ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic naruto] Desert & Sky

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 มาเฟีย(เช็คคำผิด100%)

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 58





    บทที่ 1 มาเฟีย



     
         "ตามมันเร็ว!"


     
         "อย่าให้รอดไปได้!"ความมืดเงียบสะงัดหากยังคงมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นระงมไปทั่วโกดังแห่งหนึ่งติดกับท่าเรือ บุรุษชุดดำราวกับรัตติกาลจำนวนนับสิบต่างกำลังแยกย้ายกันค้นหาและตามล่าอะไรบางอย่าง วัตถุสีดำเงาในมือของพวกเขากำลังส่องเล็งมองหาเป้าหมายคนคนนั้น...ซาบาคุโนะ กาอาระ 


     
    ปีศาแห่งทะเลทราย!

     
     
    ...แห่กๆ.....ท่ามกลางความมืดที่น่าหวาดหวั่น ร่างหนึ่งหลบซ่อนอยู่ในเงามืดอย่างเงียบงัน คืนนี้ไร้แสงจันทร์ทำให้การค้นหาตัวของชายคนนี้นั้นยากกว่าที่คิด

     
         เนตรสีหยกจับจ้องไปยังร่างนับสิบของเร่ามือสังหารก่อนจะก้มลงมองบาดแผลที่ไหล่ซ้ายของตัวเอง เขากัดฟันแน่นอย่างเจ็บใจ ความเจ็บปวดแล่นริ้ไปทั่วร่าง มือขวากระชับอาวุธติดตัวไว้แน่นโดยหมายมั่นจะทำให้ชีวิตพวกมันทุกคนที่กล้าทำร้ายคนจบลงพร้อมความตาย

     
    แต่ไม่ใช่เวลานี้ ร่างสูงหลับตาแน่นพร้อมกับหอบหายใจถี่ เขาต้องรอดไปจากที่นี้ให้ได้เสียก่อนจึงจะล้างแค้นพวกมันได้

     
         เขาคือหนึ่งในผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของโลกมาเฟีย หัวหน้าแก็งมาเฟีย ชูคาคุ หนึ่งในห้าแก็งมาเฟียอันดับต้นๆของเอเชีย ชายผู้ถูกขนานนามว่า ปีศาจแห่งทะเลทราย ทรงอำนาจ น่าเกรงขาม ยิ่งใหญ่และมากล้นด้วยเงินตราทว่าตอนนี้ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่...กำลังอ่อนแอลง

     
         ร่างสูงใช้ฝ่ามือกระชับบาดแผลไว้แน่นภายใต้ชุดสูทสีเข้ม ขายาวกำลังก้าวเท้าอย่างรวดเร็วแต่เงียบสนิท นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกตามล่าและมันจะต้องไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

     
         "เวรเอ้ย! หายไปไหนแล้ววะ!?"เหล่ามือสังหารจากแก็งคู่อริสถบด่าอย่างหงุดหงิดทว่าก็ยังตามหาต่อไป พวกมันรู้ดีว่าเขาหนีไปไหนไม่รอดแล้ว หนึ่งในนั้นมีชายคนหนึ่งสังเกตเห็นเลือดเห็นบนพื้นที่หยดใหลเป็นทาง พวกมันยิ้มเหี้ยมก่อนจะรีบตามรอยเลือดนั้นไปโดยไม่เล็ดลอดเสียงใดๆ

     
    ในจังหวะนั้นเอง กาอาระผู้กำลังหลบซ่อนได้รีบวิ่งออกจากที่ซ่อนเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง พวกมันหลงกลเหยื่อล่อของเขา ร่างสูงวิ่งกระหืบกระหอบใบหน้าซีดเซียว เขาเสียเลือดมากเกินไปจนแทบจะเป็นลมเสียให้ได้เดี๋ยวนั้น


     
    เอี้ยด!

     
     
         เหล่าชายชุดดำหยุดชะงักด้วยอาการหวาดระแวง เสียงเบรคดังขึ้นลั่นซะจนทำเหล่าผู้กำลังก่อการร้ายถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง
    เนตรสีหยกมองรถที่มาจอดอยู่ไม่ไกลอย่างแปลกใจ นี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าไม่น่าจะมีใครมาทำอะไรแถวท่าเรือได้ อีกทั้งคนที่กำลังลงมาจากรถเก่าคันเล็กนั้นก็เป็น....ผู้หญิง

     
         "เมี้ยวๆ~ อยู่ไหนออกมาเร็ว เมี้ยว~ ฉันจะพาแกไปทำแผล"เสียงหวานดังขึ้นก้องกังวาล เสียงใสนั้นกำลังร้องเรียกแมวน้อยตัวใดตัวหนึ่งแถวนั้น ในมือถือขนมแมวเพื่อเอามาใช้ล่อมัน เธอขยับแว่นหนาเตอะบนหนาให้เข้าที่ก่อนจะเรียกแมวน้อยอีกครั้ง

     
         ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมาทำอะไร แต่นี้คือโอกาสของเขา! 

     
         ไม่รอช้า ในขณะที่พวกแก็งคู่อริยังคงจดจ่ออยู่ที่หญิงสาวร่างบางปริศนาที่กำลังอุ้มแมวตัวหนึ่งขึ้นรถ กาอาระรีบขยับร่างกายอย่างรวดเร็วไปอีกฟากของรถยนต์คันเล็กและใช้จังหวะที่หญิงสาวปิดประตูตำแหน่งเบาะหน้า เปิดประตูรถและกระโจนเข้าไปโดยที่ไม่มีใครในที่นั้นได้เห็นตัวเขา!

     
         "เจ้าตัวเล็ก แผลแกก็ไม่ใหญ่มากทำไมกลิ่นแรงจัง?"เสียงหวานใสพูดพลางหันไปมองเจ้าแมวตัวจรจัดตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่เบาะหน้าข้างคนขับ กลิ่นเลือดคละคลุ่งไปทั่วรถซะจนเธอแปลกใจมองแผลที่สะโพกของเจ้าเหมี่ยวอย่างเห็นใจ

     
    เธอยกนิ้วขึ้นถูจมูกราวกับว่ามันจะช่วยคลายกลิ่นเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วรถก่อนที่เธอจะขับมันออกไปจากท่าเรือ

     
         เจ้าแมวบาดแผลใหญ่ช่วยชีวิตกาอาระได้อย่างพอดี กลิ่นเลือดที่กำลังตลบอบอวนไปทั่วรถที่กำลังถูกบ่นนั้นคือกลิ่นเลือดของเขา เนตรสีหยกเงยขึ้นมองกระจกด้านข้างเพื่อดูว่าออกมาจากท่าเรือรึยัง พวกมันจะรู้รึเปล่าว่าเขาหนีออกมาได้แล้ว

     
         "เมี้ยว~"เสียงร้องแหลมหวานของเจ้าแมววัยสี่เดือน มันกำลังร้องเรียกความสนใจจากคนขับ เขาว่ากันว่าสัตว์มักจะรู้ว่ามนุษย์คนไหนเป็นคนดีคนไหนเป็นคนเลว มันรู้ว่าอีกฝ่ายช่วยเหลือมัน มันจึงยอมให้อีกฝ่ายอุ้มขึ้นรถไปแต่โดยดี

     
         "โอ๋ๆ รอเดี๋ยวนะ ไปถึงคลินิกแล้วฉันจะหาอะไรให้กินแล้วจะได้รักษาแผลกัน"ร่างบางกล่างพลางลูบศรีษะของเจ้าแมวน้อยอย่างเอ็นดู 

     
         ชื่อของเธออาโคงาวะ โรคุโจ แต่ผู้คนมักจะเรียกเธอว่าโซราเมะ เธอเป็นสัตวแพทย์ที่พึ่งถูกเด้งออกจากโรงพยาบาลเมื่อสดๆร้อยไม่กี่วันที่ผ่านมา เพียงเพราะเธอหักหน้าลูกสาวของรองผอ.ต่อหน้าลูกค้าโดยการแย้งเกี่ยวกับวิธีรักษาที่ไม่ถูกต้อง เท่านั้นแหละความซวยก็เลยบังเกิด

     
      และหวยไม่ได้ออกแค่เธอ ยังออกที่หัวหน้างานของเธอด้วยซึ่งก็คือป้าซึนาเดะ ผลจากการถูกเด้งทำให้ป้าของขึ้นถึงขั้นมาเปิดคลินิกรักษาสัตว์ตรงข้ามกับโรงพยายาบาลเสียเลยและวันนี้เธอรับแขกคนแรกของคลีนิกกับไปรักษา

     
         มีคนรู้จักของเธออยู่ที่ท่าเรือและโทรมาบอกเรื่องเกี่ยวกับแมวจรจัดที่ถูกหมาจัด หลังจากได้รับข่าวเธอจึงรีบตรงดิ่งมาทันที เธอยอมขับรถออกจากบ้านราวๆชั่วโมงกว่าเพื่อมารับเจ้าเหมี่ยวนี้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้มี 'ทานูกิ' หนึ่งตัวติดรถมาด้วย

     
         ด้านหลังเบาะคนขับ เจ้าทานูกิ กำลังสอดส่องสายตาอย่างรอบคอบ เขาต้องรีบหาที่ซ่อนตัวและรักษาแผล โดยสถานทีที่ว่ามันต้องไม่ใช่โรงพยาบาล ที่นี้ไม่ใช่ถิ่นเขาเพราะงั้นการเข้าโรงพยาบาลเพื่อพักรักษาบาดแผลมันจึงเป็นเรื่องอันตราย

     
    กึก

     
    เสียงของกระบอกปืนปลอดล็อกเซฟตี้ดังขึ้นข้างขมับ ร่างบางมองผ่านกระจกหน้ารถก่อนที่จะนั่งนิ่งตัวเกร็ง ใครอยู่บนรถของเธอ!?

     
         "อย่าส่งเสียงถ้ายังไม่อยากให้ฉันเป่าสมองเธอกระจุย"น้ำเสียงทุ้มนั้นเยือกเย็นจนราวกับจะแช่แข็งผู้ถูกสั่งในได้ทุกเมื่อ โซราเมะตัวเกร็งเสียวสันหลังวาบและเย็นที่ท้ายท้อย ตอนแรกก็นึกว่าผีหรอก แต่พอมาพร้อมปืนเท่านั้นแหละ เธอแทบจะเหยียบเบรคในเวลานั้นเลย
     
     
         "คะ คุณเป็นใคร คุณขึ้นรถฉันมาได้ยังไง!?"ร่างบางถามเสียงสั่นด้วยความตกใจสะดุ้งวาบ มองใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในเงาทะมึนหลังรถ เธอเห็นเพียงเส้นผมสีโลหิตของเขาเท่านั้น เธอได้แต่คิดว่าเขาขึ้นรถเธอมาตอนไหน โซราเมะทำท่าจะจอดรถแต่...

     
    "ขับต่อไป แล้วหาที่ซ่อนให้ฉันเดี๋ยวนี้!"เสียงทุ้มขู่ข่มร่างบางจนโซราเมะขนลุกซู่ เธอเหยียบคันเร่งอย่างตื่นกลัว หัวสมองขาวโพลนพยายามหาทางออก....เกิดมาเป็นคน23ปีพึ่งถูกปืนจี้ก็ครั้งนี้แหละ!

     
         "ทะ ที่ซ่อน? คุณจะให้ฉันพาคุณไปซ่อนที่ไหน?"เจ้าของเนตรสีครามหลังกรอบแว่นหนาเตอะเสียงสั่น กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างจากลำบาก

     
         "ที่ไหนก็ได้ เร็ว!"น้ำเสียงขู่งยังคงดังขึ้นอยู่เนื่องๆ โซราเมะกลืนน้ำลายอีกรอบ หูตาลายคิดอะไรไม่ออก มือเจ้ากรรมบังคับพวงมาลัยรถก่อนที่มันจะมาจอดอยู่ที่..
     
     
    หน้าบ้านของเธอ
     
     
         'ทำไมฉันต้องพาเขามาที่บ้านด้วยละเนี่ย!?'ร่างสูงตำหนิตัวเองอยู่ในใจ นึกคาดโทษที่ตัวเองกลัวกระบอกปืนหัวหดจนเผลอขับรถกลับบ้าน

     
         "ลงจากรถ"น้ำเสียงนั้นเย็นยะเยือกจับใจ ร่างบางค่อยๆถอดเข็ดขัดออกก่อนจะหยิบกระเป๋าและเจ้าแมวน้อยออจากรถ เมื่อเห็นคนขับรถชั่วคราวของตัวเองลงจากรถ ร่างสูงจึงเปิดประตูก่อนจะยืนเหยียดตรงอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว

     
    โซราเมะสะดุ้งเฮือกกับความสูงของอีกฝ่าย...ไม่สิเรียกว่าเธอเตี้ยเองจะดีกว่า

     
         ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาหากซีดเซียวและโชกไปด้วยเหงื่อ เนตรสีหยกเฉียบคมมองเธออย่างก้าวร้าวและทรงอำนาจน่ายำเกรง รอบตาคล้ำคล้ายตัวทานุกิอีกทั้งยังตัวอักษรขนาดใหญ่ที่ข้างหน้าผาก

     
         ร่างบางเผลอจ้องสำรวจอีกฝ่ายก่อนจะต้องตกใจกับไหล่ซ้ายของเขา...นี้ไงต้นต่อของกลิ่นเลือดในรถ

     
         ร่างสูงเดินเข้าประชิดคนตัวเล้กกว่า เขาจ่อปืนไปที่หน้าท้องของเธอโดยที่พยายามกดปืนให้ต่ำลงและซ่อนมันจากซ้ายตาของเพื่อนบ้านและกล่องวงจรปิด

     
         "เข้าไปซะ"ร่างสูงใบหน้าซีดเซียวเอ่ยพลางใช้ปืนสะกิตเป็นการกึ่งบังคับให้อีกฝ่ายทำตาม ร่างบางพยักหน้าเข้าใจ เธอใจสั่นด้วยความกลัวหวาดผวา มือทีถือกุญแจจึงสั่นตามจนใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเปิดประตูบ้านได้

     
         "เร็ว อยากตายรึไง!"เสียงนั้นดังขึ้นกระซิบข้างหู หากแต่เหี้ยมเย็นจนร่างบางขนลุก 

     
         ไม่ต้องขู่ก็ได้มั้ง แต่นี้ก็กลัวหัวหดหมดแล้ว

     
         เธอยืนน้ำตาตกในรู้สึกชีวิตเธอบัดสบขึ้นทุกวันๆ เธอเดินตัวแข็งเข้าไปในบ้านโดยที่มีเจ้าแมวน้อยที่เธออุ้มอยู่กำลังคลอเคลียหาไออุ่น กาอาระกวาดสายตาไปรอบๆที่ซ่อนของเขา

     
         มันไม่กว้างนัก ไม่สิสำหรับเขานี้มันรูหนูชัดๆ แต่ก็ยังดีที่เป็นห้องใหม่และค่อนข้างสะอาดสะอาดมาก ร่างสูงยังคงยกปืนขึ้นจอไปยังร่างบาง โซราเมะดันแว่นให้เข้าที่ก่อนจะหันไปมองเจ้าทานูกิเสียงเหี้ยมอีกรอบ

     
         เธอมองเขาที่กำลังเอื่อมมือไปด้านหลังเพื่อปิดประตู ร่างบางลุ้นระทึกกลัวจับใจว่าจะถูกฆ่าเสียตอนนี้หรือไหม

     
         ชายตรงหน้าเธอขนาดไม่พูดอะไรก็ยังทรงอำนาจและน่าหวาดหวั่น ความตึงเครียดปกคลุมบรรยากาศโดยรอบ เธอแทบจะหายใจไม่ออกกับบรรยากาศแบบนี้.....งือออ ใครก็ได้เอาอีตานี้ไปให้พ้นๆที!

     
         กาอาระมีใบหน้าที่ซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงเดินตรงไปที่โซฟาหนังราคาถูกก่อนจะหันไปมาสั่งเธออีกครั้ง

     
         "เธอนะ มาทำแผลให้ฉันเดี๋ยวนี้"กาอาระกล่างด้วยแววตาดุจนร่างบางสะดุ้งโหยก เธอค่อยๆวางเจ้าแมวน้อยที่ยังบาดเจ็บสาหัสลงบนเบาะนอนสำหรับหมาแมวที่เธอได้มาตอนจับรางวัลปีใหม่

     
         "ไปโรงพยาบาลไม่ดีกว่าหรอคะ.."

     
         "หุบปาก! ฉันบอกให้ทำก็ทำ"มาเฟียหนุ่มอารมณ์ร้อน ร่างบางสะดุ้งตัวลอยกับคำตวานของอีกฝ่าย เธอเลยจำใจต้องเดินไปหยิบกล่องพยาบาลซึ่งอยู่ในตู้ใกล้ๆโซฟา เธอเหลือไปมองโทรศัพท์บ้านที่อยู่ใกล้ๆ....เธอต้องหาทางโทรเรียกตำรวจให้ได้

     
     
    ปัง!


     
    "!!"เหมือนร่างสูงจะรู้ทันเหยื่อผู้โชคร้าย เขายิงโทรศัพท์บ้านเครื่องสีขาวพังยับ ร่างบางตัวแข็งทื่อ เธอสติแตกวิญญาณหลุดออกจากร่างจนไม่ทันได้กรีดร้องใดๆ

     
    "ถ้าเธอโทรแจ้งตำรวจ ฉันจะฆ่าเธอซะ"ร่างสูงยังขู่ไม่เลิก โซราเมะเสียวสันหลังจนขนลูกซู่อีกครั้ง...เขาทำแน่ๆ...ไอ้ที่บอกว่าฆ่าเธอนะ เขาฆ่าแน่ๆ!

     
    โซราเมะกลัวจับจิต เธอยกกล่องพยายามมาตั้งไว้ที่โต๊ะก่อนจะเริ่มทำตามคำสั่ง....ทำแผลๆ นึกซะว่าทำแผลให้ตัวทานูกิก็แล้วกัน

     
    ร่างบางปลงตกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทางเลือกเดียวของเธอคือโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ในกระเป๋าบนโต๊ะ แต่จะหยิบออกมายังไงดี?

     
    เธอครุ่นคิดไปในขณะที่จัดการถอดเสื้อสูทราคาแพงของอีกฝ่ายรวมไปถึงเน็คไทและเสื้อเชิ้ตสีแดงทับทิมออกโดยได้รับความร่วมมือจากผู้ชายหน้าทานุกิคนนี้เป็นอย่างดี 

     
    ร่างกายกำยำแผ่นอกแกร่งที่เล่นทำเอาเลือดของหญิงสาวสูบฉีดเอาได้ง่ายๆ เธอกลืนน้ำลายให้กับหุ่นเฟอร์เฟ็กหล่อลากของอีกฝ่ายจนนึกเสียดายว่าทำไมเธอกับเขาไม่เจอกันดีๆนะ....หล่อซะเปล่าดันเป็นผู้ร้ายซะงั้น!

     
    "เร็ว!"ร่างสูงตวาดอีกรอบโซราเมะหลับตาปี๋แต่ก็นึกเคืองอยู่ในใจ...บ้าอำนาจ

     
    เนตรสีครามใต้แว่นตาหนาเตอะมองบาดแผลที่หัวไหล่อย่างวิเคราะห์  กระสุนฝังแน่นอยู่ในกล้ามเนื้อที่กำลังบาดเจ็บ คราบเลือดเริ่มมีบางส่วนที่แห้งกรังแต่อาการก็ยังสาหัสอยู่

     
    "เราต้องผ่าตัดมันออก"

     
    "ก็ทำซะสิ"

     
    "จะบ้าเหรอ ฉันเป็นหมอหมานะ ไม่ใช่หมอคน"ร่างบางเริ่มเถียงกลับก่อนจะหัวหดไปกรอบ เนตรสีหยกดุดันกำลังจ้องเขม็งมาทีเธออย่างเอาเรื่อง นี้ขนาดหน้าซีดจากอาการเสียเลือดมากยังฤทธิ์เยอะได้ขนาดนี้ แล้วถ้าอยู่เป็นปกติสุขละ เธอจะต่อกรเขาได้หรอ

     
    แน่นอนไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ต่อกรไม่ได้ เธอภาวนาขอแค่ให้เขาไม่เป่ากระบานเธอพร้อมกับรีบๆจากไปโดยดี เธอยังมีเจ้าแมวน้อยที่เธอต้องรักษาอยู่อีก

     
    ร่างบางหน้าเหวอกับสายตาน่ากลัว เธอจึงต้องตัดสินใจทำการผ่าตัดอย่างช่วยไม่ได้....ท่องไว้ๆ ผ่าตัดให้ทานุกิ....

     
    ร่างบางแม้จะกลัวหัวหดแต่ก็ไม่ชอบเอามากๆกับการถูกกดขี่รังแกแต่ก็ต้องอดกลั้น เธอกลัวอาวุธสั่งหารที่อยู่ในมืออีกฝ่าย ถ้าไม่มีมันละก็....เธอจัดหนักไปนานแล้ว!

     
    การผ่าตัดเล็กเริ่มขึ้นโดยที่เจ้าของบาดแผลห้ามเธอใส่ยาชาให้เขาเธอนึกฉุนกับท่าที่ไม่ไว้ใจของอีกฝ่าย นี้กลัวว่าเธอจะวางยาสลบใช่ไหมเนี่ย....ซึ่งก้ต้องตอบว่าใช้ เธอตั้งใจจะวางยาเขาจริงๆแต่เพราะความหวาดระแวงของเขาทำให้เธอไม่มีโอกาสได้ฉีดยาใดๆให้

     
    ร่างบางนึกหมั่นไส้คนตัวใหญ่ ทั้งที่เธอกำลังลงมีดกรีดหัวไหล่ของเขา อีกฝ่ายกับยังคงตีหน้านิ่งไม่แสดงความเจ็บปวดใดๆออกมา เธอออกจะทึ้งไม่น้อยกับความอดทนของอีกฝ่าย ทรงอำนาจและยากจะหยั่งถึง คนคนนี้คือใครกันแน่


     
    ก้อง!


     
    ในที่สุดกระสุนเจ้ากรรมก็หลุดออกมาเสียที หมอหมาถึงเขาเหงื่อตก ถ้ามันเป็นหมาแมวก็ว่าไปอย่างแต่นี้มันคน จะให้เธอตื่นเต้นก็ไม่ได้ ก็มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ได้ผ่าตัดให้คนเป็นๆ


     
    เนตรสีครามเหงยหน้าขึ้นมองเจ้าของบาดแผล เขากำลังหอบและสีที่ริมฝีปากบางซีดเซียวลงไปมาก เนตรสีหยกปรือลงเล็กน้อย มือที่ถือกระบอกปืนก็เริ่มคลายออก ร่างสูงกำลังจะหมดสติเพราะขาดเลือดมาก

     
    "นะ นี้คุณ!"ใจของคนเป็นหมอรู้สึกร้อนรนอย่างผิดปกติ เธอรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังกลัวว่าอีกฝ่ายกำลังจะตาย...อย่ามาตายในบ้านฉันนะ!

     
    "ทำ...ต่อไป"บุรุษแกร่งยังคงบังคับให้อีกฝ่ายทำแผลให้เขาต่อไป ร่างลางกลืนน้ำลายลงคออย่างชั่งใจ

     
    "ถ้าคุณไม่ไปโรงพยาบาลตอนนี้ คุณอาจได้ตายจริงๆนะ"ร่างบางกล่างเสียงเบา เธอไม่กล้าขึ้นเสียงหรอก เธอยังคงลงมือเย็บแผลให้อีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องพร้อมกับพันแผลจบเสร็จ เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นตามใบหน้าของอีกฝ่าย ร่างบางรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกเจ็บ ใบหน้าเริ่มนิ่วลงผิดกับตอนที่ผ่านเอากระสุนออกมาก

     
    "ฉันไม่ต้องการ..."กาอาระกล่างเสียงสั่น หากแต่มันเบาเกินไป สติของเขาเลือนลางเกินกว่าจะขู่เข็นร่างบางได้  

     
    "คุณกรุ๊ปเลือดอะไร?"อะไรบางอย่างดลใจให้เธอถามอีกฝ่าย ความเป็นคนของเธอมีมากพอที่จะไม่ยอมให้คนตรงหน้าต้องตายโดยที่เธอไม่ทำอะไรเลยไม่ได้!

     
    "....โอ เนกาทีฟ"ร่างสูงตอบเพียงสั้นๆ เขาพิงผนักโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน เขาไม่ยอมให้เขาสติหายไปตอนนี้แน่ๆ ที่สำคัญยัยแว่นตรงหน้าเขาอาจจะฉวยโอกาสหนีออกไปพร้อมกับเรียกตำรวจก็ได้ ถึงจะไม่เข้าใจก็ตามว่าถามถึงกรุ๊ปเลือดทำไม

     
    ร่างบางทำตาโตทันใด เธอยิ้มร่าเมื่อไม่คิดว่าอะไรมันจะพอดีขนาดนี้...เธอก็เลือดกรุ๊ปโอเนกาทีฟ

     
    ร่างบางรีบวิ่งกลับไปเอาอุปกรณ์ต่างๆซึ่งเก็บไว้ในห้องใกล้ๆ ไม่ทันที่ร่างสูงจะได้ห้ามเธอก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆรวมไปถึงถุงเลือด

     
    "คุณน่าดีใจนะ ที่ฉันก็เลือดโอลบเหมือนกัน"เธอกล่าวก่อนจะทำการรัดแขนข้างที่ยังดีอยู่ของอีกฝ่าย เธอถือโอการหยิบปืนออกมาจากของเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มทำตาดุมือเกร็งหมายจะคว้าปืนเอาไว้ในมืออีกครั้งหากแต่ถูกร่างบางขวางไว้

     
    เธอใช้ห่อสำลีแอลกอฮอร์ลเช็ดหลังมือเพื่อหาเส้นเลือดก่อนจะทำการเจาะเพื่อติดอุปกรณ์ต่างๆ ถุงเลือดของเธอที่ถูกเจาะเก็บทิ้งไว้สำหรับเผื่อฉุกเฉิน  ไม่นึกว่าก่อนว่าจะได้เอามาใช้กับคนอื่นในวันนี้ 

     
    ร่างสูงมองการกระทำของหญิงสาวอย่างสงสัย

     
    "....เป็นหมอหมาไม่ใช่รึไง?"ใช่ เธอเป็นหมอหมา แต่กลับมีของแบบนี้อยู่ติดบ้าน เลือดสำรอง อุปกรณ์ทางการแพทย์ บ้านคนปกติจะมีของแบบนี้อยู่ด้วยหรือ?

     
    "ถามทำไม?"เธอสวนกลับอย่างสงสัย เจ้าทานุกิหน้าดุใกล้หมดสภาพคิ้วกระตุกอย่างไม่พอใจ ยัยนี้กล้าเถียงเขาอีกแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่มีแรงจะเถียงยัยแว่นหน้าเตอะตรงหน้า

     
    เมื่อทำการติดอุปกรณ์สำหรับการถ่ายเลือดได้เป็นผลสำเร็จ ร่างบางนำถุงเลือดไปแขวนไว้กับเสาไม้แขวนเสื้อโค๊ท เธอเอามันมาวางไว้ใกล้โซฟาพลางยกแข็นขึ้นเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

     
    "เสร็จซะที!"เจ้าของแว่นกลมหน้าถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางหันไปมองเจ้าของปืนกระบอกสีดำที่ตอนนี้นั่งนิ่งอย่างอ่อนแรง..เยส! เธอได้เป็นคนคุมเกม

     
    เมื่อผู้ร้ายในสายตาเธอสิ้นฤทธิ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครและไปทำอะไรมา ทางที่ดีเธอควรอยู่อย่างเงียบๆน่าจะปลอดภัยที่สุด ต่อให้ไม่มีปืนอยู่ในมือแต่เธอแน่ใจว่าอีกฝ่ายคงทำเธอตายได้ด้วยรังศีอำมหิตรอบตัว....

     
     
    กุกกักๆ


     
    กว่าจะรู้สึกตัวเสียงของการรื้อค้นกระเป๋าก็ดังขึ้น ร่างบางตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย กาอาระไม่สนใจเธอและกลับรื้อค้นของที่อยู่ในกระเป๋าสะพาย....กระเป๋าตังกับมือถือ

     
    "เอ้ย เดี๋ยวจะทำอะไรนะ!"สาวเจ้าร้องลั่นรีบตรงหลี่หมายจะห้ามไม่ให้อีกฝ่ายทำอะไร ก่อนที่เธอจะยืนนิ่งตกตะลึงกับความไวของอีกฝ่าย เขาคว้าปืนที่อยู่ใกล้ขึ้นจอเธออีกครั้ง


     
    เวรเอ้ย! เธอมันสะเพร่าที่ไม่ยอมเก็บปืนไว้กับตัว

     
     
    "จะ ใจเย็น...ฉันช่วยชีวิตคุณไว้นะ"หมดมุกจะเถียงเธอก็พยายามกล่อมร่างสูงที่กำลังจ้องจะกินเลือดกินเนื้อเธอที่ตัวกำลังสั่นเทาหาทางยืดเวลาชีวิตอย่างกลัวตาย...รู้งี้ไม่น่าเอาถุงเลือดสำรองมาให้เลย!

     
    "...สัญญากับซะฉัน"ร่างสูงเอ่ยเสียงเบา อาการเขายังไม่สู้ดีนักแม้จะได้รับการถ่ายเลือด เขาจ้องเธอไม่วางตาและพยายามอย่างมากที่จะไม่หมดสติไปซะก่อน

     
    "ห้ามแจ้งตำรวจ ห้ามบอกใครเกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เธอกับฉันเราจะไม่รู้จักกันและเธอจะต้องดูแลฉันจนกว่าคนของฉันจะตามมารับ"เนตรสีหยกจ้องดวงหน้ากลมที่หลบซ่อนหลังแว่น แววตาดุดันทรงอำนาจและเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียมมองเธอราวกับสายตานั้นบังคับให้เธอตอบตกลง

     
    ขนแขนพากันลุกชั้น ชายคนนี้น่ากลัวมากแค่คำพูดก็ทรงพลังจนทำให้ร่างบางเกือบหยุดหายใจ....ราวกับปีศาจไม่มีผิด

     
    "...แล้วถ้าฉันไม่ทำตามที่คุณบอกละ"เธอเอ่ยถามอย่างลองเชิงอีกฝ่ายจะทำยังไงกับเธอ

     
    "ฉันจะตามฆ่าเธอ และยึดสิ่งนี้ไว้"ไม่ต้องบอกว่าสิ่งนี้คืออะไร กระเป๋าตังของเธอ ร่างบางแสดงสีหน้ากังวลใจอย่างหวาดกลัว ขึ้นชื่อว่าเป็นกระเป๋าตังก็ต้องมีบัตรประชาชน บัตรเคดิดและอื่น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของเธออยู่ในกระเป๋าใบนั้น รูปถ่ายของครอบครัว....ภาพสุดท้ายที่เหลืออยู่

     
    ร่างสูงไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร ที่เขาขู่เพื่อจะให้เธอรู้ว่าว่าเขามีชื่อจริงและที่อยู่ของเธอจากบัตรประชาชน ด้วยอำนาจของเขาเขาสามารถตรวจสอบและลอบสังหารเธอได้ตลอดเวลา ถ้าเรื่องของเขาหลุดไปเข้าหูของตำรวจละก็นะ

     
    "ถ้าเธอตกลงฉันยินดีที่จะไว้ชีวิตเธอ แล้วก็เจ้านั้นด้วย"เขาไม่พูดเปล่า ร่างสูงเบนปากกระบอกปืนที่ยังร่างของแมวน้อยที่หลังสนิทเพราะความอบอุ่นภายในตัวบ้าน ร่างบางรู้สึกอุ่นร้อนรอบดวงตาแค่คิดเธอภาพที่มีใครหรืออะไรสักอย่างตายต่อหน้าเธอ มันก็ทำให้เธอเจ็บปวด


     
    ภาพนั้นมันซ่อนกับภาพของครอบครัวของเธอที่ตายลงต่อหน้าต่อตา


     
    "ก็ได้ ฉันตกลง แต่อย่าทำอะไรมันนะ มันเป็นแค่ลูกแมว!"กาอาระแสยะยิ้มอย่างพอใจ เขาเดาเธอออก ร่างบางตรงหน้ารักสัตว์เกิดกว่าจะปล่อยให้ตายลงด้วยน้ำมือของเขาได้

     
    "ก็ดี"รางสูงกล่าวอย่างพอใจ โซราเมะกำหมัดแน่น ไม่น่าใจอ่อนช่วยชีวิตเลย น่าจะปล่อยให้ตัวซีดตายไปทั้งๆอย่างนั้น

     
    "อย่าได้คิดตุกติก ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมาคนของฉันจะเป็นคนฆ่าเธอแทน"ร่างสูงยังคงขู่คนตัวเล็กไม่เลิก หากแต่คำพูดของเขาทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้น


    "แล้วคนของคุณจะมารับเมื่อไหร่"เธอถามอย่างเร่งรีบ เธอกำลังจะได้รับอิสรภาพคืน!.....เดี๋ยวนะถ้ามีลูกน้องด้วยก็แสดงว่าเขาอาจจะเป็นมาเฟีย!?

     
    "เร็วๆนี้"ร่างสูงกล่าวอีกครั้ง เพราะเป็นถึงหัวหน้ามาเฟียจึงไม่แปลกที่จะมีการฟังชิฟในการติดตามตัว หากเกิดเหตุฉุกเฉินคนของเขาจะได้ตามหาตัวได้ทันแม้โทรศัพท์จะใช้การไม่ได้เช่นเวลานี้ก็ตาม

     
    โซราเมะแทบจะดีใจเนื้อเต้น เธอจะรอดแล้วๆ ขอให้มารับอีตาทานูกิกลับไปไว้ๆที่เถอะ!

     
    "แล้วคุณต้องใช้โทรศัทพ์...."ร่างบางกล่าวยังไม่ทันจบ มือถือเครื่องขาวของเธอก็ถูกจับเปลี่ยนซิมกับโทรศัพท์หรูเครื่องดำของอีกฝ่าย เธอยื่นตะลึงกับความหน้าด้านของเขา....บอกเธอสักคำหน่อยก็ไม่ได้รึไง

     
    "อะไร"ร่างสูงทำเสียงดุใส่ จากที่กำลังตีหน้าไม่พอใจ โซราเมะจำใจต้องเปลี่ยนความคิดก่อนจะยิ้มแห้งๆให้อีกฝ่ายแทน....ทำไมฉันถึงต้องกลัวอีตานี้ด้วย!

     
    "หิวแล้ว ทำอะไรให้กินหน่อยสิ"เจ้าคนหน้าดุไม่รีรอให้เธอได้ส่วนกลับ เขายังคงยกปืนขู่เธอเหมือนเดิมจนหญิงสาวต้องถอนหายใจอย่าปลงตกและเดินเข้าครัวไปทำอาหารตามที่สั่ง


     
    ใส่ยาพิษลงในข้าวให้กินเลยดีไหมนะ




    ++++++++++++++++
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×