ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweetly Exchange :: รักแรก...แลกรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : Sweetly Chapter 4 :: Wanna go shopping?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 432
      0
      22 พ.ค. 55


    มาอัำพแล้วค่ะ!! >O< ขอโทษนะคะที่มาอัำพช้าไปหน่อย กว่าจะแต่งตอนนี้จบมันนานมากกก เนื่องจากติดภารกิจหลายที่ ต้องไปต่างจังหวัดซะหลายวัน ยังไงก็ขอให้อ่านให้สนุกนะคะ แล้วก็มีอะไรก็ติชมกันเต็มที่เลย

    1 คอมเม้นของคุณ = 1 กำลังใจที่ให้นักเขียนนะคะ^^

    ปล. แก้ฟอนท์ให้แล้วนะคะ ขอโทษด้วยน้าา

    _____________________________________________________________________________________
     

    Sweetly Chapter 4
    Wanna go shopping?

     

    [Alex’s talk]

                ก๊อกๆๆ

                "นาย...มีอะไร =_=;"

                ต้นรักโผล่หน้ามึนๆออกมาจากห้องนอนของเธอ หลังจากที่ผมยืนเคาะประตูนานร่วมสามชาติ ท่าทางเธอจะหงุดหงิดที่เห็นหน้าผมตั้งแต่เช้าทั้งๆที่วันนี้วันหยุด ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากจะไปยุ่งอะไรกับเธอหรอกนะ เพราะเธอชอบพ่นภาษาไทยใส่ผม(ที่ฟังไม่ค่อยจะออก) โชคดีที่คราวนี้ผมพอจะเดาได้ว่าเธอถามว่าอะไร

                "ฉานอยากดั่ยโทลาสาบบบ -_-;"

                พูดไปก็อายตัวเองครับ ให้ตายสิ! ทำไมภาษาไทยมันยากแบบนี้ก็ไม่รู้ มีพยัญชนะกับสระยังไม่พอ พ่วงวรรณยุกต์เข้ามาอีก แค่พูดเสียงเพี้ยนไปนิดเดียวความหมายก็เปลี่ยนไปเลย =O=!! แล้วคำบางคำก็ออกเสียงเหมือนกับภาษาอังกฤษ แต่ความหมายนี่ต่างกันสุดขั้วเลย ด้วยความที่ผมเป็นเด็กใหม่ ผมจึงพยายามเข้าไปคุยกับเพื่อนในห้อง แต่ว่าพวกเขาคงจะไม่ค่อยเข้าใจผม เลยพูดขึ้นว่า 'เฮ้ยๆ เปิดดิกทีๆ' ผมงี้แทบช็อคตาย ผมรู้ว่าเปิดคืออะไร ส่วนคำว่าดิกที่ผมคิดคือ dick ที่แปลว่าอวัยวะเพศชายครับ -_-; รวมๆดูแล้วก็คือเขาให้ผมเปิด...ไอ้นั่นให้เขาดู ผมเกือบจะวิ่งหนีอยู่แล้วตอนที่พวกนั้นเขยิบเข้ามาใกล้ แต่ปรากฏว่าเขากลับเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มนึงออกมาจากโต๊ะที่ผมยืนพิงอยู่ ผมถึงบางอ้อทันทีครับ ที่แท้มันคือ Dict(ionary) ไม่ใช่ Dick อย่างที่ผมเข้าใจ รอดไปที =_=;;

                กลับมาสถานการณ์ปัจจุบันดีกว่า! ตอนนี้ผมเดินออกมารอที่ห้องรับแขกตามคำสั่งของยัยขี้บงการที่ชื่อว่าต้นรัก ไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กคล้องคอออกมาด้วย

                "เอ่อ เมื่อกี้...นายพูดว่าอะไรนะ" คราวนี้เธอถามผมเป็นภาษาอังกฤษแปร่งๆ นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผมคุยกับเธอไม่รู้เรื่อง เหตุผลหลักเลยด้วยล่ะ แต่ในเมื่อเธอถามเป็นภาษาอังกฤษมา ผมก็จะตอบเป็นภาษาอังกฤษละกัน

                "ฉันบอกว่าฉันอยากได้โทรศัพท์อ่ะ โทรศัพท์รู้จักใช่มั้ย =_="

                "รู้จักสิ! นายจะเอาไปทำอะไร?"

                เอามาปาหัวเธอมั้ง...

                "ฉันก็ต้องใช้โทรติดต่อคนอื่นบ้างสิ ทั้งเพื่อนๆที่นี่ แล้วไหนจะพ่อแม่ ญาติฉัน เพื่อนฉันที่อังกฤษอีก นี่เธอคิดบ้างมั้ยที่ถามมาเนี่ย" ผมรัวเป็นชุดใส่หน้าต้นรักที่ทำหน้ามึนทันที

                "น่ะ...นี่! พูดให้มันช้าๆได้มั้ย ฉันฟังไม่ทันนะ" เธอถอนหายใจก่อนจะโบกมือไปมา "อะไรก็ไม่รู้ล่ะ แล้วนายมีเงินหรอ? มันนี่อ่ะๆ"

                "มีสิ"

                "นายมีเท่าไหร่ *O*"

                ทำไมผมต้องบอกเธอด้วยวะ? แล้วไอ้ตาเป็นประกายนี่มันมาจากไหน =_=

                "ชิ! ไม่บอกก็ไม่อยากรู้หรอก งั้นเดี๋ยวฉันพาไปห้างละกัน เอ่อ...ห้างเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าอะไรหว่า -O-;" ต้นรักบ่นพึมพำๆอะไรสักอย่างก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนของเธอ แล้วออกมาพร้อมดิก ...ผมหมายถึงดิกชันเนรี่น่ะ -_-;;

                "อ้อ! Department Store! มันบิ๊กมากๆเลย เดี๋ยวพาไป นายก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวได้"

                เมื่อต้นรักพูดจบ เธอก็เดินกลับเข้าไปในหลุม เอ้ย ผมหมายถึงห้องนอนของเธอ -_- บอกตามตรงเลยว่าเมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่ต้นรักพูดเลยครับ ก็เล่นพ่นภาษาไทยออกมาเป็นชุด ฟังออกคำเดียวคือคำว่าห้างสรรพสินค้า อืม...สงสัยเธอคงจะไปเตรียมตัวแล้วจะพาผมไปห้างล่ะมั้ง ผมยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวบ้าง

                เสื้อผ้าที่ผมเอามาล้วนเป็นเสื้อจากอังกฤษทั้งนั้นเลย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผมมีแต่สเวตเตอร์ เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ตัวหนักๆซะเป็นส่วนใหญ่ พวกเสื้อยืดก็พอมีบ้างประปราย สงสัยผมคงต้องไปหาซื้อเสื้อผ้ามาเพิ่มแล้วแหละ อา...ดีเลย ตอนนี้บ๊อกเซอร์ที่เอามาก็ไม่พอจะใช้แล้ว (ขี้เกียจซักผ้า) ผมก็จะได้ไปซื้อมาเพิ่มด้วย -..- ผมเปิดกระเป๋าตังพลางเช็คเงินที่อยู่ในนั้น มีธนบัตรสีเทาและสีม่วงหลายใบ เพราะค่าเงินบาทอ่อนกว่าเงินปอนด์(สกุลเงินของประเทศอังกฤษ)ค่อนข้างมาก เงินเก็บของผมจึงสามารถแลกออกมาเป็นเงินไทยได้มากพอที่จะกินอยู่ได้สองสามเดือนเลยล่ะ นี่ก็นับว่าเป็นข้อดีของชาวต่างชาติที่มาช็อปปิ้งที่เมืองไทย ได้ทั้งของดีและราคาก็ถูกด้วย

                ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อโปโลสีดำมีจระเข้ตัวสีเขียวๆอยู่ที่อก และกางเกงยีนส์สีซีด ผมเซ็ตผมสีน้ำตาลทองของตัวเองเป็นทรงชี้ๆแบบง่ายๆให้เข้ากับบรรยากาศชิวๆของเมืองไทย เป็นจังหวะเดียวกับที่ต้นรักเดินออกมาจากห้องนอน เธอดูแปลกตาไปเล็กน้อยกับชุดไปรเวทแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงหน้าตาบ้านๆแบบนี้ก็แต่งตัวเป็นเหมือนกัน ต้นรักหันมามองผมก่อนจะทำตาโต ผมล่ะเกลียดสีหน้าแบบนี้จริงๆเลย มองอย่างกับผมเป็นเอเลี่ยนที่บุกมาจากนอกโลก -_-; ไม่นานเธอก็หันกลับไปแล้วเดินไปใส่รองเท้าตรงทางเข้าบ้าน

                "ใส่รองเท้า เอ่อ นิ่มๆ สบายๆนะ เราต้องไกลเดิน" ต้นรักหันมาพูดกับผมเป็นภาษาอังกฤษ คนเขียนไม่ได้พิมพ์ผิดครับ แต่เธอพูดสลับกันแบบนั้นจริงๆ =_= ผมถึงบอกไงว่ามันเข้าใจยาก

    "-_-; อืม"

                สิบนาทีต่อมา รถแท็กซี่ก็มาจอดลงตรงหน้าห้างๆหนึ่ง ผมไล่สายตามองตั้งแต่ชั้นหนึ่งขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดที่สูงทะลุกลีบเมฆไปเลย -O-! คือมันก็ไม่ได้สูงอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าเทียบกับที่อังกฤษแล้วมันต่างกันลิบลับเลย ทั้งความสูงและความกว้าง  ถ้าให้เดาที่นี่ต้องมีไม่ต่ำกว่าเจ็ดชั้นแน่ๆ ตกลงว่านี่มันห้างหรือโรงแรมเนี่ย? =_=

                "ตามฉันมาสิ จะยืนจ้องอีกนานมั้ยยะ?"

                ต้นรักพูดแล้วกวักมือเรียกผมให้เดินตามเธอเข้าไปในห้าง เธอบ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้เป็นภาษาไทยที่ผมฟังไม่ทัน ไม่ใช่ว่าเธอกำลังสาปแช่งผมหรอกนะ ยิ่งเคยได้ยินมาว่าคนไทยมีความเชื่ออะไรหลายๆอย่างแปลกๆด้วย อย่างเช่นพวกการเล่นไสยศาสตร์ เสกหนัง...เอ่อตัวอะไรนะ วัวหรือควาย? -_-;; ตัวอะไรสักอย่างเนี่ยแหละเข้าท้อง แบบว่าโหดจริงอะไรจริง

                "เอ่อ มือถือ หมายถึงเซลล์โฟนอ่ะ ต้องไปที่ชั้นสามนะ นายอยากได้แบบไหน?"

                "แบบไหนก็ได้" ผมตอบพลางยักไหล่แบบไม่ค่อยสนใจอะไรนัก ทำให้ต้นรักจ้องผมตาขวาง

                "นายช่วย...คิดอะไรสักอย่างได้มั้ย? ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องเป็นคนพานายมาด้วยนะ ไม่น่าเล้ยยยย" ผมเข้าใจแค่ประโยคแรกเท่านั้นแหละ อีกประโยคนึงเธอบ่นพึมพำเป็นภาษาไทย(อีกแล้ว) ถ้าให้เดานะเธอต้องกำลังด่าผมแน่ๆเลย สีหน้าและท่าทางมันบ่งบอก -_-

                "งั้นเอาแบบเธอละกัน เธอใช้มือถือแบบไหนล่ะ?" ผมถามพลางแบมือขอดูโทรศัพท์มือถือของเธอ แต่ต้นรักกลับทำหน้ามึนใส่ผม -_-; ผมพูดเร็วไปหรอ? งั้นพูดใหม่ก็ได้ "ฉันบอกว่า..."

                "ไม่ๆ ฉันเข้าใจที่นายพูด แต่ทำไมนายต้องมาใช้มือถือตามฉันด้วยล่ะยะ? เครื่องนึงไม่ใช่บาทสองบาทนะเฟ้ยย >_<"

                "แล้วทำไมล่ะ? ฉันจ่ายได้ก็แล้วกัน -..-"

                "แต่นายอยู่ที่นี่แค่ปีเดียวเองนะ จะซื้อแบบแพงๆไปทำไมกัน อย่างนายซื้อแค่สองสามพันก็พอมั้ง"

                "ก็ฉันจะเอาอ่ะ เธอนี่ปัญหามากจังเลย ไม่ใช่ว่าฉันไปขโมยโทรศัพท์ของเธอมาใช้สักหน่อย จะโวยวายอะไรนักหนา" ผมเริ่มโวยบ้าง

                "นี่...พูดช้าๆสิ ฉันฟังไม่ทัน TOT"

                "เฮ้ออ..." ผมถอนหายใจเบาๆอย่างปลงๆ

                "อ้ะๆ ก็ได้ นายจะซื้ออะไรก็ซื้อไปเถอะ เงินนายนี่"

                ต้นรักพาผมขึ้นลิฟท์แก้วเพื่อขึ้นไปชั้นสาม ถึงแม้ว่าเราจะต้องยืนเบียดกับคนจำนวนมหาศาลที่อยู่ในลิฟท์ แต่เราก็สามารถมองเห็นทุกอย่างผ่านกระจกใสลงไปด้านล่าง เห็นคนจำนวนมากเดินกันเต็มไปหมด เข้าร้านนี้ออกร้านนู้น ภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดๆเหมือนกันแฮะ ^^ มันคงเป็นฟีลลิ่งหนึ่งของนักเรียนแลกเปลี่ยนล่ะมั้ง...

                ผมเดินตามต้นรักออกมาจากลิฟท์แล้วเข้าไปในร้านโทรศัพท์มือถือที่อยู่หัวมุมของทางเดิน ที่นี่เหมือนจะขายมือถือได้หลากหลายยี่ห้อมาก มียี่ห้อที่ดังๆที่ผมรู้จัก และที่ผมไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ให้ตายสิ ทำไมมันเยอะแบบนี้เนี่ย จ้องจนตาลายไปหมดแล้ว =_=;

                "พี่คะๆ" ต้นรักเดินเข้าไปหาผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นพนักงานของร้านนี้ "คือหนูจะมาซื้อมือถือให้เพื่อนน่ะค่ะ"

                "อ๋อ ครับๆ สนใจรุ่นไหนอยู่หรอ?"

                "เอ่อ..." เธอหันมามองผมแวบนึง ก่อนจะทำหน้าเซ็งแล้วก็หันจากไป -_-; "เอารุ่นนี้อ่ะค่ะ มีมั้ย?" ต้นรักยื่นมือถือของเธอไปให้พนักงานคนนั้นที่รับมามอง โห...เล่นใช้ไอโฟนเลยหรอ ตอนแรกผมก็นึกว่าเธอใช้รุ่นธรรมดาๆ ราคาถูกๆซะอีก แล้วเท่าที่ผมได้ยินมา ราคาไอโฟนที่ไทยมันแพงกว่าที่บ้านผมนี่หว่า ซวยล่ะ...ตังพอมั้ยเนี่ย TOT

                "อ๋อ มีสิๆ นี่รุ่นใหม่เลยใช่มั้ย เดี๋ยวพี่หยิบมาให้ดูนะ..."

                ระหว่างที่พนักงานก้มลงไปหยิบไอโฟนที่อยู่ ผมก็รีบคว้าแขนต้นรักมาคุยทันที

                "ทำไมเธอไม่บอกว่าใช้ไอโฟนล่ะ"

                "เอ๊า ก็นายบอกเองว่าจะเอาเหมือนฉัน -O-"

                "เธอพูดสลับกันอีกแล้วนะ... ช่างมันเหอะหวังว่าฉันคงจะมีเงินพอ =_="

     

                สุดท้ายแล้วผมก็ได้ไอโฟนเครื่องใหม่เอี่ยมสีดำมาอยู่ในมือครับ ^^ โชคดีไปที่มันกำลังมีโปรโมชั่นลดราคาเหลือครึ่งหนึ่งอยู่พอดี ทำให้ผมเหลือเงินอีกจำนวนหนึ่งไว้ซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อพอดี ซื้ออะไรบ้างหว่า ลืมไปแล้ว -O-;

                "เดี๋ยวฉันจะไปซื้อของต่อนะ" ผมหันไปบอกต้นรัก

                "นายจะซื้ออะไรอีกเนี่ย?  =_="

                "ไม่รู้ นึกอยู่เหมือนกัน...อืม... คงพวกเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า แล้วก็...อ้อ! บ็อกเซอร์ด้วย"

                "บ็อกเซอร์?? -O-!!"

                ต้นรักทวนคำพูดของผมอย่างอึ้งๆ อย่าบอกนะว่ายัยนี่ไม่รู้ว่าบ็อกเซอร์คืออะไรน่ะอะไรมันจะฟายขนาดนี้ครับพี่น้องงง

                "เออ บ็อกเซอร์อ่ะ ที่เอาไว้ใส่ข้างในแล้วสวมกางเกงยีนส์ทับอ่ะเคยเห็นมั้ย? หรือว่าฉันต้องเปิดให้ดู?"

                "เฮ้ยย! อย่าเปิดๆ ไม่ต้องๆ ฉันรู้ว่ามันคืออะไร -_-;; เอ่อ...งั้นนายก็ไปเองละกัน เดี๋ยวฉันนั่งรอตรงนี้" ต้นรักชี้ไปที่ม้านั่งที่อยู่ตรงริมทางเดิน

                "อือ... เฮ้! แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าจะซื้อของพวกนี้ที่ไหนถ้าเธอไม่ไปด้วย"

                "เออจริง...โอ๊ยตายย นี่ฉันต้องไปเลือกกางเกงในกับนายหรอเนี่ย TOT"

                กางเกงในที่ไหนกัน นี่มันบ็อกเซอร์ต่างหาก! =O=;

                "งั้นไปซื้อเสื้อผ้าก่อนก็ได้ นำทางไปซิ"

                ผมพูดพลางดันไหล่ต้นรักเบาๆให้เดินนำไปข้างหน้า เธอเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยพลางทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วเดินนำหน้าผมไป เราลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นG (Ground Floor) ชั้นที่มีเสื้อผ้าขายเยอะๆที่เราเดินเข้ามาเจอตอนเข้ามาครั้งแรก หูย...คนเยอะเป็นบ้าเลย แค่เห็นก็รู้สึกอึดอัดแล้ว -_-^ ต้นรักหันซ้ายหันขวาก่อนจะเดินเข้าไปในซอยด้านซ้ายมือ ผมเดินตามเธอมาเรื่อยๆ ในใจก็คิดระแวงว่ายัยนี่จะหลอกผมมาฆ่าหมกโถส้วมรึเปล่า -O-; แล้วเราก็หยุดลงหน้าร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายร้านหนึ่งที่ค่อนข้างดูดีทีเดียวล่ะ ผมเดินตามเข้าไปในร้านพลางมองไปรอบๆ ให้ตาย...ร้านนี้ทำเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของตัวเองด้วยอ่ะ ในขณะที่ผมกำลังตื่นตาตื่นใจกับเสื้อผ้าหลากหลายแนวที่แขวนอยู่ที่ราว พี่คนขายก็เดินเข้ามาหาพวกเรา

                "สวัสดีค่ะน้อง มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยคะ?"

                "อ้อ...เอ่อ จะมาหาเสื้อผ้าให้เพื่อนน่ะค่ะ ^^"

                "คนนี้ใช่มั้ยคะ?" พี่คนขายชี้มาที่ผมที่มองกลับงงๆ(ฟังไม่ออก) "เลือกดูตามสบายเลยค่ะ เสื้อผ้าผู้ชายอยู่โซนด้านหลังนะคะ อ้อ! พี่ลืมบอกว่าทางร้านเราไม่อนุญาตให้ลองเสื้อนอกจากจะซื้อเท่านั้นนะคะคุณน้อง ^^"

                "เข้าใจแล้วค่า..." ต้นรักหันกลับมาหาผมหลังจากที่พี่คนขายเดินออกไป "นายไปลองชุดได้เลยนะ หยิบไปเลยตามสบาย! 'w' "

                "-_-??"

                "นี่เลยๆๆ เดี๋ยวฉันหยิบให้ โอ้ววว ตัวนี้สวยดีนะ... อันนี้ด้วยๆ กางเกงตัวนี้ก็เท่ดีแฮะ อุ๊ย ยีนส์ตัวนั้นก็ดูใส่สบายเนอะๆ >O<"

                ผมยืนมองต้นรักวิ่งไปหยิบเสื้อ กางเกงแล้วก็หมวกแล้วโยนมาให้ผมถือ -O-; ไม่ได้หยิบมาแค่ตัวสองตัวนะ มาทีเป็นสิบเลย บางทีก็เอามาทาบกับตัวผมบ้าง สั่งให้ผมลองสวมบ้าง อะไรวะเนี่ย? ยัยนี่มาเลือกให้ผมทำไม ผมเป็นคนใส่นะเฟ้ย!

                "อ่ะ...นายเอาเสื้อผ้าพวกนี้" ต้นรักชี้ไปที่กองเสื้อและกางเกงยักษ์ที่สุมกันอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะชี้มาที่หมวกสามใบที่อยู่บนหัวผม และอีกประมาณห้าใบในมือ "แล้วก็หมวกทั้งหมดไปลองใส่ดูนะ ^^ ฮึๆ"

                บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยไว้วางใจกับเสียงหัวเราะฮึๆของเธอเลย =_=; แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ยังรับเสื้อและกางเกงไม่ต่ำกว่าสิบตัวในมือเดินเข้าห้องลองไป โดยมีสายตาของพี่พนักงานมองมาอย่างอึ้งๆงงๆ อย่าว่าแต่พี่งงเลย...ผมงงหนักกว่าอีก แล้วดูหน้ายัยต้นรักสิครับ กระหยิ่มยิ้มย่องเหมือนคนกำลังสะใจอะไรบางอย่าง -_-; ยัยนั่นคงไม่ได้ใส่อะไรไว้ในเสื้อหรอกมั้ง เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็เข้าไปลองเสื้อ หลังจากลองจนครบทุกตัว ผมก็เดินออกมาเพื่อจะเอาเสื้อตัวที่ไม่เอาไปเก็บที่เดิม แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นราวกับฟ้าผ่า -O-;;

                "หยู๊ดดด! นายห้ามเอาเสื้อไปแขวนไว้ที่เดิมนะ!" ยัยต้นรักนั่นเองวิ่งเข้ามาห้ามผมไว้ พลางส่งสายตาดุๆมาให้

                "อะไรของเธอ? ก็ฉันไม่เอาเสื้อพวกนี้นี่นา ก็ต้องมาแขวนไว้ที่เดิมสิ จะให้เอาไปกินรึไง"

                "พูดอะไรวะ... นั่นแหละๆ ไม่ได้ๆ นายเอาไปไว้ตรงนี้ไม่ได้ นายต้องจ่ายตังค์ก่อน -O-!!"

                "จ่ายตังค์? จ่ายทำไมในเมื่อฉันจะไม่เอาเนี่ย" ผมถามงงๆ เริ่มสัมผัสถึงกลิ่นทะแม่งๆแล้วสิ

                "เอ๊า นึกว่านายรู้แล้วซะอีกว่าที่นี่เขาไม่ให้ลองเสื้อ นอกจากจะซื้อเท่านั้น แหม...พี่คนขายก็พูดออกซะดัง ป้ายก็มีติดหราอยู่ นายไม่รู้ได้ยังไงกันน้าาา >_<"

                ยัยตัวแสบ! ผมหันขวับไปมองป้ายที่ติดอยู่หน้าห้องลองเสื้อที่เขียนไว้เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ(ตัวเท่ามด)ว่า 'ห้ามลองเสื้อ' แล้วหันไปมองหน้าคนขายที่กำลังมองมาทางผมพลางยิ้มแหยๆ =O=;งั้นผมก็ต้องซื้อเสื้อผ้าทั้งหมดนี้เลยสิ เวรเอ๊ย! จำได้ว่าเมื่อกี้เห็นราคาแวบๆนี่นา ตัวละเท่าไหร่หว่า ผมควานหาป้ายราคาที่ห้อยอยู่กับเสื้อตัวหนึ่งมาดู โอ้เฮลล์...ราคาหนึ่งพันบาท! แล้วมีทั้งหมดสิบตัว สิบคูณพัน เท่ากับ หนึ่งหมื่นบาท รวมกับหมวกอีกห้าใบ ก็เป็น...หมื่นสอง!? OoO ใส่แล้วมันจะบินได้รึไงฟะ มายก๊อชช!

                "นายรู้แล้วนี่เนอะ งั้นฉันไปรอข้างนอกก็แล้วกันน้า เสร็จเมื่อไหร่ก็ตามออกไปแล้วกัน ฮึๆๆๆ" ต้นรักว่าแล้วเดินออกไปนอกร้าน ทิ้งให้ผมอ้าปากค้างเผชิญหน้ากับพนักงานขายคนเดิมที่ตอนนี้ชูเครื่องคิดเลขโชว์ตัวเลขราคาที่ผมต้องจ่ายเป็นจำนวนห้าหลัก และอีกห้าสิบสตางค์ TOT ผมกลืนน้ำลายลงหนึ่งอึ้กแล้วล้วงกระเป๋าตังที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา หยิบธนบัตรสีเทาออกมาเกือบหมดกระเป๋าเแล้วจ่ายให้พนักงานไป เพราะยัยต้นรักคนเดียวเลย! ยัยนั่นต้องรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรกแน่ๆว่าที่นี่ห้ามลองเสื้อ ฮึ่ย! นี่ผมพลาดไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย T^T ผมยืนมองเงินที่ผมจ่ายไปเมื่อกี้จนมันถูกเก็บเข้าไปในเครื่องคิดเงิน ก่อนจะคว้าถุงกระดาษประมาณห้าใบออกไปด้วยความเจ็บใจ

                "โอ๊ะ! เสร็จแล้วหรอ จ่ายเงินเรียบร้อยดีมั้ย ^O^" ต้นรักร้องทักทันทีที่ผมเดินออกมาจากร้าน ยังจะยิ้มได้อีกเรอะ? ผมเริ่มรู้สึกว่าคิ้วกระตุกนิดๆตอนจะตอบเธอกลับไป

                "เรียบร้อยดี ไม่...มี...ปัญหา หึๆ -_-^^"

                "ดีๆ นายก็รวยเหมือนกันนี่ ร้านนี้ของแพงๆทั้งนั้น ฮี่ๆ เอาล่ะ...วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันจะพานายออกไปเที่ยวต่อละกัน ดีมั้ยๆ นายอยากไปเที่ยวไหนล่ะ สยาม ข้าวสาร ทองหล่อ..."

                ผมพยายามอดกลั้นไม่ให้หันไประเบิดใส่ต้นรักที่สุดเท่าที่จะทำได้ สูดลมหายใจเข้า หายใจออก ฟู่ววว =_=!! เอาล่ะ... ยัยนี่จะพาไปผมไปเที่ยวใช่มั้ย หวังว่าไอ้ที่พูดๆมานี่จะไม่ทำให้ผมเสียตังเยอะนะ เพราะแค่นี้ก็แทบจะเหลือแค่เศษตังค์กลับบ้านอยู่แล้ว T^T

                ในเมื่อเรา(ที่จริงก็แค่ยัยต้นรักคนเดียวนั่นแหละ ผมไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรหรอก -_-^) ยังตัดสินใจกันไม่ได้ว่าจะไปไหนดี ต้นรักเลยโบกแท็กซี่ให้ไปส่งเราที่สถานีรถไฟฟ้าBTS ซึ่งมันอยู่บนฟ้าจริงๆ O_o เราอยู่ที่สถานีอโศกซึ่งตอนนี้เรียกได้ว่าแทบจะมองไม่เห็นทางเข้าเพราะคนแน่นมากกก แออัดกันอย่างกับอยู่ในปลากระป๋อง นี่ขนาดว่าเข้าแถวต่อคิวกันแล้วนะ สงสัยเพราะเรามาช่วงเที่ยงพอดีล่ะมั้ง ทุกคนเลยออกมาเดินหาข้าวกลางวันกินกันยั้วเยี้ยไปหมดแบบนี้ ผมเลยได้โอกาสใช้ให้ต้นรักเป็นคนไปกดบัตรรถไฟฟ้าโดยอ้างว่าผมทำไม่เป็น -..- ที่จริงอ่ะแค่กดบัตรแค่นี้สบายจอร์จอยู่แล้ว แต่ผมหมั่นไส้ยัยต้นรัก อยากใช้อ่ะ มีปัญหาอะไรมั้ยล่ะ -_-

                "อ่ะนี่บัตรของนาย" เมื่อต้นรักกลับมาพร้อมกับบัตรBTS พลางปาดเหงื่อบนหน้า เหอะ... สมน้ำหน้า :P

                ผมสะใจอยู่ไม่นานก็โดนคนด้านหลังดันไปเบียดกับคนข้างหน้าซะจนแทบเป็นร่างเดียวกัน ผมเลยแกล้งทำเป็นโดนคนข้างหน้าดันบ้าง เล่นเอาคนด้านหลังล้มกันเป็นแถบ -_-V หึๆๆ อยากเบียดกันดีนัก ไม่นานผมก็สามารถเดินเข้ามาในตัวสถานีได้สำเร็จโดยที่ไม่มีใครเบียดผมมาอีกเลย วะฮะฮ่า =O=!! แล้วต้นรักก็เดินตามเข้ามาทีหลังด้วยสภาพเหมือนกับไปฟัดกับตัวอะไรมา ผมเผ้าชี้ไปคนละทาง เหงื่อเต็มหน้าไปหมด ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วผมยิ่งสะใจ ฮ่าๆๆๆ >_<

                ผมกับต้นรักมาถึงในสิบห้านาทีต่อมา ผมงี้แทบจะคลานออกมาจากรถไฟฟ้าเลยเพราะคนแน่นมาก แน่นแบบชนิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต T_T เรารีบวิ่งลงบันไดลงไปที่ทางออกทันทีเนื่องจากมีฝูงชนมหาศาลกำลังไหลทะลักออกมาจากขบวนรถไฟ แสงดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าที่ส่องเข้ามาเต็มๆหน้าทำให้ผมหันไปถามต้นรัก

                "เธอจะพาฉันไปเที่ยวที่ไหน?"

                "อ้อ ฉันก็ลืมบอกเลย... นี่เรียกว่าถนนสีลมนะ เป็นย่านธุรกิจซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีที่เที่ยวด้วย พวกตลาดกลางคืนอะไรแบบนี้ พอนายกลับจะมีของฝากไปให้ญาติๆนายที่อังกฤษไง -O-" ต้นรักพูดพลางเปิดหาคำศัพท์ในดิกชันเนรี่ไปด้วย นี่...มายังไม่ทันจะครบเดือนก็จะไล่ฉันกลับแล้วรึไง -_-^

                "อืมๆ งั้นก็พาไปละกัน =_="

                ผมเดินมองข้างทางไปเรื่อย ที่นี่มีชาวต่างชาติเยอะเหมือนกันแฮะ ผมหันไปยิ้มให้สาวๆผมทองสองสามคนที่เดินผ่านไป พวกเธอก็ส่งยิ้มกลับมาอย่างอารมณ์ดี ในมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงพะลุงพะลังเลยล่ะ สงสัยจะไปชอปปิ้งมาเหมือนกัน >_< ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับตลาดกลางคืนมาบ้างเหมือนกันตอนที่หาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยก่อนจะมาถึง เห็นว่ามีพวกของทำมือ เสื้อผ้า อาหาร ของฝากเยอะแยะเลยล่ะ ดีเหมือนกัน ผมจะได้หาซื้อของส่งกลับไปให้พ่อกับแม่... จะว่าไปตั้งแต่มาถึงผมยังไม่ได้โทรหาท่านเลยนี่หว่า ไว้ทีหลังละกัน -_-;

                ระหว่างที่ผมกำลังเดินคิดอะไรเพลินๆอยู่นั่นเอง ต้นรักที่เดินอยู่ข้างหน้าผมก็หยุดกึ้ก เล่นเอาผมเดินชนเธอแทบเอาหัวโหม่งพื้น ผมเตรียมหันไปโวยวายใส่ทันที

                “นี่! จะหยุดก็บอกกันบ้างสิ จะได้เตรียมหยุดทัน เกิดล้มลงไปหัวฉันแตกจะทำไงฮะ -_-^”

                “ช่างหัวนายสิยะ -_-!!” ต้นรักหันมาตอกกลับแล้วหันไปชะเง้อคอมองเข้าไปในตึกที่เป็นกระจกใสข้างทาง ผมทำท่าจะว้ากใส่อีกรอบ แต่ต้นรักก็ดันพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

                “นี่ๆ นายว่านั่นใช่อั๋นหรือเปล่า *O*”

                “อั๋นไหน?”

                “อั๋นเพื่อนนายอ่ะ! นั่นไงๆ คนที่ใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีนส์อ่ะ ที่นั่งอยู่ตรงประตูอ่ะ เห็นปะๆๆ

     

                ผมมองตามเข้าไปในห้องกระจก เพิ่งจะสังเกตว่านี่มันเหมือนเป็นห้องเรียนอะไรสักอย่าง มีเด็กวัยรุ่นนั่งกันเต็มห้องเลย ผมมองไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ริมประตูที่กำลังจดอะไรบางอย่างสลับกับมองจอทีวีอย่างขมักเขม้น อา...นั่นอั๋นจริงๆด้วยแฮะ หมอนั่นเข้าไปทำอะไรในนั้นนะ วันนี้มีเรียนด้วยหรอ ทำไมผมไม่รู้เรื่อง -_-?

                "อุ๊ย มาเรียนพิเศษด้วย ขยันจังเลย *O*" ต้นรักพูดพลางเอาหน้าไปแนบกับกระจก -_-;

                "เรียนพิเศษ?" ผมทวนคำเป็นภาษาไทย มันคืออะไรล่ะเรียนพิเศษเนี่ย?

                "ช่ายย เรียนพิเศษอ่ะ เอ่อ...Special อ่ะ เข้าใจปะ =O=; จะอธิบายยังไงดีวะ... เอ่อ ก็แบบถ้านายไม่เข้าใจวิชาอะไร นายก็มาลงเรียนเพิ่มให้เขาสอนทวนให้ใหม่ไง"

                "แล้วจะเรียนเยอะๆไปเพื่ออะไรล่ะ?" ผมถามต่อ

                "ก็เข้ามหาลัยไง! ที่นี่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะแข่งขันกันสูงมากเลยนะ คะแนนห่างกันแค่จุดทศนิยมคณะก็เปลี่ยนเลยนะ -O-!!" ต้นรักตอบผมทั้งๆที่ยังคงจับจ้องสายตาที่อั๋นที่ยังคงจดขยุกขยิกในหนังสือ ผมมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเหนื่อยเบาๆ เฮ้อ...ชีวิตSenior(ม.6)ที่นี่ไม่ได้สบายอย่างที่คิดไว้เลยแฮะ

                "แล้วทำไมเธอไม่ไปเรียนบ้างล่ะ?" เห็นว่างทั้งวัน -*-

                "หืมม? ก็มันขี้เกียจนี่... เอ๊ะ แต่เรียนก็ดีเหมือนกันนะ >O<" พอต้นรักพูดจบก็กระเด้งตัวออกจากกระจกแล้วรีบวิ่งเข้าไปที่ประตูทางเข้าตึกทันที ผมต้องรีบคว้าคอเสื้อเธอเอาไว้ก่อน

                "นั่นเธอจะไปไหนน่ะ?"

                "ไปสมัครเรียนน่ะสิ! ก็นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าให้ฉันเรียน ถ้าเรียนแล้วจะเข้ามหาลัยดีๆไง แล้วก็ได้เรียนกับอั๋น...อุ๊บส์! :X"

                อ๋ออออ... เพราะอย่างนี้ล่ะสิ เธอถึงอยากจะสมัครเรียนแบบกระทันหัน =_=; ผู้หญิงช่างเป็นเพศที่น่ากลัวจริงๆ

                "นั่นแหละน่า! นายจะปล่อยฉันได้ยัง ฉันจะได้ไปสมัครเรียน... รอตรงนี้นะ แล้วเดี๋ยวพอสมัครเสร็จจะพาไปเที่ยว"

                พูดจบเธอก็ผลุบหายเข้าไปในตึกทันที ทิ้งให้ผมยืนรออยู่ด้านนอกคนเดียว =_= อะไรของเขานะ ช่างเหอะ! แล้วเรื่องอะไรผมต้องมารอยัยขี้บงการสมัครเรียนด้วยล่ะ ผมเดินของผมเองก็ได้ ตังผมก็มี(บ้าง) ไม่ง้อหรอก โด่วเอ๊ยย! -3-

                ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆ จนมาเห็นซอยๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยแสงสีจากไฟที่ประดับตกแต่งไปทั่ว เสียงเพลงแดนซ์มันส์ๆลอยเข้ามาในหู ผมมองเห็นสาวๆนุ่งน้อยห่มน้อยเดินเข้าเดินออกร้านนู้นร้านนี้กันเป็นว่าเล่น อา...ใช่แล้ว นี่ต้องเป็นคลับแน่ๆ นี่สินะสวรรค์ของการเที่ยวกลางคืนของชาวต่างชาติจากทุกมุมโลก >O< ยะฮู้ว! เยี่ยมไปเลย รับรองต้นรักไม่มีทางพาผมมาที่นี่หรอก เพราะมันผิดกฏของโครงการแลกเปลี่ยนของผมน่ะสิ -..- แต่ในเมื่อยัยนั่นไม่อยู่ ก็คงไม่มีอะไรเสียหายถ้าผมจะเข้าไปแวะชมซะหน่อย ฮิๆ

     

                Feels so good being bad (Oh oh oh oh oh)

    There's no way I'm turning back (Oh oh oh oh oh)

    Now the pain is my pleasure 'cause nothing could measure (Oh oh oh oh oh)

               

                รู้สึกดีจริงๆที่ได้ทำอะไรร้ายๆ

                ฉันไม่มีทางจะหยุดมันหรอก

                ความเจ็บปวดคือความสุขที่สุดของฉันในตอนนี้

     

                ผมเดินเข้าไปในซอยนั้นทันทีแบบไม่ลังเล ใจเต้นตุบๆไปตามจังหวะเพลงเลย >_< แล้วจู่ๆผมก็รู้สึกว่ามือดึงผมเข้าไปเบาๆ ก็พบว่าเป็นสาวสวยผมสีน้ำตาลคนหนึ่งกำลังยิ้มหวานแบบยั่วๆให้ผม พลางส่งขวดเหล้ายี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งมาให้ ผมรับมันแล้วดื่มทันที ของดีๆแถมยังดีแบบนี้ปฏิเสธไม่ลงหรอกครับ >O< ผมยิ้มขอบคุณแล้วเดินออกมา โชคดีชะมัดได้เหล้าฟรีมาตั้งขวดหนึ่งแน่ะ ฮิๆ ผมไม่มีทางเมาหรอก ขนาดตอนนั้นผมแข่งซดเตกีล่ากับเพื่อนๆที่อังกฤษตั้งหลายชอตยังไม่เมาเลย แค่ดื่มให้มันกรึ่มๆแบบนี้แหละถึงจะสนุก

     

     

                'Cause I may be bad, but I'm perfectly good at it

    Sex in the air, I don't care, I love the smell of it

    Sticks and stones may break my bones

    But chains and whips excite me

     

                ถึงฉันจะร้าย แต่ฉันก็เก่งในเรื่องแบบนี้

                มีเซ็กส์ได้ทุกที่ ฉันไม่สนใจ ฉันชอบกลิ่นของมัน

                ไม้เท้าและก้อนหินอาจทำให้ฉันกระดูกหักได้

                แต่โซ่และแส้เร้าใจฉันยิ่งกว่า

                (Credit : เพลง S&M - Rihanna)

                 ผมเริ่มโยกตัวไปตามจังหวะเพลงที่จู่ๆก็มันส์ขึ้นซะอย่างนั้น ไม่อยากจะบอกว่าตอนที่อยู่อังกฤษน่ะ ผมเป็นนักปาร์ตี้ตัวยงเลยนะ >_< สาวๆนี่ติดผมตรึมเลยล่ะ ฮึๆ โอย...มัวแต่อวดเรื่องของตัวเอง ตอนนี้เริ่มเดินไม่ค่อยตรงแล้วอ่ะ แต่ผมยังไม่เมาจริงๆนะ สติยังเต็มร้อย แค่สมองตอบสนองช้าลงเท่านั้นเอง ฮี่ๆๆ -O-; ตอนนี้ผมเริ่มส่งยิ้มให้สาวๆที่เดินสวนผ่านไปแบบพร่ำเพรื่อ พวกเธอยิ้มกลับมาให้ผมที่กำลังยกของมึนเมาในมือขึ้นดื่มอีกครั้ง... ทันใดนั้นเอง ผมก็รู้สึกว่ามีมือๆหนึ่งตรงดิ่งเข้ามาจับแขน ก่อนจะออกแรงลากผมไปทันที!

                "เฮ้ยย!!"

     



    ___________________________________________________To be continue>>>
    ©
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×