ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Po Ye Po Lo Ye - สาปสวรรค์
Butterfly~
Po Ye Po Lo Ye - สาปสวรรค์
ปฐมบท โปเยโปโลเย
องค์เทวราชินีแจจุงเจ้าแม่แห่งสวรรค์ตะวันตกมเหสีในองค์ยุนโฮฮ่องเต้
เทพยูชอน ผู้ดูแลสวนท้อทิพย์ เทพีจุนซู ผู้เลอโฉมมีกายหอม เทพชางมิน ผู้ดูแลต้นไม้หยก
แดนสุขาวดี ยอดภูเขาคุนหลุน ที่ประทับขององค์เทวราชินีแจจุงแห่งทิศประจิมสวรรค์
ณ. พระตำหนักสุดปลายฟ้า ที่ลอยเคว้งอยู่สุดยอดของแดนเทพคุนหลุน
“พระเกศาขององค์เจ้าแม่ชั่งงามเหลือเหนือสิ่งใดในสามโลกเลยน่ะเพค่ะ” นางฟ้ามิยองข้ารับใช้แด่องค์เจ้าแม่เอ่ยปากชมองค์เทวราชินีผู้เป็นเจ้านายเหนือหัวของตัวเอง
“อย่างนั้นรึ ข้าไม่ยักรู้ ฮ่าๆๆ”องค์เทวราชินีแจจุงเจ้าแม่แห่งสวรรค์ตะวันตกมเหสีในองค์ยุนโฮฮ่องเต้ผู้อยู่้เหนือหัว พระนางเป็นผู้ควบคุมกาลเวลาและมิติ รวมทั้งความตาย ทรงพระสิริโฉมโสภา หานางสวรรค์ทั้งชั้นฟ้าเปรียมหามีไม่
“จริงๆ ซิเพค่ะ องค์เจ้าแม่” นางฟ้าซอฮยอนนางสวรรค์เอ่ยเสริมเพื่อเอาใจองค์เจ้าแม่สวรรค์ตะวันตกด้วยรอยยิ้มแสนเสน่ห์ ขณะที่ด้านนอกมีบุตรเทพปรากฎกายมอบบังคมอยู่ ณ. ทวารประตูด้านหน้านอกพระตำหนักสุดปลายฟ้า
“องค์เทวราชินีมีพระประสงค์สิ่งใดรึพะย่ะคะ” เสียงทุ้มชวนฟังเอ่ยขึ้น
“เทพชางมิน เจ้าจงไปตามเทพีจุนซู มาพบข้าที่สระหยกบัดเดียวนี้”
“พะย่ะค่ะ องค์ราชินี” ชางมินเทพผู้ดูแลต้นไม้หยกสวรรค์สูงสามร้อยวา เป็นเทพฝ่ายบู๋ขององค์เทวราชินีแจจุงน้อมรับคำสั่งแล้วหายวับไปโดยพลัน
สวนท้อทิพย์แดนสุขาวดี ห่างจากพระตำหนักสุดปลายฟ้าขององค์เทวราชินีไปทางทิศบูรพา390 ยอดเขา ยามพระสุริยาแจ่มแจ้ง มี 2 เทพเทพี พลอดรักอยู่ที่ใต้ต้นท้อทิพย์สวรรค์
NC# มงกุฎดอกท้อ
เพื่อการพัฒนามาตรฐานให้เด็กดีดอทคอมเป็นเว็บไซท์สำหรับเยาวชนอย่างแท้จริง
ใครยังไม่ได้อ่านบอกน่ะคะ เด่วส่งข้อความลับไปให้....
“เทพีจุนซู เทพยูซอน พวกเจ้า!! ” เทพผู้ดูแลต้นหยกสวรรค์ร้องออกมาด้วยเสียงอันดังก้องไปหนึ่งร้อยเจ็ดยอดเขา
“ท่านชางมิน!!!” เทพีผู้เลอโฉมร้องออกมาด้วยความตกใจทอนกายจากเทพยูชอนโดยพลัน
“พวกเจ้าทุรยศต่อข้า ท่านยูซอน เทพีจุนซูแพศหยากากี” เทพชางมินตวาดลั่นเสียงสนั่นดังไปไกลถึง 300 ยอดเขาคุนหลุนซานด้วยอารมณ์โกรธ และผิดหวังในรัก
“ไมน่ะ ไม่ท่านชางมิน ได้โปรดฟังข้าก่อน” เสียงทุ้มของเทวดาผู้ปกปักรักษาสวนท้อทิพย์ ร้องห้ามแต่เทพชางมินยังคงไม่ฟังความ
“ข้าจะนำความนี้ขึ้นทูลให้องค์เจ้าแม่แจจุงทรงเป็นผู้ชำระความเจ้าทั้งสอง”
ริมสระหยกแห่งทิศประจิมสวรรค์
“เจ้ามาแล้วรึ เทพีจุนซู” เรียวพระโอษฐ์อิ่มขององค์ราชินีผู้เป็นใหญ่เอ่ยขึ้น
“เพค่ะองค์ราชนี อ๊ะ!!” เทพีจุนซูเหมือนรู้ว่าจะมีคราวเคราะห์มาถึงตัว จึงได้หมอบคานจากทวารประตูเข้ามาด้วยแววตาที่เศร้าหมอง แต่กับถูกผ้าไหมหมี่นปีของเจ้าแม่พุ่งเข้าพันกายหอมแล้วดึงรั้งลอยระริ่วเข้าหมอบลงแทบบาทขององค์เทวราชินีแห่งสวรรค์ตะวันตกอย่างง่ายได้
“เจ้าแอบกินท้อทิพย์ของข้า เจ้ามิรู้รึว่าเจ้าจะต้องได้รับโทษเช่นไร เทพีจุนซู” เจ้านายแห่งสวรรค์เอ็ดออกมาเสียงดังไป 700 ยอดคุนหลุนซานด้วยอารมณ์โกรธเดือดดาล
“ข้าๆ น้อยผิดไปแล้วเพค่ะ องค์เจ้าแม่”
“เจ้านี้มันไม่รักดี เสียแรงข้าทั้งรักและเอ็นดูเจ้าๆ ราวน้องร่วมมารดาของข้า นึกรึว่า เจ้ากินท้อทิพย์และผลสุกของต้นไม้หยกทิพย์ของข้าแล้วเจ้าจะขึ้นมาเป็นเทวรายาขององค์ยุนโฮฮ่องเต้พระสวามีของข้าได้น่ะฮื่ม” เทวราชินีทรงผายพระกรบางลูบไปที่กลุ้มผมหอม 7 ราตรียาวสรวยดกดำนิ่มของเทพีผู้ต่ำศักดิ์อย่างรักใคร่และเอ็นดู สร้างความปวดร้าวให้กลับเทพีผู้เลอโฉมต้องหลั่งน้ำตาหนองทั้งสองแก้ม
“ฮึกๆ ข้ามิเคยคิดเยี้ยงนั้นเลยน่ะเพค่ะ องค์เจ้าแม่ ข้าๆ” เทพีจุนซูยกมือเรียวขาวราวหิมะขึ้นพนมก้มลงกราบแทบพระบาทขององค์เทวราชินี
“อ๊ะ” พระกรเรียวขององค์เทวราชินีไปเชยคางแหลมเล็กของจุนซูขึ้นแล้วบีบอย่างแรงจนเจ้าตัวต้องร้องโอดครวญอย่างเสียมิได้
“ช้าก่อนพะย่ะค่ะองค์เทวราชินี” เสียงของเทพเยูซอนผู้ดูแลสวนท้อสวรรค์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ทนไม่ได้ที่เห็นคนรักต้องมาถูกโทษทัณก้มบังคมทูลขอ อย่างมิเกรงพระอาญาเลยมิแต่น้อย
“ท่านยูซอน เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าผูกจิตพิศวาทเทพีจูนซูอย่างนั้นรึ”
“พะย่ะค่ะ เป็นความผิดของข้าเองพะย่ะค่ะ มิได้เกี่ยวกับเทพีจุนซูเลยมิแต่น้อย ข้าเป็นคนเอาท้อทิพย์มาให้เขาเองพะย่ะค่ะองค์เจ้าแม่”
“อย่างนั้นหรอกรึ” แล้วทอดเนตรไปยังบุรุษเทพอีกคนที่นั่งหน้าตาขมึงตึงอยู่ข้างๆ
“ข้าก็มีจิตพิสวาศเทพีจุนซูเหมือนกับท่านยูซอนพะย่ะค่ะ เจ้าแม่” เทวดาผู้ดูและต้นไม้หยกแผด
เสียงดังออกมาอย่างมิเกรงกลัวเช่นกัน
“ท่านชางมิน ทำไมท่านจึงกล่าวเยี่ยงนี้ต่อหน้าพระพักตร์ขององค์เจ้าแม่เล่า” เทพีจุนซูเอ่ยขึ้นเมื่อได้ฟังความจากเทวดาต้นไม้หยก
“ฮ่าๆๆๆ พวกเจ้าชั่งน่าขันยิ่งนัก” เทวราชินีแย้มพระสรวลหัวเราะออกมา
“แล้วใยเจ้าจึงขอให้ข้าเอาผลของต้นไม้หยกมาให้เจ้าเล่า เจ้าแจ้งแก่ใจข้าได้รึไม่” เทวดาต้นไม้หยกยังคงถามยั้ง
“คือ ข้า”
“ฮ่าๆๆๆ ข้าจะต้องทำเยี่ยงไรกับเจ้าดีเล่า เทพีจุนซูผู้เลอโฉม”
“ข้า”
“พวกเจ้านิชั่งทำกิริยาต่ำ ทรามเยี่ยงชาวมนุษย์ผู้มิหลุดพ้นจากวงกลมกิเลศไม่ เทพีจุนซูน้องรักของข้า”
“ข้าผิดไปแล้วเพค่ะ องค์เจ้าแม่”
“ข้าผิดไปแล้วพะย่ะค่ะองค์เจ้าแม่” เทพบุ๋นบู้ทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“เทพีจุนซูน้องข้า ข้าจะเนรเทศเจ้าให้ลงจุติเป็นเดรัจฉานสัตว์หน้าขน ชดใช้กับความผิด”
“องค์เจ้าแม่พะย่ะค่ะ” สองเทวดาหนุ่มร้องทักขึ้นมาพร้อมกันเหมือนนัดหมาย แต่คำขอกลับส่งไปถึงองค์เจ้าแม่ไม่
“เจ้าจะยอมรับโทษทัณของเจ้าในครั้งนี้รึไม่เล่า” องค์เทวราชินียังคงถามต่อมิได้
“พะ พะเพค่ะ เจ้าแม่ ข้าๆ ยอมรับ พะ พะเพค่ะ” เทพีผู้เลอโฉมร้องไห้ออกมาทั้งน้ำตา เพราะจนต่อความผิดของตนเอง
“ดี มิยอง” องค์เทวราชินีรับจอกน้ำทิพย์ที่ตักขึ้นมาจากสระหยกจากนางฟ้ามิยองแล้วประทานให้กับเทพีจุนซูทันที
“ข้าจะประทานน้ำทิพย์นี้แก่เจ้าน้องรักแห่งข้า ดื่มมันซิ่” ว่าพลางยื่นให้กับเทพีจุนซู
“พะ เพค่ะ”เทพีผู้เลอโมอ้ำอึ่งเล็กน้อย
“เป็นใยไปเล่า เทพีจุนซู เจ้าคิดว่าน้ำในจอกนี้จะเป็นโอสถพิษเยี่ยงนั้นรึ”
“มะ....ไม่เพค่ะ” ดังนั้นมือเรียวรับจอกน้ำทิพย์แล้วดื่มเข้าไปจนหมด
“เทพีจุนซู”
“ทุกคืนเดือนดับเจ้าจักต้องกินหัวใจมนุษย์บุรุษเพศ เพื่อรักษาความงามของเจ้าให้ยืนยงสืบเบื้องหน้า เจ้าจักต้องดับสูญด้วยจนต่อความรักของมนุษย์สองขา แล้วคืนสู่ข้าอีกคราเทอญ” ทันทีที่จบคำสาปขององค์เจ้าแม่ ร่างระหงษ์ของเทพีจุนซูก็ค่อยๆ เลือนลาง แล้วก็หายไปต่อหน้าต่อตาเทพบุ๋นบู๊ทั้งสอง
“เทพีจุนซู” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมาพร้อมๆ กันทั้งสองคน
“เทพยูซอน ท่านมีความผิดอันใดเจ้ารู้รึไม่”
“พะย่ะค่ะ องค์เจ้าแม่ ขอเพียงข้าได้อยู่เคียงข้างเทพีจุนซูข้าก็มิขอสิ่งใดแล้ว” เสียงเข้มของเทพผู้ดูแลสวนท้อทิพย์ย้ำชัด ฉะฉาน ไม่หวั่นเกรง
“ดี งั้นเจ้าจงตามเทพีจุนซูลงไปเกิดเป็นเดรัจฉานหน้าขน ตามน้องรักของขาก็แล้วกัน”
“เป็นพระกรุณายิ่งแล้วพะย่ะค่ะองค์เจ้าแม่”
“เจ้าจะผจญพิษรักพันชาติ เจ็บปวดเจ็บปวดทรมานกับความรัก เจ้าจะยอมรับโทษทัณนี้รึไม่เล่า ท่านเทพยูชอน”
“พะย่ะค่ะ” แล้วกายทิพย์ของเทพต้นท้อสวรรค์ก็สลายไปเป็นอากาศธาตุ
“ส่วนเจ้าเทพชางมินต้นไม้หยกของข้า 3000 ปี จึงออกผล หากใครได้กินจะได้เป็นอมตะใช่รึไม่”
“พะย่ะค่ะ”
“แล้วใยเล่า เจ้าจึงกล้าขโมยมาให้เทพีจุนซูได้กินเล่า”
“ขะ ข้า”
“เจ้าจงนำปิ่นทองของข้าไปประหาร เทพีจุนซู และเทพยูซอนให้สาแก่ใจเจ้าเธอ”
“แต่ว่าข้ามีใจให้กับเทพีจุนซูนะย่ะค่ะ เหตุใดข้าจึงต้องจำเห็นนั้นด้วยเล่า”
“เยี่ยงนั้นรึ แต่ทีข้าแจ้งแก่ใจ เจ้าไม่ใช่คนที่เทพีจุนซุหมายปองนิ่ เทพชางมิน” แล้วก็ขว้างปินลงไปในสระหยก ทำให้น้ำในสระกายเป็นสีทองแล้วค่อยๆ กลายเปลี่ยนเป็นสีมรกตดั่งเดิม
“ข้า ๆ ”
“เจ้าเคืองแค้นสองเพื่อนรักของเจ้ามากขนาดนั้นเลยรึ”
“พะย่ะค่ะ องค์เจ้าแม่”
“เจ้าจงลงไปจุติเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจด้านชา บำเพ็ญศีลภาวนา ตามราวีเทพีจุนซู และเทพยูชอน ให้สาสมแก่ความแค้นของเจ้า เทอญ”
“เป็นพระกรุณายิ่งแล้วพะย่ะค่ะ” แล้วกายทิพย์ของเทพต้นไม้หยกก็ค่อยสลายล่องลอยไปในอากาศ
“ซอฮยอน” นางฟ้าซอฮยอนรีบกุรีกุจอนำกระจกส่งให้กับองค์เทวราชินีอย่างรวดเร็ว
“คันฉ่องเพค่ะ องค์เจ้าแม่”
“แทยอน เจ้ามาเติมหน้าให้ข้าทีเถอะ”
“โถ่...องค์เจ้าแม่อย่าทรงพระกรรแสงเลยน่ะเพค่ะ เดี๋ยวองค์ยุนโฮฮ่องเต้ จะทรงไม่พอพระทัยน่ะเพค่ะ”
“พวกเจ้าว่าอย่างนั่นรึ”
“เพค่ะ” สองเสียงใสของนางฟ้าเอ่ยออกมาพร้อมๆ กัน
มนุษย์โลก
“ ชมผกาจำปา จำปี กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ ทั้งกรรณิการ์ ลำดวน นมแมว ซ่อนกลิ่น ยี่โถ ชงโค มณฑา สายหยุด เฟื่องฟ้า ชบาและสร้อยทอง”
“ปีศาจ” นักบวชหนุ่มหน้าตาคมคาย จมูกโดงเป็นสันโค้งได้รูป หน้าขาวผุดผ่องเปี่ยมไปด้วยทานบารมี ผู้บำเพ็ญพรตภาวนา อยู่ในถ้ำอีกด้านนึงเอ่ยขึ้นเมื่อมีเสียงๆ หนึ่งที่ดังก้องเข้ามาทำให้จิตหลุดจากสมาธิ จึงเร่งละออกจากสมาธิแล้วเดินตามเสียงนั้นออกไปโดยเร็ว
“ บานบุรี ยี่สุ่น ขจร ประดู่ พุดซ้อน พลับพลึง หงอนไก่ พิกุล ควรปอง
งามทานตะวัน รักเร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง
บานชื่น สุขสอง พุทธชาด สะอาดแซม”
“เจ้าเด็กน้อย เจ้ามาทำอะไรป่าลึกเยี้ยงนี้เล่า”
“ท่านเรียกข้าอย่างนั้นรึ” เสียงใสหยุดลง แล้วย่างกายเข้ามาหานักบวชรูปหล่อ
“ใช่ เจ้านั้นแหละหนุ่มน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรรึ” นักบวชหนุ่มยกยิ้มมุมปาก
“ข้านั้นมีนามว่า จินกีครับ” เด็กหนุ่มหน้าตาใสซื่อเอ่ยตอบโดยหารู้ไมว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว
“เจ้ามีกิจอันใดกับข้าอย่านั้นรึ เจ้าปีศาจ”
“ห๊ะ !! ท่านนักบวช ท่านรู้ได้อย่างไรเล่าว่าข้าเป็นปีศาจ” เด็กหนุ่มจินกีตกใจเป็นอย่างมากยกมือเรียวถาบไว้กับหน้าอกอ่อนของตัวเอง แล้วรีบถอยกรูออกห่าง หันหลังเตรียมจะวิ่งหนีเพื่อหลบภัย
“เจ้านึกว่าข้าโง่อย่างนั้นรึ ดีล่ะ วันนี้เจ้าไม่รอดแน่” นักบวชหนุ่มสบถออกมาเสียงดังพอสมควร แล้วก็ก้าวเดินตามหนุ่มน้อยไปอย่างใจเย็น ชั่งต่างกับเจ้าปีศาจน้อยผู้เคราะห์ร้ายที่ดูตื่นกลัวและร้อนรน เนื้อกายสั่นเทาไปหมด
“ไม่น่ะท่านนักบวช” ขายาวเรียวของปีศาจน้อยจินกีก้าวย่างไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต แล้วออกวิ่งเข้าไปในป่าในที่สุด
“โปเยโปโลเย มังกรศักดิ์ เทพศักดิ์ เทพเจ้าคุ้มครองโลก โปเยโปโลเย จงปรากฎกายแท้ของเจ้านะบัดนี้” นักบวชหนุ่มยกมือแกร่งขึ้นพนมแล้วร่ายคาถาปราบมารอย่างรวดเร็ว
“อ้าาาาาาาาาาาาาาาาายย ม่ายยยย อ๊าาาาาาาาก ไม่ๆ ไม่น่ะ ปล่อยข้า ได้โปรดปล่อยข้าไป ท่านนักบวช อ้ายยยยยยยยย” ร่างบอบบางของหนุ่มน้อยจินกีล้มลงไปเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื่นนอนดีดดิ้นทุรนทุรายไปมา เพียงครู่เดียวก็กลายร่างเป็นปีศาจดอกไม้ มีกายสีเขียวมีดอกไม้สีสวยติดอยู่ทั่วหัว หน้าอก ลำตัว ดูไม่น่าจะเป็นผิดเป็นภัยอะไรสักเท่าไหร่
“ปีศาจดอกไม้จินกีอย่างนั้นรึ หึหึ ดีเจ้าจะหนีข้าไปไหน เจ้าหนี้ข้าไม่พ้นหร๊อก” นักบวชหนุ่มกล่าว พร้อมสาวเท้าเดินเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ฮึกๆ ฮือๆ ทะ...ท่านนักบวชปล่อยข้าไปเถิด ข้าอุตสาห์ตั้งจิตบำเพ็ญเพียรถึง 200 ปี จนตอนนี้ข้าเกือบจะได้เป็นมนุษย์แล้ว ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ” ปีศาจดอกไม้จินกีโอดครวญอ้อนวอนอย่างน่าสงสารแต่...
“ไร้สาระ เจ้าปีศาจ !!”
“ได้โปรด ปล่อยข้าไปเถอะน่ะๆ ท่านมินโฮๆ ช่วยข้าด้วย” ในเมื่อคำอ้อนวอนจะไม่เห็นผล ร่างสีเขียวตัดสินใจใช้กำลังและความเพียรที่สร้างสมมาฮึดลุกขึ้นวิ่งหนีเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ปากบางก็กู่ร้องจนก้องป่าหาคนช่วยแต่ว่าคงจะไม่ทันการเสียแล้ว
“โปเยโปโลเย ผ้าคลุมวิญญาน โปเยโปโลเย มังกรศักดิ์ เทพศักดิ์ เทพเจ้าคุ้มครองโลก โปเยโปโลเย” ทันทีทีปากคมเอ่ยคาถาโปเยจบ ก็มีผ้าผืนใหญ่สีขาวสะอาดพุ่งออกมาจากด้านหลังของนักบวชฮันเกิงผู้มีจิตใจด้านชา มุ่งเข้าคลุมร่างของปีศาจดอกไม้จินกีอย่างรวดเร็ว
“ท่านมินโฮช่วยข้าด้วย ท่านนักบวชได้โปรดปล่อยข้าไป ปล่อยข้าไปเถอะ ท่านเป็นคนมีจิตเมตตากรุณาอารีย์ปล่อยขาไปเถอะ ฮึกฮือ ถ้าท่านผนึกข้าน้อย สิ่งที่ข้าบำเพ็ญเพียรมาก็ไร้ความหมาย ฮึกปล่อยข้าไป ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่อยากกลับไปเป็นปีศาจอีกต่อไปแล้ว ปล่อยข้า ได้โปรดปล่อยข้าเถอะ ท่านนักบวช” ปีศาจน้อยโอดครวญด้วยน้ำตานองหน้า
“หุบปาก ไม่มีใครช่วยเจ้าได้หรอกเจ้าปีศาจดอกไม้จินกี เจ้าเป็นปีศาจ ปีศาจก็คือปีศาจ พระคนผีปีศาจ คนละอย่างกัน เจ้าจงดับสูญสิ้นไปซะเถอะ”
“ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะท่านนักบวช ท่านนักบวชผู้มีเมตตา ปล่อยข้าไป!! ปล่อยข้าไป!! ปล่อยข้าไป!!” เสียงอ้อนวอนที่ดังก้องป่าค่อยๆ เบาลง ๆ จนกลายเป็นเสียงกระซิบ ในขณะที่นักบวช
“มังกรศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้าคุ้มครองโลก นะโมตัสสะ อามิตตะ...”
"ฝ่ามืออัคคีเมฆา" ผ้าคลุมวิญญาณของนักบวชมอดไหม้ไม่มีชิ้นดีไปต่อหน้าต่อตา แล้วปรากฎกายเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าคมคายมีกายสีแดงดูหน้าเกรงขาม มีห้าหางสีแดงทองเป็นพุ่มยาวสวย โบกสะบัดพริ้วไหวไปตามลม ดวงตาทั้งสองเป็นสีเหลือดดูน่ากลัว
“หึหึ เจ้าอีกแล้วรึ เจ้าจิงจอกไฟมินโฮ” นักบวชหนุ่มจิ๊ปากเมื่อมีศัตรูคู่แค้นแต่เก่าก่อนเข้ามาขวาง ปากคมสบถออกมาด้วยอารมณ์คุ่นเคือง
“เจ้าแก่ไปมากเลยน่ะ ฮันเกิง” คนห้าหางเอ่ยขึ้น หาได้ขลาดกลัวนักบวชหนุ่มแม้แต่น้อย
“แกก็มีแค่ห้าหางเหมือนเมื่อก่อนเลยน่ะ ไอ้หน้าขนมินโฮ หึหึ” นักบวชฮันเกิงตรอกกับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
“ดีงั้นวันนี้ เจ้ากับข้า เราจะได้เห็นดีกัน”
“ผ้าคลุมวิญญาณ” ผ้าผืนสีขาวสะอาดพวยพุ่งออกมา หมายมุ่งเข้าผาญเอาชีวิตจิ้งจอกแดงมินโฮแต่
“ผ่ามือโลกันต์”
“ห๊ะ !! ผ้าคลุมวิญญานของข้า!!” ผ้าคลุมวิญญาณมอดไหม้เป็นจุณด้วยผ่ามือโลกัณต์ของ
จิ้งจอกไฟไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตกตะลึงอึ้งให้กับนักบวชหนุ่มเป็นครั้งที่สอง
“วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้วล่ะ เจ้านักบวชฮันเกิง” คนห้าหางเอ่ยขึ้น ยกมือขึ้นดีดนิ้วปรากฎเป็น
ลูกไฟลุกโชติช่วงแล้วเพียงชั่วพริบตาลูกไฟนั้นการเป็นตรีศูล(เหมือนของเทพโปไซดอน)ด้ามยาวเท่าความสูง มือแกร่งจับกระชับมันแล้วพุ่งเข้าจู่โจมฮันเกิงในระยะประชิด แท่งเข้าไปที่ช่วงท้องของฮันเกิงอย่างแรง โดยทีฮันเกิงผู้มีจิตใจด้านชาไม่มีโอกาสแม้จะป้องกันตัว
“ฉึก!! ฮึกกกกกกกอ๊ะ!!” ร่างของฮันเกิงหงายหลังลงไปกองอยู่บนพื้น คนห้าหางเตรียมที่จะพุ่งเข้าไปซ้ำแต่กับต้องชะงักเมื่อ...
“จิ้งจอกแดงของข้า........เจ้าอยู่ที่ไหนน่ะ เจ้าจงรีบกลับมาข้าบัดเดียวนี้”
“จิ้งจอกฟ้า” มินโฮเอ่ยชื่อของเจ้าของเสียงที่แสนจะหวานหูที่เขาเพิ่งได้ยิน แล้วใช้เท้าเหยียบไปบนหน้าอกแกร่งของฮันเกิง แรงกดทับสร้างความปวดร้าวให้กับนักบวชหนุ่มเป็นร้อยเท่าพันทวี
“อ๊ะ ฮึก” โลหิตสีแดงไหลออกมาเป็นลิ่ม ดูแล้วน่าเวทนายิ่งนัก แต่ใบหน้าของจิ้งจอกแดงยังคงเรียบเฉยในตาสีแดงๆ ค่อยกลายเป็นสีดำสนิท
“ท่านคยูฮยอนเรียกข้าแล้ว ไม่อย่างนั้นละก็ วันนี้เจ้าต้องม้วยแน่ เจ้านักบวชน่าโง่ ฮ่าๆๆ” ปีศาจจิ้งจอกแดงเอ่ยวาจาเย้ยหยันค่อนสร้างความเจ็บแค้นให้กับฮันเกิงยิ่งนัก แล้วชักเท้าออกและตรีศูลออก แล้วละก้าวไปยังร่างอันไร้เรียวแรงของปีศาจดอกไม้ที่สั่นทะท้านนอนรอความตายอย่างทรมาน
“ท่านมินโฮ ช่วยฆ่าข้าทีเถอะ ข้าๆ” ปีศาจดอกไม้มินจีให้เฮือกสุดท้ายขอร้องอย่างน่าเวทนา
“เจ้ามากับข้าเถอะ จิ้งจอกฟ้าของข้าจะต้องช่วยเจ้าได้แน่” มือแกร่งของคนกายสีแดงค่อยๆ ช้อนร่างสีเขียวขึ้นแล้วก็หายไปในพลิบตาปานสายลมพัดไหว
“ฮึ ข้าฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้ปีศาจหน้าขน” ฮันเกิงสบถอออกมาระรนเจ็บแค้น นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขาเองเป็นคนบำเพ็ญเพียรมานาน แต่กับต้องมาพ่ายให้กับปีศาจหน้าขนอย่างไอ้จิ้งจอกแดงตนนี้ มือแกร่งลูบไปที่ช่วงท้องของตนเอง แล้วบาดแผลฉกรรจ์เหล่านั้นกับค่อยหายเป็นปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สถานที่ๆ เงียบสงบที่นึง ภายในถ้ำขาวโืพนไปด้วยหยกสีขาวราวหิมะ เย็นสบายคลายความทุกข์ระทม เจ็บปวดไปได้มากโข ที่นี้คือที่ไหนกันน่ะ สร้างความตื่้นตะลึงให้กับปีศาจดอกไม้ผู้มาเยือนยิ่งนัีก
“ท่านมินโฮ ที่นี้คือที่ไหนกันรึ” จินกีถามผู้ที่ช่วยเหลือปีศาจชั้นปลายแถวอย่างตน เอ่ยถามผู้มีพระคุณ ในคำถามระคนบนไปด้วยความอย่างรู้อยากเห็น
“.............” แต่ผู้มีพระคุณของเขากับเงียบนิ่ง สายตาจดจ้องไปเบื้องหน้า เหมือนไม่ได้สนใจในคำถามของปีศาจดอกไม้เลยแม้แต่น้อย
“เจ้ามาแล้วรึ มินโฮน้องข้า”
เป็นไงกันมั้งค่ะ เรื่องนี้คนดีัมีน้อย ออกแนว........ไปนิดนึงน่ะ ภาษาอ่้านยาก?
ฝากติดตามด้วยน่ะค่ะ คึคึ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น