ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทเพลงรักแห่งกอนโดลิน [ Love lysics of Gondolin ]

    ลำดับตอนที่ #71 : Lily Of The Valley : Part 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 199
      0
      3 ม.ค. 56

    ภายในห้องทำงานส่วนพระองค์ขององค์กษัตริย์นั้น เต็มไปด้วยเอกสารโบราณมาตั้งแต่ครั้งแผ่นดิน

     

    วาลินอร์ หรือครั้งที่ความสงบสุขยังอยู่บนโลก ทว่าจอมมารทมิฬได้ทำลายต้นทวิพฤกษา

     

    อันมีนามว่า “ เลาเรลินและเทเพริออน ” ลงนั้น ความพินาศก็ได้เกิดขึ้นในหมู่พรายโนลดอร์ทั้งปวง

     

    จนต้องคำสาปของเหล่าเทพวาลาร์ในข้อหาเป็นกบฏต่อดินแดนอมตะ

     

    ซึ่งองค์ทัวร์กอนก็ทรงเป็นหนึ่งในนั้น ด้วยเป็นพระโอรสแห่งกษัตริย์ฟิงโกลฟิน อนุชาแห่งเฟอานอร์

     

    หรือจิตแห่งอัคนีผู้ซึ่งเป็นสาเหตุของคำสาปซิลมาริลและการกบฏในครั้งนั้น เมื่อนานมาแล้ว!

     

    กษัตริย์แห่งกอนโดลินก็ทรงใช้ห้องนี้เป็นที่ทรงงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับราชวัง คฤหาสน์ใหญ่ทั้งสิบหลัง

     

    และพสกนิกร ซึ่งผู้เป็นเลขานุการที่โปรดปรานมากที่สุดก็คือ “ พระธิดาอิดริล เคเลบรินดัล ”

     

    และตอนนี้นางก็มีผู้ช่วยงานซึ่งก็คือ ทูออร์ บุตรแห่งฮูออร์ ผู้เป็นสามีที่รักยิ่ง

     

    อือม...เล่มนี้เขียนด้วยอักษรเทงวาร์ ทำให้ข้าอ่านไม่ค่อยได้ ”

     

    ชายหนุ่มร่างสูงผมสีทองหม่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับชูหนังสือปกสีน้ำเงินให้ผู้เป็นภรรยาซึ่ง

     

    นั่งอยู่ตรงกันข้ามได้เห็นถนัด

     

    เราต้องช่วยแปลอีกใช่ไหมล่ะ ? ” อิดริลอมยิ้มเล็กน้อย และลุกไปที่โต๊ะไม้ขนาดเล็กกว่าของสามี

     

    นางทราบดีว่าทูออร์นั้นถนัดแต่ภาษาซินดารินซึ่งเป็นภาษาพรายที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในมิดเดิ้ลเอิร์ธ

     

    แต่อักษรเทงวาร์เป็นตัวหนังสือที่ใช้กันเฉพาะในดินแดนวาลินอร์ ดังนั้นความซับซ้อนและเข้าใจยาก

     

    จึงมากกว่าเป็นเรื่องธรรมดา

     

    โธ่! อิดริลยอดรัก ท่านเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญในงานหนังสือทั้งหลายมากที่สุด

     

     

    สำหรับท่านมันง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย นี่นา ”

     

    อยู่ที่บ้านนี้มาเป็นสิบปีแล้ว เจ้ายังไม่ชินอีกเหรอ ” เจ้าหญิงแห่งกอนโดลินหยอกเย้า

     

    พร้อมกับส่งสายตาคมหวานมาที่ชายหนุ่ม

     

    ก็นะ...” ทูออร์อมยิ้มให้ภรรยา พร้อมกับจับมือเรียวงามของอีกฝ่าย และจุมพิตแผ่วเบา

     

    แปลเล่มนี้ให้กระหม่อมด้วย พระองค์หญิง ”

     

    อิดริลก็รับหนังสือเล่มนั้นมา พร้อมกล่าวว่า “ จริงๆ เล้ย พ่อมนุษย์เอไดน์ ”

     

    อดา! นานา! ” เสียงของเด็กชายที่ทั้งสองคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นมาจากด้านนอก

     

    จอมซนมาแล้วล่ะ! ” เจ้าหญิงแห่งกอนโดลินกล่าว ส่วนทูออร์ก็ทำตามสัญชาตญาณ

     

    ของผู้เป็นพ่อ จึงเปิดประตูออกด้วยความเปรมปรีดิ์ และเห็นร่างน้อยยืนตรงอย่างสง่างาม

     

    อดา! หนูมาแล้ว ”

     

    ถวายบังคมเจ้าชายองค์น้อยแห่งนครลับแล ไม่ทราบว่าจะประทานอนุญาตให้กระหม่อมกอดท่าน

     

    ได้ไหม ? ”

     

    ไม่ต้องทันเวลาที่เออาเรนดิลจะต้องตอบคำถามนี้ เขาก็ได้ถูกยกตัวให้สูงขึ้นจนมาอยู่บนไหล่แกร่ง

     

    ว้าว! อดา! ” เออาเรนดิลอุทาน เมื่อถูกท่านพ่อหอมแก้มทั้งสองข้าง

     

    ไปหอมท่านแม่ด้วยซิ ” ทูออร์ก็พาเออาเรนดิลมาวางบนตักของมารดา

     

    หนุ่มน้อยที่รักของนานา ” อิดริลกล่าวเสียงหวาน เมื่อบุตรชายมาจูบที่ดวงหน้ามน

     

    และโอบคอเรียวของนางไว้แน่น

     

    เจ้าไปเล่นกับเสด็จยาย แล้วกลับมาคนเดียวเหรอ ? ”

     

    เปล่า หนูมากับเสด็จตา ”

     

    เมื่อกษัตริย์ทัวร์กอนก็ทรงดำเนินเข้ามาในห้อง สองสามีภรรยาจึงต้องลุกขึ้นคำนับ

     

    ถวายบังคมเสด็จพ่อ ”

     

    ไม่ต้องมากพิธีหรอกนะ เด็กๆ ข้าก็แค่ทำตามที่เออาเรนดิลขอ ”

     

    เอคเธลิออนซึ่งถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้เต็มอ้อมแขน ก็เอ่ยว่า

     

    องค์ชายน้อยทรงอยากมอบลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์มาให้ทุกคนขอรับ ”

     

    เด็กชายร่างเล็กทำหน้ายิ้มแป้น “ นึกว่ากวานัวร์- นานาจะอยู่กับพวกท่านด้วย ”

     

    น้าเจ้ายังไม่ได้กลับมาจากเหมืองแร่นะ สักพักก็คงมาแล้ว ขานั้นตรงต่อเวลาจะตายไป ” อิดริลกล่าว

     

    ทูออร์ก็เสริมขึ้นว่า “ ใช่ซิ! เขาเป็นน้องท่านนี่นา จะว่าไปข้าเป็นคนขี้เกียจเสมอ ”

     

    เมื่อเอคเธลิิออนวางช่อดอกไม้ทั้งหมดวางบนโต๊ะ จนดูคล้ายผ้าสีขาวหม่นที่ปกคลุมกองเอกสาร

     

    เยอะจริงๆ เพค่ะ เสด็จพ่อ แล้วทรงนึกเช่นไรที่ทรงตัดมา ”

     

    บุรุษผู้สูงวัยกว่าคนทั้งหมดในห้อง ก็รับสั่ง “ ไม่รู้ซินะ พ่ออยากตามใจหลานนี่นา ”

     

    ความจริงข้าไม่สบายใจเรื่องอาเรเดล นางนี่ช่างดื้อกับข้านัก

     

    ~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~

     

     

    ข้าเบื่อ! ข้าเบื่อเสด็จพี่ทัวร์กอน! ” ท่านหญิงขาวทรงทุบเสาไม้ของคอกม้าเสียงดัง

     

    พระน้องนาง ไม่เห็นต้องกริ้วเลยขอรับ ใต้ฝ่าพระบาททรงเป็นห่วงท่าน ”

     

    เจ้าก็เข้าข้างเขาตลอด ทำไมข้านะไม่ใช่คนอ่อนแอ ข้าเป็นธิดาของกษัตริย์ฟิงโกลฟินผู้กล้า

     

    ที่สำคัญข้าไม่อาจอยู่เฉยๆ ด้วยซ้ำ ”

     

    กลอร์ฟินเดลกำลังครุ่นคิดว่าจะบอกว่าอย่างไรดีให้พระนางอาเรเดลพระทัยเย็นๆ

     

    ข้ารู้นะ กลอร์ฟี่ ข้าดื้อเสด็จพี่ หนีออกจากจนตัวเองต้องหลงไปอยู่ในป่ามืด ต้องอยู่กินกับชายที่ตัวเองก็ไม่ได้รักแต่ข้าก็ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมถึงอยู่กับเขาได้ ?

     

    ทำไมต้องรอให้ลูกโตแล้วถึงพากลับมากอนโดลิน ? และก็ข้ากับลูกต้องยาพิษ

     

    ของเจ้าดาร์กเอลฟ์นั้น ข้า..ผิด..จริงๆ ที่ตัวเองทำแต่เรื่อง ”

     

    พรายหนุ่มผู้รับฟังคำครวญ ก็เข้าไปจับมือเรียวขาวของอาเรเดล

     

    พระน้องนาง ไม่เป็นไรขอรับ ข้าเป็นสหายของท่าน และอยากบอกท่านว่า ไม่ต้องกังวล

     

    เรื่องในอดีตที่ผ่านมา ท่านต้องเข้มแข็งเพื่อคนที่ท่านรัก และคนนั้นก็รักท่าน ”

     

    อาเรเดลจึงแย้มยิ้มให้กับสายตาที่แสนอ่อนโยน แต่ก็ชวนให้ลุ่มหลงของกลอร์ฟินเดล

     

    เจ้ายังคิดอะไรกับข้าอยู่เหรอ ? พ่อพรายคนดี ”

     

    อาเรเดล อิริสเซ กระหม่อมนั้น..”

     

    ทันใดนั้น ก็เสียงประกาศดังขึ้น “ พระอุปราชมายกลินเสด็จกลับเข้าเมือง! ”

     

    ลูกข้ามาแล้ว! ” ฝีพระบาทของท่านหญิงขาวก็เดินออกจากตรงนั้น

     

    กลอร์ฟินเดลก็ถอนหายใจเล็กน้อย และตามเสด็จออกจากคอกม้าเช่นกัน

     

    พระอุปราชหรือเจ้าชายลำดับหนึ่งแห่งกอนโดลินกำลังควบม้าสีดำตัวใหญ่

     

    พร้อมด้านหลังคือขบวนม้าของเหล่าทหารรับใช้ที่ทำหน้าที่เป็นเหล่าวิศวกรเหมืองแร่อังฮาบาร์

     

    ซึ่งเป็นเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รวมถึงเป็นป้อมปราการชั้นเลิศประจำทิศเหนือ

     

    ประตูวังจึงเปิดออก และเหล่าองครักษ์ประจำการทุกคนต่างโค้งคำนับถวายเจ้าชายพราย

     

    วันนี้ก็ปกติเช่นเคย ” เสียงทุ้มนุ่มออกจากริมฝีปากได้รูปสวย

     

    ร่างเพรียวก็ลงจากหลังม้า และลูบแผงคอเบาๆ “ มอริออนไปพักผ่อนเถอะ”

     

    ดวงตาสีดำขลับของม้าหนุ่มก็ฉายแวววิงวอนบางอย่าง

     

    เอางี้ซิ ข้าจะให้เขาเพิ่มแครอทสักสองถังแล้วกัน ”

     

    มอริออนก็พยักศีรษะด้วยความดีใจที่เจ้านายหนุ่มบอกประโยคนี้

     

    จอมตะกละเอ๊ย! วันนี้เลิกงานได้! ”

     

    ผู้ดูแลประจำโรงม้าก็พาเจ้าม้าดำกลับเข้าโรงเลี้ยง ส่วนทหารคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกลับบ้าน

     

    ลูกรัก ลูกกลับมาเร็วดีจัง ” เสียงหวานของสตรีผู้หนึ่งเป็นที่คุ้นเคยสำหรับมายกลิน

     

    ท่านแม่ ” เจ้าชายพรายในชุดเกราะอ่อนสีคราม และผ้าคลุมไหล่สีดำก็เดินมาใกล้

     

    และโค้งลงต่อเบื้องพักตร์ของมารดา “ งานไม่มาก เพราะลูกยังหาโลหะมิธริลชุดใหม่ไม่เจอ ”

     

    แต่มายกลินคงจะอารมณ์ดีกว่านี้ ถ้าไม่เห็นกลอร์ฟินเดลอยู่ด้านหลัง

     

    เจ้าชายทรงขยันจริงนะ ” พรายหนุ่มเสนาบดีเอ่ย

     

    ก็เป็น...เรื่องปกติของข้าอยู่แล้ว พี่กลอร์ฟี่ ”

     

    นัยน์ตาสีนิลคมคายแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจที่ลอร์ดหนุ่มจอมเจ้าชู้อยู่กับท่านแม่อาเรเดล

     

    แต่ว่าไม่อยากเสียมารยาท จึงกล่าวว่า “ ท่านแม่ พี่กลอร์ฟี่กลับเข้าวังกัน ข้าอยากไปเข้าเฝ้าเสด็จลุง ”

     

    ดีแล้ว มายกลินลูกแม่ ” ท่านหญิงขาวก็ทรงโอบแขนพระโอรสไว้แนบแน่น

     

    ถึงอย่างไรเสีย ข้าก็รักชายหนุ่มผู้นี้มากที่สุด...เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวของข้า

     

    ~_~_~_~_~_~_~_~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×