คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #71 : Lily Of The Valley : Part 3
ภายในห้องทำงานส่วนพระองค์ขององค์กษัตริย์นั้น เต็มไปด้วยเอกสารโบราณมาตั้งแต่ครั้งแผ่นดิน
วาลินอร์ หรือครั้งที่ความสงบสุขยังอยู่บนโลก ทว่าจอมมารทมิฬได้ทำลายต้นทวิพฤกษา
อันมีนามว่า “ เลาเรลินและเทเพริออน ” ลงนั้น ความพินาศก็ได้เกิดขึ้นในหมู่พรายโนลดอร์ทั้งปวง
จนต้องคำสาปของเหล่าเทพวาลาร์ในข้อหาเป็นกบฏต่อดินแดนอมตะ
ซึ่งองค์ทัวร์กอนก็ทรงเป็นหนึ่งในนั้น ด้วยเป็นพระโอรสแห่งกษัตริย์ฟิงโกลฟิน อนุชาแห่งเฟอานอร์
หรือจิตแห่งอัคนีผู้ซึ่งเป็นสาเหตุของคำสาปซิลมาริลและการกบฏในครั้งนั้น เมื่อนานมาแล้ว!
กษัตริย์แห่งกอนโดลินก็ทรงใช้ห้องนี้เป็นที่ทรงงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับราชวัง คฤหาสน์ใหญ่ทั้งสิบหลัง
และพสกนิกร ซึ่งผู้เป็นเลขานุการที่โปรดปรานมากที่สุดก็คือ “ พระธิดาอิดริล เคเลบรินดัล ”
และตอนนี้นางก็มีผู้ช่วยงานซึ่งก็คือ ทูออร์ บุตรแห่งฮูออร์ ผู้เป็นสามีที่รักยิ่ง
“ อือม...เล่มนี้เขียนด้วยอักษรเทงวาร์ ทำให้ข้าอ่านไม่ค่อยได้ ”
ชายหนุ่มร่างสูงผมสีทองหม่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับชูหนังสือปกสีน้ำเงินให้ผู้เป็นภรรยาซึ่ง
นั่งอยู่ตรงกันข้ามได้เห็นถนัด
“ เราต้องช่วยแปลอีกใช่ไหมล่ะ ? ” อิดริลอมยิ้มเล็กน้อย และลุกไปที่โต๊ะไม้ขนาดเล็กกว่าของสามี
นางทราบดีว่าทูออร์นั้นถนัดแต่ภาษาซินดารินซึ่งเป็นภาษาพรายที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในมิดเดิ้ลเอิร์ธ
แต่อักษรเทงวาร์เป็นตัวหนังสือที่ใช้กันเฉพาะในดินแดนวาลินอร์ ดังนั้นความซับซ้อนและเข้าใจยาก
จึงมากกว่าเป็นเรื่องธรรมดา
“ โธ่! อิดริลยอดรัก ท่านเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญในงานหนังสือทั้งหลายมากที่สุด
สำหรับท่านมันง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย นี่นา ”
“ อยู่ที่บ้านนี้มาเป็นสิบปีแล้ว เจ้ายังไม่ชินอีกเหรอ ” เจ้าหญิงแห่งกอนโดลินหยอกเย้า
พร้อมกับส่งสายตาคมหวานมาที่ชายหนุ่ม
“ ก็นะ...” ทูออร์อมยิ้มให้ภรรยา พร้อมกับจับมือเรียวงามของอีกฝ่าย และจุมพิตแผ่วเบา
“ แปลเล่มนี้ให้กระหม่อมด้วย พระองค์หญิง ”
อิดริลก็รับหนังสือเล่มนั้นมา พร้อมกล่าวว่า “ จริงๆ เล้ย พ่อมนุษย์เอไดน์ ”
“ อดา! นานา! ” เสียงของเด็กชายที่ทั้งสองคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้นมาจากด้านนอก
“ จอมซนมาแล้วล่ะ! ” เจ้าหญิงแห่งกอนโดลินกล่าว ส่วนทูออร์ก็ทำตามสัญชาตญาณ
ของผู้เป็นพ่อ จึงเปิดประตูออกด้วยความเปรมปรีดิ์ และเห็นร่างน้อยยืนตรงอย่างสง่างาม
“ อดา! หนูมาแล้ว ”
“ ถวายบังคมเจ้าชายองค์น้อยแห่งนครลับแล ไม่ทราบว่าจะประทานอนุญาตให้กระหม่อมกอดท่าน
ได้ไหม ? ”
ไม่ต้องทันเวลาที่เออาเรนดิลจะต้องตอบคำถามนี้ เขาก็ได้ถูกยกตัวให้สูงขึ้นจนมาอยู่บนไหล่แกร่ง
“ ว้าว! อดา! ” เออาเรนดิลอุทาน เมื่อถูกท่านพ่อหอมแก้มทั้งสองข้าง
“ ไปหอมท่านแม่ด้วยซิ ” ทูออร์ก็พาเออาเรนดิลมาวางบนตักของมารดา
“ หนุ่มน้อยที่รักของนานา ” อิดริลกล่าวเสียงหวาน เมื่อบุตรชายมาจูบที่ดวงหน้ามน
และโอบคอเรียวของนางไว้แน่น
“ เจ้าไปเล่นกับเสด็จยาย แล้วกลับมาคนเดียวเหรอ ? ”
“ เปล่า หนูมากับเสด็จตา ”
เมื่อกษัตริย์ทัวร์กอนก็ทรงดำเนินเข้ามาในห้อง สองสามีภรรยาจึงต้องลุกขึ้นคำนับ
“ ถวายบังคมเสด็จพ่อ ”
“ ไม่ต้องมากพิธีหรอกนะ เด็กๆ ข้าก็แค่ทำตามที่เออาเรนดิลขอ ”
เอคเธลิออนซึ่งถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้เต็มอ้อมแขน ก็เอ่ยว่า
“ องค์ชายน้อยทรงอยากมอบลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์มาให้ทุกคนขอรับ ”
เด็กชายร่างเล็กทำหน้ายิ้มแป้น “ นึกว่ากวานัวร์- นานาจะอยู่กับพวกท่านด้วย ”
“ น้าเจ้ายังไม่ได้กลับมาจากเหมืองแร่นะ สักพักก็คงมาแล้ว ขานั้นตรงต่อเวลาจะตายไป ” อิดริลกล่าว
ทูออร์ก็เสริมขึ้นว่า “ ใช่ซิ! เขาเป็นน้องท่านนี่นา จะว่าไปข้าเป็นคนขี้เกียจเสมอ ”
เมื่อเอคเธลิิออนวางช่อดอกไม้ทั้งหมดวางบนโต๊ะ จนดูคล้ายผ้าสีขาวหม่นที่ปกคลุมกองเอกสาร
“ เยอะจริงๆ เพค่ะ เสด็จพ่อ แล้วทรงนึกเช่นไรที่ทรงตัดมา ”
บุรุษผู้สูงวัยกว่าคนทั้งหมดในห้อง ก็รับสั่ง “ ไม่รู้ซินะ พ่ออยากตามใจหลานนี่นา ”
ความจริงข้าไม่สบายใจเรื่องอาเรเดล นางนี่ช่างดื้อกับข้านัก
~_~_~_~_~_~_~_~_~_~_~
“ ข้าเบื่อ! ข้าเบื่อเสด็จพี่ทัวร์กอน! ” ท่านหญิงขาวทรงทุบเสาไม้ของคอกม้าเสียงดัง
“ พระน้องนาง ไม่เห็นต้องกริ้วเลยขอรับ ใต้ฝ่าพระบาททรงเป็นห่วงท่าน ”
“ เจ้าก็เข้าข้างเขาตลอด ทำไมข้านะไม่ใช่คนอ่อนแอ ข้าเป็นธิดาของกษัตริย์ฟิงโกลฟินผู้กล้า
ที่สำคัญข้าไม่อาจอยู่เฉยๆ ด้วยซ้ำ ”
กลอร์ฟินเดลกำลังครุ่นคิดว่าจะบอกว่าอย่างไรดีให้พระนางอาเรเดลพระทัยเย็นๆ
“ ข้ารู้นะ กลอร์ฟี่ ข้าดื้อเสด็จพี่ หนีออกจากจนตัวเองต้องหลงไปอยู่ในป่ามืด ต้องอยู่กินกับชายที่ตัวเองก็ไม่ได้รักแต่ข้าก็ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมถึงอยู่กับเขาได้ ?
ทำไมต้องรอให้ลูกโตแล้วถึงพากลับมากอนโดลิน ? และก็ข้ากับลูกต้องยาพิษ
ของเจ้าดาร์กเอลฟ์นั้น ข้า..ผิด..จริงๆ ที่ตัวเองทำแต่เรื่อง ”
พรายหนุ่มผู้รับฟังคำครวญ ก็เข้าไปจับมือเรียวขาวของอาเรเดล
“ พระน้องนาง ไม่เป็นไรขอรับ ข้าเป็นสหายของท่าน และอยากบอกท่านว่า ไม่ต้องกังวล
เรื่องในอดีตที่ผ่านมา ท่านต้องเข้มแข็งเพื่อคนที่ท่านรัก และคนนั้นก็รักท่าน ”
อาเรเดลจึงแย้มยิ้มให้กับสายตาที่แสนอ่อนโยน แต่ก็ชวนให้ลุ่มหลงของกลอร์ฟินเดล
“ เจ้ายังคิดอะไรกับข้าอยู่เหรอ ? พ่อพรายคนดี ”
“ อาเรเดล อิริสเซ กระหม่อมนั้น..”
ทันใดนั้น ก็เสียงประกาศดังขึ้น “ พระอุปราชมายกลินเสด็จกลับเข้าเมือง! ”
“ ลูกข้ามาแล้ว! ” ฝีพระบาทของท่านหญิงขาวก็เดินออกจากตรงนั้น
กลอร์ฟินเดลก็ถอนหายใจเล็กน้อย และตามเสด็จออกจากคอกม้าเช่นกัน
พระอุปราชหรือเจ้าชายลำดับหนึ่งแห่งกอนโดลินกำลังควบม้าสีดำตัวใหญ่
พร้อมด้านหลังคือขบวนม้าของเหล่าทหารรับใช้ที่ทำหน้าที่เป็นเหล่าวิศวกรเหมืองแร่อังฮาบาร์
ซึ่งเป็นเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รวมถึงเป็นป้อมปราการชั้นเลิศประจำทิศเหนือ
ประตูวังจึงเปิดออก และเหล่าองครักษ์ประจำการทุกคนต่างโค้งคำนับถวายเจ้าชายพราย
“ วันนี้ก็ปกติเช่นเคย ” เสียงทุ้มนุ่มออกจากริมฝีปากได้รูปสวย
ร่างเพรียวก็ลงจากหลังม้า และลูบแผงคอเบาๆ “ มอริออนไปพักผ่อนเถอะ”
ดวงตาสีดำขลับของม้าหนุ่มก็ฉายแวววิงวอนบางอย่าง
“ เอางี้ซิ ข้าจะให้เขาเพิ่มแครอทสักสองถังแล้วกัน ”
มอริออนก็พยักศีรษะด้วยความดีใจที่เจ้านายหนุ่มบอกประโยคนี้
“ จอมตะกละเอ๊ย! วันนี้เลิกงานได้! ”
ผู้ดูแลประจำโรงม้าก็พาเจ้าม้าดำกลับเข้าโรงเลี้ยง ส่วนทหารคนอื่นๆ ก็แยกย้ายกลับบ้าน
“ ลูกรัก ลูกกลับมาเร็วดีจัง ” เสียงหวานของสตรีผู้หนึ่งเป็นที่คุ้นเคยสำหรับมายกลิน
“ ท่านแม่ ” เจ้าชายพรายในชุดเกราะอ่อนสีคราม และผ้าคลุมไหล่สีดำก็เดินมาใกล้
และโค้งลงต่อเบื้องพักตร์ของมารดา “ งานไม่มาก เพราะลูกยังหาโลหะมิธริลชุดใหม่ไม่เจอ ”
แต่มายกลินคงจะอารมณ์ดีกว่านี้ ถ้าไม่เห็นกลอร์ฟินเดลอยู่ด้านหลัง
“ เจ้าชายทรงขยันจริงนะ ” พรายหนุ่มเสนาบดีเอ่ย
“ ก็เป็น...เรื่องปกติของข้าอยู่แล้ว พี่กลอร์ฟี่ ”
นัยน์ตาสีนิลคมคายแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจที่ลอร์ดหนุ่มจอมเจ้าชู้อยู่กับท่านแม่อาเรเดล
แต่ว่าไม่อยากเสียมารยาท จึงกล่าวว่า “ ท่านแม่ พี่กลอร์ฟี่กลับเข้าวังกัน ข้าอยากไปเข้าเฝ้าเสด็จลุง ”
“ ดีแล้ว มายกลินลูกแม่ ” ท่านหญิงขาวก็ทรงโอบแขนพระโอรสไว้แนบแน่น
ถึงอย่างไรเสีย ข้าก็รักชายหนุ่มผู้นี้มากที่สุด...เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวของข้า
~_~_~_~_~_~_~_~
ความคิดเห็น