ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] โอเอซิส

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 เพราะอย่างอื่น?

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 58





    บทที่ 5 เพราะอย่างอื่น?




     
     
    กาอาระลืมตาขึ้นมาในช่วงบ่ายของวัน ร่างสูงมองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยงของวัน อุณหภูมิร่างกายเขาดีขึ้นแต่ก็ยังร้อนอยู่ เนตรสีหยกหันไปมองรอบห้องเมื่อเห็นความผิดปกติ มันดูสะอาดสะอ่านและเรียบร้อยขึ้น และที่สะดุดตาที่สุดก็คือร่างโปร่งของโซราเมะ เจ้าหนุ่มวัยสิบหกที่กำลังนั่งหลบไม่รู้ความอยู่ใกล้ๆ

     
    เฝ้าไข้เขาตลอดเลย?

     
    พอคิดว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเป็นใยร่างสูงก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองอาการดีขึ้นแล้ว กาอาระจึงเลือกที่จะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำและแต่งตัวเสียใหม่

     
    ร่างสูงอยู่ในชุดทำงานพร้อม เขาหันไปมองเจ้าของเกศาสีขี้เถ้า แววตาฉายกระแสเอ็นดูออกมาก่อนจะเหลือบไปเห็นหนังสือที่เขาเอามาจากสำนักงาน มันวางอยู่ใกล้กับโซราเมะ....คงจะอ่านมันแล้วสินะ

     
    เมื่ออีกฝ่ายรับรู้ถึงวิธีการคลายคาถาของตัวเอง กาอาระชันคางอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป


     
    ตู้ม!


     
    เสียงระเบิดดังขึ้นลั่น แน่นอนมันเป็นเสียงที่เกิดจากทรายของกาอาระ  เสียงนั้นดังขึ้นมากพอที่จะทำให้คนที่กำลังหลับน้ำลายยืดตื่นได้สติขึ้นมา

     
    "ว้าย!"เจ้าตัวร้องลั่นออกอาการคล้ายแต๋วแตกทันใด เจ้าตัวตกเก้าอี้ก้นกระแทกพื้น โซราเมะตาเขียวมองกาอาระ

     
    "ทำบ้าอะไรของนายนะ!"เวลาที่ถูกกาอาระกลั่นแกล้ง เขามันจะลืมไปว่าอีกฝ่ายคือใคร กาอาระกอดอกมองคนตรงหน้าก่อนจะตอบคำถาม

     
    "แล้วได้ความทรงจำคืนมาไหม?"ร่างสูงถาม นี้แหละคือสาเหตุแค่ทำห้ช็อคมากๆน่าจะทำให้อีกฝ่ายได้ความทรงจำกลับคืนมา ดูเหมือนเจ้าคนขี้โวยวายพึ่งจะคิดได้ว่าตัวเองตกใจมากแค่ไหนและมันทำให้ความทรงจำอะไรกลับมารึเปล่า


     
    "...ไม่มีอะ ผมยังจำอะไรไม่ได้เลย"เจ้าของเนตรครามส่ายหน้าให้คำตอบ น่าเสียดายแรงปะทะคงไม่มากพอจะนำความทรงจำกลับคืนมา


     
    "ว่าแต่แต่งชุดนี้จะไปไหนหรอครับ?"ในที่สุดโซราเมะก็สังเกตเห็นว่าคนป่วยตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว แม้จะมองเห็นรอยแดงจากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นอยู่บ้าง แต่ถ้าให้เทียบกับเมื่อเช้าถือว่าดีมากแล้ว

     
    "สำนักงาน"โซรามองขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย....เขาคงเป็นพวกบ้างานสินะ


     
    "จะดีหรอครับ? ท่านยังไม่หายดีเลยนะครับ"ร่างโปร่งกล่าวถามอย่างห่วงใยพลางยกมือขึ้นเอื่อมไปแตะหน้าผาก ราวกับมีกระแสไฟฟ้าที่มือนั้นกาอาระรู้สึกประหลาดในสัมผัสนั้น มือเรียวของโซราเมะแม้จะอยู่ในร่างบุรุษแต่ก็บอกบาง มันทั้งเย็นสบายและอบอุ่น

     
     
    ตึกๆ

     
     
    อีกแล้วเสียงประหลาดในอกซ้ายเขาดังขึ้นอีกครั้ง เลือดสูบฉีด และรู้สึกได้อาการร้อนผ่าวที่ใบหน้า ภาพของเจ้าหนุ่มโซราเมะถูกซ้อนแทนทีด้วยภาพของสาวน้อยเสียแทน....บางที่คงเป็นเพราะหวัดที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้

     
    "ไหวรึเปล่าครับ? หน้าแดงมากเลยนะ"โซราเมะมองอีกฝ่ายอย่างห่วงใย ก็อยู่เล่นหน้าแดงขึ้นมาใครๆก็ต้องห่วงกันทั้งนั้น


     
    "....ไม่มีอะไร ฉันไปละ"ร่างสูงไม่รีรอให้อีกฝ่ายถามอะไรมากกว่านั้น เขารีบตัดบทและเดินออกจากห้องไป โซราเมะเห็นดังขึ้นก็ยังไม่คลายกังวล จึงรีบตามติดร่างสูงไป


     
    "งั้นทานข้าวเกิดเถอะครับ จะได้ทานยาวันนี้ท่านคาเซะคาเงะจะได้ทำงานไหว"ว่าล้วก็เริ่มลงมือทำอาหารอ่อนบำรุงกำลังอีกฝ่าย เขาทำความต้มทรงเครื่องที่ใช้ทั้งต้นหอมและขิง และไข่แดงและเนื้อสับ

     
    แน่นอนว่ากาอาระทานอาหารอย่างเร่งรีบเพราะนึกถึงเอกสารที่อาจจะมีมากองโตแล้วก็เป็นได้ ยาเม็ดสุดท้ายลงคอไปในที่สุด กาอาระสวมรองเท้าและเตรียมออกจากบ้าน


     
    "เจ้เทมาริก็รออยู่ที่สำนักงานใช่ไหมครับ?"


     
    "ไม่อยู่หรอก ไปทำภารกิจ"ร่างสูงกล่าวขณะที่สวมรองเท้าข้างสุดท้ายเสร็จ


     
    "งั้นผมของไปด้วยได้ไหมครับ ท่านไม่สบายอยู่ผมคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่านะครับ"ร่างโปร่งกล่าวอย่างตรงไปตรงมา กาอาระมองแววตากลมโตและแฝงได้วยความจริงใจ นั้นสิให้มาช่วยดูแลเขามันน่าจะดีกว่า

     
    "อืม เข้าใจแล้ว"ร่างสูงกล่าวอกีครั้งเป็นสัญญาณอนุญาติให้โซราเมะเดินทางไปด้วย เจ้าตัวยิ้มร่อย่างพอใจ ก็ในที่สุดเขาก็ได้ออกไปข้างนอกเสียที อยู่แต่ในบ้านมาสองวันติด

     
    เจ้าตัวรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าสัมภาระโดยไม่ลืมที่จะนำเสื้อผ้าผู้หญิงไปด้วย เขาหยิบตัวยาที่จำเป็นไปด้วยเพราะเกรงว่าที่สำนักงานอาจจะต้องวิ่งไปขอที่ห้องพยาบาลซึ่งมันอาจจะยุ่งยาก

     
    ทั้งสองเดินทางไปยังสำนักงานโดยที่รอบข้างทางมีแต่ชาวบ้านที่ก้มหัวลงให้กับกาอาระ ผู้ติดตามเช่นเขาในตอนนี้จึงต้องเจียบตัวและทำตัวให้น่าเกรงขามเข้าไว้เพื่อที่จะได้ไม่ทำให้คาเซะคาเงะต้องขายหน้า

     
     
    อ่าคิดผิดรึเปล่านะที่ตามมา...ไม่หรอกดีแล้ว เกิดคาเซะคาเงะเป็นอะไรขึ้นมาเขาคงรู้สึกแย่ตามไปด้วย

     
     
    เพราะเป็นผู้มีพระคุณและเพราะได้อยู่ดูแลจึงได้รู้ว่ากาอาระนั้นแม้จะมีผู้คนรอบข้างแต่ก็ยังเดียวดายเมื่อเทียบกับครอบครัวอื่น เขาอยากมองสิ่งๆให้กับอีกฝ่ายบ้างเพราะยังไงอีกฝ่ายก็คือผู้ช่วยเหลือเขา

     
    "ท่านคาเซะคาเงะ"เสียงของนินจาเฝ้าประตูดังขึ้น เมื่อเห็นผู้เป็นนายเดินเข้ามาในสำนักงาน จึงรีบเปิดประตู ตลอดข้างทางได้รับเสียงคำทักทายโดยที่กาอาระเพียงพยักหน้าให้กับพวกเขาเท่านั้น

     
    ในที่สุดก็เดินมาถึงห้องทำงานของเขา เป็นอย่างที่คิด มีเอกสารกองโต๊ะหนึ่งกองวางอยู่บนโต๊ะ กาอาระวางน้ำตาลงและเริ่มทำการวิเคราะห์และเซนต์เอกสาร

     
    ห้องที่เคยเกิดการวางยาลอบสังหาร โซราเมะแอบขนลุกเล็กๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ดีนะที่รอดมาได้

     
    ร่างโปร่งมองเจ้าของดวงตาคมที่วาดด้วยถ่านสีเข้มที่กำลังจดจ่ออยู่กับการทำงาน อากาศในวันนี้ค่อนข้างแปรปรวนเพราะระหว่างทางโซราเมะเห็นเมฆตั้งเค้ามาแต่ไกล...วันนี้ฝนตกแน่ๆ

     
    เพราะอากาศที่เริ่มเย็นลงเพระาความชื้นและกระแสลมแรง โซราเมะตัดสินใจเดินไปปิดหน้าต่างทุกปานในห้อง ปานนี้บนหลังตากคงเปิดฝาแท้งน้ำรอรับน้ำฝนอยู่แน่ๆ มีไม่บ่อยนักที่จะเกิดพายุฝนกลางทะเลทรายแบบนี้

     
    ระหว่างที่กาอาระยังคงสนใจแต่ตัวงานอุณหภูมิร่างกายของเขาก็เริ่มสูงขึ้น เหงื่อเม็ดใหญ๋เริ่มซึมออกมาตามใบหน้าและซอกคอ ก่อนที่เขาจะสะดุ้งน้อยๆเมื่อรู้สึกถึงผ้าผืนหนึ่งที่ตกลงมาคลุมไหล่ให้เขา

     
    "ไหวรึเปล่าครับ?"

     
    "อืม ฉันไม่เป็นไร"ร่างสูงพยักหน้าให้เป็นเชิงขอบคุณก่อนจะกระชับผ้าคลุมไหล่ไว้แน่น โซราเมะคาดการณ์อะไรไว้มากมาย กระเป๋าของเขาจึงเต็มไปด้วยสิ่งจำเป็นสำหรับคนป่วย

     
    ผ่านไปหลายชั่วโมงในที่สุดฝนที่ตั้งเค้าก็ตกลงมาเสียที เสียงผู้คนเฮอาดังขึ้นไปทั่ว เพราะไม่บ่อยนักที่ฝนจะตก ทุกคนจึงช่วยกันขนอ่างมารองรับน้ำเพราะกบัเต้นระบำกลางฝ่ายฝนอย่างชุ้มช่ำ

     
    "หมู่บ้านนี้มีอะไรให้มองมากกว่าที่เห็นนะครับ"เจ้าของเนตรคามเอ่ยถามเจ้าแคว้นแห่งทรายด้วยรอยยิ้ม โซราเมะมองไปยังหน้าต่างที่มีกระแสฝนซัดสาด ผู้คนยิ้มร่าพอใจกับกระแสน้ำเย็น เขาชอบจังเวลาที่ได้เห็นผู้คนยิ้มแย้ม

     
    กาอาระไม่ตอบอะไรใบหน้าของเขาเริ่มแรงอีกครั้งเพราะพิษไข้ เพราะแบบนั้นทำให้เขาไม่สนใจอะไรนอกเสียจากกองเอกสาร


     
    เคร้ง


     
    เป็นอีกครั้งที่มีสิ่งเรียกความสนใจของเขา จานกระเบื้องสีขาวที่มีผลส้มน่าทานวางอยู่

     
    "ผมเาผลไม้มาจากที่บ้าน ผมคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยมากกว่านะครับ"ร่างโปร่งกล่าวพลางคะยันคะยอให้อีกฝ่ายทานพร้อมทั้งยังอวดคุณสมบัติของเจ้าส้มเสียซธดิบดีว่ามันช่วยรักษาอาการหวัดไข้ได้จนในที่สุดเจ้าพอประคุณหน้านิ่งก็ยอมกินมันเขาไป

     
    "หวาน"ร่างสูงกล่าวเบาๆ ของหวานทำให้คอและปากของเขาชุ่มชื่นอีกครั้ง ร่างสูงหยิบส้มเข้าปากชิ้นแล้วชิ้นเล่าอย่างพอใจ โซราเมะเห็นว่าเมื่ออีกฝ่ายทานได้จึงเริ่มแกะผมส้มลูกที่สองและเริ่มวางในจานให้อีกครั้ง

     
    ซ่าๆๆ

     
    เสียงฝนฟ้าเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ กระแสลมที่เริ่มแรงที่ฟังได้จากเสียงที่ลมกระแทกกับปานหน้าต่าง

     
    ผ่าง!!


     
    เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นลั่นร่างโปร่งมองมันผ่านปานกระจกหน้าต่าง เสียงมันดังมากพอที่จะทำให้เขาตกใจและที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขามองเห็นภาพบางอย่างในความทรงจำ

     
    ในสถานทีที่เขาไม่รู้จักเขามองเห็นสายฟ้าเช่นนี้ฟาดลงบนท้องฟ้า เมฆครึ้มและเงาคนสองคนที่ยืนทะเลาะกัน ก่อนที่อีกคนจะแทงดับใส่ร่างนั้นจนมิด!

     
    นี้มันคือความทรงจำแบบไหน ทำไมอยู่ๆเขาถึงเห็นภาพแบบนี้ หรือเพราะเขาแค่ตกใจกับเสียงและภาพของสายฟ้าที่เขาเห็นเมื่อครู่ คนพวกนั้นเป็นใครกัน

     
    "...โซราเมะ"ใบหน้าที่กำลังหวาดวิตกและซีดเผือกสบัดหน้าขึ้นมองต้นเสียง มือใหญ่ทั้งสองข้างของกาอาระเขย่าไหล่ของเขาเบาๆ สีหน้าแม้ดูเรียบเฉยแต่ก็มีความห่วงใย กาอาระเห็นคนตรงหน้าอยู่ก็เงียบไปพร้อมกับผลส้มที่หมด เขาถึงได้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นมีสีหน้าหวาดกลัวแค่นั้น

     
    "เกิดอะไรขึ้น?"

     
    "รู้สึกเหมือนผมจะได้ความทรงจำบางส่วนกลับมานะครับ มันเป็นความทรงจำที่น่ากลัว ผมเห็นคนคนนึงกำลังฆ่าคนอยู่ในช่วงเวลาที่มีเสียงฟ้าผ่าแบบนี้นะครับ"ร่างโปร่งพยายามฝืนเย็มแม้ใบหน้าจะซ๊ดเซียวไปบางก็ตาม

     
    "แล้วจำได้ไหมว่าตัวเองเป็นใคร"

     
    "ไม่เลยครับ"มั้งสองถอนหายใจเมื่อไร้ความคืบหน้า กาอาระบอกให้โซราเมะแกะผมส้มให้เขาต่อ ร่างดปร่งนึกพอใจเมื่ออีกฝ่ายร้องขอให้เขาทำอะไรให้บ้าง

     
    ในที่สุดเอกสารกองโต๊ะก็พร่องลงไปเหลือเพียงหนึ่งในสิบ กาอาระจึงเร่งสปีดเต็มที่เพื่อรีบๆทำให้มันจบ เขาเริ่มจะตาลายและเจ็บคอมากขึ้นจนเผลอไอออกมาหลายรอบจนในที่สุดมันก็เสร็จจนหมด

     
    "ผมว่าท่านควรไปพักผ่อนนะครับ"ว่าแล้วร่างโปร่งจึงรีบเดินไปเชิงพยุงในอีกฝ่ายลุกขึ้น เพื่อเดินไปยังห้องพัก แต่แล้วเพราะความซุ่มซามของโซราเมะ เขาตัวเผลอเดินสะดุดขาตัวเองจนล้มลงบนโซฟา อีกทั้งกาอาระพอถูกดึงให้ล้มลงไปตัว เจ้าตัวพอมีสติจึงรีบใช้มือยันผนักพิงของโซฟาไว้


     
    กึก!

     
    "ท่าคาเซะคาเงะเกิดเรื่องใหญ่....แล้วครับ"ประจวบเหมาะพอดีกว่าน่ากลัวเมื่อจู่ๆก็เกิดเรื่องฉุกเฉินทำให้นินจาที่มารายงานข่าวพรวดพราดเข้ามาแบบไม่บอกไม่กล่าว นินจาคนนั้นจึงได้เห็นสภาพของวีรบุรุษแห่งแคว้นกำลังยืนคร่องร่างของหนุ่มน้อยที่นั่งยู่บนโซฟา

     
    แล้วด้วยความที่เจ้าสองคนนี้มันซื่อบื้อทั้งคู่ กาอาระไม่คิดมากอยู่แล้วส่วนเจ้าคนโดนคร่อมไม่ต้องบอก มันไม่เคยคิดอะไรเลย!

     
    "มีเรื่องอะไร"กาอาระยืนตัวตรงอย่างมีภูมิแม้ตอนนี้ขเาจะไม่สบายก็ตามที โซราเมะลุกขึ้นยืนจากโซฟาเดินยืนนิ่งๆอยู่ข้างหลังกาอาระแแทน...ด้วยสีหน้าใสซื่อสุดๆ

     
    "อ่า อะแฮมๆ คือเขื่อนเก็บน้ำท้ายหมู่บ้านนะครับ มันรั่วคาดว่าจะต้านได้ไม่น่าน"นินจารายงานข่าวด้วยสีหน้าคล้ายยังไม่หายตกใจ เขาจึงต้องไออ้อมแอ้มกลบเกลื่อน

     
    "เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้"กาอาระกล่าวก่อนจะเดินตามนินจารายงานข่าวไปทันที โดยไม่ทันได้ยินคำห้ามของโซราเมะ

     
    "เดี๋ยว!"ช้าไป พวกเขาได้ออกวิ่งไปแล้ว โซราเมะขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ อากาศที่แปรปรวนและอาการไข้ของกาอาระ อีกไม่นานก็ใกล้มืดแล้วเธอที่ไม่มีวิชาอะไรเลยติดตัว การตามไปอาจจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นนัก โซราเมะเกาะขอบหน้าต่างมองไปยังเบื้องล่าง กาอาระวิ่งฝ่าฝนมุ่งตรงไปยังทำแหน่งเขื่อนที่อยู่ใกล้กับโอเอซิสทางใต้ของหมู่บ้าน

     
    เขื่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะสาวตา ความสูงของมันทำให้พอรู้ได้เลยว่าหากเขื่อนแตกขึ้นมา กว่าครึ่งของหมู่บ้านต้องจมหายไปปในน้ำอย่างแน่นอนนี้คงเป็นวิกฤตครั้งใหญ่แน่ๆ ตามไปก็คงช่วยอะไรใครไม่ได้....

     
     
    10นาทีต่อมา

     
     
    ช่ายๆ พึ่งบอกกับตัวเองไปเมื่อกี้ว่าเขามันไร้ประโยชน์....ทั้งๆที่ก็คิดถูกแล้วแต่เขาก็ยังจะเจือกตามมาอีก!

     
    ร่างโปร่งยืนหลบกระแสลมแลที่กำลังพัดแรงอยู่หลังอาคารแห่งหนึ่ง เสื้อคลุมที่หยิบฉวยได้จากภายในห้องของคาเซะคาเงะเธอเอามาคลุมร่างกันกระแสลม ชายหนุ่มมองเหล่าทีมนินจากำลังช่วยกันอพยมผู้คนในขณะที่ที่กาอาระกำลังใช้กองทรายขนาดมหึมาเพื่อดันไม่ให้เขื่อนร้าวไปมากกว่านี้ ทีมก่อสร้างกำลังเร่งมือในการซ่อมแซมเขื่อน

     
    โซราเมะซ่อนตัวมองเขื่อนที่ปรากฏรอยราวอยู่หลายจุด ทรายของกาอาระสามารถยันเขื่อนไว้ได้ก็จริงแต่ไม่มีใครทราบสภาพในตอนนี้ของเขา เพราะลอยสูงอยู่เหนือพื้นด้วยก้อนทราย ร่างกายของร่างสูงกำลังร้อนจัดเพราะพิษไข้ ใบหน้าเรียงนิ่งก็แต่แฝงอาการหอบทรมาณออกมาชัดเจน 
    ร่างโปร่งมองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ ไม่รู้จะยันเขื่อนได้อีกนานแข่ไหนในสภาพนั้น

     
     
    โครม!

     
     
    มีจุดหนึ่งของเขื่อนแตกทะลักออกมา กาอาระขยับมืออีกข้างขึ้นบังคับทรายให้ไปอุดรอยรั่วขนาดใหญ่ ร่างสูงกัดฟัดแน่น เพราะสภาพที่ไม่อำนวยทำให้เขาต้องเค้นจักระออกมาจากร่างมากกว่าปกติ อาการหอบและไอเริ่มมีมากขึ้น ร่างสูงที่ไม่สวมเสื้อคลุมยิ่งทำให้ร่างกายเย็นลงอย่างมาก

     
    "แคกๆ"กาอาระไออย่างหนัก จนทำให้จักระที่ส่งไปที่ทรายอ่อนตัวลง น้ำปริมาณมหาศาลไหลทะลักออกมา กระแทกอัดเหล่านินจาไปหลายคน กาอาระรีบเค้นแรงที่มีอยู่ควบคุมทรายอีกครั้งและยืนผนักเขื่อนไว

     
    'มา! เดี๋ยวฉันช่วยเอง กาอาระ'

     
    เสียงแหลมหนึ่งดังขึ้นก้องในโสตประสาท และแล้วจักระปริมาณมาหาศาสก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของกาอาระ มือใหญ่สองมือปรากฏขึ้นจากร่างของเขาพร้อมกับลายอัขษระต้องสาป สัตว์หางได้ช่วยพยุงจักระของกาอาระก่อนจะแผ่คลุมทรายออกไปจนสุดปากเขื่อนอัดแน่นจนเม็ดทรายกลายเป็นปึกแผ่น และหยุดการไหลของน้ำได้อย่างสนิท!

     
    "แคกๆ"กาอาระไอพร้อมกับหมดแรงกับการยันเขื่อน ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนแอมากเกินไป เนตรสีหยกแทบจะลืมตาไม่ขึ้น ก่อนที่เขาจะหมดสติลงเพราะพิษไข้

     
    "กาอาระ!"เพระาความตกใจ ดซราเมะรีบกระโจนออกมาจากที่ซ่อนเพื่อคว้ารับร่างของกาอาระที่กำลังร่วงหล่นลงพื้น ร่างโปร่งโจนรับร่างของคาเซะเคาเงะได้อย่างทันท่วงทีแต่ก็เอาเอาจุกไปเลยทีเดียว

     
    พวกนินจาที่เห็นเหตุการณ์ต่างรีบวิ่งกรูเข้ามาดูอาการของท่านคาเซะคาเงะ เพราะมั่วแต่ดีใจจึงไม่ทันได้มองว่าเจ้าแคว้นได้ร่วงหลนลงมาจากก้อนทรายที่ลอยสูงเหนือพื้น

     
    "กาอาระ กาอาระ!"มือเรียบของเจ้าหนุ่มตบหน้าของอีกฝ่ายเบาๆเพื่อให้ได้สติ แต่ว่าทันทีที่แตะโดนตัวก็ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายไข้ขึ้นสูงมาก เนตรสีหยนกหอบหายใจรวยรินไม่อาจจะรับรู้ได้ว่าใครได้ช่วยเหลือตนเอง

     
    "รีบพาท่านกาอาระกลับไปเร็ว!"ไม่รู้ว่าเสียงของใครดังขึ้น แต่เมื่อโศตประสาทของโซราเมะได้ยินดังนั้นจึงรับแทกร่างของเจ้าแคว้นไว้บนหลังและรีบออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครได้เห็นใบหน้าของเขาเพราะถูกเสื้อคลุมและฮู้ดปิดบังจนมิดชิด

     
    น่าแปลกที่ไม่มีใครตามมาประกบพวกเขาทั้งสองคนเลย แต่สายไปแล้ว ไม่ทันได้คิดถึงความจริงของนี้โซราเมะก็ถูกกลุ่มคนปริศนาล้อบหน้าล้อมหลังอย่างรวดเร็ว....พวกมันรู้ว่ากาอาระในตอนนี้กำลังอ่อนแอ!?

     
    ร่างโปร่งกัดฟันแน่นอย่างครุ่นคิด ตอนนี้เขาไม่มี อาวุธไม่มีวิชาในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย จะทำยังไงดี!?

     
    "พวกนายเป็นใคร!?"ทามกลางกระแสฝนและลมแรง คำถามนั้นจึงเบาหวิวและไล่คำตอบ กลุ่มลอบสังหารครั้งที่สามบปามีคุไนใส่ ราวกับเป็นไปตามสัญชาตญาติ ร่างกายของเขากระโดดหลบนี้โดยอัตโนมัติ ดูเหมือนร่างกายจะจดจำวิธีหลบหลีและการวิ่งในแบบฉบับของนินจาได้ คงคล้ายกับการปั้นจักรยานที่เมื่อปั้นได้ครั้งนึงก็จะปั้นได้ตลอดไปไม่มีวันลืม
     
     
    ฉึก ฉึก!

     
    เสียงมีคุไนปักลงบนพื้นเมื่อเหยื่อของพวกเขาสามารถหลบหลีได้ ร่างกายเมื่อถึงยามคับขันมักจะไปไวกว่าความคิด ร่างโปร่งก้าวขาวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว ผู้ลอบสังหารใช้คาถาแยกเงาเพื่อตามประกบผู้แบกร่างของคาเซะคาเงะไว้บนหลัง

     
    "ตามมาติดๆเลยแฮะ..."ร่างโปร่งพึมพำเบาๆ ก่อนจะรีบเหยียบเบรคแล้วเลี้ยวหลบวิชากระสุนน้ำ มันเฉียวโดนต้นขาของเขาไป เนตรสีขาวขยิบด้วยสีหน้าเจ็บจี้ด เขาต้องอดทนและออกวิ่งกลับไปถึงสำนักงานให้ได้ทว่า...


     
    ที่นี้มันที่ไหน!?

     
     
    ความซวยมาเยือนอีกครั้ง เขาผู้ซึ่งไม่เคยสำรวจหมู่บ้าน จึงไม่แปลกหากจะไม่รู้จักเส้นทาง ร่างโปร่งรีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต เขารู้สึกได้ว่าอีกไม่กี่นาทีร่างกายของเขาจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง...แย่ แย่ แย่ที่สุด!

     
    "เจอตัวแล้ว!"เสียงของศัตรูดังขึ้นพร้อมคาถาเพลิง โซราเมะรีบกระโดดหลบอีกครั้ง คราวนี้เขากระโดดขึ้นบนหลังคา ทว่ากระแสลมนั้นแรงกว่าที่คิด ร่างโปร่งทรุดเข่าลงเมื่อไม่สามารถรับน้ำหนักของคนบนหลังได้อีกต่อไป..

     
     
    เปลี่ยนเป็นผู้หญิงอีกแล้ว!

     
     
    ร่างกายที่เคยกำยำกลับกลายเป็นร่างที่บอกบางอีกครั้ง แต่ยังไงก็ต้องกัดฟันสู้ กาอาระอยู่ในอันตรายเธอพยายามพยุงร่างของเจ้าแคว้นสึนะขึ้นบนหลังอีกครั้ง เธอไม่เข้าใจ....ทำไมถึงไม่มีคนออกมาช่วยพวกเขาเลย!

     
    "โซ ระ...เมะ"เสียงแหบพร่าของคคนบนหลังดังขึ้น กาอาระได้คืนสติแต่ก็ยังไร้กำลัง เขามองเห็นคนที่แบกเขาไว้บนหลังไม่ชัดนัก เห็นเพียงเสี้ยวหน้าก็พอเดาได้ว่าป็นใคร

     
    "กาอาระ ทำใจดีๆไว้"ร่างบางรีบเปลี่ยนเป็นพยุกให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืน ร่างสูงถูกขึงแขนมาคล้องคอของคนตัวเล้กกว่าเพื่อให้สามารถยืนขึ้นได้ กาอาระกวาดตามองกลุ่มผู้ลอบสังหารอีกครั้ง....ถึงในที่ประชุมจะลงความเห็นว่าเป็นคนจากหมู่บ้านคิริ แต่เขารู้ดีคนพวกนี้คือกบฏที่ยังไม่ยอมรับตนตัวของเขา

     
    เนตรสีหยกพยายามเป็นอยากมากที่จะกวาดตามองศัตรูให้หมด จักระปริมาณหนึ่งปรากฏขึ้นและควบคุมทรายก่อนจะทำการจับกุมอย่างรวดเร็ว ก้อนทรายกับคนพวกนั้นไว้ได้ทั้งหมดและเหลือเพียงช่วงใบห้าเท่านั้นที่ยังไม่จมทราย

     
    "ไปจากที่นี้"กว่าจะเค้นเสียออกมาได้กาอาระก็แทบจะหมดสติ ร่างบางรีบพากาอาระเข้าที่หลบภัย ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแต่ยังพอมองเห็นอาคารร้างแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้โอเอซิสที่เธอเดินทางมาถึงครั้งแรก

     
    ยังดีทีที่แห่งนี้ไม่มีรูบนเพดานหรือกำแพง ร่างบางรีบพากาอาระไปนั่งพิงผนังฝั่งหนึ่งก่อนที่จะรีบขยับตู้ไม้เก่าให้ปิดหน้าต่างที่เสีย เพื่อกันลมและฝน

     
    โซราเมะจัดการถอดเสื้อคลุมออก ร่างกายเปียกชื้นและเสื้อผ้าแนบลูบไปตามร่างกาย แต่ตอนนี้ใครจะสน เธอรีบจัดการถอดเสื้อตัวนอกออกก่อนจะปิดหมาดเสื้อตัวนอกและเสื้อ กล้ามจนเห็นพุงขาวโผ่ลออกมา เธอจัดการผูกแขนเสื้อกล้ามขึ้นเพื่อลดความกว้างของคอเสื้อ

     
    เธอยังจำได้ดีถึงปฏิกิริยาที่กาอาระเห็นตอนเธอใส่เพียงเสื้อกล้าม ในขณะเดี๋ยวกันเธอก็รีบเข้าไปดูอาการของอีกฝ่าย ร่างสูงตาปรือมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังจัดการถอดเสื้อผ้าตัวนอกของเขา จนเหลือแต่กางเกง ร่างกายของเขาร้อนขึ้นเรื่อยๆในขณะที่อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ


     
      โซราเมะกัดฟันครุ่นคิดตามนิสัย เธอวิ่งไปเปิดดูตู้ไม้ที่เธอเอาได้ปิดช่องหน้าต่าง ในนั้นยังพอมีผ้าแห้งอยู่บ้าง เธอหยิบมันมาเช็ดตัวให้กับกาอาระ

     
    "รู้สึกดีขึ้นไหม?"น้ำเสียงหวานถามอย่างห่วงใยอีกครั้งผ้าพื้นใหม่ถูกนับมาคลุมร่างกายเพื่อให้อีกฝ่ายอบอุ่นึ้น เนตรสีหยกจดจ้องดวงหน้าหวานด้วยพิษไข้ มือหน้ายกขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกปอนเพราะน้ำฝนก่อนจะเกี่ยวเส้นผมของเธอไว้หลังหู เขาจ้องอยู่นานโดยไม่มีคำพูดใดๆจนคนถูกจ้องเริ่มรู้สึกหน้าแดงอย่างบอกไม่ถูก

     
    "เดี๋ยวฉันจะตามคนมาช่วย"โซราเมะกล่าว เธอรู้สึกแปลกๆกับสถาณการณ์แบบนี้ ร่างบางเตรียมลุกขึ้นยืนเพื่อจะรีบหาทางไปรายงานข่าวเรื่องของคาเซะคาเงะ ทว่าข้อมือบางกลับถูกคนตัวใหญ่กว่ารั้งเอาไว้

     
    "...ได้โปรด...อย่าไป"น้ำเสียงทุ้มกล่าวทั้งๆที่สติเลื่อนราง เขาไม่รู้ตัวหรอกว่าพูดอะไรออกไปเพียงแต่เขาไม่ต้อง...ไม่ต้องการจะอยู่อย่างเดียวดายอีกแล้ว

     
    หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร เธออึ้งเล็กน้อยกับคำขอของเขา ที่หรี่ตาลงมองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ทำไมเธอรู้สึกว่าชีวิตก่อนหน้านี้ของคนคนนี้นั้นมันเต็มไปด้วยความเดียวดายและโหดร้าย เธอนั่งลงข้างๆอีกฝ่ายโดยที่เขายังจับข้อมือของเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป

     
    สุดท้ายเธอก้ไม่ได้เดินไปแจ้งข่าว หญิงสาวเลือกที่จะก่อไฟจากเศษไม้ภายในอาคารก่อนจะจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่น ร่างกายของเธอเย็นลงเรื่อยๆ หากยังปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปเธออาจจะเป็นไข้ตามกาอาระก็เป็นได้

     
    ผ้าแห้งเพียงเพียงผืนที่เธอให้กาอาระห่ม ส่วนอีกผืนที่ใช้เช็ดตัวกาอาระเธอเอามาเช็ดตามเผื่อจะช่วยให้ร่างกายแห้งเร็วขึ้น เสียงฟ้าฝนยังคงร้องดังไม่หยุด


     
    ตุบ


     
    ไม่ทราบว่าผ่านไปกี่นาที แต่สติของคนข้างกายได้หายไปอีกครั้ง ศรีษะของเขาเองพิงทับศรีษะของเธอ เสียงหอบยังคงดังขึ้น เหงื่อเม็ดใหญ่เริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าอีกครั้ง โซราเมะพยายามค้นหายาในกระเป๋าใบเล็กที่พบติดตัวมา มียาและน้ำอยู่แต่ว่าคนที่ต้องกินยาวกลับไร้สติไปแล้วนี้สิ

     
    "นี้กาอาระ...ไม่สิ ท่านคาเซะคาเงะ ตื่นมากินยาก่อนเถอะ"แน่นอนว่ามันไร้ความหมาย ร่างบางมองคนที่นอนพิงกำแพงไร้สติ หญิงสาวจับให้ร่างสูงนอนลงในท่าที่สบายที่สุด ไฟใกล้มอดเต็มทีแถมไม่เหลือเชื้อเพลิงอีกด้วย

     
    เธอตัดสินใจจับยาเม็ดเข้าปากตตัวเองพร้อมน้ำก่อนจะประกบริมฝีปากของอีกฝ่าย เม็ดยาถูกดุนเข้าสู่ลำคอของอีกฝ่ายในที่สุด ร่างบางแม้จะรู้สึกขะเขินไปบางแต่ก็ทำไปเพื่อคนป่วย หญิงสาวจับให้ศรีษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีโลหิตนอนหนุนตัก เธอมองอีกฝ่ายด้วยความเห็นใจและอาทร ขอให้พายุหยุดลงโดยเร็ว เธอจะได้พากาอาระไปที่สำนักงาน...อย่างน้อยเขาก็จะถึงมือหมอ

     
    ไม่นานโซราเมะก็หลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ยิ่งเสียงของกระแสฝนทำให้ชวนผล่อยหลับไปในที่สุด

     
    กลับกันคนที่วครไร้สติกลับมีสติ เมื่อมั่นใจว่าร่างบางนอนหลับสนิทไปแล้วเขาถึงได้ลืมตาขึ้น ก่อนจะเผลอแตะที่ริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกป้อนยาด้วยวิธีนี้


     
    สัมผัมมันเบาหวิวแต่ก็อ่อนหวาน อกข้างซ้ายเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ เป็นเพระหวัดหรอเขาถึงเป็นแบบนี้ หรือเพระาอย่างอื่น...ทำไมเขารู้สึกว่ามันเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่หวัด

     
    แล้วอย่างอื่นที่ว่ามันคืออะไร เขาไม่เข้าใจ แล้วทำไมในตอนนี้แม้จะรู้สึกทรมาณจากพิษไข้แต่ก็รู้สึกดีอย่างน่าประหลาด

     
     
    เขาเป็นอะไร....
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×