ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Naruto] โอเอซิส

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ก็ไม่รู้เหมือนกัน(แก้คำผิดครั้งที่1)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 60




    บทที่ 1 ก็ไม่รู้เหมือนกัน




     
     
    ภายใต้แคว้นทรายผืนใหญ่ก็จะใช่ว่าจะไร้ป่าใม้ โอเอซิสทางใต้ของหมู่บ้านอุดมไปด้วยดินที่มีแร่ธาตุสูงและแหล่งน้ำสะอาดขนาดใหญ่ ที่นี่ราวกับสวรรค์ของหมู่บ้านหากไม่ใช่เพราะงูพิษร้ายที่ครอบครองดินแดนนี้อยู่ ไม่ว่าจะกำจัดไปมากเท่าใด พวกมันก็ยังคงปรากฏตัวออกมาอยู่เรื่อยๆอย่างไม่มีวันหมด


     
    และสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายแห่งนี้กลับปรากฏร่างของบุรุษร่างเล็กที่กำลังถูกรายล้อมไปด้วยเด็กน้อยที่นั่งลงฟังเขาเล่านิทานอย่างใจจดใจจอโดยไม่หวาดกลัวต่อเหล่างูพิษที่ไม่รู้ว่าจะปรากฏตัวออกมาเมื่อใด


     
    "....เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง มันก็สายไปแล้ว ซามูไรดาเตะไม่สามารถนำดอกคิคุสีน้ำเงินมาสร้างยาถอนคำสาปให้กับเจ้าหญิงได้ เจ้าหญิงโรคุโจได้กลายร่างเป็นพระจันทร์สีนวลตารอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า ชายหนุ่มคร่ำครวญสุดใจจะขาด เขาร้องไห้อย่างนั้นอยู่นานถึงสามวันสามคืน ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตลงเพราะตรอมใจ พระอาทิตย์ผู้สร้างคำสาปให้เจ้าหญิงโรคุโจนั้นแสนจะสะใจเมื่อศัตรูคู่แข่งความรักได้ตายลง คำสาปทำให้เจ้าหญิงลอยเด่นอยู่เคียงข้างตนเอง ทว่าพระจันทร์นั้นเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญที่ชายคนรักตายไป


     
    พระอาทิตย์ได้โอกาสนั้นเเข้าไปปลอบใจ หวังจะได้ความรักตอบกลับ ทว่าพระจันทร์กลับยิ่งคร่ำครวญเสียใจหนักขึ้นเรื่อยๆ สายลมเห็นใจในความรักของทั้งสองคนจึงใช้ก้อนเมฆบดบังร่างของพระจันทร์ให้พ้นสายตาของพระอาทิตย์และใช้ลมหอบพัดให้พระจันทร์หนีออกไปให้พ้นพระอาทิตย์ ไปไกลจนถึงอีกฟากของโลก กว่าพระอาทิตย์จะรู้ตัวเขาก็ไม่สามารถวิ่งตามพระจันทร์ได้ทันอีกต่อไป


     
    ยามไร้แสงของพระอาทิตย์ ท้องฟ้าจึงมืดลง ทำให้สายลมได้เห็นแสงระยิบระยับรอบตัวพระจันทร์ที่ถูกบดบังด้วยเมฆของเขา น้ำตาของพระจันทร์กลายเป็นดวงดาวนับล้าน แผ่นดินเห็นน้ำตานับล้านของพระจันทร์ก็ไม่อาจทอดทิ้งพระจันทร์ได้ เขาจึงได้ชุบชีวิตให้กับซามูไรดาเตะในร่างของกระต่ายขึ้นมาและให้ไปอยู่บนดวงจันทร์เพื่อให้ทั้งคู่ได้ครองรักกันตลอดไป....จบแล้ว"


     
    บุรุษร่างเล็กใบหน้าเกลี้ยงเกลาฉีกยิ้มร่าอย่างสดใสก่อนจะปิดสมุดในมือลงพร้อมกับการปรากฏกสีหน้าช่างสงสัยของเด็กน้อยสองสามคนรอบตัวเขา


     
    "อ้าว แล้ววันที่ไม่มีพระจันทร์กับดวงดาวละคะ? ไม่มีดวงดาวก็แสดงว่าพระจันทร์ไม่ได้ร้องไห้ แล้วพวกเขาหายไปไหนละคะ?"เด็กหญิงถามอย่างสงสัยในขณะที่บุรุษเนตรครามกลับฉีกยิ้มสนุกสนานพลางหัวเราะคิกคัก


     
    "พวกเขาไปทำธุระละมั้ง"เขากล่าวก่อนจะหัวเราะอีกรอบ พระจันทร์ที่ไม่เศร้าใจแต่หลบหลังกลีบเมฆ....ก็คงกำลังสวีทหวานอยู่กับกระต่ายหนุ่มแน่ๆ


     
    "หรอคะ....นี่ๆพี่ชายเล่าอีกได้ไหมคะ หนูอยากฟังอีก"


     
    "ผมด้วยๆ"ว่าแล้วเด็กน้อยทั้งหลายก็เริ่มจ้อแจ้ๆประท้วงกันอีกรอบ เจ้าหนุ่มเนตรครามผู้มีเส้นผมสีขี้เถ้าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีมองเด็กน้อยรุ่มอ้อนเขาใหญ่


     
    "ไม่มีทาง สัญญากับพี่ไว้แล้วนิว่าถ้าฟังเรื่องนี้จบแล้วจะกลับบ้านกันนะ"เขากล่าวพลางดีดหน้าผากของเด็กน้อยเบาๆ พวกเด็กทำหน้ามุ้ยกันเล็กน้อยแต่ก็ยอมจากไปแต่โดยดี


     
    เมื่อพวกเด็กๆกลับไปแล้ว เนตรครามจึงหันไปมองทางทิศหนึ่งหลังอาคารร้างใกล้ๆ เจ้าหนุ่มวัยสิบหกลุกขึ้นยืนพลางยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อย และในตอนนั้นเองที่มีสองร่างไม่คุ้นตาปรากฏขึ้น

     
    "หือ?"เจ้าหนุ่มอารมณ์ดีหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้


     
    "ไง"


     
    "นายเป็นใคร ต้องการอะไร?"คำทักทายไม่มีผลได้ๆกับเทมาริ เธอถามอย่างจริงจังและตรงไปตรงมาทันที แม่สาวหัวหน้ากองอารักษ์ขาคาเซะคาเงะมองอีกฝ่ายอย่างนึกสงสัย เขาดูเหมือนนินจาเพราะมีกระเป๋าไว้เก็บมีดคุไนและดาวกระจายแต่กลับไม่มีตราสัญญาลักษณ์ของหมู่บ้านเลย หรือจะเป็นพวกในบัญชีดำอย่างที่กาอาระสงสัยจริงๆ?


     
    "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"


     
    "หา?"เทมาริร้องเสียงหลงหากเต็มไปด้วยความหงุดหงิด มองเจ้าคนแปลกหน้าที่กอดอกกัดฟันทำหน้าครุ่นคิดถึงคำถามของเธอ.....นี้มันตั้งใจกวนประสาทเธอใช่ไหมเนี่ย!?


     
    เทมาริชักพัดยักษ์ออกมาทันทีทันใด อีกฝ่ายมาไม้ไหนไม่รู้แถมยังมากวนประสาทเธออีก 


    .....แม่จะพัดให้กระเด็นเลยเชียว!

     
    "ดะ เดี๋ยวๆ! ผมพูดจริงนะ ผมไม่รู้จริงๆ!"เจ้าเนตรครามทำตาเหลือก เหงื่อแตกพลักเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะลงไม้ลงมือ กาอาระเห็นสีของอีกฝ่ายแล้วจึงตัดสินใจยกมือห้ามไม่ให้พี่สาวของเขาลงมือทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย


     
    "ที่พูดมาหมายความว่ายังไง?"เสียงทุ่มเย็นของบุรุษร่างสูงเบื้องหลังของแม่สาวจอมโหดดังขึ้น เจ้าหนุ่มเป่าปากโล่งอกเมื่ออีกฝ่ายดูเหมือนจะรับฟังเขาบ้างแล้ว


     
    "คืองี้นะ.....ผมความจำเสื่อมน่ะ"


     
    "หา! นี้แกอย่ามาโกหกหน้าด้านๆนะ!"ไม่ทันสิ้นประโยคเทมาริก็แผดเสียงร้องแสบแก้วหูออกมา เธอไม่ปักใจเชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายพูดจริงแม้ว่าเหตุการณ์ในเวลานี้จะสุขสงบเกินกว่าจะเกิดเหตุร้ายได้


     
    "โห่เจ้! ใจเย็นๆแล้วฟังผมก่อน ผมพึ่งรู้สึกตัวเมื่อสองวันก่อนกลางทะเลทราย ความทรงจำบางส่วนของผมหายไป ผมจำได้แค่เรื่องราวของโลกนินจา แต่จำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้เลย"เจ้าหนุ่มกลาวพลางยกไม้ยกมือขึ้นห้ามเทมาริไม่ให้เธอปาอะไรใส่หัวเขา เธอกำลังหรี่ตาจับผิดเจ้าหนุ่มอย่างน่าสงสัย


     
    "ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นคนของหมู่บ้านสึนะก็เลยเดินทางมาที่นี่เผื่อจะมีใครรู้จักผมบ้าง"ที่กล่าวว่านั้นมีเหตุผมเทมาริพยักหน้ารับเริ่มทำความเข้าใจกับอีกฝ่าย ในขณะที่กาอาระกลับเริ่มครุ่นคิดถึงคาถาพิเศษที่เกี่ยวของกับความทรงจำแทน....เขาไม่สงสัยว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บจนสูญเสียความทรงจำ เพราะดูภาพรวมแล้วก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร น่าจะถูกคาถาเสียมากว่า


     
    "แล้วทำไมถึงไม่เข้าไปในหมู่บ้านละ?"เจ้าของเนตรสีหยกถามอย่างแปลกใจ


     
    "ใจนึงผมก็อยากเข้าอยู่หรอก แต่ใจนึงผมกลัวว่าถ้าเกิดผมเป็นคนมีหมายจับเข้าไปในหมู่บ้านแล้วเกิดโดยจับขึ้นมาผมก็หนีไม่ได้นะสิ ผมนะ มั่นใจว่าก่อนสูญเสียความทรงจำผมต้องเป็นนินจาแน่ๆ แต่ว่าตอนนี้กระทั้งคาถาแยกเงาใช้ยังไงผมยังจำไม่ได้เลย"หลังจากนั้นเจ้าหนุ่มก็เริ่มบ่นๆทำหน้าท้อแท้จิตตก เทมาริถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางบีบสันจมูกเบาๆ.....เธอเจออีตาคนเพี้ยนอีกคนนึงแล้ว


     
    "เอายังไงกาอาระ?"เธอหันไปถามคาเซะคาเงะรุ่นห้าผู้สวมฮู้ดปกปิดใบหน้าอย่างสงสัย 


     
    "พากลับไปที่เมืองก่อน เราอาจช่วยเขาได้"คาเซะคาเงะหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าเรียบ


    .....คงปล่อยชายคนนี้ไว้ตามลำพังไม่ได้ 


    แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆก็อีกฝ่ายก็กระโจนเข้ามาสวมกอดเขาอย่างเต็มรักแบบไม่บอกไม่กล่าว


     
    "ขอบคุณมากๆ ขอบคุณจริงๆ!"เจ้าหนุ่มตัวเล็กกว่ากอดบุรุษร่างสูงพร้อมกับน้ำตาปริ่มที่หางตา เจ้าตัวยิ้มแปร่อย่างมีความหวัง โดยไม่ได้ดูสีหน้าเทมาริที่แอบขนลุกซู่เบาๆ.....ดีนะที่กาอาระไม่ใช่ผู้ชายประเภทนั้น ไม่งั้นเธอคงรับไม่ได้แน่ๆ ถ้าคาเซาคาเงะรุ่นที่ห้าจะเป็น เกย์ขึ้นมาละก็


     
    "ว่าแต่คุณชื่ออะไร ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย"เจ้าหนุ่มถอนอ้อมแขนก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับมือแทนแล้วโยกขึ้นโยกลงอย่างยินดีปรีดา


     
    "เออ....กาอาระ"เจ้าแนะนำตัวสั้นๆ แต่นั้นก็มากพอจะทำให้เจ้าหนุ่มเนตรสีครามยิ้มออก


     
    "อืมๆ ชื่อแปลกดีแฮะๆ ส่วนผมก็.....แล้วแต่จะเรียกละกัน ผมก็ไม่รู้ว่าผมชื่ออะไร แล้วเจ้ละ ชื่ออะไร?"ว่าแล้วก็หันไปถามเทมาริ่ที่กำลังทำหน้าแหย่มองเจ้าคนเพี้ยนจับมือแท็คแฮนกับเธอราวกับคนบ้า


     
    "พอเลย ฉันไม่ใช่เจ้นาย ฉันชื่อเทมาริ"ว่าแล้วเธอก็สะบัดมือทิ้งก่อนจะมองเจ้าคนแปลกหน้า ลึกๆเธอไม่ไว้ใจหมอนี้หรอก ท่าทางเพี้ยนๆอาจจะเป็นการแสดงก็ได้ แต่เธอไม่อยากขัดความคิดกาอาระ ยิ่งหลังๆเขาเปิดใจรับผู้คนมากขึ้น นั้นทำให้เธอแทบจะสนับสนุนทุกการกระทำที่เป็นการเข้าสังคมและเข้าช่วยเหลือคนอื่นของกาอาระ ทุกอย่างเพื่อความสุขของน้องชายคนสุดท้องของเธอ ร่วมกระทั้งในตอนนี้ก็ด้วย


     
    "งั้นก็กลับกันเถอะ"กาอาระกล่าวพลางชำเหลือกมองพฤติกรรมของเจ้าคนแปลกหน้า ก่อนจะสบมองเนตรสีครามที่ส่งยิ้มมาจากปากและตา




     
    ลางสังหรณ์ในใจเขาดังขึ้น มันต้องมีเรื่องสักอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ เขารู้สึกได้




    แต่มันเรื่องอะไรละ?




    ++++++++++


    แก้คำผิดครั้งที่1
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×