอารมณ์ไหนคนร่างเล็กไม่อาจะทราบ แต่เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายยังป่วยอยู่จากที่คิดจะโวยวายก็กลายเป็นนอนนิ่งให้เขากอดซะงั้น

     
    เวลาผ่านไปไม่นานเสียงกรนเบาๆของร่างบางก็ดังขึ้น ขนาดถูกเขากอดเธอยังหลับลงน่าตาเฉยจนร่างสูงเผลอยิ้มอีกครั้ง กาอาระมองดวงหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่เอี้อมด้วยความรู้สึกมากมาย เขาต้องหาวิธีจัดการความรู้สึกของเขาซะ

     
    พอใจยอมรับว่าชอบ เขาก็อยากอยู่ใกล้ อยากสัมผัส อยากพูดคุยแต่ว่าถ้าเธอเป็นผู้ร้ายสังหารไดเมียวจริงๆ เขาจะทำยังไง ถ้าพวกนั้นตามมาเจอเธอและขอให้แคว้นสึนะช่วยจับกุม เขาจะทำยังไง ยิ่งด้วยฐานะของคาเซะคาเงะแล้วไม่อาจจะขัดขว้างการจับกุมไปเลย เขาต้องตัดสินใจเพื่อคนหมู่มาก ไม่ใช่เพื่อตัวเอง

     
     
    อาโองาวะ โรคุโจ....ฉันจะปกป้องเธอยังไงดี

     
     
    ความกังวนฉายขึ้นในดวงเนตรสีหยก ร่างสูงกดใบหน้าลงบนเรือนผมสีขี้เถ้าอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้มากขึ้นราวกับต้องการกำลังใจจากคนข้างกาย...จะต้องปกป้องให้ได้

     
    ผ่านไปชั่วโมงกว่ากาอาระถึงได้หลับลงเพราะอาการเพลียจากไข้ที่ยังไม่หายสนิท สองร่างนอนกอดกันกลมอย่างน่าเอ็นดู....เล่นทำเอาคนที่เผลอเข้ามาให้ถึงกับหน้าแดง

     
    "กะ กาอา..อุ๊บ!" ใช่แล้ว มีคนถือวิสาสะเข้ามาให้ห้องทำงานของเขาโดยไม่ได้เคาะประตู และเป็นความบังเอิญที่ประตูห้องพักชั่วคราวนั้นกลอนหลวม มันจึงเปิดออกเองเพราะความเก่า เพราะเมื่อเห็นว่าไม่พบน้องชายคนสุดท้องถึงได้ถือวิสาสะเดินเข้าไปดูในห้อง

     
    เสียงทุ้มใหญ่ของพี่ชายคนกลางเผลออุทานด้วยความตกใจ เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เล่นทำเอาเจ้าของลายแถบบนหน้าถึงกับอึ้งไปนานเลยที่เดียว ถ้าไม่ถูกมือของเทมาริปิดปากไว้คันคุโร่คงตะโกนเรียกกาอาระไปแล้ว

     
    "ชู่!"เทมาริยกนิ้วขึ้นเป็นการส่งสัญญาณให้เงียบ เธอเองก็ตกใจไม่แพ้คันคุโร่นั้นแหละ เพียงแค่เธอรู้จักโซราเมะอยู่ก่อนแล้วเท่านั้น เทมาริค่อยๆปิดประตูห้องอย่างเบามือที่สุด เมื่อแน่ใจว่าประตูปิดสนิทแล้ว คันคุโร่จึงได้โพลงคำถามออกไปทันที

     
    "มะ เมื่อกี้ฉันตาไม่ฝาดใช่ปะ!?"คันคุโร่มองราวกับภาพเมื่อครู่มันเป็นภาพวาบหวิบ ร่างสูงใหญ่หน้าแดงเถือกอย่างห้ามไม่อยู่....เห็นเถื่อนๆงี้เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ไร้ประสบการณ์เรื่องความรักนะจะบอกให้!(มันน่าอวดตรงไหน-*-)

     
    "นายก็เห็นอย่างที่ฉันเห็น"เทมาริกล่าวพลางกอดอก ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้  ใจเธอนึกคัดค้านอย่างแรง.....ถึงกาอาระจะพอใจก็เถอะแต่จะให้คนที่เดี๋ยวเป็นชายเดี๋ยวเป็นหญิงมาเป็นว่าที่น้องสะใภ้ละก็ ฉันรับไม่ได้!

     
    .....แต่เดี๋ยวนะก็นี้มันยังกลาววันอยู่ แล้วทำไมเธอถึงยังไม่คืนสภาพเป็นผู้ชายละ?

     
    "ว่าแต่ผู้หญิงคนเมื่อกี้คือใครหรอ?"คันคุโร่เอ่ยถามเทมาริ เธอน่าจะรู้เรื่องมากกว่าเขา เขาหายออกไปจากหมู่บ้านแค่สี่วันเอง แค่สี่วันเองนะ! สี่วัน!.....กาอาระก็มีคู่เป็นตัวเป็นตนแล้ว แล้วเขาละ พระเจ้าไม่เห็นส่งใครมาให้เลย!?

     
    "เป็นคนหลงทางไร้ความทรงจำ เราพึ่งเจอเธอเมื่อไม่นานมานี้ กาอาระเรียกเธอว่าโซราเมะ ตอนนี้กาอาระกำลังสืบความเป็นมาของเธออยู่"ฟังประวัติแล้วคันคุโร่ก็ขมวดคิ้ว ไม่มีความทรงจำเนี่ยนะ คนแบบนี้มันออกจะอันตรายไปสักหน่อยสำหรับตำแหน่งคาเซะคาเงะแฮะ

     
    "แล้วได้ความบ้างรึเปล่า?"คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้า คันคุโร่เปลี่ยนจากสีหน้าแตกตื่นเป็นครุ่นคิด เขามองหน้าเทมาริราวกับกำลังสื่อถึงความต้องการบางอย่าง

     
    "ฉันว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกับกาอาระนะ ผู้หญิงไร้ที่มาคนนั้นอันตรายเกินไปสำหรับกาอาระ"จริงดังคันคุโร่ว่า ตอนที่อยู่ในฐานะของสหายก็นับว่าเสี่ยงมากแล้วที่เธออาจจะเป็นสปายสืบข่าว ถ้าใกล้ชิดกันมากกว่านี้เกรงว่ากาอาระอาจจะถูกเธอหลอกใช้ได้

     
    เพราะเป็นคนมองโลกในแง่ความความเป็นจริง และความปลอยภัยของกาอาระ คันคุโร่จึงรู้สึกไม่สบายใจนักหากกาอาระจะสนิทสนมกับคนที่ที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานแบบนี้


     
    "อืม ฉันก็ว่าอย่างงั้นแหละ"เทมาริกล่าวให้ความเห็น ตอนนี้พวกเขาคงไม่พูดอะไร รอให้กาอาระตื่นขึ้นมาก่อน หลังจากการรายงานภารกิจพวกเขาสามพี่น้องก็ได้เปิดอกคุยกันซะที 




     
    +++++++++++++++++++++

     
     
    ตัดมาทางด้านของโคโนฮะบ้าง พวกเขาทั้งสามกำลังเดินสำรวจในเมืองระหว่างรอการกลับมาของเทมาริและคันคุโร่ ซากุระเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ เธอดูเครื่องประดับเมืองทะเลทรายอย่างตื่นตา จะมีก็แค่เจ้าผู้ชายขี้เก็กสองคนที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง คนหนึ่งก็เอาแต่หาวแล้วก็บ่นถึงรสนิยมของเธอ กับอีกคนที่แทบจะไม่ปริปากพูดอะไรเลย

     
    "นี้ ฉันรออยู่ร้านนี้ละกัน เดินเสร็จแล้วมาตามด้วยละ"เพราะขี้เกียจ ชิกามารุเลือกที่จะนั่งรอที่ร้านน้ำชาเพื่อนั่งพักผ่อนหย่อนใจ เขาเงยหน้ามองฟ้ารอเวลา....เมื่อไหร่ยัยตัวดีของเขาจะกลับมานะ

     
    "จ้า"ซากุระขานรับอีกฝ่ายอย่างร่าเริง....ไม่สิต้องเรียกว่าฝืน ฝืนเพื่อที่จะไม่หดหู่เวลาอยู่ใกล้กับซาซึเกะ


     
    "ซาซึเกะคุงจะนั่งรอกับชิกามารุไม? ฉันคงจะเดินไปทั่วเมืองเลยนะ"เธอถามอีกฝ่ายอย่างสดใส 

     
    "ไม่เป็นไร ฉันจะไปกับเธอ"ร่างสูงกล่าวก่อนจะออกเดินไม่ให้ซากุระต้องยืนรอ คำพูดเพียงเล็กน้อยกับทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยๆเขาก็อยากเดินเล่นกับเธอ

     
    ทั้งสองคนเดินผ่านฝูงชนโดยที่ไม่ได้พูดอะไรมากนัก ซากุระยังคงเดินดูของที่ขายอยู่รอบๆเมือง ที่นี้เป็นเมืองทะเลทรายมันจึงเต็มไปด้วยแร่หินสีสวยแปลกตามากมายและยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่ทำจากเนื้องูและจระเข้อีกด้วย...ก็เป็นเมืองทะเลทรายนิน่า

     
    "ว้าว! อันนี้สวยจัง"ร่างบางอุทานมองสร้อยคอเงินที่ประกอบด้วยจี้รูปหยดน้ำสีชมพู มันคือแร่โรสควอสที่สวยงาม สีชมพูคือสีที่เหมาะกับเธอที่สุด เธอมองมันอย่างโปรดปรานและตั้งใจจะซื้อมัน

     
    "ชะ ช่วยด้วย! ขโมย! ขโมย!"เสียงโวยวายมาจากระยะไม่ไกลนักดังขึ้น ซากุระหยุดสายตาจากสร้อยคอเส้นงามไปยังร่างของหัวขโมย เธอรีบให้ความช่วยเหลือผู้ถูกฉกกระเป๋าทันที่ ร่างบางวิ่งเข้าหาหัวขโมยก่อนจะง้างหมัดอย่างไม่คิดอะไร

     


     
    โครมม!


     
     
    หมัดเล็กแต่แข็งแกร่งดังภูผาซัดเข้ากลางใบหน้าของหัวขโมย แรงมหาศาสทำให้ร่างนั้นกระเด็นไปไกลหลายเมตร สร้างความตกใจไม่น้อยให้แก่ผู้พบเห็น แต่คนที่จะยินดีที่สุดก็คงไม่พ้นเจ้าของกระเป๋าที่ถูกชกชิงมา

     
    "ขะ ขอบคุณมากคะ"เสียงของหญิงสาวดังขึ้นด้วยอาการหอบ เธอรับกระเป๋ามาจากซากุระ หญิงสาวคนนั้นรีบเปิดเช็คของข้างในกระเป๋า ยังคงอยู่ดีไม่มีอะไรถูกหยิบออกไประหว่างที่หัวขโมยออกวิ่ง

     
    "ระวังตัวด้วยละ อ๋อ อย่าลืมพาเจ้านั้นไปหาตำรวจด้วยละ"ซากุระยิ้มร่าให้อีกฝ่าย เธอปฏิเสธการตอบแทนบุญคุณของอีกฝ่ายก่อนที่้งคู่จะพากันเดินออกจากพื้นที่ตรงนั้น เพราะพวกเธอเริ่มเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป

     
    "วันนี้อาการร้อนเป็นพิเศษเลยแฮะ"เจ้าของเนตรสีมรกตกล่าวไปพลางยกมือขึ้นโบกพัดให้กับตัวเองเพื่อไล่เหงื่อ ซาซึเกะเปรยตามองร่างบาง....เขาคิดว่าเขาควรจะทำอะไรบางอย่าง

     
    "ฉันอยากดื่มน้ำ ไปร้านนั้นกันเถอะ"ร่างสูงกล่าวพลางเดินนำให้ซากุระเดินตามเขาไปยังร้านขนมแห่งหนึ่ง ซากุระนึกขอบคุณอีกฝ่ายที่กำลังหิวน้ำเหมือนกับเธอพอดี

     
    ทั้งสองนั่งพักทานขนมและน้ำชาเพื่อรอเวลาเย็น แสงแดดและกระแสลมที่กำลังแรงขึ้น ที่นี้มันมักจะเกิดเหตุทางภัยธรรมชาติอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องของพายุทราย แถมก่อนที่เธอจะเดินทางมาทำภรกิจก็มีข่าวเรื่องเขื่อนที่เกือบแตก เล่นทำเอาคนที่โคโนฮะเป็นห่วงกันแทบแย่

     
    เนตรสีนิลมองร่างบางที่กำลังทานขนมด้วยสีหน้าเรียบ เขากำลังหาโอกาสี่จะปรับความเข้าใจกับร่างบางตรงหน้า หลายครั้งที่เขาพยายามคุยเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอมักจะหลีกเลี่ยงที่จะคุย....เขารู้ดีเธอกลัวที่จะเจ็บปวดเพราะคำพูดของเขาอีกครั้ง

     
    ร่างสูงมองเนตรสีมรกตด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะเป็นเพียงแค่เพื่อนรวมภารกิจ...เขาหลงรักเธอมานานมากแล้ว แต่เพราะในวัยเด็กเขาเลือกที่จะทำเพื่อครอบครัว เขาจึงหันหลังให้กับเธอ ให้กับหมู่บ้านและนารูโตะ เลือกอุดมคติของตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย....และเพื่ออิทาจิ

     
    ร่างสูงเกิดกำหมัดและกัดฟันแน่....เขากำลังนึกเจ็บใจตัวเอง กว่าจะรู้ตักเขาก็ถูกความเคียดแค้นครอบงำไปทุกส่วนของจิตใจ และลบความรู้สึกทุกอย่างออกมา

     
    แต่ถึงจะเป็นอย่างงั้น ซากุระก็เป็นคนเดียวที่ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขา รอคอยให้เขากลับมาแม้เขาจะพยายามฆ่าเธอก็ตาม....เพราะแบบนั้นแหละ เขาถึงได้รักเธอ รักเหลือนเกิน...

     
    "...ซาซึเกะคุง เป็นอะไรรึเปล่า น่าเครียดเชียว?"กว่าจะรู้ตัวว่ตัวเองทำสีหน้าแบบไหนออกไป เขาก็ตื่นจากความคิดเพราะเสียงหวานที่เรียกเขา มือบางเขย่าแขนเขาเบาๆเพื่อเรียกสติ

     
    "โทษที ไม่มีอะไรหรอก"เจ้าหนุ่มซึนเดเระตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ ซากุระยังคงยิ้มให้เขาไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน ทั้งสองจ่ายเงินก่อนจะเดินกลับไปยังร้านที่ชิกามารุรออยู่

     
    "มากันแล้วหรอ?"เจ้าหัวจุกยังคงดื่มน้ำชาอย่างขี้เกียจ ทั้งสามคนตัดสนใจกลับไปที่ห้องพักของหลังจากที่ดูบรรยากาศแล้ว มันอาจจะเกิดพายุทราย

     
    ทั้งสามต่างมีห้องเป็นของตัวเอง ซากุระเดินไปนอนเล่นที่เตียงราคาถูกแต่มันก็สบายใช้ย่อย เธอถอนหายใจกับการเดินเล่นในวันนี้....ก้รู้สึกดีอยู่หรอกที่ได้เดินเล่นกับซาซึเกะ แต่ทำไมเขาต้องทำหน้าเครียดด้วยน่า

     
    ร่างบางนั่งรำลึกความหลังอยู่เงียบเพียงคนเดียว เธอยังคงรักซาซึเกะอยู่เสมอ แม้จะมีหลายครั้งที่เกิดลังเล แต่สุดท้ายเธอก็ยังเลือกเขา แต่เพราะกลัวเธอจึงได้สร้างระยะห่าง เพื่อตัวเองและเพื่อซาซึเกะ เธอไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว แม้จะเป็นรักข้างเดียวที่เจ็บปวดแต่เธอก็ยินยอมให้มันเป็น เธอจะยอมเป็นเพียงเพื่อนของเขาเหมือนเดิมเพราะรัก รักมากจนไม่อาจจะทนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป...เธอรักเขามากเหลือเกิน

     
    "จริงสิ สร้อยเส้นนั้น"คงเพราะตอนต่อยหน้าโจรนั้นแหละเธอถึงได้ลืมซื้อสร้อยเส้นนั้นกลับมา ร่างบางถอนหายใจ นอนจากจะไม่ได้สร้อยแล้วเธอยังต้องมารู้สึกหดหู่ถึงความคิดของตัวเองอีก

     
    ในด้านของซาสึเกะ เขานั่งลงบนเก้าอี้พลางมองเจ้าสร้อยเงินที่มีหินสีชมพูเป็นจี้ แสงของสร้อยกระทบเขาตา ก่อนที่เขาจะกำมันไว้แน่น....ถึงเวลาที่เขาควรจะบอกเธอสักที ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

     
     
    ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ.....





    +++++++++++++++++

    มีคู่เรียกน้ำย้อยเพิ่มละ 555+
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×